นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 1

นางร้ายเจ้าน้ำตา

ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง

************************************

Crying Villain ตอนที่ 1

“ถ้าฉันกลับไป พี่จะแต่งงานกับฉันใช่ไหม”

หญิงสาวสวยหวานถามคนรักหนุ่มที่คบหากันมาสี่ปี ตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเรียนจบ มองเขาอย่างหาคำตอบ แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่าความรักจะมั่นคง แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ เพราะต้องห่างกันหนึ่งปี ถึงเธอจะรู้ว่าช่วงที่คบกัน เขาแอบมีผู้หญิงอื่นอยู่บ้าง แต่นั่นเธอก็โทษเขาไม่ได้ เพราะเธอกับเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางกาย และเชื่อว่าความสัมพันธ์ทางใจแน่นแฟ้นจนเขารอช่วงเวลาที่จะได้อยู่ร่วมกัน

“คิดมากอะไรอีกล่ะ” โชติลูบผมเธอออย่างเอ็นดู ไม่ตอบอะไรมาก เขามีแผนของเขาอยู่แล้ว และเพราะเขามีธุระ เขาจึงเดินทางตามเธอมาที่อังกฤษ ไม่ได้ตั้งใจมาส่งคนรักอย่างที่เธอเข้าใจ

“เปล่าสักหน่อย ก็นะ ห่างกันตั้งปี กลัวพี่จะปันใจให้สาวอื่นน่ะสิ” มินตราพูดแล้วก็หัวเราะอย่างไม่จริงจังนัก

“เดี๋ยวพี่มานะ” โชติหาทางเลี่ยงเธอเมื่อมีโอกาสทันที

มินตราเหม่อมองออกไปนอกร้าน ไม่คิดว่าตนเองจะได้มีโอกาสมา ศึกษาการออกแบบอัญมณีจากทุนของครอบครัวเขาเป็นเวลาหนึ่งปี ยังไงเธอก็จะกลับไปทำงานกับเขา จึงไม่กังวลอะไรมากนัก แม้ในสัญญาจะระบุว่า ถ้าเธอไม่กลับไปทำงานใช้ทุนจะต้องถูกปรับเป็นเงินสองล้านบาท

สายตาเขามองผู้หญิงที่นั่งอยู่ในร้าน สายตาชวนฝันของหล่อนทำให้เขาจับตามองอย่างสนใจ แสงแดดอ่อนๆ กลางกรุงลอนดอน และบรรยากาศดีๆ ทำให้เขาเผยมองเธออยู่นาน สักพักก็ตัดสินใจจะเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับสาวชาวไทยคนนี้

พอเขาเปิดประตูเข้าไป เธอหันหลังอยู่ เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วชะงัก เพราะผู้ชายที่เดินผ่านเขาแล้วไปนั่งตรงข้ามเธอ หนุ่มชาวไทยที่เขารู้จักดี

“อ้าว คิลเลี่ยน นายมาพอดีเลย ไปคุยกันข้างนอกดีกว่าว่ะ” โชติอกแล้วหันไปบอกคนรัก “เดี๋ยวพี่มานะ”

โชติพาคิลเลี่ยนออกไปโดยไม่แนะนำ เมื่อออกมาห่างจากร้าน ก็ทำท่าทีเย็นชาทันที “แกเอาแหวนมาคืนหรือเปล่า”

คิลเลี่ยนหยิบออกมายื่นให้ “นี่ แล้วใจคอจะไม่ทักทายกันสักหน่อยหรือไง”

“แกคิกว่าแกสำคัญนักเหรอไงวะ ก็แค่ลูกเมียน้อยที่พ่อไม่ต้องการ แหวนนี่เป็นสมบัติประจำตระกูล พ่อไม่มีสิทธิเอามาให้แม่แกด้วยซ้ำ จำใส่หัวของแกไว้ แกมันก็แค่เลือดที่ไม่จำเป็นต้องมีอยู่ แค่นี้แหละ” โชติเอาแหวนใส่กระเป๋าแล้วเดินหนี

คิลเลี่ยนกระชากคอเสื้อแล้วจับหัวโชติกกระแทกเข้ากับต้นไม้สองสามครั้ง ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “มึงจำใส่หัวมึงไว้ด้วยว่า พ่อมึงไม่ได้สำคัญกับกู และไอ้ลูกแหง่ติดแม่อย่างมึงก็ไม่มีความสำคัญอะไรกับกู”

โชติมึนหนักแล้วคิลเลี่ยนก็สะบัดโชติจนนอนทรุดลงไปกับพื้น จากนั้นเขาก็เดินหายไป

โชติมึนหนัก ก่อนตั้งสติได้ ก็โกรธมากขึ้น โทรไปหาพ่อ แล้วเล่าความให้ฟัง

“ใครให้แกหาเรื่องมันก่อนล่ะ” สมเจตน์ส่ายหน้าช้าๆ ปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่เพราะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาสั่งสอนให้โชติหาเรื่องน้องต่างแม่ ทำให้เรื่องวุ่นวาย สุดท้ายเฮเลนก็หนีกลับอังกฤษ แล้วก็แต่งงานใหม่กับเพื่อนวัยเด็ก

“นี่พ่อให้ท้ายมันเหรอ” โชติถามซ้ำ

“แล้วแกเห็นฉันทำอย่างนั้นเหรอ เลิกงี่เง่าได้แล้ว รำคาญ” สมเจตน์วางสายทันที แล้วทำงานของเขาต่อ แม้จะเป็นช่วงเย็นของวันแล้วก็ตาม

โชติปรับท่าทีแล้วกลับไปหามินตรา ยิ้มแล้วพาไปเดินเล่น ตกเย็นทานมื้อค่ำแล้วก็พาไปส่งที่ห้องพักเล็กๆ เขาพยายามออดอ้อนขอค้างคืน แต่เธออ้างเพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนิทกันนัก

มินตรามองส่งคนรักแล้วค่อยโล่งใจ ก่อนกลับเข้าห้องพักของตนเอง เธอเช่าห้องนี้จากประกาศในวิทยาลัย และไม่สนิทกับคนเช่าหลักมาก่อน หากห้องนี้ราคาถูกมาก เพื่อที่เธอจะได้มีเงินเหลือพอให้ใช้จ่ายได้ หลังจากส่งเงินไปให้แม่แล้ว

คิลเลี่ยนแอบมองอย่างเงียบๆ นึกแค้นใจที่โชติดูถูกเขา คนรักมันอยู่ไม่ห่างจากสายตาเขา และเขาก็รู้แล้วว่าหล่อนอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้น มันคงไม่ยากหรอก ถ้าเขาจะแก้แค้นเป็นการส่วนตัว

*****************************

หน้ามืด...เวียนหัว...และติดต่อเขาไม่ได้มาสองอาทิตย์

มินตราเป็นงงที่ติดต่อเขาไม่ได้เลยตั้งแต่เขากลับไป เขาไม่โทรหา ไม่รับสายเธอ ทั้งที่เป็นช่วงกลางวัน สุดท้ายโทรไม่ได้ โทรเข้าออฟฟิศเขาก็ไม่อยู่ ที่สำคัญเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เป็นอะไรเหรอ” คิลเลี่ยนถามเป็นภาษาสากล เมื่อเห็นเธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“คุณคือเพื่อนของโชติเหรอคะ” มินตราพอจำเขาได้อยู่บ้าง จากวันนั้น

“เปล่า ผมเป็นญาติเขาน่ะ ขอผมนั่งด้วยได้ไหม” คิลเลี่ยนถามเมื่อเธอพยักหน้าเขาก็นั่งลง “ตกลงมีเรื่องอะไร”

“คือฉันติดต่อโชติไม่ได้ค่ะ คุณได้ติดต่อเขาบ้างไหม” มินตราถามขึ้นอย่างร้อนใจ

“ปกติผมจะไม่ติดต่อเขาหรอก เขาจะเป็นฝ่ายติดต่อผมเอง จริงสิ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ผม คิลเลี่ยน เพียร์ซ” คิลเลี่ยนแนะนำตัว

“ฉัน มินตรา ศรียิ่ง” มินตรายังคงพยายามติดต่อเขา จนคิลเลี่ยนต้องแย่งโทรศัพท์มา เธอได้แต่ตกใจและขอคืน “ขอฉันคืนเถอะ”

“เขาไม่ต้องการติดต่อกับคุณอีกแล้วล่ะ ผมรู้จักเขาดี” คิลเลี่ยนมองเธอร้องไห้ ก็รู้สึกสงสาร แอบมองเธออยู่หลายครั้งแล้ว ยิ่งเห็นว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงร้ายกาจประเภทที่โชติจะชอบได้เลย จึงไม่เข้าใจว่าทำไมโชติถึงคบหากับเธอ

ความรู้สึกตอนนั้นก็กลับเข้ามาหาเขาอีกทันที วินาทีแรกที่เหมือนกับได้สัมผัสแสงแดดของฤดูหนาวที่แสนอบอุ่น หล่อนช่างน่าสงสารที่ถูกทิ้งไว้ในเมืองที่แสนห่างไกลจากสังคมที่เธอเคยอยู่

“ไม่จริง เขาบอกว่าจะแต่งงานกับฉันนี่” มินตราร้องไห้แล้วระบายความในใจอย่างเศร้าสร้อย เรพาะในใจลึกๆ เธอก็รู้ดีว่ามันมีความจริงแอบซ่อนอยู่ในคำพูดของเขา

“ผมเดาว่าคุณโทรหาเขาทุกทาง แต่ไม่เคยได้คุยกับเขาเลย” คิลเลี่ยนถามแล้วเห็นเธอพยักหน้า เขาจึงพูดต่อแม้จะสงสารเธอ “แล้วคุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”

มินตรารู้อยู่ในใจลึกๆ แค่ไม่คิดว่าเขาจะทอดทิ้งเธอ เธอร้องไห้อีกพัก ก่อนสงบใจ มองเขาสั่งเครื่องดื่มอย่างสงบแล้วไม่มีทีท่าว่าจะไปไหน เธอก็พูดกับเขาอย่างซึ้งในน้ำใจ “ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน”

“ผมผ่านมาทางนี้พอดีน่ะ จริงๆ ผมมาธุระแถวนี้ ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณ พอเข้ามาทักก็ไม่คิดว่าคุณจะนั่งร้องไห้” คิลเลี่ยนมองแล้วก็รู้สึกสงสาร แล้วเลียบคียงถามรายละเอียดจากเธอ “ว่าแต่คุณคบเขานานหรือยัง”

“สี่ปี” มินตราตอบสั้นๆ เริ่มเชื่อแล้วว่าถูกทิ้ง เธออาจะรู้อยู่แล้วแต่ไม่ยอมรับความจริง เมื่อเขาพูดย้ำ เธอก็ค่อยมั่นใจแล้วทำใจต่อไป

“เอาเถอะ ถือเสียว่าเวลามันก็แค่ผ่านไป” คิลเลี่ยนหยิบถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างไม่ใส่ใจนัก

“ฉันต้องกลับไปทำงานกับที่บ้านเขาอีก ฉันจะทำยังไงดี” มินตราอยากร้องไห้ให้หนักกว่าเดิม เมื่อคิดถึงจุดนั้น ถ้าไม่ต้องเจอเลยก็คงดี แต่นี่ยังต้องไปเจอกันอีก แถมเขายังเป็นเจ้านายเธอด้วย

“ทำไมล่ะ เขาทิ้งคุณ คุณยังจะกลับไปทำงานกับเขาอีกเหรอ” คิลเลี่ยนกลับไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงนัก และเขาก็ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเธอและโชติเท่าไร

“ใช่ เพราะที่ฉันมาเรียนที่นี่ได้ เพราะบริษัทพ่อเขาส่งมาเรียนออกแบบเครื่องประดับ ไม่งั้นฉันต้องจ่ายค่าปรับสองล้าน ซึ่งฉันไม่มีหรอก ฉันต้องประหยัดแค่ไหน เพื่อส่งเงินกลับบ้านอีก แล้วก็กำลังหางานทำอยู่” มินตราถอนหายใจยาว

“คุณคบกับโชติได้ยังไง ปกติเจ้านั่นมันไม่คบกับคนจนหรอกนะ” คิลเลี่ยนถามอย่างรู้นิสัยโชติ ก่อนมองหน้าตาของมินตรา รู้ว่าความสวยระดับนี้คงลบความจนไปได้ระยะหนึ่ง จึงพูดอย่างเข้าใจ “เฮ้อ คิดว่าเขาคงไปเจอคุณที่การประกวด หรืองานแสดงอะไรสักอย่างสินะ”

“ฉันเข้าประกวดลีลาศของมหาวิทยาลัยน่ะ เขาเจอฉันที่นั่น” มินตราเล่าความตามจริง ออกจะแปลกใจที่เขาเดาได้ง่ายๆ ทั้งที่เหมือนจะไม่สนิทกับอดีตคนรัก แต่ทำไมชายหนุ่มตรงหน้าจึงรู้นิสัยของโชติดีนัก ความคิดสะดุดลงเมื่อเขาสั่งขนมมาที่โต๊ะ แล้วพยักหน้าให้เธอทาน

“แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อไป” คิลเลี่ยนถามเธอที่ตอนนี้ดูจะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

“ก็ต้องตั้งใจเรียนให้จบ ทำงานใช้หนี้ให้เขาห้าปี แล้วก็หาทางไปต่อ” มินตราบอกอย่างไร้ทางเลือก ชีวิตเธอไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก จะทำอะไรก็หาคนช่วยยาก เธอมีครอบครัวเป็นภาระอีก ดังนั้นต้องเดินหน้าทำใจเท่านั้น

“ห้าปี ตกนรกห้าปี กับผู้ชายที่ตั้งใจทิ้งคุณเนี่ยนะ” คิลเลี่ยนมองหล่อนอย่างแปลกใจ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อับจนหนทางแล้วถอนหายใจยาว “ตอนนี้คุณก็ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ใช่เหรอ”

“จะให้ฉันทำยังไง ชีวิตนี้ฉันไม่คิดหรอกนะว่าฉันจะได้เห็นเงินสองล้าน สำหรับคุณอาจจะง่ายแต่ ฉันคงต้องทำงานใช้หนี้พวกเขานั่นแหละ” มินตราพูดอย่างหงุดหงิด เพราะรู้ตัวว่าคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ก้มหน้ายอมรับชะตาชีวิตแล้วทำทุกวันให้ดีที่สุด

“คุณคิดว่าชีวิตผมมันง่ายนักเหรอ คุณไม่รู้หรอกว่านายโชตินั่นมันเห็นผมเป็นตัวอะไร เอาล่ะ ผมจะไม่เล่าเรื่องของผมให้คุณสมเพชหรอกนะ คุณมองหางานทำแล้วเก็บเงินไปพลางๆ แล้วกัน ว่าแต่มองหางานอะไรไว้” คิลเลี่ยนถามขึ้น นึกอยากช่วยแต่เขาก็เพิ่งรู้จักเธอ แม้จะถูกใจแต่มันยากที่จะไว้ใจผู้หญิงที่เคยคบกับโชติมานานอย่างนี้

“ฉันกำลังจะไปคัดตัวนักเต้นประกอบน่ะ ฉันเต้นได้หลายแนว พอทำได้อยู่บ้าง แต่คนที่ให้ฉันเช่าห้อง เขาอยากให้ฉันออกอีกน่ะสิ ฉันจะทำยังไงดี” มินตราถอนหายใจยาว ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตถึงมีแต่ปัญหา รู้ว่ายังไงก็ต้องแก้ แต่ก็ขอทำใจสักนิด ถึงชีวิตจะต้องทำใจมามากแล้วก็ตาม

“เฮ้อ เราเพิ่งรู้จักกัน ผมก็ไม่รู้จะช่วยคุณยังไง” คิลเลี่ยนบอกอย่างไม่แน่ใจนัก

เขาเองก็มีภาระที่ไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับชีวิต หรือเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตใคร อีกทั้งเพิ่งรู้จักกันเกิดเขาเข้าไปช่วยหล่อนมองเขาอย่างระแวง แล้วเขาก็มีแต่เสียหายเท่านั้น

“ไม่เป็นไร ฉันจะลองหาห้องเช่าถูกๆ อีกที เผื่อจะมี” มินตราพูดแล้วนึกขึ้นได้ว่าต้องไปเตรียมตัวเพื่อคัดตัว จึงบอกลาเขา “ฉันขอตัวก่อนนะ ฉันต้องไปเตรียมตัว”

คิลเลี่ยนคว้ามือเธอไว้แล้วจับมาเขียนเบอร์โทรให้ “ถ้ามีอะไรต้องการความช่วยเหลือ หรือหาที่อยู่ไม่ได้จริงๆ โทรหาผม”

สุดท้ายเขาก็ตัดใจไม่ลง ถึงเข้าใจแล้วว่าทำไมโชติต้องรอให้หล่อนมาที่นี่ถึงทิ้งหล่อน ก็หล่อนทำตัวน่าสงสารโดยไม่ต้องพยายาม ยิ่งเห็นสีหน้าเป็นทุกข์ของหล่อน ทำให้เขาตัดใจและแข็งใจกับหล่อนไม่ลงได้เช่นกัน หากผู้หญิงที่มีสเปกอย่างหล่อน เจอท่าทางของหล่อนแล้วคาดว่าไม่มีใครแข็งใจได้แน่

“ขอบคุณค่ะ” มินตรายิ้มให้เขาแล้วกำลังจะหยิบเงินมาจ่ายค่าเครื่องดื่มกับขนม

“ไม่ต้องหรอก ผมเลี้ยง ไปเถอะ” คิลเลี่ยนโบกมือไล่เธอ ก่อนที่เขาจะทำอะไรในแบบที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน

คิลเลี่ยนรู้สึกเหมือนแพ้ทางไปเสียทุกอย่างเมื่อเจอมินตรา...สาวสวยในสเปกเขา

“ขอบคุณอีกครั้ง” มินตรายกมือไหว้แล้วลุกออกไปจากร้าน ก่อนออกจากร้านยังหันมามองเขาเป็นเชิงขอบคุณอีกด้วย สายตาของหล่อนช่างทำให้หัวใจเขาละลาย

คิลเลี่ยนมองตามร่างบางแล้วรู้สึกสงสาร เหยื่ออีกคนของน้องชายต่างแม่ของเขา แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นคนสู้ชีวิตไม่น้อย เพราะพยายามดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่น้ำตาของเธอสิ...ทำให้เขาใจอ่อนทั้งที่ปกติไม่ค่อยใจอ่อนกับน้ำตาผู้หญิงคนไหน

ยกเว้นคนพิเศษๆ เท่านั้น...

*****************************

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องที่เงียบสงบของเขา ขนตาเป็นแผงสีอ่อนของเขาขยับไปมาแล้วพยายามปรับสายตาเพราะเป็นช่วงสายของวันแล้ว เขาคว้ามือถือและกระแทกเสียงใส่ปลายสายโดยไม่สนใจว่าใครโทรมา

“อะไร!!!”

“ขอโทษค่ะ คิลเลี่ยนหรือเปล่าคะ” มินตราถามเสียงค่อยๆ เพราะเสียงที่ขุ่นมัวของเขา เธอรอจนเที่ยงค่อยโทรหา ไม่คิดว่าเขายังหลับอยู่ จึงรู้สึกผิดที่ผิดเวลา

“เออสิ ไม่รู้หรือไงว่าโทรหาใคร” คิลเลี่ยนตอบกลับเป็นภาษาไทย เพราะอีกฝ่ายพูดภาษาไทย อารมณ์ขุ่นมัวทำให้เขาจำไม่ได้ว่าเสียงใคร รู้แต่อยากกลับไปนอนมากกว่า

“ฉันมินต์ มินตรานะคะ คือคุณบอกว่าถ้าฉันหาที่อยู่ไม่ได้จริงๆ ให้โทรหาคุณน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันโทรรบกวนหรือเปล่า” มินตรากะว่าเวลาสายๆ ค่อยโทรหา ตอนนี้นั่งเฝ้าของตัวเองที่ขนออกมาจากห้องพักเดิม เมื่อเจ้าของห้องวีนแตก

คิลเลี่ยนพยายามตั้งสติ มองไปทั่วห้องไม่เห็นผู้หญิงที่มากับเขาเมื่อคืนก็ไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะมองเงินที่วางไว้ให้เขาที่หัวเตียงเขาก็เชิดใส่ แล้วคุยกับมินตราอย่างใจเย็นขึ้น

“อ๋อ โทษที ผมเพิ่งตื่นน่ะ ช่างเถอะ คุณไม่รู้นี่ว่าผมจะนอนจะตื่นกี่โมง ตกลงหาที่อยู่ไม่ได้เหรอ” คิลเลี่ยนเสียงอ่อนลง สงสารแม่สาวตกยากที่ท่าทางไม่มีพิษมีภัยกับใคร ช่วงก่อนเขาก็ไปแอบดูหล่อนอยู่บ่อยๆ ตอนแรกตั้งใจจะแก้แค้นน้องต่างแม่เขา เจอหล่อนนั่งร้องไห้เล่าความทุกข์ ที่คิดร้ายๆ ก็หายไปทันที

“ค่ะ” มินตราทำเสียงอ่อยๆ กำลังนั่งอยู่ข้างถนนแบบอับจนหนทางไปสุดๆ จะไปอยู่กับเพื่อนก็มีแฟนกันหมดและไม่สนิทขนาดนั้น ไม่รู้จะหันไปหาใครก็ลองโทรหาคิลเลี่ยนที่พูดไทยได้แทน

“เขาให้อยู่ถึงวันไหนล่ะ” คิลเลี่ยนถามแล้วเดินไปเทนมแล้วชงกาแฟ

“เขาให้ฉันเก็บของออกมาจากห้องแล้วค่ะ” มินตราบอกเขาแล้วถอนหายใจยาว แต่ไม่กล้าบอกเขาว่ากำลังนั่งอยู่ข้างถนน ที่มีแต่คนมอง เพราะเธอไม่รู้จะไปไหน จึงอยู่ข้างโทรศัพท์สาธารณะแล้วโทรหาเขาแทน สายตาก็มองข้าวของอันน้อยนิด กลัวหายในย่านแบบนี้

“เฮ้อ อยู่ตรงไหนล่ะ เดี๋ยวผมขับรถไปรับ” คิลเลี่ยนถามทั้งที่รู้ว่าเธอออยู่ที่ไหน

“อยู่หน้าตึกเนี่ยแหละค่ะ” มินตราอธิบายเส้นทางจุดสังเกตละเอียดยิบ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเตือนเหรียญหมด เขาก็ตัดบทวางสาย

เขาชงกาแฟแล้วก็ดื่มแบบแก่ๆ จากนั้นก็แต่งตัวลวกๆ ดีที่ห้องนอนเขาเท่านั้นที่วุ่นวาย เขาคว้าเอาเงินที่สาวขาจรวางไว้เมื่อคืนแล้วหยิบกุญแจรถเก่าๆ ก่อนจะออกไปจากห้อง

เขาไม่รังเกียจเงินของพวกคุณหนูไฮโซที่วางไว้ให้เขา ส่วนใครจะเข้าใจเขายังไงเขาก็ไม่สนใจ จะว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัวก็แล้วแต่จะเข้าใจ หากงานหลักของเขาคือ...เล่นเปียโนที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง บางทีก็มีคนแนะนำให้เขาเป็นเพื่อนเที่ยวของพวกผู้หญิงขี้เหงาขาจรที่ต้องการคนปลอบใจเท่านั้น

*****************************

เมื่อมาถึงเขาก็หาที่จอดรถแล้วช่วยขนของหล่อนไปไว้ที่รถ รถคันเล็กๆ ของเขาแต่ก็เป็นรถที่เขาหามาได้ด้วยตนเอง เขาก็ชวนเธอขึ้นรถ เห็นสีหน้าของหล่อนก็สงสารเป็นกำลัง แต่ทำท่าทีเฉยๆ ไว้ ไม่ให้หล่อนเข้าใจได้

“ไปเถอะ” คิลเลี่ยนบอก ก่อนมองเธอยืนนิ่ง เพราะตั้งแต่เขามาก็ขนของขึ้นรถแล้วก็ไม่บอกว่าจะให้เธอไปพักที่ไหน จึงถาม “อะไรอีกล่ะ”

“คุณจะให้ฉันไปไหนล่ะ” มินตราถามอย่างสงสัย เพราะเพิ่งนึกได้ว่าเขาไม่บอกว่าจะพาเธอไปไหน ก็ระแวงนิดๆ

“ช้าไปไหมที่จะมาถามเนี่ย โทรหาฉันแล้ว ขนของขึ้นรถแล้วค่อยถาม” คิลเลี่ยนส่ายหน้าช้าๆ มองหน้าตาสะสวยของหล่อนแล้วก็ถอนหายใจ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้เธอคงเสร็จไปนานแล้ว

“คือฉันตกใจนี่คะ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง” มินตราแก้ตัว ยิ้มแห้งๆ แต่ก็ยอมรับว่าไว้ใจเขายิ่งกว่า ด้วยสัญชาตญาณส่วนตัวที่บอกไม่ถูก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่โทรหาเขาแต่แรก

“ไปเถอะ ที่ห้องพักฉันมีห้องเก็บของว่างอยู่ ฉันตัวคนเดียวไม่มีของมากนักหรอก อันไหนไม่เอา ฉันก็ทิ้ง ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม ห้องนั้นมีตัวดูดอากาศ แล้วก็ช่องระบายอากาศ ไว้จะไปซื้อฮีตเตอร์มาติดไว้ให้ ขึ้นรถได้หรือยัง” คิลเลี่ยนขึ้นนั่งประจำที่นั่งคนขับ มินตราก็ขึ้นฝั่งด้านข้าง แล้วเขาก็ออกรถ

“คิดค่าเช่ายังไงคะ” มินตราถามทันทีเมื่อมีโอกาส เกรงใจเขาอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็อับจนหนทางมากที่สุดแล้ว

“ถ้าเธอจะกรุณาก็อย่าวุ่นวายในห้องแล้วกัน ดูแลห้องให้ฉันก็พอแล้วล่ะ แล้วก็อย่าพูดมาก อย่าถามมาก เวลาดึกๆ ฉันพาผู้หญิงมาที่ห้องก็อย่าออกมาวุ่นวาย ไว้จะหาโทรทัศน์เล็กๆ ให้ในห้องสักเครื่อง ห้องน้ำติดครัวเธอใช้ได้เลย แต่อย่าเอาของใช้ส่วนตัวของผู้หญิงมาวางไว้ เธอคงรู้นะว่าอะไร อย่าทิ้งไว้แล้วกัน มันเป็นห้องน้ำแขกน่ะ แล้วเวลาอยู่ในห้องก็ล็อกประตูซะ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะบางคืนฉันก็เมากลับมา เธอจะได้ไม่อันตราย เวลาไปทำงาน ฉันไม่ขับรถหรอก” คิลเลี่ยนบอกเป็นชุด เสร็จแล้วก็เงียบตลอดทาง

มินตราก็ไม่แย้ง ไม่อยากมีปัญหา เพราะเธอก็อยากหาที่พักแบบประหยัด อีกอย่างที่เขาว่ามาเธอก็ทำให้ได้ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะค้าน

เมื่อถึงห้องพักแล้ว คิลเลี่ยนก็ขนของขึ้นชั้นบน มีมินตราเฝ้ารถไว้ รอจนเขาขนของรอบสุดท้าย เขาก็ล็อครถแล้วขึ้นไปที่ห้องพักของเขา ซึ่งเป็นห้องชุดดีๆ นี่เอง แต่ไม่กว้างเท่าไรนัก ราคาจึงไม่แพง และเขาก็หาเงินมาผ่อนเองสบายๆ อยู่แล้วจากวิธีหาเงินของเขา

ถ้าใครจะว่าเขาขายตัวก็สุดที่จะเข้าใจ เพราะเขาไม่ใช่จะไปกับแขกทุกคน บางคนเขาก็แค่พาไปซื้อของ ดูแลเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัว แล้วก็ส่งหล่อนกลับห้องพัก ยกเว้นบางคนที่เขาพอใจเท่านั้น

“แล้วงานแคสนักเต้นผ่านไหม” คิลเลี่ยนรินกาแฟให้เธอ เขาต้มอีกรอบให้มันอุ่นพอจะละลายนมกับน้ำตาล แล้วส่งถ้วยกาแฟหอมกรุ่นให้หล่อนพร้อมถาดให้เติมน้ำตาลกับนมเอาเอง

“ผ่านค่ะ” มินตราตอบ แล้วชงตามชอบและยกดื่มไล่ความหนาวเย็น ก่อนอธิบาย “งานเต้นประกอบละครเพลงค่ะ พอดีมีคนออก เขารับคนเดียวแล้วโชคดีที่เพื่อนฉันแนะนำเข้าไป เขาก็เลยให้แคสกรณีพิเศษ ฉันทำได้ เขาก็ให้เซ็นสัญญาสามเดือนค่ะ”

“ดีแล้วล่ะ ขับรถเป็นหรือเปล่า ถ้าเป็นและจะให้ดี เธอมีเวลาก็ไปสอบใบขับขี่สากลนะ ถ้าไม่มีเงิน มาเอาที่ฉัน ดีเหมือนกันเวลาฉันเมามากๆ ฉันจะขอให้เธอขับรถไปรับหน่อย งานเธอคงเลิกไม่เกินตีสองล่ะมั้ง” คิลเลี่ยนมองเธอพยักหน้า แต่เขาไม่แน่ใจก็ถามย้ำอีกรอบ “ว่าแต่เธอขับรถเป็นใช่ไหม”

“ค่ะ ขับได้ค่ะ” มินตราบอกและไม่คิดแย้งอะไรสักคำ ได้อยู่ฟรีตอนนี้เขาให้ทำอะไรก็ทำหมด ยกเว้นเรื่องบนเตียงและดูเหมือนเขาจะไม่มีปัญหาขาดแคลนเรื่องนั้น และไม่มีทีท่าแบบนั้นแสดงออกมาเลย

“ถามจริงๆ ไม่คิดว่าฉันจะทำเลวกับเธอหรือ มินตรา” คิลเลี่ยนถามชัดๆ นึกเป็นห่วงเธออยู่เหมือนกัน ที่ดูเหมือนเชื่อคนง่ายเสียจริงๆ

มินตราชะงักเล็กน้อย ก่อนส่ายหน้า “ถ้าคิดจะทำ คงทำไปนานแล้วล่ะค่ะ คงไม่บอกอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะแบบนี้หรอกค่ะ ใช่ไหมคะ”

“เชื่อคนง่ายเกินไปแล้วนะ โดนทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่เข็ดอีกเหรอ” คิลเลี่ยนส่ายหน้าช้าๆ มองดูหญิงสาวนักฝัน ที่อีกปีก็จะไปเป็นทาสในบริษัทพ่อเขา

มินตราคอตก ก้มหน้าลงอย่างเศร้า ก่อนคิลเลี่ยนเชยคางเธอขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาให้

“เธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้น แล้วก็มองโลกให้เป็นความจริงมากขึ้น จำไว้หากคนไม่ได้ประโยชน์จากเธอ เขาก็ไม่ช่วยเธอหรอก อย่างฉันเนี่ย ฉันอยากได้แรงงานทำความสะอาดบ้านฟรีๆ แถมมีคนเฝ้าบ้าน ขับรถรับส่งด้วย เห็นไหม แม้แต่ฉันยังได้ประโยชน์” คิลเลี่ยนเตือนเธอแล้วมองอยู่นิ่งนาน ก่อนปล่อยคางเธอแล้วเอาถ้วยกาแฟตัวเองไปเติมกาแฟแก่ๆ จากนั้นก็เดินเข้าห้อง เพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก

มินตรามองห้องเก็บของเขา ที่มีอุปกรณ์เครื่องนอนเก่าๆ ห้องขนาดสองเมตรคูณสี่เมตร พอตั้งที่นอนได้บ้าง ถ้าเก็บห้องให้ดี แล้วตั้งโต๊ะญี่ปุ่นสำหรับเขียนแบบของเธอ สักพักเธอก็เริ่มทำความสะอาดห้อง แล้วก็เช็ดถู รู้สึกตัวอีกที เขาก็วางกุญแจอีกชุดให้แล้วออกไปจากห้องพัก

ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไงก็สุดจะรู้ได้ แต่เธอรู้ว่าจะมีอะไรดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตแม้จะเหนื่อยยากก็ตาม

*****************************

เงินสามแสน...จะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย แต่มินตราก็โอนเงินไปหาพ่อที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอก แล้วก็รีบกลับเข้าวิทยาลัยเพื่อไปพบอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งนัดเธอมาเป็นพิเศษทั้งที่เธอเรียนจบหลักสูตรแล้ว

เมื่อเข้าไปในห้องพักอาจารย์หญิง เธอก็นั่งลงตรงหน้าผู้ชายอีกคนหนึ่ง สุภาพบุรุษชาวอังกฤษมองเธออย่างสำรวจ ก่อนอาจารย์จะแนะนำให้รู้จัก

“นี่คุณบราวน์ คุณบราวน์คะ นี่มินต์ เขาออกแบบที่คุณสนใจน่ะค่ะ” มิเชลแนะนำทันทีที่มีโอกาส

“นี่เหรอยังเด็กอยู่เลยนะ คือผมเห็นแบบของคุณสามสี่แบบ ผมอยากขอซื้อ” คุณบราวน์ถามทันที เพราะได้คุยกับอาจารย์มาเยอะแล้ว

“ได้ค่ะ” มินตราท่องสัญญาไว้อย่างละเอียด เพราะก่อนจะเซ็นเธอก็อ่านสัญญาแล้วว่าไม่มีข้อผูกพันใดๆ ในระหว่างการศึกษา แต่ถ้าทำงาน ไม่ว่าแบบใดที่เธอออกแบบ จะต้องเป็นของบริษัทดาราประดับ

“คุณบรานว์อยากจ้างคุณเป็นนักออกแบบของบริษัทเขาด้วยนะ โอกาสแบบนี้ ฉันสนับสนุนเต็มที่เลย” มิเชลรีบบอกข่าวดี

หากสีหน้ามินตราแย่ลง ก่อนอธิบาย “คือว่าฉันติดสัญญากับบริษัทที่ออกทุนเรียนให้ค่ะ นี่ฉันก็ต้องกลับเดือนหน้านี่แล้วนะคะ”

“สัญญายังไง ไหนลองมาคุยกัน ผมจะเซ็นสัญญากับคุณสามปี รับรองรายได้แล้วก็ให้ค่าออกแบบอีกด้วย” คุณบราวน์เห็นงานส่วนมากของเธอแล้ว เขาก็สนใจมาก

“ฉันต้องจ่ายเงินให้เขาเป็นเงินทั้งหมดสองล้านบาท ก็ประมาณสี่หมื่นปอนด์ หรือไม่ก็ต้องทำงานกับเขาประมาณห้าปีค่ะ ถึงจะหมดสัญญา” มินตราบอกแล้วก็ไม่คาดหวังอะไรทั้งสิ้น

คุณบราวน์ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจ “ตกลง ผมจะจ้างงานคุณสามปี แล้วให้คุณยืมเงินจำนวนนั้น โดยจะหักเงินค่าคอมมิชชั่นจากการออกแบบของคุณ จนกว่าจะครบจำนวน ตกลงไหม”

มินตราครุ่นคิด แม้จะแอบดีใจลึกๆ หากเธอก็ยังต้องการตัดสินใจให้ละเอียด “ขอเวลาตัดสินใจได้ไหมคะ”

“ได้สิ แต่แบบพวกนี้ ฉันขอซื้อนะ” คุณบราวน์บอกตามตรง เพราะอยากได้ เขารู้จักกับอาจารย์ของเธอ ผ่านการปรึกษาแบบเครื่องเพชรของร้านเขา และอาจารย์ของมินตราก็เห็นว่าหล่อนเป็นคนใช้ได้ จึงแนะนำไป

“ค่ะ” มินตราตอบตกลงไปทีละเรื่อง ก่อนมองเวลาที่ต้องไปทำงานต่อ “ขอตัวก่อนนะคะ”

“ได้สิ ยังไง เดี๋ยวฉันจะร่างสัญญา ทั้งสัญญาซื้อขายแล้วก็สัญญาว่าจ้างไว้รอ เผื่อเธอตัดสินใจทำงานกับฉัน” คุณบราวน์พยักหน้าช้าๆ เขาเป็นคนทำงานรอบคอบ คิดเผื่อไว้หลายอย่าง และต้องการพัฒนาร้านเขาให้ทันสมัยขึ้น จะได้มีมุมมองใหม่ๆ จากลูกค้าและคนรุ่นใหม่เข้ามา

มินตราบอกลาคุณบราวน์กับอาจารย์แล้วรีบออกไปจากตรงนั้น เพราะต้องไปทำงานที่รับไว้อีก ที่เธอไม่กลับเมืองไทยในทันที เพราะงานที่รับไว้ยังไม่เสร็จแล้วยังปัญหาของคัลเลี่ยนอีก ที่ถูกจับเข้าคุกสิบห้าวันฐานขัดคำสั่งศาลเรื่องเมาทะเลาะวิวาทที่ผับดังแห่งหนึ่ง

*****************************

งานครั้งนี้เป็นงานตัวประกอบภาพยนตร์ที่คิลเลี่ยนเคยหาให้ เธอออกจากกองถ่ายแต่เช้าโดยไม่ต้องเปลี่ยนชุดแล้วขับรถคันใหม่ของคิลเลี่ยนไปรับเขาที่หน้าเรือนจำ รออยู่ในรถเมื่อถึงเวลาเขาก็ถูกปล่อยตัวออกมา เธอก็ลงจากที่นั่งคนขับ

คิลเลี่ยนมองสาวชาวไทยคนสวยที่พักร่วมห้องกับเขามาหลายเดือนแล้วถอนหายใจยาว หล่อนช่างสวยสมกับที่น้องชายเขาเคยชอบนัก แต่ก็สุดทนกับความหัวโบราณของเธอ สุดท้ายก็ทิ้งหล่อนไว้คนเดียว และหล่อนก็ไม่มีใครมาตลอด แม้หนุ่มอังกฤษจะเข้ามาจีบอยู่หลายคนแล้วก็ตาม

ชุดราตรีสีแดงสดยาวสยายบนรูปร่างระหงส์ บอกได้เลยว่าหล่อนมีความงามของหญิงสาวอยู่มากเหลือ บางทีเวลาผู้หญิงเห็นเธอยังแอบชอบ มินตรารอจนเขาเข้ามาใกล้ๆ ก็ยื่นกุญแจรถให้เขาแล้วย้ายไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ

“นี่ออกมาจากกองถ่ายเลยเหรอ” คิลเลี่ยนถาม เดาได้ว่าเธอคงไม่ใส่ชุดนี้มารับเขาแน่ ถ้าไม่เพราะเพิ่งถ่ายหนังเสร็จ

“ใช่แล้วล่ะ ตอนแรกมันต้องเลิกกองตอนเช้ามืด แต่ดาราเล่นผิดคิวบ่อย ก็เลยลากยาวถึงเช้า ก็รีบมารับนี่แหละค่ะ” มินตราบอกแล้วก็เอาของกินออกมาทาน เพราะยังไม่ได้ทานอาหารเช้า ทั้งยังยื่นแซนวิชให้เขาด้วย

“ขอบใจ ว่าแต่จองตั๋วเครื่องบินกลับเรียบร้อยแล้วเหรอ” คิลเลี่ยนถามแล้วรับมาทานและยังไม่ออกรถ จากนั้นก็รีบเคี้ยวแล้วออกรถ เพราะเขาก็คิดถึงบ้านแล้วเหมือนกัน

“ค่ะ แต่มีเรื่องหนึ่งอยากปรึกษาค่ะ” มินตราพูดขึ้นหลังทานไปได้นิดนึง ก่อนอธิบาย พักหลังเธอมีเรื่องอะไรก็ปรึกษาเขาหมด ราวกับเขาเป็นเพื่อนคู่คิดของเธอ และเขาก็ดูเป็นคนกร้านโลกกว่าเธอมาก

“คืองี้ค่ะ ร้านเพชรบราวน์เขาต้องการจ้างฉันทำงานที่นี่สามปีค่ะ เขาจะให้ยืมเงินไปคืนบริษัทดาราประดับด้วยค่ะ ก็เลยว่าจะกลับเมืองไทย ไปจัดการเรื่องให้เสร็จแล้วจะไปดูพ่อที่พักฟื้นด้วย คุณว่าดีไหมคะ”

คิลเลี่ยนนิ่งคิด ก่อนถามไปตามเรื่อง “ที่บอกว่าพ่อต้องผ่าตัดเนื้องอกน่ะเหรอ ส่งเงินไปให้แล้วเหรอ”

“ค่ะ ส่งไปเมื่อวันก่อน แล้วก็ไปเจอคุณบราวน์ ยังไม่ได้ตอบเขาเลย แต่คิดว่าจะเซ็นสัญญากับเขาแล้วค่ะ เขาจะเอาเงินมาให้สามพันยูโรด้วยค่ะ ค่างานที่ออกแบบ”

“รวยใหญ่แล้วนะ” คิลเลี่ยนพูดแล้วหัวเราะอย่างไม่จริงจังนัก ค่อยโล่งใจที่เธอจะอยู่กับเขาไปอีกสามปี

ไม่อยากบอกเธอว่าที่เขามีเรื่องหงุดหงิด เพราะกลัวที่จะต้องเสียเธอไป แต่พอรู้ว่าเธอจะอยู่ต่อก็ค่อยสบายใจไปมาก จึงหัวเราะออกและไม่หงุดหงิดอย่างเคย

“คุณก็อย่าดื่มเล่าให้มากนัก ก็รู้นี่ว่าต้องเป็นเรื่อง อย่าไปเสียใจที่วิกกี้เขาเลิกกับคุณเลยนะ คนหน้าตาดีอย่างคุณจะหาแฟนสักกี่คนก็ได้” มินตราพูดปลอบเขา

“งั้นแหละ” คิลเลี่ยนขี้เกียจอธิบายแล้วก็ขับรถไปจอดหน้าห้องชุด อยากไปนอนบนที่นอนดีๆ สักที

“แม่คุณโทรมาตั้งหลายรอบค่ะ แล้วก็มีสายจากเมืองไทยด้วยค่ะ ฉันไม่ได้รับแต่ดูเบอร์ไว้ให้อยู่” มินตรากลายเป็นเลขาฯ เขาไปโดยไม่รู้ตัว

“ขอบใจ เดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอก็นอนพักเถอะ ไม่นอนมาทั้งคืนไม่ใช่เหรอ” คิลเลี่ยนมองมินตราที่ท่าทางเหนื่อยๆ และอยากพักเดินเข้าห้อง ก่อนนึกขึ้นได้ก็ถามอีก ให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ย้ายออก “ถ้าเธอทำงานที่นี่แล้วจะพักกับฉันอยู่หรือเปล่า”

“ถ้าคุณไม่คิดว่ามันลำบากนะคะ” มินตราก็อยากประหยัดให้ได้มากที่สุด เพราะมีภาระที่ต้องส่งเสียครอบครัว อีกทั้งอยู่กับเขาก็ใช่ว่าจะลำบากสักเท่าไร เพราะเขาก็มี ‘ที่ว่าง’ ให้เธอเสมอ และไม่เข้ามาวุ่นวายกับเธอเกินความจำเป็น

“หลายเดือนมานี่ก็ไม่ลำบาก กลับสบายซะอีก ถ้าเธอไม่อยู่ฉันว่าฉันนี่แหละที่ลำบาก” คิลเลี่ยนพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก ทั้งที่แอบใส่ใจอยู่ตลอด เพียงแต่ไม่แสดงออกเกินงามเท่านั้น

“ขอบคุณค่ะ” มินตราพูดแล้วขอตัวเข้าห้องตามปกติ เธอรู้ว่าพื้นที่ของเธออยู่ตรงไหน และไม่รู้สึกอึดอัดอะไร เธอไม่ใช่คนที่ต้องการพื้นที่มากอยู่แล้ว ชีวิตเธอแทบไม่เหลือพื้นที่ของตัวเอง แต่แบ่งไว้ให้คนอื่นๆ จนหมด

คิลเลี่ยนก็โทรไปหาแม่ เล่าความตามสมควร เพราะเจ้านายเขาโทรไปหาพ่อเลี้ยงเขา บอกว่าเขาติดคุกสิบห้าวัน แต่เขายังได้กลับไปทำงานที่เดิมอยู่ จึงไม่ใช่ปัญหานัก พ่อเลี้ยงเขาก็สบายใจ น้องสาวกับน้องชายเขากำลังอยู่ในวัยเรียน แต่แม่กับพ่อเลี้ยงเขาก็เป็นห่วงและคอยช่วยเหลือเขาตามสมควร

เขามองเบอร์จากเมืองไทยแล้วก็รู้ว่าเป็นพ่อโทรมา เขาก็โทรกลับไป ไม่งั้นอีกฝ่ายโทรมาด่าอีก ทำให้เขารำคาญใจเปล่าๆ พอได้ยินอีกฝ่ายรับสาย เขาก็รีบถาม “สวัสดีครับ มีอะไรเหรอ”

“แกหายหัวไปไหนมาตั้งหลายวัน ฉันโทรหาแกสายแทบไหม้ อีกนิดเดียวฉันจะให้คนไปลากตัวแกจากอังกฤษแล้ว” สมเจตน์กระแทกลมหายใจยาว เมื่อลูกแต่ละคนล้วนไม่ได้ดังใจสักคน

“มันคงทำได้ง่ายๆ หรอกนะ ไปนอนคุกมาสิบกว่าวัน” คิลเลี่ยนตอบอย่างกวนประสาท รักพ่อเกินประมาณจนไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไรนัก

“อย่ามากวนประสาทฉัน ฉันจะให้แกกลับมาช่วยฉันทำงานที่เมืองไทย แล้วก็แต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วน” สมเจนต์พูดเข้าประเด็นฉับไว ไม่ต้องเสียเวลาร่ายยาวให้มากความ

“หือ?” คิลเลี่ยนฟังอย่างแปลกหู แปลกใจมาก

“แกได้ยินไม่ผิดหรอกน่า กลับมาอยู่เมืองไทยเผื่ออะไรๆ ในชีวิตแกจะดีขึ้นมั่ง” สมเจตน์ไม่สนใจอยู่แล้วว่าคิลเลี่ยนจะคิดยังไง แต่เขาต้องการใช้ลูกชายเพื่อผลประโยชน์ของเขา ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะมีลูกไปทำไม ถ้าใช้งานอะไรไม่ได้

“นักบริหารอย่างคุณน่าจะใช้คนเก่งกว่านี้นะครับ หน้าอย่างผมจะไปทำงานอะไรในนั้นได้ ไม่เอาหรอก ผมเล่นเปียโนหากินก็สบายๆ ดีอยู่แล้ว” คิลเลี่ยนปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิดมาก

“ต้องให้ฉันส่งคนไปอุ้มแกมาเมืองไทยไหม” สมเจตน์ไม่พูดยาวยืด ตัดบทไม่ต้องมากความ

“ผมแต่งงานแล้ว คงไม่ต้องจดทะเบียนซ้อนกับลูกสาวหุ้นส่วนคนไหนหรอกนะครับ” คิลเลี่ยนตัดปัญหา ไม่อยากให้มาวุ่นวายกับชีวิตเขาเท่าไรนัก

“ว่าไงนะ แกแต่งงานตั้งแต่เมื่อไร ทำไมแม่แกไม่เห็นรู้เรื่อง” สมเจตน์โทรไปถามคนรักเก่ามาก่อนหน้านี้แล้ว ก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจนัก แต่มาผิดแผนที่ไอ้ลูกชายตัวแสบแอบแต่งงานไม่บอกใครนี่เอง

“ก็ผมอยากแต่งก็แต่ง ไม่เห็นต้องขอใคร ไว้จะพากลับเมืองไทยให้รู้จักนะครับ แค่นี้ล่ะ ผมเพิ่งออกจากคุกมา อยากอาบน้ำแล้วนอน ก่อนไปทำงาน” คิลเลี่ยนได้ยินพ่อตัดสาย ท่าทางคงโมโหเขามาก ก่อนเขาจะเดินไปเคาะประตูห้องมินตรา เพื่อหาคนช่วยมาเป็นเมียเขา

มินตราเดินมาเปิดประตู แล้วมองเขาอย่างงุนงง เธออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังว่าจะนอนพัก “มีอะไรเหรอคะ เค”

“พรุ่งนี้เธอต้องไปจดทะเบียนสมรสกับฉัน” คิลเลี่ยนพูดตามตรง ขี้เกียจเข้าประเด็นเยอะ ง่วงมากแล้วด้วย

มินตราทำหน้างงก่อนหัวเราะ “ล้อเล่นใช่ไหมคะ”

“ไม่ได้ล้อเล่น พ่อผมเขาจะให้ผมกลับเมืองไทย ไปแต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วนอะไรของเขาก็ไม่รู้ ช่วยผมหน่อยแล้วกัน ผมสัญญาว่าจะไม่เอาเปรียบคุณหรอก แถมคุณยังอาจได้อยู่ที่อังกฤษด้วย” คิลเลี่ยนพูดจนทำให้มินตรางงหนักกว่าเดิม

“แน่ใจเหรอคะว่าต้องการแบบนี้” มินตราถามให้แน่ใจ พอตั้งสติแล้วก็เริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของเขา

“หรือเธอมีปัญหา เธอกำลังคบหาใครอยู่หรือเปล่า เท่าที่รู้ฉันคิดว่าไม่มีซะอีก” คิลเลี่ยนถามอย่างสงสัย และเชื่อว่ามินตราจะช่วยเขาแน่ เพราะความมีน้ำใจของเธอ และสำนึกในบุญคุณของเขา เขาใช้ประโยชน์จากตรงนี้

ที่สำคัญ...มันตรงใจและความรู้สึกที่เขาปิดบังไว้

“ไม่มีค่ะ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นปัญหาที่ต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ” มินตราพยายามเตือนสติเขา ไม่อยากให้เขาแก้ปัญหาอะไรง่ายๆ สุดท้ายก็ต้องมานั่งแก้แล้วแก้อีก

“เธอก็ไปตัดสินใจแล้วกัน ส่วนฉันไม่เปลี่ยนใจแน่นอน” คิลเลี่ยนคิดว่ามีวิธีเดียวที่พ่อจะเลิกยุ่งกับเขา แต่เขาไม่ไว้ใจใครนอกจากมินตรา หากว่ามินตราปฏิเสธ เขาก็ต้องหาคนต่อไปมาก่อนที่พ่อจะรู้ว่าเขาโกหก

“เฮ้อ คุณเนี่ยนะ ไม่คิดอะไรให้ดีเสียก่อน” มินตราพูดออกมาดังๆ ตำหนิเขานิดๆ ที่ไม่คิดให้ดีเสียก่อน

“คิดดีแล้วล่ะ ฉันต้องหาคนมาแต่งงานด้วย และผู้หญิงที่ฉันไว้ใจก็มีแต่เธอเท่านั้นแหละ เธอก็ค่อยๆ คิดก็แล้วกันนะ ไม่อย่างนั้นฉันต้องหนีแล้วล่ะ” คิลเลี่ยนบอก แล้วคิดทางออกอีกทางไว้ ในกรณีที่หาผู้หญิงมาแต่งงานด้วยไม่ได้ และพ่ออาจอุ้มเขาไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เลือกให้

“แล้วคุณต้องหนีไปไหน” มินตราตกใจเมื่อเขาบอกอย่างนั้น ไม่คิดว่าปัญหาจะร้ายแรงอย่างที่เขาบอก

“พ่อฉันจะให้คนมาพาฉันกลับไปเมืองไทย ไปแต่งงาน เรื่องอะไรฉันจะอยู่ให้พ่อจับได้ว่าฉันโกหก ฉันก็คงต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง และฉันคงไม่มีเงินพอจะส่งห้องนี้ไหวหรอกนะ ถ้าฉันไม่มีงานทำ เธอก็คิดให้เร็วหน่อยแล้วกัน บอกทีฉันอาจจะเข้าร่วมกองทัพแล้วไปทำงานที่ตะวันออกกลางเพื่อหนีการตามล่าของพ่อฉัน” คิลเลี่ยนรู้จักนิสัยพ่อเขาดี

คนอย่างสมเจตน์ต้องได้สมใจนึกทุกอย่าง เรื่องจะยอมให้เขาเอาแต่ใจคงไม่มีทาง เพราะงั้นเขาต้องหาทางไปในที่ที่พ่อเขาจะเอื้อมไปไม่ถึง แล้วเลิกกุมชะตาชีวิตเขา เมื่อเขาหนีมาได้ตั้งนาน เขาก็เชื่อว่าเขาจะหนีได้อีกต่อไป

“พูดอย่างนี้ ถ้าฉันไม่ตกลง ฉันก็เป็นคนใจร้ายน่ะสิ” มินตราพูดแล้วถอนหายใจ สงสารเขาแต่ไม่แน่ใจตัวเอง

“อย่าคิดแบบนั้นสิ มินต์ เธออย่าพยายามรับผิดชอบชีวิตทุกคนสิ เธอต้องเข้มแข็งและต้องแข็งแกร่งในโลกที่คิดแต่จะเอาเปรียบเธอให้ได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีฉันแล้ว ไม่มีใครคอยปกป้องเธออีก เพราะงั้นเธอต้องพยายามต่อไป” คิลเลี่ยนคิดหาหนทางอื่นแทน เริ่มสงสารและคิดว่ากำลังเอาเปรียบเธอ

“จดก็จดสิ ถ้าฉันทำให้คุณลำบากก็เท่ากับฉันเนรคุณอีก” มินตราพูดแล้วถอนหายใจยาว อยากยึดเขาเอาไว้เป็นที่พึ่ง จึงยอมตามใจเขาทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องบนเตียง เธออยากมีกับคนที่เธอรักและตั้งใจจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่ามากกว่า

“เนรคุณ? อย่าใช้คำนี้อีก! ผมไม่ชอบ!” คิลเลี่ยนพูดชัดเจน น้ำเสียงเฉียบคม แล้วหันหลังเดินกลับไปออกไปจากห้องทันที

“คุณเข้าใจความหมายเหรอ” มินตราถามอย่างสงสัย เรพาะคิดว่าเขาพูดไทยได้แต่ไม่น่าจะเข้าใจภาษาไทยทุกคำ

“เข้าใจดีกว่าเธอหลายเท่า” คิลเลี่ยนเข้าห้องแล้วกระแทกประตูเสียงดังลั่น เขากระแทกตัวเองลงบนที่นอน

‘แกคิดจะเนรคุณฉัน ด้วยการทำร้ายลูกชายฉันอย่างนั้นเหรอ ไอ้สารเลว แม้แต่แม่แกยังไม่ต้องการแก ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันเอาตัวเสนียดจัญไรอย่างแกมาชุบเลี้ยงเป็นหนามทิ่มแทงใจฉันฮะ ไอ้คิลเลี่ยน ไอ้คนเนรคุณ’

คำพูดที่แพรพลอยกรอกหูเขาทุกวันที่โชติได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของตนเอง เขาไม่ต้องทำอะไร แค่อยู่เฉยๆ ให้โชติแกล้งเท่านั้น แต่บางครั้งโชติก็แกล้งเขาแล้วตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บ กลับเป็นเขาที่ ‘เนรคุณ’

เนรคุณ...คำที่เขาจดจำไว้ใส่หัวเสมอ เพราะแพรพลอยพูดกับเขาเพื่อทวงบุญคุณทุกครั้งไป

*****************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
เริ่มต้นปีกับนิยายเรื่องใหม่ในวันพระ
หวังว่าชีวิตจะสงบสุขนะคะ
^^ หลังจากเอาไปยั่วน้ำลายชาวเฟซอยู่หลายรอบ
ได้ฤกษ์เอาพี่เคกับน้องมินต์มาแปะเสียที
อ่านแล้วรบกวนติชมด่าว่าได้นะคะ
จะได้ปรับปรุงนิยายให้ดีขึ้นค่ะ

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณแว่นใส - ทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - ขอบคุณค่ะ ^^
คุณใบบัวน่ารัก - คริคริ เดี๋ยวเด็กน้อยมาทีหลังค่ะ ถ้าได้มีโอกาสเป็นเล่มนะคะ
คุณkonhin - ขอบคุณค่ะ ^^
คุณน้องแสตมป์ - ฮ่าๆ ลืมเล้กน้อย แต่ยังไงก็กลับไปหาลูกกันอยู่ดีค่ะ มีลูกเป็นพรวน อิอิ
พี่ตุ้งแช่ - 555+ ถ้าได้ตีพิมพ์นะคะ
คุณนอนดูดาว - ขอบคุณค่ะ หุหุ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

ป.ล. กิจกรรมถ่ายภาพ "พาย" ปกใหม่ แจกสมุด A5 ค่ะ
ติดตามรายละเอียดหน้าเฟซนะคะ

ป.ล. ตามหาคุณ "จ๊ะจ๋า" ขอที่อยู่ส่งของขวัญปีใหม่ให้ค่ะ
ส่งโปสการ์ดไปแล้วไม่มีการตอบรับอะไรเลยค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=98e88e8d-1760-42f1-9fc0-68fb86d1cbf2

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=9377205d-d30b-4542-a715-8c94c244c178

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=fbca2fe2-b27a-40f2-89fc-7c13c7cef35c

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=e5a118b1-db26-481d-92ac-39322c29ef1d

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=cba390dc-5dee-4cb5-9f8b-1617d0011159



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2557, 16:22:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ม.ค. 2557, 16:22:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 2271





   Crying Villain ตอนที่ 2 >>
ตุ๊งแช่ 8 ม.ค. 2557, 17:13:02 น.
รวบรัด ฉับไวไปไหม ตอนเดียวผ่านไปเป็นปีเลยอ่ะ บางย่อเหมือนบทสรุปขอเยิ่นเย้ออีกนิดนะน้อง
ถ้าสามารถ พี่จะได้อินนานๆๆ 555

ยังไม่ทันได้ชื่นชม พระนาง เลยวุ้ย ติดจรวดจริงๆ


น้องแสตมป์ 8 ม.ค. 2557, 18:46:44 น.
มาไว เคลมไวสุดๆ อยากจะอินอีกสักหน่อย อาไร้....จะแต่งงานกันล่ะ ยังไม่รู้เลยแฟนเก่าทิ้งเพราะอะไรยังไง
แต่น่าสนใจตามอ่านอยู่ล่ะ บ่นไปงั้นล่ะ กิกิ


konhin 8 ม.ค. 2557, 23:17:55 น.
ฮ่าๆๆ นางเอกหัวอ่อนจริงๆ สงสัยจะถูกแกล้งให้หัวปั่นซักวัน


จ๊ะจ๋า 9 ม.ค. 2557, 02:01:39 น.
ตอบกลับไปแล้วนะคะ ขอโทษที่ตอบช้าค่ะ ปกติไม่ค่อยเช็คตู้จดหมายหรือติดตามทางเฟสเท่าไหร่ อ่านนิยายอย่างเดียว


ใบบัวน่ารัก 9 ม.ค. 2557, 07:20:43 น.
ไม่ชอบแบบนี้เลย
เกลี้ยดลูกเมียน้อยแต่ก็หาประโยชน์กะลูกชัง
ลูกรักก็ไม่ดีสักอย่าง แย่นิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account