อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ
Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด
ตอน: ฟ้าหลังฝนจะหมองหม่นหรือสดใจ
“แหวนคุณมิวนี่คะ สงสัยถอดแล้วจะลืมใช่ไหมคะ”
เจียงที่มาช่วยขนกระเป๋ารีบร้องเตือนด้วยความหวังดี เมื่อมองไปเห็นและจำได้แม่นยำว่ามันเคยอยู่บนนิ้วงามของใคร จวนเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะพอจำได้ แม้จะไม่เจอบ่อยครั้งก็ตามที แต่กัณหายังทำหน้าเรียบเฉย มือก็ดึงที่ลากกระเป๋าออกมา
“ไม่ได้ลืมหรอกจ้ะ ฉันฝากคืนเจ้านายเจียงด้วยนะ”
แล้วก็ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะลากกระเป๋าเดินออกจากบ้านหลังน้อยด้วยท่าทีสงบนิ่ง ไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย จวนกับเจียงต้องรีบเข็นกระเป๋าคนละใบตามไปห่างๆ กระทั่งถึงหน้าตึกที่รถของคนเป็นย่าจอดรออยู่แล้ว
“คุณท่านกับคุณรสอยู่บนตึกครับ”
คนรถบอกก่อนจะรีบยกกระเป๋าไปใส่กระโปรงหลังให้ กัณหาไม่ได้ว่าอะไร และไม่คิดจะตามเข้าไปด้านในเลยแม้เพียงก้าวเดียว จึงเดินไปนั่งรอที่ศาลาไม้ไม่ไกลจากรถนัก เจียงกับจวนก็ตามไปไม่ห่าง เพราะอยากจะส่งเมียเจ้านายกลับบ้านเป็นครั้งสุดท้าย
“ขอบคุณป้ากับเจียงมากนะคะ แล้วช่วยรับนี้ไว้ด้วย แทนน้ำใจที่ป้ากับเจียงคอยช่วยมาตลอดค่ะ”
แม้เงินในกระเป๋าจะเหลือน้อยนิด แต่ก็พอมีสำหรับตอบแทนน้ำใจคนทั้งสอง ที่จ้องมองแบ้งค์พันตาละห้อยและไม่ยอมรับ จนคนให้ต้องย้ำบอกและแสดงให้เห็นว่าอยากจะให้จริงๆ ถึงได้ยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับมาถือไว้คนละใบ
“เราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่าคะคุณมิว”
เจียงอดอยากรู้ไม่ได้ และเหนือไปกว่านั้นคือเป็นการถามแบบมีนัยสำคัญว่าผู้หญิงหน้าสงสารคนนี้จะมีวันได้กลับมาอยู่เคียงคู่กับเจ้านายหนุ่มอีกบ้างไหม แม้เจียงจะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าหนทางที่จะเป็นไปได้นั้นยากแค่ไหน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณย่าออกมาแล้ว งั้นเราลากันตรงนี้นะจ้ะ”
สองสาวใช้น้ำตารื้นด้วยความใจหาย ส่วนคนจะไปนั้นน้ำตารื้นเพราะความเสียใจ ที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา แต่ก็พยายามสกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วตรงไปนั่งคู่กับคนขับและไม่ปริปากพูดอะไรออกมาอีกเลย
“ขอบใจนะแม่นิ่มที่ช่วยงานฉันจนเสร็จ เดี๋ยวฉันจะให้นายเพิ่มไปส่งเลย ยายกับน้องเธอคงจะรอแย่แล้วมั้ง”
“ค่ะ”
นี่เป็นเพียงประโยคเดียวที่ได้เอ่ย เมื่อถึงคฤหาสน์หรูของคนเป็นย่าที่ดูจะแล้งน้ำใจไปสักนิด เพราะแม้แต่เชื้อเชิญหลานให้เข้าไปนั่งพัก ดื่มน้ำท่าก่อนค่อยกลับก็ไม่มี แต่กัณหาไม่คิดมากอะไรเพราะอยากจะกลับบ้านมากกว่า จึงรีบยกมือลาย่าและลาเมียพ่อแล้วกลับขึ้นรถโดยเร็ว น้องกับยายรอรับหน้าตาตื่นอยู่ประตูรั้วด้วยซ้ำ
“ยัยนิ่มหลายยาย ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ หมดเคราะห์หมดโศกกันสักที”
ยายจำปาประคองสองไหล่ของหลานที่กำลังก้มลงกราบแทบเท้ายายทั้งน้ำตา ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าบ้านมาได้ แล้วสองยายหลานก็กอดกันร้องไห้อยู่ตรงนั้น ชาลีถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ไปด้วยเพราะความดีใจที่พี่ได้กลับบ้านสักที แต่เขาไม่มีวันล่วงรู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้ว น้ำตาของพี่สาวนั้นมันมีความเสียใจปะปนอยู่ในนั้นด้วย
และไม่รู้จะบอกข่าวร้ายให้ยายรับรู้ได้ยังไง เพราะยายจะต้องเสียอกเสียใจแทบปางตายแน่ เมื่อหลานที่ยายอบรมเเลี้ยงดูมาอย่างดี ต้องทำให้ยายเสียใจด้วยการหอบท้องที่มีเหลนมาฝากยายด้วย และที่สำคัญเหลนของยายก็ไม่มีสิทธิ์มีเสียงจะได้เอ่ยคำว่าพ่อออกมาให้ยายได้ยินจนตลอดชีวิตนี้
“หน้าตานิ่มไม่ค่อยดีเลย ดูสิ! เศร้าๆ หมองๆ ยังไงไม่รู้ ไม่สบายหรือเปล่า”
“ปวดหัวนิดหน่อยจ้ะยาย” อีกครั้งที่หลานต้องโกหก
“งั้นก็เข้าไปนอนพักก่อนดีกว่านะ เที่ยงๆ ยายจะให้หนุ่มเข้าไปปลุกมากินข้าว วันนี้ยายทำขาหมูพะโล้รอนิ่มด้วยนะ แต่ต้องตุ๋นไปอีกหน่อยจะได้เปื่อยๆ นิ่มตื่นมาก็คงจะพอดี”
“จ้ะยาย”
“อ้าว! นิ่มไม่สบายเหรอ ยายเห็นกินยามาหลายวันแล้วนะ แล้วหน้าก็ซีดๆ ด้วย”
ยายจำปาที่เพิ่งจัดขนมใส่ถุงเพื่อไปส่งลูกค้าเสร็จเลยตัดสินใจถามหลาน เพราะสงสัยมาหลายวันแล้ว ชาลีที่เก็บของไปไว้ล้างหลังบ้านเดินมาได้ยินพอดี และเขาเองก็สงสัยไม่แพ้ยายเช่นกัน
“เปล่าหรอกจ้ะยาย นิ่มแค่กินยาบำรุงเท่านั้นจ้ะ”
เพราะไม่รู้จะเอ่ยปากบอกยายกับน้องยังไงดี อีกทั้งยังหวาดกลัวยายจะเสียอกเสียใจที่หลานสาวคนเดียวที่ยายเลี้ยงดูมาอย่างดีตั้งแต่แบเบาะริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เรื่องผู้ชายไม่เคยให้เสียหายหรือระคายหูเลย จู่ๆ กลับกำลังท้องไม่มีพ่อ นี่ถ้าเป็นตอนอยู่บ้านเก่า กัณหาคงจะใจเย็นอยู่แบบนี้ไม่ได้แน่
เพราะสภาพสังคมที่แออัดยัดเยียดไม่ว่าใครจะทำอะไรย่อมรู้ถึงกันไปหมด ดีหน่อยที่มาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ใคร่จะได้สุงสิงกับใครหรือไม่ค่อยมีใครมาสุงสิงด้วย จึงทำให้เบาใจว่ายายจะอับอายผู้คนน้อยหน่อย
“แล้วยาบำรุงอะไร ไหนให้ยายดูหน่อยสิ”
หลานสาวยื่นถุงยาให้ยายแต่โดยดี แล้วเดินเข้าห้องนอนไปเพราะไม่อยากเห็นภาพที่ยายตกใจเมื่อรู้เรื่องแล้ว ชาลีรีบตรงมาหายายที่กำลังอ่านฉลากยา แต่ตาก็ไม่ดีต้องยื่นให้หลานช่วยอ่าน
“ยาบำรุงเลือด บำรุงครรภ์...”
ชาลีนิ่งอึ้งแล้วหันไปหายายก็มีสภาพไม่แพ้กัน เพราะต่างก็พูดอะไรไม่ออกได้แต่หันไปมองประตูห้องที่เจ้าของยาเดินหายเข้าไป ยายจำปาเหมือนจะลมจับจนชาลีต้องรีบเข้าไปพยุงให้ไปทั่งชุดรับแขก แล้วควานหายาดมในถุงผ้าที่เขามักจะเห็นยายเก็บทุกอย่างไว้ในนั้น
ครู่ใหญ่ประตูห้องก็เปิดออก กัณหาค่อยๆ เดินออกมาคุกเข่าลงตรงหน้ายายแล้วก้มกราบแทบเท้า หยดใสๆ ตกลงไปหลังเท้า จนคนเป็นยายตกใจต้องรีบก้มลงไปพยุงหลานขึ้นมา
“นิ่มกราบขอโทษยายจ้ะ ที่ทำให้ยายผิดหวัง ทำให้ยายอับอายผู้คน นิ่มขอโทษจ้ะยัยนิ่มขอโทษ”
“นิ่มไม่ต้องขอโทษยายหรอก ไหนนิ่มลองเล่าให้ยายฟังหน่อยสิว่าเรื่องเป็นยังไงกันแน่ เราจะได้ช่วยกัณหาทางแก้ไข”
แม้ตอนแรกจะลังเลอยู่บ้าง แต่สุดท้ายกัณหาก็ตัดสินใจเล่าให้ยายกับน้องฟัง ควบคู่ร้องไห้ให้กับความพ่ายแพ้ที่ตัวเองแบกกลับมาฝากทุกคนที่บ้าน
“โธ่!! หลานยาย! ทำไมคนดีๆ อย่างนิ่มต้องมาเจอแต่เรื่องอย่างนี้ด้วย แล้วนี่จะทำยังไงดี”
ยายจำปาดึงหลานเข้ามากอดแล้วร้องไห้ด้วยความสงสารและเสียใจอย่างที่สุด เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากหลานเอง ไม่แพ้ผู้น้องที่โอบกอดพี่กับยายไว้เพราะความเสียใจและสงสารจนพูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก
“นิ่มจะเลี้ยงเค้าเองจ้ะยาย นิ่มกลัวแต่ยายจะอายคนแถวนี้เท่านั้น”
“ยายไม่แคร์ใครหรอกนอกจากหลานยายทั้งสองคน ในเมื่อเขาไม่สนใจไม่อยากได้ เราก็ต้องรับผิดชอบที่ทำให้เขาเกิดมา หลานสองคนยายยังเลี้ยงมาได้ กับอีแค่เหลนคนเดียวทำไมยายจะเลี้ยงไม่ได้ บ้านก็ไม่ต้องเช่าเหมือนเมื่อก่อน หลานสองคนก็โตและเรียนจบแล้ว ยายไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
“ยาย!!!”
กัณหาโผลเข้ากอดยายด้วยความซาบซึ้งใจ แถมยัง อ้าแขนรับเอาตัวน้องไปกอดรวมไว้ด้วย สามชีวิตกอดกันร้องไห้ให้กับความรักความผูกพันที่มีให้กันมาเนิ่นนาน
“ยายกับพี่นิ่มไม่ต้องกลัวนะครับ ผมเรียนจบแล้ว ถ้าได้ทำงานก็จะมีเงินช่วยเลี้ยงหลานแล้ว”
“นิ่มก็ยังทำงานที่ บ.ก. ส่งมาให้ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะคลอดจ้ะยาย เงินเก็บนิ่มก็มีนิดหน่อย คงจะพอใช้ถึงตอนคลอด พอลูกหย่านมนิ่มค่อยขอกลับไปทำเป็นรายเดือนที่สำนักพิมพ์ก็ได้จ้ะยาย”
เพราะนี่คือแผนระยะสั้นๆ ที่กัณหาวางไว้ นับตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว ยายจำปาอดเสียใจไม่ได้ในสิ่งที่วาดหวังสำหรับอนาคตของหลานสาว แต่ในเมื่อทุกอย่างกลับตาลปัดแบบนี้ ก็ต้องเปลี่ยนแผน เปลี่ยนความคิดเพื่อเอาชีวิตให้อยู่รอด
“ยายก็พอขายขนมได้ทุกวัน คงจะไม่ลำบากอะไรมากเท่าเมื่อก่อน ดีหน่อยที่นิ่มยังได้บ้านหลังนี้มา ไม่งั้นก็คงจะต้องมานั่งจ่ายค่าเช่าอีกแน่ๆ นิ่มไม่ต้องเสียใจนะลูก อะไรผ่านแล้วก็ให้มันแล้วไป เรามาเริ่มต้นใหม่ดีกว่า กำลังท้องกำลังไส้เขาไม่ให้เครียด เดี๋ยวลูกจะพลอยเครียดไปด้วย”
“นั่นสิพี่นิ่ม! งั้นวันนี้พี่นิ่มมาช่วยหนุ่มปลูกดอกไม้ที่หนุ่มซื้อมานะ แต่รอเย็นๆ ดีกว่า กลางวันแดดแรงเดี๋ยวพี่นิ่มเป็นลมพอดี งั้นหนุ่มจะเอาขนมไปส่งก่อนครับยาย”
เจียงที่มาช่วยขนกระเป๋ารีบร้องเตือนด้วยความหวังดี เมื่อมองไปเห็นและจำได้แม่นยำว่ามันเคยอยู่บนนิ้วงามของใคร จวนเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะพอจำได้ แม้จะไม่เจอบ่อยครั้งก็ตามที แต่กัณหายังทำหน้าเรียบเฉย มือก็ดึงที่ลากกระเป๋าออกมา
“ไม่ได้ลืมหรอกจ้ะ ฉันฝากคืนเจ้านายเจียงด้วยนะ”
แล้วก็ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะลากกระเป๋าเดินออกจากบ้านหลังน้อยด้วยท่าทีสงบนิ่ง ไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย จวนกับเจียงต้องรีบเข็นกระเป๋าคนละใบตามไปห่างๆ กระทั่งถึงหน้าตึกที่รถของคนเป็นย่าจอดรออยู่แล้ว
“คุณท่านกับคุณรสอยู่บนตึกครับ”
คนรถบอกก่อนจะรีบยกกระเป๋าไปใส่กระโปรงหลังให้ กัณหาไม่ได้ว่าอะไร และไม่คิดจะตามเข้าไปด้านในเลยแม้เพียงก้าวเดียว จึงเดินไปนั่งรอที่ศาลาไม้ไม่ไกลจากรถนัก เจียงกับจวนก็ตามไปไม่ห่าง เพราะอยากจะส่งเมียเจ้านายกลับบ้านเป็นครั้งสุดท้าย
“ขอบคุณป้ากับเจียงมากนะคะ แล้วช่วยรับนี้ไว้ด้วย แทนน้ำใจที่ป้ากับเจียงคอยช่วยมาตลอดค่ะ”
แม้เงินในกระเป๋าจะเหลือน้อยนิด แต่ก็พอมีสำหรับตอบแทนน้ำใจคนทั้งสอง ที่จ้องมองแบ้งค์พันตาละห้อยและไม่ยอมรับ จนคนให้ต้องย้ำบอกและแสดงให้เห็นว่าอยากจะให้จริงๆ ถึงได้ยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับมาถือไว้คนละใบ
“เราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่าคะคุณมิว”
เจียงอดอยากรู้ไม่ได้ และเหนือไปกว่านั้นคือเป็นการถามแบบมีนัยสำคัญว่าผู้หญิงหน้าสงสารคนนี้จะมีวันได้กลับมาอยู่เคียงคู่กับเจ้านายหนุ่มอีกบ้างไหม แม้เจียงจะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าหนทางที่จะเป็นไปได้นั้นยากแค่ไหน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณย่าออกมาแล้ว งั้นเราลากันตรงนี้นะจ้ะ”
สองสาวใช้น้ำตารื้นด้วยความใจหาย ส่วนคนจะไปนั้นน้ำตารื้นเพราะความเสียใจ ที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา แต่ก็พยายามสกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วตรงไปนั่งคู่กับคนขับและไม่ปริปากพูดอะไรออกมาอีกเลย
“ขอบใจนะแม่นิ่มที่ช่วยงานฉันจนเสร็จ เดี๋ยวฉันจะให้นายเพิ่มไปส่งเลย ยายกับน้องเธอคงจะรอแย่แล้วมั้ง”
“ค่ะ”
นี่เป็นเพียงประโยคเดียวที่ได้เอ่ย เมื่อถึงคฤหาสน์หรูของคนเป็นย่าที่ดูจะแล้งน้ำใจไปสักนิด เพราะแม้แต่เชื้อเชิญหลานให้เข้าไปนั่งพัก ดื่มน้ำท่าก่อนค่อยกลับก็ไม่มี แต่กัณหาไม่คิดมากอะไรเพราะอยากจะกลับบ้านมากกว่า จึงรีบยกมือลาย่าและลาเมียพ่อแล้วกลับขึ้นรถโดยเร็ว น้องกับยายรอรับหน้าตาตื่นอยู่ประตูรั้วด้วยซ้ำ
“ยัยนิ่มหลายยาย ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ หมดเคราะห์หมดโศกกันสักที”
ยายจำปาประคองสองไหล่ของหลานที่กำลังก้มลงกราบแทบเท้ายายทั้งน้ำตา ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าบ้านมาได้ แล้วสองยายหลานก็กอดกันร้องไห้อยู่ตรงนั้น ชาลีถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ไปด้วยเพราะความดีใจที่พี่ได้กลับบ้านสักที แต่เขาไม่มีวันล่วงรู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้ว น้ำตาของพี่สาวนั้นมันมีความเสียใจปะปนอยู่ในนั้นด้วย
และไม่รู้จะบอกข่าวร้ายให้ยายรับรู้ได้ยังไง เพราะยายจะต้องเสียอกเสียใจแทบปางตายแน่ เมื่อหลานที่ยายอบรมเเลี้ยงดูมาอย่างดี ต้องทำให้ยายเสียใจด้วยการหอบท้องที่มีเหลนมาฝากยายด้วย และที่สำคัญเหลนของยายก็ไม่มีสิทธิ์มีเสียงจะได้เอ่ยคำว่าพ่อออกมาให้ยายได้ยินจนตลอดชีวิตนี้
“หน้าตานิ่มไม่ค่อยดีเลย ดูสิ! เศร้าๆ หมองๆ ยังไงไม่รู้ ไม่สบายหรือเปล่า”
“ปวดหัวนิดหน่อยจ้ะยาย” อีกครั้งที่หลานต้องโกหก
“งั้นก็เข้าไปนอนพักก่อนดีกว่านะ เที่ยงๆ ยายจะให้หนุ่มเข้าไปปลุกมากินข้าว วันนี้ยายทำขาหมูพะโล้รอนิ่มด้วยนะ แต่ต้องตุ๋นไปอีกหน่อยจะได้เปื่อยๆ นิ่มตื่นมาก็คงจะพอดี”
“จ้ะยาย”
“อ้าว! นิ่มไม่สบายเหรอ ยายเห็นกินยามาหลายวันแล้วนะ แล้วหน้าก็ซีดๆ ด้วย”
ยายจำปาที่เพิ่งจัดขนมใส่ถุงเพื่อไปส่งลูกค้าเสร็จเลยตัดสินใจถามหลาน เพราะสงสัยมาหลายวันแล้ว ชาลีที่เก็บของไปไว้ล้างหลังบ้านเดินมาได้ยินพอดี และเขาเองก็สงสัยไม่แพ้ยายเช่นกัน
“เปล่าหรอกจ้ะยาย นิ่มแค่กินยาบำรุงเท่านั้นจ้ะ”
เพราะไม่รู้จะเอ่ยปากบอกยายกับน้องยังไงดี อีกทั้งยังหวาดกลัวยายจะเสียอกเสียใจที่หลานสาวคนเดียวที่ยายเลี้ยงดูมาอย่างดีตั้งแต่แบเบาะริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เรื่องผู้ชายไม่เคยให้เสียหายหรือระคายหูเลย จู่ๆ กลับกำลังท้องไม่มีพ่อ นี่ถ้าเป็นตอนอยู่บ้านเก่า กัณหาคงจะใจเย็นอยู่แบบนี้ไม่ได้แน่
เพราะสภาพสังคมที่แออัดยัดเยียดไม่ว่าใครจะทำอะไรย่อมรู้ถึงกันไปหมด ดีหน่อยที่มาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ใคร่จะได้สุงสิงกับใครหรือไม่ค่อยมีใครมาสุงสิงด้วย จึงทำให้เบาใจว่ายายจะอับอายผู้คนน้อยหน่อย
“แล้วยาบำรุงอะไร ไหนให้ยายดูหน่อยสิ”
หลานสาวยื่นถุงยาให้ยายแต่โดยดี แล้วเดินเข้าห้องนอนไปเพราะไม่อยากเห็นภาพที่ยายตกใจเมื่อรู้เรื่องแล้ว ชาลีรีบตรงมาหายายที่กำลังอ่านฉลากยา แต่ตาก็ไม่ดีต้องยื่นให้หลานช่วยอ่าน
“ยาบำรุงเลือด บำรุงครรภ์...”
ชาลีนิ่งอึ้งแล้วหันไปหายายก็มีสภาพไม่แพ้กัน เพราะต่างก็พูดอะไรไม่ออกได้แต่หันไปมองประตูห้องที่เจ้าของยาเดินหายเข้าไป ยายจำปาเหมือนจะลมจับจนชาลีต้องรีบเข้าไปพยุงให้ไปทั่งชุดรับแขก แล้วควานหายาดมในถุงผ้าที่เขามักจะเห็นยายเก็บทุกอย่างไว้ในนั้น
ครู่ใหญ่ประตูห้องก็เปิดออก กัณหาค่อยๆ เดินออกมาคุกเข่าลงตรงหน้ายายแล้วก้มกราบแทบเท้า หยดใสๆ ตกลงไปหลังเท้า จนคนเป็นยายตกใจต้องรีบก้มลงไปพยุงหลานขึ้นมา
“นิ่มกราบขอโทษยายจ้ะ ที่ทำให้ยายผิดหวัง ทำให้ยายอับอายผู้คน นิ่มขอโทษจ้ะยัยนิ่มขอโทษ”
“นิ่มไม่ต้องขอโทษยายหรอก ไหนนิ่มลองเล่าให้ยายฟังหน่อยสิว่าเรื่องเป็นยังไงกันแน่ เราจะได้ช่วยกัณหาทางแก้ไข”
แม้ตอนแรกจะลังเลอยู่บ้าง แต่สุดท้ายกัณหาก็ตัดสินใจเล่าให้ยายกับน้องฟัง ควบคู่ร้องไห้ให้กับความพ่ายแพ้ที่ตัวเองแบกกลับมาฝากทุกคนที่บ้าน
“โธ่!! หลานยาย! ทำไมคนดีๆ อย่างนิ่มต้องมาเจอแต่เรื่องอย่างนี้ด้วย แล้วนี่จะทำยังไงดี”
ยายจำปาดึงหลานเข้ามากอดแล้วร้องไห้ด้วยความสงสารและเสียใจอย่างที่สุด เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากหลานเอง ไม่แพ้ผู้น้องที่โอบกอดพี่กับยายไว้เพราะความเสียใจและสงสารจนพูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก
“นิ่มจะเลี้ยงเค้าเองจ้ะยาย นิ่มกลัวแต่ยายจะอายคนแถวนี้เท่านั้น”
“ยายไม่แคร์ใครหรอกนอกจากหลานยายทั้งสองคน ในเมื่อเขาไม่สนใจไม่อยากได้ เราก็ต้องรับผิดชอบที่ทำให้เขาเกิดมา หลานสองคนยายยังเลี้ยงมาได้ กับอีแค่เหลนคนเดียวทำไมยายจะเลี้ยงไม่ได้ บ้านก็ไม่ต้องเช่าเหมือนเมื่อก่อน หลานสองคนก็โตและเรียนจบแล้ว ยายไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
“ยาย!!!”
กัณหาโผลเข้ากอดยายด้วยความซาบซึ้งใจ แถมยัง อ้าแขนรับเอาตัวน้องไปกอดรวมไว้ด้วย สามชีวิตกอดกันร้องไห้ให้กับความรักความผูกพันที่มีให้กันมาเนิ่นนาน
“ยายกับพี่นิ่มไม่ต้องกลัวนะครับ ผมเรียนจบแล้ว ถ้าได้ทำงานก็จะมีเงินช่วยเลี้ยงหลานแล้ว”
“นิ่มก็ยังทำงานที่ บ.ก. ส่งมาให้ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะคลอดจ้ะยาย เงินเก็บนิ่มก็มีนิดหน่อย คงจะพอใช้ถึงตอนคลอด พอลูกหย่านมนิ่มค่อยขอกลับไปทำเป็นรายเดือนที่สำนักพิมพ์ก็ได้จ้ะยาย”
เพราะนี่คือแผนระยะสั้นๆ ที่กัณหาวางไว้ นับตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว ยายจำปาอดเสียใจไม่ได้ในสิ่งที่วาดหวังสำหรับอนาคตของหลานสาว แต่ในเมื่อทุกอย่างกลับตาลปัดแบบนี้ ก็ต้องเปลี่ยนแผน เปลี่ยนความคิดเพื่อเอาชีวิตให้อยู่รอด
“ยายก็พอขายขนมได้ทุกวัน คงจะไม่ลำบากอะไรมากเท่าเมื่อก่อน ดีหน่อยที่นิ่มยังได้บ้านหลังนี้มา ไม่งั้นก็คงจะต้องมานั่งจ่ายค่าเช่าอีกแน่ๆ นิ่มไม่ต้องเสียใจนะลูก อะไรผ่านแล้วก็ให้มันแล้วไป เรามาเริ่มต้นใหม่ดีกว่า กำลังท้องกำลังไส้เขาไม่ให้เครียด เดี๋ยวลูกจะพลอยเครียดไปด้วย”
“นั่นสิพี่นิ่ม! งั้นวันนี้พี่นิ่มมาช่วยหนุ่มปลูกดอกไม้ที่หนุ่มซื้อมานะ แต่รอเย็นๆ ดีกว่า กลางวันแดดแรงเดี๋ยวพี่นิ่มเป็นลมพอดี งั้นหนุ่มจะเอาขนมไปส่งก่อนครับยาย”
กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 พ.ย. 2556, 20:22:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 พ.ย. 2556, 20:22:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 2219
<< ชีวิตที่ไร้สุข | พายุลูกใหม่ >> |
daa 23 พ.ย. 2556, 20:58:38 น.
สงสาร
สงสาร
ปรางขวัญ 23 พ.ย. 2556, 21:19:39 น.
นิ่มสู้ๆค่ะ
นิ่มสู้ๆค่ะ
alecigor 23 พ.ย. 2556, 22:06:36 น.
ใกล้ถึงทีของนิ่มบ้างแล้วใช่มั้ยคะ
ใกล้ถึงทีของนิ่มบ้างแล้วใช่มั้ยคะ
คิมหันตุ์ 23 พ.ย. 2556, 23:03:18 น.
ลงชื่อรอตอนเอาคืน !! คิคิ
ลงชื่อรอตอนเอาคืน !! คิคิ
icevy20 24 พ.ย. 2556, 07:36:43 น.
ไม่เอาคืน ไม่โกรธ แต่ไม่ให้อภัย ต่างคนต่างอยู่
ไม่เอาคืน ไม่โกรธ แต่ไม่ให้อภัย ต่างคนต่างอยู่
mhengjhy 24 พ.ย. 2556, 08:53:09 น.
T^T
T^T
กันเกราธัญญรัตน์วรนัน 24 พ.ย. 2556, 10:29:47 น.
กันเกราฝากนิยายที่สนุกสนานอีกเรื่องของเพื่อนนักเขียนชื่อ อัปสรา ไว้ในอ้อมในด้วยคนนะคะ เล่ห์กามา(25+ ร้อน ร้าย)
http://www.hongsamut.com/readniyai.php?niyaiid=3995
http://writer.dek-d.com/apsara1982/story/view.php?id=1051124
คืนรักร้อนซ่อนเสน่หา
http://www.niyay.com/story-65533/
http://writer.dek-d.com/apsara1982/story/view.php?id=1036502
มายาทะเลทราย
http://www.niyay.com/story-66552/
ขอบคุณค่ะ
กันเกราฝากนิยายที่สนุกสนานอีกเรื่องของเพื่อนนักเขียนชื่อ อัปสรา ไว้ในอ้อมในด้วยคนนะคะ เล่ห์กามา(25+ ร้อน ร้าย)
http://www.hongsamut.com/readniyai.php?niyaiid=3995
http://writer.dek-d.com/apsara1982/story/view.php?id=1051124
คืนรักร้อนซ่อนเสน่หา
http://www.niyay.com/story-65533/
http://writer.dek-d.com/apsara1982/story/view.php?id=1036502
มายาทะเลทราย
http://www.niyay.com/story-66552/
ขอบคุณค่ะ