ร้อยดาวตะวันเดียว
“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอคุณไปเอง และถ้าคุณอยากรู้ว่าฉันทำอะไรมาล่ะก็ กรุณาไปถามน้องคุณเอาเอง ถ้ารู้ไม่จริงอย่าเที่ยวมาดูถูกฉัน อย่าให้ฉันหมดศัทธาคนอย่างพวกคุณให้เร็วกว่านี้เลย มันจะทำให้ฉันไม่อยากเดินเฉียดเข้าไปใกล้อีก ขอบคุณเผยธาตุแท้ผู้ดีจอมปลอมมาให้ฉันเห็นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ออกไปซะ!!! ออกไปให้พ้นๆ หน้าฉัน”
จิณณวัตรคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคนี้หลุดออกจากปากนุ่มที่เขาเคยหลงใหลได้ปลื้มจนเผลอจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงก้าวเข้าไปมองคนตรงหน้าใกล้ๆ มองให้แน่ใจว่านี่เป็นผู้หญิงคนเดียวกับคนที่หัวใจเขาพร่ำหาแทบจะทุกวินาที
“ผมไปแน่! แต่ก่อนไปคุณต้องชดใช้ความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีให้คุณก่อน ถึงมันจะไม่คู่ควรกับความเจ็บที่ผมกำลังได้รับ แต่อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่เป็นไอ้งั่งในสายตาใคร ที่เป็นมดแดงเฝ้าพวงมะม่วง รอให้ไอ้ทีมาโฉบเอาไปกินก่อน”
อาทิตยาก้าวถอยหลังไปจนชนกับผนังห้อง เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางโกรธจัดของเขา แล้วสองไหล่ก็ถูกสองอุ้งมือเขาจับไว้แล้วบีบแรงๆ จนเจ็บ แต่ก็ยังจ้องมองดวงตาคู่ดุดันของเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“และผมก็หวังว่ามันคงจะหลงเหลืออะไรดีๆ ให้ผมกินบ้างนะ หรือจะมีแค่ซากเท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือ เละกว่านี้โทรมกว่านี้ผมก็เคยลองมาแล้ว และไม่เคยออมมือด้วยจนพวกนั้นติดอกติดใจเรียกหาผมอีกหลายต่อหลายรอบ แล้วคุณล่ะจะเป็นอย่างนั้นมั้ย จะลืมไอ้ทีแล้วหันมาเรียกใช้ผมแทนมั้ย เดี๋ยวเราจะได้รู้กัน”
เผียะ
“หยาบคาย!!! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!!”
อาทิตยาปัดมือเขาออกจากไหล่แล้วฟาดซ้ำรอยเดิมอีก แล้วใช้สองมือผลักอกเขาจนเซออกไปหลายก้าว และนั่นเป็นโอกาสให้รีบวิ่งไปหาประตู เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ายังไม่หาทางเอาตัวรอด

Tags: รักหวานๆ เศร้า นางเอกเก่ง ฉลาด

ตอน: เงินกับชื่อเสียง

กระทั่งเที่ยงคืนบรรดาเพื่อนสนิทของหนุ่มเจ้าของงานและเป็นแขกโต๊ะสุดท้ายถึงได้แยกย้ายกันกลับ ทว่าอาทิตยาก็ไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้นถ้าทุกอย่างไม่เรียบร้อย แม้บรรดาลูกท่านหลานเธอจะได้ไปหลับปุ๋ยแล้ว แต่ตัวเองยังต้องคอยช่วยดูทุกซอกทุกมุมก่อน ตีสองจึงเป็นเวลาเคลียร์ทุกอย่างจนเกลี้ยงสนาม
“ขอบคุณนะจ้ะหนุ่มๆ สาวๆ อุตส่าห์อยู่ช่วยพี่เคลียร์จนหมดทุกอย่าง ไว้เจอกันงานหน้านะจ้ะ”
“ครับ/ค่ะ พี่ตะวัน” เด็กๆ ในรถตู้ร่างรับคำพร้อมกัน แม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังยิ้มให้เลขาสาวที่พวกเขาคุ้นเคย หลังได้รับค่าจ้างอย่างคุ้มค่าเหนื่อยแถมด้วยอาหารเหลือจากงานเอาไปฝากคนที่บ้านอีกต่างหาก
“พี่เล็กคะ ตะวันฝากส่งสาวๆ ให้ถึงประตูบ้านและรอจนกว่าจะเข้าข้างในทุกคนนะคะ ดึกแล้วคุณผู้หญิงเป็นห่วง” แล้วไม่วายเดินอ้อมไปกำชับคนขับอย่างรอบคอบเหมือนทุกครั้งที่ทำมา แถมยังยืนรอกระทั่งรถแล่นออกไปถึงประตูรั้ว ร่างอ่อนแรงถึงได้เดินไปนั่งพักเอาหลังพิงเสาโรมันตรงบันไดหน้าบ้านอย่างหมดสภาพ เพื่อเรียกแรกเฮือกสุดท้ายพาตัวเองเดินไปหารถแล้วขับกลับบ้าน
“อึมห์!!! เอามาให้ กลัวจะเป็นลมไปก่อนขี้เกียจแบกไปส่งบ้าน”
รังนกแช่เย็นหลายขวดนอนกลิ้งอยู่ในชามกระเบื้องเคลือบเนื้อดีเมื่อเจ้าของงานหนุ่มหล่อมีน้ำใจถือมายื่นให้ตรงหน้าเลขาแม่ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆ อย่างไม่เกี่ยงงอนว่าพื้นจะสะอาดหรือสกปรก เพราะเขาก็เหนื่อยไม่แพ้กัน สายตาคมมองไปยังเจ้าของร่างไร้เรี่ยวแรงอย่างเข้าอดเข้าใจ ชุดสวยตอนใส่ในงานก็กลายเป็นกางเกงยีนส์เสื้อยืดที่เขาคุ้นตามาตั้งแต่แขกทยอยแล้ว
“อะ! เปิดให้ด้วยก็ได้ สงสัยจะแบตหมดจริงๆ ด้วย ถึงได้หมดสภาพขนาดนี้”
เจ้าของร่างสูงในชุดกางเกงสแลคสีดำเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนไปถึงข้อศอกนั่งขัดสมาธิอยู่ลงทุนเอาใจอย่างไม่เคยทำมาก่อนเพราะความสงสาร และแม้อยากจะปฏิเสธสักแค่ไหน แต่มือขาวก็คว้ารับขวดมาเปิดยกดื่มอย่างเหนื่อยอ่อน คนเอามาให้เองก็เปิดดื่มด้วยความเหนื่อยไม่แพ้กัน แถมยังต้องเปิดส่งให้เจ้าหล่อนถึงสามขวดด้วย
“เฮ้อ!!! ค่อยดีขึ้นหน่อย ขอบคุณนะคะ” บำรุงร่างกายแล้วถึงยิ้มออกมาได้หน่อย แต่ยังคงนั่งหลังพิงเสาในท่าเดิมนั่นเอง ทำเอาคนตรงหน้ายิ้มน้อยๆ ออกมา ก่อนจะส่งประโยคยียวนกวนประสาทไปหาตามสไตล์ของคุณชายจอมเนี๊ยบ
“กลัวถูกทวงบุญคุณทีหลัง ว่าจัดงานให้ผมจนทำให้คุณเหนื่อยแทบแย่น่ะ งั้นเราหายกันแล้วนะ” เลขาสาวหันมาปรายตาใส่ด้วยท่าทีเคืองน้อยๆ ที่ถูกดักทางเอาไว้ก่อน เลยส่งประโยคยียวนสวนกลับบ้าง
“เตรียมงานเป็นอาทิตย์ จะให้หายกันกับอีแค่รังนกสามขวดที่ฉันเป็นคนซื้อมาเองนี่น่ะนะ ลงทุนน่าดูเลย”
“แหม! ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มียาชูกำลังเป็นหนุ่มนักเรียนนอกมาคอยตามต้อยๆๆ ตั้งแต่บ่ายๆ ก็นับว่าคุ้มหรอกน่า ว่าแต่คุณชอบแบบนั้นเหรอ อย่างคุณผมคิดว่าจะอยากได้แฟนอายุมากกว่านั้นหน่อย ประสบการณ์เยอะกว่านั้นหน่อยมากกว่านะ พวกผู้หญิงที่ชอบมีแฟนรุ่นราวคราวเดียวกันหรือว่ารุ่นน้องกว่าน่ะ มักจะไปไม่รอดหรอกนะผมเห็นมาแยะละ” เขาอดแหย่ไม่ได้จริงๆ เมื่อภาพเจ้าหนุ่มนั่นเดินต้อนหญิงสาวไปมารอบงาน
“ขอบคุณที่หวังดี” ความหมั่นไส้บวกกับความเหนื่อยอ่อนก็เรียกร้องให้อาทิตยาอยากจะกลับมากกว่านั่งต่อปากต่อคำกับเขา จึงลุกขึ้นลากกระเป๋าสะพายที่นอนแอ้งแม้งอยู่พื้นไปคาดไว้บนบ่า ทำเอาคนนั่งอยู่มองอย่างสงสัย
“แล้วคุณจะไปไหนล่ะนั่น”
“อ้าว! ฉันก็จะกลับไปพักบ้างสิคะ หรือคิดว่ารังนกสามขวดนี่จะทำให้ฉันมีพลังเพิ่มขึ้นมาทำงานอีก จนไม่ต้องหลับต้องนอนเลย”
ร่างผอมบางไม่คิดจะรอฟังคำเย้าแหย่กลับจากเขาแม้แต่น้อย เพราะเหนื่อยและไม่อยากอยู่ใกล้เขาให้มากว่านี้ ด้วยยังมีความขุ่นเคืองจากวีระกรรมเด็ดๆ ในอดีตของเขามากมายก่ายกองสุมอยู่ในหัวอีก
“คุณไม่ขึ้นไปนอนข้างบนล่ะ ดึกป่านนี้จะกลับทำไมมีแรงขับรถเหรอ ให้ผมไปส่งมั้ยล่ะ” แม้อยากจะทำอย่างนั้นใจจะขาดแต่ก็เลือกจะบึ่งรถกลับก็พรุ่งนี้เป็นวันหยุดจึงอยากจะนอนให้หนำใจไม่ให้ใครมาก่อกวนได้
“ไม่ล่ะค่ะกลับไปนอนบ้านฉันดีกว่า” และด้วยความรีบและกลัวเขาจะเอาจริงที่บอกว่าจะขับรถไปส่ง ทีให้ต้องเรียกเรี่ยวแรงในตัวออกมาก้าวลงบันไดแค่ไม่กี่ขั้นอย่างเร็วรี่
“อุ๊ย!!!” แต่ขาก็อ่อนแรงลงตรงขั้นสุดท้าย พลอยทำให้กายอ่อนแรงลงไปด้วยจนเกือบจะล้มลงหากไม่มีสองวงแขนแข็งแรงกับอกอันบึกบึนกระโจนเข้าไปรับไว้
“ผมบอกแล้วว่าให้ขึ้นไปนอนข้างบน คุณแทบจะเดินไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ นี่ถ้าผมรับไม่ทันคุณไม่ล้มคว่ำไปอยู่กับพื้นแล้วเหรอ อย่างนี้เราพอจะหายกันได้หรือยัง”
น้ำเสียงนุ่มๆ กับใบหน้าหล่อๆ ยิ้มน้อยๆ และอยู่ห่างไม่ถึงคืบ แถมมีกลิ่นเหงื่อกับกลิ่นน้ำหอมบางๆ จากกายเขาบวกกับความอบอุ่นในกายช่วยผลักดันให้ร่างอ่อนแรงเมื่อครู่รีบผละออกจากการกอดรัดของเขาแทบจะทันที
“ไม่เป็นไรฉันเคยเหนื่อยมากกว่านี้มาแล้ว และฉันไม่ได้ถือเป็นบุญคุณอะไรจากงานนี้ เพราะนี่คือหน้าที่ลูกจ้างอย่างฉันที่ต้องทำตามคำสั่งเจ้านายอยู่แล้ว”
จิณณวัตรจ้องมองร่างเล็กๆ ที่ดูจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมากว่าเมื่อครู่เดินตรงไปหารถแล้วควบออกจากบ้านไปอย่างคล่องแคล่ว ยิ่งคิดถึงใบหน้าซีดผิดแล้วเปลี่ยนเป็นแดงปลั่งเมื่อครู่ ก็ได้แต่ยิ้มตามด้วยความขำนิดๆ ปนหมั่นไส้หน่อยๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ที่ตัวเองอุตส่าห์ยอมเหนื่อยหาของบำรุงให้เพราะความห่วง และซาบซึ้งใจที่เป็นแม่งานให้จนเสร็จ ดันได้คำประชดมาแทนซะนี่ อย่างนี้ต้องปล่อยให้เหนื่อยซะให้เข็ด


“แม่ดีใจนะที่จิณชอบของขวัญ สงสัยต้องตบรางวัลยัยตะวันอย่างงามแล้วล่ะ เก่งจังเดาใจลูกชายแม่ถูก”
ชมจันทร์เอ่ยระหว่างนั่งกินมื้อเย็นในวันถัดมา จิณณวัตรยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินคำชมเลขาคนเก่งเป็นวรรคเป็นเวร เลยทำให้กลัวตัวเองจะบาปไปด้วยที่บังอาจปิดแม่ แต่จะทำยังไงได้ ก็ในเมื่อเจ้าหล่อนมีเหตุผลเพียงพอต่อการทำแบบนี้นี่นา
“แล้วคุณแม่ไม่คิดจะซื้อคันใหม่ให้แอ๊ฟบ้างเหรอคะ คันเก่าขับมาตั้งหลายปีแล้วอยากเปลี่ยนใหม่บ้าง”
จิรนันท์รีบชงให้ตัวเองทันที จนได้สายแต่เหน็บแนมของคนในบ้านส่งมาหา โดยเฉพาะน้องขายคนกลางที่ล่ำๆ กับแม่มาหลายหนว่าอยากจะเปลี่ยนรถเหมือนกัน ผิดกับจิรฐาผู้ไม่ใคร่จะสนใจกับของพวกนี้ เพราะมีคนรถคอยรับส่งพาไปไหนมาไหนสบายกว่ากันเยอะแล้ว
“ถ้าอยากได้ก็ต้องชนะการประกวดซุปเปอร์โมเดลปีนี้ให้แม่ชื่นใจก่อนสิจ้ะ” ส่วนแม่นั้นการจะให้อะไรกับลูกต้องมีของแลกเปลี่ยนเสมอ โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องการได้หน้า หรือนำหน้าใครแล้วยิ่งดี
“โอย! คุณแม่อะ ชอบตั้งแง่อยู่เรื่อย แอ๊ฟบอกแล้วไงว่าไม่ชอบประกวด หรือแข่งอะไรกับใคร ทำไมไม่ฝากๆ แอ๊ฟกับคุณไก่ คุณต้อ หรือคุณดีไซด์เนอร์ชั้นนำทั้งหลายล่ะคะ ได้งานง่ายกว่าด้วย” ลูกสาวกลับโอดครวญ
“เรื่องฝากก็อีกเรื่อง แต่ถ้าเราประกวดชนะ คนจะไม่มาว่าได้เพราะมีตำแหน่งเอาไว้เป็นประกัน หรือแอ๊ฟอยากให้คนนินทาว่าเราเอาเปรียบคนอื่นล่ะ”
“ช่างประไรล่ะคะ ถ้าเกิดแอ๊ฟประกวดแล้วแพ้ล่ะ ขายขี้หน้าคนทั้งเมืองไม่เอาหรอก” จิรเดชพยักหน้ารับเพราะเห็นด้วย แต่ชมจันทร์กลับยิ้มร่าออกมาประหนึ่งว่ามั่นใจสุดชีวิตถ้าลูกยอมลงประกวด
“แม่เอาหัวเป็นประกันว่าแอ๊ฟจะไม่แพ้ใคร ขออย่างเดียวให้ยอมลงประกวดก็พอ ไม่งั้นแม่จะยกเลิกเงินบริจาคงานแฟชั่นโชว์เดือนนี้ และบอกเลิกงานถ่ายปกคู่กับแอ๊ฟอาทิตย์หน้านะ” เมื่อลูกไม่ยอมผู้แม่ก็ต้องออกโรงขู่น้อยๆ บ้าง ทำเอาคนในบ้านต่างหัวเราะออกมาด้วยความขำ เมื่อจิรนันท์ทำหน้าบอกบุญไม่รับให้เห็น
“แค่นี้ก็ต้องขู่ด้วย”
นี่ถือเป็นการยอมรับข้อเสนอกรายๆ ที่ชมจันทร์ชาชินมานานนมแล้ว จึงไม่ได้ยกเอาเรื่องนี้มาพูดคุยกับคนในครอบครัวอีก ทว่าวันถัดมาเลขาสาวกลับต้องนั่งฟังเจ้านายเพ้อฝันกับวิมานแคตวอล์คจนแทบจะจำได้ขึ้นใจว่าจะต้องจัดเตรียมอะไรให้คุณหนูแอ๊ฟบ้าง ในวันเดินแฟชั่นโชว์การกุศลของคนมีอันจะกิน ที่ต่างสั่งจ่ายเช็คตัวเลขงามๆ แข่งขันกัน เพื่อให้ลูกได้ขึ้นไปยืนผงาดบนเวที
“อย่าไปไหนไกลนะตะวัน รออยู่แถวนี้เผื่อคุณแอ๊ฟจะเรียกหา เดี๋ยวฉันจะไปทำผมก่อน”
งานเป็นพี่เลี้ยงให้นางแบบการกุศลเริ่มคุกคามมาหลายวันแล้ว แม้ทีมจัดงานจะไม่ยอมให้คนนอกเข้ามายุ่งมากแค่ไหน แต่ชมจันทร์ก็ยังสั่งแล้วสั่งอีกจนผู้เป็นเลขาเกิดอาการเอือมนิดๆ เพราะอีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาเดินแบบอยู่แล้ว ยังต้องให้เฝ้าคุณหนูแอ๊ฟไม่ให้ห่างระยะสิบเมตรอีก
“ตาจิณ! มาได้เวลาพอดีเลยลูก ช่วยอยู่ดูแลความเรียบร้อยให้ที แม่กับคุณหญิงจะออกไปทำสวยสักหน่อย แล้วเจอกันนะจ้ะ”
จิณณวัตรเข้ามาในห้องเลยพลอยถูกแม่ลากมายืนดูบรรดานางแบบทั้งหลาย ซ้อมเดินกรีดกรายรอบสุดท้ายก่อนงานเริ่มอีกคน เขาหันไปมองเลขาแม่ในชุดกางเกงยีนส์ยีห้อดังสีเข้มเสื้อเชิ้ตแขนสั้นพอดีตัวสีชมพูมีเสื้อไหมพรมแขนยาวสีดำใส่ทับไว้ บนบ่าสะพายกระเป๋าใบใหญ่ ผมยาวสลวยก็รวบขึ้นไปมัดเป็นจุกไว้กลางหลังแล้วอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ ไม่รู้ทำไม
แต่เสียงหัวเราะบนเวทีเรียกให้เขาหันไปมองจนเห็นนางแบบมืออาชีพที่มาเป็นพี่เลี้ยงเทรนการเดินให้สาวๆ รวมทั้งน้องเขาด้วย สาวเจ้าสูงไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยแปดสิบ กางเกงยีนส์แทบจะเหมือนกับเลขาแม่ แต่เสื้อกล้ามตัวเล็กจิ๋มสั้นเต่อจนเห็นหน้าท้องแบนราบเรียบ เอวคอดกิ่ว บั้นท้ายแกว่งไปมาตามแรงเดิน แถมหุ่นอรชรน่าหม่ำกว่ายัยถั่งงอกเยอะ
“น้องแอ๊ฟเดินได้แทบจะเหมือนนางแบบมืออาชีพเลยนะคะคุณจิณ สงสัยรุ่นพี่อย่างพวกริซ่าต้องตกงานกันเป็นแถวๆ แน่เลยค่ะ” มาริสารีบหันไปเอื้อนเอ่ยกับหนุ่มหล่อพ่อรวยโสดสนิทมาดดี ดีกรีนักเรียนนอกแทบจะทันทีที่รับรู้ว่าเขามายืนอยู่ไม่ห่าง แม้จะรู้จักกันจากการแนะนำอย่างผิวเผินเมื่อวันเริ่มมาเป็นเทรนเนอร์ให้เท่านั้น แต่สาวเจ้าก็รีบตีสนิทได้อย่างไม่ยากเย็น
“ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ ยัยแอ๊ฟได้ยินคงจะปลื้มตายเลย เห็นวันๆ ก็ฝันแต่อยากจะเป็นนางแบบตลอดเวลา”
ส่วนเขาก็ไม่เกี่ยงจะเปิดบทสนทนา สายตาก็มองตามสะดือสวยๆ เอวคอดๆ โผล่พ้นขอบกางเกงออกมาเย้ายวนใจไม่น้อย คิดไม่ผิดที่รีบมาดูน้องซ้อมตามคำขออีกครั้ง เลยมีวิวดีๆ ให้มองอย่างไม่อดอยากปากแห้ง แถมวิวก็เหมือนอยากจะให้เขามองอย่างเปิดเผยด้วย ก็แล้วมันเรื่องอะไร ชายหนุ่มที่อยู่ในช่วงสรรหาแม่พันธุ์อย่างเขาจะไม่รีบตักตวงล่ะ เพื่อนรู้คงจะด่าเช็ดเป็นแน่แท้ที่แอบซุ่มกินอยู่คนเดียว
‘น้ำลายยืดเชียวนะคุณชายเนี๊ยบ’
เลขาสาวอดเหน็บในใจไม่ได้ขณะยืนอยู่ไม่ห่าง แต่ดูเหมือนจะเป็นธาตุอากาศสำหรับสองหนุ่มสาวเลยก็ว่าได้ เลยคว้ากระเป๋าสะพายเดินหนีไปหารถเอาชุดไปผลัดเปลี่ยนในห้องน้ำ พร้อมกับแต่งหน้าทำผมเอง ด้วยเวลาจะไปร้านทำสวยเหมือนเจ้านายนั้นไม่มีเอาเสียเลย ถึงมีก็ไม่คิดจะไป จะแต่งสวยสักแค่ไหน ก็สู้บรรดานางแบบหุ่นดีๆ ในงานไม่ได้ จึงแต่งไม่ให้ตัวเองดูด้อยกว่าคนอื่นมากแค่นั้นก็พอ
“ตะวันมาพอดีเลย จะได้ช่วยพี่อันเชิญบรรดาแม่ๆ ของนางแบบกิติมศักดิ์ออกไปจากหลังเวทีหน่อย พี่เหนื่อยจะแย่แล้ว”
พยอมส่งน้ำเสียงและสีหน้าว่ากลุ้มใจมาหาแทบจะทันที เมื่อร่างบางในชุดราตรีสั้น แขนกุด สีฟ้า คอวี จับจีบผ้าโปร่งสวย แต่งโบว์ที่เอวเดินออกจากห้องน้ำ จึงจำต้องไปช่วยตามคำขอ เสร็จจากหน้าที่นี้ก็ต่อไปอีกหน้าที่ และอีกหน้าที่ไปเรื่อยๆ เลยต้องวุ่นอยู่หลังเวที จนไม่มีโอกาสได้ออกมาดูหน้าเวทีเลยกระทั่งทุกอย่างจบสิ้นลง
“เอ้ขอพายัยแอ๊ฟกลับไปพักก่อนนะคะ บ่นว่าปวดหัวตั้งแต่ยังไม่เดินเลยค่ะ นี่ก็อยู่ทนจนงานเสร็จเพราะความมีสปรีริตแท้ๆ นะคะคุณหญิง อีกอย่างมะรืนคุณโจ้จะยกทีมงานไปสัมภาษณ์ที่บ้านด้วยค่ะ คงต้องตระเตรียมอะไรกันอีกยกใหญ่ เดี๋ยวเอ้จะทิ้งตะวันไว้ช่วยงานนะคะ จะให้ทำอะไรช่วยอันไหนก็ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”
แต่คุณหญิงเพลินพิศกลับเกรงใจและรู้สึกไม่ดีเลยสักนิดหากจะใช้งานอาทิตยา เพราะเห็นอยู่แล้วว่าเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย แม้เจ้าตัวจะไม่ปริปากบ่น ก็เดาออกได้ทางสีหน้าและท่าทางการเดิน ตัวเองก็ใช่ว่าจะเหนื่อยน้อยจึงเดินไปหาเก้าอี้ใกล้ตัวเพื่อนั่งเอาแรงก่อน
“คุณหญิงป้าทานน้ำส้มคั้นเย็นๆ ก่อนนะครับผมให้เด็กยกมาแล้ว และเอามาเผื่อทุกคนด้วยนะครับ”
นนนทีเข้ามาได้จังหวะ เพราะคนเป็นป้ารีบคว้าแก้วมาดื่มทันที จากนั้นเขาก็ถือสองแก้วไปยื่นให้อาทิตยากับพยอมอย่างคนมีน้ำใจ แถมยังช่วยงานสองสาวอย่างไม่เกี่ยงงอนอีก เลยไม่เห็นสายตาผู้แม่ที่เดินตามหลังลูกชายมาดูพี่สาวหมดสภาพเพราะงานช่วยคนจนแท้ๆ
ความเป็นคนรอบคอบและใจเย็นทำให้พรเพ็ญไม่กตะโตกกระตากใดๆ ออกมา แม้จะไม่ชอบใจเอามากๆ ที่เห็นภาพลูกชายคนแก้วหัวแหวนเข้าไปประจ๋อประแจ๋กับผู้หญิงโนเนมเช่นนั้น ทว่าคุณหญิงเพลินพิศกลับรู้ได้โดยไม่ยากเย็นนักแค่เพียงได้เห็นความหมายของสายตาน้องสาว
“คืนนี้ดึกหน่อยนะทุกคน ต่างคนต่างเหนื่อยมาหลายวัน แต่เห็นเม็ดเงินแล้วฉันก็ทีใจ” คุณหญิงเอ่ยด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ หลังทุกอย่างเสร็จสรรพด้วยมือของเลขาสองวัยเสียส่วนใหญ่
“ขอบใจมากนะจ้ะตะวันช่วนงานจนเสร็จเลย วันนี้เหนื่อยจริงๆ แต่พรุ่งนี้คงจะได้พักแล้วล่ะนะ”
แน่นอนว่าอาทิตยาไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้นไปได้ เพราะเจ้านายสั่งให้เตรียมตกแต่งบ้านอย่างสวยหรู เพื่อการถ่ายปกนิติยสารและให้สัมภาษณ์ออกมาดูดีที่สุด อย่างเก่งก็ได้ตื่นสายหน่อย ไปทำงานช้ากว่าปกติสักชั่วโมงแค่นั้น ผิดจากคนในมูลนิธิฯ ของคนหญิงที่ได้หยุดไปเลยหนึ่งวันเต็มๆ



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ม.ค. 2557, 21:04:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ม.ค. 2557, 21:04:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 1081





<< คุณชายเนี๊ยบจอมเรียกร้อง   my first kiss >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account