เมียทาสสวาท
ขาอาฆาตแค้น ชิงชัง และมุ่งหวังที่จะทำลายชีวิตเธอ
ตั้งแต่วันที่บิดาของเขารับตัวนางบำเรอรุ่นลูกเข้ามาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาบ้าน
ความวุ่นวายที่ตามมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้นก็ทำให้ชายหนุ่มนึกเกลียดชังน้ำหน้าเธอมากพอแล้ว
หาก ‘เพชรกล้า ฉัตรมงคลกุล’ นักธุรกิจหนุ่มเสือผู้หญิงต้องเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
เมื่อเห็นมารดาต้องกลายมาเป็นคนพิการเพราะอุบัติเหตุที่สืบเนื่องมาจากความแพศยาของผู้หญิงคนนั้น
แม้ว่าเขาจะไม่นิยม ‘กิน’ สวะโสโครกที่เหลือเดนมาจากผู้เป็นพ่อ
แต่ในเมื่อรักที่จะเป็นโสเภณีนัก... เขาก็จะ ‘สนอง’ ให้เธอได้เป็นผู้หญิง ‘หลายผัว’ สมความอยาก
“เธอจะคร่ำครวญทำไม! อีกไม่นานเธอก็จะได้รู้ว่ารสรักของฉันมันล้ำเลิศกว่าของคุณพ่อแค่ไหน
ไม่แน่นะ เธออาจจะเปลี่ยนใจมาจับฉันแทนก็ได้ แต่ยากหน่อยนะ เพราะฉันรู้ไส้นางบำเรออย่างเธอดี”
“ปล่อยฉันนะ!” พิรุณญาดิ้นรนหาอิสระทุกวิถีทาง ทั้งจิกทั้งข่วน ปากก็ร้องขออิสระจากเขา
“เล่นตัวอย่างนี้นี่เอง ค่าตัวถึงได้แพง แต่สำหรับฉันนะ จะจ่ายให้งามๆก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่า
ของของเธอน่ะ มันดีจริงหรือเปล่าเท่านั้น แต่ไม่บอกก็รู้ว่าแหลกเหลวแค่ไหน กี่ปีแล้วล่ะ
ที่นอนประเคนให้พ่อฉันเอาน่ะ นี่เห็นว่าคุณพ่อไม่อยู่หรอกนะ ฉันเลยจะสงเคราะห์ให้
จะได้ไม่อดอยากปากแห้งจนเที่ยวเร่ไปให้ใครต่อใครเอาไง”
เขาพูดเยาะเย้ย พลางระดมจูบเธออย่างรุนแรงเป็นการลงโทษที่ทำให้เขาต้องเหนื่อย
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย! คุณท่านจะต้องเสียใจแน่ๆ ถ้ารู้ว่าคุณทำยังงี้”
เธอร้องบอกเพื่อเตือนสติเขา แต่ไม่เป็นผล เพราะมือนั้นกำลังลูบไล้เรือนร่างเธออย่างมีความสุข
“คุณพ่ออาจจะใช่ แต่คุณแม่จะต้องดีใจที่ฉันช่วยท่านกำจัดเธอได้เสียที
แล้วอย่าคิดแรดไปเกาะพี่พีทอีกล่ะ เพราะเมียเขาไม่ใจดีใจเย็นเหมือนคุณแม่แน่”
ทุกสิ่งที่เขาทำ เธอได้แต่ยอมอดทน กล้ำกลืนความรวดร้าวโดยไม่ปริปาก
แม้เด็กสาวกำพร้าอย่าง ‘พิรุณญา’ จะสำนึกในบุญคุณของครอบครัวฉัตรมงคลกุลมากเพียงใด
แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณด้วยวิธีที่แสนจะทุกข์ทรมานเช่นนี้
ไม่เพียงร่างกายที่ยับเยินจะกลายเป็นเครื่องเล่นบำบัดอารมณ์ใคร่ของเพชรกล้าทุกเวลาที่เขาปรารถนา
แต่หัวใจที่บอบช้ำก็ยังถูกเขาเหยียบย่ำไม่ต่างไปจากเศษผ้าขี้ริ้วสำหรับเช็ดเท้าด้วย
และเธอก็คงจะทนและทนต่อไป หากไม่บังเอิญรู้ว่าภายในท้องกำลังมีชีวิตน้อยๆก่อกำเนิดขึ้นมา
พิรุณญาอาจจะทนความเจ็บช้ำได้ทุกอย่าง
แต่จะไม่ยอมให้ลูกของเธอต้องเกิดมาเผชิญกับเรื่องเลวร้าย
ทางสุดท้ายที่จะทำได้ก็คือหนี... หนีไปจากซาตานใจอำมหิตคนนั้น
และไม่มีวันยอมให้ลูกในท้องเรียกคนใจชั่วว่าพ่อเป็นอันขาด!

Tags: เศร้า รันทด พระเอกโหด

ตอน: เมื่อหลังชนฝาก็ต้องกล้าที่จะสู้

และนับตั้งแต่วันนั้นมาพิรุณญาก็แทบจะหาเวลาว่างไม่ได้ วันหยุดที่วาดหวังว่าจะได้พักก็จำต้องพับเก็บเอาไว้ก่อน เพราะมีหลายต่อหลายเรื่องที่จะต้องทำตามคำสั่งของจันทภา ทั้งเตรียมงานหมั้น และติดตามจันทภาไปทำงานเพื่อสังคมอีก ไหนจะต้องคอยดูแลความเรียบร้อยของบ้านที่ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ทุกคนแทบจะมุ่งตรงมาหาเธอเพียงคนเดียวก็ว่าได้ แต่ก็นับว่าโชคยังพอจะเข้าข้างอยู่บ้าง ที่เพ็ญกับมิตรรู้งานเป็นอย่างดีจึงช่วยแบ่งเบาภาระไปได้มาก บวกกับเพชรกล้าก็ไม่ค่อยได้ชวนเพื่อนมาสังสรรค์ให้เป็นภาระเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หรือถ้ามีก็น้อยครั้งเต็มที
“พี่มิตรขนของไปไว้ตรงโต๊ะในหน้าห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ ฝนจะไปดูพี่เพ็ญในครัว”
พิรุณญาหันไปหามิตรที่เพิ่งจะลงจากรถ แล้วก็รีบทำตามคำสั่งอย่างไม่เกี่ยงงอน ส่วนตัวเองก็ตรงเข้าครัวที่มีเพ็ญเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เหลือแค่ปรุงแล้วยกไปเสิร์ฟบนโต๊ะเท่านั้น และเธอก็ถึงคิดขึ้นได้ว่าลืมไปเอาของสำคัญที่ร้านตัดชุด จึงไม่จัดจานให้ตัวเอง
“คุณคะ! ภาลืมบอกไปเลย เมื่อวานยัยพลอยโทรมาว่าคงจะบินไม่ได้แล้วค่ะ เห็นว่าท้องเสียหนัก กินข้าวเสร็จภาจะโทรไปถามอาการลูกหน่อย” พร้อมพงษ์หันไปมองหน้าภรรยาแล้วขมวดคิ้วก่อนเอ่ย
“เหรอ! คุณก็บอกลูกเลยว่าไม่มาก็ไม่เป็นไรหรอก ค่อยมางานแต่งก็ได้ ฝากบอกลูกด้วยนะว่าผมคิดถึง”
“คิดถึงใครครับคุณพ่อ” เพชรกล้าเดินลงมาพอดี ถึงกับแซวพ่อด้วยสายตามีความหมาย พร้อมพงษ์จึงรีบอธิบายให้เข้าใจ
“อ้าว! ฝนไม่กินข้าวด้วยกันเหรอ”
จันทภาหันไปถามเมื่อเห็นพิรุณญาทำท่าจะเดินออกจากห้องอาหารและมีท่าทีรีบร้อนว่าทุกวัน พร้อมพงษ์เองก็หันไปหาเหมือนอยากได้คำตอบเช่นกัน พิรุณญาออกอาการอ้ำๆ อึ้งๆ แต่สุดท้ายก็จำต้องบอกเมื่อเห็นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองจ้องเขม็ง
“คือฝนลืมไปเอาชุดคุณเพชรที่ส่งไปแก้ไว้คราวก่อนน่ะค่ะ ก็เลยจะต้องรีบกลับไปเอาเดี๋ยวร้านจะปิด” เพราะวันนี้เธอกับมิตรต้องขับรถตระเวณซื้อของหลายต่อหลายอย่าง แต่จนแล้วจนรอดก็ลืมของสำคัญจนได้
“ให้มิตรขับรถไปเอาสิ แล้วฝนก็มากินข้าว” พร้อมพงษ์ออกปากบอก
“ฝนเพิ่งจะให้พี่เพ็ญกับพี่มิตรออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์เองค่ะ ของในบ้านขาดหลายอย่างพรุ่งนี้แขกจะมาเยอะด้วย ก็เลยต้องเตรียมเผื่อเอาไว้ก่อน ห้างกับร้านก็อยู่คนละทางด้วย” เมื่อจนด้วยเหตุผลพร้อมพงษ์ถึงได้เงียบไปชั่วครู่
“งั้นก็ให้เพชรขับรถพาไปเอา เร็วกว่าที่ฝนจะขับรถไปเอง นี่ก็ค่ำแล้วด้วย แต่ตอนนี้มากินข้าวก่อนเถอะ ฉันกลัวฝนจะเป็นลมไปก่อนจะทันได้ช่วยงานพรุ่งนี้ให้เสร็จ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน ฝนไปเองค่ะแล้วจะรีบกลับมาจัดพานดอกไม้ด้วยค่ะ”
พิรุณญาไม่สนใจจะรอฟังอะไรอีกแล้ว เพราะรู้ดีว่าต่อให้เพชรกล้าพาไปก็ คงจะไล่ลงตรงหน้าบ้านเหมือนครั้งก่อนอีกเป็นแน่ ไหนจะมีงานที่คั่งค้างอีกหลายอย่างที่จะต้องกลับมาจัดการให้เสร็จ จากที่ไม่เคยขัดคำสั่งหรือคำแนะนำของพร้อมพงษ์เลย ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรก แล้วรีบวิ่งกลับไปทางหลังครัวหยิบกระเป๋ากับกุญแจรถแล้ววิ่งอ้อมไปหน้าบ้าน แต่ก็เห็นเพชรกล้าขับรถมาดักหน้าไว้ก่อน เพราะถูกผู้พ่อสั่งมาอีกท
“ขึ้นรถเร็วๆ เข้าฉันจะพาไป อย่าลีลามากฉันไม่ชอบ หรือจะให้ฉันลงไปลากขึ้นเองก็มาเลือกเอา”
เขาส่งน้ำเสียงที่ดังพร้อมสีหน้าอันดุดันมาหาจนพิรุณญาไม่กล้าจะขัดขืน จึงจำใจต้องเดินไปขึ้นรถด้วยท่าทีสงบ และก็พยัยามคิดว่าเขาจะไล่ลงจากรถตอนไหนเท่านั้น แต่ผิดคาดเพราะรถแล่นออกจากประตูรั้วแล้วเขาก็ไม่ได้จอดแต่อย่างใด
“ผิดหวังมากนักเหรอที่คนพามาเป็นฉันแทนที่จะเป็นคุณพ่อ นี่กะจะพากันไปฉลองที่ไม่ได้เจอกันหลายคืนถึงไหนล่ะ ถามจริงๆ เถอะอยากเป็นแม่เลี้ยงฉันมากนักเหรอ หรือว่าเป็นเพราะเงินที่พ่อฉันประเคนให้จนหนำใจ เธอถึงได้เกาะหนึบไม่คิดจะไปจากคุณพ่อซักที ทั้งๆ ที่ฉันกับทุกคนในบ้านก็เฝ้าสวดมนต์อ้อนวอนก่อนนอนทุกคน ว่าให้พระท่านช่วยพานางบำเรออย่างเธอออกไปจากชีวิตพวกฉันซักที แต่คนหนังหนาหน้าด้านอย่างเธอก็ไม่ยอมจะไป สงสัยธรรรมะคงเอาจะชนะอธรรมอย่างเธอไม่ได้ก็คราวนี้ล่ะมั้ง”
แต่ไม่นานเขาก็เริ่มพูดกระแทกแดกดันออกมาขณะควบรถไปช้าๆ พิรุณญาถึงกับหันขวับไปมองเขาด้วยสายตาชิงชิงอย่างที่สุด ความคิดที่ว่าจะนั่งนิ่งๆ ไม่พูดไม่ต่อปากต่อคำอะไรกับเขามีอันต้องล้มเลิกลง เมื่อเขาดูถูกเหยียดหยามได้ขนาดนี้ จึงตอบโต้ออกไปอย่างเหลืออด
“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าคนที่เรียนสูงๆ ไปอยู่ในเมืองที่ศิวิไลมานานเป็นสิบปีอย่างคุณ จะมีวิสัยทัศน์คับแคบ มีความคิดสกปรกๆ อยู่ในหัว และพ่นแต่คำที่สกปรกๆ แบบนี้ออกมาได้”
“ฉันจะคิดสกปรกก็แค่กับคนสกปรกๆ อย่างเธอเท่านั้นล่ะ ขนาดพวกผู้หญิงที่หากินเรื่องอย่างว่า ฉันยังคิดว่าจะขาวสะอาดกว่าเธอหลายร้อยเท่าเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยๆ คนพวกนั้นก็รับค่าจ้างเฉพาะเวลาทำงาน จบแล้วก็แล้วกันไป แต่เธอนี่เกาะหนึบเป็นกาวตราช้าง ใจจริงจะรอฮุบหมดทุกอย่างเลยหรือไงถึงยังไม่คิดจะไปไหน ทั้งที่คุณแม่ ยัยพลอยและฉันรวมหัวกันไล่เธอไม่มีเว้นวัน ยังหน้าด้านหน้าทนอยู่ได้ไม่อายฟ้า อดอยากปากแห้งนักเหรอ ถึงต้องแอบลักกินขโมยกินของคนอื่น น่าสังเวชใจสิ้นดี”
เพชรกล้าเองก็โต้กลับทันควันเพราะไม่คิดว่าคนที่สงบปากสงบคำอย่างพิรุณญา เวลาได้พูดออกมาแล้วจะสรรหาคำเจ็บๆ แสบๆ มาด่าได้ขนาดนี้
“คุณเพชรกล้า! ถ้าคุณจะใช้คำพูดที่มันสกปรกๆ กับฉัน ก็กรุณาจอดฉันจะลง”
เธอเองก็ฉุนจัดจนต้องส่งน้ำเสียงแข็งกระด้างอย่างไม่เคยทำมาก่อน และเลือกที่จะลงไปนั่งแท็กซี่หรือรถเมล์แทนการนั่งปะคารมกับเขาแบบนี้มากกว่า คงจะสบายใจสบายหูกว่ากันเยอะ
“โอ้โฮ! พูดแทงใจดำหน่อยไม่ได้ถึงขนาดจะลงจากรถเชียว นี่กะจะโทรไปออดอ้อนให้คุณพ่อมารับล่ะสิท่า ตกลงจะต้องหาทางปลดปล่อยด้วยกันก่อนงานหมั้นของฉันให้ได้เลยใช่มั้ย จะไปยากอาไร้! ถ้าอยากนักล่ะก็ หมูหมากาไก่แถวนี้ก็คงจะพอช่วยเธอได้หรอกมั้ง ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนถึงคุณพ่อเลยนี่ หรือไม่เธอก็ขอร้องฉันสิ บางทีฉันอาจสงสารขึ้นมาจนอยากจะสงเคราะห์ให้เธอสักดอกสองดอกก็ได้นะ แต่เอ๊ะ! คิดอีกทีไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวอะไรที่โสโครกๆ ในตัวเธอจะลามไปติดคู่หมั้นของฉันหมดพอดี”
เขาสนุกกับการได้ถากถางเป็นที่สุด แต่พิรุณญาไม่คิดจะสนุกด้วย ตรงกันข้ามกลับเกลียดเขาขึ้นมากกว่าที่เป็นหลายร้อยเท่า และมันก็มากพอที่เธอจะกล้าสรรหาคำพูดที่รุนแรงด่าเขาออกไป เพราะความโกรธจนสุดขีด
“คนสกปรก ฉันเกลียดคุณ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณท่านทั้งสองก็ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติผู้ดีอยู่เต็มตัว แต่คุณซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านแท้ๆ กลับได้แต่สิ่งที่ตรงกันข้าม วันๆ ไม่คิดจะทำอะไรเอาแต่พ่นคำอัปมงคลออกมาได้ไม่กระดากปาก คนชั้นรากหญ้าบางคนยังไม่เคยคิดหรือพูดอย่างคุณมากก่อนเลย ถามจริงๆ เถอะนะในหัวนี่ไม่คิดอะไรที่มันสร้างสรรค์ๆ เลยใช่มั้ย ถึงได้คิดถึงแต่เรื่องใต้สะดืออยู่อย่างนี้” ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเขาในเวลานี้เลย ที่โกรธจัดจนต้องจอดรถไว้ข้างทางทันใด แล้วหันไปกระชากหัวไหลเธอและบีบอย่างแรงด้วยความโกรธ
“อย่ามาอวดดีกับฉันนะพิรุณญา ความเป็นลูกผู้ดีของฉันมันมีอยู่ในเลือดเนื้อตั้งแต่เกิด ไม่ต้องคอยมาเสแสร้งแกล้งทำ แกล้งสร้างภาพลวงตาคนอื่นเหมือนพวกลูกกาฝากอย่างเธอก็แล้วกัน และจะบอกให้นะ ว่าอย่าริคิดจะมาต่อปากต่อคำกับฉัน รู้ตัวไว้ซะว่าชีวิตอยู่ในกำมือของฉัน ฉันจะบีบเธอก็คงจะตายหรือจะคลายเธอก็คงจะรอด เพราะฉะนั้นฉันขอแนะนำให้เธอหัดทำดีกับฉันไว้ เผื่อว่าฉันจะเห็นคุณค่าอีตัวอย่างเธอเท่าๆ กับผู้หญิงหากินพรรค์อย่างนั้นไง ถ้าขืดเธอยังจะปากดีกล้ามาหือใส่ฉันล่ะก็ แค่ฉันดีดนิ้วเปราะเดียวเธอก็จะกระเด็นไปเป็นอีตัวชั้นต่ำทันที จำเอาไว้!”
ส่วนเจ้าของไหล่เองก็ด่าเขาอย่างเหลืออดเช่นกัน เพราะน้ำคำของเขามันรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยได้ยินมา และเธอก็ไม่คิดว่าจะได้ยินใครกล้าด่าออกมาอย่างเขาได้อีกแล้วในชีวิตนี้ หรือถ้ามีเธอก็บอกกับตัวเองไว้ได้เลยว่า จะไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับคนคนนั้นอีกตลอดไป
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นอย่างที่คุณพูดมา คุณมีหลักฐานเหรอ หรือว่าเพียงแค่กล่าวหาฉันลอยๆ เพราะว่าคุณกำลังกลัวอีตัวอย่างฉัน กลัวว่าจะแย่งทุกอย่างไปจากชีวิตคุณ กลัวจนคุณต้องพยัยามหาทางกำจัดฉันไปให้พ้นทางคุณ จนต้องใช้วิธีที่ลูกผู้ชายเขาไม่ใช้กัน นั่นคือรังแกคนที่อ่อนแอกว่า คนที่ไม่มีทางสู้ แต่อย่าคิดว่าฉันจะกลัวหรือยอมไปจากชีวิตคุณง่ายๆ ฉันขอเตือนคุณให้รู้เอาไว้เลยว่า ถ้าขืนคุณยังหาเรื่องฉันไม่รู้จักหยุดหย่อนอย่างนี้อีกล่ะก็ ฉันจะทำในสิ่งที่คุณกำลังกลัวให้มันเป็นความจริงขึ้นซะเลย
คุณคงพอจะเดาได้สินะว่าหน้าตาอย่างฉันรูปร่างอย่างฉันจะมัดใจคุณท่านได้มากน้อยแค่ไหน แค่ฉันออดอ้อนนิดๆ หน่อยๆ ยั่วเย้าเล็กๆ น้อย ขี้คร้านทุกอย่างที่เป็นของพวกคุณอยู่ตอนนี้ จะมาเป็นของฉันทันทีด้วยซ้ำ แล้วทีนี้คุณก็จะไม่ต่างไปจากยาจกที่เหลือแต่ผ้าติดตัวเพียงชิ้นเดียวเดินขอทานอยู่ข้างถนนเท่านั้น แล้วฉันก็อาจจะปราณีคุณด้วยการหาขันเก่าๆ ผุๆ ให้สักใบเอาไว้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายจะได้ทำมาหากินง่ายๆ คล่องๆ หน่อยไง”
เพชรกล้าโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เพราะไม่คาดคิดว่าคนที่เอาแต่ปิดปากเงียบอย่างเธอจะกล้ามาด่าเขาได้ถึงขนาดนี้ สองมือใหญ่และหนาจึงเพิ่มแรงบีบไปที่หัวไหล่เหมือนจะให้แหลกคามืออยู่ตรงนั้น พิรุณญาพยัยามใช้สองแขนต่อสู้และเบี่ยงตัวหนีจากเงื้อมมือของเขาเพราะเจ็บเหมือนกระดูกจะแตก
“ปล่อยนะ! ฉันเจ็บ!”
“ปากดีนักนะ เห็นเงียบๆ หนิมๆ ติ๋มๆ ในที่สุดก็ออกลายมาจนได้ แต่ขอโทษที่เธอมาด่าผิดคน อวดดีผิดเวลา แล้วเธอรู้มั้ยว่าโทษฐานของความกล้าของเธอก็จะเจอสิ่งนี้เป็นเครื่องตอบแทน” เขากระชากสองแขนจนร่างที่ดิ้นรนออกห่างเขาเข้าไปใกล้ๆ แล้วระดมจูบที่เรียวปากงามอย่างไม่ปราณี
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย! บอกให้ปล่อย!”
พิรุณญาพยัยามดิ้นรนพร้อมทั้งระดมกำปั้นทุบที่ไหล่เขา เพื่อให้หลุดจากการพันธนาการ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะวงแขนแข็งแรงรวบร่างเล็กเอาไว้แน่น และไม่เปิดโอกาสให้เธอได้มีสิทธิ์ดิ้นรนต่อสู้ใดๆ อีก เพราะริมฝีปากของเขาบดขยี้ลงกับเรียวปากบางอย่างไร้ความปราณี ราวกับเป็นการลงโทษว่า ทีหน้าทีหลังนั้นอย่าได้คิดแม้แต่จะมาต่อกรกับคนอย่างเขาอีก แต่ไม่นานจากความแข็งกร้าวก็กลับเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล
ลิ้นเขาชอนไชเพื่อหาความฉ่ำหวานเนิ่นนาน แขนที่รวบร่างเธอไว้แน่นก็คลายลงเพื่อให้ได้มีอิสระ หญิงสาวรู้สึกแปลกประหลาดกับรสสัมผัสจากเขาอย่างบอกไม่ถูก แต่อีกครึ่งใจก็โกรธเกลียดขยะแขยงยิ่งนัก และนึกเสียใจที่ปล่อยให้เขามีสิทธิ์สั่งการบนเรียวปากงามได้ แล้วเธอก็รวบรวมกำลังที่มีผลักเขาออกห่างตัวได้ในที่สุด มือบางรีบปลดล็อกประตูเพื่อหมายจะหนีไปให้ไกลๆ
เพชรกล้ารีบกดล็อกจากอีกฝั่งเอาไว้ในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมาจ้องมองเจ้าของเรียวปากนุ่ม ที่ส่งสายตาอันโกรธเกรี้ยวมาหาเขาด้วยความขำปนสะใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งนิ่ง จึงออกรถไปตามจุดหมายและพาเจ้าหล่อนกลับเข้าบ้านโดยไม่ได้เอ่ยปากพูดคุยอะไรกันอีกเลย



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ธ.ค. 2556, 08:38:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ธ.ค. 2556, 08:38:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1793





<< ค่าตอบแทนที่หวงแหนที่สุด   ทาสที่กำลังจะถูกทำลาย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account