บ่วงนฤมิต พิมพ์คำ ตีพิมพ์
ละครที่รับเล่น บทประพันธุ์เรื่องเยี่ยมที่เป็นตำนานเล่าขาน ทำให้ขวัญอุมากังขาถึงเงื่อนงำบางอย่าง ยิ่งสืบยิ่งค้นก็ยิ่งเห็นว่ามีบางอย่างปิดปกติ
Tags: บ่วง ลินิน

ตอน: ตอนที่ 1 70%

ปลายนิ้วเรียวแตะครีมเนื้อขาวข้นจากกระปุกสีเงินขึ้นมาแตะตามใบหน้าและลำคอเพียงแผ่วเบาแล้วค่อยๆ นวดคลึงไปจนทั่วจากนั้นจึงลงมือแตะครีมรองพื้นเน้นคอนซีลเลอร์บริเวณรอบดวงตาเป็นพิเศษเพื่อกลบร่องรอยความอิดโรย ด้วยว่าเมื่อคืนนี้นั่งอ่านบทละครเรื่องใหม่จนถึงตีหนึ่งแล้วก็นอนไม่หลับเลยตลอดจนรุ่งเช้า
‘รอยอดีต’ เป็นละครเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับการทาบทามให้สวมบทบาทนางร้ายเป็นครั้งแรก ทว่าเป็นนางร้ายบทเด่นที่สุดของเรื่องที่จะได้พิสูจน์ความสามารถของนางเอกเจ้าน้ำตาอย่างเธอ หลังถ่ายทอดฝีมือมาแล้วหลายต่อหลายเรื่องจนได้รับฉายาว่านางเอกน้ำตาสั่งได้
เรื่องนี้ถือเป็นละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ละครแนวพีเรียดย้อนยุคตบตีแย่งชิงที่มักจะครองใจชาวบ้านได้มากกว่าละครน้ำดีหรือละครเสียดสีการเมือง เธอรับบทนี้ทันทีที่ผู้จัดการส่วนตัวบอกชื่อค่ายละครมา ทว่าหลังได้อ่านบทแล้วก็รู้สึกไม่ชอบใจนักกับบทนังแพศยาของผู้หญิงคนนี้
แม่โฉมเฉลา…
แค่อ่านบทเริ่มต้นเรื่องเท่านั้นก็เริ่มหมั่นไส้ จะมีใครที่โง่บรมโง่เท่าเจ้าหล่อน ถูกเขาโขกสับ หลอกล่ออย่างไรก็เชื่อไปหมด ทว่าในตอนท้ายหล่อนก็ดีแตก กลายเป็นนังแพศยาคบชู้สู่ชายมากผัวแถมยังคอยรังคัดรังแคเพื่อนที่ดีกับตัวเองมาตลอดอย่างพิมพ์แข
ยิ่งอ่านเธอก็ยิ่งไม่อยากเล่นบทนี้เสียแล้ว ร่ำๆ อยากจะโทรยกเลิกแต่ขืนทำอย่างนั้นพี่ลูกปลา ผู้จัดการส่วนตัวของเธอคงได้ด่าเปิดเปิงกลับมาแน่ บทโฉมเฉลานอกจากเรื่องค่าตัวที่จ่ายมากตามที่เรียกร้องแล้ว ชื่อเสียงก็จะวิ่งเข้ามาหา จากที่ดังอยู่แล้วก็จะยิ่งดังมากขึ้นไปอีก
บทโง่ๆ แล้วกลับมาร้ายเอาคืนแบบนี้แหละที่ทำให้คนดังเป็นพลุแตกมานักต่อนักแล้ว
ดูเหมือนจะมีแต่เรื่องดี แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงได้ร้อนรุ่มทนไม่ได้ที่จะสวมบทแม่โฉมเฉลาแพศยาหน้าโง่ อีกทั้งเรื่องราวในท้องเรื่องคุ้นเหลือเกิน คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินได้ฟังมาจากที่ไหน
บางครั้งบางคลาหลังอ่านบทบางตอนก่อให้เกิดความทรงจำรางเลือน เหมือนภาพฝันขาดวิ่นที่ไม่ปะติดปะต่อ เหมือนจะจำได้แต่ลืม คล้ายจะลืมแต่กลับวาบในสมอง
แต่อะไร หรือใคร…เธอไม่รู้
“คงในนิยาย” หญิงสาวยัดคำตอบให้กับข้อสงสัย ส่วนมากแล้วละครพีเรียดมักจะปรับแต่งจากนวนิยายดังๆ มาก่อนเสมอ แต่ก็นั่นแหละเธออ่านนิยายแทบนับครั้งได้แล้วจะเหมารวมว่าความคลับคล้ายคลับคลาที่ว่านั้นมาจากนิยายได้อย่างไร
สมองขบคิดแต่มือยังตวัดแปรงไปทั่วพวงแก้ม กะพริบปริบแพขนตาหนาเพื่อให้มาสคาร่าแห้ง วันนี้ตื่นแต่เช้าทั้งที่นอนไม่หลับเพราะเธอมีอัดรายการวาไรตี้ร่วมกับพระเอกคู่ขวัญคนล่าสุด ปกป้อง ณขเรศ
ปกติแล้วเธอเองก็ไม่มีเวลามาใส่ใจในเรื่องหยุมหยิมว่าละครเรื่องไหนใครเป็นคนแต่ง ใครเป็นคนเขียนบท ทว่าในยามนี้ความสงสัยใคร่รู้อัดแน่นจนรู้สึกทนไม่ได้จึงต้องควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายใบสวยมากดโทรหาผู้จัดการส่วนตัวที่กำลังขับรถมุ่งตรงมาที่บ้านของเธอพอดี
“ขวัญอุมา กำลังจะไปรับพอดี เสร็จหรือยังยะ” เสียงแหว๋วๆ ดังผ่านปลายสายเพราะรู้ดีว่ากว่าที่ดาราสาวในสังกัดจะตื่นได้ก็แทบว่าจะใช้จอบใช้เสียมงัดแงะออกมาจากเตียง “อีกไม่เกินสองชั่วโมงต้องไปให้ถึงนะ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ มารับได้เลย”
คิ้วหนาดกดำของผู้จัดการสาวครึ่งเดียวเพราะอีกครึ่งเป็นหนุ่มเลิกสูง เหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ตอนแรกที่เห็นว่าใครเป็นคนโทรมาก็แอบหวั่นใจอยู่ว่าเจ้าหล่อนจะทำออดแกล้งป่วยเพื่อขอทอดเวลาออกไปอีกอย่างน้อยก็ซักชั่วโมงสองชั่วโมง จึงถามดักคอมาเสียก่อน ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้คำตอบแบบนั้นมาจากปากของขวัญอุมา จันทรารักษ์
“ฉันได้ยินผิดไปหรือเปล่า เมื่อคืนหล่อนหยิบยาผิดกินก่อนนอนหรือเปล่ายะ”
“เอ๊ะ…พี่ปลาจะเอายังไงกันแน่ ถ้าไม่พอใจขวัญจะกลับไปนอนต่อ” สุ้มเสียงขุ่นเขียวนั้นทำให้ผู้จัดการสาวร่างอวบห้ามเสียงหลง
“อย่านะยะ”
“งั้นก็รีบมา ขวัญมีเรื่องจะถามพี่ด้วย”
“เรื่องอะไร เรื่องค่าตัวหรือไงยะ” ลูกปลาดักคอแต่ดาราสาวตัดบทสั้นทว่าเน้นหนักในน้ำเสียง
“เรื่องสำคัญ”
เท่านั้นปลายสายก็รีบบึ่งรถเข้ามาในซอยลึก สองข้างทางมีบ้านคนอยู่ประปราย นอกจากเธอแล้วคนในวงการไม่มีใครรู้ว่าบ้านสวนรกเรื้อไปด้วยไม้ประดับใบหลังนี้เป็นของขวัญอุมา จันทรารักษ์ ดาราสาวชื่อดัง
บ้านหลังสุดท้ายก่อนถึงบ้านของขวัญอุมาอยู่ห่างไปถึงห้าร้อยเมตร ดังนั้นบ้านไม้สองชั้นของดาราสาวจึงตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ก่อนถึงตัวบ้านคือกำแพงสูงก่อด้วยอิฐมอญปลูกต้นพวงแสดเป็นรั้วออกดอกจนมองเห็นก้อนอิฐแค่บางส่วน ประตูใหญ่แทบว่าจะปิดตายเพราะทางเข้าออกมักเป็นประตูเล็กด้านข้าง ที่แค่พอให้ตัวคนลอดผ่านเข้าไปได้เท่านั้น ไม่ต้องสงสัยละว่าแขกที่มาหาต้องจอดรถไว้ด้านนอก และไม่ต้องสงสัยอีกเหมือนกันว่าเจ้าของบ้านเอารถเข้าไปได้อย่างไรเพราะหญิงสาวไม่มีรถ
ใครเล่าจะเชื่อ ดาราสาวชื่อดัง ไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง
แต่ใช่ว่าขวัญอุมาจะยากจนข้นแค้น ทว่าสาวเจ้าไม่นิยมการขับรถเองแต่ชอบใช้ให้คนอื่นขับให้ เป็นต้นว่าใช้ผู้จัดการส่วนตัวหรือใช้บริการรถแท็กซี่มากกว่า และที่หลบลี้หนีหน้าผู้คนมาอยู่บ้านหลังนี้ก็เพราะเป็นคนสันโดษชอบเก็บตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัว
นอกจากเธอ ไม่มีคนในวงการคนไหนผ่านเข้ามาเลยจริงๆ หญิงสาวรู้วิธีหลบหลีกฝูงนักข่าวได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่างขวัญอุมาไม่น่าจะเกิดเป็นนักแสดง
ลูกปลาเคยค่อนขอด
“กลัวนักข่าวเห็นขนาดนี้มาเป็นดาราทำไมยะ”
คนถูกถามเพียงแค่ยิ้มไม่โต้ตอบ รู้ว่าผู้จัดการสาวร่างอวบเริ่มหงุดหงิดที่เธอให้พาหลบนักข่าวออกมาทางด้านหลังโรงแรมหลังแถลงข่าวละครเรื่องใหม่เสร็จ ทั้งที่ดาราคนอื่นพยายามฉวยโอกาสนี้ในการทำตัวเองให้ตกเป็นข่าว
“ขี้เกียจตอบคำถาม” หญิงสาวยักไหล่เลยโดนผู้จัดการส่วนตัวสาธยายยาวเหยียดถึงหน้าที่ของบุคคลสาธารณะที่ดีเพื่อให้ตัวเองยืนยงอยู่ในอาชีพนี้ให้ได้นานที่สุด
ลูกปลาจอดรถยนต์สีม่วงเปลือกมังคุดของตัวเองเอาไว้ด้านหน้าแล้วเดินข้ามถนนลาดยางสายเล็กไปหยุดอยู่ประตูรั้วพวงแสด ไม่ต้องรอให้เจ้าของบ้านมาไขประตูให้เพราะมีกุญแจอีกดอกเก็บไว้กับตัว
ถัดจากประตูซุ้มพวงแสดเป็นทางเดินเล็กแคบทอดไปสู่ตัวบ้านยาวไปเกือบหนึ่งร้อยเมตรทำจากหินกาบผสมก้อนกรวดที่มีต้นหญ้าญี่ปุ่นขึ้นแซมประปรายแต่ถูกเหยียบจนหงิกหงอ สองข้างทางนอกจากเขียวขจีด้วยหญ้ายังเต็มไปด้วยไม้ประดับใบเต็มไปหมด จนดูรกเรื้อเพราะจ้าของไม่มีเวลาจัดแต่ง
“เดี๋ยวได้โดนงูกัดตายคาบ้านเข้าซักวัน” ผู้จัดการสาวบ่นกระปอดกระแปดขณะย่ำเท้าภายใต้รองเท้าส้นสูงยี่ห้อดังเบอร์ใหญ่สุด ด้วยรูปเท้าที่แบนไม่ได้รูปทรง
มือหนาสีคล้ำเอื้อมไปหมายจะไขกุญแจบ้านทว่ามันไม่ได้ล็อกจากด้านใน ผู้มาเยือนจึงส่ายหน้า ดาราสาวในสังกัดผู้นี้มีเรื่องให้บ่นไม่เว้นแต่ละวัน
“เดี๋ยวเถอะ…ไม่ถูกงูกัดตายก็คงจะถูกโจรปล้นสวาทเข้าซักวัน บอกไม่เคยจำ” แม้จะบ่นแล้วบ่นอีกแต่กระแสเสียงก็เต็มไปด้วยความห่วงใยดุจพี่สาวแท้ๆ ห่วงใยน้องสาว และเมื่อเงยหน้าขึ้นไปด้านบนก็เห็นว่าร่างสวยสง่าในชุดผ้าฝ้ายสีอ่อนกำลังส่งยิ้มลงมาให้ ยามเคลื่อนกายกำไลเงินหลายอันในแขนดังกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋ง
“มาเร็วจังค่ะ” เธอทัก
“ทำไมไม่ล็อกบ้าน”
“อย่าบ่นสิคะพี่สาวคนสวย” หญิงสาวผละลงบันไดมาอย่างรวดเร็วแล้วกอดเอวผู้มากวัยกว่าไม่กี่ปีด้วยอาการประจบประแจง ซึ่งมักได้ผลเสมอ
ในบรรดาเด็กในสังกัดที่เคยดูแลมาเห็นจะมีขวัญอุมาที่เคมีลงตัวกันมากที่สุด ลูกปลาเป็นเด็กกำพร้าเติบโตมาในสถานสงเคราะห์ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน จึงรักและเอ็นดูขวัญอุมาเหมือนญาติสนิทคนหนึ่ง อะไรที่พอจะบอกและเตือนได้เธอจึงทำเป็นสิ่งแรก
“ลืมค่ะ”
ดาราสาวยักไหล่แล้วตอบสั้นๆ ไม่ใส่ใจ ในบ้านเธอไม่มีสมบัติพัสถานใดล่อตาล่อใจโจร เห็นจะมีแค่ความสวยของเจ้าบ้านที่อาจจะล่อโจรให้เข้ามาปล้นสวาทอย่างที่ลูกปลามักค่อนขอด ทว่าเธอกลับไม่รู้สึกกริ่งเกรง ยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเดียวดายอยู่ในบ้านหลังนี้
ครอบครัวเธออยู่ต่างประเทศ แม่แต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่นไปเมื่อตอนเธอยังเรียนมัธยม พี่ชายเธอก็ทำงานที่นั่น นานๆ ทีเธอถึงจะกลับไปเยี่ยมเยียนพวกเขาที่โน่นสักครั้ง ไม่ห่วงเพราะท่านทั้งสองมีพี่ชายและพี่สะใภ้ดูแล และหากท่านทนคิดถึงลูกสาวคนเล็กผู้มีโลกส่วนตัวสูงคนนี้ไม่ไหวก็จะเป็นฝ่ายมาหาเอง
และทุกครั้งที่มาก็บ่นเป็นห่วงเรื่องบ้านหลังนี้ ตามสายตาของท่านก็เห็นว่าที่นี่เปลี่ยวเกินกว่าที่ผู้หญิงสาวและสวยจะอยู่ตามลำพังทว่าหญิงสาวยังดื้อแพ่ง
เธอถูกตาต้องใจบ้านหลังนี้ทันทีที่เห็นและเหมือนโชคเข้าข้างจู่ๆ เจ้าของก็ประกาศขายด่วนในราคาที่เธอพอใจ หญิงสาวตัดสินใจซื้อทันทีอย่างไม่ลังเลและไม่ยอมปรึกษาใคร
บ้านสองชั้นหลังคาทรงแหลม ทำจากไม้เกือบทั้งหลัง ด้านหลังมีระเบียงยื่นออกมาให้รับลม ตามขอบระเบียงห้อยไม้กระถางประดับใบสีเขียวสด เจ้าของเดิมนิยมไม้ประดับใบมากกว่าไม้ดอก ทั้งบ้านจึงมีแต่สีเขียวทั้งอ่อนและแก่ตัดกับสีน้ำตาลเข้มของตัวบ้าน
ภายในบ้านกว้างขวางพอใช้ นอกจากห้องโถงกว้างที่มีโต๊ะไม้ประดับมุกแกะลวดลายพญามังกรกับเก้าอี้เข้าชุดก็มีเฟอร์นิเจอร์หลายแบบหลายอย่างที่ดูไม่เข้ากันเท่าไหร่นัก ราวกับว่าเจ้าบ้านพบเห็นอะไรถูกใจก็ซื้อมาเก็บๆ ไว้โดยไม่คิดสนใจถึงความเข้าพวก
ขวัญอุมาไม่คิดเปลี่ยนแปลงอะไร หนำซ้ำยังซื้อหามาเพิ่มเข้าเสียอีก
“ไร้รสนิยม” ลูกปลาเคยค่อนขอด เบ้หน้า
“แล้วแบบไหนที่เรียกว่ามีรสนิยม” หญิงสาวย้อนทว่าคนค่อนขอดตอบไม่ได้ ขวัญอุมาจึงยิ้มอย่างมีชัย “ให้พี่ปลาหามาได้ก่อนว่าแบบไหนมีรสนิยมแล้วจะเปลี่ยน”
เท่านั้นลูกปลาก็เงียบเสียและเมื่อมาบ้านนี้บ่อยครั้งเข้าจึงเกิดความเคยชินและเริ่มจะเห็นว่าไอ้ข้าวของที่ไม่เข้ากันพอจัดตกแต่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมันก็ดูเข้าทีดีเหมือนกัน หรือเธอจะไร้รสนิยมเหมือนแม่ดาราติสต์แตกคนนี้เสียแล้วก็ไม่รู้
“ไปกันได้หรือยัง” ลูกปลาส่ายหน้า เกือบจะยิ้มแต่ฝืนทำบึ้งตึง
“อีกตั้งนาน มีเรื่องจะถาม”
“อะไร” คิ้วหนาเลิกขึ้น แล้วหย่อนสะโพกมโหฬารลงบนเก้าอี้ไม้ประดับมุก พลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เห็นว่าสถานที่อัดรายการอยู่ไม่ไกลพอมีเวลาจึงหยุดเร่ง
“เรื่องละครรอยอดีต”
“ทำไม? ตกลงรับเล่นแล้วไม่ใช่เหรอ มีอะไร” ลูกปลาขยับตัวในท่าพิงพนักเก้าอี้ หวั่นใจว่าแม่ดาราในสังกัดจะอารมณ์ติสต์อะไรขึ้นมาอีก ค่ายไทยละครเป็นค่ายใหญ่ค่ายดัง ใครเล่นเรื่องไหนก็ดัง หากไม่รับก็ถือว่าโง่มาก แถมค่าตัวยังได้ตามที่เรียกร้องไป
“บทมันยังดูขัดๆ” หญิงสาวให้เหตุผล
“ขัดยังไง”
“ไม่รู้สิคะ แต่ขวัญคิดว่านางเอกต้องไม่ใช่แบบนี้ เขาไม่ได้ดีอย่างนี้ นางร้ายก็ไม่โง่แบบนี้ ไม่ได้ร้ายแบบนี้” ดาราสาวจิกเล็บลงกับอุ้งมือขาวของตัวเอง ริมฝีปากเม้มสนิทเพราะหาเหตุผลมากล่าวอ้างไม่ได้
แต่เธอรู้…มันต้องไม่ใช่แบบนี้
“อะไรของหล่อนยะ แม่ศิลปิน” ลูกปลาชักหงุดหงิด เดาไปว่าแม่ดาราสาวเกิดไม่อยากเล่นขึ้นมาเลยหาเรื่องติติงบทประพันธ์
“จริงๆ นะคะพี่ปลา บทนี่มันไม่ถูกแน่ๆ”
“นี่หล่อนเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้หรือไงยะ ถึงรู้ว่ามันไม่ถูก แล้วเรื่องนี้คุณไก่เป็นคนเขียนบทโทรทัศน์ ฝีมือระดับเซียน หล่อนจะเอาอะไรอีก พูดกับหล่อนแต่ละเรื่องฉันปวดหัว” ลูกปลาสะบัดค้อน บทโฉมเฉลาใครๆ ก็อยากเล่นกันทั้งนั้น
“แล้วใครเขียนคะ” หญิงสาวขยับตัวอย่างสนใจ บนใบหน้าของลูกปลายามนี้เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ไม่เคยเลยซักครั้งที่ขวัญอุมาจะทำท่าสนใจอะไรจริงจังแบบนี้
“ไม่รู้”
“อ้าว…”
“จะสนใจไปทำไมเล่า เขาให้เล่นอะไรก็เล่นไปสิยะ เล่นเสร็จรับเงินก็จบจะถามหาต้นตอที่มาทำไมให้ยุ่งยาก ไม่ใช่เรื่องของเราซักหน่อย”
“ไม่ได้!” ขวัญอุมาเผลอทำฉุนเฉียวทำให้ริมฝีปากหนาเผยอค้าง หญิงสาวรู้สึกตัวจึงยิ้มเจื่อน วางมือทาบไปบนหลังมือสีคล้ำ “หานิยายเรื่องนี้มาให้ขวัญได้ไหมคะ”
“ถามจริงๆ เถอะ เกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมา”
“ไม่ได้เพี้ยนอะไรซักหน่อย ขวัญแค่เห็นว่าละครเรื่องนี้ฟอร์มยักษ์ อยากทำให้ดีที่สุด ถ้าได้อ่านจากบทประพันธ์จริงๆ เราก็จะเข้าถึงบทบาทที่แท้จริงตามที่ผู้เขียนต้องการ ไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวกล่าวอ้าง หน้าซื่อตาใส ดวงตากลมโตสีดำสนิทน่ามองกะพริบปริบ
“เกิดอะไรขึ้นละยะ ถึงได้คิดจะเต็มที่กับงานเอาตอนนี้”
“โธ้…” หญิงสาวลากเสียงยาว “พอจะทำดีก็ว่า พอไม่สนใจงานก็ว่า”
“ก็อย่างหล่อนน่ะหรือจะสนใจงานขนาดตามไปอ่านนิยายทั้งเล่ม แค่อ่านบทให้จบแต่ละวันก็ยังขี้เกียจ” ลูกปลาค่อนขอดหญิงสาวจึงยิ้มแหย เพราะมันจริงเกินกว่าจะแก้ตัว เธออ่านบทแค่ผ่านๆ ตาแต่ไม่รู้ทำไมพอถึงเวลาเล่นจริงมันกลับรื่นไหล พลิ้วอย่างมืออาชีพ
“ขวัญอยากได้ หาให้หน่อยนะ” หญิงสาวรบเร้า สายตาที่มองเหมือนน้องอ้อนขอพี่ ลูกปลาเห็นแล้วก็ต้องใจอ่อนยอมพยักหน้า
“ย่ะ”
“งั้นไปเถอะค่ะ ชักช้าเดี๋ยวสายนะ” ขวัญอุมาเป็นฝ่ายเร่งเร้า แล้วเดินตัวปลิวออกไปก่อน ทิ้งไว้แค่กลิ่นหอมจางๆ ของน้ำหอมราคาแพงและเสียงกำไลข้อมือกระทบกัน
ผู้จัดการสาวร่างใหญ่ถอนหายใจ หยัดกายลุกขึ้นแล้วปิดประตูล็อกให้อย่างมิดชิดแล้วไม่วายบ่นกระปอดกระแปดตามหลัง



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ย. 2556, 23:13:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ย. 2556, 23:13:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 2414





   ตอนที่ 1 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account