หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทที่ สามสิบสอง : พายุ



เหนือฟ้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าแม่เปราะบางขนาดนี้ได้อย่างไร แค่ลื่นล้ม... แค่ลื่นล้มเท่านั้นเอง ทำไมถึงเป็นขนาดนี้

ตลอดทางที่มาโรงพยาบาล แม่ไม่รู้สึกตัวเลย เธอพยายามเรียกเท่าไรก็ไม่ตอบ ทั้งที่ไม่มีเลือดไหล ไม่มีบาดแผล แต่แม่กลับนอนนิ่ง แม่ถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก่อนหมอจะออกมาบอกว่า ศีรษะของแม่กระแทกจนสมองกระเทือนถึงได้หมดสติไป แต่ไม่อันตรายเท่าไร เหมือนนักมวยโดยน็อกเอ้าท์ พอฟื้นขึ้นมา อาจมึนบ้าง จำอะไรไม่ได้บ้าง พักสักวันสองวันก็หาย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือกระดูกสะโพกหัก ต้องผ่าตัดโดยด่วน

ผ่าตัดเชียวหรือ? เหนือฟ้าตกใจเมื่อได้ยิน คำว่าผ่าตัดไม่เคยใช้กับคนใกล้ตัวของเธอมาก่อน เธอไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ที่แม่เจ็บหนักเช่นนี้ เมื่อไม่มีประสบการณ์ เธอจึงไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากสวดมนต์ทุกบทเท่าที่ทำได้ แต่กระนั้นการรอคอยก็ยังเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย หนึ่งนาทีเหมือนสิบปี กว่าหมอจะกลับออกมาอีกครั้ง สมองและหัวใจของเธอก็เหมือนถูกถ่วงไว้ด้วยเหล็กหนักเป็นพันตัน อึดอัดและว้าวุ่นอยู่นานนับชั่วโมง

การผ่าตัดเรียบร้อย แม่ปลอดภัยแล้ว นั่นคือเสียงสวรรค์ในค่ำคืนที่ดั่งตกนรก เธอยิ้มกว้างทั้งน้ำตา ก่อนถลาไปหาแม่ที่อยู่ในห้องพัก แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง

นี่เธอเข้าห้องผิดหรือเปล่า...ผู้หญิงที่บอบบางจนเหมือนจะแตกหักได้ ผิวหนังเหี่ยวย่นห่อหุ้มกระดูกแขนขาเอาไว้ ใบหน้าซูบผอมล้อมกรอบด้วยผมสีดำแซมขาว ดูอ่อนแรงและอิดโรย นี่หรือแม่เธอ แม่ของเธออายุแค่ 60 กว่าเองนะ แล้วทำไมถึงได้... เธอไม่รู้จะหาคำใดที่เหมาะสม แต่แม่ที่เธอเห็นมาตลอด ไม่ใช่แบบนี้ แม่ของเธอยังสาว ยังแข็งแรง แล้วทำไม...

“รุ้ง เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าแบบนั้น อาหทัยปลอดภัยแล้วนะ ไม่ดีใจเหรอ” ชินชนะที่อยู่เคียงข้างมาตลอดและคอยจัดการทุกอย่างให้เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันย่ำแย่แค่ไหน

“พี่หนึ่ง ทำไมแม่ถึงดู...แก่...ขนาดนี้ล่ะคะ”

“รุ้ง ทำไมถามอย่างนี้”

“รุ้งเพิ่งเจอแม่เมื่อเช้า แม่ยังดูสดใสอยู่เลย ตื่นมาทำกับข้าว มาทำนู้นทำนี่ มาหัวเราะกับรุ้งอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้… แค่ลื่นล้มเองนะพี่หนึ่ง แค่ล้มเอง”

“รุ้ง แม่ไม่เป็นไรแล้วนะ หมอบอกว่าแม่ไม่เป็นไรแล้ว เปลี่ยนข้อสะโพกเทียมให้แล้ว สองสามวันแม่ก็กลับมาเดินปร๋อ รุ้งไม่ต้องกลัวนะ”

เหนือฟ้าส่ายหน้า ก่อนก้าวไปหาแม่ช้าๆ

“รุ้งคิดว่าแม่แข็งแรงอยู่เสมอ แต่แค่ล้ม แม่ยังเป็นขนาดนี้ แล้วถ้า...” เอ่ยได้แค่นั้น น้ำตาก็ไหลออกมา สายตาพร่ามัวเมื่อมองไปยังคนบนเตียง “รุ้งไม่เคยเลย ไม่เคยคิดถึงวันที่ไม่มีแม่เลย เพราะรุ้งมีแม่มาตลอด รุ้งชินกับการมีอยู่ของแม่ ชิน จนลืม... มัวแต่เอาเวลาไปจัดการครอบครัวคนอื่น แต่ลืมคนในครอบครัวของรุ้ง นี่รุ้งเป็นลูกประสาอะไร ใช้ไม่ได้... ใช้ไม่ได้เลย”

หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงที่สั่นพร่า หยาดน้ำตารินไหลลงมา ร่างบางสะท้านไหวจนชินชนะต้องรีบเข้าไปประคอง

“ที่ผ่านมารุ้งก็ทำเพื่อแม่ไม่ใช่เหรอคะ รุ้งอยากให้แม่สบาย รุ้งเลยทำงานหนัก มันเป็นวิธีแสดงความรักของรุ้ง แต่ถ้าต่อไป รุ้งอยากดูแลแม่อย่างใกล้ชิดมากขึ้น รุ้งก็ทำได้ มันยังไม่สายนี่คะ รุ้งรักแม่ใช่ไหม”

“รักค่ะ รักที่สุด” เธอตอบด้วยเสียงสะอื้น น้ำตาไหลพรากเหมือนเด็กๆ

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว รุ้งทำได้ทุกอย่าง เพราะว่ารุ้งรักแม่ พี่เชื่อว่าน้าหทัยก็รู้เหมือนกัน แล้วก็ต้องดีใจมากด้วย”

“พี่หนึ่งคิดอย่างนั้นเหรอคะ”

ชินชนะยิ้มให้แทนคำตอบ พลางซับน้ำตาที่เปรอะแก้มอย่างเบามือ

“ครอบครัวใหญ่ก็คึกครื้นดีนะคะ มีเรา มีลูกของเรา อันนี้พี่พูดเผื่อไว้ แล้วก็มีแม่ของเรา... แม่ของเราต้องดีใจมากแน่ๆ ถ้ามีเด็กๆ ตัวอ้วนๆ ป้อมๆ แก้มยุ้ยๆ คอยเรียกย่ากับยาย พี่เคยได้ยินมา บรรยากาศของบ้านที่มีเด็กอยู่มันจะสดชื่นขึ้นมากเลยนะ ว่าแล้ว เราก็มาเร่งผลิตลูกเป็นของขวัญให้แม่เราเลยดีกว่า ตรงไหนดี โซฟาดีไหม”

“บ้า พี่หนึ่ง” เหนือฟ้าว่า แล้วตีไหล่เขาไปหนึ่งที แกล้งทำโทษทั้งที่รู้ว่าเขาพูดเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น ความกังวลของเธอคลายลงไปเปลาะหนึ่ง แต่มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่าที่ติดค้างอยู่ในใจ

เธอสังหรณ์ว่านี่มันแค่เริ่มต้น



เพราะความรักครั้งนี้มันไม่ได้มีแค่เขาและเธอ แต่ยังรวมถึง...สตรีวัยกลางคนสองคนที่ผลักประตูห้องพักเข้ามาในสายของวันใหม่ด้วย

เหนือฟ้าที่ลางานเพื่อมาเฝ้าแม่ นั่งสะลึมสะลืออยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ที่กำลังหลับใหล ในเสื้อผ้าที่ชินชนะนำมาให้เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อเช้า เธอได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ย่ำเข้ามาใกล้จึงเงยหน้า และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ความประหลาดใจก็ทำให้เธอลุกขึ้นต้อนรับโดยอัตโนมัติ

“คุณจอม คุณป้าแจ่ม!!!”

หญิงวัยกลางคนคนแรก ใบหน้านวลปลั่งท่าทางภูมิฐาน ส่วนอีกหนึ่งแม้จะสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดังเช่นกัน แต่ก็ยังไม่งามสง่าเท่า

“ตายหรือยัง” แจ่มกมลมองไปที่คนบนเตียงแล้วถามออกมา เหนือฟ้าขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจทันที

“เหนือคิดว่าคุณป้าแจ่มไม่ควรพูดอย่างนี้นะคะ”

“ทำไม ฉันอยากให้แม่เธอตาย ยังไม่ตายเหรอ น่าเสียดายจริงๆ”

“ถ้าป้าแจ่มจะมาหาเรื่อง เหนือจะเรียกพยาบาลให้มาเอาตัวออกไป”

“หึ ทนฟังไม่ได้หรือไง แม่แกน่ะ ตายแน่ ตายจริงๆ ไม่ใช่แค่ลื่นล้มหรอก คนเลวๆ อย่างแม่แก สมควรตายตั้งนานแล้ว”

เหนือฟ้าไม่ทนฟังอีกต่อไป เธอเดินไปกดปุ่มฉุกเฉิน แต่เมื่อนางพยาบาลเข้ามา กลับถูกแจ่มกมลเรียกตัวไว้เหมือนเป็นพวกตัวเอง

“มาเลย มากันให้หมดเลย จะได้รู้ว่านังคนที่นอนอยู่นี่มันสมควรตายยังไง เป็นเมียน้อยเขา ตัวแม่แย่งผัว ตัวลูกแย่งลูกชาย น่าด้าน น่าไม่อาย เรียกมาอีกสิ ฉันจะได้ประจานความเลวของพวกแก”

ต้องพยายามอย่างที่สุดที่จะสะกดกลั้นอารมณ์ แต่เสียงที่เอ่ยต่อก็สั่นเพราะความโกรธ “คุณพยาบาลคะ ช่วยเรียกรปภ. ให้ด้วยนะคะ ถ้าไม่มีก็แจ้งตำรวจได้เลย”

พยาบาลพยักหน้าทำท่าจะรีบร้อนออกไป แต่หญิงวัยกลางคนอีกคนที่ยืนเงียบมาตลอดกลับเอ่ยขึ้น

“ไม่ต้อง ฉันจะมาพูดเรื่องเดียว เสร็จแล้วฉันก็จะกลับ”

“เรื่องอะไร”

“เรื่องตาหนึ่ง” จรัสกรเอ่ย ยามปรายตาไปยังคนบนเตียง “เธอคงไม่อยากให้แม่เธอเป็นมากกว่านี้ใช่ไหมรุ้ง”

“คุณจอมหมายความว่ายังไงคะ”

“ฉันไม่อ้อมค้อมนะ ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว ฟังหรือไม่ฟัง ฉันก็จะไม่พูดอีก ตาหนึ่งคุยกับฉันแล้วเรื่องเธอกับเขา ฉันไม่เห็นด้วย ฉันไม่อยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้ เธอต้องออกจากชีวิตของเขาไป ไม่อย่างนั้น....” มารดาของชินชนะปรายตาไปยังมารดาของเธอ ก่อนจะเอ่ยเหมือนเยาะ “ฉันก็ไม่รู้นะ ว่าพี่สาวของฉันจะทำอะไรพวกเธออีก”

“คุณจอมขู่รุ้งเหรอคะ”

“รุ้ง ที่ผ่านมาเธอยังไม่เห็นอีกเหรอว่าพี่แจ่มทำอะไรได้บ้าง ถ้าเธอยังไม่ออกไป เธอกับแม่ก็คง...” จรัสกรเว้นคำไว้ แต่เหนือฟ้าพอเดาได้ สงครามประสาทจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นการทำร้ายร่างกาย แล้วเธอจะยอมได้อย่างไรกัน

แม้จะรู้สึกรวดร้าวในอกสักเพียงไหน แต่หญิงสาวก็ยังเชิดหน้าขึ้น รวบรวมความกล้าหาญแล้วย้อนกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ก็ลองดูสิ รุ้งจะแจ้งความข้อหาพยายามฆ่า ที่แม่ลื่นเพราะพื้นหน้าบ้านมันเปียก รุ้งรู้นะว่าใครทำให้มันเปียก คุณป้าแจ่มคงไม่รู้ว่ารุ้งติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ ถ้ารุ้งเอาเรื่องขึ้นมา รุ้งก็มีหลักฐาน คนเลวคนชั่วตัวจริง มันไม่รอดแน่”

แจ่มกมลสะดุ้ง นัยน์ตาลอกแลก แต่คนเป็นน้องสาวกลับเหยียดยิ้ม

“เอาสิ ฉันก็อยากเห็นหลักฐานของเธอเหมือนกัน ถ้ามันมีอยู่จริงนะ”

จรัสกรเอ่ยเหมือนรู้ว่าเธอไม่ได้กล้องอย่างที่ว่า เหนือฟ้าขมวดคิ้ว เธอไม่ได้สุงสิงกับมารดาของชินชนะมากนัก ทำให้ไม่รู้ว่านิสัยใจคอของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรกันแน่

“ออกจากชีวิตลูกชายฉันซะ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเธอ”

“มันง่ายไปหน่อยหรือเปล่าคะ คุณจอมกำลังขอให้รุ้งเลิกกับผู้ชายที่รุ้งรัก และเขาก็รักรุ้งนะคะ แค่คำสั่งปากเปล่า และก็คำขู่อีกนิดหน่อย ทำไมรุ้งต้องฟังด้วย... ถ้าจะให้รุ้งออกไป รุ้งต้องใช้เงิน รุ้งต้องหาบ้านใหม่ หางานใหม่ คุณจอมมีเงินให้รุ้งหรือเปล่าล่ะคะ ค่าจ้างที่จะให้ออกจากชีวิต รุ้งคิดไม่แพงหรอกค่ะ แค่แปดหลักเป็นอย่างต่ำ”

เหนือฟ้าเอ่ยเหมือนไม่สะทกสะท้านใดๆ สร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่าย จรัสกรเหมือนจะตอบโต้ทันควัน แต่คนที่ทำหน้าที่นั้นกลับเป็นพี่สาว

“หน้าด้าน ฉันนึกไว้แล้วว่าแกต้องพูดแบบนี้ เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ แม่ขายตัว ลูกก็เลยเจริญรอยตาม น่ารังเกียจที่สุด”

“แม่เธอก็ใช้วิธีนี้ตอนที่ฉันขอให้เลิกยุ่งกับสามีฉัน เธอมันหน้าด้านกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ... เงินฉันมี แต่ไม่ให้หรอก แม่เธอแย่งสามีฉันไป เธอยังจะมาแย่งลูกชายฉันอีก แล้วจะให้เงินพวกเธอไปมีความสุขกันทำไม ถ้าจะทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกันหมดนี่แหละ พี่แจ่มทำได้ ฉันก็ทำได้เหมือนกัน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ถ้าเธอทนได้ ก็ทนไป”

ถ้อยคำที่จรัสกรเอ่ยออกมาทำให้เหนือฟ้าเม้มปากแน่น นี่เป็นสิ่งที่เธอนึกกลัวอยู่ตลอดอยู่ตลอด แม่ผัวไม่ลงรอยกับลูกสะใภ้ แล้วเธอจะจัดการอย่างไร ยอมอ่อนให้ทั้งที่เมื่อครู่ได้ห้ำหั่นไปแล้วตามนิสัยอย่างนั้นเหรอ เธอจะทำได้เหรอ

แต่ถ้ารัก ก็ต้องยอมให้ได้สิ

“คุณจอมคะ รุ้งรักพี่หนึ่งจริงๆ นะคะ รุ้งยินดีทำทุกอย่าง เพื่อให้คุณจอมยอมรับ”

“ทุเรศ พอเรียกเงินไม่ได้ก็มาทำเป็นออดอ้อน หนังหนาจริงๆ”

“ฉันคงยอมรับเธอไม่ลงหรอกนะรุ้ง ถ้าสักวันเธอแต่งงาน แล้วผู้ชายของเธอมีเมียน้อย ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะเลิศเลอมาจากไหน เธอจะรับได้หรือเปล่า ฉันไม่ได้เกลียดเธอเท่าแม่ของเธอนะรุ้ง แต่ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ยังไง ฉันก็รับเธอไม่ได้อยู่ดี... เธอกับแม่ช่วยออกไปจากชีวิตฉันเถอะ อย่ากดดันให้ฉันกลายเป็นคนเลวกว่านี้เลย”

คำพูดตอนท้ายทำให้เหนือฟ้านิ่งงัน ก่อนที่จรัสกรจะเอ่ยย้ำ

“เธอน่าจะรู้นะว่าถ้าแม่ไม่มีความสุข ลูกก็คงไม่มีความสุขเหมือนกัน... เธอคงไม่อยากเห็นตาหนึ่งเป็นอย่างนั้นใช่ไหม”

ไม่มีถ้อยคำใดๆ มาโต้แย้งได้ จนกระทั่งมารดาของชินชนะและป้าของเขาเดินกลับไป เหนือฟ้าจึงค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้เดิมอย่างหมดแรง

เหมือนสมองตื้อชั่วขณะ คิดอะไรไม่ออกสักอย่าง รู้แต่ว่ามารดาของชินชนะเกลียดเธอ เกลียด...เหมือนที่เธอเกลียดตุ๊กแกหรือเปล่า ไม่สิ นั่นมันเรียกว่ากลัวต่างหาก แล้วเกลียดอย่างไรเล่า หรือว่าอย่างที่เธอเคยรู้สึกกับป้าแจ่ม ถ้าอย่างนั้นมันอาจเยียวยาได้ แต่ถ้าเป็นอย่างที่แจ่มกมลรู้สึกกับเธอ เธอคงรับมือกับอานุภาพความเกลียดชังไม่ไหว

แล้วเธอควรทำเช่นไร ก้าวที่เพิ่งมั่นใจอยู่เมื่อวานกำลังสั่นคลอนอีกครั้ง ถ้าเธอแต่งานกับเขา ปัญหาเรื้อรังคงตามมาเหมือนโรคติดต่อ แม่ของเขา ป้าของเขา และแม่ของเธอ... คงไม่มีใครมีความสุข รวมถึงเธอและเขาด้วย

หรือจะเลิก.... คิดอย่างนั้น ภาพความหลังก็ปรากฏ ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา หรือแม้กระทั่ง ความหวิวไหวอุ่นซ่านในหัวใจ เธอและเขาผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เธอจะยอมเลิกง่ายๆ อย่างนี้หรือ เลือดนักสู้ในตัวมันเหือดแห้งเสียแล้วหรือไร จรัสกรเกลียดเธอแค่ไหน เธอก็ต้องพยายามเอาชนะใจให้ได้สิ

แต่ว่า... ถ้าป้าแจ่มหรือคุณจอมทำร้ายแม่ล่ะ

เป็นคำถามเดิมที่ทำให้ใจหนักอึ้งอีกครั้ง เหนือฟ้าผ่อนลมหายใจด้วยความเคร่งเครียด ก่อนจะเหลือบไปเห็นร่างบนเตียงที่ควรหลับใหล กำลังลืมตาแล้วจ้องมองมาที่เธอ

“รุ้ง”

แม่ที่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไร เรียกชื่อเธอด้วยเสียงเบาอย่างอ่อนแรง เหนือฟ้ารีบยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “แม่ตื่นแล้วเหรอคะ เป็นยังไงบ้าง เจ็บสะโพกหรือเปล่า หรือว่าเจ็บหัว ให้รุ้งไปเรียกพยาบาลให้ไหมคะ”

“รุ้ง... แม่...ขอโทษ”

อยู่ๆ แม่ก็เอ่ยออกมาทำเอาเธอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “แม่ขอโทษทำไม แม่ไม่ได้...”

“ถ้าแม่ไม่เป็นเมียน้อยใคร ก็คงไม่มีใครเกลียดรุ้ง”

“แม่!?! แม่พูดอะไรน่ะ”

“พูดความจริง ความจริงที่แม่ไม่อยากยอมรับ”

“แม่ไม่ต้องพูด”

“แม่เห็นแก่เงิน เจ้าสัวมีเงิน แม่เลยไม่สนใจว่าเขาจะมีครอบครัวอยู่แล้วหรือเปล่า ขอเพียงเขามีเงินให้แม่ แม่ก็มาอยู่กับเขา อยู่... ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณจอมเกลียดแม่ คุณจอมจำเป็นต้องดีเพราะเจ้าสัว แต่แม่กลัว กลัวเจ้าสัวเบื่อ แม่เลยคิด ต้องทำยังไงก็ได้ ให้ชีวิตของเรามั่นคง แม่เลยแกล้งจะส่งรุ้งไปอยู่ที่อื่น เจ้าสัวเลยสร้างบ้านให้... บ้านที่เราอยู่ มาจากการโกหกของแม่”

แม่เอ่ยยาวเหยียดอย่างคนที่อัดอั้นมานาน เหนือฟ้าได้แต่ส่ายหน้า อยากห้าม แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมาได้

“แม่ไม่เคยบอกรุ้ง ความเลวของแม่ ที่แม่ขอให้รุ้งอย่าเอาเรื่อง เพราะแม่เอง แม่ทำกับพวกเขาก่อน ที่คุณแจ่ม เกลียดเรา เพราะเราไปเอาที่ของเขา ที่ตรงนั้น บ้านของเรา เจ้าสัวเคยบอกว่าจะยกให้คุณแจ่ม ส่วนคุณจอม เพราะแม่ไปแย่งสามีเขา เขาสมควรแล้วที่จะเกลียด ทั้งหมด มันเป็นเพราะแม่เอง”

“แม่...” เหนือฟ้าครางออกมาด้วยความตกใจ เหมือนถูกตีแสกหน้าด้วยไม้ท่อนใหญ่ ตลอดเวลาที่เธอคิดว่าตัวเองกับแม่ถูกกระทำ ความจริงแล้วมันอาจเป็นผลกรรมที่พวกเธอเคยไปทำไว้กับคนอื่น หรือว่าเธอจะสำคัญตัวเองผิดมาตลอด เธอไม่ใช่นางเอกผู้น่าสงสาร แต่เป็นนางร้ายที่น่ารังเกียจต่างหาก

“แม่ขอโทษนะรุ้ง แม่ได้ยินที่คุณจอมพูด เป็นเพราะแม่เอง ถ้าแม่ไม่เป็นเมียน้อยใคร ก็คงไม่มีใครเกลียดรุ้งอย่างนี้”

“แม่...” เหนือฟ้าเรียกแม่อีกครั้งด้วยเสียงเบาหวิว น้ำตาของแม่ไหล พลอยทำให้นัยน์ตาของเธอพร่ามัวไปด้วย “แม่ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว รุ้งเข้าใจแล้ว”

“รุ้งโกรธแม่หรือเปล่า ที่แม่...”

ไม่รอให้แม่เอ่ยจบ เหนือฟ้าโผเข้ากอดร่างของแม่เอาไว้แน่น “รุ้งรักแม่ ไม่ว่าแม่จะเป็นยังไงรุ้งก็รักแม่ แม่เป็นแม่ที่ดี เป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดของรุ้ง รุ้งรักแม่นะคะ รักมาก”

“แม่ก็รักรุ้ง รักเหลือเกิน แต่รุ้งจะทำยังไงเรื่องหนึ่ง... รุ้งรักเขา รุ้งจะทำยังไง”

ยังต้องถามอีกหรือว่าเธอจะทำยังไง ในเมื่อทางเลือกของเธอมันไม่มีเหลือให้ลังเลอีกแล้ว หากดันทุรังต่อไป คงไม่มีทางจบได้

“แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องรุ้งกับพี่หนึ่งนะคะ รุ้ง...” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้สั่น รีบปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนจะถอนตัวออกมามองหน้ามารดาที่อยู่ใกล้ “สวยๆ อย่างรุ้ง หาผู้ชายคนใหม่ได้สบายอยู่แล้ว หรือถ้าไม่มีใครดีจริงๆ รุ้งก็จะอยู่กับแม่ไปจนแก่เลย แค่เรามีกัน รุ้งก็พอแล้ว มีแม่แค่คนเดียว ผู้ชายที่ไหนรุ้งก็ไม่สน”

เธอพยายามยิ้มกว้าง แต่หัวใจแสนปวดร้าว

“โถ่ รุ้ง...”

ไม่มีคำใดจะเอ่ยอีก หทัยกอดลูกสาวเอาไว้ ปล่อยหัวใจสองดวงที่กำลังร่ำไห้ ได้ทำหน้าที่ปลุกปลอบกันและกัน



“หมายความว่ายังไงที่บอกว่ารุ้งลาออก!!!”

ชายหนุ่มร่างสูงร้องถามเสียงดังความประหลาดใจ หลังรู้ข่าวที่เพื่อนนำมาบอก

“นายก็ดูเองเถอะ จดหมายลาออกของคุณเหนือ” บุริศว่าเสียงเครียดก่อนวางแผ่นกระดาษสีขาวลงบนโต๊ะทำงาน ชินชนะรีบคว้ามาอ่าน ก่อนคิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากัน

“คุณเหนือส่งอีเมล์มาที่ฝ่ายบุคคล ฉันเพิ่งได้รับเมื่อกี้เลยรีบเอามาให้นายดู นายกับคุณเหนือมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”

“ไม่...ไม่มี” ชินชนะส่ายหน้า ทบทวนถึงเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน “เมื่อวานฉันไปเยี่ยมน้าหทัยที่โรงพยาบาล รุ้งปกติดี ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับฉันเลย เมื่อเช้าคุยกันก็ปกติ... หรือว่าจะมีคนแกล้งส่งมาในชื่อรุ้ง”

“นายลองโทรถามดูสิ”

ชินชนะทำตามคำแนะนำของเพื่อนอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าเขาจะกดหากี่ครั้งก็ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่เขาเรียก ครั้งให้บุริศลองบ้าง ผลก็ออกมาเหมือนกัน ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาหวาดหวั่น

ชายหนุ่มไปที่โรงพยาบาลแต่กลับพบเพียงห้องว่าง เขารีบร้อนกลับบ้านก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเหนือฟ้า นี่มันอะไร เธอทำอย่างนี้ทำไม เป็นคำถามที่เขาไม่เข้าใจ เขาพยายามอย่างหนักที่จะตามหาเธอ แต่ก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอย

บางทีนะบางที เขาก็แอบภาวนาให้เป็นเรื่องที่ใครบางคนกำลังเล่นตลก อิสระกับอิงตะวันอาจรวมหัวกันเอาคืนที่เขาเคยลวงหลอกไว้ หรือไม่นายแว่นมาวินก็อาจหมั่นไส้นิสัยขี้โกหกของเขาเลยกลั่นแกล้ง หรือไม่อีกที... น้องสาวตัวดีของเขาเองที่วางแผน เล่นซ่อนแอบเพราะอยากลองใจ แต่ถ้าอยากให้เขาเจอตัวไวๆ ก็ควรทิ้งเบาะแสอะไรไว้บ้าง ไม่ใช่หาย...เหมือนหายตัวได้ เขาคิดว่าเธอทำเกินไป ถ้าจะล้อเล่นก็ไม่ควรนานขนาดนี้

…..

สองอาทิตย์แล้วนะ จนถึงวันนี้ก็สองอาทิตย์แล้ว

เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่

ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีดำทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง 14 วันแล้วกับการพยายามตามหา... เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง เธอยื่นจดหมายลาออก เธอออกจากบ้าน เก็บข้าวของเสื้อผ้าไม่เหลือสักอย่าง คงวางแผนมานานถึงกระทำการได้รัดกุมเช่นนี้ แต่เธอไม่รู้หรือไงว่าตัวเองไม่ใช่ฟองสบู่ที่จะแตกสลายในอากาศได้อย่างเงียบเชียบ อย่างน้อยที่สุดคนหนึ่งที่จะต้องเสียใจก็คือเขา

เธอทำร้ายเขาอย่างนี้ได้ยังไง

ชินชนะระบายลมหายใจออกมาด้วยความอ่อนล้า หลับตานิ่งนานจมอยู่กับความทรมานที่อัดอั้นอยู่ในอก... รุ้งอยู่ไหน รุ้งทิ้งพี่ไปทำไม ไม่ว่าเขาจะตั้งคำถามอีกสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่พบคำตอบ ความรักของเขาทำท่าจะดำเนินไปด้วยดี แล้วทำไมต้องจบลงอย่างนี้ จบแบบค้างคา จบแบบที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ทำไม ทำไม และทำไม ยิ่งสงสัยเท่าไร หัวใจที่ปวดร้าวก็สร้างหยาดน้ำใสให้รินไหลจากขอบตาลูกผู้ชาย ใช่... เขาอ่อนแอ เขาอ่อนไหว แต่ถ้าน้ำตาเรียกเธอกลับคืนมาได้ ต่อให้เขาต้องคุกเข่าร้องไห้ต่อหน้าเธอ เขาก็ยินดี

แค่ได้เจอเธออีกครั้ง ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรเขาก็ยอม









----------------------------------------
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดปรากฏแล้ว ไม่รู้ว่าพี่หนึ่งจะทำอย่างไรต่อไปนะคะ เอาใจช่วยกันด้วยน้าาาา

คุณ ภาวิน : ช่วงหลังๆ นี้มีแต่ปัญหานะคะ 555 แต่งเองเครียดเอง

คุณ ree : เป็นการแตกแบบที่ฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ พี่หนึ่งคนกลางเลยเจ็บโดยไม่รู้สาเหตุุ

คุณ sukhumvitt66 : อุบัติเหตุจากการกลั่นแกล้งค่ะ

คุณ ดังปัณณ์ : ไม่ได้ปรักปรำค่ะ เป็นอุบัติเหตุที่จงใจ น่ากลัวจริงๆ คนแบบนี้

คุณ แตงกวา : คุณแม่ปลอดภัยดีค่ะ แต่พี่หนึ่งกับรุ้งกำลังบาดเจ็บ (ทางใจ) ทั้งคู่

คุณ kealek : แม่ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ แต่รุ้งก็ลำบากอยุ่ดี

คุณ Pat : เป็นการแทคทีมทั้งแม่ทั้งป้าค่ะ รับมือไม่ไหวแล้ววว

ขอบคุณนะคะสำหรับการติดตาม ขอให้สนุกกับการอ่านค้า
















ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ย. 2556, 23:49:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.ย. 2556, 23:49:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1454





<< บทที่ สามสิบเอ็ด : ฝนเริ่มตั้งเค้า   บทที่ สามสิบสาม : ฝนซา (ลบ) >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 16 ก.ย. 2556, 00:00:27 น.
เรื่องของหัวใจนี่ ใช้สมองสั่งยังไงมันก็เจ็บอยู่ดีเนอะ
เป็นเพราะความรักสินะ ที่นำพาทุกอย่างให้เริ่มต้น แม้แต่ความรักที่บริสุทธิ์ จากแม่สู่ลูก ยังทำร้ายคนอื่นให้เจ็บได้อยู่ดี
งือๆๆๆๆ เศร้าหงะ
รีบมาอัพให้เค้าหายเศร้าไวๆ นะฮ้า (คิคิ)


พันธุ์แตงกวา 16 ก.ย. 2556, 01:02:09 น.
โฮๆๆๆ ป่านนี้รุ้งกับแม่จะเป็นยังไงบ้าง T T
เอาใจช่วยน้า


ree 16 ก.ย. 2556, 01:28:56 น.
งานนี้พี่หนึ่งคงต้องออกอาการจนคนเป็นแม่ทนไม่ไหวต้องไปตามรุ้งกลับมาให้เองกระมัง หรือเรื่องนี้จะจบแบบเศร้าๆ คนอ่านเครียดกันแย่เลย


ภาวิน 16 ก.ย. 2556, 09:16:44 น.
โอ เอาใจช่วยค่ะ คนอ่านก็เครียดนะเนี่ย


Sukhumvit66 16 ก.ย. 2556, 21:30:28 น.
ว่าแล้วเชียว เห็นเงียบ ๆ แท้จริงร้ายที่สุด


ดังปัณณ์ 17 ก.ย. 2556, 08:59:21 น.
เย้ยยยยยยยยยย เอ่อ....จะว่าไป อืม นะ ก็นะ....สงสารพี่หนึ่งหรือรุ้งดีล่ะ เฮ้อ คุณปลายสีอ่ะ กระซิก แกล้งเค้าให้น้ำตาตก โฮๆๆๆๆ (อิพี่หนึ่งจะรู้มั้ยนิว่า แม่ตัวเปนคนจัดการ แล้วจริงๆนะ แม่คนรักเป็นเมียน้อยพ่อ โหยยยยยยยยย ปวดตับ!)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account