อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ
Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด
ตอน: นกน้อยที่อยากหนีจากกรงทอง
อรุณรุ่งวันใหม่ที่หาความสดใสจากเจ้าของร่างอรชร ซึ่งกำลังก้าวเดินลงมาชั้นล่างไม่ได้เลย เกือบเก้าโมงแล้วบ้านที่ว่างเปล่าไร้เงาของเขา ข้าวปลาอาหารก็พลอยไร้การหยิบยื่นมาให้ไปด้วย นั่นคงจะเป็นเพราะหมดโปรโมชั่นการเอาอกเอาใจนางบำเรอไปแล้ว เพราะเขาชนะแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทำให้เธอประทับใจใดๆ อีก
ตู้เย็นที่ว่างเว้นจากการจับจ่ายตลาดมานานไม่หลงเหลืออะไรให้ทำกินเลย พอได้กาแฟแก้วแรกแล้วก็ออกจากบ้านตรงไปประตูหลังเงียบๆ ชั่วโมงกว่าก็กลับมาพร้อมของที่ต้องการแล้ว ดวงหน้าเศร้าฝืนยิ้มให้จวนที่เจอกันตรงหลังครัว
“ของสดในครัวมีตั้งแยะ ทำไมคุณมิวไม่มาแบ่งไปทำกินล่ะคะ จะเดินไปซื้อเองทำไมไกลก็ไกลเหนื่อยแย่ แล้วทีหลังถ้าอยากได้อะไรเดินมาฝากป้าก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็โทรบอกได้ป้าจะให้เบอร์ไว้เอามั้ยคะ”
เพราะความสงสารในหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน จวนจึงฝืนคำสั่งเจ้านายด้วยการแบ่งปันน้ำใจไปให้อย่างไม่เคยทำมาก่อน เจ้าของดวงหน้าเศร้าส่งยิ้มด้วยความจริงใจให้สาวใหญ่ร่างอวบ แค่นี้เธอก็ปลาบปลื้มในน้ำใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว แม้รู้ว่าจะรับน้ำใจจากจวนไม่ได้ แต่กัณหาก็รู้ดีอีกว่ามันเป็นน้ำใจที่มาจากความจริงใจ
ใช่เสแสร้งเฉกเช่นเจ้านายของจวน และก็รู้ดีว่าตัวเองหมดสิทธิ์ที่จะยุ่งกับใครตามคำสั่งของเขาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คงจะเป็นการดีหากจะพาตัวอยู่ให้ห่างๆ คนในบ้านไว้ เพื่อความปลอดภัยในหน้าที่การงานของทุกคนเอง เจ้าของดวงตาคู่เศร้าจึงเอ่ยนุ่มนวลกับจวน
“ขอบคุณจ้ะป้า แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หนูเดินมานานจนชินแล้ว”
ก่อนจะรีบเดินตรงไปหากรงขังน้อยๆ แล้วลงมือหุงหาอาหารให้ตัวเองอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่ภาพแห่งความสุขในบ้านหลังน้อยริมชายหาด ขณะเข้าครัวปรุงอาหารแล้วมีเขาคอยวนเวียนอยู่ข้างกายก็แล่นมาเล่นงานอย่างจัง จนความหิวมลายหายสิ้น ผัดผักรวมจานโตจึงต้องเป็นหมัน เมื่อเจ้าของหมางเมินด้วยการเดินหนีขึ้นชั้นบน
แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลรินไปหาหมอนใบเดิมที่เคยนอนหนุน ใบเดิมที่มักจะคอยรองรับน้ำตาหญิงเขลาอย่างเธอเอาไว้มาหลายคืนแล้ว เพราะตั้งแต่วันหมั้นเป็นต้นมา บ้านน้อยหลังนี้ก็ไม่มีแม้แต่เงาของเขาย่างกายเข้ามา และแม้จะเจ็บปวดแต่เธอก็บอกกับตัวเองว่านี่เป็นเรื่องดี ที่จะได้ไม่ต้องพบเจอเขาอีก
และถ้าเป็นไปได้ เธออยากให้เขาหายหน้าไป จวบจนกระทั่งถึงวันที่เธอจะได้รับอิสราภาพเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะสมหวังดังใจหมาย เพราะเขาได้มายืนกอดอกรออยู่ในห้องแล้วเมื่อร่างอรชรออกมาจากห้องน้ำ ชุดนอนกับเสื้อคลุมถูกคว้ามาใส่ด้วยท่าทีสงบ และไม่หันไปมองเขาแม้แต่หางตาด้วยซ้ำ
“คุณหึงผมเหรอ หรือว่างอนที่ผมไม่ได้มาหาเป็นอาทิตย์ๆ คุณก็ต้องเข้าใจหน่อยสิว่าผมมีเจ้าของแล้ว ก็ต้องให้เวลากับคนรักเป็นธรรมดา นางบำเรออย่างคุณก็ต้องเก็บไว้เวลาผมไม่มีใครสิ”
เจ้าของดวงหน้าเศร้ายังคงหันหลังให้เขาไม่ไหวติงไปไหน และพยายามสะกดจิตใจไม่ให้คิดตามคำพูดอันหยาบคายของเขา จะได้เสียใจน้อยลงที่เคยหลงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายอบอุ่น พูดจาไพเราะ เอาอกเอาใจเก่ง เพราะตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือผู้ชายปากร้ายคนนี้ต่างหาก ชายที่กำลังก้าวยาวๆ มาหา แล้วคว้าเอาสองไหล่หมุนกลับไปให้ได้เห็นเธอเต็มๆ ตา
“ผมถามไม่ได้ยินเหรอ! หรืออยากจนปากคอสั่นพูดอะไรไม่ออกแล้ว ได้สิผมจะจัดให้”
“ปล่อยฉันนะ!!”
ข้อมือขาวถูกเขาคว้าแล้วลากไปหาเตียง เจ้าของมือก็ขัดขืนเพราะความเกลียดชังจนไม่อยากจะใกล้เขาอีกต่อไป แต่ผู้ที่อ่อนแอกว่า ก็ย่อมเป็นเหยื่อของคนที่เข้มแข็งกว่าเสมอๆ จนร่างบอบบางถลาไปกองอยู่บนเตียง และมีเขาตามขึ้นไปติดๆ พร้อมกับใบหน้าของคนที่กำลังสะใจ สาสมใจอย่างที่สุด
“ปล่อยเหรอ! ผมไม่ได้ยินคำนี้มาหลายเดือนแล้วนี่ แล้วแน่ใจเหรอว่าคุณอยากให้ผมปล่อยมากกว่าอยากให้ทำอย่างอื่น อย่าหลอกตัวเองไปหน่อยเลย ยอมรับมาเถอะว่าคุณโหยหาผมแทบใจจะขาดแล้วด้วยซ้ำ ผมเองก็ไม่ต่างจากคุณนักหรอกที่โหยหานางบำเรออย่างคุณ ที่เคยปรนเปรอบทบาทบนเตียงจนผมแทบจะสำลักความสุขออกมาทุกครั้งจะแย่ หวังว่าคุณคงจะบริการผมถึงใจเหมือนก่อนผมจะหมั้นนะที่รัก”
ไม่มีการขัดขืนใดๆ จากเจ้าของร่างอรชรแล้ว เพราะรู้ดีว่าจะเหนื่อยเปล่า จึงเลือกที่จะนอนหลับตานิ่งๆ ปล่อยให้เขากอดจูบลูบคลำเรือนกายไปด้วยความขมขืนใจยิ่ง หยดใสๆ ก็ไหลอาบหางตาไปเป็นทางโดยไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากไหนกันแน่ ระหว่างเสียใจที่ต้องพลีกายให้เขาย่ำยีอีก กับเสียใจให้กับตัวเองที่เผลอมอบสิ่งมีค่าที่สุดให้เขาไป
“คุณจะฝืนนอนเป็นก้อนหินกับผมไปได้สักกี่น้ำอีกล่ะ ลืมไปแล้วเหรอว่าคุณชอบแค่ไหนกับบทบาทผัวที่ผมมอบให้ หรือเสียใจที่ผมหมั้นจนอยากประชดด้วยวิธีนี้ ได้!!! ไม่ยากหรอกสำหรับผมที่จะทำให้คนอย่างคุณอ่อนระทวยยิ่งกว่าขี้ผึ้งถูกไฟลน”
เพราะเขาทานทนแทบไม่ได้ที่จะต้องมีอะไรกับร่างที่นอนแข็งทื่อ จึงต้องงัดเอากลยุทธเก่าๆ มาใช้ ในที่สุดเธอก็ไม่อาจฝืนทนกับสิ่งที่ธรรมชาติเรียกร้องได้อีก นั่นเขาถึงได้นางบำเรอคนเก่ากลับมา แต่ทว่ามันก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น พอไฟรักมอดดับลง ร่างที่โอนอ่อนไปกับเขาเมื่อครู่ก็นอนนหันหลังให้เขานิ่งๆ ได้ยินแต่เสียงสืบน้ำมูกดังเข้าหูเป็นระยะๆ
เพราะกำลังร้องไห้ มันทำให้ใจเขาแทบอ่อนยวบลงจนเกือบจะหยุดเต้นกับเสียงนั้น แต่ความแค้นและวีระกรรมของเธอรวมทั้งคนในบ้านก็เรียกให้หัวใจอันอ่อนไหวกลับมาแข็งกระด้างขึ้นได้อีก พร้อมๆ กับบทรักที่ห่างหายก็ถูกร่ายรำขึ้นอีกวาระ โดยไม่คิดจะสนด้วยซ้ำว่าจะมีน้ำตาไหลออกมาจากสองดวงตาเศร้าสักแค่ไหน
“คุณต้องลุกขึ้นมาเตรียมเสื้อผ้า และปรนนิบัติพัดวีผมเหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่มานอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้ อย่าคิดว่าน้ำตาของคุณจะทำให้ผมใจอ่อนได้ ไม่มีทาง ไม่มีวัน และไม่มีวันมีด้วย จำเอาไว้”
เขาตะคอกใส่หูเจ้าของร่างเปลือยเปล่าที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มปล่อยน้ำตาให้ไหลรินมาเนิ่นนานแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากเจ้าหล่อนจะนอนอยู่ในท่าเดิม จนเขาทนไม่ได้
“ผมบอกไม่ได้ยินเหรอ! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้อย่าให้ผมต้องโกรธจนเผลอทำรุนแรงกับคุณนะ”
จึงคว้าแขนเล็กแล้วกระชากจนร่างเปลือยแทบจะติดมือเขาขึ้นไปด้วยซ้ำ กัณหาเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองเขาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา ดวงตาคู่เศร้าปล่อยให้หยดใสๆ ไหลอาบสองแก้มออกมาจนหนำใจ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นไปจัดผ้าขนหนูมายื่นให้เขาตามคำสั่ง ชุดทำงานก็จัดไปตามคำสั่ง
“ติดนี่และผูกนี่ด้วย”
กระดุมเสื้อกับเนคไทก็จัดให้ตามคำสั่งเท่านั้น ไม่มีแววตาหวานฉ่ำเหมือนเมื่อก่อน ตรงกันข้ามมันกลับมีแววหงอยเศร้าอยู่เต็มไปหมด ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มอย่างเอียงอายเวลาผูกไทให้เขาก็ว่างเปล่า แถมมีความหม่นหมองมาแทนที่ด้วยซ้ำ มื้อเช้าที่เขาสั่งให้จัดหาก็เป็นไปอย่างไร้ชีวิตชีวาของคนทำ และฝืนนั่งกินอยู่กับเขาประหนึ่งร่างไร้วิญญาณก็ไม่ปาน
แต่เขาก็ไม่สน และไม่คิดว่าเจ้าหล่อนจะทำแบบนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ทว่าห้าเดือนล่วงเลยผ่านเขาก็ยังไม่เคยได้พบเห็นผู้หญิงคนที่เคยอยู่บ้านหลังน้อยริมชายหาดกับเขาหวนคืนมาหาอีกเลย มีแต่ผู้หญิงที่ใบหน้าหม่นหมอง เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
ท่าทีเงียบเหงาซึมเซาและแข็งทื่อดุจดังหินผา ทำตามคำสั่งเขาโดยไร้ชีวิตชีวาดุจดังตุ๊กตาไขลานก็ไม่ปาน จนเขาทนเห็นไม่ไหวต้องรีบออกจากบ้านตรงเข้าออฟฟิศทันที
ตู้เย็นที่ว่างเว้นจากการจับจ่ายตลาดมานานไม่หลงเหลืออะไรให้ทำกินเลย พอได้กาแฟแก้วแรกแล้วก็ออกจากบ้านตรงไปประตูหลังเงียบๆ ชั่วโมงกว่าก็กลับมาพร้อมของที่ต้องการแล้ว ดวงหน้าเศร้าฝืนยิ้มให้จวนที่เจอกันตรงหลังครัว
“ของสดในครัวมีตั้งแยะ ทำไมคุณมิวไม่มาแบ่งไปทำกินล่ะคะ จะเดินไปซื้อเองทำไมไกลก็ไกลเหนื่อยแย่ แล้วทีหลังถ้าอยากได้อะไรเดินมาฝากป้าก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็โทรบอกได้ป้าจะให้เบอร์ไว้เอามั้ยคะ”
เพราะความสงสารในหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน จวนจึงฝืนคำสั่งเจ้านายด้วยการแบ่งปันน้ำใจไปให้อย่างไม่เคยทำมาก่อน เจ้าของดวงหน้าเศร้าส่งยิ้มด้วยความจริงใจให้สาวใหญ่ร่างอวบ แค่นี้เธอก็ปลาบปลื้มในน้ำใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว แม้รู้ว่าจะรับน้ำใจจากจวนไม่ได้ แต่กัณหาก็รู้ดีอีกว่ามันเป็นน้ำใจที่มาจากความจริงใจ
ใช่เสแสร้งเฉกเช่นเจ้านายของจวน และก็รู้ดีว่าตัวเองหมดสิทธิ์ที่จะยุ่งกับใครตามคำสั่งของเขาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คงจะเป็นการดีหากจะพาตัวอยู่ให้ห่างๆ คนในบ้านไว้ เพื่อความปลอดภัยในหน้าที่การงานของทุกคนเอง เจ้าของดวงตาคู่เศร้าจึงเอ่ยนุ่มนวลกับจวน
“ขอบคุณจ้ะป้า แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หนูเดินมานานจนชินแล้ว”
ก่อนจะรีบเดินตรงไปหากรงขังน้อยๆ แล้วลงมือหุงหาอาหารให้ตัวเองอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่ภาพแห่งความสุขในบ้านหลังน้อยริมชายหาด ขณะเข้าครัวปรุงอาหารแล้วมีเขาคอยวนเวียนอยู่ข้างกายก็แล่นมาเล่นงานอย่างจัง จนความหิวมลายหายสิ้น ผัดผักรวมจานโตจึงต้องเป็นหมัน เมื่อเจ้าของหมางเมินด้วยการเดินหนีขึ้นชั้นบน
แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลรินไปหาหมอนใบเดิมที่เคยนอนหนุน ใบเดิมที่มักจะคอยรองรับน้ำตาหญิงเขลาอย่างเธอเอาไว้มาหลายคืนแล้ว เพราะตั้งแต่วันหมั้นเป็นต้นมา บ้านน้อยหลังนี้ก็ไม่มีแม้แต่เงาของเขาย่างกายเข้ามา และแม้จะเจ็บปวดแต่เธอก็บอกกับตัวเองว่านี่เป็นเรื่องดี ที่จะได้ไม่ต้องพบเจอเขาอีก
และถ้าเป็นไปได้ เธออยากให้เขาหายหน้าไป จวบจนกระทั่งถึงวันที่เธอจะได้รับอิสราภาพเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะสมหวังดังใจหมาย เพราะเขาได้มายืนกอดอกรออยู่ในห้องแล้วเมื่อร่างอรชรออกมาจากห้องน้ำ ชุดนอนกับเสื้อคลุมถูกคว้ามาใส่ด้วยท่าทีสงบ และไม่หันไปมองเขาแม้แต่หางตาด้วยซ้ำ
“คุณหึงผมเหรอ หรือว่างอนที่ผมไม่ได้มาหาเป็นอาทิตย์ๆ คุณก็ต้องเข้าใจหน่อยสิว่าผมมีเจ้าของแล้ว ก็ต้องให้เวลากับคนรักเป็นธรรมดา นางบำเรออย่างคุณก็ต้องเก็บไว้เวลาผมไม่มีใครสิ”
เจ้าของดวงหน้าเศร้ายังคงหันหลังให้เขาไม่ไหวติงไปไหน และพยายามสะกดจิตใจไม่ให้คิดตามคำพูดอันหยาบคายของเขา จะได้เสียใจน้อยลงที่เคยหลงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายอบอุ่น พูดจาไพเราะ เอาอกเอาใจเก่ง เพราะตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือผู้ชายปากร้ายคนนี้ต่างหาก ชายที่กำลังก้าวยาวๆ มาหา แล้วคว้าเอาสองไหล่หมุนกลับไปให้ได้เห็นเธอเต็มๆ ตา
“ผมถามไม่ได้ยินเหรอ! หรืออยากจนปากคอสั่นพูดอะไรไม่ออกแล้ว ได้สิผมจะจัดให้”
“ปล่อยฉันนะ!!”
ข้อมือขาวถูกเขาคว้าแล้วลากไปหาเตียง เจ้าของมือก็ขัดขืนเพราะความเกลียดชังจนไม่อยากจะใกล้เขาอีกต่อไป แต่ผู้ที่อ่อนแอกว่า ก็ย่อมเป็นเหยื่อของคนที่เข้มแข็งกว่าเสมอๆ จนร่างบอบบางถลาไปกองอยู่บนเตียง และมีเขาตามขึ้นไปติดๆ พร้อมกับใบหน้าของคนที่กำลังสะใจ สาสมใจอย่างที่สุด
“ปล่อยเหรอ! ผมไม่ได้ยินคำนี้มาหลายเดือนแล้วนี่ แล้วแน่ใจเหรอว่าคุณอยากให้ผมปล่อยมากกว่าอยากให้ทำอย่างอื่น อย่าหลอกตัวเองไปหน่อยเลย ยอมรับมาเถอะว่าคุณโหยหาผมแทบใจจะขาดแล้วด้วยซ้ำ ผมเองก็ไม่ต่างจากคุณนักหรอกที่โหยหานางบำเรออย่างคุณ ที่เคยปรนเปรอบทบาทบนเตียงจนผมแทบจะสำลักความสุขออกมาทุกครั้งจะแย่ หวังว่าคุณคงจะบริการผมถึงใจเหมือนก่อนผมจะหมั้นนะที่รัก”
ไม่มีการขัดขืนใดๆ จากเจ้าของร่างอรชรแล้ว เพราะรู้ดีว่าจะเหนื่อยเปล่า จึงเลือกที่จะนอนหลับตานิ่งๆ ปล่อยให้เขากอดจูบลูบคลำเรือนกายไปด้วยความขมขืนใจยิ่ง หยดใสๆ ก็ไหลอาบหางตาไปเป็นทางโดยไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากไหนกันแน่ ระหว่างเสียใจที่ต้องพลีกายให้เขาย่ำยีอีก กับเสียใจให้กับตัวเองที่เผลอมอบสิ่งมีค่าที่สุดให้เขาไป
“คุณจะฝืนนอนเป็นก้อนหินกับผมไปได้สักกี่น้ำอีกล่ะ ลืมไปแล้วเหรอว่าคุณชอบแค่ไหนกับบทบาทผัวที่ผมมอบให้ หรือเสียใจที่ผมหมั้นจนอยากประชดด้วยวิธีนี้ ได้!!! ไม่ยากหรอกสำหรับผมที่จะทำให้คนอย่างคุณอ่อนระทวยยิ่งกว่าขี้ผึ้งถูกไฟลน”
เพราะเขาทานทนแทบไม่ได้ที่จะต้องมีอะไรกับร่างที่นอนแข็งทื่อ จึงต้องงัดเอากลยุทธเก่าๆ มาใช้ ในที่สุดเธอก็ไม่อาจฝืนทนกับสิ่งที่ธรรมชาติเรียกร้องได้อีก นั่นเขาถึงได้นางบำเรอคนเก่ากลับมา แต่ทว่ามันก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น พอไฟรักมอดดับลง ร่างที่โอนอ่อนไปกับเขาเมื่อครู่ก็นอนนหันหลังให้เขานิ่งๆ ได้ยินแต่เสียงสืบน้ำมูกดังเข้าหูเป็นระยะๆ
เพราะกำลังร้องไห้ มันทำให้ใจเขาแทบอ่อนยวบลงจนเกือบจะหยุดเต้นกับเสียงนั้น แต่ความแค้นและวีระกรรมของเธอรวมทั้งคนในบ้านก็เรียกให้หัวใจอันอ่อนไหวกลับมาแข็งกระด้างขึ้นได้อีก พร้อมๆ กับบทรักที่ห่างหายก็ถูกร่ายรำขึ้นอีกวาระ โดยไม่คิดจะสนด้วยซ้ำว่าจะมีน้ำตาไหลออกมาจากสองดวงตาเศร้าสักแค่ไหน
“คุณต้องลุกขึ้นมาเตรียมเสื้อผ้า และปรนนิบัติพัดวีผมเหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่มานอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้ อย่าคิดว่าน้ำตาของคุณจะทำให้ผมใจอ่อนได้ ไม่มีทาง ไม่มีวัน และไม่มีวันมีด้วย จำเอาไว้”
เขาตะคอกใส่หูเจ้าของร่างเปลือยเปล่าที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มปล่อยน้ำตาให้ไหลรินมาเนิ่นนานแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากเจ้าหล่อนจะนอนอยู่ในท่าเดิม จนเขาทนไม่ได้
“ผมบอกไม่ได้ยินเหรอ! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้อย่าให้ผมต้องโกรธจนเผลอทำรุนแรงกับคุณนะ”
จึงคว้าแขนเล็กแล้วกระชากจนร่างเปลือยแทบจะติดมือเขาขึ้นไปด้วยซ้ำ กัณหาเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองเขาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา ดวงตาคู่เศร้าปล่อยให้หยดใสๆ ไหลอาบสองแก้มออกมาจนหนำใจ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นไปจัดผ้าขนหนูมายื่นให้เขาตามคำสั่ง ชุดทำงานก็จัดไปตามคำสั่ง
“ติดนี่และผูกนี่ด้วย”
กระดุมเสื้อกับเนคไทก็จัดให้ตามคำสั่งเท่านั้น ไม่มีแววตาหวานฉ่ำเหมือนเมื่อก่อน ตรงกันข้ามมันกลับมีแววหงอยเศร้าอยู่เต็มไปหมด ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มอย่างเอียงอายเวลาผูกไทให้เขาก็ว่างเปล่า แถมมีความหม่นหมองมาแทนที่ด้วยซ้ำ มื้อเช้าที่เขาสั่งให้จัดหาก็เป็นไปอย่างไร้ชีวิตชีวาของคนทำ และฝืนนั่งกินอยู่กับเขาประหนึ่งร่างไร้วิญญาณก็ไม่ปาน
แต่เขาก็ไม่สน และไม่คิดว่าเจ้าหล่อนจะทำแบบนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ทว่าห้าเดือนล่วงเลยผ่านเขาก็ยังไม่เคยได้พบเห็นผู้หญิงคนที่เคยอยู่บ้านหลังน้อยริมชายหาดกับเขาหวนคืนมาหาอีกเลย มีแต่ผู้หญิงที่ใบหน้าหม่นหมอง เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
ท่าทีเงียบเหงาซึมเซาและแข็งทื่อดุจดังหินผา ทำตามคำสั่งเขาโดยไร้ชีวิตชีวาดุจดังตุ๊กตาไขลานก็ไม่ปาน จนเขาทนเห็นไม่ไหวต้องรีบออกจากบ้านตรงเข้าออฟฟิศทันที

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2556, 16:30:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2556, 16:32:03 น.
จำนวนการเข้าชม : 1976
<< ช่วงเวลาประหัดประหาร | คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย >> |



mhengjhy 5 ต.ค. 2556, 23:11:15 น.
ชิชะ
ชิชะ

คิมหันตุ์ 6 ต.ค. 2556, 00:01:15 น.
เวลาผ่านไปเร็วม๊ากกกกกกกกกกกกก
เวลาผ่านไปเร็วม๊ากกกกกกกกกกกกก

กันเกราธัญญรัตน์วรนัน 6 ต.ค. 2556, 00:49:51 น.
คุณเคสิยาห์ = ขอบคุณจ้า
คุณalecigor = ใช่แล้วค่ะ ต้องรอลุ้นต่อไปจ้า
คุณ mhengjhy = 555
คุณคิมหันตุ์ = ใช่ค่ะ แป้บๆ จะครบสองปีแล้ว
คุณเคสิยาห์ = ขอบคุณจ้า
คุณalecigor = ใช่แล้วค่ะ ต้องรอลุ้นต่อไปจ้า
คุณ mhengjhy = 555
คุณคิมหันตุ์ = ใช่ค่ะ แป้บๆ จะครบสองปีแล้ว