Sweet Magic เวทมนตร์...รสหวาน
ความฝันที่อยากจะทำร้านขนมหวานครบสูตรของอิศยา ทำให้เจ้าหล่อนยอมหันหลังให้กับชีวิตของครอบครัว...และความฝันสุดยิ่งใหญ่ของเธอจะเกิดขึ้นได้ อิศยาต้องยอมทุ่มเทกายใจเอาชนะกำแพงหนาของป้ณณ์ให้ได้...งานช้างแบบนี้ อิศยาไม่มีทางยอมแพ้เขาเด็ดขาด แล้วจะได้รู้ว่าคนอย่างอิศยารุกรานโลกของเขาได้มากขนาดไหน
Tags: เวทมนตร์,รสหวาน,อิศยา,ปัณณ์,ปวรา

ตอน: บทพิเศษ เมื่อหัวใจโบยบิน + การรอคอย + Sweet Magic

งานรับปริญญาของอิศยาและพรพิรุณเพิ่งผ่านพ้นไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว งานเลี้ยงฉลองเล็กๆ จัดขึ้นที่บ้านจนเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทุกคนมีรอยยิ้ม ยกเว้น พรพิรุณ อิศยา และปัณณ์ บุคคลสามคนที่นัดแนะวางแผนสำคัญไว้หลังจากเสร็จงานใหญ่คืนนี้

“พ่อว่าจะยกร้านนี้ให้อุ่น ย่าไม่ขัดข้องใช่ไหม” ขจรพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กลัวบุตรสาวเพียงคนเดียวจะน้อยอกน้อยใจเข้า

“ตามสบายเลยค่ะ ตอนนี้ย่าต้องดูแลทั้งร้านคุณตาคุณยาย ทั้งดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่ก็แยกร่างแทบไม่ไหวแล้ว แต่ย่าว่านายกรินที่เป็นลูกมืออุ่นฝีมือก็ใช้ได้นะ ตามลำดับญาติก็เป็นลูกของลูกของน้องสาวย่า ก็ญาติๆ กัน” อิศยาพยายามโยนเรื่องนี้ให้ไกลตัวพรพิรุณออกไป

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนประเด็น พ่อจะยกให้ใครก็เรื่องของพ่อ” ขจรยังนึกเคืองลูกสาวที่ทิ้งร้านคุณตาไป แถมยังไปคว้าไอ้หนุ่มลูกเศรษฐีมาจัดงานหมั้นออกสื่อไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องนั่นอีก “อุ่นไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

“อุ่นขอบคุณอาตามากนะคะที่เล็งเห็นความสามารถของอุ่น ไว้พรุ่งนี้อุ่นค่อยตอบเรื่องร้านกับอาตานะคะ”

“ตามใจ” ขจรยิ้มเอ็นดู อยากทดแทนความรักที่แต่เดิมให้พรพิรุณไม่มากพอ

อิศยาพรูลมหายใจโล่งอก ใช้มือเย็นเฉียบของตัวเองกระชับลงไปบนมืออุ่นจัดของปัณณ์จากใต้โต๊ะ ไม่ให้สีหน้าแสดงพิรุธหรือความผิดพลาดมา ถ้าพ่อเธอรู้เรื่องในวันพรุ่งนี้เช้าล่ะก็...ร้านคุณตาได้มีระเบิดลง

ตอนเรียนจบ ลูกสาวก็หนีออกจากบ้าน พองานรับปริญญาผ่าน หลานคนเดียวจะหนีไปไกลกว่านั้น อิศยาอดเห็นใจคุณขจรไมได้ เอาเป็นว่าเธอจะดึงคนจากทางดีเอสมาช่วยร้านคุณตาที่นี่ รอจนกว่าสวีทเมจิกเกิดขึ้นจริงเมื่อไหร่ เธอนี่แหละจะจับร้านทุกร้านไปรวมตัวกันที่นั่น

สำหรับพรพิรุณ การช่วยให้เพื่อนได้เดินตามสิ่งที่ต้องการเหมือนที่ครั้งหนึ่งเธอเองเคยมี อิศยารู้ว่าการมีความฝัน มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน


จดหมายหนึ่งฉบับ กับการออกจากบ้านด้วยประตูปกติ เพียงแต่แอบย่องออกมาพร้อมอิศยา กระเป๋าเสื้อผ้าใบโต กับกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กบรรจุสิ่งสำคัญมาด้วย หนังสือเดินทาง และวีซ่า กับจำนวนเงินอีกนิดหน่อย

ภาพผู้คนเดินกันขวักไขว่ในโดมใหญ่หลายสิบประตู ปัณณ์เข็นรถขนกระเป๋าเดินทางตามผู้หญิงสองคน อิศยาพยักหน้าให้ปัณณ์ไปจองที่เช็คอินให้พรพิรุณก่อน ส่วนเธออยากขอคุยอะไรกับพรพิรุณสักครู่

“จะกลับมาเมื่อไหร่อุ่น อย่าไปนานนักนะ ฉันจะจองที่ในสวีทเมจิกให้” อิศยาจับมือญาติผู้พี่ ที่กลายเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอในเวลานี้ไว้แน่น “สัญญานะว่าจะกลับมา จะหิ้วฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมาด้วยก็ไม่ว่า”

“สามปีพอไหม กลับมางานแต่งงานของเธอพอดี”

อิศยาถลึงตาใส่ใบหน้ายิ้มล้อเลียนของพรพิรุณ แก้มขึ้นสีชมพูอ่อน...คนมาส่งหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลขนาดซองเอสี่ปิดซองแน่นหนาส่งให้พรพิรุณ “ไว้ไปเปิดดูบนเครื่องนะ ถือว่าฉันให้เป็นของขวัญในการโบยบินครั้งแรกของเธอ ไปคนเดียวแบบนี้ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย ไม่มีฉันไว้ให้แขวะ อย่ามาเหงา มีอะไรก็ติดต่อฉันมา ฉันจะเปิดคอมพิวเตอร์บ่อยๆ รอคุยกับเธอ”

พรพิรุณกางแขนออกกว้าง “กอดหน่อยสิ” กลั้นน้ำตาแห่งการจากลาไว้ ภาพที่ใครต่อใครมองว่าเธอเข้มแข็ง แต่ใจจริง ลึกๆ นั้นมีความโดดเดี่ยว เมื่อถึงเวลาต้องเริ่มเดินด้วยตัวคนเดียว พรพิรุณก็เริ่ม...กลัว แต่การตัดสินใจขนาดนี้แล้ว ให้ถอยกลับไป พรพิรุณไม่คิดทำ

อ้อมกอดของอิศยาเติมเต็มความโดดเดี่ยวในใจไปได้มาก อย่างน้อยการจะบินของเธอครั้งนี้ ก็ยังมีคนรอลุ้นว่าเธอจะบินไปได้ไกลแค่ไหน “จะกลับมานะ รอฉันด้วย อย่าแต่งงานโดยไม่รอฉันมาเด็ดขาด”

อิศยาหัวเราะคิก “ถ้าถึงกำหนดแล้วเธอยังไม่กลับมา พี่ปั้นได้ส่งคนไปลากเธอกลับมาแน่ๆ”

“ถ้าติดใจอาจไม่กลับมาง่ายๆ หรอก” พรพิรุณเสียงเริ่มขึ้นจมูก แต่ฝืนไว้ ดึงอิศยามองสุดแขน ยีหัวนุ่มๆ จนยุ่งไปหมด “ถ้ากลับมาช้า ก็ไม่ต้องรอเข้าใจไหม น้องสาว”

“แก่กว่าไม่กี่วันทำเป็นพูด...เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน” อิศยายกนาฬิกาขึ้นดูเวลา ดวงตากลมโตเลิกขึ้น “อีกชั่วโมงครึ่งจะวันเกิดอุ่นแล้วนี่ ตอนนั้นเธอก็คงอยู่บนเครื่อง ไม่รู้พ่อของฉันจะเตรียมอะไรไว้ให้เธอในวันพรุ่งนี้ไหม” บ่นเสียดายแทน

“เก็บไว้ให้ทีนะ กลับมาจะรีบไปทวง”

“เดี๋ยวบินเอาของขวัญไปให้เลย” คนมีคู่หมั้นรวยพูดอย่างใจป้ำ ดวงตาเริ่มฉายรอยเศร้า “สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้านะ...พี่อุ่น” คนเป็นน้องสามวันกล่าวหน้าจริงจัง

พรพิรุณเห็นเวลาเที่ยวบินของเธอเปิดให้เช็คอินได้แล้ว คิดว่าจากกันตรงนี้ ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาเสียทีดีกว่า “ฉันก็ต้องสุขสันต์วันเกิดเธอล่วงหน้าเหมือนกัน ดูแลความฝันของตัวเองให้ดีๆ นะ”

“อืม...จะทำให้มันยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอกลับมาจะต้องตะลึง” กล่าวติดตลก ดวงตาที่มองกันบอกลาโดยรู้ดีว่าถึงเวลาต้องจากลาเสียที

“ถ้าเบื่ออย่าลืมกลับมาเยี่ยมกันบ้างนะ...โชคดีนะอุ่น” พรพิรุณยีหัวคนที่ในอดีตเธอเคยมองเป็นศัตรูคู่แข่งมาตลอดด้วยหัวใจที่เปิดกว้างขึ้น ที่ผ่านมาเธออยู่ในเงาของความอิจฉา อยากมีในสิ่งที่อิศยามีมาเสมอ ทำให้ตัวเองวิ่งไล่ตลอดเวลาได้ไม่หยุด วันนี้พรพิรุณพบทางที่ตัวเองต้องการแล้ว และในอดีตที่ผ่านๆ มากับอิศยา เป็นบทเรียนชั้นเยี่ยมที่ทำให้รู้ว่าเธอมองอิศยาในมุมมองที่ผิดมาเสมอ...ผู้หญิงซนๆ สดใส มองโลกเหมือนเด็ก อยู่กับความฝัน ตรงกันข้าม อิศยาไม่เหมือนเด็ก เพราะเธอไม่ได้แค่ฝัน แต่พยายามเพื่อให้ความฝันเป็นจริง

“ไปก่อนนะ...แล้วเจอกันใหม่” อิศยาเริ่มเบะปาก เดินมาส่งพรพิรุณชั่งน้ำหนักกระเป๋าเรียบร้อย เตรียมเข้าด่านตรวจคนต่อไป พรพิรุณหันกลับมาโบกมือลา มองปัณณ์โอบไหล่อิศยา ในขณะที่อิศยาเริ่มร้องไห้เป็นเด็กน้อย ใช้เสื้อของคู่หมั้นหนุ่มต่างผ้าเช็ดหน้า

พรพิรุณจดจำภาพคนสองคนที่มาส่งเธอไว้ในใจ ตัดใจก้าวต่อไปตามเส้นทางอันไกลโพ้นของเธอ ผ่านด่านตรวจคน ตรวจสัมภาระ พรพิรุณไม่ลืมที่จะหยิบซองจดหมายสีน้ำตาลขึ้นมาเปิดขณะที่รอเวลาเรียกขึ้นเครื่องในร้านกาแฟ

การ์ดสีทอง มีคำว่าวีซ่า บัตรกำนัลในโรงแรมดีเอสที่มีอยู่ทั่วโลก และสิ่งสำคัญ สมุดบันทึกการเดินทางของคุณขจร ตัวสมุดเริ่มเก่าไปตามกาลเวลาบ้างแล้ว อิศยาแนบกระดาษเอสี่พับเป็นจดหมายแนบมาด้วย ลายมือเป็นระเบียบเขียนอย่างตั้งใจ

‘ถึง อุ่น...การ์ดรูดสีทอง เธอใช้ให้เต็มที่ หรืออย่างน้อยๆ ก็ไว้ใช้เพื่อความสบายของเธอในการพักในที่ดีๆ กินอาหารได้อร่อยๆ อยากได้ในสิ่งจำเป็น เสื้อผ้าสวยๆ เอาเป็นว่าจงใช้ซะ ไม่ต้องกังวล มันไม่จำกัดวงเงิน ช่วยคุณปุณนาใช้หน่อย แลกกับค่าเหนื่อยที่ฉันยอมอุตส่าห์เข้าไปช่วยงานท่าน เข้าใจที่ฉันเขียนมาใช่ไหม จงใช้ คือต้องใช้ เธอต้องรับรู้การโดนคุณแม่ท่านหลอกนะ เธอต้องช่วยฉันแก้แค้นด้วยการใช้เงินเหล่านี้’

พรพิรุณส่ายหัวให้กับความคิดประหลาดของอิศยา ทุกวันนี้อิศยาก็ยังสนุกกับการเล่นเกมลับสมองกับคุณปุณนา แต่ส่วนใหญ่ อิศยาก็ยังพ่ายให้กับทางนั้นเสมอ ภาระที่รับจากทางดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่จึงรับหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะฝากร้านไว้กับเชฟฝีมือดีหลายคน แต่อำนาจการบริหารคุณปุณนาแทบจะยกมาให้ว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรดดูแล

พรพิรุณเริ่มไล่สายตาอ่านต่อ ‘บัตรกำนัลพวกนี้ ใช้ได้เต็มที่ อยากนอนที่ไหนในดีเอส ตามสบาย ฉันกลัวเธอกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับจริงๆ นะ สุดท้าย ของสิ่งนี้รู้ไหมว่าฉันหวงมากแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันกล้าหนีออกจากบ้าน ก็เพราะว่าอ่านบันทึกการเดินทางของพ่อ การทำในสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง มันมีความสุขจริงๆ นะ ฉันยกให้เธอ เดินไปตามสิ่งที่เธอต้องการ มุ่งหน้าไปให้ถึง ในสมุดบันทึกของพ่อ บอกร้านดีๆ ที่ท่านเคยไปมาเยอะแยะ เธอเริ่มเดินตามร้านในสมุดบันทึกนี้ดูก็ได้ คนในบันทึกที่พ่อกล่าวถึง อาจจะยังมีชีวิตอยู่...สุดท้ายนี้ ดูแลตัวเองดีๆ แล้วเรากลับมาสู้กันใหม่ ต้องกลับมานะ สุขสันต์วันเกิด คนแก่กว่าฉันสามวัน...หนูย่าของพี่ปั้น’

กระดาษเอสี่สีขาวถูกพับเก็บตามแนวยาวเดิมเข้าซอง นึกหมั่นไส้คำลงท้ายจดหมายขึ้นมา คนมีความรักทำให้ดูสดใสกว่าที่เคยเป็น พรพิรุณยิ้มขัน

การ์ดรูดสีทองถูกหยิบมาดู และเก็บใส่ไว้ในกระเป๋า เธอจะไม่ทำให้อิศยาผิดหวังในการใช้เงิน และของสมนาคุณจากทางดีเอส สิ่งสุดท้ายสมุดบันทึก ลายมือที่อ่านยากยิ่ง บันทึกเป็นภาษาอังกฤษ และไทยตามอารมณ์คนเขียน มีภาพถ่ายติดประกอบ ถูกเปิดผ่านๆ เมื่อเสียงเรียกขึ้นเครื่องของเธอดังขึ้น

พรพิรุณเก็บของเข้าที่ ลุกขึ้นยืน กวาดสายตามองบ้านเกิดของตัวเองด้วยความกังวลแปลกๆ อีกนาน พรพิรุณรู้สึกว่ากว่าเธอจะมีโอกาสได้กลับมาที่นี่ อีกนานหลายปี

ทางข้างหน้าไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นนับจากวันนี้ไป...มันคือการผจญภัยของเธอ ทางที่เธอเลือกเอง

ร่างเพรียวสูงเดินหันหลังให้กับบ้านเกิด มุ่งหน้าไปยังเครื่องนกยักษ์ ที่พร้อมจะติดปีกพาเธอไปผจญเรื่องราวมากมาย ที่เธออาจไม่รู้ตัว แต่นับจากวินาทีนี้ โชคชะตาได้ลิขิตให้ชีวิตของพรพิรุณเปลี่ยนแปลงจากเดิม...ไปตลอดกาล


เอ๊ะ...นั่นมันผู้หญิงตัวแสบที่บังอาจราดวานิลลาใส่หน้าเธอ องศารีบหันหลังใส่ รอให้พรพิรุณเดินกลืนหายไปกับฝูงชน นึกเข่นเขี้ยวเล็กๆ ที่โลกนี้ช่างกลมเหลือเกิน

อุตส่าห์เร่งให้พลเดินทางเร็วขึ้น ยอมโดดงานรับปริญญาของอิศยา แต่ที่ไหนได้ ปล่อยให้เธอรอแกร่วอยู่ในดิวตี้ฟรีนานเกือบชั่วโมง อีกสิบนาทีเครื่องจะออก พลยังไร้วี่แววว่าจะมาถึง

หรือเขาจะไม่มา...องศาหน้าเสียทันตา เสียงประกาศขึ้นเครื่องซ้ำไปมา หญิงสาวเดินหน้าไปอย่างเหงาหงอย ในใจคิดว่าใครอีกคนคงไม่มาแน่แล้ว

ไม่ถึงห้านาทีองศาก็เดินขึ้นเครื่องบินลำเล็ก สายตาไล่มองหาที่นั่งของตัวเอง แต่ใครบางคนที่นั่งหลับตาสนิท ไม่สนใจเสียงประกาศใดๆ ทำให้ใจห่อเหี่ยวขององศาพองฟูขึ้น...เขามารอบนเครื่องก่อนหน้าเธออีก

มีการขยับเคลื่อนไหวที่เก้าอี้นั่งตัวข้างๆ ชายหนุ่มพูดโดยไม่ลืมตา “ชักช้าจังเลยนะ”

“รอใครแถวนี้อยู่ที่ดิวตี้ฟรีนานค่ะ”

“รอเองนะครับ”

องศามองค้อนคนพูดให้เธอดูโง่ ความอดทนสำหรับองศาต่ำเตี้ยมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว “ถ้าฉันไม่ชอบคุณ ฉันจะรอคุณทำไม”

อาการนิ่งสงบ หลับตาเหมือนไม่รับรู้ไม่ต่างจากการบั่นทอนความรู้สึกขององศา หญิงสาวเลือกเก็บความพ่ายแพ้ไว้ในใจ เลือกมาช่วงชิงหัวใจของคนที่มีใครอื่นมานานนับตั้งแต่หลายสิบปีก่อน...แต่หัวใจที่มั่นคงดุจดั่งภูผา และความหวังดีต่อคนที่รักดังอากาศอบอุ่น นั่นไม่ใช่เหรอที่เธอปรารถนา หวังไปว่าสักวัน เธอจะพบมันจากเขา


การเดินทางที่ไม่เคยเหลียวหลังรอใคร ออกก็ออกก่อน ปล่อยให้ใครอยากรอก็รออยู่อย่างนั้น อีกครั้งพลนั่งรถของบริษัทออกมาโดยไม่รอองศา ใจหนึ่ง เขาอยากให้เจ้าหล่อนได้ตัดใจเสียที

รถแล่นออกมาได้พักใหญ่ จวนจะถึงโรงแรมที่พักของทางดีเอส ความรู้สึกผิดก็เข้าจู่โจม แล้วถ้าเกิดองศายังเฝ้ารอเขาอยู่ในสนามบิน เหมือนที่รอในประเทศไทยล่ะ

“กลับรถไปที่สนามบินทีได้ไหมครับ ผมลืมบางอย่างไว้ที่นั่น”

คนขับรับคำ ไม่ได้ถามว่าของสิ่งนั้นเป็นอะไร แต่ที่แน่ๆ คือไม่คิดว่าจะเป็น...คน

พลออกมายืนนิ่งอยู่หน้ารถช่วงนาที บางทีองศาอาจนั่งรถแท็กซี่ออกไปแล้วก็ได้...แล้วถ้ายังล่ะ

หนุ่มตี๋เดินเข้าไปด้านในสนามบิน ผู้คนเดินกันประปราย ในช่วงเวลาที่ท้องฟ้ายังมืดอยู่แบบนี้ ว่าแต่องศาไปอยู่ที่ไหน

เสียงกระเป๋าลากหยุดลงจากทางด้านหลัง พลหันตัวไปทันควัน ภาพผู้หญิงผมสั้น เชิดหน้าเล็กน้อย ไม่มีอาการขึ้งโกรธ ตีโพยตีพาย เอ็ดตะโรอย่างในอดีต นอกจาก “ฉันรอคุณตั้งนาน ในที่สุดคุณก็กลับมารับฉัน”

พลถอนหายใจ ไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกโล่งอกกับการได้พบหน้าองศา...อย่างน้อยก็รู้ว่ายังรอ

“ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่รอผมได้ไหม”

องศามองสำรวจใบหน้าคนเอ่ยคำให้เธอรอ ณ เวลาที่ออกมาทันเห็นแผ่นหลังก้าวขึ้นรถไปโดยไม่รอ ตอนนั้นองศาเกือบจะรู้ถึงความหมดหวังในการเอาชนะใจของพล แต่เขากลับมา...กลับมาโดยมีคำว่าความหวังฝากมาให้เธอ

“จะรอ...เหมือนที่ครั้งหนึ่งคุณเคยรออิศยา”

พลนึกถึงความหลัง เวลาแห่งการรอคอย มันทรมานเสมอ โดยเฉพาะการรอแบบไร้ที่สิ้นสุด “ถ้ายังรอไหว จะไม่นานขนาดนั้น”

หญิงสาวยิ้ม ในขณะที่พลก็ยิ้มตอบ ชายหนุ่มรู้สึกตั้งแต่เห็นองศายังรออยู่ที่นี่ในตอนที่เขากลับมารับ

อีกไม่นานหรอก...ถ้ายังรอ หัวใจของเขาคงพร้อมรับใครสักคนได้ เขาไม่อยากรักใคร เพื่อแทนที่ใครอีกคน เวลาที่ขอ ก็เพื่อให้เขารักใครได้ใหม่ รักในสิ่งที่คนนั้นเป็น


ห้าปีต่อมา


อิศยา พาติชิเย่สาวที่กลายเป็นคนดัง ขวัญใจสาวกขนมหวาน ในวันนี้ร่างที่เคยผอมแห้ง เริ่มมีน้ำมีนวลมากขึ้น ผิวขาวในชุดเชฟสะอาดขับให้ดูสว่างขึ้นเท่าตัว เสียงการสอนทำขนม เดินตรวจผลงาน และสุดท้ายคือการกล่าวสรุป

“วันนี้จบการสอนทำเครปญี่ปุ่นค่ะ มีอะไรถามหลังไมค์ได้เลย” รอยยิ้มบนหน้าโปรยออกไปได้หวานยิ่งกว่าขนมชนิดไหน นักเรียนเรียนทำขนมครึ่งหนึ่งล้วนเป็นชายหนุ่มที่อยากมาเรียนกับคนดัง คนเก่ง ที่สำคัญ สวย

คนที่บอกถามหลังไมค์ได้คือการถามที่ไม่ได้ตอบเอง เจนจิรากับร้อยกรองกลายมาเป็นคนติดตามของอิศยา คอยเป็นมือซ้ายมือขวาดังที่คุณขจรเคยบอกมา ร้านคุณตาคุณยายของเธอมีลูกศิษย์มือหนึ่งของเธอดูแลอยู่ ลูกศิษย์คนแรกที่อิศยามีนับตั้งแต่เปิดร้านมา หนึ่งในเพื่อนของเจ้าปุณณ์ อาทิตย์หนึ่งเธอจะกลับไปเติมพลังที่นั่นสักครั้ง ปลีกตัวจากงานเท่าภูเขากองโตจากสวีทเมจิก

อิศยาเปลี่ยนชุดเป็นชุดเอี๊ยม มองตัวเองในกระจก สำรวจความเรียบร้อย ตัดสินใจเดินออกไปตรวจงาน ร้อยกรองเดินถือแฟ้มตามเจ้านายคนเก่งอย่างรู้ใจ

“ร้านฟองดูว์จากฝั่งยุโรปที่เราขอให้มาเปิด ตอบตกลงแล้วนะคะ อีกสามเดือนจะมาเปิดร้านได้” ร้อยกรองคอยเดินตามติดอิศยาไม่ให้ห่าง คนซนชอบคิดเร็วทำเร็ว ปล่อยให้คลาดสายตาไปแปบเดียว ได้หายไปจากสายตา เจนจิรามัวแต่จัดการเตรียมการสอนรอบบ่าย “ส่วนงานขนมไทยย้อนยุคที่จะจัดตอนอาทิตย์หน้าพี่สรุปรายละเอียดมาให้น้องย่าดูแล้ว”

“ย่าไม่ดูหรอกค่ะ มีทั้งพี่กลอน ทั้งยายดูแลให้อยู่ย่าจะต้องกังวลทำไม” อิศยาเกาะราวระเบียงที่โค้งเป็นวงกลมจรดกัน พื้นที่ใหญ่เจ็ดชั้น หญิงสาวไล่สายตามองความฝันของตัวเองที่มีปัณณ์เป็นผู้ก่อสร้างให้ด้วยรอยยิ้ม สามชั้นล่างเป็นอาหารคาว และขนมหวาน เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าที่มีรสอาหารเจ้าอร่อยได้มาเช่าไปในราคาที่ถูก ไม่เน้นกำไร

ชั้นสี่จะเป็นพื้นที่มีไว้สำหรับจัดงานเทศกาลต่างๆ ทั้งคาวและหวาน การจัดแสดงของอร่อยจากต่างประเทศ และในประเทศ ชั้นห้าและชั้นหก คือการจัดหาร้านขนมดังจากทั่วโลกมารวมไว้ที่สองชั้นนี้ แน่นอนว่าร้านคุณตาของพ่อเธอ และดีเอสแกรนด์เบเกอร์รี่ก็อยู่ในชั้นหก
ส่วนชั้นสุดท้าย ชั้นเจ็ด เป็นที่ขายอุปกรณ์ทำขนมครบครัน มีพื้นที่สำหรับเปิดสอนทำขนมหวาน และของคาว วันไหนว่างๆ คนที่มาสอนเองก็คืออิศยา

ผู้ก่อตั้งสวีทเมจิก กับฉายาที่คนทั่วไปตั้งให้ ผู้หญิงมีเวทมนตร์

กลิ่นหอมหวานของขนม และเสียงหัวเราะมีความสุขของคนที่มาสวีทเมจิก ใบหน้าของทุกคนล้วนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“คุณปัณณ์มาแล้วค่ะน้องย่า” อิศยาเองก็มองเห็น ผู้ชายร่างสูงบนบันไดเลื่อน กำลังขึ้นมาถึงชั้นเจ็ดนี้แล้ว เขา...ผู้ครอบครองความฝันทั้งหมดของเธอ

ปัณณ์หันมาโบกมือให้เธอไหวๆ เดินเร็วเข้ามาใกล้เหมือนเด็กน้อยที่ได้กลับบ้าน

ไม่เจอกันสองเดือน...แต่ความคิดถึงของเธอไม่เคยลดน้อยลง

เขาจะว่าอะไรไหมที่เธอไม่วิ่งเข้าสู่อ้อมกอดเขาอย่างทุกครั้งที่ต้องจากกันไปนานๆ เพราะการทำงานของเขา

แต่พี่ปั้นจะว่าเธอไม่ได้หรอก...ก็ปั้นน้อยสี่เดือนในท้องของเธอ จะทำให้เขาพูดไม่ออก เธอรอคอยเวลาที่จะบอกข่าวดีนี้ต่อหน้าเขาทุกวัน

ปัณณ์กอดร่างภรรยาสุดรักสุดหวงไว้แน่น นับวันรอทุกครั้งที่ต้องไปดูแลงานถึงต่างประเทศ แต่วันนี้เขารู้สึกรอยยิ้มบนหน้าอิศยามีความแปลกแฝงอยู่

“พี่ปั้นคะ คือว่า...”

ถ้าหากเปรียบอิศยาเป็นผู้หญิงมีเวทมนตร์ เวทมนตร์ทั้งหมดของอิศยาจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่เป็นเจ้าของเวทมนตร์ทั้งหมด...เจ้าของหัวใจ ดังภาพวาดบนกำแพงในร้านคุณตาคุณยายที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของสวีทเมจิก

ดินแดนแห่งความหวาน ที่กำลังอบอวลไปด้วยความรักที่เพิ่มมาอีกหนึ่ง...ได้เกี่ยวหัวใจของทั้งคู่ ให้ความหวานตราตรึงในใจไม่มีวันเสื่อมคลาย...Sweet Magic


จบบริบูรณ์




ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2556, 00:02:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.พ. 2558, 22:13:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 2192





<< ทบทวนความทรงจำ (ตอนจบ)   
ปวรา 11 ต.ค. 2556, 00:04:13 น.
จบจริงๆ แล้ว ค่ะ ใจหายมากๆ อยู่กับเรื่องนี้มาได้ครึ่งปี เริ่มเขียนตอนกลางเดือนพฤษภา เปลี่ยนพล็อตไปหลายรอบ แล้วก็ส่งไปเข้าร่วมค่ายเรื่องเล่านิยายรักของแจ่มใส ได้เข้าใกล้ความฝันมากขึ้นก็เพราะเรื่องนี้ เลยรักมากเป็นพิเศษ เป็นเรื่องยาวเรื่องที่สามที่เขียนจบ แต่สำนวนก็ยังเด็ก ต้องรีไรท์อีกครั้งใหญ่มากค่ะ เรื่องนี้ใครหลายคนอาจไม่ชอบ เพราะหวานเกินไป ฮา แต่พี่นักเขียนที่ช่วยดูให้ สอนไว้ว่า เขียนไปเถอะ ยิ่งถ้าเราโตขึ้นมาก เราจะมาเขียนนิยายหวานๆ แบบนี้ไม่ได้อีก เลยจัดเต็ม คนเขียนเองก็น้ำตาลขึ้นค่ะ อยากรู้ในวันที่เขียนไปอีกหลายๆ เรื่อง กลับมาอ่านเรื่องนี้ จะได้รู้ โอ้ว เราเคยเขียนแบบนี้ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภูมิใจที่สุด ถึงจะยังไม่รีไรท์ คาดว่าตอนจบมดกัดจะไปเกลาให้ดีๆ เลย ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ เรื่องหน้าของอุ่น บอกได้เลยว่าจะลดความหวานลง ดราม่ามากขึ้น แต่ไม่ทิ้งคอนเส็ปต์รสหวานแน่นอน บอกชื่อเรื่องเลยนะคะ จะได้รอกัน Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก เป็นหนึ่งในตระกูลรสหวาน ไว้ถ้ามีข่าวดีของเรื่องสวีทเมจิกเมื่อไหร่จะมาบอก แต่อาจจะอีกนาน หรืออาจไม่มี ฮา ต้องโดนพี่ๆ น้องๆ ช่วยกันเทรนด์อีกมาก แต่จะพยายามต่อไปค่ะ เป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ^_^

คุณ Auuuu เอาไว้พาคุณแม่ไปโผล่ในตระกูลรสหวานเรื่องอื่นด้วยค่ะ คุณแม่เด็ดจริง

คุณ ร้อยวจี สองตอนสุดท้ายให้หวานหนักกันเต็มที่ค่ะ แต่บทพิเศษหวานน้อยๆ แต่อยากให้เห็นถึงการเปลี่ยนของแต่ละคน

คุณ wind ถ้ามีเรื่องต่อๆ ไปคงไม่กล้าเขียนหวานขนาดนี้แล้วค่ะ ฮา

คุณ ariesleo ขอบคุณที่ชอบนะคะ ^_^

คุณ OhLaLa ตอนนี้พาสวีทเมจิกมาแลนดิ้งอย่างสวยงามแล้วค่ะ หวานไม่มากกำลังดี  ดีใจที่ชอบประโยคนั้นค่ะ

คุณ icewinter ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามกันมาตั้งแต่ตอนแรกนะคะ ขอบคุณจริงๆ

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ อย่าเพิ่งความดันขึ้นค่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงตามอ่านอุ่นต่อ ฮา ไม่มีหวานขนาดสองบทติดแบบนี้แล้วแน่

ขอบคุณที่ตามกันมาตลอดไม่ได้ขาด ไม่ว่าจะคนที่เมนท์ ไลค์ หรือแค่คนที่ผ่านมาอ่านแล้วจากไป แค่นั้นก็ทำให้คนเขียนคนนี้มีความสุขแล้วค่ะ หวังว่าความหวานจะตราตรึงใจใครบ้างนะคะ แล้วมาดราม่า เอ้ย มาหวานกันต่อที่ Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก ขอไปคิดพล็อตก่อนนะคะ อยากดราม่าบ้าง อิอิ จะพาพี่ปั้นหนูย่าไปทักทายที่เรื่องนั้นให้หายคิดถึงกันบ้าง แล้วพบกันใหม่ค่ะ



Auuuu 11 ต.ค. 2556, 00:30:48 น.
อร๊ายยยย น่ารักนะคุณพระเอก กรี๊ดกร๊าดมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ จะรอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ :)


นักอ่านเหนียวหนึบ 11 ต.ค. 2556, 00:37:53 น.
จบแบบหวาน นวลๆ กันไป น่ารักคะ หานิยายเบาๆ หวานๆ อ่านเพลินๆ ดีๆ แบบนี้ยากจิงๆ คือเค้าเป็นพวกนิยมอ่านของฟรีอ่าาาา 555
ติดตามต่อนะค้า เป็นกำลังใจให้^_^


ariesleo 11 ต.ค. 2556, 02:43:41 น.
เป็นกำลังใจให้ค่ะ


ร้อยวจี 11 ต.ค. 2556, 03:04:44 น.
ชอบจนต้องกลับไปอ่านอีกรอบ เรื่องต่อไปอย่านานนักนะคะ รอค่ะ ไม่ค่อยอยากให้ดราม่ามาก กลัวเรื่องเศร้า ชอบแบบหวานที่เวลาอ่านไปแล้วยิ้ม มีความสุขมากค่ะเวลาได้อ่านเรื่องแบบนี้ แล้วถ้าทำเป็นหนังสือ ก็มีเรื่องของหนูย่ากับหนูอุ่นอยู่ในเล่มเดียวกันก็ได้ เวลาอ่านจะได้ไม่ขาดตอนนะคะ ขอบอกชอบมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายรสหวานๆ ค่ะ


icewinter 11 ต.ค. 2556, 07:26:54 น.
ต้องขอบคุณไรเตอร์มากๆนะคะ ที่แต่งนิยายดีดีให้อ่านทุกวันเลยค่ะ. คอยเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์รอเรื่องต่อไปนะคะ. ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


OhLaLa 11 ต.ค. 2556, 07:41:22 น.
ขอบคุณไรท์เตอร์ที่แบ่งปันนิยายสนุกๆ อ่านแล้วมีความสุขจังค่ะ จะรอฟังข่าวดีของสวีทเมจิคนะคะ และจะติดตามผลงานเรื่องต่อๆ ไปค่ะ


อัศวินนภา 11 ต.ค. 2556, 07:53:18 น.
เรื่องน่ารักมาก อ่านแล้วไม่เครียดเลย ยิ้มตามได้ตลอด เป็นกำลังใจให้นะคะ


ปวรา 11 ต.ค. 2556, 14:02:35 น.
คุณ Auuuu ขอไปรีไรท์เรื่องนี้ให้เสร็จ แล้วจะรีบกลับมานะคะ :)

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ดีใจที่ยังชอบเรื่องแนวนี้นะคะ ต้องแรกก็แอบหวั่นว่าจะมีคนอ่านแนวนี้ไหม ^_^ แล้วจะเอาเรื่องใหม่มาอัพนะคะ รอรีไรท์เรื่องนี้ก่อน

คุณ ariesleo ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ^_^ เรื่องหน้าเจอกันใหม่น้า

คุณ ร้อยวจี อ่านข้างบนแล้ว ทำให้กลับมาคิดว่า หรือเราจะใช้สไตล์หวานเป็นหลัก ฮา วางชุดสวีทไว้สามเรื่องค่ะ แต่ยังไม่ได้คิดพล็อตอีกสองเรื่อง เลยไม่รู้แนวทางว่าจะวางไปทางไหน รีไรท์เรื่องนี้ไม่เสร็จ เลยยังคิดไม่ออก >_< เอาเป็นว่าจะให้หวานคนละสไตล์ ให้เป็นนิยายฟีลกู้ด ใครๆ ก็อ่านได้นะคะ เป็นนิยายรสหวาน ขอบคุณที่ชอบมากนะคะ คนเขียนซึ้งสุดๆ ^_^

คุณ icewinter ได้รับกำลังใจมาเก็บไว้เต็มที่เลยค่ะ เจอกันเรื่องอุ่นนะคะ ไม่รู้จะมาทุกวันได้เหมือนเรื่องของหนูย่าไหม >_<

คุณ OhLaLa ข่าวดียังไม่มีกำหนด ฮา คนเขียนคนนี้ยังต้องพัฒนาอีกเยอะค่ะ ถ้ายังไม่ดีที่สุด จะไม่ส่งให้สำนักพิมพ์พิจารณาเด็ดขาด ไว้รอเรื่องหน้านะคะ จะมาให้ไว ไม่ต้องรอนานกัน

คุณ อัศวินนภา ดีใจที่ชอบค่ะ ไม่อยากให้คนที่อ่านเครียดกัน ดีใจที่ยิ้มได้กับนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^_^

ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้ และรอเรื่องใหม่นะคะ จะกลับมาให้เร็วที่สุด ขอไปรีไรท์เรื่องนี้ก่อน :) ได้รับกำลังใจจากทุกคนเลยนะคะ


ภัทรภิญญ์ 16 ต.ค. 2556, 23:09:57 น.
มาบอกว่า...อ่านจบแล้วนะ
แอบอ่านของคนอื่นๆในค่ายไปก่อนเพราะของน้องออมจะได้อ่านรวดเลย
รู้สึกว่ามันสดใสอะ อ่านแล้วสดชื่น อ่านไปยิ้มไป ตัวละครน้องออมน่ารัก แม้จะรู้สึกว่าเยอะมากก็ตาม แต่ทุกคนก็มีบทบาทมีชีวิตของตัวเองเนอะ
มีคำผิดบ้างบางจุด แล้วก็มีบางส่วนที่รู้สึกว่ามันยาวๆ น่าจะตัดให้กระชับได้เหมือนที่บทนำ (อดีตบทนำสินะ) ตัดมากระชับ
เท่าที่มายังไม่มีจุดไหนเด่นชัด แต่แอบรู้สึกว่าเรื่องของพลกับองศาออกจะรวดเร็วเหลือเกิน เอาจริงๆว่าปักใจมานานขนาดนั้น บางที...มันยากเนอะ ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นของพี่ปั้นกับน้องย่า แต่พอจะพูดถึงพลกับองศามันก็ตัดไปตัดมาแล้วตัดสินใจกันด่วนมากเลย
ตอนคลายปมตอนสุดท้ายเหมือนรีบๆนะ เรื่องของพลก็ด้วย รวมอยู่ในช่วงรีบเลย เพราะว่าความสัมพันธ์มันซับซ้อน อันที่จริงค่อยแก้ก็ได้ จะติดอยู่ที่น้องออมชอบบรรยาย ก็ชอบอ่านนะ แต่บางทีอาจจะเยอะหรือเปล่า เรื่องขนมก็ชอบนะ อ่านแล้วหิวดี 5555+ พี่เข้าใจว่ามันจะยาววววววไป ฮาา

ไว้มีเวลาเดี๋ยวจะมาอ่านละเอียดให้อีกทีละกัน หรือรีไรท์เสร็จแล้วส่งมาให้เช็คก็ได้นะ เทอมนี้ค่อนข้างว่าง ฮาา :) เอาไว้ว่างๆจะไปหาที่มอนะจ๊ะ อิอิ

ปล. พี่ปั้นน่ารักแต่ยกให้หนูย่า พี่ภึมก็น่ารักให้อุ่นไปเถอะ แต่น้องปูนเนี่ยพี่ขอ 555+


ปวรา 17 ต.ค. 2556, 01:35:52 น.
ขอบคุณค่าพี่ลูกฟูก ออมยังต้องปรับอีกมโหฬารจริงๆ พิมพ์ผิดเยอะ โดยเฉพาะที่ลงในนี้ เป็นฉบับที่ยังไม่ได้แก้ ณ ตอนนี้ก็ยังแก้ไม่ถึง T^T ไว้ส่งฉบับรีไรท์ไปให้อ่านนะคะ ขอบคุณมากกกก


ผักหวาน 21 พ.ย. 2556, 13:33:43 น.
หนูย่ายังไม่บอกไรเลย ต้องมีพรายกระซิบบอกแน่ๆ ว่ามีปั้นน้อยในพุงหนูย่า 555


wane 14 ธ.ค. 2556, 09:45:28 น.
เพิ่งได้อ่านผลงานของไรเตอร์ค่ะ สนุกและน่ารักมากๆ ชอบมากๆ ด้วย เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆ ต่อนะคะ ขอให้ผลงานนี้ได้ตีพิมพ์นะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account