♥ ♥ ♥ หัวใจร้อยดาว [ชุด ทางลัดสลัดโสด สนพ.อรุณ] ♥ ♥ ♥
อะไรนะ! ถ้าไม่แต่งงานภายในเก้าสิบวัน
เธอต้องขึ้นคานไปตลอดชีวิตเหรอ บ้าไปแล้ว!
ดอกเตอร์ โมนา วิมาลิน อยากอุทานเป็นภาษาต่างดาวชะมัด
แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย
แต่รุ่นพี่ที่เจออาถรรพ์ก็ขึ้นคานกันไปแล้วถ้วนหน้า
เธอจะเสี่ยงเป็นคนต่อไปจริงเหรอ...
นับว่าพระเจ้ายังไม่ใจร้ายจนเกินไป
เพราะท่านส่ง ชัชวิน มาจีบเธออย่างออกนอกหน้า
ตามมาด้วย เมอร์ซิเออร์ โนแอล เดอแบร์มองต์ สุดหล่อ
แถมยังมี เอกชัย เทรนเนอร์หล่อล่ำ
กับ กฤต นักดนตรี อารมณ์ศิลป์มาให้เลือกพร้อมเพรียง
โมนาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
เพราะระหว่างหาทางลงจากคาน
เธอกลับต้องเผชิญปัญหาเรื่องการงานหนักหน่วง
ในท่ามกลางมรสุมที่พัดจนเธอซวนเซ
โมนาจึงได้เห็นความรักของใครบางคน...ชัดเจนขึ้นในหัวใจ
อยากรู้ก็แต่ว่า...อีกฝ่ายจะรักเธอมากพอ
และชวนเธอลงจากคานทันเวลาไหมหนอ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เตรียมยิ้มและหัวเราะไปกับ ดอกเตอร์สาวตัวกลม ที่จะทำให้คุณเข้าใจนิยามของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
หัวใจร้อยดาว - เจ้าสาวร้อยชั่ง ในชุดทางลัดสลัดโสด
เขียนโดย สิริณ - ดวงมาลย์
จ่อคิววางแผงต่อจาก ใต้ปีกรักสีเพลิง เลยค่ะ
เชิญติชมกันได้เต็มที่เช่นเคย
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
www.facebook.com/SirinFC
เธอต้องขึ้นคานไปตลอดชีวิตเหรอ บ้าไปแล้ว!
ดอกเตอร์ โมนา วิมาลิน อยากอุทานเป็นภาษาต่างดาวชะมัด
แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย
แต่รุ่นพี่ที่เจออาถรรพ์ก็ขึ้นคานกันไปแล้วถ้วนหน้า
เธอจะเสี่ยงเป็นคนต่อไปจริงเหรอ...
นับว่าพระเจ้ายังไม่ใจร้ายจนเกินไป
เพราะท่านส่ง ชัชวิน มาจีบเธออย่างออกนอกหน้า
ตามมาด้วย เมอร์ซิเออร์ โนแอล เดอแบร์มองต์ สุดหล่อ
แถมยังมี เอกชัย เทรนเนอร์หล่อล่ำ
กับ กฤต นักดนตรี อารมณ์ศิลป์มาให้เลือกพร้อมเพรียง
โมนาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
เพราะระหว่างหาทางลงจากคาน
เธอกลับต้องเผชิญปัญหาเรื่องการงานหนักหน่วง
ในท่ามกลางมรสุมที่พัดจนเธอซวนเซ
โมนาจึงได้เห็นความรักของใครบางคน...ชัดเจนขึ้นในหัวใจ
อยากรู้ก็แต่ว่า...อีกฝ่ายจะรักเธอมากพอ
และชวนเธอลงจากคานทันเวลาไหมหนอ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เตรียมยิ้มและหัวเราะไปกับ ดอกเตอร์สาวตัวกลม ที่จะทำให้คุณเข้าใจนิยามของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
หัวใจร้อยดาว - เจ้าสาวร้อยชั่ง ในชุดทางลัดสลัดโสด
เขียนโดย สิริณ - ดวงมาลย์
จ่อคิววางแผงต่อจาก ใต้ปีกรักสีเพลิง เลยค่ะ
เชิญติชมกันได้เต็มที่เช่นเคย
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
www.facebook.com/SirinFC
Tags: โนแอล โมนา ขิมคราม รอยตะวัน สลัดโสด
ตอน: ตอนที่ ๑๓ (ครึ่งแรก)
เช้าวันถัดมาโมนาก็ต้องแปลกใจอีกคำรบ เมื่อออกจากห้องนอนแล้วพบแต่ความว่างเปล่า อาหารเช้าที่โนแอลเคยใจดีทำเผื่อไว้หนึ่งชุด มีฝาชีครอบวางไว้บนโต๊ะดังเดิม แต่คนทำหายตัวไปไหนไม่รู้ หญิงสาวอุ่นอาหารเช้ารับประทานอย่างเซ็งๆ จากนั้นเริ่มต้นทำความสะอาดห้อง โมนายู่หน้าด้วยความหมั่นไส้เมื่อพบว่าห้องนอนของผู้เช่าล็อกกุญแจไว้ดิบดี มีเพียงตะกร้าผ้าวางไว้หน้าห้อง พร้อมกระดาษโน้ตเขียนเป็นภาษาอังกฤษด้วยลายมือเรียบร้อย
อาทิตย์ที่แล้วเชิ้ตตัวนึงซักปลายแขนเสื้อไม่สะอาด
ผมไม่ใส่นะ ช่วยซักใหม่ให้ด้วย ขอบคุณมาก
โมนาอยากจะหยิบผ้าขึ้นมาบิดแล้วจินตนาการว่ากำลังหยิกพ่อคนเรื่องมากให้สาแก่ใจนัก สั่งเอาๆราวกับเธอเป็นคนรับใช้ประจำตัวอย่างไรอย่างนั้น กระนั้นเมื่อหยิบเชิ้ตเนื้อเบาตัวหนึ่งขึ้นมาจากตะกร้า หญิงสาวก็ทำรุนแรงไม่ลง เพราะป้ายที่คอเสื้อบอกยี่ห้อแพงระยับ
โมนาจับเชิ้ตวางคืนที่เบามือ แล้วยกทั้งตะกร้ามาหย่อนไว้ข้างประตู จากนั้นดูดฝุ่นห้องรับแขก ล้างห้องน้ำ และเช็ดครัว สุดท้ายโมนามานั่งซับเหงื่อที่โซฟา เธอมองนาฬิกา แล้วหยิบโทรศัพท์กดหาโนแอลอีกครั้ง ก็พบว่า...
“ยังไม่เปิดเครื่องอีก! นี่เขาเป็นอะไรมากไหมเนี่ย เมื่อวานก็ทำท่าแปลกๆ วันนี้ก็หลบหน้ากันตั้งแต่เช้าเลย บ้าชะมัด ไม่มีอะไรทำแล้วนะ เบื่อๆๆๆๆ!” โมนาหน้าบึ้ง สุดท้ายจึงตัดสินใจ “ไปฟิตเนสออกกำลังกายก็ได้วะ”
คนที่หนีออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าอยู่ในโหมดที่ไม่ดีไปกว่ากันเท่าไรนัก โนแอลมั่นใจว่าเหตุผลที่เขาไม่อยากพบหน้าเพื่อนร่วมห้อง เป็นเพราะวางหน้าไม่ถูกแน่นอน โมนาทุจริตบริษัท แต่ก็ยังตีหน้าซื่อเหมือนว่าไม่รู้เห็น เพียงคิดว่าเธอเป็นคนตีสองหน้าเก่งขนาดนั้น เขาก็ผิดหวังจนบอกไม่ถูกแล้ว
“เครียดหรือจ๊ะแอล วันนี้ดูเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ” มธุรสเลื่อนมะพร้าวน้ำหอมทั้งลูกที่เฉาะเปิดฝาและเสียบหลอดไว้มาให้ลูกชาย
“ผมกำลังคิดว่าอาจจะอยู่เมืองไทยไม่นานน่ะแม่ จัดการปัญหาเรียบร้อย ทางปารีสอาจจะเรียกตัวผมกลับ”
“อาไร้! เพิ่งมาได้สามอาทิตย์ คิดถึงเรื่องจะกลับแล้วเหรอ ถ้าบริษัทเอาแต่ใจเรื่องมากวุ่นวายอย่างนี้ ลาออกมาอยู่บ้านสวนกับแม่เหอะ หรือไม่ก็กลับไปทำงานเดิมก็ได้ เงินดีออก ไม่ต้องเหนื่อยมากด้วย” แม่คงเหมือนกันทุกชาติทุกภาษา เพราะแค่เห็นลูกรักเหนื่อยหรือท้อ ก็พร้อมจะกางปีกปกป้อง ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไรก็ตาม สำหรับคนเป็นแม่แล้ว ลูกเป็นเด็กเล็กๆในสายตาท่านเสมอ
“พ่อกับแม่นี่คิดตรงข้ามกันเลยนะ พ่อเกลียดงานเก่าผมจะตาย แต่แม่กลับยุให้กลับไปทำอยู่ได้”
“ไม่ต้องไปฟังพ่อเขา แอลเป็นผู้ชาย ทำงาน ‘อย่างนั้น’ ไม่น่าเกลียด ไม่เสียหายหรอก ก็แค่บริหารเสน่ห์นิดๆหน่อยๆ พ่อกับแม่อุตส่าห์ปั้นให้เกิดมาหล่อขนาดนี้ทั้งที ก็ต้องใช้ความหล่อให้คุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดหน่อยสิ” มือนุ่มนวลเอื้อมมาแตะแก้มเขาอย่างอ่อนโยน “เวลาแอลโกนหนวดเครานี่แม่ชอบนะ เหมือนมีลูกชายคนใหม่ หน้าเด็กกว่าตอนไว้เคราเฟิ้มๆอีก”
“ก็ลุคหล่อเถื่อนๆมันขายง่ายกว่านี่แม่ คนที่ซื้อรูปร่างหน้าตาผม เขาชอบแบบนั้น” โนแอลอธิบายปนหัวเราะ
“เดี๋ยวนี้พูดไทยคล่องปร๋อเลยนะ” มธุรสทักอย่างมีเลศนัย “มีโอกาสไปฝึกภาษากับสาวไทยที่ไหนหรือเปล่า”
ลูกชายรู้ทันว่าแม่โยนหินถามทางเรื่อง ‘สะใภ้’ เพราะเขาก็พูดคล่องแบบนี้มาตั้งนานแล้ว จึงรีบตอบคำถามอย่างละเอียด “ไม่มีหรอกครับ ผมว่าแม่อุปาทานไปเองมากกว่า ผมพูดแต่ภาษาอังกฤษตลอดแหละ เพราะที่ออฟฟิศไม่มีใครรู้ว่าผมพูดฟังภาษาไทยได้ ผมเก๊าะฟังเขานินทากันเพลินไปเท่านั้นเอง”
“อายคนหรือที่จะบอกว่ามีแม่เป็นคนไทยน่ะ แม่เสียใจนะยะ” คำพูดเป็นตรงข้ามกับน้ำเสียงล้อเลียนชัดเจน เพราะแม่มีเขาตอนยังสาวมากๆ ทั้งยังเลี้ยงมาอย่างให้อิสระเหมือนเด็กฝรั่งเต็มที่ โนแอลจึงสนิทกับมารดา ทั้งยังพูดคุยกันเหมือนเพื่อนมากกว่าจะหงอเหมือนเด็กไทยทั่วไป
“อะไรเนี่ยแม่ จู่ๆจะมางอนอะไรป่านนี้ ดีเลย์ไปสามสิบปีกว่าแล้วมั้ง ผมภูมิใจจะตายที่แม่เป็นคนไทยน่ะ ผมจะได้เคลมว่าตัวเองเป็นคนไทยด้วยไงล่ะ เป็นข้าในพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
มธุรสยิ้มกว้าง “ตอนท้ายพูดดีมาก ไม่งอนแล้วก็ได้ ว่าแต่...ถ้าภูมิใจที่เป็นคนไทย แล้วทำไมไม่ยอมให้ใครรู้ว่าพูดไทยได้ แล้วก็เป็นลูกครึ่ง”
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ชั่งใจแค่อึดใจจึงสารภาพ “หกเดือนที่ผ่านมาลียองเมืองไทยขาดทุนบานเบอะเลยครับ บอร์ดบริหารก็เลยส่งผมมาตรวจสอบการทำงานที่นี่ ผมมีทางเลือกสองสามอย่าง หนึ่งคือถ้าเจอการทุจริต ก็ต้องจับตัวคนทำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย สอง...ถ้าบริษัทขาดทุนเพราะมันห่วยด้วยตัวเอง ผมต้องเชิญคนออกเกือบครึ่ง หรือไม่ทางออกที่สามก็คือต้องจับบริษัทมาแต่งบัญชีขายทอดตลาดให้นายทุนรายใหม่ซื้อไปบริหารแทน
“ไม่ว่ามันจะลงเอยที่ทางเลือกไหน ผม...ควรจะต้องรู้เรื่องในบริษัทให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ตัดสินใจให้ถูกต้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริง การที่พวกเขาคิดว่าผมเป็นคนฝรั่งเศสแท้ๆ ช่วยให้ผมได้ยินเสียงซุบซิบนินทามากขึ้น ได้อ่านเอกสารที่คนทั่วไปคิดว่าผมอ่านไม่ออกมากขึ้น ความลับวางแผ่หลาอยู่ทุกหนแห่ง พวกเขาไม่รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ คิดว่าผมแค่มาบริหารงานตามวาระเหมือนซีอีโอคนก่อนๆเท่านั้นเอง”
“ที่แอลกังวล เพราะกลัวว่าถ้ามีคนรู้วัตถุประสงค์แอบแฝงของแอลแล้วพวกพนักงานจะเกลียดหน้า พานตั้งตัวเป็นศัตรูใช่ไหม”
“ส่วนนึงครับ ผมกลัวพวกเขาจะไหวตัวแล้วเอาสิ่งที่ผมกำลังค้นหาไปซ่อนด้วย ถ้าเลือกได้ คนทุกคนก็ต้องอยากทำงานง่ายๆอยู่แล้วนะแม่ การหาความจริงบนดินมันง่ายกว่าไปเปิดพรมแล้วคุ้ยหาเยอะ จะว่าไปแล้วตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามีคนทุจริต ผมมีรายชื่อของผู้ต้องสงสัยหลายคนแล้ว เมื่อไหร่ที่มั่นใจ ผมลงมือแน่นอน”
“ทุกอย่างก็ฟังดูราบรื่นดีนี่นา แล้วทำไมถึงมานั่งทำหน้ายุ่งอยู่อย่างนี้ล่ะ” มารดาฉงน
“คือ...ผมกำลังสงสัยว่าเพื่อนสนิทของผม เธออาจจะเป็นแกนนำขบวนการทุจริตครั้งนี้น่ะครับ”
“เธอ? แปลว่าเพื่อนคนนี้เป็นผู้หญิงเหรอ”
“ครับ เพราะสันนิษฐานว่าลิซ่าเป็นคนทุจริตบริษัทนี่แหละ ผมถึงต้องทำอุบายว่าถูกผู้หญิงคนนึงพยายามจะจับผม แล้วก็ยัดเยียดตัวเองไปอยู่ที่คอนโดของเธอ เพื่อจะใช้โอกาสนี้หาคำตอบที่อาจจะซ่อนอยู่ที่บ้านของเธอ”
“เพื่อนแอลคนนี้เป็นคนชาติไหน” มธุรสถามสิ่งที่กังวลออกมาก่อนเลย
“เธอเป็นคนไทยครับ”
“ตาย! อย่างนี้ผู้หญิงก็เสียหายแย่สิ ลูกชายฉัน! จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาแม่ นี่มันเมืองไทยนะแอล”
“ผมกับลิซ่าไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่พักอยู่ด้วยกันให้ใครทราบครับแม่ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก”
“แอล มันเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง เปิดเผยคนก็หาว่าลูกอยู่กินกับแม่หนูนี่ออกนอกหน้านอกตา แต่ถ้าปิดบัง เพื่อนลูกก็จะถูกมองว่าลักลอบคบกับลูกอยู่ดี ไม่ได้ละ แอลต้องย้ายออกจากบ้านเพื่อนให้เร็วที่สุด”
“ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกแม่ กว่าจะทำอุบายจนเธอยอมอนุญาตให้ผมไปแบ่งเช่าห้องก็ยากจะตาย ขืนผมยอมย้ายออกมาง่ายๆ ลิซ่าต้องรู้แน่ว่าผมมีวัตถุประสงค์แอบแฝง อีกอย่าง...ผมก็รวบรวมหลักฐานได้เกือบครบแล้ว ผมเช่าห้องเธออยู่อีกไม่นานหรอกครับ”
“แม่ไม่สบายใจเลยนะ ที่เมืองไทยไม่เหมือนปารีส ผู้หญิงเสียชื่อเสียงไปแล้ว ลูกจะรับผิดชอบเธอไหวเหรอ แม่นี่ก็ไม่รู้พ่อแม่อบรมมายังไง ยอมให้ผู้ชายย้ายเข้าไปอยู่ด้วยง่ายๆ หรือว่าเพื่อนลูกคนนี้เป็นพวกหัวนอกจ๋า ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็นแม่รีแม่แรด หืม”
“ไม่ใช่นะแม่ ลิซ่าเป็นผู้หญิงดี ทีแรกก็ไม่ยอมท่าเดียว เธอพูดเหมือนที่แม่พูดนี่แหละ แต่ผมใช้วิธีของผมบังคับแล้วก็แบล็กเมล์ให้เธอจำเป็นต้องรับปากน่ะ” โนแอลรีบละล่ำละลักแก้ตัวแทน ‘เพื่อน’ จนลิ้นแทบพันกัน
คนเป็นแม่หรี่ตาอย่างใช้ความคิด แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายใช้ชีวิตโลดโผนตามประสาคนที่เกิดและโตในโลกเสรี เซ็กซ์สำหรับหนุ่มฝรั่งเศสก็เหมือนอาหารรสเลิศที่ต้องละเลียดประณีตชิม มีไว้เพื่อบำรุงบำเรอความสุขของชีวิต โนแอลให้เกียรติผู้หญิง แต่ไม่เคยถึงขนาดปกป้องชื่อเสียง ห่วงเกียรติยศของใครเช่นนี้
ยิ่งรูปร่างหน้าตาเขาเคยมีกระทั่งคนเอาเงินมาวางกองเพียงเพื่อขอได้ควงกับเขาแค่สักชั่วหนสองหน โนแอลก็ปฏิเสธมาแล้ว ทว่าบัดนี้ลูกชายกลับเอาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้อย่างจงใจ ต่อให้อ้างว่าทำไปเพราะผลประโยชน์เรื่องงานก็ตามที แต่นางรู้...ลูกรักตามใจตัวเองมากเพียงใด หากต้องฝืนใจนัก จ้างให้โนแอลก็ไม่มีวันเข้าไปเกี่ยวข้องกับสตรีผู้นี้เด็ดขาด เขามีวิธีอีกร้อยแปดที่จะล้วงข้อมูลได้ แต่เขาก็เลือกหนทางนี้!
ตลอดชีวิตหนุ่มแสบของลูกมีผู้หญิงเข้ามาพัวพันมากมาย แต่มีแค่ไม่กี่คนที่โนแอลมาเปิดปากเล่าสู่ให้ฟัง และการที่ ‘เพื่อน’ คนนี้เป็นผู้หญิงคนที่สองซึ่งเขาเอ่ยถึง แสดงว่าเธอต้อง ‘สำคัญ’ ไม่น้อยทีเดียว สงสัยก็แต่ว่าเมื่อไรลูกจะรู้ใจตัวเองเสียทีเท่านั้นเอง!
มธุรสอมยิ้ม จินตนาการและลางสังหรณ์ตามประสาผู้หญิงเริ่มทำงานอย่างหนัก เพียงนึกภาพว่าหากสิ่งที่หวังเป็นจริง อีกไม่นานนางจะมีเจ้าโนแอลตัวน้อยๆมาให้อุ้มชู ก็กระชุ่มกระชวยเสียแล้ว
“แปลกเนอะ ทำไมแอลต้องแก้ตัวแทนแม่หนูคนนั้นขนาดนี้ เมื่อก่อนไม่เห็นเคยสนใจว่าแม่จะคิดยังไงกับเพื่อนๆของลูก นี่ทำยังกับแตะต้องไม่ได้เลยอย่างนั้นแหละ”
เห็นลูกชายชะงักไป มธุรสก็อมยิ้มสมใจ มั่นใจว่ากับคนฉลาดๆอย่างโนแอล ไม่ต้องบอกตรงๆหรอก แค่สะกิดให้คิด เดี๋ยวเขาก็รู้หัวใจตัวเองแล้ว นางขยับเข้าไปใกล้ลูกชาย ตบแก้มเขาเบาๆอย่างล้อเลียน แล้วเปรยแค่ “ถ้าแอลว่าเพื่อน แม่ก็จะเชื่อ เอาเป็นว่าแม่เอาใจช่วยให้แอลจัดการปัญหาเรื่องงานให้จบเร็วๆนะลูก”
เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำเงินแกมฟ้าตวัดขึ้นสบสานกัน มธุรสก็ยิ้มแฉ่งอย่างอดไม่ได้ เก็บงำประโยคสุดท้ายไว้กับตัวเอง จัดการเรื่องงานเสร็จแล้ว จะได้มีเวลามาจัดการเรื่องหัวใจให้เรียบร้อยเสียที แม่อยากอุ้มหลานแล้ว!
“น้องโมหายไปไหนมาตั้งสองวัน ผมกะว่าถ้าวันนี้ยังไม่มาอีก พรุ่งนี้จะไปตามที่บริษัทแล้วนะ” เทรนเนอร์รูปหล่อหุ่นล่ำที่เจอหน้ากันแทบทุกวันมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาจนสนิทสนมและเปลี่ยนมาใช้สรรพนามเรียงพี่เรียงน้องแทน แทบจะพุ่งออกจากห้องออกกำลังกาย ปรี่เข้ามาต่อว่าทันทีที่เห็นเธอออกจากลิฟต์
“โมติดธุระนิดหน่อยน่ะพี่เอก วันนี้เป็นวันอาทิตย์ก็ยังอุตส่าห์มาออกกำลังกายนะคะ เห็นแล้วแทนที่จะชม กลับมาเอ็ดกันย้อนหลังอย่างนี้ โมเสียกำลังใจแย่เลย”
เอกชัยหัวเราะหมดมาด เขาเดินเป็นเพื่อนหญิงสาวไปที่เคาน์เตอร์เพื่อรับกุญแจล็อกเกอร์ “ทำไมวันนี้น้องโมมาคนเดียวล่ะครับ แปลกจังเลย”
“ถ้าไม่มาคนเดียว แล้วพี่เอกจะให้โมมากับใครล่ะคะ”
“ก็...ผมได้ยินพนักงานของลียองคุยกันว่าน้องโมกับโนแอล...”
เสียงที่หายไป แม้ไม่ต้องเอ่ยจบประโยค แต่โมนาก็เดาได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร “เฮ้ย! พี่เอกคิดไปถึงไหน โมกับเขาไม่ได้เป็นแฟนกันนะ”
“น้องโมพูดจริงหรือครับ” สายตาที่เหลียวมามองเธอบอกความยินดีชัดเจน
โมนาผงะเล็กน้อย “ทำไมพี่เอกต้องดีใจขนาดนั้นคะ”
เอกชัยหยุดเดิน หันมาสบตาเธอตรงๆ วางรอยยิ้มเปิดเผยไว้บนใบหน้า “ก็เพราะมันแปลว่า...ผมยังพอมีหวังอยู่น่ะสิ เรื่องแค่นี้น้องโมยังต้องให้ผมบอกตรงๆอีกเหรอ” ดวงตาเป็นประกายวิบวาวไม่ปกปิดความดีใจ
โมนากะพริบตาปริบ ถามตัวเองซ้ำๆว่าเธอกำลังฝันไปหรือเปล่า! ในวันที่เธอวิ่งวุ่นไขว่คว้า ทว่าโมนากลับพบแต่ความผิดหวัง ทว่าวันนี้...ยามที่เธอสนใจแค่จะรักตัวเองให้ดีที่สุด ทำตัวเองให้มีความสุขก็พอ จู่ๆกลับมีคนมาเสนอตัวทำท่าว่าสนใจเธอให้เห็นพร้อมกันทีละสองคน
นี่ถ้ารู้ว่าออกกำลังกายแล้วฟีโรโมนที่ปนมากับเหงื่อจะทำให้เนื้อหอมอย่างนี้ เธอคงเข้าฟิตเนสตั้งแต่สามสี่ปีก่อน ป่านนี้คงแต่งงานมีลูกสามไปแล้ว ไม่ต้องมาลุ้นติดแหง็กอยู่บนคานเพราะอาถรรพ์ซุ้มเล็บมือนางอย่างนี้หรอก!
“ขอผมพูดกับน้องโมตรงๆได้ไหมครับ” โอ...คุณพระช่วย ใกล้ชิดกันแค่สองอาทิตย์ เขาจะรุกเธอเลยหรือนี่
“พี่เอก...คือ...เอาไว้รอให้โมออกกำลังกายเสร็จก่อนดีไหมคะ”
“น้องโมรังเกียจผมเหรอ” เขาทอดเสียงอ่อนโยน
นี่เธอจะทำยังไงดี กฤตก็น่ารัก ดูเป็นแฟมิลี่แมนทำกับข้าวเก่งด้วย ส่วนพี่เทรนเนอร์ก็สุดเท่ สาวๆกรี๊ดแทบทั้งฟิตเนส เกิดสองคนนี้มาขอความรักเธอพร้อมกัน โมนาจะเลือกใครดี รักพี่...เสียดายน้อยจังเลย!
“คือโมไม่รู้ว่าพี่เอกจะคุยเรื่องอะไรน่ะค่ะ กลัวว่าเกิดต้องคุยนาน เดี๋ยวโมออกกำลังกายไม่ครบตามตาราง”
“งั้นรอน้องโมออกกำลังกายเสร็จก่อนก็ได้ครับ เพราะบางทีเรื่องที่ผมจะคุยด้วย อาจทำให้น้องโมลำบากใจ”
“ลำบากใจเลยเหรอคะ” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“ครับ ผมจะขอน้ำใจจากน้องโม ไม่รู้ว่าน้องโมจะมีใจเมตตาคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงรักหรือเปล่า”
สำนวนน้ำเน่าชวนเลี่ยนมาก หักสามคะแนนค่ะพี่เทรนเนอร์!
โมนารีบยกมือขึ้นห้าม ปรามเสียงสั่น “ไว้คุยเรื่องนี้กันทีหลังเถอะค่ะ ตอนนี้ขอโมไปออกกำลังกายก่อนนะคะ” เธอหิ้วกระเป๋าวิ่งจี๋ไปรับผ้าเช็ดตัว เผ่นเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
เจ้าของร่างอวบกลมยืนพิงตู้ล็อกเกอร์ มือลูบหน้าอกแรงๆเพื่อคลายความตกใจ สมองสับสนวุ่นวายไปหมด
ตายแล้ว! ทำยังไงดี เธอยังไม่ได้ชอบเอกชัยนะ ก็แค่ปลื้มที่เขาสุดหล่อ เท่ หุ่นดี สาวๆทั้งฟิตเนสกรี๊ด เป็นความสะใจยามผู้หญิงที่สวยกว่ามองมายังเธอด้วยความริษยาเท่านั้นเอง แต่เธอไม่เคยคิดจะคบเขาเป็นแฟน เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ ท่าทางตอนเขาเคี้ยวข้าวเป็นยังไงก็ไม่เคยเห็นเลย เกิดเขากินข้าวมูมมาม จับตะเกียบขัดตา เธอจะรับได้หรือ นี่เธอต้องตอบเขาเลยหรือเปล่า ถ้าต้องการเวลาคิดล่ะจะได้ไหม เอ...แต่ถ้าไม่ชอบเขาก็ควรปฏิเสธไปเลยตรงๆ จะได้ไม่ต้องให้เขามีความหวังยังไงล่ะ เอาไงดีวะ ตั้งแต่เกิดมา เคยแต่รอคนมาจีบ แล้วก็รอวันถูกทิ้ง เพิ่งจะมีวันนี้แหละที่มีโอกาสได้ ‘เลือก’ ว่าอยากรับรักผู้ชายหรือเปล่า
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ชั่งใจว่าควรโทร.ไปปรึกษาเพื่อนในแก๊งเจ็ดนางฟ้าดีไหม ถ้าเกิดเสียงแตก เพื่อนลงมติไม่เป็นเอกฉันท์แล้วเธอจะทำยังไง ไม่เชื่อ...เพื่อนก็งอนแหงๆ
โมนาเดาะของในมือ ขณะใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มไตร่ตรอง แวบหนึ่งที่นึกถึงกูรูที่ปรึกษาเรื่องการลงคาน แต่แล้วก็ปัดชื่อเขาออกทันที คนบ้า คนกวนประสาท อยู่ดีๆมาหลบหน้ากันดื้อๆ ดีละ! ไม่อยากเจอหน้ากัน งั้นก็ไม่รู้มารู้เรื่องอัพเดทของเราด้วยเลยเหอะ
สาวโสดผู้เกรงกลัวการขึ้นคานยัดโทรศัพท์กลับใส่กระเป๋าแล้วย้ำกับตัวเอง นี่เป็นเรื่องส่วนตัว เธอต้องตัดสินใจเองสิ ทำไมจะไปคอยฟังคำแนะนำจากคนอื่น ชีวิตเป็นของเธอ เลือกผิดหรือถูก ก็ไม่มีใครมารับผลของการตัดสินใจนอกจากเธอเอง เพราะงั้น...เธอต้องค่อยๆคิดว่าจะเอาอย่างไร
โมนายังไม่รู้หรอกว่าเอกชัยจะขอความรักตรงๆเลยหรือเปล่า และเธอควรตอบรับเขาแบบไหนถึงจะละมุนละม่อมทำร้ายจิตใจกันน้อยที่สุด ตอนนี้หญิงสาวรู้แค่เรื่องเดียว คานจ๋า...โมนาลาก่อน!
(จบครึ่งแรก)
อาทิตย์ที่แล้วเชิ้ตตัวนึงซักปลายแขนเสื้อไม่สะอาด
ผมไม่ใส่นะ ช่วยซักใหม่ให้ด้วย ขอบคุณมาก
โมนาอยากจะหยิบผ้าขึ้นมาบิดแล้วจินตนาการว่ากำลังหยิกพ่อคนเรื่องมากให้สาแก่ใจนัก สั่งเอาๆราวกับเธอเป็นคนรับใช้ประจำตัวอย่างไรอย่างนั้น กระนั้นเมื่อหยิบเชิ้ตเนื้อเบาตัวหนึ่งขึ้นมาจากตะกร้า หญิงสาวก็ทำรุนแรงไม่ลง เพราะป้ายที่คอเสื้อบอกยี่ห้อแพงระยับ
โมนาจับเชิ้ตวางคืนที่เบามือ แล้วยกทั้งตะกร้ามาหย่อนไว้ข้างประตู จากนั้นดูดฝุ่นห้องรับแขก ล้างห้องน้ำ และเช็ดครัว สุดท้ายโมนามานั่งซับเหงื่อที่โซฟา เธอมองนาฬิกา แล้วหยิบโทรศัพท์กดหาโนแอลอีกครั้ง ก็พบว่า...
“ยังไม่เปิดเครื่องอีก! นี่เขาเป็นอะไรมากไหมเนี่ย เมื่อวานก็ทำท่าแปลกๆ วันนี้ก็หลบหน้ากันตั้งแต่เช้าเลย บ้าชะมัด ไม่มีอะไรทำแล้วนะ เบื่อๆๆๆๆ!” โมนาหน้าบึ้ง สุดท้ายจึงตัดสินใจ “ไปฟิตเนสออกกำลังกายก็ได้วะ”
คนที่หนีออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าอยู่ในโหมดที่ไม่ดีไปกว่ากันเท่าไรนัก โนแอลมั่นใจว่าเหตุผลที่เขาไม่อยากพบหน้าเพื่อนร่วมห้อง เป็นเพราะวางหน้าไม่ถูกแน่นอน โมนาทุจริตบริษัท แต่ก็ยังตีหน้าซื่อเหมือนว่าไม่รู้เห็น เพียงคิดว่าเธอเป็นคนตีสองหน้าเก่งขนาดนั้น เขาก็ผิดหวังจนบอกไม่ถูกแล้ว
“เครียดหรือจ๊ะแอล วันนี้ดูเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ” มธุรสเลื่อนมะพร้าวน้ำหอมทั้งลูกที่เฉาะเปิดฝาและเสียบหลอดไว้มาให้ลูกชาย
“ผมกำลังคิดว่าอาจจะอยู่เมืองไทยไม่นานน่ะแม่ จัดการปัญหาเรียบร้อย ทางปารีสอาจจะเรียกตัวผมกลับ”
“อาไร้! เพิ่งมาได้สามอาทิตย์ คิดถึงเรื่องจะกลับแล้วเหรอ ถ้าบริษัทเอาแต่ใจเรื่องมากวุ่นวายอย่างนี้ ลาออกมาอยู่บ้านสวนกับแม่เหอะ หรือไม่ก็กลับไปทำงานเดิมก็ได้ เงินดีออก ไม่ต้องเหนื่อยมากด้วย” แม่คงเหมือนกันทุกชาติทุกภาษา เพราะแค่เห็นลูกรักเหนื่อยหรือท้อ ก็พร้อมจะกางปีกปกป้อง ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไรก็ตาม สำหรับคนเป็นแม่แล้ว ลูกเป็นเด็กเล็กๆในสายตาท่านเสมอ
“พ่อกับแม่นี่คิดตรงข้ามกันเลยนะ พ่อเกลียดงานเก่าผมจะตาย แต่แม่กลับยุให้กลับไปทำอยู่ได้”
“ไม่ต้องไปฟังพ่อเขา แอลเป็นผู้ชาย ทำงาน ‘อย่างนั้น’ ไม่น่าเกลียด ไม่เสียหายหรอก ก็แค่บริหารเสน่ห์นิดๆหน่อยๆ พ่อกับแม่อุตส่าห์ปั้นให้เกิดมาหล่อขนาดนี้ทั้งที ก็ต้องใช้ความหล่อให้คุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดหน่อยสิ” มือนุ่มนวลเอื้อมมาแตะแก้มเขาอย่างอ่อนโยน “เวลาแอลโกนหนวดเครานี่แม่ชอบนะ เหมือนมีลูกชายคนใหม่ หน้าเด็กกว่าตอนไว้เคราเฟิ้มๆอีก”
“ก็ลุคหล่อเถื่อนๆมันขายง่ายกว่านี่แม่ คนที่ซื้อรูปร่างหน้าตาผม เขาชอบแบบนั้น” โนแอลอธิบายปนหัวเราะ
“เดี๋ยวนี้พูดไทยคล่องปร๋อเลยนะ” มธุรสทักอย่างมีเลศนัย “มีโอกาสไปฝึกภาษากับสาวไทยที่ไหนหรือเปล่า”
ลูกชายรู้ทันว่าแม่โยนหินถามทางเรื่อง ‘สะใภ้’ เพราะเขาก็พูดคล่องแบบนี้มาตั้งนานแล้ว จึงรีบตอบคำถามอย่างละเอียด “ไม่มีหรอกครับ ผมว่าแม่อุปาทานไปเองมากกว่า ผมพูดแต่ภาษาอังกฤษตลอดแหละ เพราะที่ออฟฟิศไม่มีใครรู้ว่าผมพูดฟังภาษาไทยได้ ผมเก๊าะฟังเขานินทากันเพลินไปเท่านั้นเอง”
“อายคนหรือที่จะบอกว่ามีแม่เป็นคนไทยน่ะ แม่เสียใจนะยะ” คำพูดเป็นตรงข้ามกับน้ำเสียงล้อเลียนชัดเจน เพราะแม่มีเขาตอนยังสาวมากๆ ทั้งยังเลี้ยงมาอย่างให้อิสระเหมือนเด็กฝรั่งเต็มที่ โนแอลจึงสนิทกับมารดา ทั้งยังพูดคุยกันเหมือนเพื่อนมากกว่าจะหงอเหมือนเด็กไทยทั่วไป
“อะไรเนี่ยแม่ จู่ๆจะมางอนอะไรป่านนี้ ดีเลย์ไปสามสิบปีกว่าแล้วมั้ง ผมภูมิใจจะตายที่แม่เป็นคนไทยน่ะ ผมจะได้เคลมว่าตัวเองเป็นคนไทยด้วยไงล่ะ เป็นข้าในพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
มธุรสยิ้มกว้าง “ตอนท้ายพูดดีมาก ไม่งอนแล้วก็ได้ ว่าแต่...ถ้าภูมิใจที่เป็นคนไทย แล้วทำไมไม่ยอมให้ใครรู้ว่าพูดไทยได้ แล้วก็เป็นลูกครึ่ง”
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ชั่งใจแค่อึดใจจึงสารภาพ “หกเดือนที่ผ่านมาลียองเมืองไทยขาดทุนบานเบอะเลยครับ บอร์ดบริหารก็เลยส่งผมมาตรวจสอบการทำงานที่นี่ ผมมีทางเลือกสองสามอย่าง หนึ่งคือถ้าเจอการทุจริต ก็ต้องจับตัวคนทำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย สอง...ถ้าบริษัทขาดทุนเพราะมันห่วยด้วยตัวเอง ผมต้องเชิญคนออกเกือบครึ่ง หรือไม่ทางออกที่สามก็คือต้องจับบริษัทมาแต่งบัญชีขายทอดตลาดให้นายทุนรายใหม่ซื้อไปบริหารแทน
“ไม่ว่ามันจะลงเอยที่ทางเลือกไหน ผม...ควรจะต้องรู้เรื่องในบริษัทให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ตัดสินใจให้ถูกต้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริง การที่พวกเขาคิดว่าผมเป็นคนฝรั่งเศสแท้ๆ ช่วยให้ผมได้ยินเสียงซุบซิบนินทามากขึ้น ได้อ่านเอกสารที่คนทั่วไปคิดว่าผมอ่านไม่ออกมากขึ้น ความลับวางแผ่หลาอยู่ทุกหนแห่ง พวกเขาไม่รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ คิดว่าผมแค่มาบริหารงานตามวาระเหมือนซีอีโอคนก่อนๆเท่านั้นเอง”
“ที่แอลกังวล เพราะกลัวว่าถ้ามีคนรู้วัตถุประสงค์แอบแฝงของแอลแล้วพวกพนักงานจะเกลียดหน้า พานตั้งตัวเป็นศัตรูใช่ไหม”
“ส่วนนึงครับ ผมกลัวพวกเขาจะไหวตัวแล้วเอาสิ่งที่ผมกำลังค้นหาไปซ่อนด้วย ถ้าเลือกได้ คนทุกคนก็ต้องอยากทำงานง่ายๆอยู่แล้วนะแม่ การหาความจริงบนดินมันง่ายกว่าไปเปิดพรมแล้วคุ้ยหาเยอะ จะว่าไปแล้วตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามีคนทุจริต ผมมีรายชื่อของผู้ต้องสงสัยหลายคนแล้ว เมื่อไหร่ที่มั่นใจ ผมลงมือแน่นอน”
“ทุกอย่างก็ฟังดูราบรื่นดีนี่นา แล้วทำไมถึงมานั่งทำหน้ายุ่งอยู่อย่างนี้ล่ะ” มารดาฉงน
“คือ...ผมกำลังสงสัยว่าเพื่อนสนิทของผม เธออาจจะเป็นแกนนำขบวนการทุจริตครั้งนี้น่ะครับ”
“เธอ? แปลว่าเพื่อนคนนี้เป็นผู้หญิงเหรอ”
“ครับ เพราะสันนิษฐานว่าลิซ่าเป็นคนทุจริตบริษัทนี่แหละ ผมถึงต้องทำอุบายว่าถูกผู้หญิงคนนึงพยายามจะจับผม แล้วก็ยัดเยียดตัวเองไปอยู่ที่คอนโดของเธอ เพื่อจะใช้โอกาสนี้หาคำตอบที่อาจจะซ่อนอยู่ที่บ้านของเธอ”
“เพื่อนแอลคนนี้เป็นคนชาติไหน” มธุรสถามสิ่งที่กังวลออกมาก่อนเลย
“เธอเป็นคนไทยครับ”
“ตาย! อย่างนี้ผู้หญิงก็เสียหายแย่สิ ลูกชายฉัน! จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาแม่ นี่มันเมืองไทยนะแอล”
“ผมกับลิซ่าไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่พักอยู่ด้วยกันให้ใครทราบครับแม่ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก”
“แอล มันเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง เปิดเผยคนก็หาว่าลูกอยู่กินกับแม่หนูนี่ออกนอกหน้านอกตา แต่ถ้าปิดบัง เพื่อนลูกก็จะถูกมองว่าลักลอบคบกับลูกอยู่ดี ไม่ได้ละ แอลต้องย้ายออกจากบ้านเพื่อนให้เร็วที่สุด”
“ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกแม่ กว่าจะทำอุบายจนเธอยอมอนุญาตให้ผมไปแบ่งเช่าห้องก็ยากจะตาย ขืนผมยอมย้ายออกมาง่ายๆ ลิซ่าต้องรู้แน่ว่าผมมีวัตถุประสงค์แอบแฝง อีกอย่าง...ผมก็รวบรวมหลักฐานได้เกือบครบแล้ว ผมเช่าห้องเธออยู่อีกไม่นานหรอกครับ”
“แม่ไม่สบายใจเลยนะ ที่เมืองไทยไม่เหมือนปารีส ผู้หญิงเสียชื่อเสียงไปแล้ว ลูกจะรับผิดชอบเธอไหวเหรอ แม่นี่ก็ไม่รู้พ่อแม่อบรมมายังไง ยอมให้ผู้ชายย้ายเข้าไปอยู่ด้วยง่ายๆ หรือว่าเพื่อนลูกคนนี้เป็นพวกหัวนอกจ๋า ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็นแม่รีแม่แรด หืม”
“ไม่ใช่นะแม่ ลิซ่าเป็นผู้หญิงดี ทีแรกก็ไม่ยอมท่าเดียว เธอพูดเหมือนที่แม่พูดนี่แหละ แต่ผมใช้วิธีของผมบังคับแล้วก็แบล็กเมล์ให้เธอจำเป็นต้องรับปากน่ะ” โนแอลรีบละล่ำละลักแก้ตัวแทน ‘เพื่อน’ จนลิ้นแทบพันกัน
คนเป็นแม่หรี่ตาอย่างใช้ความคิด แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายใช้ชีวิตโลดโผนตามประสาคนที่เกิดและโตในโลกเสรี เซ็กซ์สำหรับหนุ่มฝรั่งเศสก็เหมือนอาหารรสเลิศที่ต้องละเลียดประณีตชิม มีไว้เพื่อบำรุงบำเรอความสุขของชีวิต โนแอลให้เกียรติผู้หญิง แต่ไม่เคยถึงขนาดปกป้องชื่อเสียง ห่วงเกียรติยศของใครเช่นนี้
ยิ่งรูปร่างหน้าตาเขาเคยมีกระทั่งคนเอาเงินมาวางกองเพียงเพื่อขอได้ควงกับเขาแค่สักชั่วหนสองหน โนแอลก็ปฏิเสธมาแล้ว ทว่าบัดนี้ลูกชายกลับเอาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้อย่างจงใจ ต่อให้อ้างว่าทำไปเพราะผลประโยชน์เรื่องงานก็ตามที แต่นางรู้...ลูกรักตามใจตัวเองมากเพียงใด หากต้องฝืนใจนัก จ้างให้โนแอลก็ไม่มีวันเข้าไปเกี่ยวข้องกับสตรีผู้นี้เด็ดขาด เขามีวิธีอีกร้อยแปดที่จะล้วงข้อมูลได้ แต่เขาก็เลือกหนทางนี้!
ตลอดชีวิตหนุ่มแสบของลูกมีผู้หญิงเข้ามาพัวพันมากมาย แต่มีแค่ไม่กี่คนที่โนแอลมาเปิดปากเล่าสู่ให้ฟัง และการที่ ‘เพื่อน’ คนนี้เป็นผู้หญิงคนที่สองซึ่งเขาเอ่ยถึง แสดงว่าเธอต้อง ‘สำคัญ’ ไม่น้อยทีเดียว สงสัยก็แต่ว่าเมื่อไรลูกจะรู้ใจตัวเองเสียทีเท่านั้นเอง!
มธุรสอมยิ้ม จินตนาการและลางสังหรณ์ตามประสาผู้หญิงเริ่มทำงานอย่างหนัก เพียงนึกภาพว่าหากสิ่งที่หวังเป็นจริง อีกไม่นานนางจะมีเจ้าโนแอลตัวน้อยๆมาให้อุ้มชู ก็กระชุ่มกระชวยเสียแล้ว
“แปลกเนอะ ทำไมแอลต้องแก้ตัวแทนแม่หนูคนนั้นขนาดนี้ เมื่อก่อนไม่เห็นเคยสนใจว่าแม่จะคิดยังไงกับเพื่อนๆของลูก นี่ทำยังกับแตะต้องไม่ได้เลยอย่างนั้นแหละ”
เห็นลูกชายชะงักไป มธุรสก็อมยิ้มสมใจ มั่นใจว่ากับคนฉลาดๆอย่างโนแอล ไม่ต้องบอกตรงๆหรอก แค่สะกิดให้คิด เดี๋ยวเขาก็รู้หัวใจตัวเองแล้ว นางขยับเข้าไปใกล้ลูกชาย ตบแก้มเขาเบาๆอย่างล้อเลียน แล้วเปรยแค่ “ถ้าแอลว่าเพื่อน แม่ก็จะเชื่อ เอาเป็นว่าแม่เอาใจช่วยให้แอลจัดการปัญหาเรื่องงานให้จบเร็วๆนะลูก”
เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำเงินแกมฟ้าตวัดขึ้นสบสานกัน มธุรสก็ยิ้มแฉ่งอย่างอดไม่ได้ เก็บงำประโยคสุดท้ายไว้กับตัวเอง จัดการเรื่องงานเสร็จแล้ว จะได้มีเวลามาจัดการเรื่องหัวใจให้เรียบร้อยเสียที แม่อยากอุ้มหลานแล้ว!
“น้องโมหายไปไหนมาตั้งสองวัน ผมกะว่าถ้าวันนี้ยังไม่มาอีก พรุ่งนี้จะไปตามที่บริษัทแล้วนะ” เทรนเนอร์รูปหล่อหุ่นล่ำที่เจอหน้ากันแทบทุกวันมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาจนสนิทสนมและเปลี่ยนมาใช้สรรพนามเรียงพี่เรียงน้องแทน แทบจะพุ่งออกจากห้องออกกำลังกาย ปรี่เข้ามาต่อว่าทันทีที่เห็นเธอออกจากลิฟต์
“โมติดธุระนิดหน่อยน่ะพี่เอก วันนี้เป็นวันอาทิตย์ก็ยังอุตส่าห์มาออกกำลังกายนะคะ เห็นแล้วแทนที่จะชม กลับมาเอ็ดกันย้อนหลังอย่างนี้ โมเสียกำลังใจแย่เลย”
เอกชัยหัวเราะหมดมาด เขาเดินเป็นเพื่อนหญิงสาวไปที่เคาน์เตอร์เพื่อรับกุญแจล็อกเกอร์ “ทำไมวันนี้น้องโมมาคนเดียวล่ะครับ แปลกจังเลย”
“ถ้าไม่มาคนเดียว แล้วพี่เอกจะให้โมมากับใครล่ะคะ”
“ก็...ผมได้ยินพนักงานของลียองคุยกันว่าน้องโมกับโนแอล...”
เสียงที่หายไป แม้ไม่ต้องเอ่ยจบประโยค แต่โมนาก็เดาได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร “เฮ้ย! พี่เอกคิดไปถึงไหน โมกับเขาไม่ได้เป็นแฟนกันนะ”
“น้องโมพูดจริงหรือครับ” สายตาที่เหลียวมามองเธอบอกความยินดีชัดเจน
โมนาผงะเล็กน้อย “ทำไมพี่เอกต้องดีใจขนาดนั้นคะ”
เอกชัยหยุดเดิน หันมาสบตาเธอตรงๆ วางรอยยิ้มเปิดเผยไว้บนใบหน้า “ก็เพราะมันแปลว่า...ผมยังพอมีหวังอยู่น่ะสิ เรื่องแค่นี้น้องโมยังต้องให้ผมบอกตรงๆอีกเหรอ” ดวงตาเป็นประกายวิบวาวไม่ปกปิดความดีใจ
โมนากะพริบตาปริบ ถามตัวเองซ้ำๆว่าเธอกำลังฝันไปหรือเปล่า! ในวันที่เธอวิ่งวุ่นไขว่คว้า ทว่าโมนากลับพบแต่ความผิดหวัง ทว่าวันนี้...ยามที่เธอสนใจแค่จะรักตัวเองให้ดีที่สุด ทำตัวเองให้มีความสุขก็พอ จู่ๆกลับมีคนมาเสนอตัวทำท่าว่าสนใจเธอให้เห็นพร้อมกันทีละสองคน
นี่ถ้ารู้ว่าออกกำลังกายแล้วฟีโรโมนที่ปนมากับเหงื่อจะทำให้เนื้อหอมอย่างนี้ เธอคงเข้าฟิตเนสตั้งแต่สามสี่ปีก่อน ป่านนี้คงแต่งงานมีลูกสามไปแล้ว ไม่ต้องมาลุ้นติดแหง็กอยู่บนคานเพราะอาถรรพ์ซุ้มเล็บมือนางอย่างนี้หรอก!
“ขอผมพูดกับน้องโมตรงๆได้ไหมครับ” โอ...คุณพระช่วย ใกล้ชิดกันแค่สองอาทิตย์ เขาจะรุกเธอเลยหรือนี่
“พี่เอก...คือ...เอาไว้รอให้โมออกกำลังกายเสร็จก่อนดีไหมคะ”
“น้องโมรังเกียจผมเหรอ” เขาทอดเสียงอ่อนโยน
นี่เธอจะทำยังไงดี กฤตก็น่ารัก ดูเป็นแฟมิลี่แมนทำกับข้าวเก่งด้วย ส่วนพี่เทรนเนอร์ก็สุดเท่ สาวๆกรี๊ดแทบทั้งฟิตเนส เกิดสองคนนี้มาขอความรักเธอพร้อมกัน โมนาจะเลือกใครดี รักพี่...เสียดายน้อยจังเลย!
“คือโมไม่รู้ว่าพี่เอกจะคุยเรื่องอะไรน่ะค่ะ กลัวว่าเกิดต้องคุยนาน เดี๋ยวโมออกกำลังกายไม่ครบตามตาราง”
“งั้นรอน้องโมออกกำลังกายเสร็จก่อนก็ได้ครับ เพราะบางทีเรื่องที่ผมจะคุยด้วย อาจทำให้น้องโมลำบากใจ”
“ลำบากใจเลยเหรอคะ” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“ครับ ผมจะขอน้ำใจจากน้องโม ไม่รู้ว่าน้องโมจะมีใจเมตตาคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงรักหรือเปล่า”
สำนวนน้ำเน่าชวนเลี่ยนมาก หักสามคะแนนค่ะพี่เทรนเนอร์!
โมนารีบยกมือขึ้นห้าม ปรามเสียงสั่น “ไว้คุยเรื่องนี้กันทีหลังเถอะค่ะ ตอนนี้ขอโมไปออกกำลังกายก่อนนะคะ” เธอหิ้วกระเป๋าวิ่งจี๋ไปรับผ้าเช็ดตัว เผ่นเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
เจ้าของร่างอวบกลมยืนพิงตู้ล็อกเกอร์ มือลูบหน้าอกแรงๆเพื่อคลายความตกใจ สมองสับสนวุ่นวายไปหมด
ตายแล้ว! ทำยังไงดี เธอยังไม่ได้ชอบเอกชัยนะ ก็แค่ปลื้มที่เขาสุดหล่อ เท่ หุ่นดี สาวๆทั้งฟิตเนสกรี๊ด เป็นความสะใจยามผู้หญิงที่สวยกว่ามองมายังเธอด้วยความริษยาเท่านั้นเอง แต่เธอไม่เคยคิดจะคบเขาเป็นแฟน เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ ท่าทางตอนเขาเคี้ยวข้าวเป็นยังไงก็ไม่เคยเห็นเลย เกิดเขากินข้าวมูมมาม จับตะเกียบขัดตา เธอจะรับได้หรือ นี่เธอต้องตอบเขาเลยหรือเปล่า ถ้าต้องการเวลาคิดล่ะจะได้ไหม เอ...แต่ถ้าไม่ชอบเขาก็ควรปฏิเสธไปเลยตรงๆ จะได้ไม่ต้องให้เขามีความหวังยังไงล่ะ เอาไงดีวะ ตั้งแต่เกิดมา เคยแต่รอคนมาจีบ แล้วก็รอวันถูกทิ้ง เพิ่งจะมีวันนี้แหละที่มีโอกาสได้ ‘เลือก’ ว่าอยากรับรักผู้ชายหรือเปล่า
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ชั่งใจว่าควรโทร.ไปปรึกษาเพื่อนในแก๊งเจ็ดนางฟ้าดีไหม ถ้าเกิดเสียงแตก เพื่อนลงมติไม่เป็นเอกฉันท์แล้วเธอจะทำยังไง ไม่เชื่อ...เพื่อนก็งอนแหงๆ
โมนาเดาะของในมือ ขณะใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มไตร่ตรอง แวบหนึ่งที่นึกถึงกูรูที่ปรึกษาเรื่องการลงคาน แต่แล้วก็ปัดชื่อเขาออกทันที คนบ้า คนกวนประสาท อยู่ดีๆมาหลบหน้ากันดื้อๆ ดีละ! ไม่อยากเจอหน้ากัน งั้นก็ไม่รู้มารู้เรื่องอัพเดทของเราด้วยเลยเหอะ
สาวโสดผู้เกรงกลัวการขึ้นคานยัดโทรศัพท์กลับใส่กระเป๋าแล้วย้ำกับตัวเอง นี่เป็นเรื่องส่วนตัว เธอต้องตัดสินใจเองสิ ทำไมจะไปคอยฟังคำแนะนำจากคนอื่น ชีวิตเป็นของเธอ เลือกผิดหรือถูก ก็ไม่มีใครมารับผลของการตัดสินใจนอกจากเธอเอง เพราะงั้น...เธอต้องค่อยๆคิดว่าจะเอาอย่างไร
โมนายังไม่รู้หรอกว่าเอกชัยจะขอความรักตรงๆเลยหรือเปล่า และเธอควรตอบรับเขาแบบไหนถึงจะละมุนละม่อมทำร้ายจิตใจกันน้อยที่สุด ตอนนี้หญิงสาวรู้แค่เรื่องเดียว คานจ๋า...โมนาลาก่อน!
(จบครึ่งแรก)

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ย. 2556, 05:41:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ย. 2556, 05:41:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 1753
<< ตอนที่ ๑๒ | ตอนที่ ๑๓ (จบตอน) >> |

alecigor 12 พ.ย. 2556, 06:16:23 น.
เขาจะขอความรักหรือขอให้เป็นแม่สื่อไปจีบหนุ่มก็ไม่รู้ ระวังหน้าแตกล่ะสาวโม
เขาจะขอความรักหรือขอให้เป็นแม่สื่อไปจีบหนุ่มก็ไม่รู้ ระวังหน้าแตกล่ะสาวโม

Pat 12 พ.ย. 2556, 06:19:07 น.
ตั้งหลักไม่ทันเลยนะโมนา
เอกชัยจะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่านิ โนแอลคงรู้ใจเร็วๆนี้ เพราะมีคู่แข่งโผล่มาอีกสอง
ตั้งหลักไม่ทันเลยนะโมนา


konhin 12 พ.ย. 2556, 07:53:32 น.
ฮ่าๆๆ เดาร่วมด้วยอีกคนว่าพี่เอกเค้าชอบโนเอล ฮ่าๆๆ
ฮ่าๆๆ เดาร่วมด้วยอีกคนว่าพี่เอกเค้าชอบโนเอล ฮ่าๆๆ

นักอ่านเหนียวหนึบ 12 พ.ย. 2556, 10:17:36 น.
หึๆๆๆ เทรนเนอร์หนุ่ม กะหนุ่มปาริเซียง ร้อยละร้อย คิๆๆ คู่กั๊นนนคู่กันน
หึๆๆๆ เทรนเนอร์หนุ่ม กะหนุ่มปาริเซียง ร้อยละร้อย คิๆๆ คู่กั๊นนนคู่กันน

Zephyr 12 พ.ย. 2556, 13:02:51 น.
ได้เป็นแม่สื่อแน่ๆโมนาเอ๋ย
ตอนหน้าชื่อว่า คานจ๋า โมนากลับมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ได้เป็นแม่สื่อแน่ๆโมนาเอ๋ย
ตอนหน้าชื่อว่า คานจ๋า โมนากลับมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ
