นางฟ้าล่ารัก โดย เทเรน่า
เพราะความที่กรองขวัญอยากเอาชนะมณีมาลาคู่ปรับตลอดกาล
เธอจึงลุกขึ้นเปลี่ยนตัวเองจากผู้ที่ยอมแพ้....มาเป็นผู้ล่า....
และเป้าหมายก็คือ พิชิตหัวใจหนุ่มหล่อมหาเศรษฐีปากร้ายอย่างตุลธร….ให้ได้!!

เรื่องราวระหว่างเขาและเธออาจจบลงได้ด้วยดี
หากความรักครั้งนี้...ไม่ใช่เพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น

ที่ผ่านมา กรองขวัญ มักตกเป็นรองและพ่ายแพ้ให้กับ มณีมาลา อยู่เสมอ
คนรักของเธอถูกหล่อนแย่งไป...ทิ้งเพียงความเจ็บปวดร้าวรานไว้ให้
และวันนี้ ตุลธร หนุ่มหล่อมหาเศรษฐีปากร้ายคือเป้าหมายใหม่ของคู่ปรับ
ฉะนั้น กรองขวัญจึงลุกขึ้นเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ให้กลายมาเป็นผู้ล่า...
เพื่อพิชิตหัวใจของตุลธร...และเอาชนะมณีมาลา

เรื่องราวระหว่างเขาและเธออาจจบลงได้ด้วยดี
หากความรักครั้งนี้...ไม่ใช่เพียงละครฉากหนึ่ง
และแผนการนี้ไม่ได้ถูกนำมาตีแผ่...
ความรักที่เริ่มก่อตัวจึงพังทลายลงไม่เป็นท่า
ความหวานชื่นกลับกลายเป็นขม...ความรักกลับกลายเป็นความแค้น
เมื่อความรักไม่ได้เริ่มต้นด้วยใจอันบริสุทธิ์
ผลที่ตามมาจึงมีแต่ความเจ็บช้ำที่จำต้องยอมรับ
สุดท้าย...เขาและเธอจะทำเช่นไร
แล้วความรักครั้งนี้ใครเป็นคนล่าหัวใจใคร...
ติดตามบทสรุปของภารกิจล่ารักที่สุดแสนชุลมุนนี้ได้ใน...นางฟ้าล่ารัก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 1 40%

เบื้องหน้าที่ปรากฏแก่สายตาคือผืนหญ้าสีเขียวสดสุดลูกหูลูกตาจรดกับภูเขาลูกใหญ่ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ เนินดินเป็นลูกคลื่นมีหญ้าสีเขียวอ่อนแกมเหลืองขึ้นปกคลุม ม้าสีน้ำตาลเข้มตัวใหญ่ขนเรียบกำลังย่างเหยาะมาตามเนินดิน บนหลังของมันคือเจ้าของร่างบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตลายทางสีเขียวเข้มสลับขาวและกางเกงสีดำแบบแนบเนื้ออวดเรือนร่างสวยสมส่วน ใบหน้าอ่อนเยาว์เชิดขึ้น ยามเมื่ออยู่บนหลังม้ามีคนบอกว่าหญิงสาวเหมือนเจ้าหญิงผู้งามสง่า
หลังลงจากเนินดินลูกสุดท้ายหญิงสาวผ่อนจังหวะการก้าวเดินของม้าด้วยการรั้งบังเหียนไว้ มุ่งหน้าไปยังไร่องุ่นที่กำลังออกลูกอ่อนและแก่สลับไปตลอดสองข้างทาง
เสียงคนงานร้องทักเธอเป็นระยะ
“มาแต่เช้าเลยนะครับนายหญิง”
เจ้าของสรรพนาม ‘นายหญิง’ สอดปลายเท้าเข้ากับโกลนแล้วตวัดขาอีกข้างโหนตัวลงมายืนอยู่บนพื้น ส่งเชือกให้คนงานเอาตัวม้าตัวโปรดของเธอไปผูกให้เล็มหญ้าอยู่อีกมุมหนึ่ง ส่วนตัวเธอก็สาวเท้ายาวๆ มาถึงเข่งองุ่นลูกโตสีม่วงจัดแล้วหยิบขึ้นมาดู
“หลังเก็บแล้วตัดแต่งกิ่งใหม่ให้มันแตกยอดด้วยนะลุง” เธอวางพวงองุ่นไว้ที่เดิมแล้วเดินลึกเข้าไปในแปลงองุ่นที่ทอดเครือพาดพันไปยังหลักให้ร่มเงาไม่ร้อนแดด
ไร่องุ่นของเธอแบ่งเป็นหลายส่วน ปลูกไม่พร้อมกันเพื่อให้มีผลผลิตตลอดทั้งปี โดยแบ่งช่วงห่างลงผลผลิตใหม่ทุกๆ สามถึงสี่เดือน
“นายหญิง ปีนี้องุ่นลูกโต๊โตค่ะ”คนงานหญิงคนหนึ่งสวมหมวกและพันหน้าไว้เหลือแค่ตาโชว์ผลองุ่นให้เธอดู หญิงสาวใช้นิ้วปลิดมาลูกหนึ่ง ใช้น้ำจากกระติกน้ำของคนงานที่วางตั้งไว้ให้เป็นระยะมาเทล้างแล้วเช็ดกับกางเกงลวกๆ เสร็จแล้วก็หย่อนเข้าปากเคี้ยวครู่เดียวก็พยักหน้าพอใจ
“หวานดี คัดเกรดเอเอาไว้ให้ด้วย จะให้คนงานเอาไปทำไวน์” บอกเสร็จก็เดินตรวจตรางานต่อ ครู่ใหญ่จึงเรียกหัวหน้าคนงานมาพบ
“นายหญิงจะให้ผมลงองุ่นเพิ่มเมื่อไหร่ครับ ชุดแรกที่เราเก็บผลผลิตมันจวนจะหมดอายุขัยแล้ว อีกไม่กี่ปีก็คงได้น้อยลง”
“ที่เรียกนายเข้มมาก็เรื่องนี้แหละ ฉันจะลงพันธุ์โรดไวเรจเอาไว้แทนสายพันธุ์เดิม นายเข้มสั่งให้คนงานเตรียมปรับหน้าดินแล้วก็วางระบบน้ำได้เลย อ้อ…ทำค้างให้สูงแล้วก็หนากว่าเดิมนะ องุ่นพันธุ์นี้ลำมันแข็งแรง” หญิงสาวสั่งงานต่ออีกหลายอย่างจึงนั่งพัก
นายเข้มใช้มีดปังตอเฉาะมะพร้าวน้ำหอมแล้วเสียบหลอดยื่นให้
“น้ำมะพร้าวหอมๆ ครับนายหญิง”
“ขอบใจจ้ะ” หญิงสาวรับมา ดื่มไปอึกใหญ่ รสชาติหวานๆ ของมะพร้าวช่วยคลายร้อนไปได้มาก มะพร้าวต้นนี้อายุมันเกือบสิบปีแล้วแต่ยังออกลูกดกเต็มต้นให้คนงานได้ดื่มน้ำของมันคลายเหนื่อย
“นายใหญ่เป็นอย่างไรบ้างครับนายหญิง พวกเราเป็นห่วงเหลือเกิน” นายเข้มหัวหน้าคนงานที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี ตั้งแต่ที่ปู่ของเธอยังไม่ป่วยด้วยโรคไตวายจนทำงานในไร่ไม่ไหวเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่นั้นมายังไม่เห็นปู่เทพเข้ามาในไร่ซึ่งก็กินเวลาหลายเดือนเข้าไปแล้ว
หญิงสาวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำงานในไร่ตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง เพราะจะหวังพึ่งพิธดนัยพ่อของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนั้นก็คงจะไม่ได้ เพราะพ่อเธอนั้นไม่เคยสนใจงานในไร่มีแต่ใช้ชีวิตฉาบฉวยไปวันๆ ใช้เงินราวกับผลิตแบงค์ได้เองและท้ายสุดก็ติดหนี้พนันหนักถึงขั้นเอาบ้านและที่ดินไปจำนอง
หลังประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อสองปีที่แล้วก็ยังทิ้งภาระหนี้สินไว้ให้เธอตามแก้จนป่านนี้เธอก็ยังใช้หนี้ไม่ถึงครึ่ง และยิ่งซ้ำร้ายหนักเข้าไปอีกเมื่อปู่ของเธอป่วยด้วยโรคไตวายต้องทำการรักษาด้วยการฟอกไตสัปดาห์ละสองถึงสามครั้งแต่ละครั้งก็หลายพันบาท แล้วไหนจะชีวิตคนงานในไร่อีกหลายสิบคนที่เธอจะต้องดูแล
กรองขวัญ สาววัยยี่สิบเจ็ดย่างยี่สิบแปดปีอย่างเธอจึงไม่มีเวลาว่างเป็นของตัวเองนอกจากในยามหลับที่มีแค่ไม่กี่ชั่วโมงในแต่วัน แต่ถึงจะทำงานหนักมากมายขนาดนี้ก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลังกับรายจ่ายที่ดูจะมากกว่ารายรับ
“ก็เหมือนเดิมล่ะจ้ะ ท่านยังต้องควบคุมอาหารและน้ำ คงต้องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีคนบริจาคไตมาให้”
นายเข้มมองหญิงสาวอย่างเห็นใจ เป็นผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวแต่แบกภาระไว้กับตัวมากกว่าผู้ชายตัวโตอย่างเขาเสียอีก
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้มแข็งอยู่แล้ว” กรองขวัญบอกขึ้นเมื่อเห็นสีหน้านายเข้ม เมื่อเขายังทำหน้าเหมือนเดิมอยู่จึงได้หัวเราะแล้วแยกเขี้ยวเห็นฟันสีขาวสวยเรียงเป็นตับแล้วชี้มือมาที่ฟัน “เห็นไหม…ฉันยิ้มออก ยิ้มจนเห็นฟันสามสิบสองซี่เลยด้วย”
นายเข้มหัวเราะขึ้น ไม่ว่าจะแบกเรื่องราวเอาไว้มากมายแค่ไหนแต่หญิงสาวก็ทำให้คนอยู่ใกล้สบายใจเสมอ กลับเข้าบ้านไปเธออาจจะร้องไห้แต่อยู่ต่อหน้าคนอื่นกรองขวัญก็มีแต่เสียงหัวเราะ
“ผมละนับถือนายหญิงจริงๆ”
“ไม่ต้องมานับถืออะไรฉันหรอก ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ถูกกาลเวลาและภาระหน้าที่พรากความสนุกสนานและเวลาเที่ยวเตร่ออกไปจนวิ่งตามมันไม่ทัน แต่ฉันมีความสุขดี มีความสุขที่ได้ดูแลไร่ดวงตะวันของฉัน มีความสุขที่ได้อยู่กับพวกเราทุกๆ คน”
กรองขวัญพูดจบคนงานที่อยู่ไม่ไกลนั้นก็ปรบมือกันเกรียว หญิงสาวจึงหัวเราะขึ้น
“พอแล้ว นี่ไม่ใช่การตอบคำถามนางสาวไทย”
“นายหญิงของพวกเราสวยยิ่งกว่านางสาวไทยอีกค่ะ ถ้านายหญิงไปประกวดต้องชนะแน่ๆ” คนงานหญิงคนหนึ่งที่ค่อนข้างรักสวยรักงามบอกขึ้นทำให้กรองขวัญย่นจมูก
“ไม่เอาล่ะจ้ะแม่กระต่าย อายุยี่สิบแปดอย่างฉันแก่เกินไปที่กองประกวดเขาอยากจะรับ เดี๋ยวพวกนางงามรุ่นสิบแปดสิบเก้าเขาจะมองค้อนว่าป้ามาทำไม” หญิงสาวบอกเสร็จก็ไล่ให้ทุกคนไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ เวลาสี่โมงเช้าแดดเริ่มแรงแหงนขึ้นไปมองฟ้าก็เห็นเปลวแดดเต้นระริก
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าที่เพียงแต่ใช้โทรออกได้กดโทรหาคนที่จ้างให้มาดูแลหาข้าวหาน้ำตามตารางที่เธอทำไว้ให้ปู่ เมื่อปลายสายตอบรับมาจึงถาม
“คุณปู่ตื่นหรือยัง”
“กำลังกินข้าวอยู่ค่ะนายหญิง” ฝ่ายนั้นรายงาน
“ให้ข้าวไปกี่ทัพพี น้ำกี่ซีซี” เธอถามย้ำ เพราะการป่วยด้วยโรคไตวายต้องควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด หากร่างกายอ้วนขึ้นหัวใจก็จะทำงานหนัก เคยมีหลายครั้งที่ปู่เทพดื้อรั้นแอบดื่มน้ำจึงต้องหามส่งโรงพยาบาลกลางดึก ต้องนอนโรงพยาบาลและฟอกไตฉุกเฉินซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายมันมากกว่าฟอกแบบปกติถึงเท่าตัว
“ครึ่งทัพพี น้ำรอบเช้าไม่เกินสามสิบซีซีค่ะ”
“ดีมาก หากคุณปู่จะดื่มน้ำซุปให้ตวงแล้วหักออกด้วย ยาคุณปู่ดูให้ดีนะว่าครบไหม น้ำหลังยาให้ดื่มได้แค่พอกลืนยาลงคอ ดูด้วยนะว่าจนกว่าจะเที่ยงตรงห้ามดื่มน้ำเพิ่ม” กรองขวัญกำชับ
โรคนี้หากใครเป็นก็ทุกข์ทรมานทั้งคนที่เป็นและคนเป็นญาติ อยากกินอะไรก็ไม่ได้กินอย่างใจนึก คนที่ยังไม่เป็นก็ต้องดูแลรักษาทะนุถนอมไตของตัวเองให้ดี อวัยวะทุกอย่างในร่างกายคนเรามีวันเสื่อมถอย
“ค่ะนายหญิง”
“ฝากบอกคุณปู่ว่าฉันจะเข้าไปในไร่ข้าวโพด เย็นๆ ถึงจะกลับแล้วจะพาท่านออกไปเดินเล่น” กรองขวัญสั่งเป็นเรื่องสุดท้ายแล้ววางสาย งานรัดตัวเสียจนหาเวลาว่างให้กับตัวเองไม่ได้ หญิงสาววางสายเสร็จก็เดินไปหาเจ้าฟ้าลั่น ม้าตัวโปรดที่เธอมักใช้เป็นพาหนะเดินทางจากบ้านพักมาที่ไร่ เพราะสะดวกมากกว่าการเดินทางด้วยรถ เหตุเพราะทางลัดมายังไร่องุ่นตัดออกไปไร่ข้าวโพดเป็นเนินดินขึ้นลง
ด้านหน้าของไร่อีกฟากที่ติดถนนใหญ่ เธอจัดซุ้มสำหรับวางขายข้าวโพดต้มสูตรพิเศษสำหรับคนที่เดินทางผ่านไปเป็นซุ้มที่ออกแบบเป็นรูปฝักข้าวโพดทรงป้อม ตัวซุ้มทาสีเหลืองให้ช่างวาดฝีมือดีวาดเป็นรูปเม็ดข้าวโพดเรียงเม็ดสวย ส่วนหลังคาทาสีเขียวเข้ม มองเผินๆ เหมือนข้าวโพดโดนปลอกเปลือก
ไร่ดวงตะวัน อาจไม่ดังเท่าไร่ข้าวโพดสุวรรณที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรไปมาแต่ก็เริ่มเป็นที่รู้จักเพราะเธอต้มด้วยสูตรพิเศษ ใช้เกลือและน้ำตาลผสมใบเตยหอมเข้าไปด้วย นอกจากนี้ยังแปรรูปทำเป็นขนมหลายรูปแบบ ไร่ข้าวโพดดวงตะวันจึงกลายเป็นคู่แข่งที่กำลังมาแรงเช่นเดียวกัน
หญิงสาวสอดปลายเท้าเข้าโกลนแล้วตวัดตัวขึ้นมาบนหลังม้าอีกครั้ง ใบหน้าสวยพราวด้วยเม็ดเหงื่อเมื่อเจอแสงแดดจัดในยามใกล้เที่ยง มาถึงพบว่าหน้าซุ้มกำลังขายดิบขายดี ลูกค้าพูดกันปากต่อปากว่าข้าวโพดต้มจากไร่ดวงตะวันหอมกรอบอร่อย
“เป็นยังไงแป๋ว”
“ขายดีจนต้มแทบไม่ทันเลยค่ะนายหญิง” แป๋ว พนักงานสาวในชุดเสื้อคอโปโลยัดเข้าไปในกางเกงยีนผูกผ้าพันคอลายสก็อตรายงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หญิงสาวพยักหน้าพอใจ เดินไปหยิบบัญชีขึ้นมาดู ยอดรายรับของเดือนนี้มีมากขึ้นก็จริงแต่รายจ่ายก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
“ดีแล้ว ฝากบอกแม่ครัวทีนะ หากใครคิดสูตรขนมใหม่ๆ ได้ฉันจะเพิ่มเงินให้”
“ป้าตาบได้ยินคงดีใจละค่ะ เพราะลูกชายแกป่วยไม่ได้ทำงานมาหลายเดือนแล้ว” แป๋วบอกทำให้หญิงสาวถอนหายใจยาวเหยียด
ทุกคนต่างก็มีความทุกข์เป็นของตัวเอง ถึงเธอจะไม่ได้มีความสุขที่สุดแต่ก็ไม่ใช่คนที่ทุกข์ที่สุด ยังมีคนอีกมากมายในโลกใบนี้ที่ทุกข์มากกว่าเธอ
“ฝากบอกป้าตาบด้วยว่าหากเดือดร้อนอะไรก็บอกฉันได้ อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกัน” กรองขวัญวางสมุดบัญชีลงแล้วบอกขึ้น
แป๋วมองนายสาวอย่างชื่นชมก็เพราะอย่างนี้หญิงสาวจึงเป็นที่รักของทุกคน



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ย. 2556, 22:35:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ย. 2556, 22:35:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 845





   ตอนที่ 1 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account