ร้อยดาวตะวันเดียว
“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอคุณไปเอง และถ้าคุณอยากรู้ว่าฉันทำอะไรมาล่ะก็ กรุณาไปถามน้องคุณเอาเอง ถ้ารู้ไม่จริงอย่าเที่ยวมาดูถูกฉัน อย่าให้ฉันหมดศัทธาคนอย่างพวกคุณให้เร็วกว่านี้เลย มันจะทำให้ฉันไม่อยากเดินเฉียดเข้าไปใกล้อีก ขอบคุณเผยธาตุแท้ผู้ดีจอมปลอมมาให้ฉันเห็นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ออกไปซะ!!! ออกไปให้พ้นๆ หน้าฉัน”
จิณณวัตรคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคนี้หลุดออกจากปากนุ่มที่เขาเคยหลงใหลได้ปลื้มจนเผลอจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงก้าวเข้าไปมองคนตรงหน้าใกล้ๆ มองให้แน่ใจว่านี่เป็นผู้หญิงคนเดียวกับคนที่หัวใจเขาพร่ำหาแทบจะทุกวินาที
“ผมไปแน่! แต่ก่อนไปคุณต้องชดใช้ความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีให้คุณก่อน ถึงมันจะไม่คู่ควรกับความเจ็บที่ผมกำลังได้รับ แต่อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่เป็นไอ้งั่งในสายตาใคร ที่เป็นมดแดงเฝ้าพวงมะม่วง รอให้ไอ้ทีมาโฉบเอาไปกินก่อน”
อาทิตยาก้าวถอยหลังไปจนชนกับผนังห้อง เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางโกรธจัดของเขา แล้วสองไหล่ก็ถูกสองอุ้งมือเขาจับไว้แล้วบีบแรงๆ จนเจ็บ แต่ก็ยังจ้องมองดวงตาคู่ดุดันของเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“และผมก็หวังว่ามันคงจะหลงเหลืออะไรดีๆ ให้ผมกินบ้างนะ หรือจะมีแค่ซากเท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือ เละกว่านี้โทรมกว่านี้ผมก็เคยลองมาแล้ว และไม่เคยออมมือด้วยจนพวกนั้นติดอกติดใจเรียกหาผมอีกหลายต่อหลายรอบ แล้วคุณล่ะจะเป็นอย่างนั้นมั้ย จะลืมไอ้ทีแล้วหันมาเรียกใช้ผมแทนมั้ย เดี๋ยวเราจะได้รู้กัน”
เผียะ
“หยาบคาย!!! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!!”
อาทิตยาปัดมือเขาออกจากไหล่แล้วฟาดซ้ำรอยเดิมอีก แล้วใช้สองมือผลักอกเขาจนเซออกไปหลายก้าว และนั่นเป็นโอกาสให้รีบวิ่งไปหาประตู เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ายังไม่หาทางเอาตัวรอด

Tags: รักหวานๆ เศร้า นางเอกเก่ง ฉลาด

ตอน: คุณชายเนี๊ยบจอมเรียกร้อง

“บังเอิญผมเบื่อสปอร์ตแล้วน่ะ ขับอยู่เมืองนอกมาตั้งหลายปี แต่ยังไงผมก็จะเก็บพวกนี้เอาไว้ก่อนก็แล้วกันนะ เผื่ออยากจะซื้ออีกคันเอาไว้ขับโฉบพาสาวๆ เที่ยว ได้ข่าวว่าสาวบ้านเราชอบนั่งรถราคาแพงๆ ใช่มั้ยแล้วคุณล่ะชอบด้วยหรือเปล่า”
จิณณวัตรเหมือนจะเดาใจคนข้างๆ ที่นั่งควบรถนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาตั้งแต่ออกจากโชว์รูมแล้ว เขาจึงตัดสินใจบอกเหตุผลให้รู้ ด้วยกลัวเจ้าหล่อนจะน้อยใจที่อ่านทางเขาผิดถนัด
“ต้องดูจุดหมายของรถราคาแพงๆ ด้วยค่ะว่าจะพาฉันไปไหน ถ้าไปทำเรื่องดีๆ ฉันก็ไปด้วย แต่ถ้าจะพาไปทำมิดีมิร้ายฉันคงพอใจที่จะขับเจ้าอันติ้ดคันนี้เท่านั้นล่ะค่ะ คุณจะให้ไปส่งออฟฟิศใช่หรือเปล่าคะ”
อาทิตยารีบตัดบทในทันที ด้วยเบื่อจะนั่งอยู่ใกล้ๆ คนหลงตัวเองอย่างที่สุด แต่อีกคนกลับยิ้มร่าออกมาด้วยความขำกับน้ำคำเหน็บแนม แถมเกิดอาการหมั่นไส้น้อยๆ ขึ้นมาตะหงิดๆ จนอยากจะแกล้งเล่นๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ได้ไงล่ะ คุณติดหนี้ผมนะหนนี้ ต้องพาผมไปเลี้ยงข้าวร้านอาหารดีที่สุด หรูที่สุด ราคาแพงที่สุด และอร่อยที่สุดด้วย นี่จะบ่ายสองอยู่แล้ว ผมหิวจนตาลายคล้ายจะเป็นลมแล้วนะ ถ้าไม่ยอมเย็นนี้ผมจะไปบอกความจริงทั้งหมดกับคุณแม่เองเลย ว่าไงตกลงหรือเปล่า”
“ได้เลยค่ะ” ไม่ใช่จะกลัวคำขู่ของเขาอะไร แต่ด้วยท้องไส้ของตัวเองก็ปั่นป่วนเพราะหิวไม่แพ้กัน เมื่อเช้าได้กาแฟแก้วโตเท่านั้น
“ไหงรับปากง่ายจังล่ะ และจะผิดฟอร์มคุณไปสักนิด” ทำเอาเขาอดสงสัยไม่ได้
“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ บังเอิญว่าฉันหิวเหมือนกันแค่นั้นเอง”
คนขับหันมายิ้ม จากนั้นก็หักพวงมาลัยไปทางซ้าย ลัดเลาะไปมาสองสามซอย ไม่นานก็มาถึงจุดหมาย ซึ่งทำให้คนร้องขอมองคนขับตาขวาง แถมไม่ยอมเปิดประตูลงไปด้วยซ้ำ
“คุณให้ฉันเลี้ยงเองนะคะ เร็วๆ เถอะค่ะฉันต้องรีบกลับไปทำงานอีกหลายอย่าง คุณก็มีเอกสารกองเต็มโต๊ะอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”
เขาถึงได้ยอมออกมาแล้วเดินตามร่างผอมบางด้วยอาการเคืองไม่น้อย แต่ไม่นานอาการนี้ก็หายไป เมื่อได้ข้าวเหนียวร้อนๆ ส้มตำ ลาบ น้ำตก เนื้อย่างหอมกรุ่นเข้าไปอยู่ในท้อง พร้อมกับมีอาการซี๊ดซ๊าดเข้ามาแทนที่ เพิ่มระดับความอาฆาตเอาไว้ในใจว่าสักวันเขาจะหาทางเอาคืนยัยถั่วงอกให้เข็ดเลย
“เฮ้อ!!! ดีใจจังได้กินของอยากกินมาหลายปี จะตบรางวัลเลขาคุณแม่ยังไงดีน้า” อาทิตยาไม่อยากจะมองสายตายียวนกวนประสาทของเขาสักเท่าไหร่นัก เลยเลี่ยงไปขึ้นรถแล้วไม่รอเอาเงินทอนตั้งร้อยกว่าบาทซะงั้น

“คุณตะวันคะ ดอกไม้มาส่งแล้วจะให้เอาไว้ตรงไหนคะ”
“คุณตะวันคะ เวทีกับเครื่องเสียงมาแล้ว เขาอยากให้ไปชี้จุดตั้งค่ะ”
“คุณตะวันคะ คุณผู้หญิงให้มาถามว่า ชุดสำหรับคืนนี้จะได้เมื่อไหร่”
“คุณตะวันคะ คุณผู้หญิงบอกว่าจะมีแขกเพิ่มมาอีกกลุ่มสักสามสิบคน ต้องทำอาหารเพิ่มอีกหน่อยมั้ยคะ ป้ากลัวจะไม่พอค่ะ”
และอีกเป็นร้อยคำถามจากคนในบ้าน ต่างก็วิ่งตรงมายังเลขาสาวจนหัวหมุนมาตั้งแต่เช้า นับจากก้าวแรกที่เหยียบบ้านเข้ามาด้วยซ้ำ โชคดีเป็นคนใจเย็น รอบคอบ คล่องงาน และเคยผ่านงานแบบนี้มาเยอะแล้ว จึงค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเปราะๆ ตอบคำถามแต่ละคนด้วยสติแทนการใช้อารมณ์หรือท่าทีฉุนเฉียวหงุดหงิด แม้ในใจจะเอื่อมระอากับความไม่รู้งานของคนในบ้านอยู่บ้าง เพราะเคยผ่านงานมาด้วยกันแล้ว แต่ก็ไม่คิดจะเอ่ยปากบ่นออกมาให้เสียเครดิตตัวเองเปล่าๆ
“วันนี้ผมว่าง คุณหญิงป้าเลยสั่งให้ล่วงหน้ามาช่วยงานคุณตะวันก่อนน่ะครับ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ตามสะบายไม่ต้องเกรงใจครับ” นนนทีมาถึงตั้งแต่บ่ายแก่ๆ รีบออกตัวและเอาป้ามาบังหน้า
“ขอบคุณค่ะ แต่เกรงใจจังเลยไม่กล้าใช้คุณทีหรอกค่ะ หรือถ้าจะช่วยจริงๆ ก็ฝากดูพวกไวน์กับเด็กๆ ให้ทีค่ะ ว่าอันไหนต้องแช่หรือไม่ต้อง โน่นค่ะ กำลังพากันยกตู้แช่ออกไปไว้ใต้เต้นท์แล้ว”
“ได้เลยครับถึงไม่เก่งแต่ผมก็พอช่วยเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอนครับ” ว่าแล้วหนุ่มนักเรียนนอกก็เดินตามร่างอรชรในชุดกางเกงยีนส์สีซีดเล็กน้อย ขาดหน่อยๆ ตรงต้นขากับหัวเข่าทว่าเข้ากับเสื้อยืดรัดรูปเล็กน้อยปักเลื่อมด้านหน้า เวลายกแขนขึ้นจะเห็นขอบกางเกงกับผิวขาวๆ ตรงหน้าท้องแบนราบ ดูแล้วเย้ายวนใจไม่หยอก
“คุณทีดูหนุ่มๆ อยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวตะวันขอตัวไปดูในครัวก่อนและจะให้เด็กๆ ยกเครื่องดื่มเย็นๆ มาให้ด้วยค่ะ”
พอส่งแขกที่สนามแล้วก็ต้องรีบกลับไปหางานของตัวเองต่อ และไม่มีเวลาได้ออกมาพูดคุยด้วยมากนัก เมื่อทุกอย่างทุกคนวิ่งตรงมาหาเลขาเพียงคนเดียว นานเป็นชั่วโมงถึงนึกขึ้นได้เลยยกเบียร์เย็นๆ ออกมาให้ด้วยตัวเอง ก็บังเอิญเจ้านายกับลูกสาวขับรถเข้ามาบ้านมาพอดี เลยเดินตรงไปหาแขกหนุ่มพร้อมกัน
“ขอโทษด้วยนะคะคุณที ตะวันมัวแต่ยุ่งจนลืมยกเบียร์มาให้ค่ะ”
“แต่มาตอนนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ ครับกำลังร้อนเชียว” นนนทีรับแก้วไปจิบอย่างคนอารมณ์ดี หลังจากยกมือไหว้ชมจันทร์แล้ว
“พ่อทีไม่ต้องช่วยอะไรหรอกจ้ะ เข้าไปนั่งในบ้านตากแอร์เย็นๆ กับป้ากับน้องแอ๊ฟดีกว่า ปล่อยให้ตะวันจัดการคนเดียวก็เอาอยู่แล้วจ้ะ รายนี้คล่องไปทุกเรื่อง"
ชมจันทร์รีบเสนอ เพราะสัมผัสได้ไม่อยากว่าชายหนุ่มน่าจะพึงพอใจในเลขาตัวเองไม่มากก็น้อย ถึงได้ตามมาแบบนี้ บวกกับเห็นหน้าเลขาเจื่อนลงด้วยคงจะอึดอัดเมื่อมีคนมาคอยตามแจจนอาจจะกลายเป็นภาระด้วยซ้ำ อีกอย่างก็อยากจะให้หนุ่มนักเรียนนอกได้ใกล้ชิดกับลูกสาวเอาไว้เผื่อเหลือเผื่อขาดยังไงจะได้ลองจับคู่กันในอนาคต แม้นนนทีจะยังไม่ใช่เป้าหมายใหญ่ของชมจันทร์ก็ตามที
“ใช่ค่ะคุณที มาลองทานของว่างฝีมือแม่ครัวเราก่อนสิคะ รับรองจะติดใจ”
จิรนันท์เองก็รีบสมทบด้วยกลัวจะเสียหน้า เมื่อเลขาแม่มีหนุ่มตามมาถึงบ้าน ผิดกับตัวเองที่มีคนมองมากมายแต่ไม่เคยมีใครกล้าบุกแบบนี้มาก่อน หรือถ้ามีใครคิดจะบุกก็จะถูกผู้เป็นแม่สะกัดดาวรุ่งเอาไว้ก่อน หากพบว่าเป็นพวกโนเนม หรือคุณสมบัติไม่เข้าตาต้องใจ ด้วยผู้เป็นลูกสาวนั้นทั้งสวย หุ่นดี สมบูรณ์แบบทุกอย่าง คนจะมาเป็นเขยก็ต้องมีทุกอย่างเหนือกว่าหรืออย่างน้อยก็ต้องทัดเทียมกัน ชมจันทร์จึงจะเปิดประตูบ้านต้อนรับ
“ครับคุณป้า” หนุ่มหล่อรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นว่าการมาตามสาวคล่องงานไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะดูเหมือนงานจะรัดตัวจนไม่มีเวลาให้เขาเอาซะเลย หรืออีกนัยก็คือสาวเจ้ายังไม่ปิ้งเขามากพอจนจะลากเขาตามติดไปให้อยู่ใกล้ชิดเวลาทำงาน หรือจะอีกนัยคือกลัวเจ้านายจะตำหนิเมื่อมีหนุ่มตามเจ๊าะแจ๊ะก็เป็นได้

“เราสองคนจะไปร้านทำผม พ่อทีสนใจจะไปด้วยมั้ยจ้ะ”
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมง นนนทีก็ได้โอกาสทองดอดไปหาเลขาคนสวยที่กำลังวุ่นอยู่กับการจัดดอกไม้อยู่กลางสนามอีกครั้ง เมื่อยอมเสียมารยาทเอ่ยปากปฏิเสธสองแม่ลูกอย่างสุภาพไป เพราะดูเวลาแล้วกว่าปาร์ตี้จะเริ่มก็เกือบสามชั่วโมงเชียวที่คนทั้งคู่ต้องเสียไปให้กับการแปลงโฉมให้สวยงาม ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบอาหารหูอาหารตาแบบนี้ แต่ก็ขี้เกียจไปนั่งรอ
“ถ้าคุณทีอยากจะช่วยจริงๆ ก็รบกวนเลาะเอาใบออกจากดอกไม้พวกนี้ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่ถนัดก็นั่งดูเฉยๆ พอค่ะ รับรองว่าตะวันจะไม่ตำหนิเลย” อาทิตยาเสนองานให้อีกวาระนับตั้งแต่สองแม่ลูกขับรถออกจากบ้านไป
“ช่วยดีกว่าครับ จะได้มีอะไรอ้างคุณหญิงป้าหน่อยว่ามาแล้วได้งานบ้าง”
อาทิตยายิ้มบางๆ ให้แล้วสอนงานง่ายๆ ที่ผู้ชายมักมองข้ามอย่างอารมณ์ดี ส่วนคนถูกสอนเขาคอยถามโน่นถามนี่ไม่หยุดหย่อน ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แม้อีกคนจะตอบบ้างไม่ตอบบ้างเขาก็ไม่ละความพยายามแต่อย่างใด แถมไม่ยอมให้สาวสวยคราดสายตาไปไหนอีก กระทั่งจิรเดชกับจิณณวัตรกลับจากออฟฟิศในเวลาใกล้งานเริ่ม และอาทิตยาจะต้องผละไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
เขาถึงได้หอบหิ้วชุดสำหรับใส่งานไปอาบน้ำห้องรับรองตามหลังจิณณวัตรไปบ้าง ลงมาอีกทีก็ถูกเจ้าของงานเรียกไปคุยด้วย ระหว่างรอต้อนรับแขก แล้วก็ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเลขาสาวอีกเลย เมื่อคุณหญิงป้าเดินเข้างานมา พร้อมคุณลุงและพ่อกับแม่เขา การถูกดึงตัวไปทำความรู้จักคนนั้นคนนี้จากผู้เป็นแม่จึงเกิดขึ้น
ไม่แตกต่างจากจิณณวัตรเลยสักนิด ที่ต้องคอยยกมือไหว้แขกในงานทั้งพอจะจำได้หรือไม่รู้จักเลย แต่ผู้แม่ก็เป็นคนจัดแจงแนะนำด้วยใบหน้าอิ่มเอมหัวใจไม่น้อยเมื่อลูกชายไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักนิด
“อิจฉาคุณเอ้จังเลยค่ะ มีลูกชายทั้งเก่ง ทั้งหล่อ ต่อไปคงจะเป็นเสาหลักของบ้านให้พ่อแม่หายเหนื่อยแล้วสินะคะ”
“อุ๊ย!!! ชมเกินไปแล้วล่ะค่ะ ลูกคุณนารถก็เก่งใช่ย่อยคะ ว่าแต่คนนี้ใช่ไหมคะที่เพิ่งจบจากออสเตรเลีย ได้ข่าวว่าลงทุนไปอยู่ยงเฝ้าตั้งแต่วันแรกจนเรียนจบปริญญาเลยใช่มั้ยคะ” ชมจันทร์ปรายตามองสาวสวยท่าทางเรียบร้อยยืนอยู่ข้างวรนารถกับภานุผู้เป็นสามี
“ไม่ได้หรอกค่ะรายนี้คุณนุหวงมาก ขืนปล่อยให้ห่างหูห่างตา เดี๋ยวได้สามีฝรั่งกลับมาเหมือนพี่สาวสองคนล่ะแย่เลยค่ะ น้องเนมไหว้คุณป้าเอ้ คุณลุงเดชแล้วก็พี่จิณสิจ้ะ” วรนารถรีบหันไปสั่งลูกสาวผู้น่ารักและเรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับไว้ก็ไม่ปาน
“ไหว้พระเถอะจ้ะหนูเนม” ทั้งสามรับไหว้สาวสวยด้วยรอยยิ้ม
“ว่าแต่จะแย่ตรงไหนล่ะคะคุณนารถ ลูกเขยทั้งสองรวยออกปานนั้น” ชมจันทร์รีบคุยกับแขกต่อ
“ไม่ไหวค่ะ ขอลูกเขยคนไทยกับเขาบ้างสักคน นารถเลยต้องไปคุมเข้มแบบลิ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยนะคะ นี่ก็กำลังหาที่ฝึกงานให้ก่อนจะเข้าไปรับตำแหน่งที่คุณนุวางไว้ให้ ถ้าจะฝากคุณเดชกับคุณจิณช่วยรับไปสอนงานให้สักสองสามเดือนก็จะดีนะคะ นารถจะได้หมดห่วง” จิณณวัตรหันไปยิ้มให้พ่อเป็นเชิงเกี่ยงให้ตอบ
“ไม่มีปัญหาครับ ผมเพิ่งจะโอนผู้ช่วยเลขาไปให้นายจิณ และรับผู้ช่วยคนใหม่ หนูเนมไปก็จะให้เลขาผมสอนงานด้วยเลย พร้อมเมื่อไหร่ก็โทรบอกนะครับ” จิรเดชไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ชมจันทร์เองก็ชอบใจไม่น้อยที่แอบมองการณ์ไกลไว้ให้ลูกชายด้วย
“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากเลยค่ะคุณเดช น้องเนมขอบคุณคุณลุงเร็วเข้า” สาวน้อยทำตามอย่างว่าง่าย
“งั้นก็ไปพรุ่งนี้เลยดีมั้ยคะคุณนารถจะได้ไม่เสียเวลา เดี๋ยวเอ้จะกำชับให้ตาจิณดูแลน้องอีกทีค่ะ” ชมจันทร์รีบสรุปเสร็จสรรพโดยไม่ได้หันไปถามลูกกับสามีด้วยซ้ำ
“ได้เลยค่ะคุณเอ้ เฮ้อ! หมดห่วงไปอีกเรื่องแล้วค่ะ แต่นารถฝากคุณเดชกับคุณจิณดูแลใกล้ชิดให้หน่อยนะคะ อย่าให้หนุ่มที่ไหนมาใกล้ได้ ลูกคนนี้เราหวงค่ะ อยากให้เจอคนดีๆ และเหมาะสมและต้องเป็นคนไทยด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณนารถ รับรองตาจิณจัดการให้ได้แน่นอนค่ะ แต่จะพูดไปก็ใจหายนะคะถ้าเกิดได้ฝรั่งเป็นเขยทั้งสามคน เป็นเอ้คงเสียดายแย่ นี่ก็ดีหน่อยตาจิณไม่หอบเมียหัวแดงมาฝาก ยังแอบกลัวอยู่เลยค่ะ ก็เรียนจบแล้วไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง พอโผล่มาคนเดียวเอ้ค่อยโล่งอกค่ะ ตายจริง! ชวนคุยจนเพลิน ตาจิณพาคุณนารถไปนั่งทีสิลูก แล้วรีบกลับมารอต้อนรับแขกนะจ้ะ เดี๋ยวแม่จะเรียกให้ตะวันมาคอยช่วย”
ชายหนุ่มทำตามคำแบบด้วยท่าทีสุภาพ แขกมางานหลายต่อหลายคนจนเขาไม่มีเวลาได้เมียงมองไปหาเลขาสาวสวยของแม่ คืนนี้มาในชุดราตรีผ้าซาตินสีน้ำเงินแขนตุ๊กตาสั้นเหนือเขาเล็กน้อย ตรงเอวมีเข็มขัดผ้าแบบเดียวกันคาดไว้ ด้านหลังเว้าเป็นตัววีเล็กน้อยมีโบว์อันใหญ่ประดับอยู่ ส่วนผมก็ยังเห็นรวบขึ้นไปเปียก้างปลาครึ่งหัวเหมือนครั้งก่อนอยู่ดี
ซึ่งนั่นก็ดูสุภาพเรียบร้อยไม่โอเวอร์เหมือนสาวในงานหลายๆ คน ที่ต่างมากับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ด้วยชุดราตรีสวยหรู ราคาแลงลิบ เว้าหน้าเว้าหลัง สั้นบ้างยาวบ้างให้คอยเป็นอาหารตาให้เขากับผองเพื่อนที่เพิ่งจะกลับมารวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ก็ตอนไล่โทรตามให้มางานเลี้ยงของเขานี่เอง
“โห! จิณดูคนนั้นสิ คนใส่ชุดสีชมพูสั้นๆ บานๆ น่ะ ขาขาวชะมัดเลย เห็นแล้วน่าหม่ำว่ะ”
“คนโน้นเจ๋งกว่า ผ่าหลังจนจะเห็นร่องก้นอยู่แล้ว ฉันจะกระอักเลือดตายก็คราวนี้ล่ะวะ”
“แต่ดูคนโน้นสิใส่สีขาวปิดซะมิดจนจะไม่เห็นอะไรเลยล่ะ สงสัยจะเป็นพวกคุณหนู พ่อแม่คุมไม่ให้ห่าง แบบนี้คงจะหาทางแอ้มยากหน่อยนะแก ขืนเผลอลืมตัวได้แต่งโดยไม่ตั้งใจแหงๆ”
บรรดาผองเพื่อนของเขาต่างนั่งมอง นั่งวิจารณ์จนน้ำลายหกไปตามๆ กัน ส่วนเขาก็หันซ้ายแลขวาไปตามทิศทางของสายตาอย่างไม่เกี่ยงงอน แต่ไม่ยักกะมีใครชี้ไปหายัยถั่วงอกเลยแฮะ ก็ใครจะมีเวลาได้เห็นแม่คุณกันนักหนา มัวแต่เดินไปโน่นมานี่อยู่ไม่หยุด แถมพอตกดึกก็มีพ่อนักเรียนนอกคอยตามแจ ยังกับอยากจะประกาศให้คนรู้ทั่วงานว่า ‘ข้าจอง’ ด้วยแล้ว ใครจะไปกล้า
“จิณ! ตกลงแม่แกจัดงานนี้ขึ้นเพื่อต้อนรับแก หรือจัดมาเพื่อให้แกดูตัวเจ้าสาวในอนาคตกันแน่วะ”
สารวัตรทรงกรดเพื่อนผู้ตรงฉินเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ แต่จะว่าไปมันก็น่าคิดไม่น้อย เพราะงานนี้สาวๆ มาเยอะเป็นพิเศษ เรียกว่าแขกแต่ละบ้านก้าวลงจากรถก็มักจะมีลูกสาวติดมาด้วย อายุอานามก็ตั้งแต่สิบหกถึงสี่สิบ ไม่รู้ว่าโสดสนิทหรือมีหลบๆ ซ่อนๆ ไว้อันนี้เขาก็ไม่ใคร่จะสนใจนัก ส่วนเรื่องความสดเขาเลิกหวังแล้ว ความบริสุทธิ์คงจะหาได้จากเด็กแรกเกิดกระมังสมัยนี้
“ไม่ดีหรือไงล่ะท่านสารวัตร จะได้อาศัยบารมีเพื่อนหาเมียไปด้วยเลยไง แกก็อย่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยนะจิณ เลยเลขสามเข้าไปแล้วขืนชักช้าสเปิมฝ่อฉันไม่รู้ด้วยนะ”
แสงพลเอ่ยแซวด้วยใบหน้าระรื่น สายตาก็สอดส่องเมียงมองไปยังสาวๆ ในงาน ต่างสวยๆ ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะกลุ่มว่าที่นางแบบเพื่อนๆ ของจิรนันท์ล้วนแล้วแต่หุ่นดีๆ ทั้งนั้น
“โอเคๆ เดี๋ยวจัดให้ไม่นานเกินรอ แต่ตอนนี้ขอคัดสรรก่อนก็แล้วกันนะ”
เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ เพราะถึงเวลาจะต้องมองหาใครสักคนมาไว้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน สร้างครอบครัวด้วยกันแล้ว หลังจากใช้ชีวิตวัยหนุ่มอย่างคุ้มค่าและสุดเหวี่ยงมาแล้ว แต่ใครจะเตะตาต้องใจนั้นเขาเองก็วาดภาพไม่ออก และบอกไม่ถูกว่าอยากได้คนแบบไหน หรือจะมีใครตรงใจบ้าง เพราะรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้กำหนดไม่ได้ จะมาจะไปมันไม่บอกไม่กล่าวเลย
แต่เขาคงจะบอกได้คำเดียวว่าผู้หญิงคนนั้นไม่น่าจะเป็นยัยถั่วงอก ผู้กำลังวุ่นอยู่กับการจัดการอะไรต่อมิอะไรกับคนในบ้านอย่างแน่นอน และไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนมีเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา เห็นวุ่นอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เช้าแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นนั่งนิ่งๆ เหมือนคนอื่นเลย เอาแต่จดนั่นจดนี่ บอกคนนั้นบอกคนนี้ไม่หยุดหย่อน เจ้านนนทีนั่นเขาก็ไม่เข้าใจว่าจะตามเจ้าหล่อนไปแทบจะทุกฝีก้าวทำไมกันนักหนา
“เอารถเข้ามาได้ค่ะ แต่อย่าเปิดไฟนะคะ พอได้เวลาตะวันจะโทรบอกให้ขับมาจอดหน้าซุ้มเลยค่ะ”
และคนที่กำลังถูกใครบางคนนินทาอยู่ในใจนั้นก็กำลังยุ่งกับการเตรียมเซอร์ไพร้ส์ด้วยรถคันโตให้เจ้าของงาน ตามคำสั่งของเจ้านายอยู่ ทั้งที่ใจนั้นอยากจะให้งานรีบๆ จบสิ้นลงโดยเร็ว เพราะเหนื่อยล้าอ่อนแรงเต็มที ส้นสูงที่ใส่มาเมื่อชั่วโมงแรกก็ถูกสลัดทิ้งมาเป็นโมโนโบ้คิมเบอร์รีเรียบร้อยแล้ว
ผ่อนกับเด็กในบ้านไม่เว้นแม้แต่เด็กเสิร์ฟมูลนิธิ ‘เลิศวิริยะ’ ที่ถือเป็นศูนย์กลางแรงงานเวลาจัดเลี้ยงของคนในมูลนิธิจะต้องเรียกใช้ประจำเป็นการช่วยสร้างงานอีกทางหนึ่งก็ต่างเหนื่อยไม่แพ้กัน เพราะแขกในงานเกือบสามร้อยคนเลยทีเดียว เพราะต่างก็วิ่งวุ่นมาแต่ตอนบ่าย



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2557, 15:02:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ม.ค. 2557, 15:02:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1078





<< คุณชายเนี๊ยบจอมหลี   เงินกับชื่อเสียง >>
ปลาวาฬสีน้ำเงิน 13 ม.ค. 2557, 22:25:35 น.
555 ตะวัน She is wonder woman


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account