หัวใจ...error
ฟ้าคราม ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักนั้นคืนกลับมา เขาพยายามที่จะยื้อยุดความรักไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ ทว่า...เมื่อออมทองได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขา ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากคนนี้ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเขานั้นเปลี่ยนไป...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอน 1

ท้องฟ้าแจ่มใสทะเลสีครามสะท้อนแสงแดดระยิบระยับท่ามกลางเกลียวคลื่นที่ม้วนตัว

เข้าฝั่งระลอกแล้ว ระลอกเล่าไม่ไกลจากชายฝั่งมากนักมีบางอย่างกำลังเคลื่อนตัวเข้า

สู่ฝั่งช้าๆ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะยืดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหลังกลับไปมองยังจุดที่

เขาเพิ่งจากมา หยดน้ำจากเส้นผมดำสนิทที่เปียกลู่แนบศีรษะทุยสวยนั้นไหลผ่านต้น

คอกำยำลงสู่แผ่นหลังสีแทนไปสิ้นสุดที่ขอบกางเกงขาสั้นที่ในเวลานี้แนบเนื้อจนเห็น

สะโพกสอบและต้นขาแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามบ่งบอกถึงการออกกำลังกายอยู่

เสมอ ร่างสูงใหญ่มีอาการหอบเล็กน้อยเนื่องจากชายหนุ่มเพิ่งขึ้นจากการดำน้ำซึ่งเขา

นำปะการังอ่อนคัดกิ่งสมบูรณ์ที่สุดปลูกติดไว้กับท่อพีวีซีไปวางในทะเลตรงที่มีแสง

แดดส่องถึงเป็นแนวยาวถือว่าเป็นการเพิ่มจำนวนประชากรของปะการังไปในตัวและยัง

เป็นแนวกั้นให้เห็นว่าใกล้เขตปะการังน้ำตื้นแล้ว คนที่ว่ายน้ำเข้ามาบริเวณใกล้เคียงจะ

ต้องระวังให้มากขึ้น เขาและคนงานได้เริ่มปลูกปะการังอย่างนี้มาได้สองปีแล้ว ซึ่งเป็น

สิ่งที่เขาชอบและภูมิใจอยู่ลึกๆ ที่ได้เห็นพวกมันเจริญเติบโตสร้างความสวยงามให้กับ

ท้องทะเล อีกทั้งยังถือว่าเขาได้ช่วยธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้คงอยู่ตลอดไป

มือใหญ่เสยผมหยักศกอย่างลวกๆ นัยน์ตาคมเข้มดำสนิทราวกับความมืดยามค่ำ

คืนมองท้องฟ้าที่สดใส จมูกโด่งเป็นสันตรงรับกับริมฝีปากหนาได้รูปซึ่งเผยอเล็กน้อย

แผงอกกำยำแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสีทองแดงซึ่งยังคงมีหยดน้ำเกาะพราวระยับรับกับ

แสงแดดที่สาดส่องมาทำให้ชายหนุ่มดูเหมือนรูปปั้นกรีกโบราณ โดยเฉพาะใบหน้า

คร้ามคมที่มีแนวคางบึกบึน แสดงถึงความเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวและไม่ยอมแพ้อะไร

ง่ายๆ

‘ฟ้าคราม’ ก้มลงหยิบเสื้อยืดสีขาวที่ตัวเองถอดโยนทิ้งไว้บนชายหาดขึ้นพาดบ่า

ขณะเดินตรงไปยังบ้านพักส่วนตัวซึ่งอยู่ห่างจากรีสอร์ทเล็กน้อย ทรายขาวละเอียดที่

ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้านั้นทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อยขณะที่เหยียบย่ำไปตามทางก่อน

จะมาหยุดนิ่งพลางมองไปรอบๆ สถานที่แห่งนี้ด้วยสายตารักและผูกพัน เกาะนี้เป็นเกาะ

ส่วนตัวของตระกูล ‘วิชญาศิริ’ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากปู่และย่า เมื่อก่อนนี้ที่นี่เป็น

เพียงเกาะธรรมดา ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายเลย

สักอย่าง การดำรงชีวิตที่นี่จึงสวนทางกับชีวิตความเป็นอยู่ของเขามากมาย หลังจาก

เรียนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เขาได้รับการติดต่อ

จากบริษัทใหญ่ที่มีชื่อติดอันดับต้นๆ ของประเทศให้เข้าทำงานด้านการตลาดและร่วม

งานอยู่กับบริษัทนั้นห้าปี ทำให้เขามีชีวิตที่วุ่นวายกับสังคมเมือง มีเทคโนโลยีเป็นส่วน

หนึ่งในการดำเนินชีวิต แต่ทว่า...ที่เกาะแห่งนี้ไม่มีอะไรสักอย่างนอกจากสายลม แสง

แดด เสียงคลื่นและหาดทรายขาวละเอียดเป็นทางยาวสุดตาแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะ

‘พิมพ์ลดา’ เขาคงไม่ได้พบความสงบและสวยงามอย่างเช่นวันนี้ ฟ้าครามถอนหายใจ

เฮือกใหญ่เมื่อคิดถึงดวงหน้าเรียวสวย ดวงตายาวรีที่มองเขาด้วยความรัก เขาไม่รู้ว่า

สายตาที่เคยมองเขาอย่างนั้นมันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สำหรับเขามันไม่เคยจางหาย

ไปเลยสักนิดเดียว

‘ฟ้าครามรีสอร์ท’ เป็นรีสอร์ทบนเกาะส่วนตัวที่เขาได้ทุ่มเทแรงกายและความคิด

ในการพยายามทำทุกอย่างให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่ต้องการ

อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้เขาใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองปี แม้ว่า

รีสอร์ทที่นี่จะมีบ้านพักเพียงสิบหลัง แต่เชื่อมั้ย...บ้านพักนี้ไม่เคยว่างเลย มิหนำซ้ำยังมี

เสียงเรียกร้องให้เขาสร้างบ้านพักเพิ่มเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนที่นี่

แต่เขาไม่ทำเพราะเขาต้องการให้ที่นี่เป็นอย่างนี้ มันง่ายต่อการดูแล ที่สำคัญสิ่งแวด

ล้อมและธรรมชาติโดยรอบนั้น จะสวยงามอย่างนี้ตลอดไป เขาไม่ต้องการให้ที่นี่เป็น

เหมือนเกาะเปิดบางแห่งที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย แต่สภาพแวดล้อมของเกาะ

เปิดนั้นถูกทำลายจนแทบจะฟื้นฟูไม่ได้ ดังนั้นการที่เขามีบ้านพักเพียงแค่นี้ มีพนักงาน

บนเกาะแห่งนี้ไม่มากนัก แต่พนักงานของเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง นั่นก็เพียงพอ

แล้ว...


หญิงสาววัยแรกผลิเก็บของอย่างรีบเร่ง ดวงหน้าสีน้ำตาลนั้นมอมแมมไปด้วย

คราบน้ำตา ริมฝีปากค่อนข้างหนานั้นสั่นระริกโดยที่เจ้าตัวพยายามกลั้นเสียงสะอื้น

“ดอกไม้ อย่าร้องไห้เลย แม่แกไม่เป็นอะไรมากหรอก ทำใจดีๆ ไว้” มืออวบอูม

นั้นลูบหลังด้วยความอ่อนโยน ดวงตาที่มองร่างบอบบางนั้นฉายแววเป็นห่วง

“แต่พี่เดชบอกหนูว่าแม่เจ็บหนัก เรียกหาหนูตลอดเวลา หนูจะทำไงดี” เสียง

สะอื้นฮักของเด็กสาวทำให้สอางค์รู้สึกเศร้าสร้อยไปด้วย ดอกไม้เป็นเด็กสาวที่ขยันขัน

แข็ง ไม่เคยปริปากบ่นแม้ว่างานในรีสอร์ทนี้จะหนักแค่ไหน

“เอาเถอะ เก็บของให้เรียบร้อย จะได้ไปบอกกล่าวให้นายได้รับทราบ เธอจะได้

ให้ไอ้ยักษ์เอาเรือเร็วไปส่งที่ฝั่ง” สอางค์เอ่ยขึ้นพร้อมกับช่วยเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า

เดินทางใบย่อมก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไปยังด้านนอกด้วยความรวดเร็ว


สองสาวต่างวัยเดินมาที่บ้านพักส่วนตัวของฟ้าครามอย่างรีบเร่ง ทั้งสองหยุดยืน

อยู่หน้าประตูบ้านก่อนจะตะโกนเรียกด้วยความกริ่งเกรง

“นาย”

“....”

“นายคะ” ดอกไม้ตะโกนเรียกอีกครั้ง เธอกลัวนายหนุ่มหน้าเข้มจับใจ ถึงแม้ว่า

นายจะไม่เคยตำหนิเธอ แต่แววตาที่มองมานั้นมันชวนเสียวสันหลังทุกครั้งไป

ฟ้าครามขมวดคิ้วพลางวางหนังสือลงบนโต๊ะ เสียงใครมาเรียกเขาในเวลาพัก

ผ่อนอย่างนี้ ปกติคนงานในรีสอร์ทจะรู้ดีว่าเวลานี้จะเป็นเวลาที่เขาต้องการพักผ่อน

จริงๆ ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินไปเปิดประตูด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“อ้าว ป้าอางค์ ดอกไม้ มีอะไร” เขาเอ่ยถาม ดวงตาคมเข้มมองกระเป๋าเดินทางที่

ดอกไม้ถืออยู่อย่างสงสัย

“เดชมันโทรมาบอกเมื่อกี้นี้ว่าแม่ป่วยหนัก อยากเจอดอกไม้มาก” ป้าสอางค์บอก

ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ สิ้นเสียงสอางค์ ดอกไม้ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อาย

“เอาเถอะ ให้ไอ้ยักษ์ไปส่งที่ฝั่ง ดูแลแม่ให้หายดีก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงานก็

ได้” เขาบอกยิ้มๆ พร้อมกับเดินเข้าไปหยิบเงินสด ยื่นให้ดอกไม้แล้วพยักหน้า “เป็นค่า

หมอ มันอาจจะไม่มาก แต่มันก็เพียงพอที่เธอจะอยู่ดูแลแม่ของเธอ”

“ขอบคุณค่ะนาย” ดอกไม้ยกมือไหว้ก่อนจะรับเงินไปด้วยมือที่สั่นๆ

“เดี๋ยวนี้หมอเก่งมาก ฉันว่าแม่เธอต้องดีขึ้น ทำใจให้สบาย รีบไปเถอะ เดี๋ยวมัน

จะมืดค่ำ เดินทางลำบาก” เขาบอกแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ดอกไม้ยกมือไหว้อีกครั้ง

แล้วรีบเดินไปยังท่าเรือของรีสอร์ทอย่างรวดเร็ว

“ดอกไม้ไม่อยู่สักคน งานของป้าคงหนักขึ้น” เขาบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม มอง

ร่างบางที่เดินแกมวิ่งอยู่ข้างหน้าด้วยความเป็นห่วง อย่างน้อยถ้าไปเวลานี้ดอกไม้จะถึง

ฝั่งแล้วมีรถกลับบ้านอย่างปลอดภัย

“ไม่เป็นไรค่ะนาย ป้าทำไหวอยู่แล้ว” สอางค์หันมายิ้มให้ชายหนุ่ม นายของเธอ

เป็นคนที่มีน้ำใจที่สุดถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยแสดงออก แต่พวกเธอก็รู้

“ผมจะรีบหาคนมาช่วยป้าแล้วกัน” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงใจ

“ขอบคุณจ้ะนาย” เธอพยักหน้าก่อนจะขอตัวกลับไปทำงาน บอกแล้วว่านาย

ใหญ่แห่งเกาะนี้ ไม่เคยแล้งน้ำใจ...


ออมทองนอนก่ายหน้าผากพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตากลมโตมอง

เพดานอย่างใช้ความคิดก่อนจะลุกขึ้นนั่งโดยแขนเรียวกอดเข่าไว้หลวมๆ ผมยาวสลวย

นั้นยุ่งเหยิงโดยที่เจ้าตัวไม่เคยสนใจ กี่วันแล้วที่เธอหมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไหน

เธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะไปเดินตะลอนหางานใหม่ จนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจบริษัทอยู่

ดีว่าทำไมถึงเลิกจ้างเธอ ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจทำงาน ไม่เคยลาป่วยสักวัน หรือเพียงเพราะ

อายุงานของเธอน้อยกว่าคนอื่น...

“ออม มาช่วยกันหน่อย” เสียงพรรณดังขึ้นที่หน้าประตูห้องทำให้เธอขยับตัวไป

ช่วยเพื่อนสาวอย่างรวดเร็ว

“โห ซื้ออะไรมามากมายอย่างนี้ จะไปอยู่เกาะเหรอจ๊ะ” เธอเอ่ยแซวอย่างหยอก

ล้อ ขณะที่หอบหิ้วถุงของกินมากมายจากห้างสรรพสินค้าที่ขึ้นชื่อว่าลดราคามากกว่า

ห้างอื่น

“บ้าน่า ถ้าจะไปอยู่เกาะของแค่นี้ไม่พอกินหรอก วันนี้เราทำสุกี้กินกันดีกว่า

พรรณซื้อน้ำจิ้มสุกี้เจ้าอร่อยหน้าปากซอยมาด้วย แต่ตอนนี้ขอกินอะไรรองท้องก่อน

นะ” พรรณบอกพร้อมกับหยิบขนมปังเข้าปากด้วยท่าทางหิวๆ

“ตามสบายเลยจ้า เดี๋ยวออมล้างไอ้พวกนี้ก่อนแล้วกันนะ” เธอบอกแล้วหยิบถุง

ผัก ลูกชิ้นและเนื้อสัตว์อีกมากมายไปล้างตรงระเบียงนอกห้อง

พรรณหรือพรพรรณ...เป็นหญิงสาวค่อนข้างเจ้าเนื้อ มีใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ ที่

สำคัญพรพรรณเป็นเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย เราทั้งสองเป็นรูมเมท

กันมาเนิ่นนานจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้พรพรรณทำงานเป็นพนักงานบัญชีที่บริษัทเล็กๆ

แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่นัก หลังจากเรียนจบเธอได้งานก่อนพรพรรณ

ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือแม้กระทั่งโบนัส บริษัทที่เธอทำงานจ่ายให้เธอ

มากกว่าบริษัทเล็กๆ ของพรพรรณหลายเท่า ทว่า...ในเวลานี้เธอกลับกลายเป็นคนว่าง

งาน

“อย่าคิดมากเลย คนเก่งอย่างออมมีงานให้เลือกอีกเยอะ” พรพรรณบอกพร้อม

กับคีบลูกชิ้นให้เพื่อนสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ฝั่งตรงข้าม

“แต่สมัยนี้งานมันไม่ได้หาง่ายๆ นะ คนจบใหม่ก็มากเหลือเกิน” เธอพึมพำก่อน

จะกินลูกชิ้นทั้งลูกอย่างไม่อาย

“มันไม่สำคัญหรอกจ้ะ งานมีมากมายถ้าเราไม่ได้เลือกมาก แล้วอีกอย่างออมก็

มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน มันไม่น่ามีปัญหาอะไร ใจเย็นๆ ค่อยๆ หาไปก็

ได้” พรพรรณบอกอย่างมีเหตุผล แววตาที่มองเธอนั้นฉายแววจริงใจ

“แต่เดือนๆ นึง มันผ่านไปเร็วเหลือเกิน ถ้าออมยังหางานทำไม่ได้ เงินที่เก็บไว้ก็

ต้องหมดไป ไหนจะต้องส่งให้แม่อีก เออ...พรรณอย่าบอกแม่ออมนะว่าออมตกงาน

เดี๋ยวแม่จะไม่สบายใจ” เธอจ้องหน้าเพื่อนสาวเขม็ง

“จ้ะ ไม่ต้องห่วง”

“เฮ้อ...คิดเรื่องเงินทีไร กินอะไรไม่ค่อยลงเลย” เธอบ่นแต่ปากก็เคี้ยวหยับๆ ไม่

ได้หยุด พรพรรณอมยิ้มพร้อมกับส่ายหน้ากับท่าทางของเพื่อนสนิท

ออมทอง...เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้ารูปไข่ สวยหวาน ดวงตากลมโตล้อมกรอบ

ด้วยแพขนตาหนา งอนโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องใช้เครื่องมือในการดัดอย่างที่สาวๆ สมัยนี้

ทำกัน จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากอิ่มได้รูป ผิวเนียนขาวนั้นบางจนเห็นเส้นเลือด

ฝอยที่แก้ม รูปร่างของเพื่อนเธอนั้นบอบบางน่าทะนุถนอม จะมีใครรู้บ้างว่าเพื่อนเธอนั้น

กินเก่งขนาดไหน เรียกว่าคนอ้วนอย่างเธอต้องหลบไปเลย แต่ไม่ว่าออมทองจะกิน

มากขนาดไหน เธอก็ยังคงรักษารูปร่างที่ได้สัดส่วนนั้นได้อย่างน่าอิจฉา เธอไม่เคยคิด

เลยความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานตั้งแต่มัธยมปลายนั้นจะแนบแน่นจนมาถึงปัจจุบันนี้

และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอชื่นชมออมทองคือ เพื่อนเธอทำงานหนักทุกอย่างเพื่อให้ครอบ

ครัวทางบ้านได้อยู่อย่างสบาย ไม่ลำบาก แต่ว่า...ตอนนี้เพื่อนของเธอตกงาน เธอจะ

ช่วยเพื่อนเธอได้อย่างไร...

“กินสิ มัวแต่นั่งจ้องหน้าออม เดี๋ยวลูกชิ้นหมดไม่รู้ด้วยนะ” ออมทองเอ่ยด้วยน้ำ

เสียงหยอกเย้าพร้อมกับพยักหน้าไปยังหม้อสุกี้ตรงหน้าด้วยใบหน้าทะเล้น

“ได้ยังไงล่ะ พรรณไม่ยอมหรอก เอามานี่เลย” เธอโต้กลับไปพลางยื่นตะเกียบ

ไปคีบลูกชิ้นในชามเพื่อนมาใส่ชามตัวเองอย่างรวดเร็ว

“เอ๊า ทำไมทำงี้อ่ะ” เสียงโวยวายพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของสอง

สาวดังขึ้นในห้องเล็กๆ ไม่ว่าโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร แต่ภายในห้องเช่าแห่งนี้จะ

เป็นที่พักกายและพักใจได้อย่างดีที่สุด

“ออม” พรพรรณเรียกเพื่อนที่นอนแผ่เต็มที่นอนหลังจากจัดการสุกี้หม้อใหญ่

เรียบร้อยแล้ว

“หืม” หญิงสาวหันไปมองเพื่อนที่หยิบแผ่นพับท่องเที่ยวบนโต๊ะมาอ่านอย่าง

สนใจ “มีอะไร”

“ฟ้าครามรีสอร์ท น่าสนใจจัง” พรพรรณเดินปรี่เข้ามานั่งบนที่นอนพลางกวาด

สายตามองแผ่นพับในมือ “น้ำทะเลใส ฟ้าสวย หาดทรายขาว”

“ฮื้อ...สมัยนี้มีคอมซะอย่างจะทำภาพให้สวยขนาดไหนก็ได้” ออมทองเอ่ยด้วย

น้ำเสียงไม่ใส่ใจ เธอว่าจะทิ้งแผ่นพับนี้อยู่แล้วเชียว ไม่รู้เอากลับมาทำไม

“พรรณว่า...ออมน่าจะไปพักผ่อนสมองนะ ไปเติมพลังให้กับชีวิต ดีมั้ย” หน้า

กลมแป้นยิ้มจนตาหยี

“ไม่อ่ะ เก็บเงินไว้ใช้ดีกว่า” เธอเอ่ยขึ้นพร้อมถอนหายใจก่อนจะพลิกตัวไปอีก

ทาง

“แต่นี่มันเป็นเกาะส่วนตัวนะ มีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวตั้งมากมาย” พร

พรรณยังชักชวนไม่เลิก เธอคิดว่าทะเลที่ฟ้าครามนี้สวยงามจริงๆ ไม่น่าจะเป็นอย่างที่

เพื่อนเธอว่า “ดูสิ มีดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นด้วย”

“พอเถอะ ออมอิ่มแล้วก็ง่วงมาก ขอพักตาก่อนนะ” ออมทองตัดบท ทำให้เธอ

ต้องหยุดพูดโดยปริยาย หญิงสาวหรี่ตามองคนที่นอนก่ายหมอนข้างแล้วหลับไปโดย

ไม่ยอมอาบน้ำ คอยดูนะ...เธอจะพูดเรื่องเที่ยวทะเลทุกวันจนกว่าเพื่อนเธอจะยอมไป

ให้ได้


****************************

มิตรร๊าก...แควนคลับ

เรื่องนี้ผู้แต่งเคยลงมาก่อนแล้วแต่ว่าลงไม่จบ 555 ปัจจุบันนี้ก็ยังแต่งไม่จบ แต่

สัญญาว่าจะรีบให้จบ (หลายจบจังวุ๊ย) ขอให้สนุกกับการอ่านเน้อออออ




แมกไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มิ.ย. 2554, 11:00:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มิ.ย. 2554, 11:00:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 2604





<< บทนำ   ตอน 2 >>
sa 22 มิ.ย. 2554, 11:36:37 น.
^___^


รัชต์ 22 มิ.ย. 2554, 11:40:59 น.
เจ้าของเรื่องมัวไปดำน้ำดูนายครามงมหอย เอ้ย ปลูกปะการังอยู่เหรอ....


whitelotus 22 มิ.ย. 2554, 13:28:21 น.
มาแล้วๆ


ปูสีน้ำเงิน 22 มิ.ย. 2554, 22:17:10 น.
อวยพรให้คราวนี้แต่งจบนะ เพราะคนอ่านก็อยากอ่านตอนจบเหมือนกัน


ปอยอะนะ 23 มิ.ย. 2554, 17:05:25 น.
อิอิคุณรัชต์พูดซะเห็นภาพเลยอะ


doll 23 มิ.ย. 2554, 21:38:24 น.
เอาใจช่วยด้วยคนจ้า


XaWarZd 25 มิ.ย. 2554, 12:05:36 น.
ขอให้จบนะจะตามอ่านจนจบเลยจ๊า ไม่จบมีเคืองแน่ๆ


milbol 27 มิ.ย. 2554, 16:51:28 น.
สัญญาว่าจะแต่งให้จบ แล้วเมื่อไรจะมาต่ออ่ะ ไม่มาอัพต่อแล้วมันจะจบปะเนี่ย รอนานมากๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account