เล่ห์รัก ลวงใจ
" ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับคนไม่รู้จักพออย่างนายเด็ดขาด นายคิดว่าตัวเองดีพอจะเป็นพ่อหรือสามีใครได้อย่างนั้นเหรอ ผู้ชายที่วันๆ คิดแต่เรื่องอย่างว่า มั่วไม่เลือก นายคิดว่าฉันจะรักนายลงหรือไง " ธารธาราตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มอย่างเหลืออด

" มันจะมากไปแล้วนะธารา " คามินทร์ มองหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง พร้อมทั้งบีบข้อมือบางอย่างโกรธจัด

" อีกอย่างที่นายต้องรู้ไว้นะคามินทร์ ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใคร นายอย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ฉันก็คือฉัน ไม่มีวันเป็นผู้หญิงที่อยู่ในใจนายได้ ถ้านายรักเขามากขนาดนั้นทำไมไม่ไปตามเขากลับมาล่ะ แค่แย่งเมียชาวบ้านคนอย่างนายคามินทร์คงจะทำสำเร็จได้ไม่ยากหรอก" หญิงสาวเอ่ยกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

" ธารา !!!!"

" ทำไม ฉันแนะนำให้ไม่ดีหรือไง จะให้ฉันช่วยหรือเปล่าล่ะ เอาวิธีไหนดี เอาเงินไปล่อดีไหม เงินนายมีเป็นพันล้านเอาไปกองไว้ตรงหน้าเดี๋ยวทิชาก็วิ่งกลับมาหานายเอง ง่ายจะตาย นายก็รู้แล้วนิที่เขาทิ้งนายไปเพราะครอบครัวเขาเป็นหนี้ ถ้านายเสนอเงินให้ขี้คร้านจะกลับมาหานายแทบไม่ทัน "

" ธารา ฉันขอเตือนอย่าดูถูกทิชา " คามินทร์พูดเสียงรอดไรฟันอย่างโกรธจัด ที่หญิงสาวพูดจากระทบถึงทิชากร

" พี่คามน์ พอแล้วค่ะพี่ธาราเจ็บ " คริมา พยายามเข้ามาดึงมือพี่ชายที่บีบข้อมือเล็กทั้งสองข้าง จนแทบจะแหลกคามือ

" อย่ามายุ่งครีม จำเอาไว้นะธาราอย่าดูถูกทิชาอีก และไม่ว่าจะยังไงเธอก็ต้องแต่งงานกับฉัน"ชายหนุ่มพูดพร้อมกับดึงร่างบางเข้ามาหาตัว

" ไม่ ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับนายเด็ดขาด ฉันขยะแขยง "ธารธารา ตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว

" ขยะแขยงเลยเหรอธารา น่าสมเพชจริงๆ ที่เธอต้องอยู่กับผู้ชายที่น่าขยะแขยงอย่างฉันไม่จนตาย " คามินทร์ พูดเสียงเย็นระคนเจ็บปวดที่ได้ฟังคำพูดจากปากของหญิงสาว

" ฉันเกลียดนาย เกลียด!!! "





สวัสดีค่ะ เล่ห์รัก ลวงใจ เป็นนิยายเรื่องแรกของไรเตอร์ค่ะ เนื้อเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นจินตนาการทั้งสิ้น หากบังเอิญมีข้อผิดพลาด หรือ พาดพิงบุคคล หรือ พาดพิงเหตุการณ์ใดๆ ก็ต้องกราบขออภัย และสามารถแจ้งเตือนให้แก้ไขได้ค่ะ
ยังไงก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ฝากนักอ่านทุกท่านช่วยคอมเม้นท์ ติ ชม หรือข้อแนะนำ ด้วยนะคะ เพื่อที่ไรเตอร์จะได้นำไปแก้ไขและปรับปรุงในเรื่องต่อ ๆ ไป ขอบคุณค่ะ


Nachan
Tags: Nachan

ตอน: บทนำ

บทนำ

คฤหาสห์หินอ่อนสองหลังใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คฤหาสห์ทั้งสองหลังได้รับการออกแบบและตกแต่งเอาไว้อย่างงดงามทั้งภายในและบริเวณรอบนอก ดอกไม้และต้นไม้นานาพันธุ์ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต่างพากันผลิดอกออกผลให้ผู้เป็นเจ้าของได้ชื่นชมกับความงดงามสมกับที่เฝ้าทะนุถนอม บรรยากาศเย็นสบายในยามเช้า ทำให้เจ้าของบ้านทั้งสองรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง หากไม่ติดเสียงเจื้อยแจ้วคุ้นหูที่ดังมาแต่ไกล


“ คามน์ !! คามน์ !! ” เสียงใส ๆ ส่งมาก่อนที่ร่างเล็กของเด็กหญิงตัวน้อย หน้าตาน่ารักน่าชังจะวิ่งมาถึง รอยยิ้มน่ารักถูกส่งไปยังบุคคลตรงหน้าที่แสนคุ้นเคย ตามมาด้วยประโยคประจำตัวของคนตัวเล็กที่มักจะถามท่านทั้งสองในทุก ๆ เช้า


“ คุณลุง คุณป้าขา คามน์ตื่นหรือยังคะ ” คนตัวเล็กเอ่ยถามผู้เป็นลุงกับป้า


“ ยังเลยจ๊ะธารา หนูขึ้นไปปลุกให้ป้าหน่อยซิลูก ” นารีนาทเอ่ยกับหลานสาวน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นว่า หลานสาวคนสวยหน้างอด้วยความไม่พอใจ


“ คามน์เป็นแบบนี้ทู๊กที เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี ” คนตัวเล็กทำปากยื่น ปากยาวบ่นเด็กชายขี้เซาที่ยังนอนไม่รู้เรื่องอยู่บนห้อง พร้อมกับวิ่งเข้าไปด้านในเพื่อทำหน้าที่ของเธอทุกวัน


เด็กหญิงธารธารา อัครภูวดล ในวัย 5 ขวบ เป็นบุตรสาวคนเดียวของวายุกับทิพย์ธารา เจ้าของบริษัท M . S . จิวเวอรี่ ผู้ผลิตและส่งออกอัญมณีอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิท ของจอมทัพและนารีนาท ทั้งสี่คนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เคยสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปและไม่แยกจากกัน ดังนั้นเมื่อทั้งคู่แต่งงานกันจึงตกลงสร้างบ้านอยู่ในอาณาเขตรั้วเดียวกัน เพื่อจะได้ไปมาหาสู่กันได้สะดวก


ด้านเด็กชายคามินทร์ อัศวเมฆินทร์ เป็นบุตรชายคนโตของจอมทัพกับนารีนาท มีน้องสาววัย 3 ขวบ เด็กหญิงคริมา อัศวเมฆินทร์ ครอบครัวของคามินทร์ เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้น ๆ ของประเทศ รวมทั้งมีธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ โดยมีผู้ร่มลงทุนคือ วายุและทิพย์ธารา


“ ธารา…ธารา…เล่นกัน…เล่นกัน ” น้องครีมหรือเด็กหญิงคริมา ร้องทักทันทีเมื่อเห็นร่างกระปุ๊กลุ๊ก ที่คุ้นเคยวิ่งเข้ามา


“ เล่นไม่ได้ค่ะน้องครีม เดี๋ยวพี่ธาราไปโรงเรียนสายนะ ” เด็กหญิงตัวน้อยมองคนพูดตาแป๋วอย่างไม่วางตา


“ ไว้ตอนเย็นเราค่อยมาเป่าเค้กวันเกิดพี่คามน์ด้วยกันนะ พี่ธาราไปปลุกพี่คามน์ของน้องครีมก่อน ” พอพูดเสร็จก็วิ่งไปยังจุดหมายด้านบน ซึ่งเป็นห้องนอนของคนขี้เซาทันที




ห้องนอนที่ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล ตามที่เจ้าของห้องชื่นชอบ ประดับประดาไปด้วยตุ๊กตาโมเดลต่าง ๆ ที่เจ้าของห้องขยันซื้อมาไว้จนเต็มไปหมด ภายในห้องที่เย็นเฉียบยังคงมีร่างเล็ก ๆ นอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้าห่มลายการ์ตูนตัวโปรดอย่างมีความสุข จนทำให้คนที่เข้ามาปลุกนึกหมันไส้ขึ้นมาตงิด ๆ


“ ตื่น…ตื่น…คามินทร์ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะไอ้คนขี้เซา ” เด็กหญิงเขย่าร่างคนขี้เซาที่พยายามเอาหมอนขึ้นมาปิดหูกันเสียงดังที่ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ


“ อื้อ … ”


“ ไม่ตื่นใช่ไหม ธาราจะใช้ท่าไม้ตายแล้วนะ ” เด็กหญิงนั่งกอดอกมองร่างที่ยังคงซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอย่างไม่สบอารมณ์


ย๊ากกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!! พลั๊กกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


“ โอ้ยยยย ทำอะไรเนี่ยธารา คามน์เจ็บนะ ” เด็กชายบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บหลังจากที่โดนเด็กหญิงกระโดดลงมาทับเต็มตัว


“ ช่วยไม่ได้ คามน์อยากตื่นสายเองทำไมล่ะ ไปอาบน้ำได้แล้ว ธาราจะลงไปรอข้างล่างนะ ออ!! ถ้าช้านายโดนอีกแน่ ” เด็กหญิงธารธาราพูดพลางเดินเชิดหน้าออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดีที่ได้แกล้งเด็กชายขี้เซา


“ ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยลูกหมู ชิ !!! ”




ร่างเล็กที่เดินงัวเงียลงมาจากบันได มองร่างอ้วนกลมที่นั่งส่งยิ้มแป้นมาให้จากโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าหงิกงอ อยากจะเข้าไปมะเหงกให้นัก มาป่วนเขาแต่เช้า แถมยังทำร้ายร่างกายเขาจนกระดูกแทบหัก แล้วยังมีหน้ามานั่งส่งยิ้มหวานทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ส่งมาให้เขาอย่างหน้าระรื่นอีก


“ มาทานอาหารเช้ากันเร็วลูก เดี๋ยวสายนะ ” นารีนาทเอ่ยเรียก เมื่อเห็นบุตรชายเดินหน้างอ เข้ามาที่ห้องอาหาร หญิงสาวมองเด็กทั้งสองคนที่สวมเสื้อนักเรียนขาวสะอาดตา กางเกงและกระโปรงลายสก็อตปักตราโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง นั่นยิ่งทำให้นารีนาทยิ่งยิ้มเอ็นดูเด็กทั้งสอง จนจอมทัพผู้เป็นสามีอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้


“ ยิ้มอะไรครับนาท ” จอมทัพเลิกคิ้วมองภรรยาอย่างสงสัย กับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่เขาเห็นแล้วต้องเสียวแทนเจ้าลูกชายตัวดี ที่คงเป็นเป้าหมายของภรรยาเขาอยู่แน่ๆ


“ ก็ตาคามน์กับยัยธาราน่ะซิคะ ยิ่งโตก็ยิ่งนารัก ” นารีนาทหันไปตอบสามี พร้อมกับยิ้มออดอ้อน ที่คนตัวโตเห็นแล้วอยากจะพาคุณแม่จอมเจ้าเล่ห์ขึ้นไปลงโทษนัก


“ น่ารักอย่างเดียว แน่ใจหรือ ” จอมทัพ ถามอย่างรู้ทันสายตาที่ภรรยามองเด็กทั้งสอง งานนี้เห็นทีทั้งเขากับวายุคงได้หัวหมุนกันอีกแน่ นี่ก็ไม่รู้ว่าคุณภรรยาเขาหาแนวร่วมแล้วหรือยัง


“ แล้วทำไมนาทต้องไม่แน่ใจด้วยล่ะคะทัพ ” นารีนาททำหน้าใสซื่อตอบกลับสามี ราวกับมองไม่เห็นสายตารู้เท่าทันนั้น


“ ผมก็นึกว่านาท อยากได้เจ้าธารามาเป็นลูกสะใภ้ซะอีก ” จอมทัพหัวเราะ อย่างนึกขันกับท่าทางของภรรยาที่ตาลุกวาวกับคำพูดของเขา


“ เอ... แล้วคุณทำให้นาทได้รึเปล่าล่ะคะทัพ ลูกสะใภ้ของนาท จะเป็นยัยธาราได้รึเปล่าน๊า ”


“ เห้อออ เห็นทีงานนี้นายยุ มันคงเรียกผมหมดตัวแน่ ๆ เลยครับคุณนารีนาท ” จอมทัพทำท่าคิดหนัก จนทำให้นารีนาทหัวเราะไปกับท่าทางและคำพูดของสามี เห็นทีงานนี้เธอต้องหาแนวร่วมซะแล้ว




สนามหญ้าหน้าบ้าน ‘อัครเมฆินทร์’ ซึ่งเป็นการนำนามสกุลของทั้งสองตระกูลมารวมกัน ถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยลูกโป่งสีสันสดใส โต๊ะอาหารถูกจัดไว้อยู่มุมหนึ่งของสนาม เสียงเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผสานกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่มองดูบุตรหลาของตัวเอง นั่นยิ่ง เสริมบรรยากาศให้ดูสนุกสนานยิ่งขึ้น งานวันนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการฉลองวันเกิดอายุ 5 ขวบ ให้กับคามินทร์บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของจอมทัพและนารีนาท


“ ลุงขอให้คามินทร์ เก่ง ฉลาด แข็งแรง แล้วก็น่ารักแบบนี้ตลอดไปนะลูก ” วายุอวยพรหลานชายพร้อมกับยื่นของขวัญกล่องใหญ่ให้ แต่ก็ต้องตกใจกับเสียงที่ดังจนเกือบจะตวาดลั่นของภรรยาสุดที่รัก


“ นาท !! หน้าตาคามน์ไปโดนอะไรมาน่ะ ไหนมาให้ป้าดูใกล้ ๆ ซิลูก ”ทิพย์ธารา จับหลานชายสุดที่รักมาสำรวจไปทั่วตัว พร้อมบ่นเพื่อนรักยืดยาวที่ไม่ยอมดูแลหลานชายของเธอ


“ เอาน่าทิพย์เด็กผู้ชายเป็นเรื่องธรรมดา ” วายุเอ่ยเตือนภรรยาที่ดูจะตกใจเกินเหตุ


“ ยุน่ะหยุดไปเลย ดูสิปากแตกด้วย คามน์บอกป้ามาซิว่าใครทำ เดี๋ยวป้าจะไปจัดการให้เอง ”ทิพย์ธาราคาดคั้นหลานชายที่เอาแต่ก้มหน้า ปิดปากเงียบ จนนารีนาทต้องเป็นฝ่ายตอบเพื่อนรักแทนพ่อลูกชายตัวดีของเธอ


“ อย่าไปถามเลยทิพย์ นาทคาดคั้นมาตั้งแต่กลับจากโรงเรียนแล้ว พ่อหลานชายตัวดีของทิพย์ก็ไม่ยอมบอก ”นารีนาทบอกพร้อมกับส่ายหัวกับความดื้อเงียบของบุตรชาย


“ ได้ยังไงกันลูกตาคามน์ ” ทิพย์ธาราทำท่าจะคาดคั้นหลานชายสุดที่รักต่อ แต่ก็ถูกหลานชายขัดขึ้นมาซะก่อน


“ คามน์ไม่เป็นอะไรหรอกครับป้าทิพย์ อีกอย่างคามน์ก็จัดการไอ้หมอนั่นไปแล้วด้วย ” คามินทร์เล่าเหตุการณ์ให้ทิพย์ธาราฟังอย่างออกรส แสดงถึงความเก่งกาจของตัวเอง จนทิพย์ธาราอดหัวเราะไปกับท่าทางเหล่านั้นไม่ได้


“ แล้วทำไมถึงต้องไปมีเรื่องกับเขา หึ !! ตาคามน์ บอกพ่อมาซิ ” จอมทัพถามบุตรชายด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้คนที่เพิ่งจะอวดเก่ง เงียบลงแทบจะทันที


“ คามน์ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม่ถามธาราเองก็ได้ ” นารีนาท เอ่ยกับบุตรชายพร้อมหันมาหาพยานปากเอก ที่นั่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้าง ๆ บิดา


“ ธารา … ไม่… ” เด็กหญิงส่ายหน้าหวือ พร้อมกับโบกมือปฏิเสธออกไปทันที ที่พวกผู้ใหญ่ หันหน้ามาหาเธอในฐานะพยานปากเอก


“ อย่าโกหกเชียวนะแม่ตัวแสบ ”ทิพย์ธารา เอ่ยดักคอบุตรสาวอย่างรู้ทัน ลองได้ทำหน้าอย่างนี้แสดงว่าแม่ตัวดีต้องเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ด้วยแน่ ๆ


“ คุณพ่อขา... ” คนตัวเล็กร้องหาผู้เป็นบิดาทันที เพราะคราวนี้คงไม่มีใครช่วยเธอได้อย่างแน่นอน ‘คามน์นะ คามน์ หาเรื่องเดือนร้อนให้ธาราอีกแล้ว’


“ ไม่เป็นไรนะคะคนเก่ง หนูบอกคุณแม่กับคุณป้าไปซิคะ ” วายุเอ่ยปลอบ คนตัวเล็กที่เอาแต่ซุกหน้ากับอก จนภรรยาต้องเป็นฝ่ายเขามาอุ้มลูกสาวออกมานั่งกับเธอ


“ว่าไงคะลูก ” ทิพย์ธารา เอ่ยถามบุตรสาวอย่างรอคำตอบ


“ค...คือ เมื่อตอนกลางวันโอตะเขาเอาดอกกุหลาบมาให้ธาราค่ะ เขาบอกว่าธาราน่ารักอยากแต่งงานด้วย คามินทร์มาจากไหนก็ไม่รู้พอได้ยินที่โอตะพูด คามินทร์ก็เลย...เอ่อ...เดินเข้าไปต่อยโอตะค่ะ ”เมื่อฟังจบ นารีนาทถึงกลับหันไปถามลูกชายเสียงเขียว


“คามินทร์ !!! ลูกไปทำร้ายคนอื่นก่อนได้ยังไง ” นารีนาท จ้องลูกชายอย่างเอาเรื่อง นี่ถ้าไม่ถามธารธาราเธอก็คงจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวดีของเธอ ร้ายกาจขนาดไหน


“คามน์ไม่ผิดนะครับคุณแม่ ก็ไอ้หมอนั่นมันอยากมาบอกว่าชอบธารา อยากแต่งงานกับธาราทำไมล่ะ” เด็กชายเถียงมารดาเสียงดัง อย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน


“แล้วทำไมเด็กคนนั้นถึงอยากแต่งงานกับธาราไม่ได้ล่ะ หึ!! บอกพ่อมาซิเจ้าตัวแสบ” จอมทัพ เอ่ยถามบุตรชาย เหมือนจะรู้คำตอบแล้ว


“ กะ…ก็ ” เด็กชายอึกอักไม่กล้าตอบผู้ใหญ่เพราะกลัวว่าหากพูดไปแล้วจะถูกดุ แต่เมื่อหันไปสบตากับบิดาที่ส่งยิ้มมาให้พร้อมพยักหน้าเบา ๆ เหมือนเป็นการให้กำลังใจ เด็กชายจึงรวบรวมความกล้าเดินไปหาผู้เป็นลุง กับป้า ด้วยท่าทางมั่นใจพร้อมกับพูดเสียงดังฟังชัดกับบุคคลทั้งสอง


“ว่าไง .... เจ้าหลานชาย” วายุ เอ่ยถามเหมือนจะรู้คำตอบอยู่แล้วภายในใจเช่นกัน เพียงแต่ต้องการฟังเพื่อย้ำให้แน่ใจเท่านั้น


“ คุณลุง คุณป้า ครับ โตขึ้นคามน์จะแต่งงานกับธารา ห้ามใครมาจีบธารานะครับ คามน์จองแล้ว ” เด็กชายเอ่ยเสร็จจึงหันไปหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับพูดว่า


“ รอคามน์นะ ห้ามเป็นแฟนกับใคร ธาราต้องเป็นเจ้าสาวของคามน์คนเดียวเข้าใจรึเปล่า ” เด็กชายพูดจบก็ก้มลงหอมแก้มคนตัวเล็กไปหนึ่งฟอด ท่ามกลางความตกตะลึงของมารดาทั้งสอง หากแต่วายุและจอมทัพเท่านั้นที่หันมาสบตากันก่อนที่ วายุจะเอ่ยขึ้น


“ ฉันถือว่านี่เป็นคำสัญญานะทัพ ถ้าไอ้ตัวแสบเบี้ยวฉันเอาตายแน่ ”



Nachan
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2557, 22:21:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ม.ค. 2557, 22:27:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 979





   อดีตที่แสนเจ็บปวด >>
รรวโรจน์ 9 ม.ค. 2557, 00:01:18 น.
อ้ายมีจองตัวกันแต่เด็ก 55555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account