จำแลงแปลงรัก
โยษิตา สูญเสียพ่อกับแม่ไป โลกอันสวยงามของเธอก็ทลายตามไปด้วย เธอเริ่มเข้าสู่วังวนอันดำมืด และเป้าหมายของเธอก็คือเขา...บุคคลที่เธอได้รับหน้าที่ให้ตามติด
วิกรานต์ ชายหนุ่มแท้ มีใบหน้าหล่อยามเป็นชาย แต่ยามเป็นสาวก็หลอกตาใครต่อใครได้มาก ชีวิตของเขาสำมะเลไปวันๆ แต่ความสามารถของเขานั้นกลับเป็นที่ต้องการของใครมากมาย...
คนสองคนต้องมาใช้ชีวิตด้วยกัน เขาใช้เธอเป็นตัวหลอก เขี่ยสาวที่ไม่ได้ดั่งใจ และเธอมีเขาเป็นเป้าหมาย คนแบบเขาเหมาะที่จะส่งไปสอดแนม ล้วงข้อมูลมาให้เธอ
วิกรานต์ ชายหนุ่มแท้ มีใบหน้าหล่อยามเป็นชาย แต่ยามเป็นสาวก็หลอกตาใครต่อใครได้มาก ชีวิตของเขาสำมะเลไปวันๆ แต่ความสามารถของเขานั้นกลับเป็นที่ต้องการของใครมากมาย...
คนสองคนต้องมาใช้ชีวิตด้วยกัน เขาใช้เธอเป็นตัวหลอก เขี่ยสาวที่ไม่ได้ดั่งใจ และเธอมีเขาเป็นเป้าหมาย คนแบบเขาเหมาะที่จะส่งไปสอดแนม ล้วงข้อมูลมาให้เธอ
Tags: ดราม่า แอ็กชั่น สืบสวน โรแมนติก สายลับ
ตอน: บทที่ 1 : โลกที่เปลี่ยนไป
ถ้าหากชีวิตนี้พ่อของเธอไม่ใช่สายลับ แม่ไม่ใช่ตำรวจหญิง ชีวิตของเธอคงไม่โลดโผนโจนทะยาน ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงหัดเดินป่าตามผู้เป็นพ่อกับชีวิตแสนผจญภัย หรือฝึกจับปืน เรียนต่อสู้มาแต่เล็ก ต้องมานั่งลุ้นในบ้านชั้นเดียวของเธออันเงียบเหงายามพ่อแม่ไปปฏิบัติงาน เธอภาวนาให้พวกท่านกลับมาอย่างปลอดภัยเช่นทุกครั้ง...แต่คำขอครั้งนี้ของเธอไม่สัมฤทธิ์ผล
โยษิตาเม้มปากแน่นไม่ให้ตัวเองแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าธารกำนัลในชุดสีกากี ร่างของเธอในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดยืนสงบนิ่ง สองมือประสานกันด้านหน้า ก้มศีรษะลงต่ำสี่สิบห้าองศามองพื้น ฟันกรามภายในถูกกัดกระทบกันแน่น ความรักของท่านยังลอยอยู่รอบตัวเธอ แม้กายจะถูกเผาเป็นเศษธุลีพวยพุ่งควันดำออกจากปล่องในยามนี้
“หนูจูนหนูแน่ใจนะว่าจะไม่มาเป็นตำรวจเหมือนแม่ ความสามารถของหนูน่าจะเป็นประโยชน์กับอาชีพของแม่หนู”
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชาของแม่เธอชวนคุย โยษิตาไม่รู้ว่าท่านรองกล่าวปลอบใจเธอหรืออย่างไร แต่คำตอบเธอก็คงเหมือนเดิม
“ไม่ดีกว่าค่ะ...จูนอยากใช้ชีวิตเงียบๆ อย่างที่พ่อกับแม่อยากให้จูนมีมาตลอด” ขนตางอนยาวกะพริบไล่หยาดน้ำจางออกจากขอบตา ยิ้มเชิงขอบคุณในคำอนุเคราะห์นั้น เธอรู้ว่าการสละชีพของพ่อแม่เธอในครั้งนี้ เป็นผลงานอันดีเยี่ยม แม้แต่พ่อที่อยู่นอกราชการ ยังได้ยศ หรือแม่จากยศร้อยตำรวจเอกยังได้เลื่อนเป็นพันตำรวจโท
การเลื่อนยศให้หลังจากหมดลมหายใจ...มันมีประโยชน์ต่อใคร วงศ์ตระกูล ไม่ใช่กับเธอ โยษิตาปล่อยใจให้ลอยขึ้นตามควันดำในอากาศ ฝนพรำลงมาช้าๆ ในบรรยากาศแสนหม่นหมอง
ร่างของพ่อแม่ที่แหลกละเอียดในระเบิด เธอลืมไม่ลงจริงๆ ไม่ว่ายามหลับหรือตื่น...บ้านของเธอ คือที่สิ้นลมของพ่อแม่ ตำรวจทำอะไรไม่ได้ นอกจากร่วมแสดงความเสียใจกับเธอ
เธอไม่อยากเป็นเหมือนแม่ และไม่อยากให้โดนคนร้ายจับง่ายอย่างพ่อ จากนี้เธอนี่แหละจะสืบเสาะค้นหาคนร้าย ให้ใช้เวลาทั้งชีวิตเธอก็จะทำ...ต่อให้เธอต้องถูกความมืดครอบงำจิตใจเธอก็พร้อมกระโดดลงไป แสงสว่างของเธอมันดับสนิทเมื่อสิ่งที่เหลือคือเถ้ากระดูกของพ่อและแม่เท่านั้น
“พี่เสียใจด้วยนะจูน”
เธอเริ่มเกลียดคำนี้...โยษิตาเดินลงจากรถมาถึงบ้านหลังน้อยของเธอที่เหลือร่องรอยระเบิดให้เธอเห็นช้ำใจ เชือกขึงกั้นอาณาเขตรอบบ้านของเธอ สวนดอกไม้ขนาดเล็ก และสนามหญ้าเละไม่เป็นท่า ต้นไม้กระจุยไร้ทิศทาง แยกจากรากของมัน ดินเป็นปึกแผ่นด้วยหญ้าโดนคว้านเนื้อลึกเป็นหลุม
บ้านของเธอ โดนระเบิดปาใส่ และผลของมันส่งถึงหัวใจเธออย่างรุนแรง ภาพความอบอุ่นของครอบครัวเหลือเพียงความทรงจำ ที่เธอสัมผัสไม่ได้อีกต่อไป
“พี่เจไม่ต้องห่วงจูนหรอก จูนไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ความหยิ่งทะนง ดวงตาเย็นเยียบเกือบจะไร้ความมีชีวิตทำให้คนมองนึกสะท้อนใจ โยษิตาเองก็ลืมนึกไปว่าสิรธีร์ได้สูญเสียผู้การซึ่งเป็นพ่อของเขาไปด้วยเรื่องแบบเดียวกับเธอ
ตายในหน้าที่...น่าภูมิใจกับการตายอันมีเกียรติ แต่คนสูญเสียอย่างเธอได้แต่ก้มหน้าสะกดกลั้นน้ำตาตกในจนร้าวไปทั้งอก
ครอบครัวสูญสลายหายไปในพริบตา คนร้ายยังลอยนวล จับมือใครดมไม่ได้
“มาช่วยพี่ไหม” ชายนอกเครื่องแบบหลังตรงสง่ามีมาดตำรวจเต็มเปี่ยม ทอดสายตาอันล้ำลึก และเคว้างคว้างว่างเปล่ามองเธอ
โยษิตารู้สึกหัวใจตัวเองอุ่นวาบ แม้ว่ามือที่เขายื่นมาจับจะเย็นเฉียบ ไม่ได้ส่งไออุ่นโอบกอดเธอได้ แต่อย่างน้อยวินาทีนี้ความเดียวดายของเธอได้มีเขามาเดียวดายเป็นเพื่อน
ชีวิตของคนสูญเสียคนที่รักไปในเหตุการณ์คล้ายๆ กัน...หญิงสาวยิ้มออกมา แม้ยังไปไม่ถึงดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่น นักศึกษาปีสุดท้ายในคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์พร้อมจะเบนเข็มชีวิตแล้ว
“ถ้าช่วยที่ว่าจะทำให้จูนรู้เรื่องคนร้ายที่ฆ่าพ่อแม่จูนด้วย...ให้จูนต้องใช้นรกมาล้อมคนเลว จูนก็จะทำ”
“ดีมาก...จากนี้มาเป็นสายลับของพี่นะ”
หญิงสาวรับคำในลำคอ เลื่อนสายตาไปยังมือที่กุมเขาไว้หลวมๆ กลัวใจตัวเองจะเผลอกำมือเขาแน่นขึ้น
พี่เจคงจะไม่ชอบ...
ตั้งแต่วันนั้น เธอก็ไม่ได้พบกับสิรธีร์อีก โยษิตาไม่รู้ว่าการทำตัวเป็นสายลับนั้นเริ่มอย่างไรจากตรงไหน เธออยู่ในบ้านพักตำรวจของแม่ได้สองอาทิตย์ จึงตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านอีกครั้ง มันโหดร้ายอย่างที่เธอคาดไว้ ทุกตารางนิ้วในบ้าน เธอเห็นแต่เงาของพ่อและแม่
เบ็ดตกปลาด้ามยาวของพ่อถูกเธอเหวี่ยงออกไปในอากาศอย่างเลื่อนลอย เสียงของพ่อยามสอนให้เธอฝึกทำโน่นนี่ยังดังก้องในหู หรือจะการฝึกยิงปืนกับแม่เธอก็เคยเรียนมา
พ่อแม่สอนทุกอย่างให้เธอไว้เพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง...โยษิตาหลับตาลง ฟังเสียงเหวี่ยงของตัวเบ็ดเสียสีอากาศ นึกย้อนไปถึงวันหนึ่งในฤดูร้อน สู่ริมบ่อน้ำลึก
‘ลูกต้องฝึกไว้ให้ชำนาญ ทุกๆ อย่างเลยรู้ไหม’
‘มีพ่อกับแม่อยู่แล้วทำไมหนูต้องฝึกอีกก็ไม่รู้ ยังไงพ่อแม่ก็ทำให้’ เสียงเด็กสิบขวบที่ตอบพ่อออกไปยังไม่รู้ประสาใดๆ ด้วยซ้ำ แม่ที่ยืนเคียงพ่อเป็นคนตอบคำถามในข้อนี้
‘มันดีแค่ไหน ถ้าลูกจะปกป้อง ดูแลตัวเองได้ เชื่อแม่กับพ่อเถอะ ว่ายิ่งลูกดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหน ในอนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ พวกเราจะวางใจ’
มือที่เหวี่ยงออกไปหยุดชะงักกลางอากาศ ดวงตาฉาบไปด้วยความนิ่ง ไร้ความหวั่นไหว เธอดูแลตัวเองได้...แต่เธอก็อยากเรียกร้องความยุติธรรมคืนให้พ่อกับแม่
โยษิตาถอนใจ...วันนี้ในสภาวะฟุ้งซ่าน การกลับมาบ้านวันแรกของเธอก็ควรได้รับการปล่อยวางชั่วคราว
รูปครอบครัวพ่อแม่ลูกข้างฝาขนาดใหญ่ประดับรอยยิ้มในแคมป์อันหนาวเหน็บบนเขา มีหมอกประกอบฉากในรูป สายตาของเธอเพ่งไปยังบุพการี เปล่งวาจาขอโทษขอโพย ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ยาวนานตลอดนับจากนี้
“หนูรักพ่อกับแม่มากนะคะ...และจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง หนูจะยืนหยัดในความถูกต้อง ถึงตัวของหนูจะต้องแปดเปื้อนสิ่งโสมมบ้าง แต่ถ้าทำให้หนูเข้าใกล้พวกมัน...หนูจำเป็นต้องทำ อย่าโกรธหนูเลยนะคะ หนูมีความสุข มีชีวิตสงบ อย่างที่พ่อแม่ต้องการไม่ได้จริงๆ”
และสิ่งเดียวที่เธอคิดออกในการตามหาความจริง คือการพาตัวเองไปหาโลกสีดำที่เธอไม่เคยมีความคิดเฉียดกรายเข้าใกล้
ดวงตาเรียวรีคู่นั้นมีเสน่ห์มัดใจชายทั้งโต๊ะ ริมฝีปากแดงมุมปากเหยียดเป็นรอยยิ้มยามเหรียญหลายกองบนโต๊ะถูกกวาดมาตรงหน้า หุ่นชะอ้อน เอวเล็ก สวมผ้าเรียบสีฟ้าแขนกุดยาวลากพื้น โกยสมบัติที่เล่นมาได้ลงกระเป๋าจนครบถ้วน เสียงดัดหวานเอ่ยบอกถึงสิ่งที่ต้องการ
“วันนี้แค่นี้นะคะ”
หนุ่มที่เล่นเสียไปหลายคนกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก กวาดตามองหุ่นสวยของสาวงามผมปรกหน้าขาวเนียนอย่างเผลอไผล แสนเสียดาย หนุ่มวัยกลางคนอีกหลายคนถึงกับมองน้ำลายหก ในวงการนักพนันไม่มีใครไม่รู้จัก ‘โรส’ สาวงามที่ไร้ที่มาที่ไป
แต่มาที่ไหนที่นั่นมีแต่เสียลูกเดียว...วิธีการเล่นแบบไม่เคยเข้าเนื้อของโรสเป็นที่เล่าลือกล่าวขาน บางคาสิโนถึงกับออกปากว่าไม่รับโรสเป็นลูกค้า แต่พอโดนเสน่ห์เย้ายวนนิดๆ โปรยตาให้อีกหน่อย เร่เปิดทางต้อนรับกันแทบไม่ทัน เป็นอาหารตาของเสี่ยน้อยเสี่ยใหญ่ หรือพวกนักเสี่ยงโชคอยากรวย
“หนูโรสจ๋า อีกสักหน่อยเถอะจ้ะ เอ้า ป๋าเทหน้าตักเลย นะจ๊ะ”
นักพนันมืออาชีพชายตามองป๋าตัวอ้วนกลม หัวเถิกโกยเหรียญมาเต็มแขน วาจาของเขาไม่ต่างจากพวกบ้ากาม ไม่หวังในผลของเกม แต่นึกอยากให้โรสฟรีๆ ด้วยซ้ำ ขอแค่ต่อเวลาให้น้ำลายได้หยดหกรดบนโต๊ะอีกสักนิด
“ขอโทษนะคะป๋า วันนี้โรสอิ่มแล้ว ขอตัว”
หญิงงามเดินฝ่าดงเหล้าดงบุหรี่อันคละคลุ้ง สายตาคอยหว่านเสน่ห์ให้หนุ่มใหญ่หนุ่มเล็กตลอดทาง บางโต๊ะถึงกับเสียสมาธิในการเล่น เพ่งมาที่หล่อน โรสยิ้มขัน มีไม่น้อยกับอาการเหมือนมีเข็มจากสายตาอีกหลายคู่พุ่งตรงมา...พวกผู้หญิงขี้อิจฉา
ช่างไม่รู้อะไรเลย...
เหรียญมากมายถูกแลกเปลี่ยนเป็นเงินจำนวนมากอัดแน่นในกระเป๋าถือ โรสสะพายมันไว้ข้างตัว ไม่ได้เกรงกลัวว่าจะมีใครมาช่วงชิงเอาไป...สิ่งที่ทำมันน่าสนุก และตื่นเต้นน้อยเสียที่ไหน แค่นึกก็อยากจะหัวเราะงอหายให้ท้องคัดท้องแข็ง
โรสผ่านประตูที่มีคนเฝ้าออกมายังสถานที่เสียงอึกทึกอีกครั้ง สถานบันเทิงชื่อดังแห่งนี้ใครๆ ต่างก็รู้ว่ามีสิ่งโสมมครบรูปแบบ ทั้งคาสิโน หรือค้าผู้หญิง หากไม่มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง หรือแม้แต่ตำรวจในพื้นที่โดนยัดเงินปิดปาก ทำตัวเป็นคนตาบอดปากใบ้ แต่คอยแบมือ
ก็แค่สถานที่ชั้นต่ำไว้มาดูดเงินเล่นๆ...โรสคิดอย่างไม่จริงจัง นึกละเหี่ยกับสังคม แต่ไม่คิดทำตัวเยี่ยงฮีโร่กางปีกออกโรงแทนชีวิตใครอื่น ชีวิตใครก็ชีวิตมัน ทุกคนต่างเลือกได้ แต่หากจะเลือกดิ่งลงนรก มันก็กรรมคนนั้น ใช่ว่าแต่เกิดจะไม่มีใครสอนว่าสิ่งไหนขาวสิ่งไหนดำนี่
นิ้วหมุนวนรอบผมยาวดำขลับเงางามถึงกลางหลังของตัวเองไปมา งึมงำเสียงเพลงในคออารมณ์ดี สายตากวาดมองไปเรื่อย เห็นบาร์เครื่องดื่มไม่ได้มีคนมาก จึงมุ่งตรงไป ใช้เงินที่ได้มากลั้วคอไม่ให้แห้งก็ดี
การพูดตลอดหลายชั่วโมงด้วยเสียงหวานจ๋อยแบบนั้น...ทรมานชะมัด
“ขอแรงที่สุดแก้วหนึ่งจ้ะ” การจะสั่งก็ต้องทำเสียงแบบเดิม โรสยิ้มเยื้อนให้พ่อหนุ่มที่มองมาตาค้างอีกคน ต้องให้บาร์เทนเดอร์สาวอีกคนกระแอมจึงได้สติ
สาวๆ พวกนี้ช่างขี้อิจฉา...เหอะ
นั่งลงบนเก้าอี้ทรงสูง ด้านข้างมีสาวน้อยหน้าแฉล้ม ไม่สิ จะเป็นสาวน้อย ถ้าไม่นับการเก็บผมไว้ในหมวก หรือสวมชุดทะมัดทะแมง เสื้อลายทางคอเต่า กางเกงสแล็ค หน้าอกหน้าใจจะโดนบีบอัดแน่นติดกายแค่ไหนก็ไม่รู้
ริอาจปลอมตัว...แต่ไม่ชำนาญสักนิด
“น้ำผลไม้อร่อยไหมจ๊ะ หนูน้อย”
ความมืดรอบด้าน มีแสงไฟเป็นเส้นเลเซอร์ผ่านหัวไปมา เสียงอึกทึกดังเกินอัตราความปลอดภัยของเสียงที่มนุษย์ควรได้ยินในจังหวะเร้าใจ ไม่ได้ขัดขวางการได้ยินของคนถูกเย้ยหยัน สายตาว่างเปล่า มีความเย็นชาแฝงมาจ้องตอบกลับ เธอกวาดตามองคนทักเธอ มุมปากกระตุกยิ้ม
“สวยดีนะคุณ”
ไม่อิจฉา...แถมยังออกปากชม ผู้หญิงคนนี้มีปฏิกิริยาเอื่อยเฉื่อย และดูเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าจะเป็นมนุษย์ทั่วไป
“ได้แล้วครับคุณผู้หญิง” เครื่องดื่มที่โรสสั่งบรรจุน้ำสีน้ำตาลสวยภายใน คนสั่งเหลือบตามองร่างที่ไม่สะทกสะท้านกับการถูกเหน็บแนมเรื่องสั่งน้ำผลไม้ดื่มในสถานที่แบบนี้ ยังละเลียดช้าๆ
“ท่าทางหนูจะคออ่อนนะ กลัวกลับไปบ้านพ่อแม่จะจับได้ว่ามาเที่ยวอโคจรเหรอจ๊ะ” ท้ายเสียงดัดเสียงหวานเกินจริต หัวเราะคิกคักไปมา
คนโดนท้าเลิกคิ้วมองสาวสวยแต่ปากเปราะไม่สมหน้า แก้มป่องสองข้างของเธอยกสูงขึ้นด้วยรอยยิ้มรับคำท้า “มาดวลกันไหม...จะได้เลิกปากดี หรือไม่กล้า”
“แด่สาวน้อย...เชิญก่อนเลย”
แก้วที่อีกฝ่ายสั่งมาถูกนิ้วยาวของเขาดันมาตรงหน้า แววตาวิบวับเป็นประกายขำขัน โยษิตากัดฟันกรอด หัวคิ้วกระตุก ดีที่เธอยังควบคุมอารมณ์ทางสีหน้าได้ดีไม่ให้แสดงออกว่าใจเธอนั้นหวาดหวั่นแค่ไหน
จุดอ่อนเดียวของเธอ...คือแอลกอฮอล์
ยิ่งเห็นท่าเปิดทางให้เธอรีบๆ ดื่ม ส่วนตัวเองนั้นเรียกบริกรขอเพิ่มอีกหนึ่งแก้ว เธอตั้งใจอาศัยช่วงจังหวะนั้นเททิ้ง ก็ถูกสายตาคู่เดิมมองกดดันเธอไว้...อย่างกับนกรู้
โยษิตาหลับตากลั้นใจกระดกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ความร้อนไล่ผ่านลำคออย่างรวดเร็ว ลามไปถึงอวัยวะในช่องท้องจนร้อนผ่าวไปหมด ทนไม่ไหวกระทั่งไอออกมา หน้าของเธอขึ้นสีแดงจัด กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ออกมาจากปากทำให้เธอต้องทำหน้ายุ่ง...รู้สึกไม่ชอบใจในตัวเองขึ้นมา
“เด็กน้อยจริงๆ ดื่มไม่ได้ก็ควรบอก ไม่ใช่หยิ่งไม่เข้าเรื่อง มันหมดสภาพ” คนต่อว่าต่อขานจิบเครื่องดื่มในมือ สายตาไม่ปิดบังความขำขัน รู้สึกอารมณ์ดียิ่งอีกฝ่ายมองตาขวางส่งมา
น้ำเปล่าจากน้ำใจของสาวสวยจอมถากถางไม่ทำให้เธอซึ้งใจ แต่ก็ยอมยกขึ้นดื่ม ขับไล่ความร้อนในกายไป เธอเมาง่าย ครั้งก่อนเธอเคยจิบไป สักพักก็สลบวูบไปทันที พอตื่นขึ้นมาก็ถูกสั่งห้ามแตะต้องแอลกอฮอล์ทุกประเภทจากพ่อแม่
โยษิตายังคงไอ เพราะความร้อนในกายยังคงมีอยู่ เธอไอจนหน้าดำหน้าแดง หลายครั้งถึงกับสูดอากาศอันไม่บริสุทธิ์ภายในสถานที่อึกทึกนี้เข้าไปอย่างยากลำบาก ดวงตาของเธอเริ่มพร่า เริ่มรู้สึกง่วงงุนขึ้นมา มีอาการวิงเวียนเข้ามาด้วย
เริ่มเมาแล้วสินะ...
ร่างบางในชุดทะมัดทะแมงลุกขึ้นยืนโงนเงน ลมหายใจร้อนผ่าวของตัวเองเข้าออกลำบากมากขึ้น เธอเกาะเก้าอี้ของตัวเองหลับตาไว้สักพัก ไม่มั่นใจว่าอาการในตอนนี้ของเธอเกิดอะไรขึ้น
เอวของเธอโดนเกี่ยวด้วยมือของใครสักคน ในตอนนี้โยษิตาแทบไม่รู้สึกตัว ได้ยินเสียงห้าวดังชิดริมหูในเชิงสบถ “แพ้เหล้าก็ไม่บอก...บ้าจริง”
มือของเธอรั้งข้อมือเขาบริเวณเอวไว้ ส่งเสียงที่พอฟังเป็นภาษาคนออก เธอรู้สึกกลิ่นกายเขาหอมเกินกว่าจะเป็นของผู้ชาย
“จะพาไปไหน...ไม่ไปหรอก ปล่อยฉัน”
“อย่ามาทำอวดดี หุ่นแบนๆ แบบนี้แค่มองก็หมดอารมณ์ ฉันไม่เอาเธอไปทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า”
หัวคิ้วของโยษิตาขมวดมุ่น ถึงจะยังหลับตา เพราะลืมตามองไม่ไหว โลกของเธอดูหมุนไปหมด ขาของเธอเดินตามเขาไป รู้สึกเกลียดตัวเองที่ยอมให้คนแปลกหน้าถึงตัวขนาดนี้...จริงๆ เธอต้องมีสติสิ
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิง แต่ก็ไม่ใช่ผู้ชาย” พยายามงัดไม้ตายสุดท้ายออกมา อาการคันคะเยอะตามตัวทำให้เธอลูบมือไปตามเนื้อตัวของตัวเอง
ที่แท้เธอแพ้แอลกอฮอล์นี่เอง...พ่อแม่ถึงได้สั่งห้าม ไม่ใช่แค่เมาหลับอย่างที่เคยเข้าใจ
เสียงถอนหายใจดังเฮือกข้างหู เธอรู้สึกว่าถูกช้อนตัวนั่งอยู่บนเบาะ หูของเธอไม่ได้ยินเสียงดังหนวกหูอีกแล้ว มีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศ และกลิ่นสะอาดโล่งจมูกมากขึ้น มีสายหนึ่งคาดบนร่างของเธอ และน้ำเสียงห้าวทุ้มข้างหู
ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงสู่นิทรา
“แล้วใครบอกว่าฉันคือผู้หญิง...เด็กน้อย”
.................................................
เรื่องภีมมิลันขอพักชั่วคราวค่ะ ตอนนี้กำลังรีไรท์สวีทเทสอยู่ มีหลายจุดที่ต้องเปลี่ยน เลยยังไม่อยากเขียนสวีทสุดท้ายค่ะ เพราะตรงที่เปลี่ยนส่วนใหญ่เป็นของมิลัน ไว้จะกลับมาต่อเร็วๆ นี้ค่ะ รู้สึกว่ายังติดบทส่งท้ายในรังดังฝันด้วย เริ่มอู้เบาๆ
ส่วนเรื่องนี้เริ่มเขียนขึ้นมา ให้หายคิดถึงกันก่อน พระเอกเวอร์ชั่นแบบนี้ไม่รู้จะมีใครรักไหม ดูดาร์กๆ พิกล ชอบไม่ชอบยังไงบอกกันได้ค่ะ ยินดีรับฟังค่า รักคนอ่านเสมอ ^o^

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ธ.ค. 2556, 03:57:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ธ.ค. 2556, 03:57:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 1679
บทที่ 2 : คนประหลาด >> |

ปรางขวัญ 21 ธ.ค. 2556, 16:44:25 น.
พระเอกดูท่าจะหน้าหวานนะคะ อิอิ มาเกาะคอยเรื่องนี้ต่อ
พระเอกดูท่าจะหน้าหวานนะคะ อิอิ มาเกาะคอยเรื่องนี้ต่อ

