ทัณฑ์วิวาห์
เปิดเรื่องใหม่ค่ะ ^^
Tags: รักหวานแหว โรแมนติก น่ารัก สดใส

ตอน: ตอนที่ 1 บทนำ

ภายในห้องทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่ตกอย่างหรูหราตามสไตล์ของผู้ที่เป็นเจ้าของ บนพื้นปูด้วยพรหมชั้นดีสีเทาเข้มตัดกับฝาผนังสีควันบุหรี่ได้อย่างโดดเด่น มีตู้เอกสารสำคัญต่าง ๆ วางอยู่อย่างเป็นระเบียบหลังโต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีแค่เพียงโทรศัพท์หนึ่งเครื่องวางอยู่เท่านั้น ร่างของชายหนุ่มหน้าตาคมขำกำลังรับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“คุณแม่คิดว่าผู้หญิงแบบนั้นสมควรจะรับมาเป็นสะใภ้งั้นหรือครับ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ ใช้มือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่คลายปมเนคไทแล้วปลดกระดุมเม็ดบนตามลงมาสองเม็ด ทำราวกับว่าภายในห้องนั้นชวดให้อึดอัดเสียเต็มประดา ทั้งที่ว่าอากาศภายในเย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศชั้นดี

“ผมหมั้นกับน้องพิมานาน คุณแม่ไม่คิดหรือว่าการที่เราทำแบบนนั้นน้องพิจะเสียใจมากขนาดไหน” นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งหรือจะเรียกว่าข้อแก้ตัวก็ได้ เขาไม่อยากแต่งงานกับพิม-ลดา ว่าที่เจ้าสาวที่เพิ่งจะได้รับมาอย่างไม่เต็มใจ

“นี่ตานภฟังแม่นะ ก็ใครใช้ให้เรากินเหล้าจนเมามายไม่ได้สติขนาดนั้นกันล่ะ ยังไงซะเรากับหนูพิมก็รู้จักกันมานาน จะให้ฝ่ายนั้นมาเสียชื่อเสียงเพราะคนของเรามันก็ไม่ได้ ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวจากหนูพิมาเป็นหนูพิมแบบนั้น อาจจะทำให้หนูพิเสียใจก็เถอะ” คุณกรองแก้วมารดาของเขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจนัก ในขณะที่นภศูลกลับคิดไปอีกทาง

พิม-ลดางั้นเหรอ...ความจริงแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงที่ดีอยู่หรอก และหากไม่เกิดเหตุการณ์ชวนกระอักกระอวนขึ้นมาเสียก่อน บางทีเขาคงจะพอทำใจแต่งด้วยได้ แต่นี้อะไร...เธอกล้าทำถึงขนาดวางยาเขาซึ่งเป็นคู่หมั้นของน้องสาวตัวเองแท้ ๆ นี่หรือผู้หญิงที่ยังมียางอายในสายตาคุณแม่

“ไม่เอาล่ะครับ ผมว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เอาเป็นว่าคุณแม่เห็นสมควรยังไงก็จัดการตามนั้นก็แล้วกัน แต่ขอบอกไว้เลยนะครับว่า หากเรื่องนี้ทำให้น้องพิเกิดเป็นไปอะไรขึ้นมาผมไม่ปล่อยพิม-ลดาเอาไว้แน่ !” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งที่ความจริงแล้วนั้นเขาเองรู้สึกไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่มากนัก

“งั้นแม่จะไปขอฤกษ์ยามมาจากหลวงตา งานนี้ไม่ว่ายังไงเราก็ห้ามเบี้ยวเป็นอันขาดนะตานภ เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็แม่จะผิดหวังในตัวลูกมาก” คุณกรองแก้วตอบกลับไปก่อนที่ท่านจะวางสาย ทิ้งให้ชายหนุ่มผู้ที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าบ่าวจำยอมลอบถอนหายใจอย่างหงุดหงิดออกมาหลายครั้ง ไม่มีแม้กระทั่งสมาธิที่จะทำงานอีกต่อไป

เอาไงเอากัน แต่ถ้างานแต่งในครั้งนี้ทำให้น้องพิต้องเป็นอะไรขึ้นมาล่ะก็ เขานี่แหละที่จะเป็นคนจัดการขั้นเด็ดขาดกับเธอเอง...พิม-ลดา!!!



สองเดือนต่อมา

งานแต่งงานที่หรูหราและยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีกลายเป็นงานแต่งงานระหว่าง นางสาว พิม-ลดา เกียรกำจร กับนายนภศูล กาญจนานันท์ ว่าที่กรรมการบริหารบริษัทโรจนกาญจนานันท์ ซึ่งรับทำฉากกั้นสลักลวดลายลงไปบนแผ่นกระจกฝ้า แล้วตกแต่งด้วยเปลวทองคำอย่างวิจิตงดงามที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย … หนุ่มสาวรักใคร่กันมาเป็นเวลานานตามคำบอกเล่าของเจ้าภาพทั้งสองฝ่าย เจ้าสาวมีอายุยี่สิบสามปีน่ารักสมวัย ส่วนเจ้าบ่าวนั้นจะเต็มยี่สิบหกปีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างเริ่มทยอยเข้ามาภายในสถานที่จัดเลี้ยง งานนี้วันนี้มีท่านผู้ว่า ฯ วัลลภเป็นประธานในการจัดงาน อีกทั้งคุณนายของท่านก็ให้ความเอื้อเอ็นดูต่อพิม-ลดา มิใช่น้อย

“แล้วนี่น้องสาวของเราหายไปไหน งานแต่งพี่สาวทั้งทีทำไมไม่เห็นหน้า หรือว่าเกิดไม่สบายเป็นอะไรขึ้นมาอีกแล้ว” คุณนายผู้ว่า ฯ สอดส่องสายตามองหาพิ-มลดา คนรักเก่าของเจ้าบ่าวซึ่งมีร่างกายอ่อนแอขี้โรคคนนั้น พี่สองของคนนี้เป็นฝาแฝดกัน และครอบครัวของพวกเธอก็ช่างตั้งชื่อ คนพี่ชื่อพิม-ลดา กำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวที่โชคดีที่สุดในคืนนี้ ส่วนคนน้องซึ่งเกิดห่างกันไม่กี่นาทีมีชื่อว่า พิ-มลดา

ชื่อเขียนเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน แต่จะต่างก็ตรงที่อ่านออกเสียงไม่เหมือนกันเท่านั้น !

“ยัยพิไม่ค่อยสบายพิมเลยบอกให้ไปพักผ่อนด้านในคะ เห็นทำหน้าซีด ๆ อยู่นาน เกรงว่าอาจจะเป็นลมเป็นแล้งไปได้” พิม-ลดาบอกกล่าวคุณนายท่านผู้ว่า ฯ ก่อนที่จะแหงนหน้าขึ้นไปมองเจ้าบ่าว เห็นนภศูลกำลังยืนหน้าบึ้ง ไม่ยอมพูดจา

“อ้าว...ยัยพิไม่สบายไปอีกแล้วหรือ ช่างน่าสงสาร ขี้โรคมาตั้งแต่เด็ก” ท่านผู้ว่าฯ กล่าวถึงเด็กสาวตัวน้อยที่ไม่ได้พบเจอมานาน ด้วยเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเธอมักจะอยู่แค่เพียงในบ้าน ผิดกับคนพี่ซึ่งมักจะชอบออกงานสังคมอยู่บ่อย ๆ

พิ-มลดาเป็นโรคภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็ก แพ้ทุกอย่างแม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศ แต่จะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นในยามปกติ ยกเว้นในช่วงเวลาที่เธอตกใจเท่านั้นอาการจะกำเริบขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด

นี่ถือเป็นโรคประหลาดที่ไม่ค่อยพบเจอกันบ่อยนัก และจนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ พิ-มลดาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติแม้ว่าจะอยู่ในห้องแอร์คอนดิชันหากไม่มีอาการตื่นตกใจ แต่ถ้าเกิดความวิตกขึ้นมาเหมื่อไหร่ ร่างกายของเธอ เกิดอาการต่อต้านขึ้นมาทันที

“แล้วแบบนี้ไม่แย่หรือ” คุณนายท่านผู้ว่า ฯ ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“โอ๊ย ! ไม่แย่หรอกคะ รายนั้นนะแป๊บเดียวก็หาย” เมื่อคิดถึงผู้ที่เป็นน้องสาวขึ้นมาพิม-ลดาก็อดอิจฉาขึ้นมาไม่ได้ ตั้งแต่เด็กมาแล้วพิ-มลดามักจะมีแต่คนคอยตามอกตามใจ ส่วนเธอน่ะเหรอเรียกได้ว่ายังไม่ได้รับเท่าปลายขี้เล็บ

‘น้องกำลังไม่สบายอยู่นะ พิมอย่าเรียกร้องมากนักได้ไหม แม่ว่าเราออกไปเล่นกับตานภดีกว่า’

‘นั่นเราจะให้น้องทำอะไรน่ะยัยพิม ไม่เห็นหรือว่าน้องหน้าซีดออกขนาดนั้น นี่ยังจะน้องมาปั่นจักรยานเล่น’

‘พ่อไม่คิดเลยว่าเราจะเป็นไปได้ คราวหน้าคราวหลังถ้าน้องอยากจะนั่งรถเล่นจริง ๆ ล่ะก็ให้ซ้อนท้ายตานภไป ส่วนเรานะปกติดีทุกอย่าง ทำไมไม่เสียสละให้น้องบ้าง’

และอีกมากมากมายที่พิม-ลดาโดนกล่าวหา โดยที่เจ้าตัวไม่สามารถปฏิเสธได้

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เบาะนั่งด้านหลังของนภศูลก็กลายเป็นที่นั่งประจำของพิ-มลดาไป ความจริงแล้วเหตุการณ์ในครั้งนั้นที่เธออนุญาตให้ยัยพิออกมาปั่นจักรยานเล่น ส่วนหนึ่งเป็นเพระว่าเธออิจฉาน้องสาวคนนนี้มานานที่มีแต่คนตามอกตามใจ และอีกส่วนหนึ่งก็คิดตามประสาเด็กว่า ถ้ายัยพิสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คราวนี้ทุกคนก็จะเบาใจ แล้วหันกลับมาคอยเอาอกเอาใจเด็กที่ขาดความรักเช่นเธอบ้างก็เท่านั้น

“ใกล้จะได้ฤกษ์แล้วล่ะ แกพาหนูพิมเข้าไปในงานก่อนเถอะนะ ส่วนทางนี้พ่อกับแม่จะอยู่ดูแลรับแขกเอง” คุณแสงสูรย์และคุณกรองแก้วบิดามารดาของเจ้าบ่าวบอกให้นภศูลพาพิม-ลดาเข้าไปในงาน ซึ่งชายหนุ่มก็ทำตามอย่างเสียไม่ได้ พวกท่านต่างรู้ดีว่างานแต่งงานในคืนนี้เกิดขึ้นได้ยังไง และความจริงแล้วผู้ที่จะมีเป็นเจ้าสาวของลูกชาย น่าจะเป็นพิ-มลดาน้องสาวฝาแฝดคนนั้นมากกว่า

‘ยัยพิมมันไม่รักดี ขู่ให้ยัยพิให้วางยาสลบพ่อนภในคืนนั้น แล้วจัดการให้ทำทุกอย่างตามแผนของมัน โดยทำทีเป็นว่าได้เสียตัวให้พ่อนภแล้ว’ คุณพิมชนกมารดาของเธอพูดออกมาอย่างโกรธขึ้ง แทบจะตัดแม่ตัดลูกกันเลยด้วยซ้ำ
‘ฉันจะไปงานของมันก็ต่อเมื่อมันตายไปเท่านั้นล่ะ ส่วนงานแต่งอะไรนั่น ความจริงแล้วมันสมควรจะเป็นของยัยพิ’ คุณอุดมพ่อของเธอก็เช่นกัน แม้แต่วันนั้นก็ยังไม่โผล่เข้ามาให้เห็น

คิดขึ้นมาน้ำตาก็พาลจะไหล ใครบ้างจะรู้ว่าเหตุการณ์ในคืนนั้นที่นภศูลถูกวางยาเกิดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แม้แต่ชายหนุ่มเองซึ่งได้ชื่อว่าเคยรู้ใจเธอมากที่สุดก็ยังไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของเธอ แถมยังตราหน้าเธอทันทีที่เขาฟื้นคืนสติขึ้นมาด้วยซ้ำ

‘อย่าคิดนะว่าแค่นี้เธอจะชนะพี่กับน้องพิได้ เธอมันคนขี้อิจฉา แม้แต่กระทั่งคู่หมั้นของน้องก็ยังไม่เว้น !’ นี่คือประโยคแรกที่เขากล่าวกับเธอนั้นวันนั้น หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า กำลังนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ

นภศูลก้มลงมองเจ้าสาวของเขาด้วยแววตาที่แข็งกร้าว เขาหมั้นกับพิ-มลดาสาวน้อยน่ารักที่ขี้โรคมานาน และถ้าไม่มีมารผจญมาขัดขวางล่ะก็ วันนี้เขาคงจะได้แต่งงานกับพิ-มลดาไปแล้ว

“เข้าไปสิ จะมายืนเฉยอยู่ทำไม สมใจแล้วใช่ไหมที่จะได้ผมไปครอง” น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้าง ไม่มีความอ่อนโยนมาให้เลยแม้แต่น้อย นภศูลคว้าหมับเข้าไปที่แขนเรียวบาง บีบเน้น ๆ แล้วลากเธอให้เดินตามเขาไป

พิม-ลดาพยายามก้าวให้ทันเท่าที่จะทำได้ เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็กกะทัดรัด บวกกับการแต่งชุดเจ้าสาวในวันนี้ที่ต้องสวมร้องเท้าส้นสูงเกือบห้านิ้ว ทำให้เดินเหินไม่ค่อยสะดวกนัก ซึ่งชายหนุ่มคงอาจจะไม่รู้หรือรู้ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้สนใจ

“ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้นแทนน้องพิให้จงได้ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก็แล้วกัน คุณพิม-ลดา !” นภศูลชะงักเท้าเล็กน้อยแล้วโน้มตัวลงมาหา จากสายตาของคนภายนอกต่างมองกันว่า เจ้าบ่าวกำลังพูดจาหยอกล้อเจ้าสาวเล่น พิม-ลดาถึงได้หน้าแดงขนาดนั้น แต่ความจริงแล้วเธอกำลังโกรธอยู่ต่างหาก

“พิมเตรียมใจมาตั้งนานแล้วล่ะคะไม่ต้องมาย้ำขนาดนั้นก็ได้ แค่ได้ตัวพี่นภมาก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของพิมแล้วล่ะ” พิม-ลดาสวนกลับไป เพราะมิอาจทนให้เขากล่าวตำนิเธอแค่ฝ่ายเดียวได้อีกต่อไปแล้ว

“งั้นก็ต้องคอยดูกันไป แล้วกรุณาจำใส่สมองของคุณเอาไว้ด้วยว่า อย่าได้บังอาจมาเรียกผมว่าพี่ !”

คำว่าพี่ในวันนี้ถูกสั่งห้าม เขาเรียกเธอว่า ‘คุณ’ แล้วแทนตัวเองว่า ‘ผม’ เท่าที่เธอจับความได้ นี่ถึงกับว่าต้องการลบล้างความสัมพันธ์ในสมัยเด็กกันเลยหรือ

“เอางั้นก็ได้ค่ะคุณนภ ฉันจะจำใส่ใจเอาไว้”

“งั้นก็ดี ความจริงแล้วคืนนี้ผมวางแผนจะหนีการแต่งงานเสียด้วยซ้ำ แต่คิดอีกทีก็น่าเวทนาเด็กขี้อิจฉาตาดำ ๆ ก่อนการแก้แค้นจะเริ่มขึ้นผมจะต้องทวงสิทธิ์ของสามีมาให้คุ้ม !!”

พิม-ลดาหน้าซีดลงไปทันที เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ซึมออกมาตามไรผมที่เกล้าขึ้นไปเป็นมวยเอาไว้ แม้ว่าภายในห้องจัดเลี้ยงจะมีเครื่องปรับอากาศอยู่หลายตัวก็ตาม

นภศูลคว้าแขนของพิม-ลดาฉุดกระชากให้เธอเดินตามเขาต่อหลังจากนั้น ทั้งคู่ก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีพร้อมกัน แขกเหรื่อภายในงานต่างพร้อมใจกันมองไปทางเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นตาเดียว

“ขอบพระคุณทุกท่านที่มาเป็นสักขีพยานในคืนนี้ ไม่ทราบว่าเจ้าบ่าวมีอะไรจะบอกกับเจ้าสาวบ้างไหมครับ” พิธีกรบนเวทีซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าวกล่าวออกมา ก่อนที่จะส่งไมล์ให้เจ้าบ่าว แล้วรอลุ้นว่านภศูลจะกล่าวอะไรออกมาบ้าง

“ผมบอกไม่ถูกว่าผมรักเจ้าสาวมากขนาดไหน ไม่เคยคิดมาก่อนและไม่อยากคิดให้วุ่นวาย รู้เพียงแค่ว่าในวันนี้มีเพียงผมกับพิม-ลดาก็พอ” นภศูลกล่าวพลางก้มตัวลงมองเจ้าสาวของเขา แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างเข้าใจไปว่าเขาคงจะรักเจ้าสาวมาก และรักมากขนาดมิอาจแยกขาดกันได้ ต่างก็พากันซึ้งใจ ก่อนที่นภศูลจะคืนไมล์แก่พิธีกรไป เพื่อให้เขาทำหน้าที่ถามความรู้สึกของเจ้าสาวบ้าง

“พิมรู้หัวใจของตัวเองดีว่ารักคุณ...เอ่อ...พี่นภขนาดไหน พิมคงจะไม่พูดอะไรมาก ไว้รู้ดูกันต่อไปก็แล้วกัน” เสียงปรบมือดังสนั่นหลังจากนั้น ซึ้งใจในความรักที่คนทั้งคู่มีต่อกัน จะมีก็แต่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเท่านั้นที่รู้ความนัยกันดี

กฤชซึ่งเป็นพิธีกรในคืนนี้ถึงกับส่ายหน้า เขามองบ่าวสาวที่กำลังส่งสายตาประหัตประหารให้กันด้วยความกลัดกลุ้ม ทำไมเขาจะต้องมารับรู้เรื่องราวการแก้แค้นในครั้งนี้ด้วยนะ และนึกสงสารพิม-ลดาอยู่ไม่ใช่น้อย นายนภมันใช่ย่อยเสียที่ไหน ยิ่งเวลานี้ก็พกความอาฆาตมามากมายขนาดนั้น

“ดูเหมือนว่าหนูพิมจะลำบากแล้วนะคะ” คุณกรองแก้วกล่าวออกมา แหงนหน้าขึ้นมองผู้เป็นสามีที่กำลังมีความคิดเห็นไม่ต่างกันนัก

“นั่นนะสิ ดูเหมือนว่าเจ้านภมันจะแค้นอยู่ไม่น้อย สงสารก็แต่หนูพิมเท่านั้น ไม่รู้ว่าไปทำเวรกรรมอะไรเอาไว้ถึงได้มาเจอลูกบ้าของเจ้านภเข้า” คุณแสงสูรย์รำพึงออกมาอย่างหนักใจ เขาและภรรยาไม่เคยเชื่อเลยว่าพิม-ลดาจะคิดแผนการวางยาสลบนภศูล เพราะถึงเธอจะขี้อิจฉาไปนิด แต่ก็เป็นคนดีในระดับหนึ่ง

“ปล่อยพวกเขาไปซักพักเถอะนะคุณ พวกเราแวะไปดูอาการของยัยพิกันดีกว่า รู้สึกว่าคุณพิมชนกจะอยู่ดูแลอยู่ ส่วนพ่อที่ไม่ได้ความอย่างนายอุดมน่ะกำลังจะเดินทางมารับลูกสาวคนโปรดกลับบ้าน” เป็นสามีเอ่ยชวนภรรยาออกจากห้องจัดเลี้ยง แล้วเดินตรงไปยังห้องรับรองที่อยู่ติดกัน

“นี่ก็แปลกนะคะ เป็นพ่อแม่ประสาอะไรกันรักลูกอย่างลำเอียง” คุณกรองแก้วดูท่าคงจะอยากเป็นปากเป็นเสียงให้พิม-ลดา...จะว่าไปแล้วตัวเธอเองเต็มใจยอมรับพิม-ลดามาเป็นสะใภ้ของตระกูลกาญจนานันท์มากกว่าพิ-มลดด้วยซ้ำ

‘หนูพิมแม้จะดูแข็งกร้าวและขี้อิจฉาไปบ้าง แต่นั่นเป็นเพราะว่าเธอขาดความอบอุ่นและได้รับความรักอย่างไม่เท่าเทียมกัน ความจริงแล้วหนูพิมรักครอบครัวมาก และค่อนข้างจะอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นแกนายจะต้องเข้าใจน้องให้มาก ๆ นะเจ้านภ’ คุณแสงสูรย์เคยพูดแบบนี้กับนภศูลต่อหน้าผู้เป็นภรรยาก่อนงานแต่งงานแค่เพียงสองวัน แต่ดูเหมือนว่าลูกชายตัวดีของพวกเขานั้น ไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งสิ้น

‘ผมรู้เพียงแค่ว่าเธอทำร้ายแม้กระทั่งน้องสาว แล้วอย่างนี้จะให้เชื่อใจอะไรได้ งูพิษขนาดนั้นถึงจะแต่งงานกันไป อีกไม่นานก็คงได้ทะเลาะกันตายหรือไม่ก็หย่าขาดกัน !’ คำกล่าวของนภศูลนั้นส่งผลให้สองสามีภรรยาถอนหายใจทันที ตอนนี้คงจะทำได้แค่เพียงรอดูกันต่อไป แต่ถ้าเรื่องราวต่าง ๆ ลุกโชนไปมากกว่านี้ จับจดทะเบียนกันก่อนก็แล้วกันจะได้หมดเรื่อง

และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นภศูลขุ่นเคืองใจ เขาคิดว่าการที่จะต้องจดทะเบียนสมรสด้วยนั้นคงจะเป็นแผนการของพิม-ลดาอีกเช่นกัน หารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วนั้นมารดาของเขาเองต่างหากที่จะหาเหตุดึงตัวพิม-ลดาเอาไว้ ก็ลูกชายของเธอช่างโง่นักนี่
คุณแสงสูรย์ผู้เป็นสามีก็ไม่ได้ทำอะไร ผู้หญิงเก่ง ๆ ทำงานดีเพียบพร้อมออกขนาดนั้นยังมองข้ามไปได้ ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจ เลยทำให้นภศูลมองว่าพิ-มลดาแสนดีเพียงคนเดียว

นภศูลจ้องมองเจ้าสาวของเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว การลงทัณฑ์อันแสนหวานจะเริ่มต้นต่อจากนี้ไป พิม-ลดาจะต้องได้รับการลงโทษอย่างแสบสัน เท่าที่เธอนั้นได้กระทำกับเขาเอาไว้ !!




รรรรรรณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ย. 2556, 22:59:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 พ.ย. 2556, 18:03:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1026





   ตอนที่ 2 >>
Zephyr 17 พ.ย. 2556, 01:33:42 น.
อ่านเข้าใจยากหน่อยกับคำศัพท์
แต่น่าเรื่องนาค กับครุฑ ป่ะคะ


รรรรรรณ์ 18 พ.ย. 2556, 21:50:23 น.
ขอเนื้อที่เดิมลงเรื่องทัณฑ์วิวาห์แทนนะคะ


Zephyr 19 พ.ย. 2556, 02:33:03 น.
ท่าทางจะร้อนแรงนะคะ อิอิ แบบนี้ลูกดกแหงๆ
นายนภต้องเข้าใจอะไรผิดๆแน่ๆ
พิกับพิม ใครดีใครแย่กันแน่นะ
รอดูต่อไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account