ร้อยดาวตะวันเดียว
“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอคุณไปเอง และถ้าคุณอยากรู้ว่าฉันทำอะไรมาล่ะก็ กรุณาไปถามน้องคุณเอาเอง ถ้ารู้ไม่จริงอย่าเที่ยวมาดูถูกฉัน อย่าให้ฉันหมดศัทธาคนอย่างพวกคุณให้เร็วกว่านี้เลย มันจะทำให้ฉันไม่อยากเดินเฉียดเข้าไปใกล้อีก ขอบคุณเผยธาตุแท้ผู้ดีจอมปลอมมาให้ฉันเห็นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ออกไปซะ!!! ออกไปให้พ้นๆ หน้าฉัน”
จิณณวัตรคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคนี้หลุดออกจากปากนุ่มที่เขาเคยหลงใหลได้ปลื้มจนเผลอจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงก้าวเข้าไปมองคนตรงหน้าใกล้ๆ มองให้แน่ใจว่านี่เป็นผู้หญิงคนเดียวกับคนที่หัวใจเขาพร่ำหาแทบจะทุกวินาที
“ผมไปแน่! แต่ก่อนไปคุณต้องชดใช้ความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีให้คุณก่อน ถึงมันจะไม่คู่ควรกับความเจ็บที่ผมกำลังได้รับ แต่อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่เป็นไอ้งั่งในสายตาใคร ที่เป็นมดแดงเฝ้าพวงมะม่วง รอให้ไอ้ทีมาโฉบเอาไปกินก่อน”
อาทิตยาก้าวถอยหลังไปจนชนกับผนังห้อง เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางโกรธจัดของเขา แล้วสองไหล่ก็ถูกสองอุ้งมือเขาจับไว้แล้วบีบแรงๆ จนเจ็บ แต่ก็ยังจ้องมองดวงตาคู่ดุดันของเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“และผมก็หวังว่ามันคงจะหลงเหลืออะไรดีๆ ให้ผมกินบ้างนะ หรือจะมีแค่ซากเท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือ เละกว่านี้โทรมกว่านี้ผมก็เคยลองมาแล้ว และไม่เคยออมมือด้วยจนพวกนั้นติดอกติดใจเรียกหาผมอีกหลายต่อหลายรอบ แล้วคุณล่ะจะเป็นอย่างนั้นมั้ย จะลืมไอ้ทีแล้วหันมาเรียกใช้ผมแทนมั้ย เดี๋ยวเราจะได้รู้กัน”
เผียะ
“หยาบคาย!!! ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!!”
อาทิตยาปัดมือเขาออกจากไหล่แล้วฟาดซ้ำรอยเดิมอีก แล้วใช้สองมือผลักอกเขาจนเซออกไปหลายก้าว และนั่นเป็นโอกาสให้รีบวิ่งไปหาประตู เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ายังไม่หาทางเอาตัวรอด

Tags: รักหวานๆ เศร้า นางเอกเก่ง ฉลาด

ตอน: ใจเกือบสลายเพราะลูกชายเป็นเหตุ

และอีกสองวันต่อมานางแบบสาว ก็กำลังยิ้มด้วยความชอบใจเมื่อข่าวซุบซิบบนหน้าหนังสือพิมพ์เป็นไปตามต้องการ หลังจากสายสืบยืนยันมาแล้วว่าจิณณวัตรหอบหิ้วสาวร่างเล็กไปคอนโด โดยไม่สนใจจะง้องอนตัวเองเลย นับตั้งแต่แยกกันคืนนั้น
“คุณบังคับฉันเองนะคะจิณ บทเรียนแรกสำหรับคุณที่ริมายุ่งกับสาวแคทวอล์คอย่างริซ่าค่ะ แค่เบาะๆ เท่านั้นนะ”
ดวงหน้าสวยเก๋พูดอยู่คนเดียวอย่างสะใจ ก่อนจะรีบออกจากคอนโดหรูหรา ควบมินิคันงามไปโดยเร็ว ไม่ถึงชั่วโมงก็เข้าไปจอดในคฤหาสน์วัชราเวโรจน์แล้ว นางแบบสาวพาร่างเพรียวกับส้นสูงสี่นิ้ว กางเกงสั้นจู๋ ก้าวฉับๆ เข้าไปบอกเด็กรับใช้ที่เดินออกมาพอดี
“ฉันมาหาคุณชมจันทร์ช่วยไปบอกที อ้อ! ขอน้ำมะนาวเย็นๆ นะ ใส่น้ำเชื่อมนิดเดียวพอ ห้ามหวาน”
ว่าแล้วนางแบบสาวก็นั่งไขว้ห้างรอในห้องรับแขกโดยไม่สนใจสายตาแหม่มที่มองมาด้วยความฉงน แต่ก็ขึ้นไปตามคุณผู้หญิงมาให้อยู่ดี ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเตรียมเครื่องดื่มด้วยท่าทีเซ็งไม่น้อย
ไม่นานเจ้าของบ้านพร้อมลูกสาวคนสวยก็เดินนวยนาดลงมาตามบันได สีหน้าบ่งบอกความไม่พอใจอย่างไม่คิดจะปิดบัง ยิ่งจิรนันท์ด้วยแล้วยิ่งไม่ชอบใจนางแบบรุ่นพี่เอามากๆ โดยเฉพาะเวลาแม่คุณตอหลดตอแหลใส่ตอนอยู่ต่อหน้าพี่ชายสุดหล่อ
“หล่อนมีธุระอะไรกับฉันไม่ทราบ เพราะเท่าที่จำได้ เราไม่เคยต้องเกี่ยวข้องกันเลยนี่” ช่วงขายาวที่พาดกันอยู่รีบแยกออกจากกันเพื่อลุกขึ้นยืนยกมือไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีค่ะคุณแม่ แหม! ทำหน้าไม่ดีใจเลยนะคะเวลาเจอริซ่าน่ะ” ชมจันทร์หันขวับไปมองทันที
“ใครเป็นแม่หล่อนยะ เท่าที่จำได้ฉันมีลูกแค่สี่ ชายสองหญิงสองเท่านั้น รีบๆ พูดธุระของหล่อนมา ฉันมีเวลาไม่มาก” เลยรีบตัดบท จนคนเป็นลูกสาวถูกใจในลีลาการไล่แขกของแม่ไม่น้อย จึงส่งยิ้มอย่างคนชนะไปหารุ่นพี่สุดกร่าง
“อุ๊ย!!! ต่อไปคงจะต้องมีลูกสาวเพิ่มอีกแล้วมั้งคะ ถ้าคุณแม่ได้เห็นข่าวนี้”
ว่าแล้วนางแบบสาวก็ล้วงเอาหนังสือพิมพ์ในกระเป๋าส่งให้เจ้าของบ้านดู พร้อมกับยิ้มอย่างผู้ชนะ สองแม่ลูกไม่รอช้ารีบคว้ามาอ่านด้วยความงวยงง ชมจันทร์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เมื่อเห็นภาพลูกชายกำลังกอดกันนัวเนียกับแม่นางแบบในผับ จนถูกปาปารัสซีเอาไปลงข่าวซุบซิบดารา มีชื่อกับนามสกุลลูกชายหราด้วย
“แล้วไงล่ะ ก็แค่ข่าวซุบซิบของพวกนักข่าวว่างงาน ฉันไม่สนหรอก”
ชมจันทร์ทำใจดีสู้เสือ แม้จะโกรธลูกไม่น้อย ที่ไม่ยอมระมัดระวังตัวจนตกเป็นข่าวสะเทือนมาถึงพ่อแม่ได้ แต่นางแบบสาวกลับมีสีหน้าจริงจัง และส่งน้ำเสียงอันดังกว่าเก่าใส่เจ้าของบ้าน
“แต่ริซ่าสนนี่คะ! เพราะเป็นฝ่ายหญิง เสียหายกว่าฝ่ายชาย แล้วตอนนี้นักข่าวทุกสำนักก็ตามคอยสัมภาษณ์ริซ่าทั้งวัน จนไม่เป็นอันทำการทำงาน ริซ่าต้องการให้คุณแม่คุณพ่อหรือไม่ก็คุณจิณตอบคำถามนักข่าว ว่าตกลงความสัมพันของเราสองคนเป็นยังไง และไปถึงขั้นไหนแล้ว คุณแม่ก็รู้ดีคะว่าลูกผู้หญิงอย่างเราจะพูดเรื่องอย่างนี้เองไม่ได้ มันไม่งาม ไม่เหมาะสม”
“ฉันหรือใครๆ ไม่จำเป็นจะต้องตอบอะไรทั้งนั้น หล่อนอยากจะบอกยังไงก็ตามสบายสิยะ แต่พูดให้ดีๆ ล่ะ อย่าใส่สีตีไข่มากมายนัก เพราะถ้ามันไม่เป็นความจริง เธอนั่นล่ะจะเสียหน้าเอง” ชมจันทร์รีบแทรกด้วยน้ำเสียงดังกว่าทันที
“คุณแม่หมายความว่ายังไง นี่จะไม่รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นเหรอคะ”
นางแบบสาวก็ไม่ลดละ จึงสวนขึ้นเสียงดังกว่าเดิม สีหน้าท่าทางเอาเรื่องกว่าเดิม จนคนในบ้านตกใจ รีบวิ่งมาแอบชะเง้อมองด้วยความห่วงเจ้านาย และความอยากรู้ควบคู่กันไป โดยเฉพาะแหม่มยังคงถือถาดเครื่องดื่มสำหรับแขกอยู่เลย เพราะไม่กล้าเข้าไป
“ก็หมายความว่าพี่ชายฉันไม่มีวันจะคบหล่อนในฐานะอื่น นอกจากคู่ขา คู่นอน หรือเครื่องเอาไว้ระบายอารมณ์บนเตียงไงล่ะยะ แค่นี้หล่อนดูไม่ออกเหรอ แล้วที่บอกจะให้รับผิดชอบน่ะ ตรงส่วนไหนไม่ทราบ เพราะเท่าที่ฉันและคนในวงการรู้มา หล่อนเหลวแหลกจนไม่เหลืออะไรดีๆ เลยนะยะ แล้วแน่ใจเหรอว่านักข่าวไปเจอหล่อนกอดพี่ฉันอยู่จนได้ภาพออกมา ไม่ใช่หล่อนเป็นคนส่งให้เหมือนที่เคยทำมา เวลาเจอลูกเศรษฐีหรอกเหรอ”
จิรนันท์รอโอกาสอยู่แล้วรีบสวนกลับด้วยใบหน้าของคนถือไพ่เหนือกว่า มาริสาจ้องรุ่นน้องตาเขม็งอย่างเอาเรื่อง เพราะกำลังถูกย้อนศรอย่างจัง แต่เมื่อเดินหน้าแล้วมีหรือมือชั้นนี้จะถอย
“หล่อนหมายความว่ายังไงยะแม่แอ๊ฟแบ๊ว หรือที่พูดๆ มานี่หล่อนเคยทำ ถึงคิดเอาเองได้เป็นช็อตๆ”
“ลูกสาวฉันก็หมายความว่า คนอย่างตาจิณไม่มีทางคว้าคนอย่างเธอมาเป็นสะใภ้ให้มัวหมองวงศ์ตระกูลฉันไงล่ะ เขาบอกกับฉันเองว่าหล่อนมันก็แค่ของเล่น หรือช้อยส์ระดับท้ายๆ เท่านั้น ถ้าหล่อนไม่อยากะอายผู้คนไปมากกว่านี้ก็เชิญกลับได้แล้ว และอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก ฉันไม่ต้อนรับคนเหลวแหลกอย่างเธอ” ชมจันทร์ผสมโรงกับลูกสาวทันควัน ทำเอานางแบบดังถึงกับจ้องตาไม่กระพริบเพราะความโกรธ
“คุณแน่ใจเหรอ แต่ตอนลูกชายคุณนอนกอดฉันอยู่ไม่ยักกะพูดแบบนี้เลยนะ”
“ผู้ชายเวลามันอยากน่ะ ให้ทำอะไรมันก็ทำทั้งนั้นล่ะ เธอไม่รู้เหรอ ผ่านมาก็เยอะแล้วนี่ ไม่น่าโง่เลย” จิรนันท์แทรกขึ้นทันควัน ทำเอารุ่นพี่มองด้วยสายตาดุดัน ใบหน้าบึ้งตึงใส่ แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างอารมณ์ดีแทน
“เธอพูดเหมือนเคยอย่างนั้นล่ะ หรือว่าเบื้องหลังท่าทีแอ๊ฟแบ๊วของหล่อน จะร่านจนเหลือรับทานกันแน่ยะ” พร้อมกับส่งประโยคดูหมิ่นไปหารุ่นน้อง ทำเอาสองแม่ลูกตาโตขึ้นมาด้วยความโกรธ
“หุบปากนะ แล้วออกจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะโทรให้ตำรวจมาลากหล่อนออกไปข้อบุกรุก ใครอยู่แถวนี้บ้าง โทรเรียก รปภ. ให้ฉันทีซิ” ชมจันทร์มีท่าทีเอาจริงขึ้นมา ทำให้นางแบบสาวจำต้องล่าถอยเมื่อรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบอยู่มาก แต่ก็ไม่วายจะทิ้งลายให้เจ้าของบ้านเจ็บใจเล่นก่อน
“ไม่ต้องมาไล่หรอก ฉันแค่มาบอกให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างฉันกับลูกชายคุณ แต่ช่างเถอะถ้าคุณไม่สนใจจะช่วยฉันในเรื่องข่าว ฉันก็มีทางออกนุ่มๆ รออยู่แล้วล่ะ อย่ามาว่ากันทีหลังนะถ้ามีอะไรไม่ดีออกมาให้คุณอ่านเล่นๆ อีก อ้อ!!! พักนี้ไม่รู้เป็นอะไรนะคะ ฉันมีอาการวิงเวียนบ่อยๆ อาเจียนทุกวัน อยากจะกินของเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ ตลอดเวลา สงสัยต้องให้คุณจิณพาไปหาหมอแล้วล่ะค่ะ ว่าแต่จะเข้าทางหน้าโรงพยาบาลที่มีนักข่าวเต็มหรือจะอ้อมไปเข้าด้านหลังดีนะ”
สิ้นคำนางแบบนี้ก็พาส้นสูงสี่นิ้วก้าวฉับๆ ออกจากบ้านโดยไม่ได้สนใจสีหน้าที่โกรธแค้นของสองแม่ลูกเลยสักนิด และยังเดินไม่ถึงประตูบ้านด้วยซ้ำ
“อ๊ายยยยยยย!!! อีบ้า!!! ยัยแอ๊ฟช่วยแม่ด้วย”
“คุณแม่!!!”
ก็มีเสียงกรี๊ดดังๆ จากห้องรับแขกออกมากระทบหู ตามด้วยภาพของคนในบ้านวิ่งกรูไปทางห้องรับแขกด้วยสีหน้าตื่นๆ แต่เจ้าหล่อนยักไหล่อย่างไม่แยแสก่อนจะเดินไปหารถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว สวนกับรถของอาทิตยาตรงหน้าประตูพอดี และไม่ทันที่ร่างบางจะได้ลงจากรถ แหม่มก็วิ่งออกมา
“คุณผู้หญิงช๊อคค่ะคุณตะวัน” เพียงเท่านั้นคนในบ้านต่างก็วุ่นวายพาคุณผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคหัวใจส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านเป็นการเร่งด่วน สองพ่อลูกก็ต้องตรงดิ่งไปดูอาการอย่างเร่งด่วนไม่แพ้กัน
“บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะตาจิณว่าข่าวหลุดออกไปได้ยังไง”
เป็นประโยคแรกที่ชมจันทร์ถามออกมา หลังจาก แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้และเข้าพักในห้องผู้ป่วยพิเศษแล้ว จิณณวัตรหันไปมองพ่อด้วยในหน้ายิ้มๆ แม้จะห่วงแม่อยู่มาก แต่ก็ไม่คิดว่าแม่จะช็อคด้วยเรื่องแค่นี้
“โธ่!!! คุณแม่ครับ ผมกับเขาก็แค่คนสองคนไปเจอกัน ถูกใจกัน คิดจะศึกษากันและกันเท่านั้นล่ะครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะเรื่องลูกรับรองผมไม่ประมาทจนมีปัญหาตามมาหรอกครับ ลืมไปแล้วเหรอว่าผมอยู่อเมริกากี่ปี ถ้าผมพลาดป่านนี้คุณแม่ไม่ต้องอุ้มหลานหัวแดงๆ สักสิบคนแล้วเหรอครับ”
“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร” แม้จะไว้ใจและเชื่อคำลูกไม่น้อย แต่คนเป็นแม่ที่นอนแหมะอยู่กับเตียงก็ไม่คิดจะวางใจง่ายๆ จึงคาดคั้นไม่หยุด
“แน่ครับคุณแม่ ผมสัญญาด้วยเอ้า! ว่าถ้าผมพบคนถูกใจ และเหมาะสมจะเป็นสะใภ้เมื่อไหร่ ผมจะพาไปให้คุณแม่รู้จักเป็นคนแรกเลยครับ”
“จริงนะ! แล้วแม่นั่นล่ะจิณจะทำยังไงต่อ” ยังไม่ยอมวางใจง่ายๆ
“ชัวร์ครับคุณแม่ ส่วนริซ่าเดี๋ยวผมเคลียร์เองครับ และผมจะระวังไม่ให้เป็นข่าวมาระคายใจคุณแม่เลยครับ”
หนุ่มหล่อสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะพร้อมกับส่งยิ้มของคนไม่มีอะไรหนักใจไปหาแม่ แถมยังเผื่อแผ่ถึงแม่ถั่วงอกที่นั่งอยู่ไม่ห่างเจ้านายอีกด้วย แต่เขากลับได้ใบหน้าเฉยเมยไม่รู้สึกรู้สาจากเจ้าหล่อนแทน

แต่หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา อาทิตยาต้องมีงานเพิ่มขึ้นมาอีก ด้วยการคอยสแกนข่าวซุบซิบจหากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในทุกๆ เช้า ก่อนจะปล่อยให้ไปถึงมือคุณผู้หญิง และแน่นอนว่าบ่อยครั้งจะมีข่าว ‘ไฮโซหนุ่มหล่อเหล่าอย่างนายจิณณวัตร วัชราเวโรจน์ ควงกับนางแบบคนนั้น ดาราคนนี้’ ให้คอยดึงออกตลอดหนึ่งปีเต็มๆ
“คุณผู้หญิงอย่าลืมถามคุณแอ๊นเรื่องงานวันเกิดนะคะ”
เลขาสาวสะกิดเตือนเจ้านายระหว่างนั่งกินมื้อเช้าด้วยกันในเวลาสายกว่าปกติ เมื่อคืนปาเข้าไปตีสามกว่าจะกลับจากงานเลี้ยงฉลองครบรอบที่มูลนิธิก่อตั้งมาครบสิบห้าปี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เจ้านายชอบใจเลขาไม่น้อย เพราะทำให้คนในบ้านรู้สึกดีที่ดูเหมือนชมจันทร์ให้ความสนใจในทุกเรื่อง ทั้งที่จริงๆ เจ้าตัวไม่เคยจำอะไรไว้ในหัวเลย นอกจากเรื่องความสวยงาม
“ยะแม่ด๊อก ย้ำอยู่ได้” เลยแซวเลขาที่จบด๊อกเตอร์อย่างสมบูรณ์แล้วด้วยความอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
“เรียกอย่างเดิมดีกว่ามั้ยคะ ฟังรื่นหูกว่าเยอะเลย” จึงกล้าตีฝีปากกับเจ้านาย แม้จะไม่บ่อยครั้งก็ตาม
“ยะหล่อน” ชมจันทร์เลยเหน็บน้อยๆ ให้ จากนั้นวันทั้งวันสองคนก็แทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะอาทิตยาต้องออกไปตรวจบัญชีในร้าน กระทั่งเช้าวันต่อมาถึงได้มานั่งร่วมโต๊ะด้วยอีกครั้งพร้อมทุกคนในครอบครัวครบเจ้านาย
“แล้วแต่คุณแม่ค่ะ แอ๊นจะชวนเพื่อนๆ ในห้องมาเหมือนทุกปีแค่นั้นค่ะ”
ชมจันทร์หันไปยิ้มให้ลูกสาวเมื่อเอ่ยได้คำตอบ ไม่แพ้คนในบ้านที่มองไปหาสาวแรกรุ่นกับชุดมัธยมปลายสวยใสน่ารัก ผิดกับอาทิตยาซึ่งสังเกตเห็นแววตาคนพูดดูหม่นหมองกว่าเมื่อก่อน อีกทั้งไม่ค่อยกินอาหารเอาแต่นั่งเขี่ยไปมาเท่านั้น
“แม่จะบอกนายเล็กหัดขับรถให้นะ ขับเก่งแล้วคุณพ่อจะซื้อรถให้ แต่ตอนนี้เอานี่ไปก่อน ของแท้สั่งตรงจากเมืองนอกเลย”
แม้แต่กระเป๋าแบรนด์ดังราคาหลายแสน เด็กสาวคนก็ไม่ใคร่จะยินดีปรีดานัก ส่วนเรื่องรถนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเจ้าของวันเกิดไม่ถามต่อด้วยซ้ำ ยิ่งตอนอยู่ในงานที่จิรฐา เคยมีความสุขทุกปี ก็เหมือนฝืนยิ้มให้เพื่อนๆ หัวเราะก็เป็นไปอย่างแกนๆ กระท่อนกระแท่น หากสายตาคอยแต่จะจ้องหนุ่มน้อยในเครื่องแต่งกายทันสมัย หน้าตาหล่อเหลานามว่า ‘พี่เฟี๊ยส’ ที่สาวๆ เรียกกันออกบ่อย
“แอ๊น!!! ได้เวลาเป่าเค้กแล้วจ้า”
แต่อาทิตยาไม่เคยเห็นเจ้าของวันเกิดเรียกหนุ่มน้อยคนนั้นเลยสักคำ นอกจากเฝ้ามองและเดินไปโต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ที ตามแต่เพื่อนจะดึงไป ส่วนคนเป็นพ่อแม่หรือแม้กระทั่งพี่ๆ ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกตินี้เลย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าตัวเองคงจะคิดมากไป เลยพยายามไม่ใส่ใจอีก แถมเหน็ดเหนื่อยกับงานประจำก็มากพออยู่แล้วเลยปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปกับสายลม
“คุณตะวันยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ ป้ามีเรื่องจะปรึกษาค่ะ”
แต่ในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น ผ่อนก็มาชะเง้อคอถามอยู่ตรงประตูห้องทำงาน แถมหันซ้ายแลขวาอย่างมีพิรุธด้ว
“มีอะไรน่าตื่นเต้นเหรอคะป้า ทำเอาตะวันอยากรู้แล้วล่ะสิ”
เมื่อได้ไฟเขียวแล้ว ผ่อนก็หันกลับไปกวักมือเรียกแหม่มกับแก้มให้เข้าไปในห้องพร้อมกัน และแม้งานตรงหน้าจะมากมาย แต่อาทิตยาก็ไม่เคยละเลยความเป็นอยู่ของคนในบ้าน ที่เป็นเสมือนผู้ใต้บังคับบัญชาเลยสักครั้ง ผ่อนมีท่าทีลังเล แต่สุดท้ายก็หันไปหาแบมือรับแท่งพลาสติกคล้ายๆ ปากกามามือแห่ม แล้วส่งให้อาทิตยาทันที
“แหม่มบอกว่าเห็นในถังขยะห้องนอนคุณแอ๊น และนี่ไม่ใช่อันแรกนะคะ อันที่ห้าแล้วค่ะ” อาทิตยาแทบจะช๊อคเมื่อเห็นผลบนชุดตรวจการตั้งครรภ์ในมือ แต่ก็พยายามควบคุมความรู้สึกเอาไว้ แล้วหันไปถามน้ำเสียงเรียบ
“แล้วมีใครรู้เรื่องนี้อีกหรือเปล่าคะป้า” ผ่อนกับสองสาวทำตาโตใส่ทันที
“อุ๊ย!!! พวกเรานั่งกลุ้มมาหลายวันเพราะไม่กล้าบอกใครนี่ล่ะค่ะ กว่าจะตัดสินใจมาบอกคุณตะวันก็แทบจะทะเลาะกันเลยนะคะ กลัวเรื่องจะถึงหูคุณผู้หญิงค่ะ”
“ดีแล้วล่ะค่ะป้า งั้นเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไว้ก่อนนะคะ เอาไว้ตะวันจะถามคุณแอ๊นก่อนค่อยหาทางแก้ไขกัน แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะป้า ที่บอกตะวันเป็นคนแรก ถ้าคุณผู้หญิงรู้เข้าอาจจะช๊อคจนเข้าโรงพยาบาลแน่ๆ เลย”
ทุกคนพยักหน้ารับอย่างไม่เกี่ยงงอน แถมโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว อาทิตยารีบวอบอกเล็กไม่ให้ไปรับจิรฐา เพราะจะไปรับแทน จะได้มีโอกาสคุย แต่ก็ทำไม่ได้ในวันนั้น เมื่อเจ้านายสั่งงานด่วน



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ม.ค. 2557, 12:14:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ม.ค. 2557, 12:14:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 1404





<< คุณชายเนี๊ยบจอมเรียกร้อง   
tik 29 ก.ค. 2558, 22:27:39 น.
อยากอ่านต่อค่ะไรเตอร์ ทำไงดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account