แผนลับ นักสืบ
กอหญ้าเพิ่งมาทำงานเป็นนักข่าวได้แค่ไม่ถึงหกเดือน เธอต้องการทำข่าวนายอิทธิกรติดผู้หญิงกับมั่วยาบ่อย ๆ เธอไม่ยอมแพ้ ไปแอบอยู่ข้างบ้านนายอิทธิกรแล้วปีนต้นไม้บ้านข้าง ๆ แต่หมอหนุ่มเห็นเข้าเขาจะเรียกตำรวจ แต่เธอร้องห้ามไป ๆ มา ๆ เลยขอแอบเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเสียเลย
Tags: ึความรัก,นักข่าว,คุณหมอ,ดารา

ตอน: อิืทธิกร


อิทธิกร

รสกรอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าเขาจะความจำดีขนาดนี้

“นั่นน่ะเหรอคำว่า ‘พิเศษ’ ของคุณ”

“ใช่”

“เฮ้อ...ฉันไม่น่าหวังอะไรเลย” กอหญ้าถอนหายใจยาว “ฉันมารอคุณตั้งนานแล้ว มายืนกดกริ่งอยู่ตั้งหลายครั้ง ที่แท้คุณก็ออกไปซื้อของมานั่นเอง ขอบอกให้รู้นะว่า สุภาพสตรีน่ะ เขาไม่มาคอยใครนานๆหรอก มีแต่ฉันคนเดียวแหละ รู้ไว้ซะด้วย” ผู้มาใหม่เชิดเสียง

“ใครหรือ”

“ใครกันล่ะ ก็ฉันนี่ไง อุตส่าห์มาตามเวลาที่นัดกันไว้ แต่คุณกลับไปข้างนอก รู้อะไรไหม ฉันมายืนคอยคุณอยู่ตั้งนาน จนคุณป้าคนเมื่อกี้มาถาม เกือบฉุดฉันเข้าไปนั่งรอในบ้านเขาแล้วละ”

“เขาชื่อป้ารัตน์”

“ป้ารัตน์หรือ”

“เขาคงเห็นคุณมายืนถือกระเป๋าที่หน้าบ้านผม ก็เลยเดินมาทักทายพร้อมกับถามคำถามแปลกๆน่ะสิ” คชินทร์เหยียดยิ้ม ทำเอารสกรหันไปมองหน้าเขา

“รู้เหมือนกันเหรอ เขาหาว่าฉันเป็นแฟนคุณด้วยละ ฉันไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เออนี่…เขาบอกว่าคุณเป็นพวก เอ่อ...แอบจิตด้วยนะ”

“แอบจิตเพราะไม่สนใจหลานสาวเขาน่ะสิ”

“หา?”

“ฟ้าใสหลานสาวของเขา พยายามเข้ามาตีสนิทกับผม แต่ผมไม่สนใจ ป้ารัตน์ก็เลยคิดว่าผมเป็นพวกแอบจิตน่ะสิ”

“งั้นที่เขามาแอบดูฉันก็เพราะว่า...”

“ใช่ เขาเห็นคุณก็เลยคิดว่าผมมีแฟนแล้ว ไม่ใช่พวกแอบจิต” ใบหน้าคมคายยิ้ม “การที่คุณมาอยู่กับผมนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”

“บ้า ฉันไม่เข้าไปยุ่งกับพวกแอบจิตหรอก” เธอพึมพำ เห็นอย่างนี้ เธอก็มีชายหลายคนมาชอบพออยู่ แต่เธอมัวทำแต่งานก็เลยไม่มีเวลายุ่งเรื่องพรรค์นี้เท่าไหร่

“ผมไม่ใช่พวกแอบจิต”

“เหรอ นึกว่าใช่ซะอีก” นักข่าวสาวเหลือบสายตามองเขา

“หมอไม่ใช่พวกแอบจิต หรือว่าคุณจะเถียงว่าผมน่าจะเป็นพวกแอบจิต” คชินทร์โน้มศีรษะลงไปใกล้ๆผู้มาใหม่ ผิวของเขาขาวจัดเมื่อเทียบกับเธอ นัยน์ตาเป็นสีน้ำตาลอ่อน เส้นผมหยักศกระต้นคอ จะว่าไปแล้วรูปร่างของเขาก็สมส่วนแล้วยังมีกล้ามเนื้อ แสดงว่าเขาคงออกกำลังกายและดูแลตัวเองเป็นอย่างดีอีกด้วย “หรือคุณจะลองพิสูจน์”

“นี่คุณจะบ้าเหรอ ฉันมาอยู่กับคุณในฐานะเพื่อนนะ ไม่ได้เป็นอย่างอื่นซะหน่อย” เธอร้องเสียงหลง หวังใช้เสียงดังเข้าข่ม

“นึกว่าคุณจะใจอ่อนซะอีก” เขายิ้ม

“นาย...เดี๋ยวเถอะ” รสกรทำท่าจะยกมือหยิกแขนเขา แต่ก็ชะงักเพราะตอนนี้เธอและเขายังอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ขืนทำอะไรที่ดูเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันเข้า เดี๋ยวจะกลายเป็นขี้ปากของชาวบ้านไปเสียเปล่าๆ

“ฉันมาถึงตั้งนานแล้ว จะไม่เชิญฉันเข้าบ้านหน่อยเหรอ”

“นั่นสินะ” คชินทร์ยิ้มพลางเปิดประตูบ้านเข้าไป “เชิญครับ”

หญิงสาวก้มลงจะถือกระเป๋าสองใบเข้าไปในประตูบ้าน รสกรมองตามแล้วเหลียวมองไปรอบๆ ภายในบ้านของเขาดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสมกับเป็นคุณหมอที่กำลังศึกษาต่อ ผ้าม่านสีอ่อน ดูเข้ากับโซฟาสีขาวอย่างลงตัว มีตู้หนังสือตั้งเรียงรายอยู่ตามริมผนัง กอหญ้ามองไปรอบกายด้วยความรู้สึกทึ่ง ตามฝาผนังส่วนหนึ่งมีภาพวาดดอกไม้สีอะคลีลิก ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมดสำหรับเธอ

วันนี้แหละที่เธอจะเริ่มทำงาน เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขากลับมายามดึกๆดื่นๆกับใครที่ไหน แล้วมีข่าวเรื่องยาเสพติดหรือเปล่า เธอจะต้องทำข่าวนี้ให้ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าเธอเป็นนักข่าวมืออาชีพ

“ผมดูแลทุกอย่างภายในบ้าน แล้วจะไม่ให้ใครมาวุ่นวายเป็นอันขาด”

“รู้อยู่แล้วน่า” กอหญ้าพึมพำ “บ้านสะอาดสะอ้าน น่าอยู่มากกว่าที่คิด แล้วคุณดูแลทำความสะอาดเองทั้งหมดเลยเหรอ”

“ใช่ มีอะไร”

“แล้วตอนที่คุณไม่อยู่ล่ะ ทิ้งบ้านไปหลายวันใครจะมาดูแลให้” นักข่าวสาวเหลือบมองเพื่อนร่วมบ้านซึ่งมีรอยยิ้มน้อยๆ

“ผมก็จ้างเขามาทำความสะอาด”

“คุณออกไปข้างนอกบ่อยเหรอ” หญิงสาวถาม แอบดีใจเล็กน้อย หวังว่าเธอคงจะไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับเขาในบ้านเพียงลำพังนานๆ ในช่วงเวลาที่เธอทำงาน

“ไม่หรอก แค่นานๆครั้งน่ะ”

“เหรอ” สีหน้าของรสกรหมองลงไปทันที

“ทำไม คุณไม่อยากอยู่ร่วมกับเจ้าของบ้านหรือ” เขาเอ่ยเหมือนรู้ทัน

“เปล่าซะหน่อย ฉันแค่ถามๆไปอย่างนั้นแหละ”

“บอกไว้เลยนะว่าตราบใดที่คุณยังอยู่ที่นี่ คุณจะต้องดูแลทุกอย่างตามที่เราได้สัญญากันไว้ และยังต้องคอยทำกับข้าวให้ผมกินด้วย เพราะว่าผมจะไม่ทำเด็ดขาด” เขาเอ่ยเสียงเข้ม

“รู้แล้วล่ะน่า ช่วยพาฉันเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ”

“เรื่องบ้านอิทธิกรน่ะ เอาไว้ตอนมืดๆก่อนเถอะ ตอนนี้เขาไม่อยู่บ้าน”

“ทำไมล่ะ” เธอร้อง “นี่เขาไม่อยู่เหรอ”

“คุณไม่รู้แล้วผมจะรู้หรือ เอ…หรือสงสัยเขาจะรู้ว่ามีคนมาดักซุ่มอยู่บ้านข้างๆ ก็เลยกลับดึกซะอย่างนั้น ผมละสงสัยจริงๆนะว่าพวกปาปารัสซี่อย่างพวกคุณนี่ หากินกับข่าวฉาวของพวกดาราเป็นอาชีพหรือเปล่า” น้ำเสียงของเขามีแววเยาะ ทำเอาอีกฝ่ายสะอึก

“ปกติฉันก็ไม่เคยหาความจริงกับคนดีๆทั่วไปอยู่แล้ว แต่สืบหาความจริงเกี่ยวกับการมั่วผู้หญิงกับยาเสพติดของพวกดาราเลวๆ ที่ฉากหน้าเพียงแต่ใช้หน้าตาดีๆมาหลอกคนทั่วไปว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ข่าวลืออะไรนั่นเป็นแค่การกุข่าวของนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ดาราเท่านั้น”

“แล้วไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลเลยหรือ”

“คำนึงสิ แต่ว่าถ้าเขาไม่ได้ทำความผิดจริง นักข่าวอย่างฉันก็คงไม่ต้องมาสืบหาความผิดหรอกมั้ง”

“แปลว่าที่เขาทำผิดก็คือการปิดบังสินะ”

“ถ้าไม่ได้ทำผิด ฉันก็คงไม่ต้องมาอยู่ในบ้านหลังนี้หรอก”

“นั่นสินะ” ชายหนุ่มยักไหล่ “ดีนะที่ผมเป็นแค่หมอ ไม่ได้เป็นพวกดารา”

รสกรลอบชำเลืองมองคนพูด เส้นผมหยักศก คิ้วเข้มบนดวงตายาวรีสีน้ำตาล จมูกโด่งเป็นสัน เรียวปากที่เหมือนจะนิ่งเงียบ แต่พอขยับปากพูดทีไรมันชวนมองทุกที หุ่นล่ำเป็นพิเศษในยามนี้ ดูๆไปแล้วเขาน่าจะเป็นดารามากกว่าเป็นหมอที่อยู่ในห้องแลบ

“มีอะไรหรือ”

“เปล่า” เธอรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “แค่กำลังตั้งใจฟังอยู่”

“เอ้านี่” เขาพูดพลางถือถุงหิ้วใบใหญ่มาให้เธอ รสกรมองถุงหิ้วใบใหญ่ด้วยความสงสัย

“อะไรคะ”

“ผมออกไปซื้อของข้างนอก แล้วก็แวะซื้อของมาให้ รับไปสิ”

หญิงสาวมองดู แล้วก็รับถุงในมือของเขามาเปิดออก ข้างในเป็นถุงใส่ผักกับเนื้อและปลาที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเกต หญิงสาวอ้าปากค้าง เพราะดูจากปริมาณแล้ว เกือบทำเป็นอาหารเป็นจานใหญ่สำหรับคนหลาย แถมยังมีไก่ ปลาอีกหลายตัวที่เขาซื้อมาอีก

“นี่คุณซื้อมาเองหมดเลยเหรอ”

“ใช่”

“เยอะขนาดนี้ จะกินกันหมดเหรอ”

“คุณไม่กินใช่ไหม” ว่าแล้วเขาก็ดึงถุงในมือของเธอกลับมา

“เดี๋ยวสิ” กอหญ้าเอื้อมมือไปดึงกลับมาซะก่อน “กินน่ะกินอยู่ แต่ว่าถ้าจะให้ทำกันหมด ฉันกลัวว่าจะกินไม่หมดน่ะสิ”

“ก็ทำเท่าที่จะกินไง อันไหนยังไม่กินก็แช่ตู้เย็นไว้สิ” หมอหนุ่มสรุปพลางท้าวเอว “หรือคุณจะทำให้หมดแล้วออกไปเรียกผู้คนแถวนี้มากินด้วยกันก็ได้นะ”

“บ้าเหรอ มาเลยฉันทำได้หมดแหละ ไม่ต้องคอยให้คุณมาสอนหรอก”

“งั้นก็เอาสิ”

“ทำแค่อย่างสองอย่างก็พอนะ”

“แค่สองอย่างเองเหรอ”

“ทำไมคะ”

“เปล่า ตอนนี้จู่ๆมีคนมานั่งกินข้าวด้วย อย่างน้อยก็น่าจะสักสามอย่างนะ” คชินทร์เหยียดยิ้ม

“ฉันไม่ได้กินข้าวจุขนาดนั้นสักหน่อย” เธอเสียงแข็ง

“ผมก็แค่เผื่อ เอาเป็นว่าสักสามอย่างก็พอ”

“รู้แล้วค่ะ เจ้านาย”

นักข่าวสาวมือใหม่ยอกย้อน พลางถือถุงหิ้วเข้าไปในครัว ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขายืนพิงขอบประตูแล้วยกมือขึ้นกอดอก มองดูหญิงสาวจัดการเรื่องทุกอย่างในครัว เขาเห็นเธอเปิดตู้เย็นหาอะไรเงอะงะอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็ค่อยเข้าที่ ใบหน้าหวานกับเรียวปากระเรื่อเม้มเข้าหากันนิดๆ ผมที่ตรงยาวมัดเป็นหางม้าที่ไว้ด้านหลัง มีไรผมประหน้าผากมนเล็กน้อย จมูกโด่งเชิดรั้นกับดวงตาคู่สวยสีดำขลับ แลดูเป็นแม่บ้านมากกว่าที่เขาคิด…

“นี่คุณจะพาฉันไปไหนเหรอ”
“แล้วคุณจะรู้เอง”

รสกรเพิ่งล้างจานเสร็จยังไม่ได้จัดมันเรียงในตู้เลย คชินทร์ก็มาตามเธอเสียก่อน เขาเดินนำขึ้นไปยังด้านบนที่เป็นห้องติดกับห้องของเธอ พอถึงบริเวณหน้าห้องของหมอหนุ่มก็โน้มศีรษะเข้ามาใกล้ ทำเอาเธอถึงกับกระพริบตาถี่ๆ นี่ถ้าไม่นึกได้ว่ามือไม่เปียกอยู่ มีหวังเธอคงผลักอกเขาออกไปแล้ว

“นี่จะทำอะไรน่ะ”

“คุณเอากล้องมาหรือเปล่า” เขาเอ่ยเสียงต่ำ

“อะไรนะ”

“เครื่องมือหากินของคุณน่ะ เอามาหรือเปล่า”

“ถามได้ก็ต้องเอามาสิ นายอิทธิกรนั่นกลับมาแล้วเหรอ” นักข่าวสาวมือใหม่ถามนัยน์ตาวาววับ “ดีจัง ขอเวลาเดี๋ยวนะ ฉันเข้าไปเอากล้องก่อน ส่วนคุณไปได้แล้ว”

“ไม่ได้ ต้องห้องนี้เท่านั้น”

คชินทร์ดึงมือเธอไว้ รสกรขมวดคิ้วมองตรงไปยังห้องนอนของเขาแล้วก็ต้องหน้าแดงด้วยความโกรธ นี่เขาจะให้เธอไปแอบถ่ายในห้องนอนของเขาสองต่อสอง แบบนี้มันผิดจากที่ตกลงกันเอาไว้นี่นา ที่ตกลงกันคือเธอจะคอยดูนายอิทธิกรจากภายในห้องนอนของเธอต่างหาก แล้วมันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง

“หมายถึงฉันต้องไปแอบถ่ายอยู่ในห้องของคุณอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่”

“คนบ้า คนผีทะเล นี่มันผิดจากที่ตกลงกันเอาไว้ตอนแรกนี่นา” กอหญ้ากระชากคอแขนเสื้อชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง

“นี่คุณ ผมหมายถึงให้คุณอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะยอมอนุญาตให้คุณแอบถ่ายจากตรงไหนก็ได้ ถ้าคุณจะแอบถ่ายอยู่ในห้องนอนของคุณ ผมบอกได้เลยว่าคุณคงจะมองไม่เห็นอะไร นอกจากกิ่งไม้บังเต็มไปหมด แถมมุมก็ยังไม่ได้ อย่าว่าแต่แอบถ่ายเลย แม้แต่มองหน้าเขาให้ชัด ผมว่าไม่มีทาง”

“อะไรนะ แล้วทำไมไม่บอกล่ะ” รสกรหน้าซีดเผือด เธออุตส่าห์ลงทุนแฝงตัวเข้ามาภายในบ้านหลังนี้แล้ว จู่ๆจะให้แอบถ่ายกิ่งไม้เนี่ยนะ

“ผมจะบอกอยู่นี่ไง ส่วนคุณจะยอมไปหรือไม่มันก็เรื่องของคุณ” น้ำเสียงของเขานิ่งสนิท “ห้องของผมมันอยู่ติดกับทางหน้าบ้านที่รถยนต์มาจอดพอดี แล้วก็สามารถมองเห็นได้กว้างกว่า เพราะไม่มีกิ่งไม้บังเหมือนห้องคุณ ที่ผมจะบอกมีอยู่แค่นี้คุณโอเคหรือเปล่า”

“หมายถึงฉันต้องไปทำงานในห้องนอนคุณเนี่ยนะ”

“ผมไม่ได้บังคับ แค่บอกเฉยๆ”

เอายังไงดีล่ะ นี่ขนาดเธอมาแอบนอนในบ้านของเขาโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกันมันก็หนักหนาพออยู่แล้ว แล้วนี่ยังต้องมาแอบซุ่มอยู่ในห้องนอนเดียวกันกับชายหนุ่มโสดอีก เธออยากจะบ้าตายเสียให้ได้

“เอายังไงดีนะ”

“มัวแต่ช้า เดี๋ยวนายอิทธิกรอะไรนั่นก็เข้าบ้านไปก่อนหรอก”

“โอเค รอเดี๋ยวนะ ฉันไปเอากล้องมาก่อน รออยู่ที่นี่นะ”

หญิงสาวไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องถือกล้องสะพายออกมาวิ่งเข้าไปในห้องของชายหนุ่ม ภายในห้องของเขามีเตียงเล็กๆกับตู้หนังสือขนาดใหญ่ที่แลดูสะอาดสะอ้านมาก รสกรมองคชินทร์ที่เขานั่งอยู่ในห้องริมหน้าต่าง เธอเดินไปมองดูอิทธิกรที่เดินลงมาจากรถ พร้อมด้วยชายอีกคนที่มาพร้อมกับเขา

“ผู้ชายนี่ ใครกันนะ”

“คุณไม่รู้หรือ ผมเห็นเขามากับอิทธิกรบ่อยๆ”

“เดี๋ยวขอดูก่อนนะ” หญิงสาวใช้เลนซ์ซูมเข้าไปใกล้ชัดๆ “นั่นมันคุณวินได้รับบทพระรองในเรื่องที่อิทธิกรได้เป็นพระเอกนี่นา เขาสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่”

ชินเหยียดยิ้ม “ดูต่อไปสิ”

รสกรมองดูตามที่คชินทร์บอก เธอมองเห็นชายสองคนกำลังโน้มศีรษะใกล้กัน ในขณะที่อิทธิกรเอาแขนขวาโอบไหล่วินไว้ ดูจากสายตาของผู้ชายสองคนและลักษณะการใกล้ชิดกันที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดีพยายามสลัดภาพบางอย่างออกจากความคิด ทว่าภาพต่อมา ทำให้นักข่าวสาวอ้าปากค้าง ก็คือภาพนายอิทธิกรโน้มศีรษะลงมากระซิบอะไรบางอย่างที่ริมหูนายวินแบบชัดเต็มสองตา

“พวกเขาเป็นเกย์เหรอเนี่ย”

อาการตกใจทำให้รสกรเผลอร้องเสียงดัง เป็นเหตุให้ทั้งสองคนที่อยู่ด้านล่างรีบผละออกจากกัน และหันขึ้นมามองหน้าต่างห้องคชินทร์ ร้อนถึงหมอหนุ่มที่ต้องปิดปากของเธอไม่ให้ส่งเสียงร้อง แล้วรวบเอวบางหลบฉากเข้ามาในห้อง หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ เธอแน่ใจว่าตาไม่ฝาด เมื่อกี้เธอเห็นผู้ชายสองคนกระซิบกันจริงๆ

“เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหมดหรอก” คชินทร์กระซิบแผ่วที่ริมหู

“อื้อ” รสกรสูดลมหายใจเข้าไปในปอด เธอชะโงกหน้ามองภาพเบื้องหน้าเต็มๆตาอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ทั้งสองพากันเดินเข้าบ้าน แถมยังมองไปรอบกายอย่างหวาดระแวง นักข่าวสาวรีบหันหน้าไปทางประตูบ้าน และเห็นว่าดวงไฟเปิดอยู่ เธอรีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง แต่นายอิทธิกรก็ปิดผ้าม่านทันที “มองไม่เห็นอะไรเลย”

“ก็น่าอยู่หรอก จู่ๆก็ได้ยินเสียงร้องดังแบบนี้”

“ก็เมื่อกี้ ฉันเห็นเขา...” เธอกลืนน้ำลาย

“ผู้ชายก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวคุยกันบ้างสิ”

“แต่เมื่อกี้ฉันเห็นเขาโน้มตัวลงมาเหมือนจะหอมแก้มกันด้วยนะ” เธอไม่เชื่อว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นความจริง

“มันมืดขนาดนั้น คุณอาจแค่เข้าใจผิดก็ได้”



“พวกเขาต้องเป็นเกย์กันแน่ๆ”

“นี่คุณ อย่าตัดสินใจตอนที่เห็นภาพภาพเดียวสิ ถ้าคุณจะตัดสินใจว่าเขาเป็นเกย์ละก็ เอาไว้ให้ได้หลักฐานที่ดีกว่านี้หน่อย”

“ถ่ายภาพ จริงสิ ฉันลืมไปเลยเมื่อกี้ ให้ตายสิเพราะคุณมัวแต่ปิดปากฉัน ฉันเลยเสียโอกาสถ่ายภาพเมื่อตะกี้นี้ไปเลย” นักข่าวสาวหันไปเถียงคอเป็นเอ็น อุตส่าห์จะได้ภาพดีๆอยู่แล้ว แต่ดันมาเสียโอกาสไปซะนี่

“ช่วยไม่ได้ คุณอยากร้องเสียงดังเองนี่”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เพราะคุณ ฉันถึงเสียภาพดีๆไป ไม่รู้แหละ คืนนี้คุณต้องให้ฉันนอนที่นี่เพื่อถ่ายภาพตอนที่สองคนนั่นเดินออกมา รู้ไว้ซะด้วย”

คชินทร์ถอนหายใจยาว ดูท่าว่าคืนนี้เขาจะไม่ได้อ่านหนังสือเงียบๆคนเดียวซะแล้ว ชายหนุ่มชำเลืองมองหญิงสาวที่เอาแต่ส่องหน้าต่างบ้านดาราหนุ่มชื่อดัง พลางคิดว่าถ้าเขาไล่เธออกไปตอนนี้ รสกรจะไม่ร้องไห้หรอกหรือ ทว่าความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่ได้ชอบพวกปาปารัสซี่สักเท่าไหร่

“เชิญคุณออกไปได้แล้ว ผมจะนอน” เขาเอ่ยเสียงเข้ม

“ไม่ ฉันจะอยู่ที่นี่กับคุณ”

“ให้ตายสิ นี่คุณมาบ้านของผมเป็นครั้งแรก แล้วนี่จะบุกห้องนอนกันแล้วหรือ ผมไม่อนุญาตเด็ดขาด เชิญคุณออกไปได้แล้ว”

“ฉันก็นอนของฉัน คุณก็นอนของคุณ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันสักหน่อย” หญิงสาวยังอุตส่าห์เถียงข้างๆคูๆ

“ไม่ได้ ผมจะอ่านหนังสือ”

“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นคุณก็อ่านหนังสือของคุณไป ส่วนฉันก็จะคอยซุ่มดูเขา แบบนี้ยุติธรรมดีจะตายไป” รสกรยิ้มหน้าตาสดใส

“ผมนอนไม่หลับถ้ามีคนอยู่ด้านข้าง”

“ถ้าอย่างนั้น...”

“และนอนไม่หลับถ้ามีคนนอนอยู่บนเตียง แล้วอีกอย่างนะ คือตอนนอนผมไม่นิยมสวมใส่อะไรเลย ถ้าคุณฟังแล้วอยากนอนเตียงเดียวกับผมละก็ เชิญตามสบาย” ได้ผล เมื่อคำขู่ของหมอหนุ่มทำให้รสกรหน้าแดงจัด

“หน้าไม่อาย นอนก็นอนเฉยๆ สิทำไมต้องนอนแก้ผ้าด้วย”

“ผมนอนไม่หลับถ้ายังสวมเสื้อผ้า เอาละ ว่ายังไงยังจะนอนอีกไหม” คชินทร์พูดแถมยังก้าวเข้าหารสกรที่นั่งอยู่บนเตียงอีกด้วย เธอตัวลีบถอยหลังจนเกือบตกเตียง แต่อีกฝ่ายไวกว่า ฝ่ามือของเขายึดเธอไว้ทาบทับลงบนที่นอน หญิงสาวใจเต้นระรัว

นี่เธอเข้ามาในบ้านเขาเพื่อสืบหาข่าวนะ

“ฉันจะไปนอนในห้อง”

“แน่นะ”

“ฉัน…ฉันจะไปนอนแล้ว แค่นี้นะ ราตรีสวัสดิ์” ว่าแล้ว เธอก็เผ่นออกจากเตียงของเขา แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ปิดประตูเสียงดังปัง

หญิงสาวถอนหายใจยาว ใจยังเต้นตึกตัก มีอย่างที่ไหน รู้ทั้งรู้ว่าเธอจะมาพักอยู่ด้วยในระหว่างการทำข่าว แทนที่เขาจะย้ายออกมานอนที่ห้องนี้แล้วให้เธอไปนอนในห้องนั้น เขากลับทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังบอกว่านอนไม่หลับถ้ามีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย บ้าที่สุดเลย

“คอยดูนะ วันพรุ่งนี้ฉันจะไปปลุกนายแต่เช้าเลย คอยดู”

หญิงสาวเม้มปากแน่น คอยดูเถอะ พรุ่งนี้เช้านายอิทธิกรจะต้องออกมาส่งวิน แล้วไปทำงานกันตั้งแต่เช้า ถึงตอนนั้นเธอก็จะมีโอกาสทำข่าวพระเอกหนุ่มสุดฮอตคบหากับพระรองอย่างลับๆ ดีเสียอีกเธอจะได้ข่าวไปเขียน และไม่ต้องอยู่บ้านหลังนี้อีกต่อไป...


แสงแดดสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ตกกระทบใบหน้าและแพขนตาหนาทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น เธอเอาผ้าห่มขึ้นมาบังเพื่อหลบแสงดวงอาทิตย์ที่เล็ดลอดออกมาทางหน้าต่าง เมื่อกอหญ้าลืมตาขึ้นมอง เธอก็ต้องลืมตาโตด้วยความตกใจ ร่างบางรีบเปิดหน้าต่างออกไปมองบ้านข้างๆ แต่แล้วรถยนต์ที่จอดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนก็หายไป โดยที่เธอหลับไม่รู้ตัวสักนิด นักข่าวสาวมือใหม่ถึงกับหน้าซีด

“กี่โมงแล้วนี่” เธอควานหานาฬิกาข้อมือขึ้นมามองเวลา เจ็ดโมงกว่าแล้วหรือเนี่ย “แย่แล้ว นี่เราตื่นสาย” รสกรหน้าซีดเผือด “ทำยังไงดี เขาออกไปตอนกี่โมงก็ไม่รู้”

หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวมใส่ เวลานี้สิ่งที่เธอต้องทำคือการเคาะประตูห้องนอนของนายเด็กเนิร์ด แล้วถามเขาว่าเห็นคนสองคนออกจากไปด้วยกันหรือเปล่า เขาสนิทกันแค่ไหน แล้วมีเหตุการณ์อะไรทำให้รู้ว่าอิทธิกรกับวินเป็นอะไรกันแน่ เธออยากรู้เหลือเกิน

“คุณชิน อยู่หรือเปล่า” รสกรเดินไปเคาะเรียกหน้าห้องของเขา “ฉันตื่นสาย คุณมองเห็นพวกเขาตอนออกไปข้างนอกหรือเปล่า”

ทว่าเงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับมา

“ไม่ได้ล็อกนี่” เธอลองเปิดกลอนดู ก่อนดันประตูไม้ออก “ยังไม่ตื่นอีกเหรอ”

คชินทร์ยังนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลามีเคราเขียวครึ้มน้อยๆ ดวงตาที่ปิดสนิทเผยให้เห็นแพขนตาหนา มือข้างหนึ่งก่ายอยู่หน้าผาก อีกมือหนึ่งวางบนหนังสือเล่มหนาที่อยู่บนแผ่นอก แผ่นอกหนาได้รูปสมสัดส่วน

หญิงสาวถอนหายใจยาว อุตส่าห์คิดว่าเขาคงจะตื่นแต่เช้า แต่ที่ไหนได้กลับยังหลับเสียอย่างนั้น เธอมองดูใบหน้ายามหลับสนิทของหมอหนุ่ม ใบหน้าของเขาดูอ่อนโยนกว่าปกติ หญิงสาวเอียงคอมองดูหมอหนุ่มให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ก่อนตัดสินใจเอื้อมมือไปเขย่าตัวเขาแรงๆ

“ตื่นได้แล้ว นี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้วนะ”

คชินทร์ลืมตาขึ้นมามอง แล้วทำท่าจะหลับต่อ

“นี่คุณชิน คุณเห็นคุณอิทธิกรเดินไปจากหรือเปล่า ฉันตื่นสายก็เลยมาถามคุณนี่ไง”

“อืม...”

“คุณชิน....ว้าย”

หญิงสาวร้องเสียงดังเพราะถูกดึงแขนเข้าไปใกล้จนล้มลงไป เหมือนโลกจะหยุดหมุนเมื่อเธอถูกมือหนาจับไหล่แล้วหมุนลงไปนอนกองบนเตียง และมีชายหนุ่มนอนอยู่ด้านบน ใบหน้าของเขาขมวดคิ้วเมื่อมองหน้าเธอใกล้ๆ ใบหน้าของเธอซีดขาวจัด ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอมองลงไปที่ด้านล่างของเขาโดยอัตโนมัติและก็เห็นเขาสวมกางเกงเอวบางตัวสีขาว และนั่นทำให้เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก

“เอ่อ...คุณไม่ได้นอนเปลือยนี่”

“ให้ตายสิ ที่คุณอุตส่าห์มาปลุกผมแต่เช้า ก็เพราะต้องการดูว่าผมนอนไม่ใส่อะไรเลยงั้นสิ” น้ำเสียงของเขาเครียดจัด “หรือคุณอยากจะเห็น”

“ไม่ใช่” เธอรีบปฏิเสธทันทีแก้มแดงปลั่ง “ฉันนอนตื่นสาย ก็เลยเข้ามาหาคุณถึงในห้อง ว่าคุณเห็นคุณอิทธิกรออกไปกับนายวินหรือเปล่า”

คชินทร์ขมวดคิ้วเข้ม

“ผมหลับสนิทเหมือนกันคุณนั่นแหละ”

“ว่าแล้วเชียว”

เธอพึมพำอย่างผิดหวัง แต่ในเวลานี้สิ่งที่ทำให้หญิงสาวหน้าแดงจัดก็คือสภาพของเธอที่นอนอยู่บนเตียงนี่แหละ ถึงแม้ว่าชินจะเป็นเจ้าของห้อง แต่การที่เธอมานอนอยู่เตียงนอนของเขา ในลักษณะที่เหมือนกับละครตบจูบอะไรแบบนั้น มันทำให้กอหญ้าหน้าแดงจัด เธอออกแรงผลักเขาออกสุดแรงด้วยความโมโห

“จะทำอะไรน่ะ” เธออุทาน “ไม่ต้องมาฉวยโอกาสเลยนะ ฉันไม่หลงกลคุณหรอก”

“ฉวยโอกาสอะไรหรือ” เขาเลิกคิ้ว

“ก็เมื่อกี้ฉันยืนอยู่ดีๆ แล้วคุณก็เอ่อ...” รสกรอึกอัก

“อ๋อ คุณอยากมายืนอยู่ใกล้ๆ เองนี่นา ผมมันเป็นพวกมือไว ไม่ชอบให้ใครมายืนใกล้ๆตอนหลับน่ะ”

นักข่าวสาวเม้มปากแน่น “ขอโทษที่ฉันมาปลุกคุณ” หญิงสาวชำเลืองสายตามองหนังสือ “นี่หนังสือคุณเหรอ”

“ใช่”

“คุณอ่านหนังสือจนนอนหลับไปทั้งที่ยังวางหนังสือไว้บนอกเนี่ยนะ” กอหญ้าร้องอุทาน นี่ถ้าเป็นเธอละก็ มีหวังคงนอนหลับสนิทไปตั้งแต่อ่านบรรทัดแรกแล้ว

“ก็ประมาณนั้น” คชินทร์ถอนหายใจยาว

“แย่จริงๆ อุตส่าห์จะได้ข่าวดีๆแล้วเชียว” หญิงสาวเอ่ย

“คุณช่วยออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว” จู่ๆคชินทร์ชินก็ทำเสียงขุ่น จนหญิงสาวเงยหน้ามองเขา

“ทำไมล่ะ”

“คุณนอนอยู่บนเตียงของผม ถ้าไม่อยากลุกออกไปก็ช่วยขยับออกไปห่างๆผมหน่อย”

คำพูดของเขาทำให้รสกรก้มลงมองชุดนอนของตัวเองทันที เพราะว่าเมื่อคืนอากาศค่อนข้างร้อน เธอจึงติดกระดุมแค่สองเม็ดกับกางเกงตัวสั้น แถมตอนนี้เธอก็กำลังนั่งใกล้ชิดกับเขาที่นั่งขันเข่าอยู่บนเตียง หญิงสาวหน้าแดงจัดไปถึงใบหูรีบเอามือตะครุบเสื้อไว้ทันที

“ฉะ…ฉันจะลงไปข้างล่าง ขอตัวก่อนนะ”

“เชิญ”

คชินทร์มองดูรสกรขยับลงจากเตียงออกไปทางประตู พร้อมกับถอนหายใจยาวอย่างหนักใจ ดูเหมือนการที่เขายอมอนุญาตให้เธอเข้ามาทำข่าวในบ้านหลังนี้ กับการที่จู่ๆเธอก็บุกเข้ามาถึงห้องนอนของเขาในยามเช้า ดูท่าจะกลายเป็นเรื่องหนักอกมากกว่าเสียแล้ว....

“คุณเอาของมาหรือเปล่า”

เสียงของไฮโซสาวกระซิบแผ่วที่ริมหูของนักแสดงหนุ่มในมุมมืดที่ลับตาคน อิทธิกรชำเลืองมองไปทางซ้ายทีขวาที เมื่อไม่เห็นใครแล้วเขาจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ตแล้วยื่นอะไรบางอย่างส่งให้หญิงสาวทันที

“มีอยู่แค่นี้แหละ”

“แค่นี้จะไปพออะไร อย่าทำให้ฉันเสียเวลาสิ” น้ำค้างทำท่าจะล้วงเข้าไปในเสื้อของเขา

“ไม่มีหรอก” เขายิ้มนัยน์ตาวาว “แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการมากกว่านี้ ผมยินดีเอามาให้คุณก็ได้นะ”

“แล้วคุณจะแลกเปลี่ยนกับอะไรล่ะ” ไฮโซสาวเหยียดยิ้ม

อิทธิกรเป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาเข้าวงการมาในฐานะนายแบบก่อนจะถูกชักชวนมาให้เป็นนักแสดง โดยได้เล่นเป็นพระเอกตลอดมา ด้วยความสามารถของเขาทำให้อิทธิกรมีงานและชื่อเสียงขึ้นมาได้ แต่ทว่าเงินทองและชื่อเสียงย่อมทำให้อิทธิกรเริ่มเสียนิสัย เขาใช้เงินเป็นว่าเล่น ทั้งติดผู้หญิงและติดยา เสพหนักจนถอนตัวไม่ขึ้น ต่อมาเขาได้รู้จักกับน้ำค้าง แม้เธอจะมีสามีแล้ว แต่ยังคงแอบคลอเคลียอยู่กับอิทธิกรไม่ห่าง

เรียกได้ว่าลืมสามีสุดที่รักของตัวด้วยซ้ำไป

“ความจริงใจไงละครับ”

น้ำค้างมองเขา นัยน์ตาพราวระยับ “ถ้าอย่างนั้น ข่าวที่ว่าคุณสนิทสนมกับคุณวิน เรื่องพรรค์นั้นก็คงไม่จริงใช่ไหมคะ” น้ำค้างยิ้มละไม นัยน์ตาคู่สวยของเธอเป็นประกาย

อิทธิกรหน้าเปลี่ยนเป็นสีเข้มก่อนจะเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนทันที มือของเขาลูบไล้ไปตามเรียวแขนนุ่มละมุน

“พูดอะไรอย่างนั้นละครับ ผมมีแต่คุณคนเดียว คุณก็รู้”

“ฉันยังไม่ได้บอกสักคำ ว่าคุณกับคุณวินมีความสัมพันธ์กันแบบไหน” เธอปรายตามองเขา อิทธิกรหัวเราะเสียงแผ่ว

“ความสัมพันธ์แบบที่คุณว่า...ผมมีแต่คุณคนเดียวเท่านั้น”

“จริงหรือคะ”

“จริงสิครับ ว่าแต่...วันเกิดคุณครั้งหน้าเราจะไปจัดงานที่ไหนดีล่ะ” เขายิ้ม น้ำค้างถือเป็นไฮโซที่มีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมากมาย ทั้งนายตำรวจ นักการเมือง ที่ไหนมีจัดปาร์ตี้อะไรเธอไปหมด และที่สำคัญงานนี้ไม่ได้มีแค่เลี้ยงเหล้ากันธรรมดา แต่ยังมียาเสพติดไว้ให้ลองเสพอีกด้วย

“ที่ซันไรส์ดีไหมคะ หรือว่า....จะเป็นที่บ้านคุณดี”

“ที่ไหนก็ได้ครับ ขอแค่มีคุณอยู่ด้วย”

“ปกติแล้วพ่อของฉันไม่ค่อยให้จัดงานปาร์ตี้นักหรอกนะคะ ท่านเกรงว่าเราจะสนุกสนานกันเกินเหตุ” น้ำค้างยิ้มละไม

“แล้วคุณว่ายังไง”

“ฉันเหรอ...ฉันก็บอกว่าค่ะพ่อ ลูกจะเป็นลูกที่ดี คอยเชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ แล้วก็จะดื่มกันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”

อิทธิกรหัวเราะร่วน นึกสงสารคนที่เป็นพ่อแม่ของเธอ

“พูดมีเหตุผลนะ ผมเองก็ไม่อยากให้คุณเมามายเหมือนกัน” เขากระซิบแผ่ว

น้ำค้างกระซิบแผ่วที่ใบหู “แน่ใจหรือคะ...ว่าคุณพูดจริง”

บนคอนโดมิเนียม อิทธิกรนั่งดื่มเบียร์หลายขวดด้วยความไม่พอใจไฮโซน้ำค้าง ที่ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ดีกว่าตัวเขาเองเสียอีก ชายหนุ่มกระดกเบียร์จนหมดขวด นั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาสีดำ สีหน้าของเขาเครียดจัดอยู่ที่หน้าทีวี ด้านหลังมีชายหนุ่มรูปงามอีกคนเดินมานั่งที่เก้าอี้ด้านหน้า ใบหน้าของชายอีกคนขาวจัด ผมตัดสั้นด้วยทรงที่ดูคล้ายดาราเกาหลี เขาเหยียดยิ้มและยื่นส่งกระป๋องเบียร์ให้

“ดื่มนี่เสียสิ นายจะได้ใจเย็นขึ้นบ้าง”

“ยายน้ำค้างนั่น นอกจากจะร่านแล้วยังอ่านใจคนเก่งอีกด้วย” อิทธิกรพ่นลมหายใจออกจากปาก “มันสงสัยเรื่องระหว่างฉันกับนายด้วย หัวไวจริงๆ”

“แล้วนายจะทำยังไงล่ะ”

“ทำยังไงน่ะหรือ ฉันก็อยู่แบบนี้ ไปไหนมาไหนไม่เห็นจะต้องแคร์” อิทธิกรเอนหลังลงบนโซฟาตามสบาย “จะบอกอะไรให้นะ ถ้าน้ำค้างไม่มีเงินให้ใช้อย่างสุขสบาย อย่าหวังเลยว่าฉันจะชายตาแลมัน”

วินเลิกคิ้วสูงถอนหายใจยาว

“ถ้าอย่างนั้น นายก็เลิกยุ่งกับเธอซะสิ”

“อะไรนะ”

“ล้อเล่นน่า...นายเป็นดาราสุดฮอตแถมยังมีงานเดินแบบอีกมากมาย ก็ย่อมมีผู้หญิงมาคลอเคลียไม่ห่าง แต่ว่า....หล่อนมีเงินเหลือพอให้เราใช้ได้แน่นะ”

“แน่สิ เป็นลูกสาวเศรษฐีนี่นา”

“แบบนี้สิดี เอาเป็นว่านายก็ดูๆกันไปก่อน ต่อไปเราค่อยว่ากันอีกที” วินเหยียดยิ้ม

“นายนี่รู้ใจฉันจริงเลยๆ” อิทธิกรเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ

***********************





เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2557, 09:40:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2557, 09:40:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1280





<< ตอนที่ ๑ สายลับ   ตอนที่ ๓ แผนการร้าย >>
เบลินญา 20 ม.ค. 2557, 09:42:41 น.
ใบบัวน่ารัก >> เป็นหมอจริง ๆ ค่ะ ส่่วนนิสัยที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน ก็เพราะเธอเป็นนักข่าวฝึกหัดต้องการทำข่าวที่ใคร ๆ เขาก็ไม่ชอบทำกััน มันท้าทายอะไรแบบนั้น



Zephyr 21 ม.ค. 2557, 18:18:42 น.
เอิ่ม ทั้งชั่วทั้งเลวเลย อุตส่าห์คิดว่ายายกอหญ้าจะเข้าใจผิด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account