วาดรักบนลายรุ้ง (ทยอยลบสิ้นเดือนนะคะ)
เพราะพินัยกรรมระบุว่าเขาต้องแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนพ่อ แต่ยุคนี้แล้วใครจะยอมถูกคลุมถุงชน ทว่าเมื่อได้เจอกับเธอเข้าจริงๆ จากหนุ่มหัวสมัยใหม่จึงกลายเป็นหนุ่มใหญ่หัวโบราณ ที่ยอมให้ผู้ใหญ่จับคู่แต่โดยดี
Tags: พินัยกรรมและการแต่งงาน

ตอน: ตอนที่ 16 ทางออกเพื่อรัก

สวัสดีปีใหม่ี 2014 จ้า ขอให้คนอ่านทุกคนมีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง มีทุกวันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และสิ่งดีๆ เข้ามาสู่ชีวิต ตลอดปีตลอดไปเลยนะคะ


ตอนที่ 16

พระจันทร์เต็มดวงสาดแสงนวลใยเข้ามาในห้อง ราวกับจะยิ้มให้หญิงสาวที่ยังนอนไม่หลับ ทั้งที่คนข้างกายซึ่งกอดเธอเอาไว้หลับไปนานแล้ว เขาคงจะเหนื่อยจากงานที่ทำมาทั้งวัน เมื่อกลับมาถึงบ้านยังมีใจช่วยเธอพับผ้า และงานบ้านจุกจิกอีกเล็กน้อย หากที่เขาไม่เคยลืมคือการต่อจิ๊กซอว์ที่ให้เธอเป็นของขวัญ จนกรอบทั้งสี่ด้านเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคมที่มองเธอเหมือนจะยิ้มเย้า ทำให้วริษาหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคิดถึง

‘ตกลงหึงอาใช่ไหมคะ ไหนตอบให้ชื่นใจหน่อยซิ’ เขาถามย้ำพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เหมือนจะบอกว่าอย่างไรคืนนี้ก็ต้องรู้ให้ได้

เธอได้แต่อ้ำอึ้ง ขืนปฏิเสธไป นอกจากจะปดเขาแล้วยังโกหกตัวเองด้วย แต่จะให้ยอมรับว่าตัวเองเป็นภรรยาขี้หึง เธอก็พูดไม่ออกอีก ‘แล้ว...แล้วอาทิตย์ว่ากวาดสมควรหึงไหมล่ะคะ?’

วราทิตย์ฟังแล้วหัวเราะออกมาเต็มเสียง ‘เดี๋ยวนี้ชักกล้าเถียงนะเรา’ ไม่พูดเปล่าเขายังตีก้นเธอเบาๆ แถมให้ทีหนึ่งด้วย

‘แน้ อาทิตย์ทำอย่างนี้ไม่ถูกนะคะ มาตีกวาดได้ยังไง กวาดต่อต้านการใช้กำลังนะ’

‘งั้นเอางี้ ถ้าอาทำอะไร อาอนุญาตให้กวาดเอาคืนได้แล้วกัน’

เธอมองเขาอย่างงงๆ ก่อนจะเข้าใจ เมื่อโดนฉวยโอกาสหอมแก้มทั้งสองข้าง

‘อาทิตย์น่ะ’ เธอแหวเขาอย่างเขินจัด จนใบหน้าร้อนผ่าว

‘เอาคืนได้นะคะ อายอมขาดทุน ให้กวาดทบต้นทบดอกจนพอใจเลย’ คนเจ้าเล่ห์ทำท่าใจป้ำ ทั้งแววตาพราวระยับ

‘ไม่เอาหรอกค่ะ กวาดถือคติเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร’

คำตอบของเธอทำเอาชายหนุ่มหัวเราะอีกครั้ง ‘งั้นอาก็สบายเลยสิ’ เขาบอกแล้วรั้งตัวเธอมากอดแนบอก ก่อนจะเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า ‘กวาดจะหึงอาก็ได้ แต่ขอให้มั่นใจไว้อย่างเดียวว่า อาไม่เคยคิดมองผู้หญิงคนไหนอีกทั้งนั้น นอกจากกวาดคนเดียว’

วริษายิ้มกับตัวเอง เธอไม่รู้ว่าที่เขาพูดเพราะแต่งงานกับเธอแล้ว หรือเพราะเขารู้สึกกับเธอมากกว่านั้น แต่ไม่ว่าจะเหตุผลไหนเธอก็ดีใจทั้งนั้น หญิงสาวพิศมองดวงหน้าคมคายที่หลับใหล แอบยิ้มขันอยู่ในใจเมื่อเห็นริมฝีปากได้รูปเผยอน้อยๆ จนได้ยินเสียงกรนเบาๆ

หญิงสาวรีบหลับตาเมื่อคนข้างๆ ขยับตัว เขาไม่ได้พลิกหนีไปไหนแขนข้างหนึ่งยังโอบเธอไว้เหมือนเดิม ทุกคืนที่นอนอยู่ด้วยกันเธอไม่เคยกอดเขาตอบ ได้แต่ซุกไว้ข้างอกเขา แล้วถ้าเป็นตอนนี้ล่ะ วริษาถามตัวเองพลางค่อยๆ ยกแขนขึ้น ก่อนจะสะดุ้งเพราะอยู่ๆ เป้าหมายก็ลืมตา

“นอนไม่หลับเหรอคะ?” เสียงงัวเงียถามมา “งั้นเดี๋ยวอาอยู่คุยเป็นเพื่อนจนกว่าจะหลับแล้วกัน”

“ม่ะ...ไม่เป็นไรค่ะ” เธอรีบส่ายหน้าไม่กล้ารบกวนขนาดนั้น “เดี๋ยวกวาดก็หลับแล้วค่ะ ง่วงแล้ว”

วราทิตย์มองภรรยาที่รีบหลับตาแน่น แล้วขยับเข้าไปจูบหน้าผากเธอ ก่อนจะจับมือหญิงสาวมาวางพาดไว้ที่เอวของเขา ตบไหล่เล็กเบาๆ ไม่กี่ที เขาก็เป็นฝ่ายหลับไปก่อนด้วยความง่วง

หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ถึงตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่า เธอไม่ได้หลงรักเขาเพราะรูปร่างหน้าตา หรือเงินทองที่เขามี แต่ความดีของเขาต่างหากที่ได้ใจเธอไปทั้งดวง ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ต้องการจะสูญเสียความรักครั้งนี้ไป แต่จะทำอย่างไรเธอถึงจะเป็นเจ้าสาวตัวจริงของเขาได้ วริษาซุกตัวเข้าหาอกอุ่นพร้อมกับคิดหาคำตอบให้ตัวเองไปตลอดคืน



มื้อเช้าของวันต่อมาคือข้าวสวยและต้มเลือดหมูหอมกรุ่น ใกล้ๆ นั้นมีกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จมองเห็นควันลอยเป็นสาย ทว่าวราทิตย์ไม่ได้ใส่ใจกับอาหารตรงหน้า เพราะสังเกตเห็นว่าภรรยาที่กำลังจัดอาหารให้เขา เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่มองเขาเลยแม้แต่นิดเดียว จึงเอื้อมไปจับมือเธอเอาไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปหยิบเหยือกน้ำ

“กวาดไม่ได้ใส่กระเทียมเจียวมานะคะ เพราะจำได้ว่าอาทิตย์ไม่ชอบ” วริษารีบบอกเพราะคิดว่าชายหนุ่มจะติงเธอเรื่องนี้

“โกรธอาเรื่องอะไรคะ?”

“เปล่านี่คะ กวาดไม่ได้โกรธอะไร” เธอส่ายหน้าอย่างงงๆ

“แล้วทำไมไม่มองหน้าอาเลย อามองไปกวาดก็หลบตาตลอด มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”

หญิงสาวตอบไม่ออก ก็จะให้บอกได้อย่างไรล่ะ ว่าพอรู้ใจตัวเองแล้ว เธอก็เขินไม่กล้าสบตากับเขาขึ้นมาเฉยๆ จึงได้แต่พยายามดึงมือออกพร้อมกับบอกปัดไปว่า

“ก็กวาดทำงานอยู่นี่คะ อาทิตย์ทานข้าวดีกว่า เดี๋ยวกวาดเข้าไปหยิบน้ำให้ค่ะ”

“ทำท่าอย่างนี้มีพิรุธนะเนี่ย อาว่าต้องมีอะไรแน่เลย ไหนมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนซิ”

วริษาได้แต่มองชายหนุ่มอย่างตั้งตัวไม่ทัน เมื่อเขารั้งเธอให้นั่งตักหน้าตาเฉย และคงไม่รู้ว่ากำลังทำให้ใจเธอเหวี่ยง เหมือนถูกโยนเข้าไปในเครื่องปั่นผ้าอย่างไรอย่างนั้น

“อาทิตย์เดี๋ยวไปทำงานสายนะคะ”

“ไม่รู้ ไม่สน วันนี้ไม่มีประชุมเช้าหรืองานด่วน อามีสิทธิ์เข้าสายได้อยู่แล้ว แต่ถ้ากวาดไม่อยากสายหรือโดนเจ้านายดุ ก็ย้ายมาทำงานกับอาซะดีๆ” จากที่คอยสอนงานให้เธอแบบไม่รู้ตัว เขาแน่ใจว่าตอนนี้วริษาเรียนรู้จากเขา จนไปทำงานด้วยกันได้สบาย

“แล้วถ้ากวาดทำอะไรผิด อาทิตย์จะให้อภัยกวาดได้ไหมคะ?” หญิงสาวรู้ดีว่าเธอไม่ได้หมายถึงเรื่องานแม้แต่นิดเดียว

“ก็ต้องดูก่อนว่าเรื่องอะไร ถ้าเรื่องเล็กก็ลงโทษสถานเบาแค่นี้” ชายหนุ่มพลางสาธิตวิธีลงโทษด้วยการหอมแก้มคนถามฟอดใหญ่ “แต่ถ้าเรื่องใหญ่คงต้องลงโทษหนักกว่านี้ ว่าไงคะ ตกลงไปทำงานกับอานะ”

วริษาได้แต่ยิ้มบาง ถ้าไม่ติดชนักที่ปักหลังอยู่ เธอคงหัวเราะได้อย่างชื่นบานกว่านี้

“อาทิตย์ทานข้าวให้หมดก่อนค่ะ แล้วกวาดจะคิดดูอีกที”

วราทิตย์หัวเราะ เขาอายุปูนนี้แล้วยังต้องโดนหลอกล่อให้กินข้าวเหมือนเด็กๆ อีกหรือนี่

“แล้วใส่อะไรมาให้อาบ้างคะ?”

“เห็นอาทิตย์เบื่อตำลึง กวาดเลยใส่ผักกาดหอม หมูสับ ตับ แล้วก็หัวใจมาให้ค่ะ”

“เปลี่ยนจากหัวใจหมู เป็นหัวใจคนทำได้ไหมคะ ไม่ได้เอามากินนะ แต่จะเอามาไว้ตรงนี้” เขาถามพลางกุมมือเธอมาวางแนบไว้ที่หัวใจตัวเอง

หญิงสาวหัวเราะแก้เขิน ก่อนจะซบลงที่ไหล่กว้างแทนคำตอบ หัวใจหวานชื่นอย่างคนที่ตกอยู่ในห้วงรัก และเธอรู้แล้วว่าเป็นความลึกซึ้งที่แตกต่างจากความรู้สึกประทับใจ ซึ่งเธอมีให้เอกกวีอย่างสิ้นเชิง และจนกว่าจะหาทางออกให้ตัวเองได้ คงไม่ผิดใช่ไหมหากเธอจะขอทำตามหัวใจตัวเองบ้าง



กรพินทร์เปิดแฟ้มประวัติของหญิงสาวขึ้นอ่านอย่างถี่ถ้วน หากก็ไม่ได้เห็นอะไรมากไปกว่าข้อมูลทางการศึกษา ที่เธอส่ายหน้าว่ายังไม่ดีพอ ลูกชายเธอเรียนจบมาจากเมืองนอก ขณะที่วริษาจบในไทยด้วยคะแนนเฉลี่ยไม่สูงนัก ในตัวหญิงสาวแทบไม่มีอะไรให้เธอไปอวดคนอื่นได้ มองหาความสามารถพิเศษก็ยังไม่เห็น ข้อดีอย่างเดียวที่เธอมองเห็นคือความหัวอ่อน อดทน เข้าอกเข้าใจ เหมาะแก่การจะเป็นผู้ตามที่ดี

“ตอนนี้เอกคบกับลูกกวาดรึยัง?”

“ยังครับ ผมว่าจะรอให้แม่แน่ใจก่อน” เอกกวีตอบ สำหรับเขาวริษาเหมือนเป็นของตายในกำมือ หากเขายื่นไมตรีไปมีหรือที่เธอจะไม่รีบคว้า

“แม่อยากให้ส่งลูกกวาดไปเรียนเพิ่มเติม เผื่อออกงานสังคมจะได้ไม่อายคนอื่นเขา ธุรกิจเราติดต่อกับต่างชาติเยอะด้วย ยังไงก็ต้องเก่งภาษา งานนอกบ้านในบ้านมันต้องได้หมด”

“แม่ตั้งใจจะพาลูกกวาดออกงานด้วยหรือครับ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างแปลกใจไม่น้อย

“ก็ต้องอย่างนั้นสิ เอกก็รู้ว่าพ่อเขาไม่ชอบออกงาน เอกก็ทำแต่งาน แม่ก็ต้องเอาลูกกวาดไปนี่แหละ แต่สงสัยต้องชุบตัวกันหลายรอบ หรือว่าเอกชอบลูกกวาดที่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

“แล้วแต่แม่เลยครับ แม่ชอบแบบไหนก็ให้เป็นแบบนั้น แม่รักใครผมก็พร้อมจะรักด้วย” เอกกวียิ้มตอบให้แม่สบายใจ อีกไม่นานแล้วที่ภาระหนักอึ้งจะมีคนแบกไปแทนเขาเสียที เขาจะได้มีชีวิตอิสระอย่างที่อยากทำ ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลังอีก

“แม่ยังไม่รู้เลยว่าเอกไปตกหลุมรักลูกกวาดตรงไหน เล่าให้แม่ฟังบ้างสิลูก”

“ตรงที่เธอเข้ากับแม่ได้ดีนี่แหละครับ” ชายหนุ่มตอบชัดเจน ทำให้ผู้เป็นแม่หัวเราะอย่างพอใจ เขาดีใจที่เห็นแม่มีความสุข และเขาจะได้มีความสุขของตัวเองบ้าง หากคำว่า ตกหลุมรัก ยังเป็นเรื่องไกลตัว เพราะเขาเองก็ยังไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับใคร มีแต่ความพอใจชั่วครั้งชั่วคราว กับคนที่ผ่านมาและผ่านไปเท่านั้น คนสมบูรณ์แบบที่จะทำให้หัวใจเขาเต้นแรงนั้น ยังไม่เฉียดกายผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเลย



วริษามองคำสั่งอย่างงงๆ เมื่ออยู่ๆ บริษัทก็มีนโยบายจะฝึกอบรมทักษะเพิ่มเติมให้แก่พนักงาน และเธอก็เป็นคนแรกที่ถูกเลือก พาให้หลายคนเริ่มซุบซิบนินทา ว่าเธอมีนอกมีในกับคำสั่งในครั้งนี้

“จะอบรมไปทำไม ต่อไปก็ได้เป็นคุณนายชี้นิ้วสั่งอยู่แล้ว ดีแต่มาตัดโอกาสคนอื่นเขา” ใครคนหนึ่งพูดลอยๆ ขึ้น หากเสียงก็ดังพอที่จะได้ยินกันทั่วทุกคน

“อ้าว ไม่รู้หรือจ๊ะ อย่างนี้น่ะเขาเรียกว่าร้อยเอาไว้ใช้ เกิดไปทำโง่ๆ ให้ท่านประธานขายหน้าก็แย่สิ” คนที่นั่งอยู่ติดกันรีบผสมโรง ก่อนจะหัวเราะกันคิกคัก

วริษามองคนอื่นก็เห็นมีแต่คนยิ้มๆ กับคำพูดนั้น แม้แต่ยี่สุ่นซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ก็เหมือนจะเข้าใจแบบเดียวกับทุกคน บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องหางานใหม่เสียที



เย็นวันนั้นวริษาแวะที่บ้านแม่ก่อนกลับบ้าน ทันทีที่ไปถึงพี่ชายก็ยื่นหนังสือพิมพ์ให้เธอดู ในหน้าสังคมมีภาพข่าวงานเลี้ยงบริษัท และรูปวราทิตย์กับพิมพ์ชนกถ่ายคู่กัน แต่ไม่มีภาพเธอติดอยู่แม้แต่รูปเดียว

“ทำไมแกไม่ไปถ่ายรูปกับเขาด้วย คนอื่นจะได้รู้ว่าแกเป็นอะไรกับคุณทิตย์”

“พี่ทอฟก็พูดไป จะให้ยัยกวาดทำตัวเป็นข่าวเหรอ รู้จักดูสถานะของตัวเองก่อนเถอะ” ราตรีแหวขึ้น

“จะสถานะไหนอีกล่ะ ก็ไอ้กวาดมันเป็นเมียคุณทิตย์ เราก็รู้ๆ กันอยู่” ทะนงศักดิ์ค้านอย่างไม่เข้าใจ

“แหม นี่โง่จริงหรือแกล้งโง่เนี่ย ก็ไปหลอกแต่งงานกับเขาเพราะอยากได้เงิน เกิดพวกนักข่าวรู้ว่าคุณทิตย์แต่งงานแล้ว เขาก็ต้องถามอีกว่าไปแต่งกันตอนไหน ทีนี้พอรู้เรื่องพินัยกรรม เขาก็ต้องอยากรู้ประวัติยัยกวาดต่อ คราวนี้แหละคงได้รู้กันทั่วว่ายัยกวาดไม่ใช่เจ้าสาวตัวจริง ทางเราน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่คุณทิตย์สิเขามีหน้ามีตาในสังคม โดนหลอกให้แต่งงานเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“เออ ก็จริงแฮะ งั้นไอ้กวาดต่อไปแกต้องอยู่ห่างนักข่าวให้มากที่สุด ไม่ต้องปงต้องไปมันแล้ว ไอ้งานสังคมพวกนี้ เกิดความแตกขึ้นมาได้ซวยกันหมด”

“พูดอะไรแบบนั้น เราไม่ได้ไปเสนอตัวสักหน่อย ฝ่ายชายมาสู่ขอเองตั้งแต่แรก” แสงดาวรีบแก้แทนเมื่อเห็นสีหน้าลูกสาว

“เขามาสู่ขอเพราะไม่รู้ต่างหากล่ะแม่ เรารู้แต่ก็ไม่ยอมบอกเขา แถมยอมตกลงแต่ง ตอนอยากได้เงินเขามาจ่ายหนี้ รักกันมาก่อนหรือก็เปล่า เป็นแม่ แม่จะคิดยังไงล่ะ?” ราตรีว่าอย่างไม่ลดละ เธอรำคาญน้องสะใภ้มานานแล้ว เพราะตั้งใจจะขอเงินจากวราทิตย์มาซื้อบ้านใหม่อีกหลัง แต่ก็ติดที่วริษาคนเดียว

“ถึงรู้คุณทิตย์เขาคงไม่ว่าอะไรหรอก แม่ดูออกว่าเขามีใจให้กวาดเหมือนกัน”

“แม่ก็ดีแต่คิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าเขารักยัยกวาดทำไมเขาไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกะมันล่ะ เขาแต่งเพราะพินัยกรรมเท่านั้นแหละ ลองอยู่กันสักพักเบื่อแล้วก็เลิก สินสมรสอะไรก็ไม่ต้องแบ่งให้ มีแต่ได้กับได้ คอยดูเถอะ ถ้าเขารู้เมื่อไหร่ว่ายัยกวาดไม่ใช่คนที่เขาต้องแต่งด้วย เขาคงได้ขอเลิกแทบไม่ทัน”

วริษาไม่ได้สนใจว่าแม่จะแย้งอะไรแทนเธออีก แต่คำพูดของพี่สะใภ้ทำให้เธอนึกเป็นห่วงชายหนุ่มขึ้นมา ครั้งแรกที่เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องแต่งงาน เพราะเธอไม่ได้รักเขา เธอไม่แน่ใจที่จะอยู่กับเขา จึงไม่อยากผูกพันกันทั้งทางกายทางกฎหมายและทางสังคม

แต่ตอนนี้แม้ใจเธอจะเปลี่ยนไป แต่เธอก็ให้คนอื่นรู้ไม่ได้อยู่ดี เพื่อวราทิตย์จะไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเธอไปมากกว่านี้

“แม่พอจะจำได้ไหมคะ ว่านักร้องคนนั้นเขาอยู่ที่ไหน?”

“กวาดจะไปตามหาสองแม่ลูกนั่นทำไม?” แสงดาวถามลูกสาวอย่างสงสัย

“กวาดอยากไปดูให้เห็นกับตาน่ะค่ะ ว่าเขาเป็นยังไงกันบ้าง ลูกสาวเขาอายุน้อยกว่ากวาดไม่กี่เดือน บางทีอาจจะแต่งงานไปแล้วก็ได้ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เรื่องในพินัยกรรมอาจกลายเป็นโมฆะก็ได้นะคะ” เธอหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น และจะพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้เสียคนที่รักไป



พิมพ์ชนกวางถ้วยกาแฟลง แล้วหันไปเล่นโทรศัพท์ต่อ ในห้องรับรองแขกของชายหนุ่มไม่มีอะไรน่าสนใจ เธอไม่ชอบอ่านหนังสือ พลิกดูไม่กี่หน้าก็วาง แต่ก็ต้องอดทนรอจนกว่าวราทิตย์จะประชุมเสร็จ เพื่อชวนเขาไปดินเนอร์ด้วยกัน หลังจากที่เขาบ่ายเบี่ยงเธอมาหลายครั้งหลายครา

หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อเพื่อนส่งข้อความเข้ามาแซวเรื่องข่าวในหนังสือพิมพ์ ไม่เสียแรงที่เธอมีสายสืบอยู่ในบริษัท จนรู้ว่าเขาจะจัดงานที่ไหน และโชคดีที่เธอรู้จักกับพิธีกรในงาน จึงได้นัดแนะกันให้เธอได้ขึ้นไปร้องเพลงคู่กับชายหนุ่ม ถึงจะต้องจ่ายไปเยอะ แต่ก็คุ้มเกินคุ้มกับผลที่ได้รับ

“ว่าไงมีข่าวอะไรคืบหน้ารึยัง?” พิมพ์ชนกรีบรับสาย เมื่อคนที่โทร.เข้ามาคือสาวใช้บ้านเจ้าสัวเทียน

“ไม่มีใครยอมบอกอะไรเลยค่ะคุณพิมพ์ แต่จอยว่าต้องมีเรื่องอะไรที่เป็นความลับสักอย่างแน่ๆ ค่ะ”

“แล้วทำไมแกไม่ตีสนิทกับพวกคนใช้เก่าๆ ล่ะ” หญิงสาวว่าอย่างหงุดหงิด

“หนูทำแล้วค่ะ แต่พวกเก่าๆ ปิดปากกันสนิท บอกแต่ว่าเป็นเรื่องของเจ้านายพูดไม่ได้ค่ะ”

“งั้นแกก็ตะล่อมถามจากอาม่าสิ คนแก่ๆ น่ะช่างเล่าจะตาย”

“ใครว่าหนูไม่ทำล่ะคะ คราวก่อนขึ้นไปนวดให้อาม่าก็ลองถามแล้ว ยังโดนตะเพิดลงมาแทบไม่ทัน อาม่าท่านหวงหลานชาย ไม่ชอบให้ใครไปถามถึงหลานท่าน ตอนนี้หนูถูกสั่งห้ามขึ้นไปบนตึกแล้วด้วย ได้แต่ทำงานอยู่ในครัว”

“ยังไงแกก็ต้องหาทางสืบมาให้ได้ ว่าความลับที่แกสงสัยน่ะมันเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องคุณทิตย์ก็รีบมาบอกฉัน แล้วฉันจะให้รางวัลเพิ่มอีกสองเท่า”

“ได้ค่ะคุณพิมพ์ หนูจะรีบสืบให้เร็วที่สุดเลยค่ะ”

พิมพ์ชนกกอดอกนึกสงสัยถึงความลับของชายหนุ่ม หรือว่าเธอจะจ้างนักสืบเอกชนเพิ่มอีกดี ทว่าพอคิดถึงเงินที่ต้องจ่ายแล้วหญิงสาวก็ทำหน้าเบ้ เพราะเธอถูกแม่หักเงินรายเดือนแถมยึดบัตรเครดิต โทษฐานที่ไม่ยอมอยู่เรียนงานในออฟฟิศ จึงมีเงินใช้แต่ละเดือนไม่มากนัก

“คุณทิตย์ประชุมเสร็จแล้วใช่ไหม?” หญิงสาวรีบลุกเมื่อเห็นเลขาฯ สาวก้าวเข้ามาในห้อง

“เอ่อ ดิฉันจะมาเรียนว่าคุณทิตย์มีเลี้ยงกับลูกค้าต่อ และออกไปแล้วค่ะ”

“อ้าว แล้วเธอไม่ได้บอกคุณทิตย์หรือไงว่าฉันมารออยู่ที่นี่”

“ดิฉันบอกไม่ทันจริงๆ ต้องขอโทษด้วยค่ะ” กนกพรเอ่ยพลางก้มศีรษะขอโทษอีกฝ่าย

“ทำงานไม่ได้เรื่อง คอยดูนะ ฉันจะให้คุณทิตย์ไล่เธอออก” พิมพ์ชนกว่าอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

กนกพรมองตามก่อนจะถอนใจโล่งอก เธอไม่กลัวว่าจะโดนไล่ออก เพราะเป็นเจ้านายของเธอเอง ที่สั่งให้ทำแบบนี้



วริษามองกระดาษเก่าๆ ที่ได้มาจากแม่อย่างครุ่นคิด ตรงหน้าเธอคือคอมพิวเตอร์ที่เปิดเวปหางานเอาไว้ ระหว่างไปตามหาน้องสาวต่างแม่กับหางานใหม่ เธอจะเลือกทำอะไรก่อนดี และยังไม่ทันได้ตัดสินใจ ที่หน้าบ้านก็มีเสียงรถแล่นเข้ามาจอด เธอจึงรีบวิ่งออกไปเปิดประตูให้

“เดี๋ยวกวาดเอาน้ำให้นะคะ” หญิงสาวบอกก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว ลืมไปว่าที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ยังเป็นเวปหางาน บนโต๊ะมีโทรศัพท์มือถือวางทับกระดาษจดที่อยู่เอาไว้

วราทิตย์เดินไปนั่งที่โซฟา ไม่ได้สนใจคอมพิวเตอร์ที่เปิดอยู่ เพราะเคยเห็นภรรยาเอางานกลับมาทำต่อที่บ้านบ่อยๆ กระทั่งเสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังขึ้น เขาจึงลุกไปดูเพื่อหยิบไปให้เจ้าของ ทว่ายังไม่ทันได้แตะเครื่อง วริษาก็เดินออกมาก่อน และทันทีที่เห็นชื่อคนโทร.เข้า เธอก็เดินหายออกไปคุยข้างนอกทันที

เขาหันไปมองที่จอมอนิเตอร์ได้เพียงแวบเดียว ภาพตรงหน้าก็หายไปกลายเป็นรูปพักหน้าจอแทน จึงเลื่อนสายตามายังกระดาษเก่าๆ ที่อยู่บนโต๊ะ

ที่อยู่ใคร?...ชายหนุ่มถามตัวเอง

เขามองออกไปนอกบ้านที่หญิงสาวกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ท่าทางเธอบอกชัดว่าไม่อยากให้เขาได้ยินว่าคุยอะไร หากเธอคงไม่รู้ว่าเขาตาไวพอที่จะมองเห็นชื่อบนหน้าจอ ก่อนเธอจะคว้าโทรศัพท์ไป

เอกกวี เจ้านายที่เธอออกไปกินข้าวด้วยทุกวันนั่นเอง

จบตอนที่ 16

อ่านจบแล้ว ขอถามสักนิดนะคะ คือมีน้องทักมาเรื่องฉากที่อาทิตย์ตีก้นกวาด ว่าอ่านแล้วรู้สึกว่านางเอกโดนลวนลามน่ะค่ะ เลยอยากถามความเห็นจากคนอ่านดูว่ารู้สึกอย่างนั้นไหมคะ บอกกันบ้างน้า ขอบคุณค่ะ



ปริยาธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ม.ค. 2557, 20:28:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ม.ค. 2557, 22:44:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 2380





<< ตอนที่ 15 เหตุที่ทำให้รู้ใจ   ตอนที่ 17 เบาะแสของน้องสาว >>
konhin 1 ม.ค. 2557, 21:12:43 น.
รู้ตัวว่ารักแล้วก็อย่าทำให้อาเค้าแคลงใจหล่ะ


supayalak 1 ม.ค. 2557, 22:13:52 น.
ผู้ชายอย่างเอกนี่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจและไม่น่าคบหาอย่างที่สุด ยังไงอาทิตย์ต้องทำใหลูกกวาดตาสว่างให้หันมารักให้เร็วที่สุด เราต้องเป็นคนเลือกไม่ใช้ให้ผู้ชายเลวๆ มาทำอะไรเราได้


Zephyr 1 ม.ค. 2557, 23:10:08 น.
เรารู้สึกว่าเหมือนอาทิตย์หยอกกวาดมากกว่าค่ะ ไม่ค่อยเหมือนลวนลามนะ
อีกอย่างแต่งกันแล้วเราอ่านเลยเฉยๆนะ
ฮึ่ยยยยยย เอานายเอกกวร ป้ากรพินทร์นี่ ไปเก็บที เมื่อไร สองแม่ลูกนี่จะพ้นไปคะ
ยายพมพ์ชนกด้วย มารผจญหลายแหล่อีกค่ะ
คุณนายราตรีด้วยนะคะ แค่พี่สะใภ้นะ ไ่เกี่ยวไรกะอาทิตย์เลยนะ จะเอาบ้านใหม่
ซื้อเองสิยะ ชิ!!!!!!


mhengjhy 1 ม.ค. 2557, 23:26:36 น.
อุ้ย เริ่มรู้จักเอกกวีแล้ว


นักอ่านเหนียวหนึบ 1 ม.ค. 2557, 23:42:28 น.
นึกภาพ อาทิตย์ลวนลาม ยัยกวาดไม่ออกเลยจิงๆ สงสัย เค้าคงจิ้นภาพฮีไว้ดูดีมากจิงๆ (ก็ฮีเป็นคนดีจิงๆ นี่นา)
ตอนนี้แอบรู้สึกว่า นายเอกกวี กะยัยพิมชนัก!! จะไม่ยอมบทน้อยแน่ๆ คงจะต้องมีประเด็นกับทั้งสองคนอีกแน่ๆ เห้อออ


ปริยาธร 2 ม.ค. 2557, 00:19:38 น.
ตอบเม้นต์จ้า

คุณkaelek อาทิตย์ยังไม่รู้ใจกวาดเลยค่ะ ถ้ารู้คงปลื้มไปอีกสามปี 555

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ อาทิตย์ก้าวเร็วกว่าแล้วค่ะ เจ้านายนี่กวาดจะถอยหนีแล้วค่ะ

คุณkonhin กวาดติดแค่ไม่ใช่เจ้าสาวตัวจริงค่ะ เรื่องคู่ควรตอนนี้คงไม่ได้คิดแล้วล่ะค่ะ

คุณmhengjhy ตาเอกกวีก็น่ากลัวสมเป็นตัวร้ายอ่ะค่ะ อิ อิ

คุณsaralun ตอนนี้กวาดเริ่มสู้เพื่อรักแล้วค่ะ ^^

คุณคิมหันต์ อาทิตย์เริ่มระแวงเจ้านายแ้ล้วค่ะ แต่อย่างอาทิตย์คงไม่กระโตกกระตากแน่ๆ รอดูกันต่อไปค่ะ

คุณgoldensun อาทิตย์พยายามรุกเรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ ส่วนนายเอกถ้ากวาดปฏิเสธคงโกรธสุดๆ เลยล่ะค่ะ รายนี้ไม่ยอมเสียหน้าเด็ดขาด แถมรักแม่สุดๆ ด้วยค่ะ

คุณsukhumvit66 คุณเอกรอแม่ก่อนค่ะ ถ้าแม่โอเคก็คงลุยล่ะค่ะ

คุณheartlogue ข้อดีของคุณเอกคือรักแม่มากๆ นี่ล่ะค่ะ ลูกกตัญญูนะคะ อิ อิ

คุณsupayalak จริงๆ ต่อหน้ากวาดคุณเอกก็ทำดีนะคะ พนักงานเลยหมั่นไส้กันเป็นแถบ แต่อาทิตย์อยู่ใกล้ใจกวาดมากกว่าค่ะ

คุณคำปน อาทิตย์เต็มใจให้หึงอยู่แล้วค่ะ กำลังใจมาอีกหลายกองเลย

คุณZephyr คู่นี้ยังหวานๆ ขมๆ กันไปเรื่อยก่อนค่ะ เตรียมต้มน้ำรอมาม่าได้เลย อิ อิ

ขอบคุณนักอ่านเงาทุกท่านด้วยจ้า


คิมหันตุ์ 2 ม.ค. 2557, 01:08:02 น.
เบื่อตาเอกกะวอน โทรมาทำไม หาาาาา!! เอาใจช่วยอาทิตย์กับหนูกวาดค่ะ

ปล.ฉากนั้นก็ไม่รู้สึกว่าลูกกวาดโดนลวนลามค่ะ แต่งงานกันแล้วนี่นา นอนก็นอนกอดกัน น่ารักดีออก


saralun 2 ม.ค. 2557, 09:38:54 น.
เอกกวี กับ พิมพ์ชนก นี่เหมาะสมกันจังเลย..เห็นแก่ตัวทั้งคู่ - -!!


Sukhumvit66 2 ม.ค. 2557, 11:56:02 น.
เราว่าไม่น่าจะเรียก ลวนลามนะค่ะ
เพราะแต่งงานกันแล้ว นอนกอดกันทุกคืนขนาดนี้
แค่ตีก้น และทำในที่รโหฐาน ไม่ลวมลามค่ะ แต่อิจฉา


goldensun 3 ม.ค. 2557, 07:02:36 น.
ตีก้นดูเป็นการหยอกกันมากกว่านะคะ ความสัมพันธ์คืบหน้าซะขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางเป็นลวนลามได้แน่ ถ้าเป็นเอกกวีทำสิ ใช่แน่
ติดปมเรื่องสวมรอยแต่งงาน อยากให้กวาดเจอตัวจริง แล้วอาทิตย์รู้ความจริงเร็วๆ ลุ้นว่าอาทิตย์จะทำยังไง แต่ก็น่าจะเรียบร้อย
เพราะรักแรกพบนี่ กลัวก็แต่เอกกวี จะร้ายแค่ไหนเมื่อกวาดปฏิเสธ


nasa 6 ม.ค. 2557, 18:40:42 น.
สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาเอาใจช่วยให้กวาดหาทางออกได้ หมั่นไส้สองแม่ลูกที่คิดว่าตัวเองเลิศเลอเหลือเกิน อยากให้กวาดตอกกลับหน้างหงายมั่ง

ถ้าดูจากบุคลิกและการวางตัวของอาทิตย์ที่ผ่านมา การตีก้นเหมือนเล่นกะเด็กมากกว่า ไม่ลวนลามหรอกค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account