ยอดรักเทพบุตรมาเฟีย
ยอดรักเทพบุตรมาเฟีย เรื่อง ที่ 5 ในซีรี่ส์มาเฟียยอดรัก โดย ผการุ้ง


เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองคู่ ทายาทมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล แห่งเกาะฮ่องกง

คู่แรกหลี่เทียนมาเฟียหนุ่มทายาทเพียงคนเดียวของหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟ กับ มุกอาภาหรือน้องมุก ลูกสาวสุดที่รักของหัวหน้าแก๊งมังกร คู่สอง จางหมิง ทายาทหัวหน้าแก๊งมังกร ฉายาคาสโนว่ามาเฟีย กับ โยธกาหรือหนูยิ้มสาวน้อยชาวไทยสุดแสบ ที่จะมาลบลายคาสโนว่าไม่ให้เหลือลาย

หลี่เทียนมอบหัวใจให้มุกอาภาและจับจองตัวเธอเป็นเจ้าสาวของเขาตั้งแต่ยี่สิบปีก่อน ยามนี้หญิงสาวเติบโต สวยพร้อม เขาจึงปรารถนาครอบครองมุกเลอค่ามาเป็นยอดดวงใจ ทว่า...สาวน้อยยังไร้เดียงสา เกินกว่าจะเข้าใจหัวใจรัก และแรงปรารถนาของมาเฟียหนุ่ม รักครั้งนี้จึงต้องใช้หัวใจบวกกับเสน่หาอันร้อนแรงเป็นบ่วงคล้องหัวใจสาวน้อยไว้
เธอเกิดมาเพื่อเขา และต้องเป็นของเขาผู้เดียว!

จางหมิงมาเฟียหนุ่มเจ้าของฉายา คาสโนว่ามาเฟีย ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเสน่ห์อันร้อนแรงของเขาได้ แต่ยัยหนูยิ้มตัวแสบ อดีตคู่กัดวัยเด็กเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เคยสนใจเขา หนำซ้ำยังก่อกวนให้เขาวุ่นวายได้ตลอดเวลา ถึงเวลาแล้วใช่ไหมที่เขาจะปราบพยศเด็กดื้อแสนร้ายกาจ ให้หลาบจำ แต่ไปๆ มาๆ คนที่โดนกำหราบ กลายเป็นมาเฟียหนุ่มเสียเอง
ในเมื่อเธอทำให้คาสโนว่าอย่างเขายอมสิ้นลาย เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกแล้ว ...
เธอต้องเป็นดอกไม้ในมือมาเฟียอย่างเขาตลอดกาล!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 2. สายใยพิศวาส 60%

ตอนที่ 2.สายใยพิศวาส

ร่างสูงใหญ่ของหลี่เทียนยืนกอดอกอยู่บนสนามหญ้าในมุมหนึ่งของสวนกว้างภายในคฤหาสน์ตระกูลหลี่ อันเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเขา มาเฟียหนุ่มล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบกล่องของขวัญออกมาดู ริมฝีปากแย้มยิ้มบางๆ ดวงตาคมกริบทอดมองกล่องของขวัญในมือด้วยแววตาอ่อนโยน แล้วยกกล่องขึ้นแตะริมฝีปากตัวเอง รอยยิ้มระบายกว้างขึ้น เมื่อในมโนนึกมีภาพของสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของของขวัญกล่องนี้ปรากฏขึ้นมา

มุกอาภาหรือน้องมุก หญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง ผิวขาวอมชมพูเนียนละมุนเหมือนไข่มุก ใบหน้ารูปไข่งดงามดวงตาใสกระจ่างล้อมกรอบด้วยขนตางอนสวยซึ้ง คิ้วเรียวได้รูปรับกับจมูกโด่งเล็กและริมฝีปากบางสีแดงระเรื่อราวกลีบกุหลาบ สวยน่ารักจนไม่อาจละสายตาได้สักครา หัวใจแกร่งของเขาสยบยอมต่อสาวน้อยคนนี้ตั้งแต่วัยเยาว์ อาจเป็นเรื่องที่น่าขันหากเด็กผู้ชายวัยเจ็ดขวบคนหนึ่ง จะติดใจเด็กหญิงวัยสองขวบน่าตาน่ารักจิ้มลิ้ม จนถึงขั้นเอ่ยปากกับบิดามารดาว่าอยากได้เธอมาเป็นของเขา

“เราแน่ใจนะว่าอยากได้น้องมุกมาเป็นของเรา”

บิดาของเขาถามลูกชายเสียงขรึม หลี่เทียนสบตากับคนเป็นพ่อไม่หลบตา พยักหน้ารับด้วยแววตาแน่วแน่

“ครับคุณพ่อ เทียนอยากได้น้องมุกมาเป็นของเทียน” เขาตอบบิดาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จริงจังกว่าครั้งไหนๆ

“ได้ พ่อจะบอกอาจางหลงให้ แต่เทียนต้องสัญญาก่อนว่า จะดูแลน้องตลอดไป โตขึ้นก็ห้ามทิ้งน้อง ต้องรักน้องไปตลอดชีวิต” หลี่ไท่หยางบิดาของเขา ให้เขาสัญญากับท่าน

“ครับ เทียนสัญญา เทียนจะดูแลน้องมุกให้เหมือนหัวใจของเทียนเลย”

“ดีมาก จำคำสัญญาที่พูดกับพ่อไว้ให้ดี ถ้าทำไม่ได้พ่อจะให้อาจางหลงเอาน้องมุกคืน”

คำสัญญาในวันนั้น ได้ผูกพันเขาไว้กับน้องมุกตลอดมา และหลี่เทียนไม่คิดจะผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ เพราะเขาแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อน้องมุก ความรู้สึกในหัวใจที่เรียกว่าความรัก ได้เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาผ่านไป วันนี้เขามั่นใจว่าหัวใจของเขามีใครครอบครองอยู่

“พี่เทียนคะ น้องมุกอยากให้พี่เทียนไปรอน้องมุกที่สนามหญ้าด้านหลังตึกได้ไหมคะ น้องมุกมีอะไรจะเซอร์ไพรซ์พี่เทียนค่ะ” เสียงหวานใส ของน้องมุกหรือมุกอาภา เอื้อนเอ่ย ขณะเต้นรำอยู่ในอ้อมแขนของเขาเมื่อราวสิบห้านาทีก่อน

“เซอร์ไพรซ์... น้องมุกจะเซอร์ไพรซ์อะไรพี่ครับคนดี”

หลี่เทียนเอ่ยถามสาวน้อยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เหมือนที่เคยพูดกับเธอตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีสักครั้งที่เขาจะดุหรือทำเสียงดังใส่สาวน้อยแสนหวานคนนี้เลย มีแต่เอาอกเอาใจ ทะนุถนอมราวกับนางฟ้าน้อยๆ

“ไม่บอกค่ะ พี่เทียนต้องไปรอน้องมุกตรงนั้นก่อนค่ะ ถึงจะรู้” น้องมุกยิ้มสดใส

หลี่เทียนยอมทำตามที่น้องมุกบอก เขามายืนรอเธอหลายนาทีแล้วน้องน้อยยังไม่ยอมตามมาสักที มาเฟียหนุ่มตั้งใจรอการเซอร์ไพรซ์อย่างใจจดใจจ่อ นอกจากของขวัญกล่องนี้น้องมุกจะมีอะไรให้เขาประทับใจอีกหนอ...

“พี่เทียนคะ!”

เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่เทียนรีบหันไปพร้อมกับยิ้มกว้าง พอเห็นร่างสูงเพรียวในชุดราตรีสีชมพูถนัดตา รอยยิ้มก็คลายลง แววตาอ่อนหวานเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งห่างเหิน เมื่อคนเดินเข้ามาไม่ใช่คนที่เขาเฝ้ารอ

“แซนเดรีย... มาทำอะไรตรงนี้” หลี่เทียนเอ่ยถามคนเพิ่งมาถึง ด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดุจ้องมองใบหน้างดงามตามแบบฉบับสาวลูกครึ่งนิ่ง สายตาของเขาทำให้คนถูกมองถึงกับตัวสั่น

“พี่เทียนคะ แซนเดรีย เอ่อ... แซนเดียมา เอ่อ...”

“มีอะไรก็รีบบอกมา ฉันไม่มีเวลามาฟังเธอทั้งคืนหรอกนะ” หลี่เทียนตวัดสายตาดุ น้ำเสียงห้วนขึ้น

“กรุณาเรียกฉันว่าคุณเทียนหรือคุณหลี่ เพราะฉันกับเธอไม่ได้เป็นพี่น้องกัน คนที่ฉันอนุญาตให้เรียกว่าพี่คือน้องๆของฉัน และน้องมุกเท่านั้น”

แซนเดรียสะอึกกับคำพูดไม่ไว้หน้าของมาเฟียหนุ่ม หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามเรียกความกล้าหาญของตัวเองให้กลับมา มุกอาภาหรือพี่มุกอุตส่าห์บอกให้หลี่เทียนมารอเธอที่นี่ ถ้าเธอยังไม่กล้าอีกเท่ากับทำให้คนปรารถนาดีคอยช่วยเหลืออย่างมุกอาภาเสียเวลาเปล่า

“คุณเทียนคะ แซนเดรียอยากบอกว่า แซนเดรียชอบคุณเทียนค่ะ” ในที่สุดเธอก็สามารถพูดคำนี้ออกไปได้

แซนเดรียกำมือแน่นหัวใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาของชายที่เธอแอบหลงรักด้วยความคาดหวัง หลี่เทียนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังให้เธอแล้วบอกว่า

“ขอโทษนะแซนเดรีย ฉันไม่เคยคิดอะไรกับเธอมากกว่าคนรู้จักกัน ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ แต่ฉันคงรับไว้ไม่ได้ ไปหาคนที่เขาพร้อมจะรักเธอเถอะ ฉันมีคนที่ฉันรักแล้ว”

ความผิดหวังพุ่งเข้ามากระแทกใส่หัวใจของแซนเดรียอย่างแรง ถ้อยคำตัดรอนไร้ซึ่งเยื่อไย บาดลึกเข้าไปในหัวใจดวงน้อยจนเจ้าของน้ำตาไหลพราก รักครั้งแรกถูกปฏิเสธราวกับของไม่มีค่า เขามีคนรักอยู่แล้วแต่ทำไมมุกอาภาถึงได้บอกให้เธอมาสารภาพกับเขาล่ะ แซนเดรียอดกังขาไม่ได้

“คุณเทียน... คุณเทียนรักใครคะ” เธอถามเขาเสียงแผ่ว ยกมือขึ้นปาดน้ำตาสะอื้นฮัก

“ฉันรักน้องมุก และกำลังจะแต่งงานกับน้องมุก”

หลี่เทียนหันมา เขามองหญิงสาวด้วยแววตาเฉยชา ยืนนิ่งไม่ขยับเข้ามาช่วยซับน้ำตาให้ สำหรับมาเฟียหนุ่มนอกจากมุกอาภาแล้ว ผู้หญิงคนอื่นไม่เคยมีความสำคัญในสายตาของเขาเลย

“ไม่จริง พี่มุกไม่เคยบอกแซนเดรียเลย พี่มุกนัดคุณเทียนมาที่นี่เพื่อให้แซนเดรียมาสารภาพรัก พี่มุกไม่มีทางหลอกแซนเดรียหรอกค่ะ”

คำพูดของหญิงสาว ทำให้คนฟังกำหมัดแน่น นี่สินะ... เซอร์ไพรซ์ที่น้องมุกบอกเขา เธอนัดเขามาที่นี่ให้แซนเดรียมาสารภาพรักหรอกหรือ...

“เซอร์ไพรซ์ ฮึ เซอร์ไพรซ์มากน้องมุก” หลี่เทียนคำรามในคอเสียงขื่น เขามองหน้าแซนเดรียด้วยแววตาแข็งกร้าว

“ไปให้พ้นหน้าฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะแซนเดรีย !”

แซนเดรียสะดุ้งโหยง เมื่อถูกคนมาดนิ่งตวาดเข้าใส่ หญิงสาวอ้าปากจะเอ่ยขอโทษแต่คำพูดไม่ทันหลุดจากปาก ก็เห็นแววตาน่ากลัวของมาเฟียหนุ่มเสียก่อน สุภาพบุรุษแสนดีที่เธอเคยหลงรัก แท้จริงแล้วคืออสูรร้ายดีๆ นี่เอง แซนเดรียรีบถอยหลังกรูดวิ่งหนีไปทันทีด้วยความหวาดกลัว

“แซนเดรีย อย่าเพิ่งไปสิ ! ” ร่างเพรียวบางของมุกอาภารีบออกมาจากที่ซ่อน เมื่อเห็นแซนเดรียวิ่งหนีไป

“พี่เทียน ทำอะไรแซนเดรีย ทำไมแซนเดรียถึงทำท่าตกใจแบบนั้นคะ”

มุกอาภาเดินเข้าไปหาหลี่เทียนที่ยืนนิ่งอยู่กลางสนาม ใบหน้าของพี่ชายใจดีแดงก่ำ ดวงตาของเขาแข็งกร้าวน่ากลัว ไม่เหมือนเคยเป็น หญิงสาวค่อยยื่นมือไปแตะแขนของเขา แต่ต้องตกใจเมื่อถูกคนยืนอยู่กระชากตัวเขาไปหาอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างบางถูกกอดรัดไว้แน่น

“ว้าย! พี่เทียนทำอะไร” มุกอาภาหวีดร้องด้วยความตกใจ มองหน้าพี่ชายใจดีของเธออย่างตื่นตระหนก

หลี่เทียนจับไหล่บางไว้แน่น ออกแรงบีบจนหญิงสาวหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ แววตาดุดันจ้องมองใบหน้างดงามนิ่ง จนมุกอาภารู้สึกหวาดหวั่น

“ทำไมถึงทำแบบนี้ ฮะ น้องมุก” เขาถามเธอเสียงเข้ม

“ทำอะไรคะ พี่เทียน...”

“ยังจะมาถามอีก น้องมุกหลอกให้พี่มารอที่นี่ เพื่อให้แซนเดรียมาสารภาพรัก อย่าบอกนะว่าไม่ใช่ความคิดของน้องมุก” หลี่เทียนเสียงขื่น ผิดหวังกับการกระทำของมุกอาภา

“พี่เทียนคะ น้องมุกแค่อยากช่วยให้แซนเดรียบอกรักพี่เทียนเท่านั้นนะคะ แซนเดรียเขาแอบชอบพี่เทียนมาตั้งนานแล้วแต่เขาไม่กล้าบอกให้พี่เทียนรู้” มุกอาภาพยายามอธิบาย

“ถ้าพี่ยอมรับรักแซนเดรีย น้องมุกจะว่ายังไง”

“น้องมุกก็ดีใจด้วยน่ะสิคะ พี่ชายกับน้องสาวรักกัน คนกลางอย่างน้องมุกก็ต้องยินดีสิคะ”

คำตอบของเธอช่างบาดหูนัก หลี่เทียนจ้องหน้าคนตัวเล็กที่ไม่รู้สึกรู้สากับความเจ็บปวดของเขาด้วยความผิดหวัง

“น้องมุก ไม่เคยรู้สึกอะไรกับพี่เลยเหรอ รักพี่บ้างหรือเปล่า” เขาถามเสียงแผ่วพร่า

มุกอาภาเห็นแววตาตัดพ้อของพี่ชายตัวโต ก็ใจไหววูบ รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมากับสายตานั้น เจ้าตัวไม่เข้าใจความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ได้แต่คิดเอาเองว่าเธอคงสงสารเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้

“น้องมุกรักพี่เทียนนะคะ รักพี่เทียนเหมือนที่รักเฮียหมิง”

หัวใจของหลี่เทียนพองฟูในประโยคแรก ก่อนจะแฟบลงเมื่อฟังประโยคต่อมาจบ เขาปล่อยมือออกจากไหล่มน หมุนกายหันหลังให้

“น้องมุก... พี่รักน้องมุกนะ”

เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงปวดร้าว ก่อนจะเดินหนีไปจากตรงนั้น ปล่อยให้คนฟังนิ่งงันด้วยความตกตะลึง

“พะ พี่เทียน...”

มุกอาภาครางเสียงแผ่ว หัวใจเต้นแรงกับคำรักที่ได้ยินจากปากของพี่ชายตัวโต ทำไมหัวใจของเธอถึงรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจแบบนี้นะ ทำไมร่างกายเบาหวิวเหมือนกำลังลอยอยู่บนบนก้อนเมฆก็ไม่รู้ กว่าจะตั้งสติได้ก็เห็นแผ่นหลังกว้างเดินลับกายไปจากสายตาเสียแล้ว

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“ที่นี่ที่ไหน” โยธกาเอ่ยถามเสียงสั่น

หญิงสาวถูกจางหมิงลากลงมาจากรถ แล้วพาขึ้นลิฟต์จากชั้นใต้ดิน มายังชั้นบนสุดของคอนโดหรู ที่กินพื้นที่ทั้งชั้น ห้องพักถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน เป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องพักผ่อนส่วนตัว รวมถึงสระน้ำวนที่เจ้าของชอบใช้ยามต้องการผ่อนคลาย

“คอนโดพี่เอง”

จางหมิงปล่อยมือออกจากแขนของโยธกา เมื่อกดปุ่มล็อกประตูแล้ว ห้องของเขาใช้ลายนิ้วมือของเจ้าของเป็นรหัสปิดเปิดประตู จึงไม่ต้องกลัวว่าหญิงสาวจะหนีออกไปได้

“พาหนูยิ้มมาที่นี่ทำไม”

“ก็พาคู่หมั้นมาเที่ยวห้องพี่ไง ชอบไหม”

“ไม่ชอบ ไม่ได้อยากมาสักนิด พาหนูยิ้มกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ”

โยธกาไม่ยอมหมดฤทธิ์ หญิงสาวกวาดตามองไปรอบกาย หาทางหนี ไม่นึกว่าแค่อยากแกล้งจางหมิงเล่น จะต้องถูกเขาแก้แค้นคืนแบบนี้ เธอน่าจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนโมโหร้าย เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เธอแกล้งเขา จางหมิงก็ทวงคืนด้วยการ... จูบเธอ

มือบางแตะริมฝีปากตัวเอง แก้มร้อนวูบเมื่อคิดถึงจูบแรกที่ถูกเขาขโมยไป เมื่อครู่เขาก็หอมแก้มเธออีก ตอนนี้เขาคงไม่คิดทำอะไรเกินเลยมากกว่านั้นนะ หญิงสาวแอบนึกหวั่น

“ไม่ พี่จะพาหนูยิ้มกลับวันพรุ่งนี้” จางหมิงบอกเสียงเข้ม ปรายตามองใบหน้าซีดเผือดแล้วยิ้มกว้าง “ทำไม เมื่อหนูยิ้มกล้าประกาศว่าเป็นคู่หมั้นพี่ ก็ต้องกล้าเป็นจริงๆ สิ”

จางหมิงเพิ่งเข้าใจตัวเองในวินาทีที่เธอออกมาแสดงตัวเป็นคู่หมั้น ว่าหลายปีที่ผ่านมาทำไมเขาถึงไม่เคยลืมยายตัวแสบนี่ได้เลย ผู้หญิงมากมายหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ไม่มีคนไหนทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวได้เหมือนเธอ

“หนูยิ้มพูดเล่น ไม่ได้อยากเป็นจริงๆ สักหน่อย” โยธกาเอ่ยท้วง ใจเต้นแรงขึ้น เมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองเธอ

หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมถึงมีความสุขนัก ยามได้เห็นอาการกระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโหของเขา เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหาโอกาสแกล้งเขาอยู่ทุกครั้งที่พบเจอ จนครั้งสุดท้ายเมื่อหลายปีก่อน เธอแอบตามเขากับหลี่เทียนไปที่ผับ แอบมองเขาพูดคุยหยอกล้อกับหญิงสาวหน้าตาดีเหล่านั้นด้วยความโมโห จนเขาเริ่มนัวเนียเจ้าหล่อนเหล่านั้น และทำท่าจะพาผู้หญิงไปต่อตามประสาผู้ชาย เธอจึงอดรนทนไม่ไหวเข้าไปขวางไว้ โดยอ้างว่าจะพาพี่ชายกลับ วันต่อมาเธอก็เอาเรื่องนี้ไปฟ้องอาของเธอกับแม่เลี้ยงและน้องสาวของเขา หวังให้คนเหล่านั้นช่วยจัดการกับเขาแทนเธอ แต่สิ่งที่ทำกลับทำให้เขาโมโหเธอมาก ริมฝีปากอิ่มขบเม้มด้วยความลืมตัวเมื่อ นึกถึงรอยสัมผัสจากเขาขึ้นมา จูบแรกของเธอเป็นของเขา เป็นของผู้ชายนิสัยไม่ดีที่เธอชอบแกล้งคนนี้ เขาลงโทษเธอด้วยการจูบ ประทับรอยนี้ไว้ในใจของเธอจนถึงทุกวันนี้

“พูดเล่นเหรอ แต่พี่จะทำให้มันเป็นจริง” จางหมิงขยับเข้ามาหา ดวงตาคมวาววามจ้องมองร่างงาม ขณะที่โยธกาถอยหลังกรูดไปจนมุมที่ประตูห้อง

“ไม่เอานะ พี่หมิงอย่าแกล้งหนูยิ้มนะ หนูยิ้มขอโทษ หนูยิ้มจะไม่แกล้งพี่หมิงอีกแล้ว หนูยิ้มสัญญา”

“สำนึกตอนนี้ก็สายไปแล้วหนูยิ้ม พี่จะทำให้เธอเป็นคู่หมั้นของพี่จริงๆ”

ร่างสูงตรงเข้าไปหาร่างงาม กักขังเธอไว้ในอ้อมแขน ยื่นหน้าไปหาคนที่หลับตาปี๋ ริมฝีปากขยับแย้มยิ้มเอ็นดู ค่อยๆ ก้มลงแตะริมฝีปากบนเรียวปากอิ่มอ่อนโยน เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบหักหาญน้ำใจผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่เขารู้สึกพิเศษคนนี้

โยธกาสะดุ้งเฮือกเมื่อความร้อนผ่าวสัมผัสลงบนริมฝีปาก หญิงสาวลืมตาโพลงส่ายหน้าหนี แต่ถูกมือหนาที่สอดอยู่ใต้คอจับไว้ไม่ให้ดิ้นหนี ความทรงจำในวันวานย้อนกลับมาในหัวอีกครั้ง เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวคลอเคลียลูบไล้ริมฝีปากเธอผะแผ่วอ่อนโยน ไม่ได้จาบจ้วงรุนแรงเหมือนวันนั้น คล้ายคนทำกำลังปลอบประลมไม่ให้เธอหวาดหวั่นเกินไป หญิงสาวผ่อนคลายจนเผลอตัวคล้อยตามตอบรับสัมผัสแสนหวานนั้น ดวงตากลมโตหรี่ปิดลงอีกครั้ง แขนเรียวยกขึ้นเกาะไหล่หนาเอาไว้อย่างเผลอไผล ความรู้สึกที่ซุกซ่อนในใจมาเนิ่นนาน เปิดเปลือยออกมาโดยไม่รู้ตัว

จางหมิงไม่ปล่อยให้หญิงสาวเปลี่ยนใจ ช้อนอุ้มร่างบางพาเดินเข้าไปในห้องนอน วางร่างงามบนเตียงนุ่ม โยธกาสะดุ้งเฮือกรู้สึกตัวเมื่อแผ่นหลังแตะลงบนเตียง ขยับตัวจะถอยห่างแต่ร่างหนาก็โถมตัวลงมาทาบทับไว้ก่อน

“ไม่นะ พี่หมิงอย่าทำแบบนี้นะ” เธอห้ามเขาเสียงแผ่วพร่า

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ได้รังแกหนูยิ้ม” เขาบอกเสียงนุ่ม

“พี่หมิงไม่ได้รักหนูยิ้ม อย่าทำกับหนูยิ้มแบบนี้เลย”

โยธกาพยายามร้องห้าม เธอไม่อยากตกเป็นของคนที่ไม่ได้รักเธอ

“ใครว่าพี่ไม่ได้รักหนูยิ้มล่ะ พี่รักหนูยิ้มมาตลอด แต่หนูยิ้มไม่เคยรู้” จางหมิงก้มลงแตะริมฝีปากบนหน้าผากเนียน ยิ้มให้คนที่กำลังหลบสายตาเขาอย่างเอ็นดู ประคองดวงหน้าหวานให้หันมาสบตา

“หนูยิ้มไม่เชื่อ” โยธกาหัวใจพองฟูกับคำรักที่ได้ยิน แต่ไม่ยอมเชื่อเขาง่ายๆ

“พี่จะพิสูจน์ให้หนูยิ้มรู้ ว่าพี่รักหนูยิ้มจริงๆ”

“พิสูจน์ยังไง”โยธกาสบตาคมงามของอีกฝ่ายอย่างกังขา ก่อนจะหน้าร้อนวูบเมื่อเห็นสายตาหวานเชื่อมของเขา รีบส่ายหน้าทันที “ไม่นะ อย่าพิสูจน์แบบนี้นะ หนูยิ้มไม่ยอม”

“พรุ่งนี้พี่จะให้คุณพ่อไปขอหนูยิ้มนะ” จางหมิงยิ้มกรุ้มกริ่ม ขณะมองหน้าแดงเรื่อของคนใต้ร่างนิ่ง “แต่ตอนนี้ พี่ขอจองทั้งตัวและหัวใจของหนูยิ้มไว้ก่อน พี่กลัวนายไมค์มันแย่งหนูยิ้มไป”

จางหมิงไม่เปิดโอกาสให้โยธกาทักท้วงอีก เขาก้มลงปิดปากน้อยๆ ของเธอไว้ปรนเปรอจุมพิตให้คนไร้ประสบการณ์เคลิบเคลิ้ม ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขามีความสุขและอิ่มเอมใจยามสัมผัสแตะต้องได้เท่าผู้หญิงคนนี้ เขาไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกแล้ว เมื่อหลายปีที่ผ่านมาหัวใจของเขาเฝ้ารอที่จะครอบครองหญิงสาวมาตลอด

“อย่านะพี่หมิง...” โยธกาหอบหายใจแรง ร้องห้ามเสียงแผ่วหวิว มือน้อยจับมือหนาที่กำลังปลดชุดสวยออกจากร่างงาม

“คนดี อย่าดื้อนะจ๊ะ” คาสโนว่าตัวร้าย ยิ้มเจ้าเล่ห์ดวงตาคมจ้องใบหน้างดงามด้วยแววตาหวานเยิ้ม ยิ่งเห็นอาการสั่นเทาของสาวน้อยไร้เดียงสา ริมฝีปากก็แย้มกว้างขึ้นอีก

อา... เขาจะไปต่อหรือว่าจะหยุดเพียงแค่นี้ ใครก็ได้ช่วยบอกเขาที...

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

มาอัพแล้วจ้า

พี่เทียนก็งอนน้องมุกไปแล้ว น้องมุกจะง้อพี่เทียนยังดีหนอ... รอลุ้นจ้า

ส่วนพี่หมิงของเราก็เจ้าเล่ห์เหลือเกิน หนูยิ้มจะรับมือคาสโนว่าคนนี้ไหวไหม...

ครึ่งหลังผู้เขียนได้เพิ่มฉาก NC หวานๆ ร้อนๆ ของคู่นี้กันนิดหน่อย เพิ่มจากของเดิมที่ เคยเขียนไว้ ใครอยากอ่านต่ออย่าลืมเม้นให้กำลังใจสักนิดนะคะ อิอิ



ขออัพเพียงบางส่วนเป็นตัวอย่างนะคะ ไม่อัพจนจบ

ใครสนใจสั่งจองแจ้งมาได้ที่ อีเมล p_pakarung@hotmail.co.th ได้นะคะ

หรือจะอ่านเรื่องอื่น ในซีรี่ส์มาเฟียยอดรัก เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ อ่านได้ที่ลิ้งนี้ค่ะ


http://www.hongsamut.com/readniyai.php?niyaiid=4210



ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

รวิญาดา/ผการุ้ง




รวิญาดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ย. 2556, 16:03:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ต.ค. 2556, 22:31:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 4534





<< ตอนที่ 1. พันธะสัญญาใจ 100%   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account