หัวใจ...error
ฟ้าคราม ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักนั้นคืนกลับมา เขาพยายามที่จะยื้อยุดความรักไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ ทว่า...เมื่อออมทองได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขา ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากคนนี้ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเขานั้นเปลี่ยนไป...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ

เสียงหัวเราะอย่างขบขันบวกกับเสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ที่จับใจความไม่ได้นั้นดังอยู่รอบกาย

หญิงสาววัยยี่สิบสามปีที่นั่งอยู่หน้าร้านส้มตำในฟู๊ดคอร์ทของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

ในกรุงเทพฯ เธอกวาดสายตามองผู้คนรอบข้างด้วยความเบื่อหน่าย ดวงตากลมโต

ละม้ายตากวางแพขนตาหนางอนยาว จมูกที่โด่งเป็นสันรับริมฝีปากอิ่มแดงรูปกระจับ

เธอเม้มปากแน่น มองจานข้าวผัดที่โปะไข่ดาวตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกหิวทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

นี้เธอหิวแทบจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่เวลานี้เธออยากจะเอาข้าวจานนี้ไปแลกกับ

คูปองเงินสดกลับคืนมาเหลือเกิน

‘กินสักหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวเป็นลม เป็นแร้งขึ้นมาจะต้องเสียเงินกับค่ายา ค่า

หมออีก’ เธอบอกกับตัวเองหลังจากที่ตักข้าวคำแรกเข้าปากอย่างซังกะตาย ว่าไป...รส

ชาติมันก็ใช้ได้เหมือนกัน อร่อย!!!

“จุ๊บแจง ดีใจด้วยนะจ๊ะสำหรับข่าวดี” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ดังขึ้น

อย่างไม่เกรงใจใคร หญิงสาวปรายตามองแวบหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจกับข้าวผัดตรง

หน้า

“เรื่องอะไรจ๊ะ” ผู้หญิงที่มีรูปร่างเพรียวบางนั้นย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงมี

ความสุขจนเธอรู้สึกได้ ออมทองมองไปยังโต๊ะข้างๆ นั้นอีกครั้ง

“ก็ตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์ไงจ๊ะ เห็นมั้ยฉันบอกว่าแล้วว่าปีนี้เธอต้องได้เลื่อน

ตำแหน่งอย่างแน่นอน” ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้นมา “อย่างนี้ต้องเลี้ยงโต๊ะใหญ่แล้วล่ะ”

“ได้สิจ๊ะ อยากกินอะไรบอกมาได้เลย” จุ๊บแจงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สดใส

ออมทองนั่งกำช้อนแน่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว เธอตัดสินใจรวบช้อนแล้ว

ลุกขึ้นหยิบขวดน้ำพร้อมกับกระเป๋าถือเดินไปยังโต๊ะมุมห้องที่ไม่มีใครนั่งเพราะบริเวณ

นั้นอยู่ค่อนข้างห่างกับเคาน์เตอร์อาหารและเป็นมุมที่มีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามา

มากที่สุด

ออมทองทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรง ดวงหน้าเรียวสวยนั้นบูดบึ้งอย่างไม่

สบอารมณ์ เวลาบ่ายๆ อย่างนี้เธอควรจะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ แต่นี่อะไร...เธอกลับ

ต้องมานั่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนมากมาย ความจริงแล้วเธอต้องการนั่งอยู่ในที่

เงียบๆ ใช้ความคิดเพียงลำพัง แต่ทว่า...เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน จะไปนั่งคนเดียวในสวน

สาธารณะเธอก็กลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ยิ่งมีข่าวทำร้ายร่างกายกันอย่างไม่

เกรงกลัวกฎหมายก็ยิ่งทำให้เธอต้องระวังตัวมากขึ้น

“เฮ้อ” เธอถอนหายใจก่อนจะหันซ้ายหันขวา “ข้าวผัดฉันอยู่ไหนเนี่ย” เธอเอ่ย

ขึ้นมาก่อนจะหันกลับไปยังโต๊ะเดิม ซึ่งพนักงานทำความสะอาดกำลังจะเทข้าวผัดของ

เธอใส่ถุงดำ ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างขึ้น

“อย๊า” เธอตะโกนอย่างสุดเสียงจนทุกคนหันมามองเธอย่างตกใจ “ข้าวผัดของ

ฉ๊าน” เธอบอกแล้วรีบเดินไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจว่าสะโพกผายนั้นจะชนโต๊ะ ชน

เก้าอี้แรงขนาดไหน เธอหยิบจานข้าวในมือพนักงานพลางยิ้มแหยๆ “ฉันยังไม่อิ่มเลย

ค่ะ”

“ขอโทษนะคะ เห็นวางไว้บนโต๊ะ นึกว่าไม่มีเจ้าของแล้ว” พนักงานตอบกลับมา

อย่างสุภาพ เธอยิ้มอีกครั้งก่อนจะก้มหน้า ก้มตาเดินกลับไปนั่งมุมห้องอย่างสงบ

เสงี่ยม โดยที่ได้ยินเสียงหัวเราะและนินทาอยู่ด้านหลัง เวลานี้เธออายจนแทบจะแทรก

แผ่นดินหนีอยู่แล้ว ไม่ไหว....เธอนี่ก๊งจริงๆ ลืมจานข้าวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะกินอะไร

ไม่ลงแต่มันก็คือเงินที่เธอเสียไป เงินซึ่งเวลานี้เธอต้องประหยัดในการใช้จ่ายให้ได้

มากที่สุด เธอหยิบซองจดหมายในกระเป๋าถือออกมาก่อนจะคลี่ออกอย่างช้าๆ พลาง

กวาดสายตาอ่านอย่างตั้งใจอีกครั้ง

‘เนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้มีผลกระทบต่อบริษัทเป็น

อย่างมาก ดังนั้นบริษัทจำเป็นจะต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อให้บริษัทนั้นสามารถ

ดำเนินการต่อไปได้........’

“บริษัทย่ำแย่ แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยเนี่ย ทำไมไม่เป็นคนอื่น” เธอพึมพำ

อย่างฉุนเฉียวพลางขยำจดหมายนั้นไว้ในกระเป๋าถือดั่งเดิม แล้วนับจากนี้ไปเธอจะทำ

อย่างไร เงินก้อนที่ได้มานั้นจะอยู่ได้สักกี่เดือน เงินว่างงานจากประกันสังคมที่รัฐบาล

ให้อีกหกเดือนจะเป็นเงินสักเท่าไหร่เชียว แล้วงานก็หายากเหลือเกิน ไหนจะค่าเช่า

ห้อง ไหนจะค่ากิน ไหนจะต้องส่งให้พ่อกับแม่อีก สารพัดปัญหาที่ไม่พ้นเรื่องค่าใช้จ่าย

ทั้งนั้น นั่นเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในสมองเวลานี้

“ใจเย็นๆ ออมทอง ค่อยๆ คิด” เธอบอกกับตัวเองก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมา

เฮือกใหญ่ “เฮ้อ...สมองสับสนขนาดนี้จะคิดอะไรได้เนี่ย” หญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะ

เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผมยาวสลวยเหยียดตรงที่ถูกรวบเป็นหางม้าส่ายไปมายามเจ้า

ของไม่ได้อยู่นิ่งเฉย เธอปัดเส้นผมที่ระตามใบหน้าก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมองจานข้าว

ที่เหลือมากกว่าครึ่ง แม้ว่าเธอจะหิวแสนหิว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอในบริษัททำ

ให้เธอเธอกินอะไรไม่ลง เธอตัดใจจากข้าวผัดตรงหน้าแล้วนำคูปองที่เหลือไปแลกเงิน

สดคืน

ออมทองมองลงมาชั้นล่างขณะที่ลงบันไดเลื่อน เสียงหญิงสาวที่พูดผ่าน

ไมโครโฟนนั้นค่อนข้างดัง เรียกร้องให้ผู้คนบนชั้นต่างๆ มองลงไปข้างล่างอย่างสนใจ

ด้านล่างนั้นมีบูธไม่ต่ำกว่าสิบบูธจัดเป็นแถวอย่างมีระเบียบ ซึ่งมีคนให้ความสนใจกับ

กิจกรรมต่างๆ ที่แต่ละบูธนั้นนำเสนอนั้นเยอะกว่าปกติทั้งที่วันนี้เป็นวันทำงาน ว่าแต่ว่า

...เป็นงานอะไร ราวกับจะรู้ว่าเธอต้องการคำตอบ ป้ายงานนั้นอยู่ตรงหน้าเธอพอดีเมื่อ

เธอลงมาถึงพื้น

‘เที่ยวเมืองไทย ราคาประหยัด ครั้งที่ 1’

เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ โดยรวมแล้วเป็นบูธออกงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว

ภายในประเทศ โดยเน้นราคาไม่แพง เหมาะกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน

“เชิญค่ะ เที่ยวทั่วไทยในราคาประหยัดค่ะ ถูกแสนถูก” พริตตี้สาวสวยบอกด้วย

น้ำเสียงสดใส ใบหน้าสวยงามยิ้มแย้มอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

หญิงสาวมองผู้คนที่เบียดเสียด แย่งกันจองที่พักพร้อมกับส่ายหน้า ทำไมจะต้อง

แย่งกันขนาดนี้ เธอถอนหายใจก่อนจะเดินผ่านไปโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งยื่นแผ่นพับให้ซึ่ง

เธอรับมาโดยอัตโนมัติ

“ฟ้าครามรีสอร์ทค่ะ เป็นรีสอร์ทใหม่บนเกาะส่วนตัว” เธอบอกพร้อมกับยิ้ม

อย่างอบอุ่น “ยินดีต้อนรับนะคะ”

“ค่ะ” ออมทองพยักหน้า เดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก เวลาอย่างนี้ใคร

จะมีอารมณ์ไปเที่ยว มีแต่เรื่องเสียเงิน เธอคิดในใจอย่างหงุดหงิด

“น้ำใส ทะเลสวย ปะการังงดงาม หาดทรายขาวสะอาด คุณสามารถพบสิ่งเหล่านี้

ได้ที่ ฟ้าครามรีสอร์ท” คำเชิญชวนท่องเที่ยวที่ปรากฏบนแผ่นพับนั้นทำให้ริมฝีปากบาง

นั้นเหยียดยิ้ม ว่าไปแล้ว...ภาพที่หญิงสาวเห็นนั้นมันสวยเกินความเป็นจริง ทะเลสวย

ขนาดนี้มีอยู่ในประเทศไทยด้วยเหรอ…

“โฟโต้ชอปแหงๆ” เธอพึมพำก่อนจะทิ้งแผ่นพับลงถังขยะ “กลับห้องก่อนดีกว่า

เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเองก่อน

จะรวบกระเป๋าถือมาไว้ในมือแล้วเดินออกไป แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอหยุดชะงัก

...ออมทองหันกลับไปมองถังขยะอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาหยิบแผ่นพับนั้นใส่กระเป๋า

แล้วก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

*******************************

มิตรร๊าก...แควนคลับ...

มาแว๊วววว หลังจากที่หายหัวไปนานแสนนาน เป็นเรื่องที่แต่งค้างไว้จากเวปเก่าอ่ะ

ผู้แต่งนำมาลงอีกครั้ง คาดว่าคนอ่านอาจจะลืมเนื้อเรื่องไปหมดแว๊ววว 555 ตอนนี้ผู้

แต่งกำลังปั่นเรื่องนี้ให้จบไวๆ เพราะไม่อย่างนั้น บก.ขาวอวบอาจจะตื้บผู้แต่งตายแน่

หุ หุ หุ




แมกไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มิ.ย. 2554, 10:34:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มิ.ย. 2554, 10:34:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 3533





   ตอน 1 >>
XaWarZd 14 มิ.ย. 2554, 10:48:10 น.
เอาใจช่วยนะ


เอ 14 มิ.ย. 2554, 10:57:38 น.
เย้ เย้ พี่ไม้มาแปะนิยายแล้ว


saralun 14 มิ.ย. 2554, 10:59:32 น.
เป็นกำลังใจให้ค่าา


ตุ๊งแช่ 14 มิ.ย. 2554, 11:04:56 น.
ย่องมาอีกแล้วพี่ไม้ๆๆๆๆ ขอต่อเนื่องเน้อ


ปอยอะนะ 14 มิ.ย. 2554, 11:15:28 น.
ลักษณะหนูออมทองทำไมเหมือนคนแต่งจัง
สงสัยจริงเล๊ย


อาเช็ง 14 มิ.ย. 2554, 11:33:22 น.
หายไปนาน กลับมาแล้วดีใจจัง


รัชต์ 14 มิ.ย. 2554, 13:30:28 น.
ขอคิดก่อนว่าจะเชื่อดีปะ เจ้าของเรื่องไม่น่าไว้ใจ น่าเป็นห่วง


lovely 14 มิ.ย. 2554, 14:07:43 น.
ลอยคอ(รอคอย)มานานแสนนาน ^^


หมูอ้วน 14 มิ.ย. 2554, 14:20:05 น.
เปิดมานางเอกก็เศร้าเลย สู้ ๆ นะหนูออมทอง
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ


ปูสีน้ำเงิน 14 มิ.ย. 2554, 14:38:53 น.
จำได้ว่าเคยลงแล้วใช่ป่ะ แต่รู้สึกว่าจะลงไม่จบนะ
ใช่ไหม๊


แมกไม้ 14 มิ.ย. 2554, 17:38:20 น.
^
^
ใช่แล้วจ้า...แต่ลงให้ใหม่อีกรอบเพราะเกรงว่าจะลืมเลือนกันไปแล้วอ่ะ แต่รอบนี้สัญญาว่าจะลงให้จบ หุ หุ หุ


ทราย 14 มิ.ย. 2554, 18:05:19 น.
ได้อ่านต่อแล้ววว ^_________^


whitelotus 14 มิ.ย. 2554, 18:17:32 น.
เย้ มาแล้วๆ


namzuza 14 มิ.ย. 2554, 19:33:05 น.
โอ๊ย หายไปนานมาก ๆเลยค่ะ คุณแมกค่า คิดถึงหนูออมทองมากมาก


คิมหันตุ์ 14 มิ.ย. 2554, 21:16:38 น.
ยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ


SaiParn 14 มิ.ย. 2554, 21:56:16 น.
เอาใจช่วยจ้า รออ่านน๊า


smallman 14 มิ.ย. 2554, 23:43:21 น.
รออ่านอย่างใจจรดใจจ่อคร้าาา


เพียงพลอย 16 มิ.ย. 2554, 22:49:48 น.
ลงชื่อรอเป็นกำลังใจค่า


whitecat 21 ก.ค. 2554, 18:01:13 น.
มารออ่านค่ะ สู้ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account