Fairy love หยุดหัวใจให้รักอันตราย!
"ช่วงนี้ดวงความรักแกบูมมากเลยนะนิ"
เพราะคำพูดของยัยแก้มใส หมอดูที่แม่นราวกับตาเห็นคนเดียวทำให้ชีวิตฉันต้องวุ่นวายขนาดนี้
ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะต้องมาพบกัยอีตาปากเสียนี่ ทั้งๆ ที่ฉันคิดว่าความรักของฉันกับคุณเนื้อคู่ กำลังจะได้ได้ดีแล้วเชียว
พี่นิวน่ะ ถึงเขาจะเป็นเนื้อคู่ (ในความคิดของฉันคนเดียว) แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าอีตานี่จะต้องมาหาเรื่องให้ฉันเลิกสนใจพี่นิวนะ คนหลงตัวเองแบบนั้นเหรอจะมาช่วยให้ฉันสมหวังกับทุกอย่างในชีวิต
ฉันว่าฉันจะสมหวังกว่านี้นะ ถ้านายโฟร์ทเลิกยุ่งกับชีวิตของฉันสักที


สวัสดีค่ะ
เรื่อง Fairy love หยุดหัวใจให้รักอันตราย! เป็นนิยายเรื่องแรกที่ ผึ้งคิดจะแต่งเป็นแนววัยรุ่น (แลดูไม่ค่อยเหมาะกับตัวเอง) สารภาพเลยก็ได้ค่ะ ว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
เกือบทุกคนในเรื่องมีตัวตนจริงๆ
ถ้าถามทุกคนว่า...เคยแอบรักใครบ้างมั้ย??
เชื่อเลยค่ะ ว่าแทบทุกคนต้องบอกตรงกันว่าเคย
แต่เราจะสมหวังกับคนที่เรารักหรือเปล่า? นี่สิคะที่ทุกคนไม่มีทางตอบเหมือนกันแน่นอน

เรื่องราวของรุ่นน้อง ที่แอบรักรุ่นพี่ จะสนุกหรือไม่ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวให้เด็กตัวน้อยๆ คนนี้ด้วยนะคะ
Tags: วัยรุ่น

ตอน: บทนำ

บทนำ
ความรัก...ที่มักเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
เสียงกลองสามซ่าที่ดังขึ้นในสถานศึกษาแห่งใหม่ทำให้เด็กสาววัยกำลังโตยิ้มกว้าง ก่อนที่จะตาโตเมื่อเห็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักจากการไปเข้าค่ายด้วยกันกำลังเดินอยู่ด้านหน้าตึก ร่างอวบอิ่มวิ่งตุตะไปหาเพื่อนใหม่ด้วยความเร่งรีบ และเพราะความเร่งรีบทำให้สัดส่วนที่ไม่ค่อยสมดุลกันเท่าไรต้องหยุดชะงัก
เท้าเล็กๆ สะดุดเข้ากับก้อนหิน ตามด้วยสเต็ปการหมุนเป็นลูกข่าง พร้อมก้มงามๆ ที่จ้ำลงกับพื้นอย่างแรง
ณัฐริกา แทบจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นทำให้เธอทำหน้าไม่ถูก มืออวบอูมยันตัวเองขึ้นด้วยความเขินอาย และเขินอายยิ่งกว่าเมื่อชายร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังยิ้มให้อย่างเอ็นดู
ผู้ชายในฝันชัดๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับน้อง” ผู้ชายในฝันถามขึ้น แต่เพราะมัวแต่เพ้อ เธอจึงได้แต่ยิ้มออกไปเพียงเท่านั้น
นวดลหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้มหยิบหนังสือสองสามเล่มที่ตกอยู่กับพื้นให้
น่าแปลกที่หัวใจเด็กน้อยอย่างเธอกำลังเต้นผิดจังหวะ อาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก มันรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน รู้สึกเหมือนเธอกำลังโบยบินขึ้นไปบนฟ้า และเธอก็มีความสุขเหลือเกิน
“น้อง...น้อง”
“คะพี่” สาวน้อยหลุดจากฝันเมื่อเสียงเรียกดังขึ้น และที่สำคัญผู้ชายในฝันของเธอก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“จะเอามั้ย ของน่ะ พี่ยืนถือนานแล้วนะ มัวแต่ยืนเอ๋ออยู่ได้”
“เอาค่ะเอา” ณัฐริการีบรับของมาเก็บไว้ ในขณะเดียวกันก็กวาดสายตาหาคนบางคน
คนบางคนที่ทำให้รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงเหลือเกิน
"หายไปไหนแล้วนะ" เด็กสาวพึมพำเสียงแผ่วจนคนที่ยืนรออยู่นานขมวดคิ้ว
"อะไรหายครับน้อง"
"เออ ไม่ใช่ค่ะพี่ ไม่มีอะไรหายค่ะ" คนกำลังมองหาคนหล่อรีบปฎิเสธ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณรุ่นพี่ตามมารยาท
"มีอะไรหรือเปล่านิ" เพื่อนสาวที่เดินผ่านมาทักด้วยความสงสัย ใบหน้ากลมกลึงส่ายระรัวก่อนจะรีบดันหลังเพื่อนสาวให้พ้นไปจากสมรภูมิน่าอายแห่งนี้
"อะไรนิ เป็นอะไร จะดันฉันออกมาทำไม เป็นบ้าอะไรเนี่ย"
"ไม่ไดบ้าหรอก แค่ล้มน่ะ"
"หา! ล้มเนี่ยนะ ไอ้บ้า ล้มได้ยังไง"
"เบาๆ สิแก้มแหม่ม อายเค้า" มืออวบอิ่มแทบจะปิดปากเพื่อนสาวไม่ทัน สายตาคมเฉียบมองซ้ายมองขวาก่อนจะค่อยๆ ลดมือลง
"เป็นฉัน ฉันก็อาย แล้วนี่ล้มตรงไหน อย่าบอกนะว่าตรงนั้น"
เพื่อนสาวมองไปทางเดิมที่เพิ่งเดินจากมา ยิ่งเห็นคนมากมายที่กำลังสนุกคึกครืนอยู่กับน้องใหม่ก็ยิ่งรู้สึกขยาด
"ตรงนั้นแหละ"
"ตายๆ แล้วแกไม่อายเหรอ"
"อายสิ! แต่ก็คุ้มอยู่” ณัฐริกายิ้มกว้างเมื่อนึกถึงคนบางคนที่เข้ามาช่วยเธอคนแรก ใบหน้าหล่อเหล่ายังคงติดตาไม่จางหาย
คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อได้หล่อดี หล่อกว่าดาราเกาหลีที่เธอชอบอีก
"คุ้มบ้าอะไรวะ" พันธิชาเกาหัวแกรกๆ เธอส่ายหน้าไปมากับความคิดของเพื่อนสาว "ไปเรียนดีกว่า คุยกับนิแล้วปวดหัว"
"เฮ้ยแหม่ม รอนิด้วย" เด็กสาวร้องลั่น ก่อนจะรีบวิ่งตามเพื่อนสาวที่เดินหนีไปไกลแล้ว

ตั้งแต่วันนั้น วันที่ชายในฝันผ่านเข้ามาในชีวิต ณัฐริการู้สึกว่าชีวิตของเธอเปลี่ยนไป ช่วงไหนที่เธอว่าง ใบหน้าของคนบางคนก็จะลอยผ่านเข้ามา
แล้วนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอยิ้มกว้างจนหลายคนมองว่าเธอเป็นคนบ้า
"นิ! ทำอะไรอยู่ มาล้างถ้วยล้างจานได้แล้ว” เสียงที่ดังขึ้นทำให้คนกำลังยิ้มมีความสุขสะดุ้ง
"จ๊ะแม่ กำลังไป"
"ล้างเสร็จก็กวาดบ้านถูบ้านด้วยนะ"
"จ้า..."
"จ้าก็มาเร็วๆ นั่งยิ้มเป็นคนบ้าอยู่ได้"
"หนูไม่ได้บ้าสักหน่อย" ณัฐริกาเถียงเสียงแผ่ว ก่อนจะลุกไปทำงานบ้านที่กองเต็มไปหมด
"พี่นิ...พี่นิ" น้องชายคนเล็กวิ่งตุตะเข้ามาหาพร้อมแบมือขอสิ่งที่ต้องการด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"เรียกทำไม พี่จะไปล้างจาน"
"ขอเล่นเกมหน่อย นะครับ"
คนเป็นพี่ถอนหายใจก่อนจะชี้ไปยังโทรศัพท์ที่ว่างอยู่ที่หัวเตียง
"ขอบคุณคร้าบ" เด็กชายณัฐกิตยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ด้วยความดีใจ
ณัฐริกาส่ายหน้าไปมาด้วยความระอา ทำไมน้องชายเธอถึงไม่มีใบหน้าเหมือนชายในฝันนะ ถ้าเหมือนเธอคงได้ตายคาบ้านพอดี
หญิงสาวยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง
เธอนี่แรดจริงๆ วันๆ ถึงได้เอาแต่นึกถึงผู้ชายอยู่ได้ ว่าแต่ว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ อยากรู้จริงๆ
คิดไปยังไม่ถึงไหนเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องก็ดังขึ้น ร่างอวบอิ่มรีบวิ่งไปรับโทรศัพท์ก่อนที่น้องชายจอมซนจะคว้าโทรศัพท์ไปเสียก่อน
"ว่าไงแหม่ม"
"นิอยู่ไหน"
"อยู่บ้าน ทำไม มีเรื่องอะไร"
"อาจารย์ชวนไปเสริฟอาหารที่โรงแรม นิจะไปมั้ย...ไปนะ แหม่มจะได้มีเพื่อน" เพื่อนสาวกรอกเสียงมาตามสาย พร้อมอ้อนเสียงหวาน ในขณะที่พ่อจอมยุ่งก็คอยวุ่นวายด้วยการแกล้งอยู่ไม่ห่าง
"นัท!" เธอหันมาเอ็ดน้อมชายจอมกวน ก่อนจะเดินหนีออกไปด้านนอก
"ต้องขอแม่ดูก่อนนะแหม่ม แหม่มก็รู้ว่าแม่นิเป็นคนยังไง ถ้าเลิกดึก นิไม่ได้ไปชัวร์"
"แต่งานนี้เริ่มตอนเช้านะนิ ได้ไปชัวร์ ไม่รู้ล่ะ นิต้องไป ถ้าไม่ไปมีโกรธ แค่นี้นะ"
"เดี๋ยวแหม่ม..." ยังไม่ทันจะพูดอะไร อีกฝ่ายก็ตัดสายไปดื้อๆ "จะทำยังไงล่ะเรา"
"ไอ้อ้วน! เมื่อไรจะมาล้างถ้วย"
"ไปแล้วจ๊ะแม่" คนกำลังคิดไม่ตกตะโกนบอก ก่อนจะรีบไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่วายพึมพำกับเรื่องที่เพื่อนสาวพูดเอาไว้ "งานเข้าแล้วสิเรา"

ภายในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพ เหล่านักเรียนหลายคนกำลังวุ่นวายอยู่กับอาหารมากมายที่ทยอยออกมาจากครัว
แต่หนึ่งในนั้นกำลังมีคนบางคนที่ลอบมองอาหารจานแล้วจานเล่าโดยไม่ยอมขยับไปไหน
"นิ! ทำอะไร มาช่วยกันหน่อยสิ"
"โหยแหม่ม มีแต่ของน่ากิน"
"หยุดเห็นแก่กินแล้วมาช่วยกันดีกว่านะ" เพื่อนสาวพึมพำพร้อมจัดอาหารใส่ถาด
"นิก็ช่วยอยู่นะ นี่ไง" คนกำลังช่วยยิ้มกว้าง
"ช่วยอะไร"
"ก็แหม่มชวนให้มาเป็นเพื่อน นิก็มาเป็นเพื่อนแล้วไง นี่ไง งานของนิ"
"ไม่ต้องเสริฟแล้วอาหารเนี่ย ขอตบคนแทนได้มั้ย"
"ช่วยแล้วๆ อย่าตบนิเลย เสริฟอาหารกันดีกว่านะ" ณัฐริกาหัวเราะร่วน ก่อนจะมองออกไปด้านนอก
ผู้คนมากมายกำลังมีความสุขอยู่กับอาหารที่ทางโรงแรมจัดขึ้น ดูจากลักษณะและบุคลิกแล้ว คงเป็นเจ้าของธุรกิจที่มาร่วมฉลองในงานสำคัญ หากทว่าคิ้วโก่งก็ต้องขมวดเป็นปม เมื่อหนึ่งในนั้นกลับมีอีกหนึ่งบุคคลที่แตกต่างออกไป
เขาคนนั้นดูเหมือนจะมีอายุน้อยที่สุดในงานเลยด้วยซ้ำ
“ไอ้นิ มาเร็วๆ เข้าสิ”
เสียงของเพื่อนสาวที่ดังขึ้นทำให้คนกำลังคิดเล็กคิดน้อยได้สติ ณัฐริกาฉีกยิ้มหวานพร้อมรับถาดอาหารมาถือไว้
“รู้แล้วน่า จะรีบไปไหนกัน” คนรู้แล้วพึมพำตามหลัง ก่อนจะเดินตามเพื่อนสาวที่เดินนำหน้าไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน ภัครพลมองแผ่นป้ายที่อยู่ในมือก่อนจะเก็บเอาไว้ในกระเป๋า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อสนใจสิ่งรอบข้าง ภายในใจรู้สึกแปลกๆ เหมือนกำลังถูกจ้องมองตลอดเวลา
ทันทีที่เงยหน้าขึ้น เขาก็รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่กำลังเต้นรัว
ปรารถนาอันแรงกล้า และความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในครั้งนี้



soipn
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ย. 2556, 15:12:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ย. 2556, 15:12:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 961





   1:ชายในฝัน! >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account