ร้อยดาวตะวันเดียว
“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอคุณไปเอง และถ้าคุณอยากรู้ว่าฉันทำอะไรมาล่ะก็ กรุณาไปถามน้องคุณเอาเอง ถ้ารู้ไม่จริงอย่าเที่ยวมาดูถูกฉัน อย่าให้ฉันหมดศัทธาคนอย่างพวกคุณให้เร็วกว่านี้เลย มันจะทำให้ฉันไม่อยากเดินเฉียดเข้าไปใกล้อีก ขอบคุณเผยธาตุแท้ผู้ดีจอมปลอมมาให้ฉันเห็นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ออกไปซะ!!! ออกไปให้พ้นๆ หน้าฉัน”
จิณณวัตรคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคนี้หลุดออกจากปากนุ่มที่เขาเคยหลงใหลได้ปลื้มจนเผลอจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงก้าวเข้าไปมองคนตรงหน้าใกล้ๆ มองให้แน่ใจว่านี่เป็นผู้หญิงคนเดียวกับคนที่หัวใจเขาพร่ำหาแทบจะทุกวินาที
“ผมไปแน่! แต่ก่อนไปคุณต้องชดใช้ความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีให้คุณก่อน ถึงมันจะไม่คู่ควรกับความเจ็บที่ผมกำลังได้รับ แต่อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่เป็นไอ้งั่งในสายตาใคร ที่เป็นมดแดงเฝ้าพวงมะม่วง รอให้ไอ้ทีมาโฉบเอาไปกินก่อน”
อาทิตยาก้าวถอยหลังไปจนชนกับผนังห้อง เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางโกรธจัดของเขา แล้วสองไหล่ก็ถูกสองอุ้งมือเขาจับไว้แล้วบีบแรงๆ จนเจ็บ แต่ก็ยังจ้องมองดวงตาคู่ดุดันของเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“และผมก็หวังว่ามันคงจะหลงเหลืออะไรดีๆ ให้ผมกินบ้างนะ หรือจะมีแค่ซากเท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือ เละกว่านี้โทรมกว่านี้ผมก็เคยลองมาแล้ว และไม่เคยออมมือด้วยจนพวกนั้นติดอกติดใจเรียกหาผมอีกหลายต่อหลายรอบ แล้วคุณล่ะจะเป็นอย่างนั้นมั้ย จะลืมไอ้ทีแล้วหันมาเรียกใช้ผมแทนมั้ย เดี๋ยวเราจะได้รู้กัน”
เผียะ
“หยาบคาย!!! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!!”
อาทิตยาปัดมือเขาออกจากไหล่แล้วฟาดซ้ำรอยเดิมอีก แล้วใช้สองมือผลักอกเขาจนเซออกไปหลายก้าว และนั่นเป็นโอกาสให้รีบวิ่งไปหาประตู เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ายังไม่หาทางเอาตัวรอด

Tags: รักหวานๆ เศร้า นางเอกเก่ง ฉลาด

ตอน: วีระกรรมที่ไม่มีวันลืม

อาคารพาณิชย์แปดชั้นแปดยูนิตถนนสุขุมวิทและในย่านเศรษฐกิจถูกเลขาสาวหักพวงมาลัยอ้อมไปทางด้านหลังขับขึ้นอาคารสูงอีกหลังทำไว้สำหรับจอดรถโดยเฉพาะและมีรายได้จากการเก็บค่าที่ของคนที่ไม่ได้มาเป็นลูกค้าอย่างเป็นกอบเป็นกำทีเดียว อัลติสขาวจอดกึกในช่องประจำ ถัดไปก็จะเป็นเบนซ์ของคุณผู้หญิงและบรรดาผองเพื่อน ซึ่งป่านนี้คงกำลังสนุกสนานกับการสปาอย่างสบายอารมณ์อยู่ในร้านเป็นแน่
‘มีเงินซะอย่างก็สบายไปร้อยแปดอย่าง’
ประโยคกระแนะกระแหนในใจจากเลขาที่มีต่อผู้มีบุญคุณล้นหัวและไม่มีวันจะชดใช้ให้หมด แม้ตอนนี้เงินจำนวนครึ่งล้านที่เคยช่วยชีวิตแม่ไว้จะมีในมืออาทิตยาแล้วก็ตาม ทว่าชมจันทร์กลับไม่คิดจะรับคืน ด้วยประสงค์จะเก็บเอาไว้เป็นไพ่ใบสุดท้ายเพื่อทิ้งเวลาเลขาอยากจะลาออกไปทำงานที่อื่น ทั้งๆ ที่เวลาสิบสี่ปีเต็มๆ นับตั้งแต่เข้ามาเรียนชั้นมัธยม ที่อาทิตยามาอยู่ด้วยในชายคาบ้าน ต้องเรียนหนักและเริ่มฝึกงานกับชมจันทร์มาตลอดจนมีประสบการณ์และรู้รายละเอียดงานแทบทุกอย่าง
ครั้นพอจบปริญญาตรีก็ต้องมาทำงานเป็นเลขาเต็มๆ ตัว รับผิดชอบทุกอย่างในบ้าน อำนวยความสะดวกให้ทุกคน ควบคู่กับการเรียนโทจนจบ แถมต่อเอกไปด้วยจวนเจียนจะจบแล้ว และตั้งใจจะออกไปหาประสบการณ์ที่อื่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี เพราะ ‘ไพ่ใบสุดท้าย’ แม้ที่ผ่านมาอาทิตยาจะช่วยงานชมจันทร์อย่างขะมักเขม้นและซื่อสัตย์สุจริตให้นั้น น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการทดแทนบุญคุณ
จริงอยู่ชมจันทร์จะให้เงินเดือนเหมือนลูกจ้างทั่วไปตั้งแต่เข้ามาอยู่แล้วเริ่มฝึกงาน และให้เงินเดือนไม่น้อยหน้าบริษัทใหญ่ๆ เมื่อเรียนจบและทำงานให้อย่างเต็มตัว แต่การได้เรียกใช้เกือบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะอาทิตยานอนอยู่ในบ้านด้วย โดยไม่คำนึงถึงเวลาพักผ่อนกลางดึกเป็นอาจิณต์ ชมจันทร์ก็ไม่สามารถหาใครมารองมือรองเท้าได้ดีขนาดนี้เป็นแน่
เห็นๆ อย่างโจ่งแจ้งก็ในเวลาสี่เดือนกับการเปลี่ยนเลขาถึงสามคน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมอาทิตยาถึงขอออกไปพักข้างนอกแทนการได้อยู่คฤหาสน์หลังงามและประหยัดค่าเช่าเกือบหมื่นไปอย่างไม่เสียดาย เพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว แม้จะเป็นเพียงเวลากลางคืนก็ตามที
ร่างเล็กรีบลงจากรถแล้วหอบหิ้วของจากกระโปรงหลังก้าวฉับๆ นำเจ้าของร่างสูงปรี๊ดมีกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อยืดแบรนด์ดังห่อหุ้มไว้ และก้าวยาวๆ ตามไปลงลิฟท์อาการจอดรถไปชั้นหนึ่งแล้วเดินอ้อมไปหน้าอาคารก็จะเห็นที่ถูกตกแต่งในแบบโมเดิร์นแล้ว
“คุณจิณเลือกแบบชุดไว้แล้วใช่ไหมคะ”
อาทิตยาหันไปถามแต่ไม่ได้รอคำตอบก็ใช้ไหล่ดันประตูกระจกอย่างยากลำบาก จิณณวัตรจึงรีบแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการยื่นแขนยาวๆ ช่วยเปิดให้แทน เด็กสาวตัวเล็กๆ ผอมบางในชุดยูนิฟอร์มรีบปราดเข้ามาช่วย ตามติดด้วยอีกคนกำลังเดินลงบันไดมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มส่งมาหาเขา และหันไปทักทายอาทิตยาด้วยท่าทียินดีปรีดาอย่างจริงใจ
“ว่าไงจ้ะเลขาคนสวย กลับมาสักทีนะพี่ล่ะคิดถึงจะแย่”
อาทิตยายิ้มแป้นรับและโผเข้าไปใกล้ๆ คนพูดพร้อมกับยื่นมือไปประสานมือกันอย่างสนิทสนม แต่ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหันไปหาจิณณวัตร พร้อมกับแนะนำอย่างรวดเร็ว แล้วพยักหน้าให้จิ๋มเป็นอันรู้กัน
“พี่จิ๋ม เป็นช่างมือหนึ่งของห้องเสื้อไฮคลาสค่ะ นี่คุณจิณที่ตะวันโทรมาบอกเมื่อเช้าไง งั้นฝากให้ดูแลต่อเลยนะคะตะวันขอไปหาของขวัญหน่อยค่ะ”
ก่อนจะเดินไปหาชั้นผ้าสารพัดชนิดพับเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบและสวยงาม ทิ้งให้จิณณวัตรถูกจิ๋มพาไปวัดตัว เลือกชุดเลือกผ้าตามใจชอบ ส่วนตัวเองก็เดินไล่ดูผ้าไปเรื่อยๆ จนสะดุดตากับผ้าไหมทอยกดอกลูกแก้วลายดอกพิกุลสีโอลด์โรส จึงหยิบออกมาดูอย่างละเอียด ก่อนพยักหน้าให้ดิวมาตัดไปหลายหลาหลังจากกะให้พอสำหรับตัดชุดสตรีหนึ่งบุรุษหนึ่ง
เพราะรู้ดีว่าคุณหญิงเพลินพิศผู้รับนั้น มักจะใส่เสื้อผ้าออกงานสีหรือโทนเดียวกับสามี ส่วนของตัวเองได้ผ้าคลุมไหล่สีพาสเทล ซึ่งราคาไม่แพงมากมายนัก แต่ผู้ให้เลือกสรรอย่างดีและมีผืนเดียวในร้านด้วย แล้วจึงหันไปหาเด็กสาวในร้าน
“ห่อด้วยนะดิวเลือกกระดาษสวยๆ แล้วนามบัตรคุณผู้หญิงกับของพี่แปะบนกล่องด้วยนะจ้ะ เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปดูชุดข้างบนก่อน”
สิ้นคำหญิงสาวก็ก้าวฉับๆ ไปหาบันไดแล้วเดินขึ้นชั้นสองจบเห็นช่างอีกหนึ่งกับผู้ช่วยกำลังก้มหน้าก้มตารีดชุดราตรีสวยหรูอย่างตั้งใจ
“ตรงเวลาจริงนะคะคุณตะวัน ดีนะคะที่พี่จิ๋มเล่าให้ฟังว่าพี่ตะวันเตือนเรื่องวันเกิดคุณหญิงไว้ก่อนพี่เลยสั่งตัดชุดใหม่ไว้ในร้านบ้าง ไม่งั้นวุ่นตายแน่ เลขาคนก่อนก็ไม่บอกล่วงหน้าอะไรไว้เลย พี่ล่ะคิดถึงคุณตะวันจะแย่ค่ะ กลับมาช่วยงานอีกจะได้ไม่วุ่นวายเหมือนสามสี่เดือนที่แล้ว” ช่างทักทายด้วยรอยยิ้ม
“เฮ้อ!!! อยากจะไปแต่ก็ยังไม่พ้นอยู่ดีค่ะพี่เดือน คุณผู้หญิงก็เพิ่งจะสั่งให้มาดูชุดเมื่อเช้าเองค่ะแต่ตะวันรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณหญิง ครั้งก่อนที่คุยกับพี่จิ๋มเลยเตือนๆ ไว้เท่านั้นกลัวจะลืมกัน กลับมาคราวนี้อะไรก็ยุ่งไปหมดนี่ก็ต้องรีบไปด้วยนะ ว่าแต่ได้หรือยังคะ ไหนมีชุดสีอะไรบ้าง”
เลขาสาวไม่รอให้เดือนบอกแต่อย่างใด แต่เดินตรงไปหาชุดสวยที่แขวนอยู่อีกด้านอย่างรู้งาน เดือนเองก็รีบเดินตามมาติดๆ เพื่อคัดชุดออกให้ พร้อมกับนำถุงคลุมพลาสติกมาใส่อย่างเร่งด่วน อาทิตยาเองก็ลงมือช่วยอย่างไม่เกี่ยงงอนแต่อย่างใด นี่ทำให้ได้ใจคนในร้านไม่น้อย และถ้าจะให้นับกันจริงๆ อาทิตยาก็เป็นประหนึ่งหัวหน้างานของคนเหล่านี้ก็ว่าได้ เพราะต้องรับผิดชอบทุกอย่างทั้งรายรับรายจ่าย รวมทั้งการพิจารณาขึ้นเงินเดือนเสนอต่อชมจันทร์
“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่ตะวัน ดีใจจังที่พี่กลับมา คิดถึงจะแย่” ผู้ช่วยช่างรีบนำชุดที่รีดเสร็จใส่ไม้แขวนยกให้เลขาสาวดูไปด้วย และทักทายไปด้วยสีหน้าดีใจไม่น้อย
“พี่ก็คิดถึงจ้า ว่าแต่พี่เอาไปหมดทุกชุดเลยนะ ไปล่ะรีบมากต้องซื้อของอีกหลายอย่างไว้คุยกันใหม่นะคะพี่เดือน”
ร่างผอมบางหิ้วสี่ชุดลงชั้นล่างอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปเลือกชุดให้ตัวเองที่แขวนไว้สำหรับให้ลูกค้าเช่า เดรสสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยคอวีสีกาแฟแขนตุ๊กตาเข็มขัดสีเดียวกันตรงเอวมีโบว์ประดับไว้ถูกคว้ามาอย่างไม่พิถีพิถันนัก ก่อนจะอ่านรหัสให้ดิวจดบันทึกไว้ว่าเอาชุดออกไป ส่วนค่าเช่านั้นไม่ต้อง เพราะเจ้านายไฟเขียวให้หยิบชุดใส่ได้โดยไม่ต้องจ่าย
แต่ถ้าจะต้องตัดใหม่ก็จ่ายแค่ค่าผ้าในราคาทุน ค่าช่างไม่ต้อง เพราะงานที่อาทิตยาจะต้องใส่ชุดไปนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตามเจ้านายไปทั้งสิ้น ดีหน่อยก็ตรงได้ชุดเป็นของตัวเอง แม้จะมีโอกาสได้ใช้น้อยครั้งก็ตามที เมื่อได้ของครบแล้วร่างเล็กก็หิ้วชุดเดินไปหาคุณชายเนี๊ยบที่เพิ่งเสร็จจากการวัดตัวพอดี
“เรียบร้อยนะคะจะได้ไปกัน” สิ้นคำหญิงสาวที่หอบหิ้วชุดจนหนักอึ้งส่งยิ้มให้จิ๋มเป็นอันรู้กันว่าจะต้องไปแล้ว
“ให้ผมช่วยมั้ย แล้วเราจะไปไหนต่อล่ะ”
แต่คนที่ไม่รู้จำเป็นต้องเอ่ยถาม เพราะเขาคิดว่าเสร็จจากนี้จะได้กลับบ้านเลย อาทิตยาหันกลับมายื่นชุดของเจ้านายให้ช่วยถืออย่างไม่เกี่ยงงอน ส่วนของตัวเองนั้นเอาไปถือไว้ที่มือซ้าย อีกมือเปิดประตูให้เขาแล้วอ้อมไปด้านหลังตามเดิม
“ก็คุณจะทำงานพรุ่งนี้ แล้วไม่ไปซื้อของใช้อื่นๆ เหรอคะ”
ร่างเล็กเปิดประตูรถแล้วช่วยเขาหิ้วชุดไปแขวนไว้อย่างระมัดระวัง ตาก็มองไปยังรถคุณผู้หญิงเห็นยังจอดอยู่ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตอนนี้คงกำลังสบายกับการนอนให้เด็กในร้านนวดๆ ถูๆ เป็นแน่ กว่าจะกลับก็คงจะใกล้ๆ เวลาไปงาน
“ของใช้อะไรผมมีหมดแล้ว”
จิณณวัตรเอ่ยอย่างเซ็งๆ หลังจากเข้าไปนั่งในรถ ส่วนคนขับไม่ได้พูดอะไรนอกจากสตาร์ทรถแล้วบึ่งออกไปทันที ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอยู่ไม่ห่างจากห้องเสื้อมากนักคือจุดหมาย ร้านขายเครื่องแต่งกายบุรุษยีห้อดังคือแหล่งที่ยัยหัวถั่วงอกเดินฉับๆ นำเขา
“คุณคงไม่ได้หอบชุดทำงานมาจากอเมริกาหรอกนะคะ หรือถ้าส่งขึ้นเครื่องตามหลังมา วันนี้ฉันคงจะไปรับของจากคลังสินค้าไม่ทันแน่ๆ กระเป๋าที่คุณหิ้วกลับมาด้วยก็ใบกระติ๊ดเดียวเอง คงใส่อะไรได้ไม่มาก และคงไม่มีของจุกจิกแน่ ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ก็ช่วยกรุณาเลือกซื้อของพวกนี้ไปใช้พลางๆ ก่อนแล้วกันนะคะ ฉันจะได้ไม่ถูกคุณผู้หญิงตำหนิว่าบกพร่องต่อหน้าที่ที่งอกมาอีกอย่าง นั่นคือดูแลความเรียบร้อยให้คุณตั้งแต่หัวจรดเท้า ว่าแต่คุณใส่เบอร์อะไรคะฉันจะได้ช่วยเลือก”
ดวงหน้าสวยกับผมยาวเหยียดตรงที่ถูกรวบไว้หันมายิ้มให้เขาอย่างคนชนะ ก่อนจะยิ้มให้พนักงานขายแล้วเดินไปเมียงมองรองเท้าคู่ละหลายพัน จิณณวัตรยกมือทั้งสองขึ้นกางนิ้วกว้างๆ ออกเขย่าไปมาเป็นเชิงว่าอยากบีบคอยัยหัวถั่วงอกเสียตรงนั้น โทษฐานรู้ทันเขาไปเสียทุกเรื่อง แต่สุดท้ายก็เดินไปยืนคู่กับเจ้าหล่อนเพื่อเลือกรองเท้าอยู่ดี ก็เขาไม่หิ้วกลับมาเลยสักคู่ แถมไม่ได้ส่งตามมาอีกด้วย เพราะยกให้เพื่อนซี้ที่ทำงานด้วยกันไปทุกอย่างแล้ว
และกว่าเขาจะเลือกรองเท้าได้ อาทิตยาก็หอบถุงเท้าห้าสิบคู่ เน็คไทสามสิบเส้น เสื้อเชิตสีขาวและสีพาสเทลยี่สิบตัวมารอให้เขาเลือกเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มกรอกตาไปมาด้วยความเบื่อเพราะขี้เกียจจะเลือก แต่เมื่อถูกเลขาแม่ชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือเป็นเชิงเตือนให้รีบก็ถอนใจหนักๆ ออกมา ก่อนจะพยักหน้าให้พนักงานขายแพ็คของทั้งหมดลงถุงโดยไม่ต้องเสียเวลาเลือกอีก ก็ในเมื่อของที่อยู่ตรงหน้าเข้าตาตรงใจไม่น้อยแล้ว
“แปดหมื่นเก้าพันห้าร้อยค่ะ ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้แล้วนะคะ จะจ่ายเป็นเงินสดเหมือนเดิมหรือบัตรเครดิตดีคะ”
เพราะพนักงานขายคุ้นหน้าอาทิตยาเป็นอย่างดี ก็มาซื้อของให้คุณผู้ชายทีจ่ายไปหลายหมื่นทุกครั้ง ลูกค้ากระเป๋าหนักๆ ย่อมเป็นที่จดจำแน่ มือบางรูดซิปกระเป๋าสะพายดึงเงินปึกหนึ่งออกมาเป็นคำตอบ ก่อนจะนับอย่างคล่องแคล่วส่งให้พนักงานขาย จิณณวัตรอดสงสัยไม่ได้
“คงไม่ใช่เงินคุณหรอกนะ” เลขาแม่หันไปยิ้มขำๆ ปนสายตาประชดประชันให้
“ฉันไม่ได้รวยขนาดนี้หรอกค่ะ นี่เป็นเงินคุณผู้หญิงให้แอดว้านซ์ก่อน วันหลังฉันจะไปเบิกคืนจากคุณผู้ชายเพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว เอ๊ะ! หรือว่าจะให้ไปเบิกจากคุณดีล่ะคะ ยังไงๆ ก็ช่วยเคลียร์กันให้เรียบร้อยหน่อยก็ดีนะคะ ลูกจ้างอย่างฉันจะได้ทำตัวถูก เสร็จแล้ว! งั้นเราไปต่อเลยเหลือของใช้ส่วนตัวเท่านั้น ทางนี้เลยค่ะ” คนพูดไม่รอให้คู่สนทนาได้ต่อปากต่อคำก็ตัดบทฉับ พร้อมกับก้าวขาออกจากร้านทันที
“ผมมีหมดแล้ว” เขาแย้งมือก็เข็นรถที่มีข้าวของเต็มเดินตามแม่ถั่วงอกไปอยู่ดี
“คุณหอบของพวกนี้กลับมาจากเมืองนอกด้วยเหรอคะ”
ที่โกนหนวดกับโฟมถูกสองมือบางยกขึ้นขณะปากถามอย่างผู้ชนะอีกครั้ง เพียงเท่านั้นจิณณวัตรก็เดินไปเลือกของบนชั้นหย่อนลงรถอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นของใช้จำเป็นแทบทุกอย่างที่เขาเองก็ลืมเลือนไปชั่วขณะ ส่วนอีกคนก็ถือโอกาสซื้อหาของใช้ส่วนตัวเล็กน้อยไปด้วยเพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะคงกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดไม่ทันแน่นนอน ทั้งคู่รีบตรงไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินเมื่อได้ทุกอย่างครบ จิณณวัตรเห็นแม่ถั่วงอกแยกของส่วนตัวออกไปคิดเงินคนละใบเสร็จจึงอดจะประชดนิดๆ ไม่ได้
“คุณแม่คงจะจ่ายให้คุณได้หรอกมั้งของแค่ไม่กี่ร้อยบาท หรือไม่คุณก็ส่งบิลไปเบิกกับผมก็ได้ เงินเดือนออกแล้วจะจ่ายคืนให้ทุกบาททุกสตางค์เลยล่ะ ทริปงามๆ ด้วย”
อาทิตยายิ้มด้วยความรู้สึกที่หลากหลายในทันที เพราะรู้ดีว่าคุณชมจันทร์ วัชราเวโรจน์นั้นจะไม่ชอบให้ใครแอบหาเศษหาเลยด้วยเงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นแน่ ไม่ว่าจะเลขาคู่ใจหรือเด็กรับใช้ แม้เงินนั้นจะหลักสิบหรือร้อยก็ตาม แต่จะเต็มใจเลี้ยงแขกที่แทบจะไม่เคยรู้จักได้ทีละเป็นหมื่นๆ โดยไม่เอ่ยปากบ่นสักคำ ถ้าหากนั่นจะนำมาซึ่งคำสรรเสริญเยินยอ หรือความมีหน้าตาในวงสังคมไฮโซจอมปลอม
“ฉันก็มีเงินจ่ายให้ตัวเองเหมือนกันค่ะ เก้าหมื่น จำไม่ได้เหรอคะ”
คงไม่มีลูกคนไหนจะยอมรับว่าแม่ตัวเองเป็นอย่างนี้แน่นอน อาทิตยาจึงไม่คิดจะอ้าปากบอกให้เสียเครดิต นอกจากรีบควักเงินจ่ายๆ ไปให้จบเรื่องและรีบตรงไปหารถแล้วขับออกไปทันที ด้วยเหลือเวลาไม่เท่าไหร่แล้ว จิณณวัตรไม่ได้หันไปคุยอะไร นอกจากมองออกนอกหน้าต่าง ดูบ้านเกิดเมืองนอนที่จากไปเป็นสิบปีช่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายจนจำแทบไม่ได้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน
เขาคิดไปเรื่อยเปื่อยไปถึงชีวิตสมัยเรียนมัธยม เพื่อนก็ไม่รู้หายไปไหนหมดแล้วตอนนี้ เพราะต่างคนก็ต่างแยกกันไปร่ำเรียนตามทางถนัด มีหลายคนไปเรียนต่างประเทศ สองสามคนรับราชการ อีกสองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หลายคนแต่งงานมีครอบครัวแสนสุข มีลูกมีเต้าไว้คลายเหงา และหลายคนก็หย่าร้างไป หลายคนครองตัวเป็นโสดแม้จะเลยเลขสามมาแล้ว รวมทั้งตัวเขาด้วย
ความคิดล่องลอยไปถึงเพื่อนๆ และงานที่ทำตอนอยู่อเมริกา ประสบการณ์ได้มากมายก่ายกอง ถึงเวลาต้องนำมาใช้กับกิจการของพ่อ พรุ่งนี้เขาจะต้องไปเรียนรู้และลงมือทำอย่างจริงจังต่อเสียที หลังจากกหนีหน้ามานานหลายปี ตอนนี้พ่อคงจะได้พักหรือเหนื่อยน้อยลง เมื่อมีลูกมารับช่วงความเหน็ดเหนื่อยแทน จู่ๆ ก็คิดขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าตั้งใจจะทำอะไร
“ร้านนี้คุณผู้ชายมาตัดประจำค่ะ ท่านบอกว่าทำให้ท่านหล่อกลับบ้านทุกครั้ง ช่างคงจะทำให้ลูกชายท่านหล่อกลับบ้านไม่แพ้กัน ฉันจะอยู่ร้านทำผมข้างๆ กันนี่ล่ะนะคะไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงคงจะเสร็จ เพราะฉันโทรมาจองคิวไว้ให้แล้ว”
อาทิตยาบอกยืดยาวเมื่อจอดเทียบหน้าบาร์เบอร์ ซึ่งนั่นทำเอาชายหนุ่มทึ่งไม่น้อย เพราะกำลังจะเอ่ยปากบอกอยู่พอดีว่าให้พาไปตัดผมที แต่เรื่องอะไรจะเผยไต๋ให้รู้ล่ะ สู้เดินเข้าร้านเฉยๆ กับมาดนิ่มๆ ดีกว่าตั้งหลายขุม ครึ่งชั่วโมงเพียงเท่านั้น เขาก็เห็นแม่ถั่วงอกเดินออกมาจากร้านเสริมสวย พร้อมกับผมถูกรวบขึ้นไปเปียก้างปลารอบศีรษะเรียบร้อยแล้ว
อดคิดถึงภาพเด็กหัวฟูๆ กับเหล็กดัดฟันเต็มปาก ผอมเก้งก้าง ขี้โรคขี้แยและขี้งอนเมื่อสิบกว่าปีก่อนไม่ได้จริงๆ ให้ตายดิ้น พลอยมองเห็นภาพเขาเสียหลักชนแม่ถั่วงอกตกบ่อปุ๋ยหมักหลังบ้านได้อย่างแจ่มชัด ตามติดด้วยภาพเขากับเพื่อนต่างคนต่างรีบวิ่งไปคว้าจักรยานปั่นหนีไปกินไอติมหน้าปากซอย ทิ้งให้ยัยถั่วงอกนั่งนับหนึ่งถึงพันอยู่ข้างโอ่งหลังบ้าน เปิดตาออกมาแล้วไม่พบใครก็ร้องไห้ไปฟ้องแม่
และที่ติดตาไม่ลืมเลือนก็เห็นจะเป็นภาพที่ยัยไม้เสียบผีวิ่งหญ้าราบตั้งแต่หน้าบ้านยันท้ายสวนเพื่อหนีเจ้าจำศีลงูหลามบอลเหลืองอร่ามงามสง่าของเขา ซึ่งจู่ๆ ก็หลุดออกจากตู้กระเด็นไปหายัยถั่วงอกด้วยสองมือเขาเองแท้ๆ จำได้ไม่เคยลืมเลยทีเดียวว่าวันนั้นเขากับเพื่อนๆ สนุกสนานกับการได้แกล้งมากแค่ไหน เจ้าหลามทองเองก็ยังสนุกไปด้วย เพราะขดตัวพันรอบแขนเขาเป็นการใหญ่
แต่ก็ลืมไม่ลงเหมือนกันกับไม้เรียวอันเบ่อเร่อของพ่อที่หวดลงบนก้นเขากับผองเพื่อน โทษฐานร้ายแรงกับการแกล้งยัยถั่วงอกที่กลัวเจ้าหลามจนขี้ขึ้นสมองเป็นไข้จับสั่นไปหลายวันทีเดียว นั่นดูเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้แกล้ง เพราะอีกไม่กี่วันยัยถั่วงอกก็ถูกส่งกลับบ้านนอกไปอยู่กับยายและเรียนประถม ส่วนเขาก็เริ่มเข้ามัธยมเลยไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ หรืออาจจะเป็นเพราะยัยถั่วงอกไม่อยากเจอเข้าด้วยก็เป็นได้
เพราะทุกครั้งเวลาปิดเทอมแล้วยัวถั่วงอกมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเขาทีไร ก็ไม่ค่อยจะย่างกายมาใกล้เขากับเพื่อนๆ เลย อ้อ! มีอีกวีระกรรมที่ลืมไม่ลงอีกเช่นกัน นั่นก็คือเดินชนยัยถั่วงอกตกสระว่ายน้ำ เขากับเพื่อนพากันยืนหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเมื่อเห็นร่างผอมๆ ป๋อมแป๋มอยู่กลางสระ กว่าจะรู้ว่าว่ายน้ำไม่แข็งเขาก็เกือบจะกลายเป็นฆาตรกรฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจไปเสียแล้ว
‘แม่จ๋า!!! ฮื้อๆๆๆ คุณจิณผลักตะวันตกน้ำ’
ยัยถั่งงอกก็ปรักปรำเขาทั้งน้ำตา เมื่อถูกช่วยขึ้นมาจากสระได้ ส่วนเขากับเพื่อนก็ต้องแอ่นบั้นท้ายรับไม้เรียวของพ่อตามเคย เพราะไม่มีใครจะสนใจฟังคำแก้ตัว ด้วยทุกคนยึดถือเอาตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เขาเลยตกเป็นจำเลยสังคมตั้งแต่นั้น ส่วนแม่ถั่วงอกก็แทบจะไม่มองหน้าเขาอีก กระทั่งเขาไปเรียนต่อหลายปี กลับมาเยี่ยมบ้านยัยถั่วงอกก็แทบไม่มองด้วยซ้ำ มีได้พูดคุยกันก็ตอนนี้เอง แต่ก็เพราะงานของเจ้าหล่อนล้วนๆ



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ม.ค. 2557, 07:26:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ม.ค. 2557, 07:26:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1074





<< ชีวิตที่แสนจะวุ่นวาย   สากกะเบือยันเรือรบจริงๆ >>
mhengjhy 2 ม.ค. 2557, 11:49:40 น.
แหม่ คิดถึงกันก็บอกค่ะ 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account