อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 4.รังสิตา

4.
“ใช่แน่ๆ ผมจำได้” ทำไมเขาจะจำไม่ได้ล่ะ ก็ภาพของเธอคนนั้นตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขาเองอย่างประหลาดทีเดียว เขาได้พบได้เจอผู้หญิงมามากมายจนกระทั่งอายุ 28 ปี เคยมีคู่ควงก็หลายคน แต่ทุกๆ คนที่ผ่านมาแล้ว มักจะผ่านไปเมื่อกาลเวลาหมุนเปลี่ยน โดยที่ไม่มีใครสักคนอยู่ในใจเขาได้ แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ นอกจากรูปโฉมรวมถึงแววตาที่เศร้าสร้อยแล้ว วงหน้าอิ่มเอมในกรอบผมสีดำยาวมัดรวบเป็นพุ่มเงางาม มันเหมือนคนที่คุ้นเคยกันมานานแสนนาน เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครเลย

ถ้าจะบอกว่าใช่แล้ว ใช่เลย ก็คงจะใช่

แต่ก็อีกนั่นแหละ คนแปลกหน้ายิ่งเขาเป็นเพียงคนขับแท็กซี่เท่านั้น มันจะสานต่อกันไปอย่างไร

“มีอะไรหรือ” อินทรา มองตามกลับไป พบผู้หญิงผมยาวใส่เสื้อแขนยาวสีดำรัดรูป นุ่งกระโปรงจีบรอบสีขาวคลุมเข่า เธอเดินก้มหน้ามองถนนเผยให้เห็นผมหน้าม้าที่ปิดหน้าผากได้รูป ศีรษะทุยจนผมเส้นยาวสีดำที่ปกคลุมนั้นเป็นประกายแวววาว

“คนนี้แหละ คุณประดิพัทธ์” เมื่อได้ฟังประดิพัทธ์เปิดประตูลงไปทันที

เมื่อเขาเปิดประตูไปแล้ว นึกอยากจะวิ่งข้ามถนนไปหา แต่ถนนเส้นนั้นก็มีรถราวิ่งสวนทางด้วยความเร็วแทบไม่ได้หยุดหย่อน

“คุณๆ คุณๆ” ประดิพัทธ์ตะโกนเสียงดัง

โชคชัยกับอินทราลงมาจากรถแล้วร่วมตะโกนเรียกจนส่งผลให้คนในร้านมองมาที่ทั้งสามคนตาเป็นประกาย

“เฮ้ย! ทำไมไม่ได้ยินวะ ยังเดินก้มหน้าอยู่เลย”

“หูเธอเสียบหูฟังอยู่” โชคชัยตาไวกว่ารีบบอก

แล้วทั้งสามก็เกาะกลุ่มกันเดินข้ามถนน¬
------------
“คุณ!!”

เสียงร้องเรียกระยะกระชั้นชิดทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามอง เธอต้องแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อดาราหนุ่มที่เธอเองชื่นชมในผลงานความสามารถทางการแสดงและการเป็นพิธีกรรวมถึงใครอีกสองคน
ที่เธอไม่รู้จักมีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ข้างๆ

“มีอะไรหรือคะ” หญิงสาวหันซ้ายหันขวา เธองงๆ คิดว่ามีการถ่ายทำละครหรือรายการอะไรสักอย่างแถวนี้

“คุณนั่นแหละ”

“ดิฉัน?” คนพูดใช้นิ้วโป้งข้างซ้ายจิ้มบริเวณเหนือเนินอกของตนเอง

โชคชัยรู้สึกว่าเขาละสายตาจากวงหน้าของเธอไม่ได้จริงๆ
คนอะไร ทำไมถึงได้สวยได้ตรึงใจถึงขนาดนี้

“มีเรื่องอะไรกับฉันหรือคะ”

คนถามมองหน้าของคนทั้งสามสลับกันไปมา

“คือ เอ่อ พวกเรา เอ่อ” ประดิพัทธ์ รู้สึกว่าคอของเขาแห้งผากจนเสียงเปล่งออกมาไม่ได้

“เอาอย่างนี้นะคะ ขอเวลาคุณเดี๋ยวเดียวค่ะ เรามีเรื่องที่สำคัญมากๆ จะคุยกับคุณ ขอที่ที่มันสงบๆ กว่าตรงนี้แล้วกัน”

พลันสายตาของอินทราก็เห็นร้านนมสดที่มีกระจกปิดมิดชิด

“ข้างในดีกว่าค่ะ”

อินทราถือโอกาสเดินนำ แล้วดึงข้อมือหญิงสาวที่มีความสูงกว่าตนเอง เข้าไปในร้าน ประดิพัทธ์กับโชคชัย หันมามองหน้ากัน

“คนนี้แน่นะ” ประดิพัทธ์ยังแคลงใจ โชคชัยพยักหน้า สายตาของเขายังจับอยู่ที่ร่างระหงสมส่วน

“ทำไมถึงได้สวยอย่างนี้ แล้วถ้าเธอไม่รู้ไม่เห็นล่ะ ผมจะทำอย่างไรดี”

“อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักเธอ”

พูดจบ โชคชัยก็รีบผละตามสองสาวเข้าร้านนมสดไป¬
---------------
“คือ เมื่อเช้าคุณได้โดยสารรถแท็กซี่ที่นายคนนี้เป็นคนขับใช่ไหมคะ” อินทราเริ่มเรื่องเมื่อเจ้าของร้านสาวสวยถือออเดอร์กลับไป

“ค่ะ”

“คือเพื่อนของเรา” อินทราหันไปหาประดิพัทธ์ซึ่งจ้องหน้าหญิงสาวตาแทบไม่กะพริบอีกคน ซึ่งอินทราคะเนว่าถ้าไม่ได้เรื่องกระเป๋าวันนี้ อย่างน้อยสองหนุ่มนี้ก็คงได้เบอร์ของผู้หญิงหน้าสวยคนนี้ไป
เป็นแน่ๆ นึกแล้วหงุดหงิดที่เกิดมาไม่ได้สวยพริ้ง แต่เมื่อเธอเลือก
เป็นคนเจรจาแล้ว เธอต้องค่อยๆ เฟ้นคำถามที่จะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนี้
ตกอกตกใจวิ่งหนีออกไป

“คุณประดิพัทธ์”

“ครับ ขอบคุณครับที่ยังจำผมได้”

“คนดังนี่คะ” ตาสองคู่ประสานกัน โชคชัยกระแอมขึ้นมา

“เมื่อเช้า คุณขึ้นรถผมที่หน้าห้าง The Mall” คนถูกถามหันไปสบตาคนรูปหน้างดงามจนหาที่ติไม่ได้

“เมื่อเช้าผมลืมกระเป๋าเอกสารซึ่งมีเงินอยู่จำนวนหนึ่งไว้บนรถ” ประดิพัทธ์ รีบพูดเรื่องของตน

“เงินเป็นปึก” หญิงสาวเผลออุทานออกมา แล้วรีบสงบสติอารมณ์ เธอเองก็ตกใจและยังแคลงใจกับเรื่องนี้ไม่น้อย

“เอ่อ โทษทีค่ะ คุณชื่ออะไรคะ” อินทรารีบถามข้อมูลสำคัญก่อน

“รังสิตา สิตาสั้นๆ ก็ได้”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” หนุ่มทั้งคู่พูดเกือบจะพร้อมกันทีเดียว อินทรานั้นรู้ว่าในเวลานี้นายโชคชัยเป็นต่อที่หน้าตา แต่นายประดิพัทธ์เป็นต่อที่ชื่อเสียงและเครื่องแต่งตัวที่บ่งบอกถึงที่มาและที่จะไป

“ค่ะ แล้วพวกคุณๆ”

“ผมโชคชัย ส่วนไอ้นี่ อินทรา”

“เรื่องกระเป๋า” อินทราวกกลับมาที่เรื่องสำคัญ ด้วยเห็นว่าเข็มสั้นของนาฬิกาที่ข้างฝาชี้อยู่ที่เลข 10 และเข็มยาวก็ชี้อยู่ที่เลข 12

“เรื่องกระเป๋าเงิน คือ” รังสิตามีสีหน้าลำบากใจ

“คุณเห็นแล้ว เอามันลงไปด้วยใช่ไหมครับ”

คนถูกถามพยักหน้า มีเสียงถอนหายใจออกมาจากโชคชัยและอินทราทันที แต่ประดิพัทธ์ยังถามต่อ

“แล้วคุณเก็บมันไว้ที่ไหน” คำถามนั้นดูมั่นใจว่าคนรูปสวยจะต้องจิตใจดีด้วยเป็นแน่

“คือ” หญิงสาวที่ถูกมองอยู่ด้วยคนถึงสามคน พยายามที่จะไม่สบตาใครๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะแววตาของโชคชัย ซึ่งมันเปิดเผยความรู้สึกบางอย่างที่เธอเองหวั่นไหวเหมือนกัน

“ถ้าพวกคุณไม่ได้มันคืนกลับไป”

“โอ๊ย! ผมต้องตายแน่ๆ เลยครับ” ประดิพัทธ์รีบโพล่งออกมาทันที มันเกิดอะไรขึ้นกับกระเป๋าและผู้หญิงคนนี้ เมื่อไม่ใช่ของตัวก็ต้องคืนเขาสิ เขาเริ่มมีอารมณ์ แต่ด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่สุภาพขณะสนทนาจึงทำให้เขาพลอยเย็นลงไปด้วย

“ตอนนี้มันไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว”

“แล้วมันหายไปไหน” เจ้าของกระเป๋าทนระงับอารมณ์ต่อไปไม่ไหว ขณะเดียวกัน นมร้อน น้ำส้มคั้น และน้ำหนึ่งขวดแก้วเปล่าสองใบ ก็ถูกเจ้าของร้านนำมาเสิร์ฟพอดี

“ร้านเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากๆ ที่คุณประดิพัทธ์มาที่นี่ คนถูกชื่นชมตวัดมองไปหาคนพูด อินทราจำต้องสะกิดให้คนกำลังทุกข์รู้สึกตัว

“ครับๆ” เขาหัวเราะไม่เต็มปาก พยายามปรับสีหน้าให้ ‘ชื่น’ ทั้งที่ใจเกือบจะช้ำตาย

“ไม่คิดเงินนะคะ แต่ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกได้ไหม” แค่นั้นเองความอดทนของคนฟังพังครืนทันที

“นี่คุณ ผมกำลังมีเรื่องสำคัญจะคุยกัน คุณถอยไปก่อนได้ไหม”

อินทราลุกขึ้นแล้วรีบล็อคแขนแล้ว ‘ประคอง’ เจ้าของร้านหน้าหวานไปที่หลังร้านทันที เมื่อเก็บคนคลั่งดาราไปแล้ว อินทราก็เดินกลับเข้ามาพร้อมถอนหายใจออกมา

“สงบสติอารมณ์หน่อยสิ แล้วก็คุยกันเสียงเบาๆ หน่อยรู้ไหมว่าภัยจะมาถึงตัว รู้ไหม”

โชคชัยยิ้มๆ กับคนบันเทิงสองคน

“กระเป๋าเงินผมล่ะ” ประดิพัทธ์เค้นเสียงลอดไรฟันถามหน้าดุๆ ใส่หญิงสาวแสนสวยอีกรอบ ทีนี้คนฟังน้ำตารื้นขอบตาทีเดียว

“คือ คือ” เธอจะบอกอย่างไรดี เฮ้อ! เรื่องอะไรทำไมมันถึงได้เป็นอย่างนี้ เสี่ยสาธรให้ลูกน้องมากวาดเสื้อผ้ากับเครื่องสำอาง สิ่งของอื่นๆ ไปก็นับว่าหนักแล้ว แต่นี่เงินในกระเป๋าใบนั้น ที่เธอไม่คิดว่าจะมีเจ้าของตามมาทวงอีก ถ้าบอกตามความจริงไป แล้วพวกนี้จะเชื่อหรือไม่ และถ้าไม่เชื่อ ไม่น่าเลย เธอไม่น่าพยักหน้ายอมรับไปเลย ทำไมไม่รู้จักโกหกเอาตัวรอดบ้างนะ

“คืออะไรครับ” ประดิพัทธ์ยังกรุ่นไม่หาย

“ใจเย็นๆ ครับ คุณสิตาตกใจแล้ว” น้ำเสียงของโชคชัยนั้นเข้าข้างหญิงสาวเต็มที่

“ถ้าฉันบอกไป พวกคุณจะไม่หัวเราะเยาะว่าเป็นเรื่องไร้สาระนะ”

“ผมต้องการรู้แค่เรื่องกระเป๋าผมเท่านั้นนะครับ ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องอะไรของคุณอีก”

“คุณก็ฟังเขาพูดให้จบสิ แล้วคุณสิตาก็เล่าเร็วๆ พวกเราอึดอัด รู้ไหมว่าวันนี้เราตามหาคุณเกือบจะหมดทุกตึกแถบนี้แล้วนะ แล้วคุณพักอยู่ที่ไหน” อินทราต้องเก็บข้อมูลไว้ก่อนเผื่อหล่อนวิ่งหนีไปอย่างน้อยก็หาที่หมายได้ไม่ยาก

“KL” รังสิตาเผลอปากออกไป หญิงสาวพยายามสงบสติอารมณ์เพื่อคิดโต้คืน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาพยายามรุกเร้าเอากับเธอจริงจัง

“คุณค่อยๆ ตั้งสติแล้วเล่าให้พวกเราฟังว่าคุณลงจากรถพร้อมกระเป๋าแล้วตอนนี้กระเป๋าไปอยู่ที่ไหน”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจหยิบลงมาด้วยนะ ฉันไม่ใช่หัวขโมยนะ”

“ผมเชื่อคุณ แต่ผมอยากรู้ว่ากระเป๋าผมอยู่ไหน” ประดิพัทธ์ยังไม่วายหัวเสีย

หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยงามประกอบกับร่างระหงสมส่วนถอนหายใจออกมา สายตาของหญิงสาวจับมองอยู่ที่แก้วน้ำตรงหน้า

“ได้โปรดเถอะครับ” ประดิพัทธ์ใช้ไม้อ่อนดูบ้าง เพราะหลายนาทีที่สาวเจ้ามีทีท่าครุ่นคิด

“คือ ฉันติดหนี้เสี่ยสาธร แล้วทีนี้เสี่ยก็ต้องการให้ฉันไปหาท่านที่บ้าน”

“ไปหาเพื่ออะไร” อินทรารีบสวนขึ้นมา

“เพื่อ เพื่อ”

“เพื่อต้องการความสวยของคุณ”

หญิงสาวคู่สนทนาพยักหน้ารับ

“แล้วมันเกี่ยวข้องอย่างไรกับกระเป๋าเงินของผมครับ” น้ำเสียงของประดิพัทธ์จริงจังขึ้น

“ก็วันนี้ เมื่อฉันกลับมาจากซื้อของ คุณก็เห็นว่าในมือฉันมีของแยะแค่ไหน” คนพูดหันไปทางชายหนุ่มที่อยู่ในชุดคนขับแท็กซี่ เขาพยักหน้ารับ

“พอฉันเปิดประตูได้ ฉันก็โยนถุงต่างๆ เข้าไปบนเบาะ หลังจากนั้นฉันก็บอกทางกลับมาที่พัก”

“ตอนที่ลงไปคุณหยิบมันติดไปด้วย โดยที่ไม่รู้ว่ามีกระเป๋าอีกใบวางอยู่” อินทรารีบสรุป รังสิตาพยักหน้ารับ

“จนกระทั่งถึงข้างบนห้องฉันก็ยังไม่ได้รีบร้อนรื้อของที่ซื้อมาเพื่อเก็บเข้าที่ จนกระทั่งคนของเสี่ยกรูกันเข้ามา”

“บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรืออย่างไร” ประดิพัทธ์ถามขึ้นด้วยไม่อยากจะคิดว่าถ้อยคำถัดไปที่หญิงสาวจะบอกก็คือว่าไอ้พวกนั้นมันขนเอากระเป๋าออกไปด้วย

โชคชัยจ้องดูหน้าหญิงสาวสังเกตแววตาของคนเล่าแทบไม่กะพริบ ไม่ใช่ว่าเขาหลงเสน่ห์เธอจนโงหัวไม่ขึ้น แต่บางเรื่องที่เธอเล่า เธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างที่เขาเห็น แต่เรื่องที่มีคนมาเอากระเป๋าไปต่อนี่สิ แววตาของเธอนั้น มันไม่ใช่ แต่มันคืออะไร

อินทราเองก็สบตาเขาอยู่เนืองๆ คงไม่เชื่อเหมือนกัน

“บ้านเมืองมีกฎหมาย แต่คนบางคนก็สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ พวกคุณก็รู้ มาเฟีย มันเห็นแต่เฉพาะเงินเท่านั้น คนและคุณธรรมมันไม่เห็น”

“มันเอากระเป๋าไปทำไม” อินทราซักต่อ

“คิดว่าเป็นเงินของคุณ แล้วพวกมันก็รวบไป แต่เงินเป็นล้านนะคุณ คุณติดหนี้เป็นล้านเลยหรือ มันปล่อยเครดิตให้คุณเป็นล้านๆ บาทเลยหรือ” ประดิพัทธ์พยายามต้อนให้หญิงสาวพูดความจริง เขาเองก็เพิ่งนึกถึงหัวอกของตำรวจไทย ที่ต้องทนนั่งฟังเรื่องไร้สาระ เพื่อที่จะเค้นหาความจริงทั้งหมด

“ฉันนึกแล้ว พวกคุณต้องไม่เชื่อ แล้วมีประโยชน์อะไรที่ฉันจะเล่าให้ฟังอีก” รังสิตาทำเสียงน้อยใจ

“แต่ผมเชื่อคุณ คุณเล่าต่อเถอะ” โชคชัย ยังนั่งกอดอกมองหน้าหญิงสาว สายตาของเขานั้นบอกให้เธอรู้ว่าเขาอยู่ข้างเธอแน่นอน

“คือ ท่านต้องการให้ฉันตามไปเอาเงิน ก็เพื่อ ให้ฉันเสียคำพูด”

“เสียคำพูด” อินทรารีบถามคำถามที่ตนสงสัย

โชคชัยจ้องหน้าหญิงสาวเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าเงียบและฟังเขาเล่าให้จบ

“ค่ะ เราตกลงกันว่าถ้าฉันเหยียบกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก ฉันจะต้องยอมฟังคำของเสี่ย”

“เป็นเมียเขานะหรือ แล้วทำไมเขาไม่มาข่มขืนคุณเสียที่นี่ล่ะ ลูกน้องเขามาเอากระเป๋าคุณไปได้ แค่เขามาแล้วปล้ำคุณก็น่าจะได้ ไม่เห็นต้องปล่อยให้คาราคาซังกันมาถึงเรื่องกระเป๋าเงินวันนี้เลย” อินทราได้ทีใส่เป็นชุด ซึ่งคำถามนี้ประดิพัทธ์เองก็ตั้งใจจะถามกลับอยู่แล้ว

“ฉันไม่รู้จะพูดให้พวกคุณเชื่อได้อย่างไรนะ แต่ฉันอยากจะบอกว่าฉันพูดความจริง”

“วันนี้ทั้งวัน เราวิ่งหาความจริงมาตลอดว่าเรื่องมันผิดพลาดที่ตรงไหนกันแน่” อินทรายังทำตัวเป็นผู้คุมสถานการณ์อยู่เหมือนเดิม

ประดิพัทธ์เอง ก็ถอนหายใจเฮือกๆ เอามือเสยผมจนยุ่งไปหมด

“ผมอยากตายจริงๆ เลย”

“คุณรู้ไหมว่าเงินก้อนนั้นมันมีความหมายกับคุณประดิพัทธ์แค่ไหน หากคุณยังไม่ได้เอาไปใช้ทำอะไร กรุณาเถอะคืนเขาไป อย่าให้พวกเราต้องไปแจ้งความเลย”

เมื่อได้ฟังคำพูดของอินทรา รังสิตามีสีหน้าตกใจ

“คุณรู้ไหมว่าเราได้ภาพตอนที่คุณขึ้นรถคันนี้ไว้เป็นหลักฐานเพื่อแจ้งความต่อตำรวจ ให้ตำรวจช่วยเค้นความจริงจากปากคุณออกมา” อินทราถือโอกาสขู่

แล้วทั้งสามคนก็ได้เห็นน้ำตาที่ออกมาจากสีหน้าของคนตื่นตระหนก

อินทราหันซ้ายหันขวา พบว่าเจ้าของร้านซึ่งยังทำตัวเป็น ‘ปาปารัซซี’ แค่ชะเง้อชะแง้คอมองหรือว่าเขาถ่ายรูปไปแล้ว

“เราออกไปจากที่นี่กันก่อนไหม”

อินทราเสนอความคิด เพราะเธอรู้สึกว่าเรื่องมันจะบานปลายจนอาจจะควบคุมไม่ได้



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มิ.ย. 2554, 06:48:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2554, 06:49:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1953





<< 3.อยู่ไหนหนอ..   5.วันที่สอง >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 18 มิ.ย. 2554, 06:49:36 น.
เสาร์สุขอาทิตย์สนุกสาน..จุ๊บ ๆ


ปูสีน้ำเงิน 18 มิ.ย. 2554, 13:53:10 น.
น่าสงสาร แต่ไม่รู้จะสงสารใครดีนะเนี่ย


Zephyr 19 มิ.ย. 2554, 01:13:34 น.
เอ่อ สงสารหมดทุกคนเลย จะมีเสี่ยมาทำไมเนี่ย เป็นตัวแปรเลย ลุ้นๆว้่จะได้เงินคืนมั้ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account