ม่านทิวาพชร {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

Tags: โมรารัตติกาล มรกตสนธยา มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี

ตอน: บทที่ 19 เหตุผล

๑๙

เหตุผล





จิณลีจอดพักรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งหลังจากขับมาได้สองชั่วโมง ทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเรียบร้อย ทั้งคู่จึงกลับมาพบกันที่รถ

“เมื่อกี้ผมเห็นมีร้านนวดสมุนไพร สนใจนวดสักชั่วโมงหรือเปล่าครับ เพราะเดี๋ยวเราคงปวดเมื่อยเนื้อตัวตอนเข้าป่าแน่ เสร็จเที่ยงพอดี จะได้ทานข้าวที่นี่ต่อเลย” เขาเอ่ยพลางพยักพเยิดไปยังร้านอาหารอีกด้านของปั๊ม

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” ชลันธรพยักหน้าตกลง เพราะเห็นว่าจิณลีขับรถมาสองชั่วโมงแล้ว เขาเองก็จะได้พักผ่อนก่อนเดินทางต่อด้วย

เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านซึ่งตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้สีเข้ม กลิ่นหอมสมุนไพรหลายชนิดก็ลอยมาเตะจมูกสองหนุ่มสาวทันที

จิณลีเปิดประตูเดินนำเข้าไปภายใน โดยมีเจ้าของร่างระหงเดินตามเข้ามา ข้างนอกว่าหอมแล้ว ข้างในหอมยิ่งกว่า กลิ่นนั้นละมุนมากกว่าฉุนจมูก และทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นไม่น้อย นอกจากนั้นในร้านยังเปิดเพลงบรรเลงจังหวะนุ่มนวลทำให้ผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

พนักงานสาวในชุดประจำชาติสีเหลืองอ่อนกล่าวทักทายอย่างสุภาพ ก่อนจะแนะนำรายการนวดว่ามีอะไรบ้างอย่างคล่องแคล่ว จิณลีและชลันธรเลือกนวดประคบสมุนไพร จากนั้นทั้งสองจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับนวดของทางร้านและแยกย้ายกันไปคนละห้อง

ชลันธรนอนคว่ำลงบนเตียงนวดภายในห้องซึ่งจุดน้ำมันระเหยกลิ่นหอม ก่อนที่พนักงานจะลงมือนวดตามขั้นตอน หญิงสาวหลับตาอย่างรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะไม่หลับ แต่สุดท้ายก็ผล็อยหลับไปในที่สุด



เธองัวเงียตื่นขึ้นและพบว่าตอนนี้พนักงานยังคงนวดให้อยู่ แต่เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาฝาผนังก็เบิกตาขึ้นอย่างตกใจ

“บ่ายสามแล้วนี่คะ ยังนวดไม่เสร็จอีกเหรอ” หญิงสาวหันไปถามพนักงาน แต่มองอีกฝ่ายไม่ถนัดเพราะยังนอนคว่ำอยู่

พนักงานของร้านยังนวดให้เธอต่อราวกับไม่ได้ยินคำถาม

ชลันธรเห็นดังนั้นจึงลองเอ่ยอีกรอบ “คุณคะ ได้ยินหรือเปล่า” ไม่มีเสียงตอบรับอีกเช่นเคย สุดท้ายเธอจึงพลิกตัวกลับไปมอง แต่แล้วก็ต้องกรีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานน่าสยดสยอง!



ชลันธรสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมเหงื่อที่ผุดพราวเต็มใบหน้า ท่าทางหวาดหวั่นของเธอทำให้พนักงานถามอย่างห่วงใย

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณ”

หญิงสาวสาวตวัดสายตาไปมองนาฬิกา ตอนนี้เข็มสั้นและเข็มยาวชี้เลขสิบสองพอดิบพอดี เมื่อกี้เธอแค่ฝันไปหรือนี่ ชลันธรถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก ก่อนจะตอบพนักงาน “เปล่าค่ะ”

“ค่ะ ดิฉันกำลังจะปลุกพอดีเลยค่ะ”

“นวดเสร็จแล้วใช่ไหมคะ” เธอค่อยๆพลิกตัวหันไปมองหน้าพนักงานด้วยใจเต้นระรัว แต่ความหวาดกลัวก็หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นเจ้าหล่อนกำลังส่งยิ้มน่ารักมาให้

เวลาต่อมาเมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ชลันธรก็ออกมายังพื้นที่ต้อนรับหน้าร้านและพบกับจิณลีซึ่งเพิ่งออกมาพอดี

“เป็นไงบ้างครับ สบายไหม” เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มถาม

“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบ ก่อนหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา แต่ฉุกคิดขึ้นได้ว่ายังไงก็ใช้ที่นี่ไม่ได้ จังหวะนั้นชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้น

“เดี๋ยวผมจ่ายให้เอง” เขายื่นธนบัตรของประเทศภูทิวาให้กับพนักงานที่ยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะไม้ยาว “ไม่ต้องทอนนะครับ” จิณลีกล่าวจบก็กลับมาหาชลันธรและเดินออกจากร้านพร้อมกัน

เมื่อมาถึงด้านนอก ชายหนุ่มถามขึ้น “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

“คะ?” ชลันธรทำหน้าเหลอหลา

“ผมเห็นคุณเหมือนเพิ่งหายตกใจ ตอนอยู่ในร้านมีอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจ

“เปล่าค่ะ มีแต่ฉันที่เผลอหลับไปเพราะพนักงานนวดเก่งมาก” หญิงสาวเอ่ยพลางยิ้มขำ ความฝันที่เหมือนจะเป็นลางบอกเหตุนั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวกับการเดินทางต่อเลย

“แน่นะครับ” สายตาของเขาคล้ายไม่เชื่อ

“แน่สิคะ” ชลันธรยืนยันแล้วจึงเปลี่ยนเรื่อง “ตอนนี้ฉันชักหิวแล้ว ไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ”

“ครับ” จิณลีพยักหน้า ดวงตาคมเรียวซ่อนความผิดหวัง ภาพในความฝันไม่ได้ทำให้ชลันธรยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะเดินทางต่อเลยหรือนี่



ทั้งสองออกเดินทางต่อหลังจากอิ่มท้อง จิณลีขับรถมุ่งหน้าไปเรื่อยๆโดยไม่ได้รีบร้อน พลางชี้ชวนให้ชลันธรมองจุดต่างๆที่น่าสนใจระหว่างทางที่ผ่านไป

“นั่นคือไร่กุหลาบขาวครับ” ชายหนุ่มเอ่ยพลางชำเลืองมองด้านขวามือของรถ

“สวยมากเลยค่ะ” ชลันธรตามีสีหน้าแช่มชื่นเมื่อเห็นภาพทุ่งดอกไม้เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวชูช่อสะพรั่งและมีรั้วไม้ระแนงกั้นเอาไว้ตลอดแนว ดูราวกับเป็นฉากหนึ่งในเทพนิยาย “มีแต่ดอกกุหลาบสีขาวเหรอคะ” เธอถามต่ออย่างสนใจ

“ใช่ครับ ว่ากันว่าเจ้าของไร่ปลูกเพื่อระลึกถึงคนรักของเขาที่ไม่ได้ครองคู่กัน เพราะเธอชอบกุหลาบสีขาวมาก” เขาเล่าขณะสายตาจดจ่ออยู่กับท้องถนนเบื้องหน้า

“ผู้หญิงคนนั้นโชคดีจริงๆ ที่มีผู้ชายที่รักเธอมากขนาดนี้” หญิงสาวบอกอย่างชื่นชมในความรักอันบริสุทธิ์ของเจ้าของไร่ ถ้าเปรียบเป็นสี ความรักของเขาคงมีสีขาวเหมือนดอกกุหลาบ

“ผมก็อยากเป็นผู้ชายที่ดีของผู้หญิงสักคนเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ทว่าไม่หันมามองคนที่นั่งอยู่บนเบาะอีกฝั่งเช่นเคย

“บางครั้งผู้หญิงก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความจริงใจหรอกค่ะ” ประโยคในนิยายเรื่องหนึ่งของเธอผุดขึ้นมาในหัว

จิณลีมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย ไม่เอ่ยคำใดต่อ เพียงยิ้มแสดงท่าทีรับรู้ จากนั้นจึงขับรถมุ่งหน้าต่อไปจนกระทั่งมาถึงที่พักแห่งหนึ่งตอนราวหกโมงเย็น

“คืนนี้เราพักที่นี่นะครับ” ชายหนุ่มบอกระหว่างเอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าเดินทางสองใบจากเบาะด้านหลังรถ

ชลันธรพยักหน้ารับรู้ ก่อนเดินตามคนตัวโตเข้าไปยังรีสอร์ตซึ่งบรรยากาศทึบทึม และถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ใบหนาที่ดูราวจะแยกที่นี่ออกจากโลกภายนอก เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์บริเวณล็อบบี้ ชายหนุ่มก็เป็นคนสอบถามห้องพักจากพนักงาน และพบว่าเหลืออยู่เพียงหนึ่งห้อง

“แถวนี้มีที่พักแค่ที่เดียวด้วยสิครับ ถ้างั้นคุณพักในห้องเถอะ ผมนอนในรถได้” จิณลีหันมาบอกชลันธรที่กำลังนึกหาทางออก เพราะไม่เคยร่วมห้องกับผู้ชายคนอื่นมาก่อน

“แต่ฉันว่า…”

“ผมเข้าใจครับ คุณอย่าทำให้ตัวเองต้องลำบากใจเลย” เขาเอ่ยอย่างให้เกียรติ

ชลันธรรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก เขาอุตส่าห์ขับรถจะช่วยพาเธอไปคฤหาสน์ของผู้ว่าการ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอได้นอนสบายในห้อง ส่วนเขานอนในรถซึ่งลำบากกว่ากันเยอะ เธอจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร

“ฉันนอนในรถดีกว่าค่ะ คุณควรจะได้พักผ่อนให้เต็มที่เพราะต้องขับรถ” ชลันธรบอกเหตุผล ด้วยกลัวว่าเขาจะไม่ยอม

“ผมนอนที่ไหนก็ได้ครับ คุณไม่ต้องห่วงหรอก” จิณลียิ้มกว้าง ทว่าแววตาของเขาดูพะวงกับอะไรบางอย่าง



หลังจากเกี่ยงกันพักหนึ่ง สุดท้ายจิณลีและชลันธรก็ตกลงพักห้องเดียวกัน ภายในห้องมีเตียงขนาดใหญ่ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และชุดโต๊ะรับแขกอยู่ตรงริมระเบียงหลังห้อง หลังจากพนักงานที่เดินมาส่งยังห้องพักกลับไปแล้ว ชายหนุ่มและหญิงสาวก็หันมาเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

“ฉันนอนข้างล่าง…” / “ผมนอนข้างล่าง”

“ให้ผมนอนข้างล่างเถอะครับ” จิณลีพูดจบก็ไม่รอช้า หยิบหมอนหนุนใบหนึ่งมาถือไว้ ก่อนเดินไปหยิบเบาะรองนั่งจากเก้าอี้หวายสามตัวมาวางต่อกันเป็นที่นอนข้างๆเตียงใหญ่ “แค่นี้ก็สบายแล้วครับ”

ชลันธรพยักหน้า “เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ งั้น….ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” หญิงสาวพูดจบก็หยิบเสื้อผ้าและเดินเข้าไปในห้องน้ำ

เมื่อประตูห้องน้ำปิดลง ชายหนุ่มก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพร้อมถอนหายใจออกมาเบาๆ พลันความพะวงก็ผุดขึ้นบนใบหน้า ดวงตาคมปิดลง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความรู้สึกอึดอัดที่สะสมอยู่ภายในใจ

‘ผมก็อยากเป็นผู้ชายที่ดีของผู้หญิงสักคนเหมือนกัน’

‘บางครั้งผู้หญิงก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความจริงใจหรอกค่ะ’

ยิ่งนึกถึงบทสนทนาภายในรถ หัวใจก็ยิ่งหนักอึ้งราวกับโดนถ่วงไว้ด้วยหินก้อนใหญ่ ไม่นึกเลยว่าจากจุดเริ่มต้นเล็กๆของการปิดบังฐานะตัวเองเพื่อลองใจหญิงสาว จะกลับกลายเป็นจุดที่ทำให้เขายิ่งต้องสร้างเรื่องต่อเนื่องอย่างมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

หวังว่าชลันธรคงจะเข้าใจเหตุผลที่เขาไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังของกำไลหงส์ทิวา



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ม.ค. 2557, 11:08:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ม.ค. 2557, 11:08:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1377





<< บทที่ 18 ความฝันที่หายไป   
ketza 3 ม.ค. 2557, 11:09:18 น.
มาแย้วววววววววววววววววววววววว


ketza 3 ม.ค. 2557, 11:18:09 น.
ฮั่นแน่ๆๆๆ คุงพระเอก โดนตีแน่เบย...ปิดบังไรไว้ โฮ๊ะๆๆๆๆๆ.......


บุลินทร 3 ม.ค. 2557, 11:22:02 น.


บุลินทร 3 ม.ค. 2557, 11:22:12 น.
คุณ Zephyr
ไม่ทรมานนานมากหรอกน่า มีเฉลยปมเป็นช่วงๆนะ อิอิ ทุกคนก็มีปมของตัวเองน้อยบ้างมากบ้างต่างกันไป รออีกนิด ค่อยๆเผยออกมาแล้ว ตอนนี้เฉลยปมใหญ่เชียวนะ เพิ่งรู้ว่าชื่อธศิญามันต้องยกชิฟท์สามครั้ง ตอนพิมพ์ไม่ได้สังเกตเบย ฮ่าๆๆๆ

คุณ ketza
แบะ แบะ เอาน่า เดี๋ยวก็ได้รู้เรื่องจิณลีแว้ว

คุณ lovemuay
ใช่แล้วครับ แอบสลับเรียบร้อย ลันเลยใส่กำไลแล้วติดต่อธศิญาไม่ได้

คุณ yimyum
นึกว่าเฉลยปมแรกแล้วคนอ่านจะหายค้างคา กลายเป็นงงกว่าเดิมรึนี่

คุณ konhin
ใช่แล้วครับ จิณลีจะเอากำไลไปทำอะไรน้าาาา

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ
ฮ่าๆๆๆ กลายเป็นแก๊งค์สิบแปดมงกุฏเหรอเนี่ย จิณลี ท่านทวด กับพี่มิรา เดี๋ยวจิณลีต้องเร่งทำคะแนนตอนหลังๆแล้วสินี่

คุณ goldensun
ตอนนี้จิณลีก็พยามถ่วงเวลาไปก่อนครับ แต่ตอนหน้าคงกระจ่างขึ้นกว่าเดิมครับ มีเฉลยปมอีกแล้วววว

คุณ patok
ทุกคนกำลังสงสัยจิณลีเต็มที่เลยใช่มั้ยนี่

คุณ ริญจน์ธร
ฮ่าๆๆๆ คะแนนจิณลีติดลบมากจริงๆ


yimyum 3 ม.ค. 2557, 13:14:32 น.
อ้าว......ตงลงนั่นมันเฉลยแล้วหรือนี่
ปล.วันนี้เน็ตหลุดกว่าจะได้อ่านก็บ่ายโมงกว่าแล้ว


lovemuay 3 ม.ค. 2557, 13:58:23 น.
จะเข้าใจไม่เข้าใจก็ลองอธิบายดูก่อนสิคะ ยิ่งยืดเวลาไปนานขึ้นเท่าไหร่ เรื่องโกหกก็ยิ่งมากขึ้นทุกทีๆนะคะ


patok 3 ม.ค. 2557, 15:36:31 น.
ฮะ เฉลยปม ไหนๆ ตรงไหนคือเฉลย 555+ ยิ่งอ่านยิ่งซับซ้อนในตัวจิณลี ไม่เห็นมีการเฉลยอะไรเลย ^^ ขอให้ตอนสุดท้าย จิณลีอกหักไปเลย โกรธแทนนางเอกที่ยังไม่รู้ความจริง


goldensun 3 ม.ค. 2557, 18:03:09 น.
ยังไม่รู้สาเหตุอยู่ดี แต่ที่รู้ ฝันร้ายของลัน ฝีมือจิณลีแน่เลย
โกหกอย่างนี้ ระวังความเป็นสุภาพบุรุษแสนดีจะโดนกลบนะคะ จิณลี


Zephyr 3 ม.ค. 2557, 19:56:32 น.
อะไร เฉลยตรงไหนนิ แค่มี จินนี่ไม่ใช่จินนี่เท่านั้นเองอ่า
พยายามทำภาพลวงตาทุกอย่างนะ ไม่ต้องสร้างหรอก
แค่ฐานะนายก็ไม่จริงจังจริงใจแล้วววววว
บังอาจหลอกลัน เคืองนะเนี่ย
แก้ตัวด้วยฉากหวานเว่อร์ด่วน ปฏิบัติ!!!!


นักอ่านเหนียวหนึบ 3 ม.ค. 2557, 23:07:18 น.
เอ๋...... หรือว่าพี่จิณเค้าหวังดี กับหนูลันนะ
กลัวหนูลันจะประสบกับอันตราย !!!!
ต้องใช่แน่ๆ เลยยยยย


ริญจน์ธร 6 ม.ค. 2557, 11:31:19 น.
55555 ต้องเรียกคะแนนคืนด้วยฉากหวานนะ


ฤดูฝัน 7 ม.ค. 2557, 16:15:14 น.
ถ้ามีฉากขอโทษหวานๆ ยัยลันต้องให้อภัยอยู่แล้ว รอฟินอยู่ค่ะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account