กลรัตติกาล
เรื่องต่อ ซ่อนใจไว้ใต้ดาว ชุดเสน่หาฆาตกรรม

หลงกลิ่นจันทน์ , ซ่อนใจไว้ใต้ดาว , กลรัตติกาล
Tags: กลรัตติกาล คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทนำ

กลรัตติกาล

คีตา

บทนำ

จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าว ขอแกง ขอแหวนทองแดง ผูกมือน้องข้า

ขอช้าง ขอม้า ให้น้องข้าขี่ ขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง

ขอเตียงตั้ง ให้น้องข้านอน ขอละคร ให้น้องข้าดู

ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง...

ลมพัดพลิ้วแผ่วเบา ละเลียดผิวที่ขาวเนียนดุจแพรสีขาว หากมองในยามค่ำคืนที่มืดมิด ไร้แสงสว่างเช่นนี้แล้ว มันช่างเป็นจุดเด่นเสียยิ่งกว่าแสงไฟหรือหิ่งห้อยตัวใด ผมยาวสลวยเกือบถึงกลางหลังปลิวไปตามแรงลม ส่งผลไห้เห็นใบหน้าสวยเด่นชัดขึ้น เธอยืนตรงนิ่งเหมือนหุ่น ใบหน้าเรียบเฉย เธอหยุดยืนอยู่ใกล้หนองน้ำริมถนนที่เธอเพิ่งขับรถผ่านเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

ดวงตากลมสวยทอดมองร่างที่ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำด้วยความชาชิน เฉกเช่นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ มันก็แค่ ‘ศพ’ เธอคิดในใจเช่นนั้น แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอต่างหาก ที่มันน่ากลัวกว่าร่างไร้ชีวิตร่างนั้น

ร่างโปร่งใสที่มีใบหน้าละหม้ายกับศพที่จมอยู่ในน้ำราวกับฝาแฝด ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยเลือดสีเข้ม ร่างที่ผอมกว่าเพียงเล็กน้อยนั้นยังคนยืนนิ่ง

ศพนั่นคงขึ้นอืดแน่แล้ว เธอจ้องกลับด้วยแววตาแข็งกร้าวเช่นกัน ทว่ามันไม่ยอมหนีไปไหน

“ไปในที่ๆ สมควรอยู่เสียเถอะ ฉันจะจัดการแจ้งตำรวจให้ตามหาญาติให้”

หญิงสาวชาชินกับการไม่ตอบรับหรือพูดคุยจากกลุ่มวิญญาณเหล่านี้ ไม่เคยสักครั้งที่เธอจะได้อะไรจากการพูดกับพวกเขา แม้จะได้ยินเสียงโหยหวน กรีดร้อง รอบกาย ทว่ามันไร้ซึ่งการสื่อสารเป็นคำพูด ความเจ็บปวดที่ถ่ายทอดมาทางสีหน้า ดวงตาอันหลอนหลอก ริมฝีปากบิดเบี้ยว เลือดที่ไหลโทรมกาย ไร้ซึ่งสิ่งบอกกล่าว สร้างแค่อารมณ์สยดสยองให้กับคนที่ได้พบเห็นซึ่งเธอผ่านเลยจุดนั้นมาแล้ว

เสียงหวีดหวิวของลมที่พัดพาเอาใบไม้แห้งปลิดปลิวไปตามแรง มันพัดผ่านหน้าของเธอไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบยกมือเล็กเรียวนั้นขึ้นปิดหน้า ป้องกันฝุ่นเม็ดทรายเข้าตา เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพอันน่ากลัวนั้นหายวับไปแล้ว

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดมิดอีกครั้ง ไม่มีแสงดาว มีแค่แสงจันทร์ที่ทอแสงนวลอ่อนเพียงเสี้ยวเดียว ลมพัดแผ่วเข้ามาอีกครั้ง และอีกครั้ง

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงยามอรุณรุ่งแล้ว นี่คงเป็นอีกคืนหนึ่งที่เธอคงนอนหลับไม่ลง เสียงเพลงกล่อมเด็กนั้นยังก้องอยู่หัวเธอตลอด ยิ่งในยามค่ำคืนเช่นนี้ด้วยแล้ว มันโหยหวน ชวนให้ขนลุก ทว่าคงไม่มีอะไรน่ากลัว มากไปกว่า ตัวเธอเองแล้วล่ะ



เสียงไซเรนดังเป็นจังหวะ ถี่ๆ รัวดังไปทั่วอาณาบริเวณที่เกิดเหตุ หนองน้ำซึ่งอยู่ติดกับถนนเส้นใหญ่ เป็นเส้นที่คนผ่านไปมาอยู่เสมอ

ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ต่างยืนมองการทำงานของตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิอย่างสนอกสนใจ พร้อมทั้งส่งเสียงอื้ออึงถามกันไปมาถึงสาเหตุของเรื่องราว บ้างก็ใช้มือปิดจมูกไว้กลัวกลิ่นเหม็นที่เริ่มโชยมาบ้าง พอเริ่มมีคนหนึ่งที่ทำเช่นนั้นก็จะเริ่มมีคนต่อไป ต่อไป และต่อไป

ด็อกเตอร์หนุ่มเหลือบมองกิริยาท่าทางเหล่านั้นด้วยความเข้าใจ ถือได้ว่าเป็นหลักจิตวิทยาอย่างหนึ่งทีเดียว เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความที่อยู่ตรงหน้าเพียงแต่ว่า ห้องพักของเขาอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเดินเข้ามาร่วมวงเป็นไทยมุงอีกหนึ่งคนเท่านั้นเอง

ชายไท เป็นชื่อแท้จริงของเขาซึ่งถูกล้อมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่ใครจะนึกว่าเด็กชายชายไทที่เคยผอมบาง บัดนี้ กลายเป็นหนุ่มใหญ่ รูปหน้าคมคาย ดวงตาชั้นเดียวถูกบดบังจากแว่นสายตาที่ใส่ไว้เพียงเพื่อให้ดูขลังเท่านั้นเอง เขาไม่ใช่เด็กสายตาสั้น ไม่ใช่หนุ่มคงแก่เรียน เป็นเด็กเกเรทั่วไปที่พบบ่อย เพียงแต่ว่าเขาประสบความสำเร็จในชีวิตเร็วกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง

ชายหนุ่มผิวขาวสะอาด ทรงผมที่หวีเรียบร้อยนี้หมายถึงว่าเขากำลังจะออกไปทำงานตามสายที่ร่ำเรียนมา สายตาคมเหลือบมองร่างไร้วิญญาณที่เจ้าหน้ากู้ภัยเพิ่งยกขึ้นมาจากน้ำหมาดๆ

ชายร่างใหญ่ สภาพเสื้อผ้าอยู่ครบ สวมเสื้อยืดสีขาวแจ็คเก็ตสีดำและกางเกงยีนสีเข้ม สีผิวนั้นคล้ำแต่เริ่มซีดอาจจะเป็นเพราะจมอยู่ในน้ำนานหลายชั่วโมงหรืออาจจะเป็นวันแล้วก็ได้ จริง ๆ ร่างกายของหนุ่มนิรนามคนนี้อาจจะไม่ได้ใหญ่โตนักแต่เพราะมันเริ่มอืดแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ลอยโผล่ขึ้นมาบนน้ำได้แน่ๆ

“อ้าว ด็อกเตอร์ชายไท” เสียงนายตำรวจคนหนึ่งกล่าวทัก เขายิ้มรับบาง ๆ เมื่อเห็นว่าคนที่กล่าวถึงนั้นเป็นใคร สารวัตรจรินทร์ นายตำรวจหนุ่มที่เคยเจอกันบ่อยครั้งเมื่อคราวที่เข้าไปช่วยงานสำนักงานตำรวจอยู่พักหนึ่ง แม้จะไม่ได้เจอกันในหน่วยงานที่เข้าไปช่วยแต่เพราะเป็นรุ่นน้องของหัวหน้าเก่าทำให้ได้รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”

“คงมีคนเอาศพมาทิ้งไว้น่ะ พอดีเลยด็อกเตอร์มาช่วยดูหน่อยสิ นิติเวชยังไม่มาเลย” นายตำรวจหนุ่มกล่าว ชายหนุ่มเลิกคิ้ว

“ผมเป็นนักจิตวิทยาครับ ไม่ได้เป็นนิติเวช” แม้จะค้านแต่ขาก็ยังก้าวเข้าไปดูสภาพศพอย่างใกล้ชิด

ขายาวนั้นย่อลงนั่งยองๆ ก้มลงมองสภาพของเนื้อที่เปื่อยซีดขาวที่มีบาดแผลขนาดไม่ใหญ่มาก บริเวณหน้าอก มีเลือดเป็นก้อนลิ่มยังอุดอยู่ในร่อง ซึ่งชายหนุ่มคิดว่าเป็นกระสุนปืน เขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ

ที่นี่เป็นสถานที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหรือเรียกได้ว่าผู้คนพลุกพล่าน การที่จะทำการนำศพมาทิ้งไว้ต้องใช้ช่วงเวลาที่ไม่มีคน อาจจะเป็นกลางดึกแล้วมีคนมาพบช่วงเช้า ถ้าหากจะอำพรางคดี ก็ควรเป็นพื้นที่ ๆ คนไม่เห็นศพ นี่อาจจะเป็นการจงใจมากกว่า

สายตาของชายหนุ่มกวาดมองกลุ่มคนที่เข้ามายืนดูเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ จนสะดุดอยู่ที่หญิงสาวผมยาวเกือบครึ่งหลังใบหน้าขาวจนเรียกได้ว่าซีด ริมฝีปากสีแดงสด ดวงตารีเรียวราวดวงตาของแมวนั้นจ้องเขม็งมาที่เขา เธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาว สองแขนนั้นอุ้มแมวดำที่จ้องมายังเขาเช่นกัน...

ขนลุกเกรียวไปหมด ความรู้สึกของชายหนุ่มเหมือนอะไรบางอย่างแปลกประหลาดจนต้องจ้องตอบดวงตาคู่นั้น หัวใจเต้นรัวเร็ว มือเขาเริ่มสั่น

“ด็อกเตอร์ว่ายังไงครับ” เสียงนายตำรวจหนุ่มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ชายไทกลืนน้ำลายลงลำคอก่อนจะหันกลับมายังคู่สนทนา

“ครับ? เอ่อ...ผมว่ารอนิติเวชดีกว่านะครับ แต่ที่เห็น ก็ตายเพราะถูกยิงตัดขั้วหัวใจพอดี น่าจะตายก่อนที่จะเอามาทิ้งตรงนี้นานแล้ว ผมค่อนข้างแปลกใจว่าที่นี่เป็นที่ๆ คนพลุกพล่านมาก ทำไมต้องเอามาทิ้งไว้ตรงนี้เหมือนต้องการให้เห็นศพ”

“คงอยากบอกมั้งครับ” นายตำรวจหนุ่มทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น รอยยิ้มของผู้กองมนัสพอจะสร้างความกระจ่างแก่ชายหนุ่มเป็นอย่างดีว่า ตำรวจรู้เรื่องนี้แน่ เขาหันกลับไปมองตรงจุดที่หญิงสาวยืนอยู่อีกครั้ง ทว่า เธอหายไปแล้ว

ใบหน้าซีดเผือดของชายไททำให้ผู้กองมนัสเข้ามาแตะบ่าเบาๆ ด้วยความเห็นห่วง “ด็อกเตอร์เป็นอะไรหรือครับ”

ชายไทมองหาหญิงสาวปริศนานั้นไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นมุมที่คนกำลังยืนจ้อง ทว่าไม่พบเลย

“ปะ...เปล่าครับ” น้ำเสียงสะดุด ใจนั้นนึกประหวั่นพรั่นพรึงกับสิ่งที่ตัวเองคิด เขาไม่เคยเจอสิ่งที่เหนือธรรมชาติและคิดว่าไม่อยากเจอด้วย

หวังว่าสิ่งที่เขาคิดจะไม่เป็นจริง ขอให้สิ่งที่เห็น คือคนด้วยเถอะ!!!
--------------------

อัพเดททุกวันอาทิตย์นะคะ สัปดาห์ละตอน



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ย. 2556, 08:49:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ส.ค. 2557, 17:16:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 2624





   บทที่ ๑ สาวปริศนาแมวดำ (แก้ไข) >>
วิรัตต์ยา 26 ก.ย. 2556, 09:45:35 น.
มาเจิม ^^


ณิชนิตา 26 ก.ย. 2556, 10:10:09 น.
กอดแรงๆ


ภาวิน 26 ก.ย. 2556, 11:04:37 น.
ดูลึกลับน่าสนใจดี


เทียนจันทร์ 26 ก.ย. 2556, 18:06:55 น.
ออกแนวสยองขวัญรึเปล่าคะ น่าตื่นเต้นจัง


ดังปัณณ์ 26 ก.ย. 2556, 19:04:18 น.
มาเข้าคิวรอค้า ^O^


เบญจามินทร์ 26 ก.ย. 2556, 19:13:47 น.
เจิมด้วย


นักอ่านเหนียวหนึบ 26 ก.ย. 2556, 22:59:00 น.
เอ..... เคยเอามาลงแล้วป่าวคะ เอ๊ะ หรือยังไง อาจจะไม่ใช่ ????
แต่ก็ติดตามนะจ้า ชอบๆๆ อิอิ


nako 26 ก.ย. 2556, 23:05:20 น.
ว้าว ว้าว


ณิชนิตา 28 ก.ย. 2556, 07:47:53 น.
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ .ใช่ค่ะ เคยเอามาลงไว้แล้ว แต่หยุดไปเพิ่งกลับมาใหม่ค่ะ ปรับเนื้อหาบางประการค่ะ ขอบคุณค่ะ


Pat 28 ก.ย. 2556, 18:44:56 น.
ถึงว่าคุ้นๆว่าเคยอ่านตอนสองตอน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account