ทัณฑ์วิวาห์
เปิดเรื่องใหม่ค่ะ ^^
Tags: รักหวานแหว โรแมนติก น่ารัก สดใส

ตอน: ตอนที่ 2

หลังจากที่ได้อาบน้ำสระผมจนสบายตัวแล้ว นภศูลก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยการนุ่งผ้าขนหนูเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่แค่ผืนเดียว เผยให้เห็นแผ่นอกล่ำสัน กล้ามเป็นมัด ๆ ขาวสะอาดมีหยดน้ำเกาะพราว ในมือมีผ้าขนหนูผืนเล็กถือเอาไว้ ใช้เช็ดผม

พิม-ลดานั่งมองสามีทางนิตินัย ที่กำลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าด้วยใบหน้างอคว่ำ แอบทำปากยื่นออกมานิด ๆ ลับหลังเขา แค่แผ่นอกกว้างกำยำไร้ไขมันให้รำคาญตา มีขนอ่อนเล็กน้อยตรงบริเวณหน้าท้องเท่านั้น นึกว่ารูปร่างดีขนาดกันเชียว ถึงได้เดินโชว์เอา ๆ ให้คนอื่นคอยดูแบบนี้

หญิงสาวเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินอาย เมื่อเห็นว่าเขาคลายปมผ้าขนหนูลงไปแล้วหยิบกางเกงแพรออกมาสวม

“เอ้า ! สะบัดเข้าไป เดี๋ยวก็ได้คอเคล็ดหักตายหรอก” นภศูลบ่นออกมา ก็ใครใช้ให้เธอไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแบบกันนั้นล่ะ ขนาดโชว์หวิวให้ดูแล้วนะ เธอยังสะบัดหน้าหนีราวกับรังเกียจเสียเต็มประดา เสียเครดิตหนุ่มหล่อสุขภาพดีที่ได้รับผลโหวตมาเป็นอันดับหนึ่งจากบรรดาไซเล็บสาว ๆ หมด

พิม-ลดาค้อนควักให้กับคนที่กำลังพูดจากระแทกแดกดันเธอ แล้วแอบมองยามที่เขาก้าวขึ้นเตียงด้วยความหมั่นไส้ นี่เขาจะหาเสื้อมาใส่ให้ดีไม่ได้หรือไงกันนะ เปิดแอร์ซะเย็นขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้เป็นปอดบวมตายกันบ้างหรอก หญิงสาวค่อนขอดในใจ พลางก้มลงมองใบทะเบียนสมรสที่ยังคงถืออยู่ในมือ

เมื่อมองมันจู่ ๆ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา ใบทะเบียนสมรสสามารถผูกมัดคนสองคนเอาไว้ได้ตามกฎหมาย แต่หัวใจล่ะ เธอจะหาอะไรมาผูดมัดเขาดี ในเมื่อชายหนุ่มแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเธอเสียขนาดนั้น

“นึกหรือว่าที่ถืออยู่นั่นมันจะเป็นหลักประกันให้กับคุณได้ ถึงเราจะเป็นสามีภรรยากันตามนิตินัย แต่ถ้าจะถามถึงทางพฤตินัยแล้วไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมให้คุณสมหวังเป็นอันขาด ไม่รับจากเมีย ผมก็มีทางออกของผมได้ !” วาจาของเขาช่างเผ็ดร้อนใจร้ายนัก นภศูลคนนี้เปลี่ยนจากคนเดิมที่เธอเคยรู้จักไปมาก ความสุภาพอ่อนโยนและอบอุ่นของเขาถูกทำลายไปจนสิ้น

หญิงสาววางใบทะเบียนสมรสลงในลิ้นชัก แล้วหยิบแปรงขึ้นมาสางผม ข่มความเสียใจ กลั้นน้ำตาเอาไว้ ทอดสายตาออกไปอย่างเหม่อลอย แล้วจมอยู่ในห้วงพะวังของตน เธอจะจัดการกับชีวิตหลังการแต่งงานนี่อย่างไรดี ก็ในเมื่อฝ่ายชายไม่ให้ความร่วมมือเลยซักนิด

นภศูลเองเมื่อพูดออกไปแล้วเขาก็รู้สึกผิดบ้างเช่นกัน ด้วยนิสัยดั้งเดิมของเขานั้นไม่ใช่คนแข็งกระด้าง และมีวาจาเชือดเฉือนเช่นนี้ ออกจะอ่อนโยนและอ่อนหวานต่อคนที่เขารักเสียด้วยซ้ำ แต่พอคิดไปถึงความผิดที่พิม-ลดาได้กระทำเอาไว้กับเขาและน้องสาว ความคั่งแค้นจึงเข้าบังตา ทำให้เขากลายเป็นคนหุนหันพลั่นแล่น ไปยอมรับฟังอะไรจากเธอทั้งสิ้น

“พิมคิดว่าพรุ่งนี้จะกลับไปอยู่ที่บ้าน คุณนภคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ” หญิงสาวพยายามเอ่ยออกมาไม่ให้เสียงสั่น ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเองเหมือนเดิม แม้จะรู้ดีเธอต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

นภศูลเมื่อได้ฟัง เขาก็อดที่จะหงุดหงิดขุ่นเคืองขึ้นมาไม่ได้ เพิ่งจะแต่งงานด้วยกันแท้ ๆ แต่พิม-ลดาก็เอาแต่คิดจะหาทางหลบหนีไปจากเขา นี่คงคิดไว้แล้วสิว่า หลังจากที่เอาชนะพิ-มลดาได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้ประโยชน์จากเขาอีกต่อไป

“ตามใจคุณแล้วกัน หากคุณสามารถทนคำครหาได้ ผมนะสบายอยู่แล้ว” คำตอบของเขาเล่นเอาพิม-ลดาถึงกับสะอึก วางแปรงในมือลงแล้วหันหลังกลับมา เห็นนภศูลซึ่งใส่เสื้อนอนเรียบร้อยแล้วกำลังจัดเตียงอยู่

“แล้วถ้าพิมไม่กลับบ้าน คุณนภจะให้พิมไปอยู่ที่ไหน” คำถามของเธอเบาเสียจนเขาแทบจะจับความไม่ได้

“คุณว่าอะไรนะ” ชายหนุ่มละมือจากการทำงานหันมาถามขึ้น

“พิมถามว่า ถ้าพิมไม่กลับบ้านแล้วคุณนภจะให้พิมไปอยู่ที่ไหน” พิม-ลดากระแทกเสียงตอบกลับไป

“ฮึ ! พูดอย่างกับว่าคุณมีหลายที่ให้อยู่เชียวนะ ฝันไปเถอะ คุณก็จะต้องไปอยู่บ้านผมนะสิ เป็นภรรยาภาษาอะไร คิดแต่จะไปอยู่ที่อื่น”

“อ้าว !” หญิงสาวอ้าปากหวอ ที่จู่ ๆเ ขาก็ประชดประชันเธอขึ้นมาเสียอย่างนั้น แล้วเธอเคยพูดเมื่อไหร่กันว่าจะไปอยู่ที่อื่นตามคำกล่าวหาของเขา

“ผมว่าเราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังดีกว่า ผมง่วงแล้วล่ะ อยากนอน” นภศูลล้มตัวลงบนเตียง กางแขนกางขาออกมาเต็มที่

พิม-ลดาลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเดินตรงเข้าไปหาเขา นี่มันอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้นอนกินที่ขนานนั้นนะ แถมยังไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยซักนิด

“คะ...คุณจะให้พิมนอนตรงไหน” คำถามของเธอทำให้นภศูลลืมตาขึ้นมาดู ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน

“ที่พื้นนั่นเป็นไง ผมว่าสะอาดดีนะ แต่ถ้าคุณนอนไม่ได้ งั้นก็ยืนอยู่แบบนั้นจนถึงเช้าไปก็แล้วกัน”

“คุณจะให้พิมนอนกับพื้นงั้นหรือคะ”

“ก็ใช่นะสิ หรือคุณคิดว่าผมจะยอมเสียสละเตียงอุ่น ๆให้คุณกันล่ะ ไม่มีทาง ผมไม่ใช่พระเอกในละครหลังข่าวนะ ถึงจะได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไปเสียทุกที่”

‘ก็รู้ตัวอยู่เหมือนกันนี่ว่า ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยซักนิด’ พิม-ลดาอดที่จะแขวะในใจไม่ได้

“แต่เตียงมีออกกว้าง คุณน่าจะขยับให้พิมซักนิดก็ยังดี” พิม-ลดาพึมพำออกมา ใช่ว่าเธอจะไม่เขินอายหรอกนะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ วันนี้ทั้งวันเธอก็เหนื่อยเหมือนกัน อยากจะนอนสบาย ๆ บนเตียงเหมือนกับเขาบ้าง

“ผู้หญิงร้อยมารยา นึกหรือว่าผมจะยอมคุณหลอกอีกครั้ง ถ้าไม่อยากนอนก็ยืนอยู่แบบนั้นไปก็แล้วกัน ดีเสียอีก นอนหลับทั้งทียังมีคนมาแหงนเฝ้า” นภศูลประชดออกมา พลางหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ

คำกล่าวของเขาเล่นเอาสองปรางของพิม-ลดาถึงกับแดงซ่าน นี่เขาหมายความว่ายังไงกันนะ เห็นเธอเป็นอะไรในสายตาของเขากันแน่
แต่ทิฐิอันแรงกล้าผลักดันให้เธอไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น หญิงสาวก้มลงไปหยิบผ้าห่มที่วางอยู่บนเตียง แล้วนำมาปูบนพื้นห้อง

‘พี่นภใจร้าย เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นใช่จะเป็นความผิดของพิมเสียเมื่อไหร่ล่ะ’

และถ้าเขาอยากจะรู้ความจริงล่ะก็ เธอสามารถเล่าอธิบายได้ แต่จนถึงบัดนี้นภศูลยังไม่ยอมเปิดใจรับฟังเธอเลยซักครั้ง จนเธอเองก็จนใจ สิ่งที่ทำได้ก็คือรอเวลาเท่านั้น...รอว่าเมื่อไหร่กันเขาจะเปิดใจยอมรับฟังคำเธอเสียที

พิม-ลดาล้มตัวลงนอนบนพื้นข้างเตียง แล้วตะแคงหน้ามามองคนร่างใหญ่ที่นอนหันหลังให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะพลิกตัวหันตะแคงกลับไปเป็นฝ่ายหันหลังให้กับเขาบ้าง

เป็นนานเมื่อทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบนภศูลจึงหันกลับมา บางครั้งสายตาของเขาก็มองพิม-ลดาอย่างอ่อนโยน เพราะรู้อยู่เหมือนกันว่าเธอมีปมอยู่ในใจ

การเกิดเป็นลูกสาวคนโตที่สมบูรณ์พร้อมทางด้านร่างกายนั้น ทำให้ทุกคนละเลยเธอไปมาก เพราะมัวแต่ห่วงพิ-มลดา ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จะมีก็แต่ครอบครัวของเขาเท่านั้น ที่คอยปลอบโยนยามเธอเศร้าเสียใจ แต่ตอนนี้เธอก็กำลังจะขาดที่พึ่งอย่างเขาไปอีกคน

ชายหนุ่มชันตัวขึ้นนั่ง รู้สึกไม่สบายใจอยู่เหมือนกันที่ทำเช่นนี้ ด้วยแต่ก่อนนั้นพิม-ลดามีเพียงเขาเท่านั้นเป็นเพื่อนเล่น คอยรับฟังทุกเรื่องราว เธอจะเรียกเขาว่า พี่นภคะ พี่นภขา นานอยู่หลายปี จนกระทั่งมาถึงวันนี้ที่เขาไม่อาจให้อภัยเธอลง

นภศูลหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งหลังจากเลิกงานเขาก็ไปหาพิ-มลดาตามปกติ ด้วยได้ให้สัญญากับเธอไว้ว่า จะไปอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา พิ-มลดาโทรหาเขาตั้งแต่ตอนบ่าย บอกว่าวันนี้คุณอุดมและคุณพิมชนกจะกลับบ้านดึก เพราะมีงานเลี้ยงประจำปีที่บริษัท แม้แต่

พิม-ลดาเองก็ต้องไปร่วมงาน ในฐานะผู้สืบทอดกิจการเช่นกัน

ชายหนุ่มเมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสงสารพิ-มลดาขึ้นมาทันที

“พี่นภจะต้องมาอยู่เป็นเพื่อนน้องพินะคะ น้องพิเหงา คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่อยู่บ้าน พี่พิมก็อีกคน มีแต่น้องพิเท่านั้น น้องพิกลัว กลัวมากจริงๆนะคะพี่นภ” เสียงของพิ-มลดาออดอ้อนมาตามสาย หลังจากที่นภศูลเพิ่งจะหมั้นกับเธอเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ตามคำขอร้องแกมอ้อนวอนของคุณพิมชนก

“แต่ถ้าพี่นภไม่ว่างก็ไม่เป็นไร น้องพิคงจะอยู่ได้ อีกไม่นานคุณพ่อคุณแม่ก็คงกลับมา” เมื่อไม่มีคำตอบจากเขา เธอก็พยัยามเอาความน้อยใจออกมาอ้าง

นภศูลไม่โกรธหรือรู้สึกรำคาญ อาจจะเป็นไปด้วยเขารู้ดีว่า คนพิการทางใจนั้นเป็นเช่นไร พิ-มลดาอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก อะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่ได้ ที่สำคัญหากเธอรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา อาการหอบอย่างทุรนทุรายก็จะเริ่มมีอาการขึ้นมาทันที

“งั้นเอาอย่างนี้นะ อีกไม่นานพี่ก็จะเลิกงานแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนน้องพิก็ได้” ชายหนุ่มกรอกเสียงกลับไป

“ไชโย ! ขอบคุณนะคะ น้องพิรักพี่นภที่สุดเลย” น้ำเสียงของพิ-มลดาแลดูพอใจ และเธอมักจะแสดงความออกมาด้วยการบอกเราเขาอยู่เสมอ จนทำให้ทุกคนต่างทึกทักกันไปว่า เขากับพิ-มลดาคงจะชอบพอกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพิมชนก ซึ่งเดินมาถามเขาตรงแล้วยื่นข้อเสนอว่า ให้เขาขอหมั้นกับพิ-มลดา

“เรารักน้องใช่ไหมตานภ อารู้นะ เห็นยัยพิบอกรักเราออกบ่อย นี่คงจะมีใจให้กันมานานแล้วล่ะสิท่า แต่แบบนี้มันไม่ถูกนะเพราะยัยพิจะเสียหาย เอาอย่างนี้ก็แล้วกันหมั้นกันไว้ก่อนเป็นไง พ่อนภเองก็เป็นคนดีไม่มีอะไรเสียหาย อาไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ” คำพูดของคุณพิมชนกในวันนั้นต่อหน้าพี่น้องฝาแฝดทำให้เขาถึงกับอึ้ง

นภศูลขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจ เขาจะตอบคำถามนี่ยังไงดี ครั้นมองไปทางพี่น้องฝาแฝดจึงเห็นว่า พิ-มลดา กำลังมองมาทางเขาด้วยสีหน้าแดงก่ำ ส่วนพิม-ลดานั้น เธอไม่ยอมหันมามองเขาเลยซักนิด

“แล้วคุณลุงละครับ” เขาพยายามเฉไฉไปเรื่องอื่น

“คุณอุดมนะเหรอ ไม่อยู่หรอกจ้า เขาก็ออกไปสมาคมตามประสาคนแก่ๆที่เพื่อนมากเหมือนเคยนั่นแหละ” คุณพิมชนกยิ้มในหน้า ก่อนที่จะวกกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง

“เป็นอันว่าตานภน่าจะหมั้นกับยัยพิไว้ก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องตบแต่งนั้น อายกให้พวกเธอตกลงกันเอง พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกด้วยนะ” คำกล่าวนั้นทำให้นภศูลหน้าชา นี่คุณพิมชนกให้เขาเป็นอะไร คิดจะสั่งให้หมั้นเขาก็ต้องหมั้นอย่างนั้นเหรอ

สีหน้าของชายหนุ่มค่อนข้างบึ้ง กำลังจะกล่าวปฏิเสธออกมา แต่สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นพิ-มลดาเข้าเสียก่อน เห็นสายตาของเธอที่มองมาทางเขาอย่างเว้าวอน แล้วอย่างนี้เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร

“ตกลงครับ” นภศูลยอมรับเงื่อนไข แต่ไม่ใช่เขาจะพอใจทีเดียวหรอกนะ

“ผมจะนำเรื่องนี้กลับไปบอกที่บ้าน ส่วนเรื่องหาฤกษ์หายามนั้น...” ชายหนุ่มมีสีหน้ากังวล พยัยามคิดอยู่นานว่าจะหาฤกษ์ที่นานที่สุดได้เมื่อไหร่ดี

“อ๋อ...เรื่องนี้นะเอง ไม่ต้องกังวลไปหรอกจ้า แม่ให้ตาเกรียงไกรลูกชายหมออดุลย์ไปหาฤกษ์ยามมาให้แล้วล่ะ เดี๋ยวก็คงจะมา เห็นว่าเรานัดเราไว้ใช่ไหมยัยพิม” นานๆทีกว่าคุณพิมชนกจะเอ่ยชื่อลูกสาวคนโตออกมา

“เอ่อ...” พิม-ลดาขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะเธอก็ไม่เคยนัดแนะอะไรกับเกรียงไกรเลยซักครั้ง

“ไม่ต้องทำเป็นเขินไปหรอกยะ จะรักจะชอบกันฉันก็ไม่ห้าม” คุณพิมชนกพยัยามยัดเยียดเกรียงไกรให้พิม-ลดา ทำไมนางจะไม่ทราบล่ะว่า แท้ที่จริงแล้วนายเกรียงไกรชอบลูกสาวคนเล็กของท่าน แต่ติดที่ว่านภศูลมีภาษีดีกว่าก็เท่านั้น และเธอก็รู้ดีว่า พิ-มลดารักนภศูลมากแค่ไหน

“นั่นไง พูดถึงก็มาเลย” คุณพิมชนกมองไปทางประตู เห็นเกรียงไกรกำลังเดินเข้ามา ในมือมีกระดาษถืออยู่แผ่นหนึ่ง

“ว่าไงจ๊ะ เรื่องที่น้าฝากไปทำน่ะ ได้มาไหม” นภศูลมองกระดาษแผ่นเล็กที่เกรียงไกรยื่นส่งให้คุณพิมชนกด้วยความสนใจ ก่อนที่จะเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ทำไมเกรียงไกรวันนี้ถึงดูเศร้านัก

ไม่เหมือนคนที่จะมาหาคนรักเช่นพิม-ลดาเลยซักนิด !!

“ว๊าย ! ตายแล้ว อาทิตย์หน้างั้นเหรอจ๊ะ แล้วยัยพิจะเตรียมตัวทันเหรอ” เสียงร้องอุทานของคุณพิมชนกทำให้นภศูลตื่นจากภวังค์

“อาทิตย์หน้างั้นเหรอครับ” เขาถามออกมาเสียงเบาหวิว

“ก็ใช่นะสิ แหม อาก็ว่าเร็วไปนะ ว่าไงล่ะเกรียงไกร ฤกษ์ที่ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วงั้นเหรอจ๊ะ” คุณพิมชนกแกล้งทำเป็นถาม

“ไม่มีแล้วครับ ฤกษ์นี้ล่ะ ดีที่สุดแล้ว” เกรียงไกรตอบกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“แหม เร็วอะไรอย่างนี้ ว่าไงล่ะยัยพิ เราจะเตรียมตัวทันไหม”

พิ-มลดาแก้มแดงซ่านมองนภศูลอย่างเขินอาย คุณแม่ก็กระไร ถามออกมาได้ต่อหน้าสักขีพยานมากขนาดนี้

“ว่ายังไงล่ะ ไม่ต้องอายไปหรอกนะ พ่อนภก็เห็นด้วยใช่ไหม” ประโยคสุดท้ายคุณพิมชนกโยนกระจาดมาให้เขาเสียอย่างนั้น

“ผม...เอ่อ...ผม...” ชายหนุ่มพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น คิดไม่ถึงเลยว่านภศูลจะมีวันนี้กับเขาเหมือนกัน โดยจับคลุมถุงชนทั้งที่ยังไม่ทันตั้งตัว ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว จะมีครอบครัวทั้งทียังมีคนมาช่วยจัดการ

“อะไรกันนะ เด็กพวกนี้ มัวแต่เขินอายกันอยู่ได้ รักกันชอบกันแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร งั้นตกลงตามนี้นะ แม่จะได้ให้คนมาวัดตัวตัดชุดให้ยัยพิ” คำกล่าวของคุณพิมชนกส่งผลให้เกรียงไกรมีสีหน้าเศร้า พิม-ลดาซึ่งมองอยู่นานแล้วส่งสายตาปลอบโยนไปให้เขา ด้วยรู้ดีว่าเกรียงไกรหลงรักพิ-มลดามากเพียงไร จะว่าหลงรักตั้งแต่แรกพบในตอนที่ลุงหมออดุลย์พามาตรวจอาการยัยพิก็ว่าได้

และอาจจะเป็นด้วยสายตาอ่อนโยนของเธอคู่นั้น ที่นภศูลหันไปเห็นเข้าอย่างจังทำให้ชายหนุ่มไม่คิดที่จะปฏิเสธอีกต่อไป

“ครับ เอาเป็นว่า ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ผมจะให้คุณแม่จัดการเรื่องพิธีการต่างๆให้” ตอบออกไปแล้วก็รู้สึกใจหาย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาคงจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดพิม-ลดาแล้วสินะ

นภศูลมองไปทางคู่รักในสายตาของเขาด้วยความอิจฉา ไม่รู้หัวใจของตัวเองว่า คิดกับพิม-ลดาเช่นไรกันแน่ รู้เพียงแต่ว่าวันนี้หัวใจเจ็บปวด เมื่อสายตาของเธอคู่นั้นของเธอมอบให้คนอื่น

และหลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาก็กลายเป็นคู่หมั้นของพิ-มลดาเต็มตัว

ชายหนุ่มวางหูโทรศัพท์ลงแล้วรีบจัดการงานที่ค้างอยู่ตรงหน้า เหลือเวลาอีกแค่ 15 นาทีเท่านั้นเขาก็จะเลิกงาน



รถเบนซ์สีบรอนด์เลี้ยวเข้าบ้านเกียรกำจรหลังจากนั้น พิ-มลดานั่งรถเข็นออกมาต้อนรับเขา แม้สีหน้าเธอจะซีดไปนิด แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

“แล้วคนอื่นล่ะ อย่าบอกนะว่าคุณลุงคุณป้าออกไปกันแล้ว” นภศูลถามออกมา ส่งของฝากที่หิ้วติดมือมาด้วยให้เด็กในบ้านรับไปจัดการ ก่อนที่จะเข้ามาเข็นรถของพิ-มลดา เพื่อพาเธอเข้าไปในบ้าน

“มีพี่พิมอยู่คะ วันนี้พี่พิมบอกว่า จะอยู่เป็นเพื่อนน้องพิอีกคน” ชื่อของหญิงสาวทำให้นภศูลชะงักเท้าเล็กน้อย ก่อนที่จะปัดความรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจนั้นออกไป

“แล้วอยู่ไหนล่ะ ไม่เจอตั้งนาน มาทีไรเจอแต่น้องพิ” คำกล่าวของเขาทำให้พิ-มลดาแหงนหน้าขึ้นมอง

“อยู่ในครัวน่ะคะ คุณเกรียงไกรเขามาหา แล้วเพิ่งจะกลับออกไปก่อนพี่นภจะมาถึง”

“ออ...งั้นเหรอ” ชายหนุ่มพยัยามปัดความสนใจใคร่รู้ออกไป

“โน่นไงคะ ออกมาแล้วล่ะ พี่พิมคะ ทางนี้” พิ-มลดาเรียกพิม-ลดาเสียงดัง

“เอะอะไปได้นะยัยพิ อายพี่นภเขาบ้างสิ เราโตแล้วนะ มีคู่หมั้นแล้วด้วย” พิม-ลดาเดินออกมาจากห้องครัว ในมือมีน้ำส้มคั้นนำมาวางให้พิ-มลดาพร้อมยาบำรุง

“ทานยาก่อนนะ เดี๋ยวก็หอบขึ้นมาอีกหรอก” คนเป็นพี่สาวบ่นพึมพำออกมา ไม่ยอมสบตานภศูลเลยซักครั้ง ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพยัยามให้เธอหันมาสบตามากเท่าไหร่ก็ตามที

‘ขอเวลาให้พิมได้ทำใจหน่อยนะคะ พิมสัญญาว่า จะลืมพี่นภให้ได้’ หญิงสาวข่มอารมณ์ของตนเอาไว้ เตือนตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่เสมอ

“ว่าไงล่ะพิม จะไม่ทักทายพี่บ้างเลยเหรอ ไหนๆก็เจอกันแล้ว เลี้ยงเบียร์พี่ซักแก้วสิ...จะได้ไหม” ผู้มาใหม่ปรายตามองไปทางเคาท์เตอร์ที่มีเหยือกเบียร์วางตั้งอยู่ เมื่อครู่นี้หมออดุลย์กับลูกชายเพิ่งจะมาตรวจอาการของพิ-มลดา พ่อของเธอคุณอุดมเลยเลี้ยงเบียร์เย็นๆเป็นการตอบแทน ก่อนที่จะพากันออกไป

“พี่นภจะดื่มเบียร์ตอนนี้งั้นเหรอคะ” พิม-ลดาขมวดคิ้วอย่างสงสัย ในขณะที่นภศูลกำลังเข้าใจว่า เธอหวงของไว้ให้เฉพาะนายเกรียงไกรเพียงเท่านั้น

“ทำไมล่ะ หรือของพวกนั้นพี่จะดื่มไม่ได้ งั้นไม่เป็นไร ขอเปลี่ยนเป็นไวน์ก็ได้นะ” ชายหนุ่มยังคิดว่าเบียร์เหล่านั้นเธอคงจะหวงไว้ให้คนสำคัญของเธอ

“ไม่ใช่ไม่ได้หรอกคะ ว่าแต่พี่นภเถอะนะ ก่อนจะดื่มเบียร์น่ะ เคยขออนุญาตยัยพิบ้างหรือยัง” น้ำเสียงของพิม-ลดาแลดูขึงขังขึ้นมาบ้าง ก็ใครให้ว่ากล่าวประชดประชันเธอก่อนล่ะ

“น้องพิไม่ว่าอะไรหรอกนะคะ งั้นต้องรบกวนพี่พิมหน่อยแล้วกัน น้องพิไม่สามารจะเดินไปเตรียมให้พี่นภได้” จากความอ่อนแอของร่างกาย บางทีก็สร้างความรำคาญใจให้พิม-ลดาอยู่เหมือนกัน

“จ้าๆ ไม่ต้องส่งสายตามาอ้อนพิมซะขนาดนั้น ยังไงพิมก็จะทำตามที่พิต้องการ เดี๋ยวจะจัดการเอาเบียร์มาเสิร์ฟให้”

พิม-ลดาเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ หยิบเบียร์ใส่เหยือกมาตั้งเอาไว้ ก่อนที่จะบอกว่า เธอจะเข้าไปเอาแก้วเบียร์และน้ำแข็งในครัว
ข้างฝั่งนภศูลเองชายหนุ่มขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วจึงออกมาสมทบกับพี่น้องฝาแฝดอีกครั้ง

หลังจากนั้นจนกระทั่งดึกนภศูลก็หมดสติลงไป ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นว่ามีร่างของพิม-ลดานอนอยู่ข้างกาย ในสภาพที่เมามายไม่ต่างกัน ฤทธิ์ยาสลบนั้น คงจะปนมากับแก้วน้ำแข็ง

ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ชายหนุ่มก้มลงมองร่างบางที่กำลังขดตัวเข้าหากันด้วยความหนาว พื้นห้องคงจะเย็นจัด ดูเหมือนว่าเขาคงจะใจดำไปใช่ไหม
นภศูลก้าวลงจากเตียง ช้อนร่างไร้สติของพิม-ลดาขึ้นมาก่อนที่จะวางลงไปบนเตียงนุ่ม เอาผ้าห่มมาคลุมให้เรียบร้อย

พิม-ลดาซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นทันทีหลังจากนั้น

ชายหนุ่มมองร่างบางที่พยายามขดตัวในผ้าห่มอย่างเห็นขัน เขาถอยออกมาหลังจากนั้น สายตาหันไปปะทะเข้ากับใบทะเบียนสมรสที่วางตั้งไว้

นางสาว พิมลดา เกียจกำจร !

ชื่อนั้นเขียนด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด ใกล้ๆกับลายเซ็นตวัดๆอย่างขอไปทีของเขา นภศูลหยิบใบทะเบียนสมรสขึ้นมา ว่าแต่ว่าทำไมหัวใจจึงอิ่มเอมขึ้นมาได้

“ท่าจะบ้า นี่นายเป็นอะไรไปว่ะ นายนภศูล !!” ชายหนุ่มก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ก่อนที่จะวางใบทะเบียนสมรสลงไปอย่างไม่ใยดี การปฏิเสธหัวใจของตัวเองในครั้งนี้ ต่อไปเขาจะรู้บ้างไหมว่า คนที่จะเสียใจมากที่สุดก็คือเขา

นภศูลเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง ก้าวขึ้นเตียงทางฝั่งตรงข้าม ล้มตัวลงนอนใกล้กับพิม-ลดา พลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย ก่อนที่จะหลับลงไปในที่สุด



รรรรรรณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 พ.ย. 2556, 08:54:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ย. 2556, 08:54:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1145





<< ตอนที่ 1 บทนำ   ตอนที่ 3 >>
Zephyr 19 พ.ย. 2556, 13:22:01 น.
อ้าว แม่เป็นคนจัดการนี่นา
ำเอียงจริงๆครอบครัวนี้
แรกก็สงสารพิอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้มันแปลกๆ
เหมือนจะเอาแต่ใจมากๆๆๆๆ แม่กับ่อก็ตามใจเกินไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account