หัวใจ...error
ฟ้าคราม ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักนั้นคืนกลับมา เขาพยายามที่จะยื้อยุดความรักไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ ทว่า...เมื่อออมทองได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขา ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากคนนี้ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเขานั้นเปลี่ยนไป...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทนำ
เสียงหัวเราะอย่างขบขันบวกกับเสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ที่จับใจความไม่ได้นั้นดังอยู่รอบกาย
หญิงสาววัยยี่สิบสามปีที่นั่งอยู่หน้าร้านส้มตำในฟู๊ดคอร์ทของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ในกรุงเทพฯ เธอกวาดสายตามองผู้คนรอบข้างด้วยความเบื่อหน่าย ดวงตากลมโต
ละม้ายตากวางแพขนตาหนางอนยาว จมูกที่โด่งเป็นสันรับริมฝีปากอิ่มแดงรูปกระจับ
เธอเม้มปากแน่น มองจานข้าวผัดที่โปะไข่ดาวตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกหิวทั้งๆ ที่ก่อนหน้า
นี้เธอหิวแทบจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่เวลานี้เธออยากจะเอาข้าวจานนี้ไปแลกกับ
คูปองเงินสดกลับคืนมาเหลือเกิน
‘กินสักหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวเป็นลม เป็นแร้งขึ้นมาจะต้องเสียเงินกับค่ายา ค่า
หมออีก’ เธอบอกกับตัวเองหลังจากที่ตักข้าวคำแรกเข้าปากอย่างซังกะตาย ว่าไป...รส
ชาติมันก็ใช้ได้เหมือนกัน อร่อย!!!
“จุ๊บแจง ดีใจด้วยนะจ๊ะสำหรับข่าวดี” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ดังขึ้น
อย่างไม่เกรงใจใคร หญิงสาวปรายตามองแวบหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจกับข้าวผัดตรง
หน้า
“เรื่องอะไรจ๊ะ” ผู้หญิงที่มีรูปร่างเพรียวบางนั้นย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงมี
ความสุขจนเธอรู้สึกได้ ออมทองมองไปยังโต๊ะข้างๆ นั้นอีกครั้ง
“ก็ตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์ไงจ๊ะ เห็นมั้ยฉันบอกว่าแล้วว่าปีนี้เธอต้องได้เลื่อน
ตำแหน่งอย่างแน่นอน” ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้นมา “อย่างนี้ต้องเลี้ยงโต๊ะใหญ่แล้วล่ะ”
“ได้สิจ๊ะ อยากกินอะไรบอกมาได้เลย” จุ๊บแจงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สดใส
ออมทองนั่งกำช้อนแน่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว เธอตัดสินใจรวบช้อนแล้ว
ลุกขึ้นหยิบขวดน้ำพร้อมกับกระเป๋าถือเดินไปยังโต๊ะมุมห้องที่ไม่มีใครนั่งเพราะบริเวณ
นั้นอยู่ค่อนข้างห่างกับเคาน์เตอร์อาหารและเป็นมุมที่มีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามา
มากที่สุด
ออมทองทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรง ดวงหน้าเรียวสวยนั้นบูดบึ้งอย่างไม่
สบอารมณ์ เวลาบ่ายๆ อย่างนี้เธอควรจะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ แต่นี่อะไร...เธอกลับ
ต้องมานั่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนมากมาย ความจริงแล้วเธอต้องการนั่งอยู่ในที่
เงียบๆ ใช้ความคิดเพียงลำพัง แต่ทว่า...เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน จะไปนั่งคนเดียวในสวน
สาธารณะเธอก็กลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ยิ่งมีข่าวทำร้ายร่างกายกันอย่างไม่
เกรงกลัวกฎหมายก็ยิ่งทำให้เธอต้องระวังตัวมากขึ้น
“เฮ้อ” เธอถอนหายใจก่อนจะหันซ้ายหันขวา “ข้าวผัดฉันอยู่ไหนเนี่ย” เธอเอ่ย
ขึ้นมาก่อนจะหันกลับไปยังโต๊ะเดิม ซึ่งพนักงานทำความสะอาดกำลังจะเทข้าวผัดของ
เธอใส่ถุงดำ ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างขึ้น
“อย๊า” เธอตะโกนอย่างสุดเสียงจนทุกคนหันมามองเธอย่างตกใจ “ข้าวผัดของ
ฉ๊าน” เธอบอกแล้วรีบเดินไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจว่าสะโพกผายนั้นจะชนโต๊ะ ชน
เก้าอี้แรงขนาดไหน เธอหยิบจานข้าวในมือพนักงานพลางยิ้มแหยๆ “ฉันยังไม่อิ่มเลย
ค่ะ”
“ขอโทษนะคะ เห็นวางไว้บนโต๊ะ นึกว่าไม่มีเจ้าของแล้ว” พนักงานตอบกลับมา
อย่างสุภาพ เธอยิ้มอีกครั้งก่อนจะก้มหน้า ก้มตาเดินกลับไปนั่งมุมห้องอย่างสงบ
เสงี่ยม โดยที่ได้ยินเสียงหัวเราะและนินทาอยู่ด้านหลัง เวลานี้เธออายจนแทบจะแทรก
แผ่นดินหนีอยู่แล้ว ไม่ไหว....เธอนี่ก๊งจริงๆ ลืมจานข้าวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะกินอะไร
ไม่ลงแต่มันก็คือเงินที่เธอเสียไป เงินซึ่งเวลานี้เธอต้องประหยัดในการใช้จ่ายให้ได้
มากที่สุด เธอหยิบซองจดหมายในกระเป๋าถือออกมาก่อนจะคลี่ออกอย่างช้าๆ พลาง
กวาดสายตาอ่านอย่างตั้งใจอีกครั้ง
‘เนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้มีผลกระทบต่อบริษัทเป็น
อย่างมาก ดังนั้นบริษัทจำเป็นจะต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อให้บริษัทนั้นสามารถ
ดำเนินการต่อไปได้........’
“บริษัทย่ำแย่ แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยเนี่ย ทำไมไม่เป็นคนอื่น” เธอพึมพำ
อย่างฉุนเฉียวพลางขยำจดหมายนั้นไว้ในกระเป๋าถือดั่งเดิม แล้วนับจากนี้ไปเธอจะทำ
อย่างไร เงินก้อนที่ได้มานั้นจะอยู่ได้สักกี่เดือน เงินว่างงานจากประกันสังคมที่รัฐบาล
ให้อีกหกเดือนจะเป็นเงินสักเท่าไหร่เชียว แล้วงานก็หายากเหลือเกิน ไหนจะค่าเช่า
ห้อง ไหนจะค่ากิน ไหนจะต้องส่งให้พ่อกับแม่อีก สารพัดปัญหาที่ไม่พ้นเรื่องค่าใช้จ่าย
ทั้งนั้น นั่นเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในสมองเวลานี้
“ใจเย็นๆ ออมทอง ค่อยๆ คิด” เธอบอกกับตัวเองก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมา
เฮือกใหญ่ “เฮ้อ...สมองสับสนขนาดนี้จะคิดอะไรได้เนี่ย” หญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะ
เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผมยาวสลวยเหยียดตรงที่ถูกรวบเป็นหางม้าส่ายไปมายามเจ้า
ของไม่ได้อยู่นิ่งเฉย เธอปัดเส้นผมที่ระตามใบหน้าก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมองจานข้าว
ที่เหลือมากกว่าครึ่ง แม้ว่าเธอจะหิวแสนหิว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอในบริษัททำ
ให้เธอเธอกินอะไรไม่ลง เธอตัดใจจากข้าวผัดตรงหน้าแล้วนำคูปองที่เหลือไปแลกเงิน
สดคืน
ออมทองมองลงมาชั้นล่างขณะที่ลงบันไดเลื่อน เสียงหญิงสาวที่พูดผ่าน
ไมโครโฟนนั้นค่อนข้างดัง เรียกร้องให้ผู้คนบนชั้นต่างๆ มองลงไปข้างล่างอย่างสนใจ
ด้านล่างนั้นมีบูธไม่ต่ำกว่าสิบบูธจัดเป็นแถวอย่างมีระเบียบ ซึ่งมีคนให้ความสนใจกับ
กิจกรรมต่างๆ ที่แต่ละบูธนั้นนำเสนอนั้นเยอะกว่าปกติทั้งที่วันนี้เป็นวันทำงาน ว่าแต่ว่า
...เป็นงานอะไร ราวกับจะรู้ว่าเธอต้องการคำตอบ ป้ายงานนั้นอยู่ตรงหน้าเธอพอดีเมื่อ
เธอลงมาถึงพื้น
‘เที่ยวเมืองไทย ราคาประหยัด ครั้งที่ 1’
เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ โดยรวมแล้วเป็นบูธออกงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ภายในประเทศ โดยเน้นราคาไม่แพง เหมาะกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“เชิญค่ะ เที่ยวทั่วไทยในราคาประหยัดค่ะ ถูกแสนถูก” พริตตี้สาวสวยบอกด้วย
น้ำเสียงสดใส ใบหน้าสวยงามยิ้มแย้มอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
หญิงสาวมองผู้คนที่เบียดเสียด แย่งกันจองที่พักพร้อมกับส่ายหน้า ทำไมจะต้อง
แย่งกันขนาดนี้ เธอถอนหายใจก่อนจะเดินผ่านไปโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งยื่นแผ่นพับให้ซึ่ง
เธอรับมาโดยอัตโนมัติ
“ฟ้าครามรีสอร์ทค่ะ เป็นรีสอร์ทใหม่บนเกาะส่วนตัว” เธอบอกพร้อมกับยิ้ม
อย่างอบอุ่น “ยินดีต้อนรับนะคะ”
“ค่ะ” ออมทองพยักหน้า เดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก เวลาอย่างนี้ใคร
จะมีอารมณ์ไปเที่ยว มีแต่เรื่องเสียเงิน เธอคิดในใจอย่างหงุดหงิด
“น้ำใส ทะเลสวย ปะการังงดงาม หาดทรายขาวสะอาด คุณสามารถพบสิ่งเหล่านี้
ได้ที่ ฟ้าครามรีสอร์ท” คำเชิญชวนท่องเที่ยวที่ปรากฏบนแผ่นพับนั้นทำให้ริมฝีปากบาง
นั้นเหยียดยิ้ม ว่าไปแล้ว...ภาพที่หญิงสาวเห็นนั้นมันสวยเกินความเป็นจริง ทะเลสวย
ขนาดนี้มีอยู่ในประเทศไทยด้วยเหรอ…
“โฟโต้ชอปแหงๆ” เธอพึมพำก่อนจะทิ้งแผ่นพับลงถังขยะ “กลับห้องก่อนดีกว่า
เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเองก่อน
จะรวบกระเป๋าถือมาไว้ในมือแล้วเดินออกไป แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอหยุดชะงัก
...ออมทองหันกลับไปมองถังขยะอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาหยิบแผ่นพับนั้นใส่กระเป๋า
แล้วก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
*******************************
มิตรร๊าก...แควนคลับ...
มาแว๊วววว หลังจากที่หายหัวไปนานแสนนาน เป็นเรื่องที่แต่งค้างไว้จากเวปเก่าอ่ะ
ผู้แต่งนำมาลงอีกครั้ง คาดว่าคนอ่านอาจจะลืมเนื้อเรื่องไปหมดแว๊ววว 555 ตอนนี้ผู้
แต่งกำลังปั่นเรื่องนี้ให้จบไวๆ เพราะไม่อย่างนั้น บก.ขาวอวบอาจจะตื้บผู้แต่งตายแน่
หุ หุ หุ
หญิงสาววัยยี่สิบสามปีที่นั่งอยู่หน้าร้านส้มตำในฟู๊ดคอร์ทของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ในกรุงเทพฯ เธอกวาดสายตามองผู้คนรอบข้างด้วยความเบื่อหน่าย ดวงตากลมโต
ละม้ายตากวางแพขนตาหนางอนยาว จมูกที่โด่งเป็นสันรับริมฝีปากอิ่มแดงรูปกระจับ
เธอเม้มปากแน่น มองจานข้าวผัดที่โปะไข่ดาวตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกหิวทั้งๆ ที่ก่อนหน้า
นี้เธอหิวแทบจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่เวลานี้เธออยากจะเอาข้าวจานนี้ไปแลกกับ
คูปองเงินสดกลับคืนมาเหลือเกิน
‘กินสักหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวเป็นลม เป็นแร้งขึ้นมาจะต้องเสียเงินกับค่ายา ค่า
หมออีก’ เธอบอกกับตัวเองหลังจากที่ตักข้าวคำแรกเข้าปากอย่างซังกะตาย ว่าไป...รส
ชาติมันก็ใช้ได้เหมือนกัน อร่อย!!!
“จุ๊บแจง ดีใจด้วยนะจ๊ะสำหรับข่าวดี” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ดังขึ้น
อย่างไม่เกรงใจใคร หญิงสาวปรายตามองแวบหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจกับข้าวผัดตรง
หน้า
“เรื่องอะไรจ๊ะ” ผู้หญิงที่มีรูปร่างเพรียวบางนั้นย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงมี
ความสุขจนเธอรู้สึกได้ ออมทองมองไปยังโต๊ะข้างๆ นั้นอีกครั้ง
“ก็ตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์ไงจ๊ะ เห็นมั้ยฉันบอกว่าแล้วว่าปีนี้เธอต้องได้เลื่อน
ตำแหน่งอย่างแน่นอน” ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้นมา “อย่างนี้ต้องเลี้ยงโต๊ะใหญ่แล้วล่ะ”
“ได้สิจ๊ะ อยากกินอะไรบอกมาได้เลย” จุ๊บแจงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สดใส
ออมทองนั่งกำช้อนแน่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว เธอตัดสินใจรวบช้อนแล้ว
ลุกขึ้นหยิบขวดน้ำพร้อมกับกระเป๋าถือเดินไปยังโต๊ะมุมห้องที่ไม่มีใครนั่งเพราะบริเวณ
นั้นอยู่ค่อนข้างห่างกับเคาน์เตอร์อาหารและเป็นมุมที่มีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามา
มากที่สุด
ออมทองทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรง ดวงหน้าเรียวสวยนั้นบูดบึ้งอย่างไม่
สบอารมณ์ เวลาบ่ายๆ อย่างนี้เธอควรจะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ แต่นี่อะไร...เธอกลับ
ต้องมานั่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนมากมาย ความจริงแล้วเธอต้องการนั่งอยู่ในที่
เงียบๆ ใช้ความคิดเพียงลำพัง แต่ทว่า...เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน จะไปนั่งคนเดียวในสวน
สาธารณะเธอก็กลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ยิ่งมีข่าวทำร้ายร่างกายกันอย่างไม่
เกรงกลัวกฎหมายก็ยิ่งทำให้เธอต้องระวังตัวมากขึ้น
“เฮ้อ” เธอถอนหายใจก่อนจะหันซ้ายหันขวา “ข้าวผัดฉันอยู่ไหนเนี่ย” เธอเอ่ย
ขึ้นมาก่อนจะหันกลับไปยังโต๊ะเดิม ซึ่งพนักงานทำความสะอาดกำลังจะเทข้าวผัดของ
เธอใส่ถุงดำ ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างขึ้น
“อย๊า” เธอตะโกนอย่างสุดเสียงจนทุกคนหันมามองเธอย่างตกใจ “ข้าวผัดของ
ฉ๊าน” เธอบอกแล้วรีบเดินไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจว่าสะโพกผายนั้นจะชนโต๊ะ ชน
เก้าอี้แรงขนาดไหน เธอหยิบจานข้าวในมือพนักงานพลางยิ้มแหยๆ “ฉันยังไม่อิ่มเลย
ค่ะ”
“ขอโทษนะคะ เห็นวางไว้บนโต๊ะ นึกว่าไม่มีเจ้าของแล้ว” พนักงานตอบกลับมา
อย่างสุภาพ เธอยิ้มอีกครั้งก่อนจะก้มหน้า ก้มตาเดินกลับไปนั่งมุมห้องอย่างสงบ
เสงี่ยม โดยที่ได้ยินเสียงหัวเราะและนินทาอยู่ด้านหลัง เวลานี้เธออายจนแทบจะแทรก
แผ่นดินหนีอยู่แล้ว ไม่ไหว....เธอนี่ก๊งจริงๆ ลืมจานข้าวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะกินอะไร
ไม่ลงแต่มันก็คือเงินที่เธอเสียไป เงินซึ่งเวลานี้เธอต้องประหยัดในการใช้จ่ายให้ได้
มากที่สุด เธอหยิบซองจดหมายในกระเป๋าถือออกมาก่อนจะคลี่ออกอย่างช้าๆ พลาง
กวาดสายตาอ่านอย่างตั้งใจอีกครั้ง
‘เนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้มีผลกระทบต่อบริษัทเป็น
อย่างมาก ดังนั้นบริษัทจำเป็นจะต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อให้บริษัทนั้นสามารถ
ดำเนินการต่อไปได้........’
“บริษัทย่ำแย่ แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยเนี่ย ทำไมไม่เป็นคนอื่น” เธอพึมพำ
อย่างฉุนเฉียวพลางขยำจดหมายนั้นไว้ในกระเป๋าถือดั่งเดิม แล้วนับจากนี้ไปเธอจะทำ
อย่างไร เงินก้อนที่ได้มานั้นจะอยู่ได้สักกี่เดือน เงินว่างงานจากประกันสังคมที่รัฐบาล
ให้อีกหกเดือนจะเป็นเงินสักเท่าไหร่เชียว แล้วงานก็หายากเหลือเกิน ไหนจะค่าเช่า
ห้อง ไหนจะค่ากิน ไหนจะต้องส่งให้พ่อกับแม่อีก สารพัดปัญหาที่ไม่พ้นเรื่องค่าใช้จ่าย
ทั้งนั้น นั่นเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในสมองเวลานี้
“ใจเย็นๆ ออมทอง ค่อยๆ คิด” เธอบอกกับตัวเองก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมา
เฮือกใหญ่ “เฮ้อ...สมองสับสนขนาดนี้จะคิดอะไรได้เนี่ย” หญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะ
เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผมยาวสลวยเหยียดตรงที่ถูกรวบเป็นหางม้าส่ายไปมายามเจ้า
ของไม่ได้อยู่นิ่งเฉย เธอปัดเส้นผมที่ระตามใบหน้าก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมองจานข้าว
ที่เหลือมากกว่าครึ่ง แม้ว่าเธอจะหิวแสนหิว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอในบริษัททำ
ให้เธอเธอกินอะไรไม่ลง เธอตัดใจจากข้าวผัดตรงหน้าแล้วนำคูปองที่เหลือไปแลกเงิน
สดคืน
ออมทองมองลงมาชั้นล่างขณะที่ลงบันไดเลื่อน เสียงหญิงสาวที่พูดผ่าน
ไมโครโฟนนั้นค่อนข้างดัง เรียกร้องให้ผู้คนบนชั้นต่างๆ มองลงไปข้างล่างอย่างสนใจ
ด้านล่างนั้นมีบูธไม่ต่ำกว่าสิบบูธจัดเป็นแถวอย่างมีระเบียบ ซึ่งมีคนให้ความสนใจกับ
กิจกรรมต่างๆ ที่แต่ละบูธนั้นนำเสนอนั้นเยอะกว่าปกติทั้งที่วันนี้เป็นวันทำงาน ว่าแต่ว่า
...เป็นงานอะไร ราวกับจะรู้ว่าเธอต้องการคำตอบ ป้ายงานนั้นอยู่ตรงหน้าเธอพอดีเมื่อ
เธอลงมาถึงพื้น
‘เที่ยวเมืองไทย ราคาประหยัด ครั้งที่ 1’
เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ โดยรวมแล้วเป็นบูธออกงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ภายในประเทศ โดยเน้นราคาไม่แพง เหมาะกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“เชิญค่ะ เที่ยวทั่วไทยในราคาประหยัดค่ะ ถูกแสนถูก” พริตตี้สาวสวยบอกด้วย
น้ำเสียงสดใส ใบหน้าสวยงามยิ้มแย้มอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
หญิงสาวมองผู้คนที่เบียดเสียด แย่งกันจองที่พักพร้อมกับส่ายหน้า ทำไมจะต้อง
แย่งกันขนาดนี้ เธอถอนหายใจก่อนจะเดินผ่านไปโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งยื่นแผ่นพับให้ซึ่ง
เธอรับมาโดยอัตโนมัติ
“ฟ้าครามรีสอร์ทค่ะ เป็นรีสอร์ทใหม่บนเกาะส่วนตัว” เธอบอกพร้อมกับยิ้ม
อย่างอบอุ่น “ยินดีต้อนรับนะคะ”
“ค่ะ” ออมทองพยักหน้า เดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก เวลาอย่างนี้ใคร
จะมีอารมณ์ไปเที่ยว มีแต่เรื่องเสียเงิน เธอคิดในใจอย่างหงุดหงิด
“น้ำใส ทะเลสวย ปะการังงดงาม หาดทรายขาวสะอาด คุณสามารถพบสิ่งเหล่านี้
ได้ที่ ฟ้าครามรีสอร์ท” คำเชิญชวนท่องเที่ยวที่ปรากฏบนแผ่นพับนั้นทำให้ริมฝีปากบาง
นั้นเหยียดยิ้ม ว่าไปแล้ว...ภาพที่หญิงสาวเห็นนั้นมันสวยเกินความเป็นจริง ทะเลสวย
ขนาดนี้มีอยู่ในประเทศไทยด้วยเหรอ…
“โฟโต้ชอปแหงๆ” เธอพึมพำก่อนจะทิ้งแผ่นพับลงถังขยะ “กลับห้องก่อนดีกว่า
เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเองก่อน
จะรวบกระเป๋าถือมาไว้ในมือแล้วเดินออกไป แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอหยุดชะงัก
...ออมทองหันกลับไปมองถังขยะอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาหยิบแผ่นพับนั้นใส่กระเป๋า
แล้วก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
*******************************
มิตรร๊าก...แควนคลับ...
มาแว๊วววว หลังจากที่หายหัวไปนานแสนนาน เป็นเรื่องที่แต่งค้างไว้จากเวปเก่าอ่ะ
ผู้แต่งนำมาลงอีกครั้ง คาดว่าคนอ่านอาจจะลืมเนื้อเรื่องไปหมดแว๊ววว 555 ตอนนี้ผู้
แต่งกำลังปั่นเรื่องนี้ให้จบไวๆ เพราะไม่อย่างนั้น บก.ขาวอวบอาจจะตื้บผู้แต่งตายแน่
หุ หุ หุ
![](/images/icons/490.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มิ.ย. 2554, 10:34:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มิ.ย. 2554, 10:34:37 น.
จำนวนการเข้าชม : 3632
ตอน 1 >> |
![](/images/icons/guest.jpg)
XaWarZd 14 มิ.ย. 2554, 10:48:10 น.
เอาใจช่วยนะ
เอาใจช่วยนะ
![](/images/icons/guest.jpg)
เอ 14 มิ.ย. 2554, 10:57:38 น.
เย้ เย้ พี่ไม้มาแปะนิยายแล้ว
เย้ เย้ พี่ไม้มาแปะนิยายแล้ว
![](/images/icons/1134.jpg)
saralun 14 มิ.ย. 2554, 10:59:32 น.
เป็นกำลังใจให้ค่าา
เป็นกำลังใจให้ค่าา
![](/images/icons/221.jpg)
ตุ๊งแช่ 14 มิ.ย. 2554, 11:04:56 น.
ย่องมาอีกแล้วพี่ไม้ๆๆๆๆ ขอต่อเนื่องเน้อ
ย่องมาอีกแล้วพี่ไม้ๆๆๆๆ ขอต่อเนื่องเน้อ
![](/images/icons/guest.jpg)
![](/images/icons/guest.jpg)
อาเช็ง 14 มิ.ย. 2554, 11:33:22 น.
หายไปนาน กลับมาแล้วดีใจจัง
หายไปนาน กลับมาแล้วดีใจจัง
![](/images/icons/guest.jpg)
รัชต์ 14 มิ.ย. 2554, 13:30:28 น.
ขอคิดก่อนว่าจะเชื่อดีปะ เจ้าของเรื่องไม่น่าไว้ใจ น่าเป็นห่วง
ขอคิดก่อนว่าจะเชื่อดีปะ เจ้าของเรื่องไม่น่าไว้ใจ น่าเป็นห่วง
![](/images/icons/guest.jpg)
lovely 14 มิ.ย. 2554, 14:07:43 น.
ลอยคอ(รอคอย)มานานแสนนาน ^^
ลอยคอ(รอคอย)มานานแสนนาน ^^
![](/images/icons/756.jpg)
![](/images/icons/guest.jpg)
![](/images/icons/490.jpg)
แมกไม้ 14 มิ.ย. 2554, 17:38:20 น.
^
^
ใช่แล้วจ้า...แต่ลงให้ใหม่อีกรอบเพราะเกรงว่าจะลืมเลือนกันไปแล้วอ่ะ แต่รอบนี้สัญญาว่าจะลงให้จบ หุ หุ หุ
^
^
ใช่แล้วจ้า...แต่ลงให้ใหม่อีกรอบเพราะเกรงว่าจะลืมเลือนกันไปแล้วอ่ะ แต่รอบนี้สัญญาว่าจะลงให้จบ หุ หุ หุ
![](/images/icons/guest.jpg)
ทราย 14 มิ.ย. 2554, 18:05:19 น.
ได้อ่านต่อแล้ววว ^_________^
ได้อ่านต่อแล้ววว ^_________^
![](/images/icons/guest.jpg)
whitelotus 14 มิ.ย. 2554, 18:17:32 น.
เย้ มาแล้วๆ
เย้ มาแล้วๆ
![](/images/icons/guest.jpg)
namzuza 14 มิ.ย. 2554, 19:33:05 น.
โอ๊ย หายไปนานมาก ๆเลยค่ะ คุณแมกค่า คิดถึงหนูออมทองมากมาก
โอ๊ย หายไปนานมาก ๆเลยค่ะ คุณแมกค่า คิดถึงหนูออมทองมากมาก
![](/images/icons/guest.jpg)
![](/images/icons/914.jpg)
SaiParn 14 มิ.ย. 2554, 21:56:16 น.
เอาใจช่วยจ้า รออ่านน๊า
เอาใจช่วยจ้า รออ่านน๊า
![](/images/icons/guest.jpg)
smallman 14 มิ.ย. 2554, 23:43:21 น.
รออ่านอย่างใจจรดใจจ่อคร้าาา
รออ่านอย่างใจจรดใจจ่อคร้าาา
![](/images/icons/441.jpg)
เพียงพลอย 16 มิ.ย. 2554, 22:49:48 น.
ลงชื่อรอเป็นกำลังใจค่า
ลงชื่อรอเป็นกำลังใจค่า
![](/images/icons/guest.jpg)
whitecat 21 ก.ค. 2554, 18:01:13 น.
มารออ่านค่ะ สู้ๆ
มารออ่านค่ะ สู้ๆ