อาญาซาตาน
ชาครีย์ หรือเสือ จากอดีตเคยเป็นคนจนๆ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวย เพราะได้เงินจากการขายที่ดินแถวหนองงูเห่าที่เมื่อก่อนราคาไร่ละไม่กี่แสน แต่พอสร้างสนามบินขึ้นมากลายเป็นราคาหลายสิบล้าน และเขาก็สร้างฐานะให้มั่นคงด้วยการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนๆ ที่เป็นลูกคนรวยทั้งหมอ ทั้งนักการเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ทำให้สร้างตัวได้ในเวลาแค่สิบกว่าปีเท่านั้น
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ
เขาจึงตามมาแก้แค้นคอบครัวของยุพาพร ซึ่งเป็นแม่ของวิโรจน์เจ้านายเก่าของพ่อเขา และมีเคยมีคดีความกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนไม่จบ เพราะวีรดา (มิว) ในวัยแปดขวบซึ่งเป็นลูกสาวของวิโรจน์กับเสาวรส และเป็นเด็กสปอยมาก วันนั้นไปเล่นที่ท่าน้ำ น้องของเสือก็ไปเล่นด้วย เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ห้องแถวในโรงงานของวิโรจน์ เลยรู้จักมักคุ้นกับลูกเจ้านายดี
แต่เพราะความสปอยของมิว จึงผลักน้องสาวเสือตกน้ำต่อหน้าต่อตาเขา และเขากับพ่อแม่ก็แจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อแม่ของมิว ยุพาพรใช้เงินอุดให้เรื่องเงียบ เสือกับพ่อแม่เสียใจมากเลยออกจากงานย้ายกลับบ้านที่หนองงูเห่า ปีต่อมาพ่อของเสือมาหาเพื่อนที่โรงงานเลยถูกวิโรจน์ขับรถชน เสือเสียใจมากฟ้องตามเคย และแพ้คดีตามเคย เพราะยุพาพรใช้เงินอุด ทำให้เสือโกรธมาก
เลยกลับมาเล่นงานครอบครัวนี้ด้วยการช้อนซื้อบริษัทส่งออกอาหารกระป๋องของวิโรจน์ที่จะเจ้งแหล่ไม่เจ้งแหล่ รวมทั้งคฤหาสน์ราคาเป็นร้อยล้าน เสือก็ซื้อมาในราคาแค่เจ็ดสิบล้าน เพราะวิโรจน์ติดการพนัน ติดหญิง ไม่สนใจจะทำงานสานต่อกิจการครอบครัวเหมือนเมื่อก่อน ลูกชายก็ไม่ได้เรื่อง ลูกสาวคือมิวก็ถูกส่งไปเรียบต่อเมืองนอกตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน
เสือยื่นข้อเสนอให้ยุพาพรกับวิโรจน์ว่าจะให้หุ้นในบริษัท 25% ถ้าวิโรจน์ยอมทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่อ และยกหนี้ให้ 25ล้านบาท ถ้าวิโรจน์ส่งมิวที่กำลังเรียนอยู่เมืองนอกให้มาเป็นนางบำเรอเขาสองปี วิโรจน์ยอมทำตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสไม่ยอม และให้วิโรจน์ไปหาลูกเมียน้อยที่วิโรจน์เคยมีอะไรด้วยมาแทนมิว
กัณหา(นิ่ม) ที่เป็นลูกของวิโรจน์ที่เกิดจากกันยาเด็กรับใช้ในบ้าน และถูกยุพาพรไล่ออกจากบ้านตั้งแต่รู้ว่าท้องแล้ว และวิโรจน์ก็ไม่เคยสนใจจะติดตาม แต่ยุพาพรกับเสาวรสคอยจับตามองเสมอๆ ว่ากันยาพาลูกไปอยู่ที่ไหนกับใคร และกันยาก็มีลูกชายกับผัวใหม่คือ ชาลี อีกคนแล้วทิ้งลูกทั้งสองให้แม่ (ยายจำปา) เลี้ยงดูตามลำพังจนโตเป็นสาว
และเป็นช่วงที่ยายจำปาเกิดป่วยหนัก หลานทั้งสองต้องหาเงินเป็นล้านไปจ่ายให้โรงพยาบาล กัณหาต้องยอมตามที่พ่อกับย่าขอร้องเพื่อแลกกับการรักษายายให้หาย และให้บ้านฟรีๆ อีกหนึ่งหลังจะได้ไม่ต้องเช่าห้องแถวในสลัมอยู่ และมีเงินเดือนให้สี่หมื่นตลอดสองปี กัณหาจึงได้เข้าไปอยู่กับเสือในคราบของมิว เด็กสปอยที่เสือเกลียดมาก และคิดจะเล่นงานกลับคืนให้สาสม
และเสือก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กนอกอย่างมิวถึงยังบริสุทธิ์อยู่ และทำไมถึงยอมอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่เขาเตรียมให้แทนตึกใหญ่ ทำไมถึงทำกับข้าวกินเองได้ งานบ้านก็ทำได้ เดินออกไปปากซอยไกลๆ ก็ทำได้ เขาสงสัยแต่ก็คิดว่าความยากจนทำให้คนเปลี่ยนไป เลยไม่คิดจะหาคำตอบจริงๆ จังๆ
Tags: พระเอกโหด เศร้า รัดทด
ตอน: เส้นผมบังภูเขา
และสำหรับคนที่เป็นต้นเหตุแห่งความรวดร้าวในหัวใจว่าที่คุณแม่นั้น ก็กำลังเดินออกจากร้านอาหารหรูในห้างสรรพสินค้าดัง หลังเสร็จจากคุยงานกับลูกค้า ทัตเทพที่มาร่วมโต๊ะด้วยกันแยกไปอีกทางเพราะจอดรถคนละชั้น และต้องรีบกลับไปทำงานต่อ แต่สำหรับเจ้านายหนุ่มไม่ได้รีบร้อนอะไร จึงเดินเรียบเรื่อยไปหาสปอร์ตหรูเท่านั้น
“ว๊าย!!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ คนกระชากกระเป๋าค่ะ”
เสียงร้องดังมาจากมุมมืดไม่ห่างจากรถของเขานัก ทำให้รีบวิ่งไปดู ก็เห็นชายสามคนกำลังยื้อหยุดฉุดลากผู้หญิงอยู่อย่างไม่เกรงกลัวว่าจะมีใครมาพบเห็น
“หุบปากนะอีบ้า มึงจะร้องทำไม เอากระเป๋ามาดีๆ ไม่งั้นกูจิ้มแน่”
“ไม่ๆๆ เอาของฉันคืนมา ช่วยด้วยๆ”
เผี้ยะ
“โอ๊ย!!!”
ชาครีย์ไปถึงทันได้เห็นร่างสูงผอมเพรียวถูกตบไปหนึ่งฉาดและถูกผลักอย่างแรงจนล้มเข่ากระแทกพื้น ไอ้ชั่วทั้งสามก็เปิดกระเป๋าสะพาย ได้เงินปึกหนึ่งในกระเป๋าสตางค์แล้วขว้างกระเป๋าสะพายใส่หน้าหญิงสาววิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง เขารีบวิ่งเข้าไปช่วยหญิงโชคร้ายอย่างไม่เกรงว่าภัยจะมาถึง
“คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ จะให้ผมแจ้งตำรวจไหม” พร้อมกับเอ่ยถามขณะช่วยพยุงให้ลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ช่างมันเถอะฉันขี้เกียจไปโรงพักเสียเวลา มันก็แค่เอาเงินไปเท่านั้นค่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ถ้าคุณมาช้ากว่านี้ฉันอาจจะถูกมันแทงไปแล้วก็ได้”
“รถคุณอยู่ไหนครับ ผมจะได้พาไป”
ความห่วงที่มีให้แม้คนไม่รู้จัก ทำให้ไม่ทันได้สังเกตว่าเครื่องแต่งกายของเจ้าหล่อนก็ล่อตาล่อใจโจรไม่น้อย เพราะใส่กระโปรงสั้นจู๋ เสื้อตัวน้อยนิดแถมเป็นผ้าเนื้อบางอีก
“ทางโน้นค่ะ” หญิงเคราะห์ร้ายชี้ไปหารถด้วยสีหน้าตระหนกไม่หาย และก้าวเดินไป
“โอ๊ย!!!”
แต่ก็ไปได้แค่ก้าวเดียว เพราะหัวเข่าขาวราวหิมะมีเลือดไหลซิบๆ ออกมาทั้งสองเข่าจนต้องใช้สองแขนเกาะชายหนุ่มผู้เอื้ออารีย์เอาไว้เพื่อไม่ให้ล้ม ชาครีย์เลยรีบก้มลงไปดูเพราะความห่วง
“คุณได้แผลแล้วล่ะ เดินไหวหรือเปล่าครับ”
“ได้ค่ะได้ โอ๊ย!!!” อีกคนใจแข็งและพยายามก้าวเดิน แต่ก็ต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บ เขาจึงตัดสินใจ
“ขอโทษนะครับ ถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งบ้านดีกว่านะครับ จะได้ทำแผล หรือไม่ก็แวะคลีนิคแถวนี้ รถผมอยู่ทางโน้นครับ และผมอุ้มคุณไปได้ถ้าคุณจะอนุญาต”
เมื่อได้ได้รอยยิ้มอย่างเอียงอายเป็นคำตอบแทน เขาจึงช้อนร่างสูงเพรียวขึ้นพาเดินไปหารถอย่างง่ายดาย โดยอีกฝ่ายไม่ลืมที่จะหิ้วกระเป๋าสะพายติดมือไปด้วย แล้วสปอร์ตหรูก็มุ่งตรงไปยังทิศทางที่คนข้างๆ ชี้ไปทันที และแม้พยายามจะไม่มอง แต่ต้นขาขาวส่วนทีโผล่พ้นกระโปรงสั้นบานและกางเกงขาสั้นที่ใส่ไว้ด้านใจก็อยู่ในรัศมีการมองเห็นอยู่ดีเวลาก้มลงมาตะบบเกียร์
“ให้ผมช่วยนะครับ”
พอถึงคฤหาสน์หลังงาม ชาครีย์ก็อาสาอุ้มสาวโชคร้ายไปส่งให้ถึงในบ้าน ที่มีอีกสาวยืนทำท่าทีตระหนกตกใจนานหลายนาที ถึงได้ตั้งสติด้วยการรีบวิ่งไปหากล่องยามาให้เขาช่วยปฐมพยาบาลจนเสร็จ เลยได้เบียร์เย็นๆ เป็นการตอบแทนจากสองพี่น้องที่หน้าตาไม่เหมือนกันสักนิด
“ขอบคุณอีกรอบนะคะคุณเสือที่ช่วยยัยไอซ์ไว้ ไม่งั้นป่านนี้คงแย่แน่ๆ เลยค่ะ” ผู้เป็นพี่เดินมาส่งเขาถึงหน้าบ้านแทนน้องสาวที่ยังเดินไม่ได้ เขาส่งยิ้มแห่งความเป็นมิตรให้ ก่อนเอ่ยลา
“ด้วยความยินดีครับคุณอิ้ง งั้นผมขอตัวกลับนะครับ”
คนส่งยืนมองจนสปอร์ตแล่นลับประตูไปถึงได้เดินยิ้มกลับเข้าไปด้วยความอารมณ์ดี แล้วสองสาวก็ยกมือสองข้างตบเข้าหากันด้วยความเคยชินเมื่อแผนขั้นแรกสำเร็จ
“แผนหล่อนนี่มันสุดยอดจริงๆ เลยนะยัยมิว เอาซะนายนั่นเชื่อสนิทเลย” นุตปวีย์เพื่อนที่เพิ่งจบจากนอกมาพร้อมกันเอ่ยชมทันที แต่วีรดากลับหน้างอใส่เพื่อนแทนแล้วบ่นอุบอิบตาม
“ก็ต้องชมคนที่หล่อนจ้างมาล่ะย่ะ ที่เล่นสมจริงด้วยการตบจริงผลักจริงจนฉันได้แผลและระบมทั้งหน้าแล้ว มันน่าหักค่าจ้างให้เหลือครึ่งเดียวนัก”
“ฮ่าๆๆๆ เอาน่า ถ้าไม่สมจริงผลก็คงไม่ออกมาแบบนี้หรอก ว่าแต่แผนต่อไปล่ะจะเป็นยังไงต่อ”
“รอก่อนสิยะหล่อน ใจร้อนไปได้ จะจับปลาใหญ่อย่างนายนั่นมันต้องมีชั้นมีเชิงมากๆ หน่อย และต้องวางแผนซ้อนกันหลายๆ ทอด ถึงจะไม่ถูกจับได้”
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง วีรดาก็ควักมือถือเพื่อน กดเข้ามือถือตัวเองที่ซุกไว้ในสปอร์ตหรู ชาครีย์ต้องหาตั้งนานกว่าจะเจอเจ้าไอโฟนที่ส่งเสียงร้องตั้งแต่เขาเลี้ยวรถเข้าบ้านแล้ว
“ผมเพิ่งถึงบ้านครับคุณไอซ์ งั้นผมจะให้คนขับรถไปส่งให้ที่บ้านนะครับ”
“อุ๊ย!!! ไม่เอาค่ะคุณเสือ ไอซ์เกรงใจ เอาไว้พรุ่งนี้ไอซ์กับพี่อิ้งขับไปเอาที่ออฟฟิศคุณเสือเองดีกว่านะคะ ถ้าออกไปเมื่อไหร่จะโทรถามทางนะคะ แค่นี้นะคะขอไอซ์ไปกินยาก่อนค่ะ รู้สึกปวดแผลขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ ไว้เจอกันนะคะ”
วีรดารีบตัดสายทิ้งทันทีเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายปฏิเสธได้ แล้วสองมือก็ยกขึ้นตบเข้ากับมือเพื่อนด้วยความชอบใจที่แผนสองเดินไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว และวันต่อมาชาครีย์ก็ได้ต้อนรับสองสาวที่หอบหิ้วเค้กวานิลลามาร์เบิ้ลกล่องโตมาฝากด้วย
“ขอบคุณนะครับ แต่ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่ครับ เกรงใจ”
“เราสองคนสิคะที่ต้องขอบคุณคุณเสืออุตส่าห์เสี่ยงชีวิตไปช่วยยัยไอซ์ ดูสิคะเดินก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยอมกระเผกๆ ลงรถไปเลือกของฝากให้ด้วยตัวเองเชียวล่ะค่ะ อิ้งชวนกินมื้อเที่ยงก่อนค่อยมาก็ไม่ยอม เพราะกลัวคุณเสือจะออกข้างนอกแล้วไม่กลับเข้ามาอีก ของฝากจะเป็นหมันน่ะค่ะ”
นุตปวีย์รีบเข้าแผน ชาครีย์ที่เพิ่งออกจากห้องประชุมมาถึงกับยิ้ม แล้วหันไปมองสาวสวยด้วยความขอบคุณจากใจจริง และด้วยมารยาทเจ้าของบ้านที่ดีจึงตัดสินใจเอ่ย
“อ้อไม่หรอกครับ บ่ายมีประชุมอีก ได้ขนมไว้เป็นเบรคพอดี และถ้าไม่รังเกียจหรือยังไม่รีบไปไหน ผมขอเลี้ยงมื้อเที่ยงเป็นการขอบคุณสำหรับเค้กนะครับ จะได้เอามือถือให้ด้วย ผมทิ้งไว้ในรถน่ะครับ ร้านประจำผมอยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ นั่งรถสิบนาทีก็ถึงครับ”
“จะดีเหรอคะ เกรงใจคุณเสือค่ะ” วีรดาเอ่ยด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจจนเขาต้องรีบตอบ
“ไม่ต้องเกรงใจครับ งั้นไปรถผมก็แล้วกันนะครับ”
จากนั้นเพียงสิบห้านาที ทั้งสามก็มานั่งที่ร้านประจำของเขาเรียบร้อยแล้ว และต่างพูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยเรื่องสารพัดจนรู้จักกันมากขึ้น
“ปกติบริษัทผมจะรับทำพวกโครงการตั้งแต่สิบๆ หลังขึ้นไปมากกว่าครับ แต่ถ้าเป็นเรือนหอของคุณอิ้ง ผมยินดีรับทำให้ครับ เดี๋ยวผมจะพาทีมงานไปคุยรายละเอียดที่บ้านก็แล้วกันนะครับ คุณอิ้งสะดวกเมื่อไหร่ก็ติดต่อได้เลยครับ ยิ่งราคาไม่เกี่ยงรับรองได้เรือนหอในฝันสมใจแน่นอนครับ”
“อุ๊ย!!! จริงเหรอคะคุณเสือ ขอบคุณมากค่ะ งั้นถ้าอิ้งว่างตรงกันกับแฟนเมื่อไหร่จะรีบบอกนะคะ ตอนนี้ยุ่งหลายอย่างค่ะ บางทียุ่งมากๆ ก็จะให้ยัยไอซ์ช่วยจัดการธุระแทนก็มีค่ะ อย่างเรื่องเรือนหอนี่ก็เหมือนกันค่ะ แฟนอิ้งตามใจหมดอยากได้แบบไหนก็ไม่เกี่ยงแค่รอจ่ายเงินเท่านั้น ยัยไอซ์เลยชอบใจว่าที่พี่เขยใหญ่ค่ะ รับอาสาหาคนปลูกให้ตั้งแต่กลับเมืองไทยมาได้ไม่กี่วัน ถือว่าโชคดีนะคะที่เจอคุณเสือโดยบังเอิญ เลยได้มืออาชีพแบบไม่รู้ตัวค่ะ”
“มืออาชีพที่ไหนกันครับ ผมก็แค่พอทำมาหากินได้เท่านั้นเอง ลองชิมเมนูนี้ดูสิครับ แม่กับภรรยาผมชอบมาก มาทีไรเป็นต้องสั่งทุกที”
เพราะเขาอดหวาดหวั่นไม่ได้กับการมาของสองสาวที่อาจจะไม่ใช่แค่มาขอบคุณเท่านั้น จึงรีบบอกสถานะภาพของตัวเองออกไปเพื่อกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเขายังโสด ซึ่งทั้งสองสาวก็ไม่ได้แสดงความผิดหวังออกมาให้เห็นแต่อย่างใด นั่นค่อยทำให้รู้สึกโล่งใจไม่น้อย และสะดวกใจที่จะคุยเรื่องงานต่อแบบไม่สะดุด
“เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันมีแฟนไปหมดแล้วค่ะ จะเหลือก็ยัยไอซ์คนเดียวนี่ล่ะ ที่เลือกมาก หาใครมาให้ก็ยังไม่สนไม่มองท่าเดียว ไม่รู้จะรอพระเอกที่ไหนกัน” นุตปวีย์แสดงความบริสุทธิ์ใจให้เป้าหมายเพื่อนได้เห็นทันที
“ก็ไอซ์ไม่ชอบคนอายุเท่ากันหรือใกล้ๆ กันนี่คะคุณเสือ แต่ชอบผู้ใหญ่กว่า ยิ่งห่างกันเป็นสิบปีได้ยิ่งดี มีหลักการ มีเหตุมีผล อารมณ์ก็เย็นด้วย แถมตามใจเราทุกอย่าง จะทำอะไรก็ไม่เคยว่า”
“ก็คนที่หล่อนวาดฝันไว้น่ะ แต่งการแต่งงานไปกันหมดแล้วล่ะย่ะ”
“ก็ไม่เป็นไรนี่ หาไม่ได้ก็ไม่ต้องมี อยู่คนเดียวไปเรื่อยๆ จริงมั้ยคะคุณเสือ”
ชาครีย์อยากจะบอกสาวตรงหน้าไม่น้อยว่าเพื่อนๆ ของเขาหลายคนหรือเกือบจะทุกคนยังไม่มีใครคิดจะสละความโสดเลย ไม่เหมือนกับเขา แต่คิดอีกทีเขาก็อยากจะดูๆ ไปก่อนว่าสาวเจ้าเป็นคนยังไง และจะเหมาะกับเพื่อนคนไหน ถึงจะแนะนำให้ทีหลัง แต่สำหรับเขาต่อให้ตอนนี้ไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนก็ตาม แต่สาวตรงหน้าก็หมดสิทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะหัวใจมันไม่รักดี ริแอบแบ่งปันให้ลูกศัตรู แถมเป็นผู้หญิงที่ฆ่าน้องตัวเองอย่างเลือดเย็นด้วย และพอเผลอแบ่งความคิดไปหาเจ้าหล่อน หัวใจเจ้ากรรมมันก็คิดถึงขึ้นมาทันที สองเดือนกับอีกยี่สิบเจ็ดวันแล้วที่ไม่ได้แวะเวียนไปหา ไปเห็นหน้าให้หายคิดถึง เขาคงจะต้องแบ่งเวลาไปสักวันบ้างแล้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง
ว่าทำไมคู่อริไม่หอบหลานไปหาเพื่อเรียกร้องให้เขารับผิดชอบเรื่องลูกในท้องอยู่บ้าง แต่อีกใจก็อยากจะเดาว่า คู่อริต้องอ่านออกอยู่แล้วว่าไม่มีวันที่เขาจะทำตามที่ขอ ก็ในเมื่อไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้ในข้อตกลง จึงเดาว่าคู่อริกลัวการหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ จึงเก็บปากเก็บคำและเก็บหลานไว้ในบ้านจนกว่าจะคลอด จะได้ไม่ออกไปประจานให้อับอายคนในสังคมเท่านั้น
“ว๊าย!!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ คนกระชากกระเป๋าค่ะ”
เสียงร้องดังมาจากมุมมืดไม่ห่างจากรถของเขานัก ทำให้รีบวิ่งไปดู ก็เห็นชายสามคนกำลังยื้อหยุดฉุดลากผู้หญิงอยู่อย่างไม่เกรงกลัวว่าจะมีใครมาพบเห็น
“หุบปากนะอีบ้า มึงจะร้องทำไม เอากระเป๋ามาดีๆ ไม่งั้นกูจิ้มแน่”
“ไม่ๆๆ เอาของฉันคืนมา ช่วยด้วยๆ”
เผี้ยะ
“โอ๊ย!!!”
ชาครีย์ไปถึงทันได้เห็นร่างสูงผอมเพรียวถูกตบไปหนึ่งฉาดและถูกผลักอย่างแรงจนล้มเข่ากระแทกพื้น ไอ้ชั่วทั้งสามก็เปิดกระเป๋าสะพาย ได้เงินปึกหนึ่งในกระเป๋าสตางค์แล้วขว้างกระเป๋าสะพายใส่หน้าหญิงสาววิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง เขารีบวิ่งเข้าไปช่วยหญิงโชคร้ายอย่างไม่เกรงว่าภัยจะมาถึง
“คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ จะให้ผมแจ้งตำรวจไหม” พร้อมกับเอ่ยถามขณะช่วยพยุงให้ลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ช่างมันเถอะฉันขี้เกียจไปโรงพักเสียเวลา มันก็แค่เอาเงินไปเท่านั้นค่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ถ้าคุณมาช้ากว่านี้ฉันอาจจะถูกมันแทงไปแล้วก็ได้”
“รถคุณอยู่ไหนครับ ผมจะได้พาไป”
ความห่วงที่มีให้แม้คนไม่รู้จัก ทำให้ไม่ทันได้สังเกตว่าเครื่องแต่งกายของเจ้าหล่อนก็ล่อตาล่อใจโจรไม่น้อย เพราะใส่กระโปรงสั้นจู๋ เสื้อตัวน้อยนิดแถมเป็นผ้าเนื้อบางอีก
“ทางโน้นค่ะ” หญิงเคราะห์ร้ายชี้ไปหารถด้วยสีหน้าตระหนกไม่หาย และก้าวเดินไป
“โอ๊ย!!!”
แต่ก็ไปได้แค่ก้าวเดียว เพราะหัวเข่าขาวราวหิมะมีเลือดไหลซิบๆ ออกมาทั้งสองเข่าจนต้องใช้สองแขนเกาะชายหนุ่มผู้เอื้ออารีย์เอาไว้เพื่อไม่ให้ล้ม ชาครีย์เลยรีบก้มลงไปดูเพราะความห่วง
“คุณได้แผลแล้วล่ะ เดินไหวหรือเปล่าครับ”
“ได้ค่ะได้ โอ๊ย!!!” อีกคนใจแข็งและพยายามก้าวเดิน แต่ก็ต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บ เขาจึงตัดสินใจ
“ขอโทษนะครับ ถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งบ้านดีกว่านะครับ จะได้ทำแผล หรือไม่ก็แวะคลีนิคแถวนี้ รถผมอยู่ทางโน้นครับ และผมอุ้มคุณไปได้ถ้าคุณจะอนุญาต”
เมื่อได้ได้รอยยิ้มอย่างเอียงอายเป็นคำตอบแทน เขาจึงช้อนร่างสูงเพรียวขึ้นพาเดินไปหารถอย่างง่ายดาย โดยอีกฝ่ายไม่ลืมที่จะหิ้วกระเป๋าสะพายติดมือไปด้วย แล้วสปอร์ตหรูก็มุ่งตรงไปยังทิศทางที่คนข้างๆ ชี้ไปทันที และแม้พยายามจะไม่มอง แต่ต้นขาขาวส่วนทีโผล่พ้นกระโปรงสั้นบานและกางเกงขาสั้นที่ใส่ไว้ด้านใจก็อยู่ในรัศมีการมองเห็นอยู่ดีเวลาก้มลงมาตะบบเกียร์
“ให้ผมช่วยนะครับ”
พอถึงคฤหาสน์หลังงาม ชาครีย์ก็อาสาอุ้มสาวโชคร้ายไปส่งให้ถึงในบ้าน ที่มีอีกสาวยืนทำท่าทีตระหนกตกใจนานหลายนาที ถึงได้ตั้งสติด้วยการรีบวิ่งไปหากล่องยามาให้เขาช่วยปฐมพยาบาลจนเสร็จ เลยได้เบียร์เย็นๆ เป็นการตอบแทนจากสองพี่น้องที่หน้าตาไม่เหมือนกันสักนิด
“ขอบคุณอีกรอบนะคะคุณเสือที่ช่วยยัยไอซ์ไว้ ไม่งั้นป่านนี้คงแย่แน่ๆ เลยค่ะ” ผู้เป็นพี่เดินมาส่งเขาถึงหน้าบ้านแทนน้องสาวที่ยังเดินไม่ได้ เขาส่งยิ้มแห่งความเป็นมิตรให้ ก่อนเอ่ยลา
“ด้วยความยินดีครับคุณอิ้ง งั้นผมขอตัวกลับนะครับ”
คนส่งยืนมองจนสปอร์ตแล่นลับประตูไปถึงได้เดินยิ้มกลับเข้าไปด้วยความอารมณ์ดี แล้วสองสาวก็ยกมือสองข้างตบเข้าหากันด้วยความเคยชินเมื่อแผนขั้นแรกสำเร็จ
“แผนหล่อนนี่มันสุดยอดจริงๆ เลยนะยัยมิว เอาซะนายนั่นเชื่อสนิทเลย” นุตปวีย์เพื่อนที่เพิ่งจบจากนอกมาพร้อมกันเอ่ยชมทันที แต่วีรดากลับหน้างอใส่เพื่อนแทนแล้วบ่นอุบอิบตาม
“ก็ต้องชมคนที่หล่อนจ้างมาล่ะย่ะ ที่เล่นสมจริงด้วยการตบจริงผลักจริงจนฉันได้แผลและระบมทั้งหน้าแล้ว มันน่าหักค่าจ้างให้เหลือครึ่งเดียวนัก”
“ฮ่าๆๆๆ เอาน่า ถ้าไม่สมจริงผลก็คงไม่ออกมาแบบนี้หรอก ว่าแต่แผนต่อไปล่ะจะเป็นยังไงต่อ”
“รอก่อนสิยะหล่อน ใจร้อนไปได้ จะจับปลาใหญ่อย่างนายนั่นมันต้องมีชั้นมีเชิงมากๆ หน่อย และต้องวางแผนซ้อนกันหลายๆ ทอด ถึงจะไม่ถูกจับได้”
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง วีรดาก็ควักมือถือเพื่อน กดเข้ามือถือตัวเองที่ซุกไว้ในสปอร์ตหรู ชาครีย์ต้องหาตั้งนานกว่าจะเจอเจ้าไอโฟนที่ส่งเสียงร้องตั้งแต่เขาเลี้ยวรถเข้าบ้านแล้ว
“ผมเพิ่งถึงบ้านครับคุณไอซ์ งั้นผมจะให้คนขับรถไปส่งให้ที่บ้านนะครับ”
“อุ๊ย!!! ไม่เอาค่ะคุณเสือ ไอซ์เกรงใจ เอาไว้พรุ่งนี้ไอซ์กับพี่อิ้งขับไปเอาที่ออฟฟิศคุณเสือเองดีกว่านะคะ ถ้าออกไปเมื่อไหร่จะโทรถามทางนะคะ แค่นี้นะคะขอไอซ์ไปกินยาก่อนค่ะ รู้สึกปวดแผลขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ ไว้เจอกันนะคะ”
วีรดารีบตัดสายทิ้งทันทีเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายปฏิเสธได้ แล้วสองมือก็ยกขึ้นตบเข้ากับมือเพื่อนด้วยความชอบใจที่แผนสองเดินไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว และวันต่อมาชาครีย์ก็ได้ต้อนรับสองสาวที่หอบหิ้วเค้กวานิลลามาร์เบิ้ลกล่องโตมาฝากด้วย
“ขอบคุณนะครับ แต่ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่ครับ เกรงใจ”
“เราสองคนสิคะที่ต้องขอบคุณคุณเสืออุตส่าห์เสี่ยงชีวิตไปช่วยยัยไอซ์ ดูสิคะเดินก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยอมกระเผกๆ ลงรถไปเลือกของฝากให้ด้วยตัวเองเชียวล่ะค่ะ อิ้งชวนกินมื้อเที่ยงก่อนค่อยมาก็ไม่ยอม เพราะกลัวคุณเสือจะออกข้างนอกแล้วไม่กลับเข้ามาอีก ของฝากจะเป็นหมันน่ะค่ะ”
นุตปวีย์รีบเข้าแผน ชาครีย์ที่เพิ่งออกจากห้องประชุมมาถึงกับยิ้ม แล้วหันไปมองสาวสวยด้วยความขอบคุณจากใจจริง และด้วยมารยาทเจ้าของบ้านที่ดีจึงตัดสินใจเอ่ย
“อ้อไม่หรอกครับ บ่ายมีประชุมอีก ได้ขนมไว้เป็นเบรคพอดี และถ้าไม่รังเกียจหรือยังไม่รีบไปไหน ผมขอเลี้ยงมื้อเที่ยงเป็นการขอบคุณสำหรับเค้กนะครับ จะได้เอามือถือให้ด้วย ผมทิ้งไว้ในรถน่ะครับ ร้านประจำผมอยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ นั่งรถสิบนาทีก็ถึงครับ”
“จะดีเหรอคะ เกรงใจคุณเสือค่ะ” วีรดาเอ่ยด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจจนเขาต้องรีบตอบ
“ไม่ต้องเกรงใจครับ งั้นไปรถผมก็แล้วกันนะครับ”
จากนั้นเพียงสิบห้านาที ทั้งสามก็มานั่งที่ร้านประจำของเขาเรียบร้อยแล้ว และต่างพูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยเรื่องสารพัดจนรู้จักกันมากขึ้น
“ปกติบริษัทผมจะรับทำพวกโครงการตั้งแต่สิบๆ หลังขึ้นไปมากกว่าครับ แต่ถ้าเป็นเรือนหอของคุณอิ้ง ผมยินดีรับทำให้ครับ เดี๋ยวผมจะพาทีมงานไปคุยรายละเอียดที่บ้านก็แล้วกันนะครับ คุณอิ้งสะดวกเมื่อไหร่ก็ติดต่อได้เลยครับ ยิ่งราคาไม่เกี่ยงรับรองได้เรือนหอในฝันสมใจแน่นอนครับ”
“อุ๊ย!!! จริงเหรอคะคุณเสือ ขอบคุณมากค่ะ งั้นถ้าอิ้งว่างตรงกันกับแฟนเมื่อไหร่จะรีบบอกนะคะ ตอนนี้ยุ่งหลายอย่างค่ะ บางทียุ่งมากๆ ก็จะให้ยัยไอซ์ช่วยจัดการธุระแทนก็มีค่ะ อย่างเรื่องเรือนหอนี่ก็เหมือนกันค่ะ แฟนอิ้งตามใจหมดอยากได้แบบไหนก็ไม่เกี่ยงแค่รอจ่ายเงินเท่านั้น ยัยไอซ์เลยชอบใจว่าที่พี่เขยใหญ่ค่ะ รับอาสาหาคนปลูกให้ตั้งแต่กลับเมืองไทยมาได้ไม่กี่วัน ถือว่าโชคดีนะคะที่เจอคุณเสือโดยบังเอิญ เลยได้มืออาชีพแบบไม่รู้ตัวค่ะ”
“มืออาชีพที่ไหนกันครับ ผมก็แค่พอทำมาหากินได้เท่านั้นเอง ลองชิมเมนูนี้ดูสิครับ แม่กับภรรยาผมชอบมาก มาทีไรเป็นต้องสั่งทุกที”
เพราะเขาอดหวาดหวั่นไม่ได้กับการมาของสองสาวที่อาจจะไม่ใช่แค่มาขอบคุณเท่านั้น จึงรีบบอกสถานะภาพของตัวเองออกไปเพื่อกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเขายังโสด ซึ่งทั้งสองสาวก็ไม่ได้แสดงความผิดหวังออกมาให้เห็นแต่อย่างใด นั่นค่อยทำให้รู้สึกโล่งใจไม่น้อย และสะดวกใจที่จะคุยเรื่องงานต่อแบบไม่สะดุด
“เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันมีแฟนไปหมดแล้วค่ะ จะเหลือก็ยัยไอซ์คนเดียวนี่ล่ะ ที่เลือกมาก หาใครมาให้ก็ยังไม่สนไม่มองท่าเดียว ไม่รู้จะรอพระเอกที่ไหนกัน” นุตปวีย์แสดงความบริสุทธิ์ใจให้เป้าหมายเพื่อนได้เห็นทันที
“ก็ไอซ์ไม่ชอบคนอายุเท่ากันหรือใกล้ๆ กันนี่คะคุณเสือ แต่ชอบผู้ใหญ่กว่า ยิ่งห่างกันเป็นสิบปีได้ยิ่งดี มีหลักการ มีเหตุมีผล อารมณ์ก็เย็นด้วย แถมตามใจเราทุกอย่าง จะทำอะไรก็ไม่เคยว่า”
“ก็คนที่หล่อนวาดฝันไว้น่ะ แต่งการแต่งงานไปกันหมดแล้วล่ะย่ะ”
“ก็ไม่เป็นไรนี่ หาไม่ได้ก็ไม่ต้องมี อยู่คนเดียวไปเรื่อยๆ จริงมั้ยคะคุณเสือ”
ชาครีย์อยากจะบอกสาวตรงหน้าไม่น้อยว่าเพื่อนๆ ของเขาหลายคนหรือเกือบจะทุกคนยังไม่มีใครคิดจะสละความโสดเลย ไม่เหมือนกับเขา แต่คิดอีกทีเขาก็อยากจะดูๆ ไปก่อนว่าสาวเจ้าเป็นคนยังไง และจะเหมาะกับเพื่อนคนไหน ถึงจะแนะนำให้ทีหลัง แต่สำหรับเขาต่อให้ตอนนี้ไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนก็ตาม แต่สาวตรงหน้าก็หมดสิทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะหัวใจมันไม่รักดี ริแอบแบ่งปันให้ลูกศัตรู แถมเป็นผู้หญิงที่ฆ่าน้องตัวเองอย่างเลือดเย็นด้วย และพอเผลอแบ่งความคิดไปหาเจ้าหล่อน หัวใจเจ้ากรรมมันก็คิดถึงขึ้นมาทันที สองเดือนกับอีกยี่สิบเจ็ดวันแล้วที่ไม่ได้แวะเวียนไปหา ไปเห็นหน้าให้หายคิดถึง เขาคงจะต้องแบ่งเวลาไปสักวันบ้างแล้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง
ว่าทำไมคู่อริไม่หอบหลานไปหาเพื่อเรียกร้องให้เขารับผิดชอบเรื่องลูกในท้องอยู่บ้าง แต่อีกใจก็อยากจะเดาว่า คู่อริต้องอ่านออกอยู่แล้วว่าไม่มีวันที่เขาจะทำตามที่ขอ ก็ในเมื่อไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้ในข้อตกลง จึงเดาว่าคู่อริกลัวการหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ จึงเก็บปากเก็บคำและเก็บหลานไว้ในบ้านจนกว่าจะคลอด จะได้ไม่ออกไปประจานให้อับอายคนในสังคมเท่านั้น
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ธ.ค. 2556, 08:09:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2556, 08:09:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 1728
<< บ้านใหม่กับชีวิตใหม่ | ความลับที่ไม่เคยได้ล่วงรู้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว >> |
![](/images/icons/guest.jpg)
mhengjhy 27 ธ.ค. 2556, 08:21:37 น.
เมื่อไรคุณเสือจะรู้ความจริงน้อ ขอให้ง้อหนักๆ นะคะ
เมื่อไรคุณเสือจะรู้ความจริงน้อ ขอให้ง้อหนักๆ นะคะ
![](/images/icons/guest.jpg)
alecigor 27 ธ.ค. 2556, 17:31:55 น.
เหอะขอให้จนลูกโตก็ไม่ได้เจอหน้านะ
เหอะขอให้จนลูกโตก็ไม่ได้เจอหน้านะ
![](/images/icons/guest.jpg)
คิมหันตุ์ 29 ธ.ค. 2556, 00:54:18 น.
แต่งงานแล้ว เมียเก่า ก็ยังคิดถึง ยัยมิวหน้าใหม่ก็ยังเข้ามาอีก...เสน่ห์แร่งมากนะคะคุณเสือ
แต่งงานแล้ว เมียเก่า ก็ยังคิดถึง ยัยมิวหน้าใหม่ก็ยังเข้ามาอีก...เสน่ห์แร่งมากนะคะคุณเสือ