หวานรักจอมบงการ
พ่อและแม่ของเธอไว้ใจฝากลูกสาวไว้กับลูกชายของเพื่อนสนิทในขณะที่พวกเขาไม่อยู่ หารู้ไม่ว่า คนที่(คิดว่า)ปลอดภัยที่สุด อาจเป็นคนที่อันตรายที่สุดก็เป็นได้!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: การกลับมาของคุณหนูเลสลี่
หวานรักจอมบงการ
Prologue : การกลับมาของคุณหนูเลสลี่
..........
"คุณป๋าค่ะ มัมค่ะ" เจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่เลสลี่กรุ๊ป พร้อมด้วย
ภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆบนโซฟาตัวเดียวกันในห้องนั่งเล่นต่างหันมองตามไปทางต้นเสียงหวานที่คุ้นหู
"คริสติน!" แล้วก็พบว่าเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ยืนยิ้มหวานอยู่ที่หน้าประตู และกำลังเดินตรงเข้ามาหาบิดามารดา
เจ้าของร่างเล็ก ใบหน้าหวาน 'คริสติน เลสลี่' บุตรสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวของตระกูลเลสลี่เดินตรงเข้าไปกอดผู้เป็นบิดามารดาด้วยความคิดถึง โดยมีสายตาสองคู่มองมาด้วยความตกใจ
แน่ล่ะสิ กำหนดกลับบ้านของเธอมันวันอาทิตย์หน้านี่นา แต่ในเมื่อเสร็จภารกิจของเธอแล้ว ทำไมเธอจะกลับมาก่อนกำหนดไม่ได้ เธอจากที่นี้เพื่อไปศึกษางานกับเพื่อนนักธุรกิจของคุณป๋าเธอที่อิตาลีหนึ่งปีเต็ม โดยหวังว่ากลับมาคราวนี้จะได้มาช่วยผู้เป็นพ่อดูแลธุรกิจอีกแรง อายุของเธอก็ไม่ใช่วัยที่จะเดินสวยไปสวยมาอย่างเดียวแล้ว เธออายุยี่สิบหกแล้ว มันควรจะเป็นวัยทำงานอย่างเต็มรูปแบบ และการช่วยบิดาสุดที่รักของเธอทำธุรกิจนั่นแหละ คืองานที่เป็นเป้าหมายของเธอ!
"คริส ทำไมหนูจะกลับมาไม่บอกมัมล่ะลูก" ผู้เป็นแม่ดันลูกสาวออกจากอ้อมกอด พร้อมกับมองด้วยสายตาตำหนิ โดยมีสามีช่วยอีกแรง
"ป๋าเคยบอกคริสแล้วใช่ไหม การใช้ชีวิตโดยมีคำว่าเลสลี่ห้อยท้ายชื่อไม่ใช่เรื่องง่าย มีอันตรายรอบด้าน ถ้าวันนี้ลูกกลับมาไม่ถึงบ้าน แล้วป๋ากับมัมจะรู้สึกยังไง หือ?"
"คริสของโทษค่ะคุณป๋า คริสแค่อยากเซอร์ไพรส์" ร่างบางทำหน้าหงอย และเมื่อเห็นว่าผู้เป็นบิดากำลังอ้าปากจะบ่นต่อ คนตัวเล็กจึงรีบพูดแทรกขึ้นมาทันควัน "คุณป๋าจำสัญญาที่คริสเคยบอกได้ไหมค่ะ" ร่างบางยิ้มอวดฟันขาว
"สัญญา?" อังเดร และ เจเน็ทพูดขึ้นด้วยความฉงนพร้อมกัน
"ที่คริสเคยบอกไว้ไงค่ะ ว่าวันไหนที่คริสกลับมา คริสจะช่วยคุณป๋ากับมัมดูแลเลสลี่กรุ๊ป แล้วจะให้คุณป๋ากับมัมไปฮันนีมูนรอบสองกันครึ่งปีเลยไง!"
ปฏิกิริยาตอบกลับไม่เป็นอย่างที่หญิงสาวคาดไว้ ที่เธอคิดไว้ คุณป๋ากับมัมต้องยิ้มกว้างอย่างมีความสุขพร้อมกับความภาคภูมิใจในตัวลูกสาวสิ แต่นี่กลับไม่ใช่ ทำไมคุณป๋ากับมัมต้องมองหน้ากันด้วยสีหน้าหนักใจ แล้วหันมายิ้มแห้งๆให้อย่างนั้นล่ะ!?
"คริสลูก คือป๋าว่ารอให้หนูศึกษางานของป๋าซักปีสองปีก่อนดีกว่านะ เอาให้มั่นใจก่อนว่าหนูสามารถควบคุมเลสลี่กรุ๊ปได้ดี ป๋าจะได้ไม่มัวพะวงเรื่องหนูไง ดีมั๊ยลูก"
"คุณป๋าไม่ไว้ใจคริสเหรอคะ"
"คุณป๋าไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกลูก คุณป๋าแค่เป็นห่วง เพราะหนูยังใหม่กับวงการธุรกิจ พวกนักธุรกิจไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ คุณป๋าก็แค่เป็นห่วงว่าหนูจะเหนื่อยเกินไป เหมือนกับมัมที่ห่วงหนูไงลูก หนูเข้าใจคุณป๋ากับมัมหน่อยนะค่ะ" เจเน็ทที่เห็นลูกสาวนํ้าตาคลอด้วยความน้อยใจ จึงช่วยพูดกล่อมให้อีกแรง พร้อมทั้งลูบหัวให้กำลังใจไปด้วย
"แต่ยังไงคริสก็จะทำ คริสก็แค่อยากจะทำงาน อยากใช้ความรู้ที่ได้เรียนมา อยากจะช่วยคุณป๋า อยากให้คุณป๋ากับมัมได้พักผ่อนบ้าง ทำไมคุณป๋ากับมัมไม่เข้าใจคริสบ้างล่ะค่ะ" คริสตินนํ้าตาร่วง ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอตั้งใจเรียนรู้งานอย่างเต็มที่เพื่อวันนี้ที่เธอรอคอย โดยคิดว่าคุณป๋ากับมัมจะต้องดีใจในสิ่งที่เธอจะทำ แต่เมื่อเจอปฏิกิริยาตอบรับที่ตรงกันข้ามทำให้ร่างเล็กท้อใจ และเสียใจไม่ใช่น้อย
"ลูกกลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะลูก ป๋าว่าไว้เราค่อยพูดเรื่องนี้กันวันหลังดีกว่านะ"
"ไม่เอาแล้ว ในเมื่อคุณป๋าไม่ไว้ใจคริส กลัวว่าคริสจะทำบริษัทของคุณป๋าพัง คริสก็จะไม่ยุ่งด้วยแล้ว!" ร่างบางคว้ากระเป๋าเดินทางใบโตขึ้นห้องโดยไม่รอให้ใครยกขึ้นไปให้
"คริส! คริส!" เสียงผู้เป็นบิดาเงียบหายไปทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลง ร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงพิงประตู หยดนํ้าตาค่อยๆไหลลงอาบแก้มนวลเนียนด้วยความผิดหวัง...
................................................................................................................
"เจน คุณว่าเราเลี้ยงลูกแบบตามใจมากเกินไปรึเปล่า" เจ้าของเลสลี่กรุ๊ปหันไปถามภรรยาด้วยใบหน้ากลัดกลุ้ม
"ลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะอังเดร ลูกคงอยากจะช่วยเราจริงๆ"
"ผมรู้ แต่คุณก็รู้นี่ว่าการจะบริหารธุรกิจธุรกิจหนึ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ โอเคว่าผมส่งลูกไปศึกษางานกันแอนโทนี่มาหนึ่งปีก็น่าจะรู้อะไรมาบ้าง แต่การเริ่มต้นน่ะ มันเริ่มคนเดียวลำบากนะเจน ยิ่งลูกเราเป็นผู้หญิง ต้องไปเจอกับพวกร้อยเล่ห์เหลี่ยมตัวคนเดียวนี่มัน...!"
"คุณก็หาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยลูกสิค่ะ ลูกเราโตแล้วนะคะอังเดร บางทีเราก็ควรจะปล่อยให้ลูกเผชิญกับเรื่องหนักๆซักเรื่องหนึ่ง วันข้างหน้าลูกเราจะได้แข็งแกร่งเหมือนคุณไงค่ะ" เจเน็ทลูบหลังสามีเบาๆอย่างปลอบโยน พร้อมกับเสนอความเห็น
"คนที่ไว้ใจได้... เจน คุณหมายความว่า?" มิสซิสเลสลี่ยิ้มหวาน เมื่อรู้สึกว่าความคิดเห็นของตนมีประโยชน์ต่อคนรัก
"คนใกล้ๆตัวเรา ฉันก็เห็นว่ามีคนที่คุณไว้ใจที่สุดอยู่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอคะ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลูกของเรา จะได้ช่วยแนะนำคริสตินว่าอะไรควรไม่ควรอีกต่างหาก"
อังเดรจูบแก้มภรรยาหนักๆหนึ่งที แล้วยิ้มให้กับคู่ร่วมชีวิตของเขา ก่อนจะชวนกันขึ้นไปนอน พร้อมทั้งแพลนถึงวันพรุ่งนี้คร่าวๆ แม้จะดูเร่งรีบและกระทันหันเกินไป แต่เขาก็อยากจะเซอร์ไพรส์ลูกสาวอย่างที่ลูกสาวสุดที่รักชอบทำบ่อยๆบ้างเหมือนกัน
"ตระกูลเบอร์นาร์ดสินะ"
................................................................................................................
ช่วงสายๆของวันรุ่งขึ้น ร่างเล็กที่เอาแต่หมกตัวอยู่แต่บนห้องตั้งแต่ช่วงหัวคํ่าของเมื่อวานก็ค่อยๆแง้มประตูออกมาเบาๆด้วยความหิว เพราะตนยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้ว พร้อมกับมองซ้ายมองขวา
"คุณหนูคะ"
"ว้าย! โธ่ ตกใจหมดเลย" ร่างบางที่สะดุ้งด้วยความตกใจ เปลี่ยนเป็นโล่งใจเมื่อเห็นว่าเป็นแค่แม่บ้านเท่านั้น
"คุณหนูมีอะไรให้ดิฉันรับใช้หรือเปล่าคะ"
"วันนี้คุณป๋ากับมัมอยู่บ้านหรือเปล่า"
"ไม่อยู่ค่ะ เห็นออกไปกันตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะ"
"เช้ามืด? หมายความว่าไง"
"ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าคุณท่านให้คนรถไปส่งที่สนามบิน" สนามบิน? คุณป๋ากับมัมจะไปไหนทำไมไม่บอกเรา... นั่นสินะ ก็เมื่อวานเรามัวแต่พยศอยู่บนห้องนี่นะ คุณป๋าคงไม่มีโอกาสบอก
"อ๋อ คุณหนูคะ มีอีกเรื่องนึงค่ะ คุณหนูเบอร์นาร์ดมารอพบคุณหนูอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตั้งแต่เช้าแล้วนะคะ"
................................................................................................................
"ยินดีต้อนรับกลับมาครับ คุณหนูเลสลี่" คนตัวเล็กเบ้ปากให้กับร่างสูงที่ยิ้มหวานส่งมาให้ "อ้าว เป็นอะไรอีกล่ะคริส พอรู้ว่าเธอกลับมาแล้วฉันก็อุตส่าห์รีบมาหาตั้งแต่เช้าเลยนะ รอตั้งเป็นชั่วโมงแหน่ะ อีกอย่าง ฉันควรจะเป็นคนโกรธเธอไม่ใช่หรือไง กลับมาแล้วก็ไม่ยอมบอกกัน" คริสโตเฟอร์หน้าเหวอ เมื่อเจ้าของใบหน้าหวานที่แม้แต่จะไม่ยอมรับมุกแล้ว ยังเบ้ปากใส่ชวนน่ามันเขี้ยวอีก
"แล้วทำไมไม่ขึ้นไปเรียกล่ะ ปกติก็ขึ้นไปไม่ใช่หรือไง หรือไม่ก็ให้แม่บ้านขึ้นไปตามก็ได้" ร่างบางยอมพูดด้วย แม้จะยังทำหน้าตึงใส่ แต่ในใจก็อดดีใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าเขารีบมาหาเธอเมื่อรู้ว่าเธอกลับมา
"ก็เห็นว่ากลับมาเหนื่อยๆเลยอยากให้พักผ่อน แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นใส่กันด้วยล่ะ" คริสโตเฟอร์รั้งร่างบางที่ยืนกอดอกหน้างอให้ลงมานั่งตักตามความเคยชิน ซึ่งบุคคลในบ้านก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะตั้งแต่เล็กๆคุณหนูเลสลี่ก็มักจะอ้อนขอนั่งตักคุณหนูเบอร์นาร์ดอยู่บ่อยครั้งจนเป็นปกติ ซึ่งแม้แต่อังเดรกับเจเน็ทก็ไม่เคยคิดจะห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะมีไม่กี่คนนักที่คริสตินจะไว้ใจ ยอมเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดด้วยขนาดนี้
"ปล่อยนะคริส เค้าไม่ใช่เด็กๆแล้ว" คริสโตเฟอร์อมยิ้มพึงพอใจกับเสียงหวานที่เรียกชื่อเล่นของตน นี้เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของเขา เพราะชื่อเล่นของร่างบางและของตนเหมือนกัน
"อะไรกัน ปกติก็ชอบนั่งตักฉันบ่อยๆไม่ใช่เหรอ นี่แสดงว่างอนจริงๆใช่ไหมเนี่ย ไหนบอกสิว่าไม่พอใจฉันเรื่องอะไร?" คริสโตเฟอร์กอดร่างบางแน่นขึ้นเมื่อเธอดิ้น แล้วก้มหน้าลงไปถามคนในอ้อมกอด
คริสตินหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างคนแสนงอน แต่ก็ถูกมือหนาจับคางเรียวให้หันกลับไปทิศทางเดิม เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ส่งสายตาขุ่นๆไปให้คนตัวโต แล้วยอมนั่งนิ่งในที่สุด
"ไม่เอาน่าคริส ไม่บอกแล้วฉันจะง้อถูกเรื่องได้ยังไงกัน หืม?" คริสโตเฟอร์กดจมูกลงกับแก้มใสแรงๆอย่างมันเขี้ยวอย่างที่เคยได้ทำเป็นประจำ
"ก็สองเดือนก่อนที่เค้าจะกลับมาทำไมคริสไม่ไปหาเค้าที่อิตาลีเลยล่ะ ทั้งที่ปกติก็ไปหาอาทิตย์เว้นอาทิตย์แท้ๆ" ร่างบางพูดงุ้งงิ้งอยู่กับอกของคนตัวโต พร้อมกับทุบอกแกร่งแรงๆหนึ่งทีอย่างต้องการจะลงโทษที่เขาไม่ได้ไปหาเธอเลยตลอดระยะเวลาสองเดือน
"โอเค เรื่องนี้ฉันยอมรับผิด ขอโทษนะครับ พอดีงานที่เบอร์นาร์ดกรุ๊ปยุ่งนิดหน่อย แต่ตอนนี้ลงตัวแล้วล่ะ" เจ้าของอ้อมแขนพูดขึ้น พลางกดจูบกลางหน้าผากของหญิงสาวไปด้วยเบาๆ เมื่อเธอช้อนสายตาขึ้นมองอย่างสงสัย
"งานยุ่งเหรอ ที่บริษัทมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" ร่างหนาใจชื้น เมื่อรู้สึกว่าเธอก็แคร์เรื่องของเขาเช่นกัน
"ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อัญมณีที่ลูกค้าต้องการมีไม่พอน่ะ ฉันเลยต้องไปหาซื้ออัญมณีอื่นตามที่ต่างๆมาทดแทนน่ะ แล้วที่ถามนี่หายโกรธแล้วหรือยัง หืม"
"ยังไม่หายโกรธหรอก"
"อ้าว แล้ว...?"
"เค้าอยากไปเที่ยว คริส พาเค้าไปหน่อยนะ"
.................................................................................................................
รถลีมูซีนสีดำเงาวับเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเลสลี่ในเวลาเกือบๆสามทุ่ม
"คริส รีบอาบนํ้าขึ้นนอนล่ะ อย่ามัวแต่อ่านนิยายจนนอนดึกรู้ไหม เอาไว้เวลาว่างๆระหว่างวันค่อยหยิบมาอ่านก็ได้" คริสโตเฟอร์เอ่ยเตือนหญิงสาวด้วยความที่รู้กิจวัตรประจำวันของเธอเป็นอย่างดี
"รู้แล้วล่ะน่า แต่นี่ยังไม่สามทุ่มเลยนะ จะให้เค้ารีบนอนไปไหนกัน" คริสตินแก้มป่อง ก่อนจะใช้หัวดันไหล่หนาสองสามทีอย่างออดอ้อน
"เพราะพรุ่งนี้ฉันจะมารับไปเลสลี่กรุ๊ปแต่เช้า"
"เอ๊ะ!? คุณหมายความว่ายังไง" ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นถาม
"หมายความว่าตอนนี้คุณอาอังเดรพาภรรยาไปเที่ยวยุโรป แล้วท่านก็ฝากให้ฉันคอยแนะนำการบริหารบริษัทให้กับเธอด้วยไง"
"จริงเหรอ! คริสไม่ได้โกหกเค้าใช่ไหมอ่า!?" เมื่อได้รับการยืนยันจากร่างหนาโดยการพยักหน้า ร่างบางก็ไม่รอช้าโถมเข้ากอดคนตัวโตจนแทบจะจมหายไปกับเบาะ ร่างสูงหัวเราะเบาๆพร้อมกับมือหนาที่โอบกอดตอบรอบเอวบางอย่างเป็นธรรมชาติ และยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก เมื่อได้รับจุมพิตเข้าที่แก้มสากหนักๆทั้งสองข้างอีกหลายที
.................................................................................................................
"คริส ไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอตรวจดูเอกสารที่โต๊ะทำงานแปปนึง จะได้แนะนำเธอได้ถูก" ร่างหนาที่เดินโอบเอวคนตัวเล็กเข้ามาในห้องทำงาน กดจูบที่แก้มใสเบาๆ ก่อนพูดขึ้น
"คริสมีอะไรจะให้เค้าช่วยหรือเปล่า" คริสตินยอมเดินไปนั่งที่โซฟาแต่โดยดี แต่ก็มิวายถามคนตัวโต เมื่อเขาส่ายหน้ายิ้มๆพร้อมนั่งลงตรวจดูเอกสาร ร่างบางก็ได้แต่นั่งมองตามพลางตื่นเต้นไปด้วยที่จะได้ทำงาน
เมื่อคืนวาน เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นพ่อและแม่แล้ว ท่านโทรมาบอกว่าตอนนี้กำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน และอีกอาทิตย์หน้าแพลนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนต่อ คุณป๋าบอกว่า คุณป๋าก็ยกงานบางส่วนไปทำต่อ จากโปรเจ็กท์ที่ค้างไว้ และกำชับให้เธอเชื่อฟังสิ่งที่คริสโตเฟอร์แนะนำ ก่อนที่สายจะถูกเปลี่ยนไปหามารดา คุยกันเล็กน้อยแล้วก็วางสายไป
"คริส มานั่งใกล้ๆนี่มา" ความคิดของร่างบางสะดุด เมื่อได้ยินเสียงทุ้มอบอุ่น และอ่อนโยนทุกครั้งเวลาคุยกับเธอเอ่ยเรียก คริสตินขยับตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีดำตัวใหญ่ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนตักแกร่งของชายหนุ่มหน้าตาเฉย
ปากหนาทำท่าจะค้านที่บอกว่าให้มานั่งใกล้ๆ ไม่ได้หมายถึงให้มานั่งตัก แต่เมื่อรู้สึกว่าตนเองก็ชอบเวลาที่มีสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้อยู้ใกล้ๆเหมือนกัน ปากที่กำลังจะค้านจึงต้องหุบลงโดยฉับพัน พร้อมจับร่างบางให้นั่งในท่าทางที่ถนัดราวกับเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง ก่อนที่มือข้างนึงจะเลื่อนไปโอบเอวบางเบาๆ ส่วนมืออีกข้างก็เปิดแฟ้มเอกสารไปด้วย
จากที่นั่งตัวตรงตั้งใจฟังร่างสูงอธิบายงาน เมื่อสัมผัสกับเครื่องปรับอากาศเย็นๆ โดยมีชายหนุ่มช่วยให้ความอบอุ่น บวกกับการนั่งฟังเสียงนุ่มทุ้มอธิบายงานราวกับจะขับกล่อม ทำให้ตอนนี้คริสตินเอนหลังไปพิงกับแผ่นอกกว้าง ศีรษะก็ซุกซบอยู่กับซอกคอ พร้อมที่จะเคลิ้มหลับอยู่ตลอดเวลา และใช้เวลาไม่นานนัก ร่างบางก็ค่อยๆหลับไป พร้อมกับเสียงหายใจสมํ่าเสมอ
ส่วนร่างสูงที่ทำหน้าที่เป็นเบาะก็ยังคงอธิบายงานให้ลม ฟ้า อากาศฟังอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูจากเลขา
"เชิญ" คริสโตเฟอร์แปลกใจเล็กน้อยที่ร่างในอ้อมกอดไม่แม้แต่จะแสดงอาการรับรู้ว่ามีคนเข้ามาในห้อง จึงก้มหน้าลงไปมอง ก็พบว่าคนตัวเล็กหลอกให้เขาพูดคนเดียวมาซักพักแล้วก็ได้แต่ยิ้มขัน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นเลขาส่วนตัวของคริสตินยืนอมยิ้มอย่างรู้ทันอยู่ ร่างหนาได้แต่กระแอมแล้วปรับสีหน้าให้นิ่งขรึมแบบมาดนักธุรกิจตามเดิม
"เมื่อกี้ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากท่านประธาน บอกให้นำแฟ้มแจ้งยอดสินค้าส่งออกของเดือนที่แล้วมาให้คุณหนูน่ะค่ะ"
คริสโตเฟอร์พยักหน้ารับรู้ พร้อมๆกับที่มือหนาตบแขนเรียวเล็กเบาๆเป็นการกล่อม เลขาสาวได้แต่อมยิ้ม อดเขินแทนคุณหนูไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีเอาใจใส่ประคบประหงมของชายหนุ่มที่มีต่อคุณหนูเลสลี่ ก่อนจะขอตัวเดินออกไปข้างนอก ด้านคริสโตเฟอร์เองก็ปั้นหน้าแทบไม่ถูก เมื่อเห็นแววตาล้อเลียนของเลขาสาวเช่นกัน
รอจนเลขาสาวออกไปซักพัก ร่างแกร่งจึงค่อยๆอุ้มหญิงสาวพามานอนที่โซฟา ยังไม่ทันจะปล่อย อ้อมแขนเรียวก็ตวัดเข้าที่รอบคอหนาไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเขาก็ต้องอุ้มหญิงสาวมาหลับบนตักเช่นเคย โดยที่รอบคอก็ยังถูกรัดแน่นเช่นเดิม คริสโตเฟอร์ก้มลงจูบปากนุ่มเบาๆ ก่อนจะผละออกเพื่อมองดูใบหน้าหวานให้ชัดๆ รอยยิ้มอบอุ่นจริงใจที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก ถูกมอบให้ร่างบางที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างง่ายดาย หญิงสาวผู้ที่เขาคอยเฝ้ามองดูเธอเติบโตอย่างช้าๆ ระหว่างนั้นก็คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดเพื่อให้ถึงเวลาที่เธอพรั่งพร้อมสำหรับเขา ในขณะที่เขาก็ค่อยๆทำให้หญิงสาวขาดเขาไปไม่ได้ เวลานี้นี่มัน... เหมาะสมจริงๆ!
.................................................................................................................
หญิงสาวใบหน้างดงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย โดยมีชายหนุ่มรูปงามประคองกอดไว้ไม่ให้ห่าง ทำเอาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลียวหลังมองไปตามๆกัน บวกกับว่าทั้งคู่เป็นคนดังในวงการไฮโซที่ใครๆต่างก็รู้จัก ยิ่งทำให้คู่นี้เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก ใครที่ได้เห็นสายตาหวานหยดของใบหน้าคมเวลาที่มองคนในอ้อมแขนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชายหนุ่มนั้นหลงใหลในตัวร่างบางขนาดไหน
คริสโตเฟอร์พาคริสตินมาเดินห้างสรรพสินค้าเกรดเอที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยมีใครย่างกายเข้ามาที่นี้บ่อยนัก เพื่อดูชุดสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงสังคมระดับสูงของคนแวดวงธุรกิจที่จะจัดขึ้นในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะพาเลี้ยวเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นแบรนด์โปรดของหญิงสาวอย่างรู้ใจ
"สวัสดีค่ะคุณหนูเลสลี่ คุณชายเบอร์นาร์ด วันนี้มีอะไรให้ดิฉันรับใช้ดีค่ะ" พนักงานแย้มยิ้มต้อนรับ พร้อมมองภาพชินตาตรงหน้า เพราะเวลาที่คุณหนูเลสลี่มาที่นี่ทีไร ไม่มีครั้งไหนที่คุณชายเบอร์นาร์ดจะไม่ตามประกบมาด้วย
คริสตินยิ้มตอบรับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปถามร่างสูงที่ยังคงเกาะเกี่ยวเอวเธอไม่ยอมปล่อย "คริส คุณว่าครั้งนี้เค้าควรจะใส่ชุดแบบไหน หรือสีไหนดีนะ"
"เธอเลือกเครื่องประดับไว้แล้วหรือยังล่ะว่าอยากจะใส่อะไร" มือหนาโอบเอวบางให้เดินไปดูชุดราตรีที่แขวนเรียงกันตามราว พลางเลื่อนดูชุดทีละชุด
"เค้าว่าจะใส่ชุดเครื่องเพชรที่มัมยกให้เค้าตอนวันเกิดปีที่แล้วไปน่ะ เพราะเค้ายังไม่เคยได้ใส่เลย"
"ชุดเครื่องเพชรเหรอ... งั้นใส่เป็นราตรียาวสีนํ้าเงินดีไหม? ฉันว่ามันจะได้ขับผิวเธอ แถมเครื่องเพชรจะได้ดูเด่นๆด้วยไงล่ะ"
"คริสเก่งจัง" ร่างบางเขย่งเท้าขึ้นไปจูบแก้มสากเบาๆให้รางวัล ก่อนจะยิ้มตาหยี ไม่ว่าเรื่องอะไร ชายหนุ่มก็มักจะรู้ใจเธอไปเสียหมด แม้แต่รอบเดือนที่เธอไม่เคยคิดจะนับวัน ก็ต้องให้เขาคอยเตือนให้ตลอด
"เอาเรียบๆก็พอเนอะ จะได้ไม่ดูเยอะเกินไป" คริสโตเฟอร์เลือกหยิบชุดที่เขาคิดว่าโชว์เนื้อหนังน้อยที่สุดให้คนตัวเล็กลอง นึกขัดใจที่ร้านนี้ไม่มีชุดที่มิดชิดมากกว่านี้
หลังจากที่คริสตินลองชุดที่คริสโตเฟอร์เลือกให้ เธอก็ตกลงซื้อชุดโดยที่ไม่แม้แต่จะดูชุดอื่น เพราะคิดว่าเขาเป็นคนที่รู้ใจเธอที่สุดแล้ว สิ่งไหนที่เขาเลือกให้ มักจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอเสมอ
เมื่อออกมาจากร้าน คริสตินจึงลากคริสโตเฟอร์ไปร้านเสื้อผ้าผู้ชายเพื่อเลือกสูทให้ ซึ่งเธอก็หยิบสูทสีดำหนึ่งตัว กับสีขาวอีกหนึ่งตัวให้ชายหนุ่มไปลอง คริสโตเฟอร์เดินเข้าห้องลองเสื้อเพื่อไปส่องกระจก เพราะเห็นว่าคนตัวเล็กยังพลิกนั่นจับนี่ดูอยู่ข้างนอกจึงยังไม่เรียก รอซักพัก จึกบอกพนักงานให้ไปตามหญิงสาวเพื่อให้มาตัดสินใจแทนเขา
คริสตินเดินมายังห้องลองเสื้อ ก่อนจะเห็นประตูห้องแรกเปิดแง้มเอาไว้ มองผ่านๆเห็นเป็นผู้ชายรูปร่างใกล้เคียงกับคริสโตเฟอร์จึกผลักประตูเข้าไปหา...
ร่างบางเดินเข้ามาในห้องลองเสื้อ พร้อมกับหมุนตัวเพื่อปิดประตู แต่ยังแง้มๆไว้อยู่หน่อย ไม่ได้ปิดสนิท เมื่อหมุนตัวกลับเข้าไปหาคนที่ตนเองคิดว่าเป็นคริสโตเฟอร์ก็ตกใจตาโต
ชายนิรนามร่างกำยำเปลือยท่อนบนกำลังยืนหันหน้ามาทางร่างเล็กด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่สายตาเจือแววงุนงงน้อยๆ คริสตินที่กำลังตกใจจนพูดไม่ออกก็ได้แต่ยืนมองตาค้าง เพราะนอกจากบิดา และคริสโตเฟอร์แล้ว เธอก็ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายที่เปลือยท่อนบนแถมมีซิกแพ็กเป็นรอนสวยงามในพื้นที่แคบๆเท่านี้มาก่อน
ร่างแกร่งเจ้าของหุ่นสมบูรณ์แบบขยับตัวเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก ซึ่งคริสตินก็ได้แต่มองการกระทำนั้นอย่างอึ้งๆ จนกระทั่งเมื่อมือหนาเอื้อมมาเท้าแขนไว้บนผนังห้องลองเสื้อกักเธอไว้ด้วยแขนข้างเดียว และรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ใกล้ๆใบหน้า...
"กรี๊ดดดดดดดดด!!"
"คริส! เกิดอะไรขึ้น!?" คริสโตเฟอร์ที่รอคนตัวเล็กอยู่นานก็ไม่เห็นเดินมาสักที จึงออกมาจากห้องลองเสื้อกะว่าจะเดินไปตามที่หน้าร้าน แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาผ่านห้องลองเสื้อห้องนอกสุด ก็ได้ยินเสียงร้องคุ้นหูดังออกมาจากห้องลองเสื้อ จึงรีบผลักประตูเข้ามาอย่างตกใจ
ภาพที่เห็นคือผู้ชายเปลือยท่อนบนยืนลูบท้ายทอยตัวเองพร้อมกับขมวดคิ้วน้อยๆ ลักษณะเหมือนเพิ่งถอยห่างจากร่างบางที่ยืนปิดบังใบหน้าด้วยสองมือเรียวเล็ก ที่ตอนนี้กำลังมองผ่านซอกนิ้วตัวเองมายังเขา สลับกับผู้ชายในห้องลองเสื้ออีกหนึ่งคน...
.................................................................................................................
ขณะนี้ ในร้านเสื้อผ้าบุรุษ โซฟาสำหรับรับรองลูกค้าถูกนักธุรกิจรูปหล่อชื่อดังใช้งาน โดยมีหญิงสาวใบหน้าหวานนั่งทับอยู่บนตักแกร่ง มือหนาข้างหนึ่งกอดรัดเอวบางไว้แน่นอย่างหวงแหน ส่วนมืออีกข้างทำหน้าที่ใช้กระดาษทิชชูซับเลือดกำเดาของหญิงสาวไปด้วย พลางขมวดคิ้วตีหน้ายุ่ง มองคนในอ้อมกอดอย่างคาดโทษ
"คริสอ่า" เสียงหวานเรียกเจ้าของมือหนาที่กำลังซับเลือดกำเดาไหลให้เธออย่างกระเง้ากระงอด
"อะไร" คนตัวโตกว่าตอบกลับเสียงห้วนอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยังปิดสายตาเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาวไม่มิด
"โอเค เค้าผิดเอง นะๆๆ ไม่เอา อย่าโกรธเค้าสิ เลิกทำสายตาดุๆอย่างนั้นได้แล้วนะ เค้ากลัว" เจ้าของเสียงหวานใสซุกหน้าอยู่กับไหล่หนา คลอเคลียอย่างออดอ้อน แต่ก็ถูกไหล่กว้างดันหน้าออกมาเพื่อที่จะได้ซับเลือดให้สะดวก ก่อนจะตวัดสายตาดุๆไปเผื่อแผ่คนที่ยืนกอดอกพิงเคาท์เตอร์ด้วยใบหน้านิ่งๆ และก่อนที่จะได้เปิดศึกนํ้าลาย พนักงานหญิงก็รีบเข้ามาห้ามศึกก่อนที่จะมีสงครามประสาทกันในร้าน
"คุณเบอร์นาร์ดต้องการกระดาษทิชชูเพิ่มอีกไหมค่ะ"
"เอามาอีกก็ดี"
"ไม่ต้องแล้วล่ะ เค้าไม่เป็นอะไรแล้ว" มือบางคว้าหมับเข้าที่แขนแข็งแรงก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูเพิ่มจากพนักงานสาว
ร่างบางหลับตาปี๋เมื่อได้ยินชายหนุ่มถอนหายใจ เพราะมั่นใจว่าหลังจากเสียงถอนหายใจของเขาแล้ว ต้องตามมาด้วนคำบ่นเป็นแน่ และเธอก็เดาไว้ไม่มีผิด
"เป็นบ้าอะไร แค่เห็นผู้ชายถอดเสื้อทำไมต้องเลือดกำเดาไหลแบบนี้ด้วยฮะ" ร่างสูงที่ซับเลือดที่ไหลออกจากจมูกของร่างบางเสร็จแล้ว ก็ผละมือลดลงมาสวมกอดเอวบางด้วยแขนทั้งสองข้างหลวมๆ เหมือนประกาศเป็นนัยๆว่าเขาเป็นเจ้าของสาวน้อยใบหน้าหวานคนนี้เพียงคนเดียว ก่อนจะบ่นออกมาเบาๆอย่างไม่จริงจัง แต่เมื่อพูดแล้วก็อดหงุดหงืดอีกไม่ได้ อ้อมแขนแกร่งรัดเอวบางแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
"เค้าจะไปรู้ไหมล่ะ ก็มันไหลออกมาเองนี่ คุณเอากระดาษทิชชูเลอะเลือดไปไกลๆเลยนะ เค้ากลัวเลือด" ร่างบางย่นจมูกอย่างน่ารัก ก่อนจะทำหน้างอ แล้วบ่นงุบงิบกลับไป
"แล้วแน่ใจนะว่าไม่ได้โดน'มัน'ทำอะไร" คริสโตเฟอร์ปรายตามองคนที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จามาตั้งแต่ต้น สงสัยว่าจะเป็นใบ้ เพราะไม่เห็นยอมพูดอะไรนอกจากยิ้มยียวนจนน่ามันไส้ อยากจะต่อยเอาซักหมัด
"ฉันชื่อโจเซฟ กิลเบิร์ด ไม่ใช่'มัน' แล้วอีกอย่าง คุณหนูเลสลี่สุดสวยก็เป็นคนเดินเข้ามาหาฉันในห้องลองเสื้อผ้าเอง มีของหวานลอยเข้ามาใกล้ๆแบบนี้ คิดว่าฉันจะทำอะไรดีล่ะ?" หลังจากแนะนำตัวเสร็จ คนตัวโตก็ยิ้มยั่ว แม้จะคุ้นชื่อ แต่ความโกรธที่มีมากกว่าทำให้เขาไม่ทันได้ไตร่ตรอง และไม่ได้เอะใจที่โจเซฟรู้ว่าคริสตินเป็นใคร เพราะเธอเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมอยู่แล้ว คริสโตเฟอร์แทบอยากจะกระโจนเข้าไปซ้อมหนักๆ ถ้าไม่ติดว่ามีคนตัวเล็กนั่งอยู่บนตัก
"นายนี่มัน...!!"
"พอๆๆ ไม่มีใครทำอะไรเค้าทั้งนั้นแหละ เค้าแค่เข้าใจผิดคิดว่าคนที่อยู่ในห้องลองเสื้อเป็นคุณก็เท่านั้น ยังไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ" คริสตินรีบคว้าแขนแกร่งที่ยกมือขึ้นชี้หน้าคู่กรณี ร่างสูงโกรธจนหน้าแดง แต่ในเมื่อคนตัวเล็กปรามไว้ก็ทำอะไรไม่ได้
"เหอะ!"
"คริส เค้าหิวข้าวแล้วอ่ะ ไปกันเถอะนะ" เมื่อได้ยินเสียงหวานอ้อน ชายหนุ่มจึงตัดใจ ประคองร่างบางให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่ตัวเองจะยืนตาม แล้วโอบเอวเล็กเข้าชิดตัว พยายามไม่มองหน้าชายอีกคน ไม่งั้นมีหวังคงได้เปิดศึกกันซักตั้งแน่
"ยินดีที่ได้พบครับคุณหนู แล้วเจอกันอีกครั้งนะครับ" ไม่รอให้คริสโตเฟอร์เอ่ยปากไล่ โจเซฟก็รีบเดินดุ่มๆผิวปากอารมณ์ดีออกจากร้านไป โดยมีสายตาดุเขม่นตามหลังไปอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
"เจอกันอีกครั้งอะไร หึ ฉันไม่ให้เจอแน่ๆ เข้าใจมั๊ย!?" หญิงสาวได้แต่พยักหน้าเออออตามไปอย่างอ่อนใจกับคนขี้หวง ก่อนจะหันมาจัดการเลือกเสื้อสูทให้ชายหนุ่มอย่างจริงจัง หลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นๆ และตั้งแต่รับประทานอาหารไปจนกลับถึงบ้าน คริสตินก็ต้องรับฟังเสียงบนงุ้งงิ้งของคนตัวโตไปตลอดทาง พลางทำใจยอมรับสภาพ
Prologue : การกลับมาของคุณหนูเลสลี่
..........
"คุณป๋าค่ะ มัมค่ะ" เจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่เลสลี่กรุ๊ป พร้อมด้วย
ภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆบนโซฟาตัวเดียวกันในห้องนั่งเล่นต่างหันมองตามไปทางต้นเสียงหวานที่คุ้นหู
"คริสติน!" แล้วก็พบว่าเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ยืนยิ้มหวานอยู่ที่หน้าประตู และกำลังเดินตรงเข้ามาหาบิดามารดา
เจ้าของร่างเล็ก ใบหน้าหวาน 'คริสติน เลสลี่' บุตรสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวของตระกูลเลสลี่เดินตรงเข้าไปกอดผู้เป็นบิดามารดาด้วยความคิดถึง โดยมีสายตาสองคู่มองมาด้วยความตกใจ
แน่ล่ะสิ กำหนดกลับบ้านของเธอมันวันอาทิตย์หน้านี่นา แต่ในเมื่อเสร็จภารกิจของเธอแล้ว ทำไมเธอจะกลับมาก่อนกำหนดไม่ได้ เธอจากที่นี้เพื่อไปศึกษางานกับเพื่อนนักธุรกิจของคุณป๋าเธอที่อิตาลีหนึ่งปีเต็ม โดยหวังว่ากลับมาคราวนี้จะได้มาช่วยผู้เป็นพ่อดูแลธุรกิจอีกแรง อายุของเธอก็ไม่ใช่วัยที่จะเดินสวยไปสวยมาอย่างเดียวแล้ว เธออายุยี่สิบหกแล้ว มันควรจะเป็นวัยทำงานอย่างเต็มรูปแบบ และการช่วยบิดาสุดที่รักของเธอทำธุรกิจนั่นแหละ คืองานที่เป็นเป้าหมายของเธอ!
"คริส ทำไมหนูจะกลับมาไม่บอกมัมล่ะลูก" ผู้เป็นแม่ดันลูกสาวออกจากอ้อมกอด พร้อมกับมองด้วยสายตาตำหนิ โดยมีสามีช่วยอีกแรง
"ป๋าเคยบอกคริสแล้วใช่ไหม การใช้ชีวิตโดยมีคำว่าเลสลี่ห้อยท้ายชื่อไม่ใช่เรื่องง่าย มีอันตรายรอบด้าน ถ้าวันนี้ลูกกลับมาไม่ถึงบ้าน แล้วป๋ากับมัมจะรู้สึกยังไง หือ?"
"คริสของโทษค่ะคุณป๋า คริสแค่อยากเซอร์ไพรส์" ร่างบางทำหน้าหงอย และเมื่อเห็นว่าผู้เป็นบิดากำลังอ้าปากจะบ่นต่อ คนตัวเล็กจึงรีบพูดแทรกขึ้นมาทันควัน "คุณป๋าจำสัญญาที่คริสเคยบอกได้ไหมค่ะ" ร่างบางยิ้มอวดฟันขาว
"สัญญา?" อังเดร และ เจเน็ทพูดขึ้นด้วยความฉงนพร้อมกัน
"ที่คริสเคยบอกไว้ไงค่ะ ว่าวันไหนที่คริสกลับมา คริสจะช่วยคุณป๋ากับมัมดูแลเลสลี่กรุ๊ป แล้วจะให้คุณป๋ากับมัมไปฮันนีมูนรอบสองกันครึ่งปีเลยไง!"
ปฏิกิริยาตอบกลับไม่เป็นอย่างที่หญิงสาวคาดไว้ ที่เธอคิดไว้ คุณป๋ากับมัมต้องยิ้มกว้างอย่างมีความสุขพร้อมกับความภาคภูมิใจในตัวลูกสาวสิ แต่นี่กลับไม่ใช่ ทำไมคุณป๋ากับมัมต้องมองหน้ากันด้วยสีหน้าหนักใจ แล้วหันมายิ้มแห้งๆให้อย่างนั้นล่ะ!?
"คริสลูก คือป๋าว่ารอให้หนูศึกษางานของป๋าซักปีสองปีก่อนดีกว่านะ เอาให้มั่นใจก่อนว่าหนูสามารถควบคุมเลสลี่กรุ๊ปได้ดี ป๋าจะได้ไม่มัวพะวงเรื่องหนูไง ดีมั๊ยลูก"
"คุณป๋าไม่ไว้ใจคริสเหรอคะ"
"คุณป๋าไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกลูก คุณป๋าแค่เป็นห่วง เพราะหนูยังใหม่กับวงการธุรกิจ พวกนักธุรกิจไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ คุณป๋าก็แค่เป็นห่วงว่าหนูจะเหนื่อยเกินไป เหมือนกับมัมที่ห่วงหนูไงลูก หนูเข้าใจคุณป๋ากับมัมหน่อยนะค่ะ" เจเน็ทที่เห็นลูกสาวนํ้าตาคลอด้วยความน้อยใจ จึงช่วยพูดกล่อมให้อีกแรง พร้อมทั้งลูบหัวให้กำลังใจไปด้วย
"แต่ยังไงคริสก็จะทำ คริสก็แค่อยากจะทำงาน อยากใช้ความรู้ที่ได้เรียนมา อยากจะช่วยคุณป๋า อยากให้คุณป๋ากับมัมได้พักผ่อนบ้าง ทำไมคุณป๋ากับมัมไม่เข้าใจคริสบ้างล่ะค่ะ" คริสตินนํ้าตาร่วง ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอตั้งใจเรียนรู้งานอย่างเต็มที่เพื่อวันนี้ที่เธอรอคอย โดยคิดว่าคุณป๋ากับมัมจะต้องดีใจในสิ่งที่เธอจะทำ แต่เมื่อเจอปฏิกิริยาตอบรับที่ตรงกันข้ามทำให้ร่างเล็กท้อใจ และเสียใจไม่ใช่น้อย
"ลูกกลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะลูก ป๋าว่าไว้เราค่อยพูดเรื่องนี้กันวันหลังดีกว่านะ"
"ไม่เอาแล้ว ในเมื่อคุณป๋าไม่ไว้ใจคริส กลัวว่าคริสจะทำบริษัทของคุณป๋าพัง คริสก็จะไม่ยุ่งด้วยแล้ว!" ร่างบางคว้ากระเป๋าเดินทางใบโตขึ้นห้องโดยไม่รอให้ใครยกขึ้นไปให้
"คริส! คริส!" เสียงผู้เป็นบิดาเงียบหายไปทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลง ร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงพิงประตู หยดนํ้าตาค่อยๆไหลลงอาบแก้มนวลเนียนด้วยความผิดหวัง...
................................................................................................................
"เจน คุณว่าเราเลี้ยงลูกแบบตามใจมากเกินไปรึเปล่า" เจ้าของเลสลี่กรุ๊ปหันไปถามภรรยาด้วยใบหน้ากลัดกลุ้ม
"ลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะอังเดร ลูกคงอยากจะช่วยเราจริงๆ"
"ผมรู้ แต่คุณก็รู้นี่ว่าการจะบริหารธุรกิจธุรกิจหนึ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ โอเคว่าผมส่งลูกไปศึกษางานกันแอนโทนี่มาหนึ่งปีก็น่าจะรู้อะไรมาบ้าง แต่การเริ่มต้นน่ะ มันเริ่มคนเดียวลำบากนะเจน ยิ่งลูกเราเป็นผู้หญิง ต้องไปเจอกับพวกร้อยเล่ห์เหลี่ยมตัวคนเดียวนี่มัน...!"
"คุณก็หาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยลูกสิค่ะ ลูกเราโตแล้วนะคะอังเดร บางทีเราก็ควรจะปล่อยให้ลูกเผชิญกับเรื่องหนักๆซักเรื่องหนึ่ง วันข้างหน้าลูกเราจะได้แข็งแกร่งเหมือนคุณไงค่ะ" เจเน็ทลูบหลังสามีเบาๆอย่างปลอบโยน พร้อมกับเสนอความเห็น
"คนที่ไว้ใจได้... เจน คุณหมายความว่า?" มิสซิสเลสลี่ยิ้มหวาน เมื่อรู้สึกว่าความคิดเห็นของตนมีประโยชน์ต่อคนรัก
"คนใกล้ๆตัวเรา ฉันก็เห็นว่ามีคนที่คุณไว้ใจที่สุดอยู่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอคะ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลูกของเรา จะได้ช่วยแนะนำคริสตินว่าอะไรควรไม่ควรอีกต่างหาก"
อังเดรจูบแก้มภรรยาหนักๆหนึ่งที แล้วยิ้มให้กับคู่ร่วมชีวิตของเขา ก่อนจะชวนกันขึ้นไปนอน พร้อมทั้งแพลนถึงวันพรุ่งนี้คร่าวๆ แม้จะดูเร่งรีบและกระทันหันเกินไป แต่เขาก็อยากจะเซอร์ไพรส์ลูกสาวอย่างที่ลูกสาวสุดที่รักชอบทำบ่อยๆบ้างเหมือนกัน
"ตระกูลเบอร์นาร์ดสินะ"
................................................................................................................
ช่วงสายๆของวันรุ่งขึ้น ร่างเล็กที่เอาแต่หมกตัวอยู่แต่บนห้องตั้งแต่ช่วงหัวคํ่าของเมื่อวานก็ค่อยๆแง้มประตูออกมาเบาๆด้วยความหิว เพราะตนยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้ว พร้อมกับมองซ้ายมองขวา
"คุณหนูคะ"
"ว้าย! โธ่ ตกใจหมดเลย" ร่างบางที่สะดุ้งด้วยความตกใจ เปลี่ยนเป็นโล่งใจเมื่อเห็นว่าเป็นแค่แม่บ้านเท่านั้น
"คุณหนูมีอะไรให้ดิฉันรับใช้หรือเปล่าคะ"
"วันนี้คุณป๋ากับมัมอยู่บ้านหรือเปล่า"
"ไม่อยู่ค่ะ เห็นออกไปกันตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะ"
"เช้ามืด? หมายความว่าไง"
"ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าคุณท่านให้คนรถไปส่งที่สนามบิน" สนามบิน? คุณป๋ากับมัมจะไปไหนทำไมไม่บอกเรา... นั่นสินะ ก็เมื่อวานเรามัวแต่พยศอยู่บนห้องนี่นะ คุณป๋าคงไม่มีโอกาสบอก
"อ๋อ คุณหนูคะ มีอีกเรื่องนึงค่ะ คุณหนูเบอร์นาร์ดมารอพบคุณหนูอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตั้งแต่เช้าแล้วนะคะ"
................................................................................................................
"ยินดีต้อนรับกลับมาครับ คุณหนูเลสลี่" คนตัวเล็กเบ้ปากให้กับร่างสูงที่ยิ้มหวานส่งมาให้ "อ้าว เป็นอะไรอีกล่ะคริส พอรู้ว่าเธอกลับมาแล้วฉันก็อุตส่าห์รีบมาหาตั้งแต่เช้าเลยนะ รอตั้งเป็นชั่วโมงแหน่ะ อีกอย่าง ฉันควรจะเป็นคนโกรธเธอไม่ใช่หรือไง กลับมาแล้วก็ไม่ยอมบอกกัน" คริสโตเฟอร์หน้าเหวอ เมื่อเจ้าของใบหน้าหวานที่แม้แต่จะไม่ยอมรับมุกแล้ว ยังเบ้ปากใส่ชวนน่ามันเขี้ยวอีก
"แล้วทำไมไม่ขึ้นไปเรียกล่ะ ปกติก็ขึ้นไปไม่ใช่หรือไง หรือไม่ก็ให้แม่บ้านขึ้นไปตามก็ได้" ร่างบางยอมพูดด้วย แม้จะยังทำหน้าตึงใส่ แต่ในใจก็อดดีใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าเขารีบมาหาเธอเมื่อรู้ว่าเธอกลับมา
"ก็เห็นว่ากลับมาเหนื่อยๆเลยอยากให้พักผ่อน แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นใส่กันด้วยล่ะ" คริสโตเฟอร์รั้งร่างบางที่ยืนกอดอกหน้างอให้ลงมานั่งตักตามความเคยชิน ซึ่งบุคคลในบ้านก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะตั้งแต่เล็กๆคุณหนูเลสลี่ก็มักจะอ้อนขอนั่งตักคุณหนูเบอร์นาร์ดอยู่บ่อยครั้งจนเป็นปกติ ซึ่งแม้แต่อังเดรกับเจเน็ทก็ไม่เคยคิดจะห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะมีไม่กี่คนนักที่คริสตินจะไว้ใจ ยอมเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดด้วยขนาดนี้
"ปล่อยนะคริส เค้าไม่ใช่เด็กๆแล้ว" คริสโตเฟอร์อมยิ้มพึงพอใจกับเสียงหวานที่เรียกชื่อเล่นของตน นี้เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของเขา เพราะชื่อเล่นของร่างบางและของตนเหมือนกัน
"อะไรกัน ปกติก็ชอบนั่งตักฉันบ่อยๆไม่ใช่เหรอ นี่แสดงว่างอนจริงๆใช่ไหมเนี่ย ไหนบอกสิว่าไม่พอใจฉันเรื่องอะไร?" คริสโตเฟอร์กอดร่างบางแน่นขึ้นเมื่อเธอดิ้น แล้วก้มหน้าลงไปถามคนในอ้อมกอด
คริสตินหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างคนแสนงอน แต่ก็ถูกมือหนาจับคางเรียวให้หันกลับไปทิศทางเดิม เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ส่งสายตาขุ่นๆไปให้คนตัวโต แล้วยอมนั่งนิ่งในที่สุด
"ไม่เอาน่าคริส ไม่บอกแล้วฉันจะง้อถูกเรื่องได้ยังไงกัน หืม?" คริสโตเฟอร์กดจมูกลงกับแก้มใสแรงๆอย่างมันเขี้ยวอย่างที่เคยได้ทำเป็นประจำ
"ก็สองเดือนก่อนที่เค้าจะกลับมาทำไมคริสไม่ไปหาเค้าที่อิตาลีเลยล่ะ ทั้งที่ปกติก็ไปหาอาทิตย์เว้นอาทิตย์แท้ๆ" ร่างบางพูดงุ้งงิ้งอยู่กับอกของคนตัวโต พร้อมกับทุบอกแกร่งแรงๆหนึ่งทีอย่างต้องการจะลงโทษที่เขาไม่ได้ไปหาเธอเลยตลอดระยะเวลาสองเดือน
"โอเค เรื่องนี้ฉันยอมรับผิด ขอโทษนะครับ พอดีงานที่เบอร์นาร์ดกรุ๊ปยุ่งนิดหน่อย แต่ตอนนี้ลงตัวแล้วล่ะ" เจ้าของอ้อมแขนพูดขึ้น พลางกดจูบกลางหน้าผากของหญิงสาวไปด้วยเบาๆ เมื่อเธอช้อนสายตาขึ้นมองอย่างสงสัย
"งานยุ่งเหรอ ที่บริษัทมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" ร่างหนาใจชื้น เมื่อรู้สึกว่าเธอก็แคร์เรื่องของเขาเช่นกัน
"ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อัญมณีที่ลูกค้าต้องการมีไม่พอน่ะ ฉันเลยต้องไปหาซื้ออัญมณีอื่นตามที่ต่างๆมาทดแทนน่ะ แล้วที่ถามนี่หายโกรธแล้วหรือยัง หืม"
"ยังไม่หายโกรธหรอก"
"อ้าว แล้ว...?"
"เค้าอยากไปเที่ยว คริส พาเค้าไปหน่อยนะ"
.................................................................................................................
รถลีมูซีนสีดำเงาวับเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเลสลี่ในเวลาเกือบๆสามทุ่ม
"คริส รีบอาบนํ้าขึ้นนอนล่ะ อย่ามัวแต่อ่านนิยายจนนอนดึกรู้ไหม เอาไว้เวลาว่างๆระหว่างวันค่อยหยิบมาอ่านก็ได้" คริสโตเฟอร์เอ่ยเตือนหญิงสาวด้วยความที่รู้กิจวัตรประจำวันของเธอเป็นอย่างดี
"รู้แล้วล่ะน่า แต่นี่ยังไม่สามทุ่มเลยนะ จะให้เค้ารีบนอนไปไหนกัน" คริสตินแก้มป่อง ก่อนจะใช้หัวดันไหล่หนาสองสามทีอย่างออดอ้อน
"เพราะพรุ่งนี้ฉันจะมารับไปเลสลี่กรุ๊ปแต่เช้า"
"เอ๊ะ!? คุณหมายความว่ายังไง" ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นถาม
"หมายความว่าตอนนี้คุณอาอังเดรพาภรรยาไปเที่ยวยุโรป แล้วท่านก็ฝากให้ฉันคอยแนะนำการบริหารบริษัทให้กับเธอด้วยไง"
"จริงเหรอ! คริสไม่ได้โกหกเค้าใช่ไหมอ่า!?" เมื่อได้รับการยืนยันจากร่างหนาโดยการพยักหน้า ร่างบางก็ไม่รอช้าโถมเข้ากอดคนตัวโตจนแทบจะจมหายไปกับเบาะ ร่างสูงหัวเราะเบาๆพร้อมกับมือหนาที่โอบกอดตอบรอบเอวบางอย่างเป็นธรรมชาติ และยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก เมื่อได้รับจุมพิตเข้าที่แก้มสากหนักๆทั้งสองข้างอีกหลายที
.................................................................................................................
"คริส ไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอตรวจดูเอกสารที่โต๊ะทำงานแปปนึง จะได้แนะนำเธอได้ถูก" ร่างหนาที่เดินโอบเอวคนตัวเล็กเข้ามาในห้องทำงาน กดจูบที่แก้มใสเบาๆ ก่อนพูดขึ้น
"คริสมีอะไรจะให้เค้าช่วยหรือเปล่า" คริสตินยอมเดินไปนั่งที่โซฟาแต่โดยดี แต่ก็มิวายถามคนตัวโต เมื่อเขาส่ายหน้ายิ้มๆพร้อมนั่งลงตรวจดูเอกสาร ร่างบางก็ได้แต่นั่งมองตามพลางตื่นเต้นไปด้วยที่จะได้ทำงาน
เมื่อคืนวาน เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นพ่อและแม่แล้ว ท่านโทรมาบอกว่าตอนนี้กำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน และอีกอาทิตย์หน้าแพลนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนต่อ คุณป๋าบอกว่า คุณป๋าก็ยกงานบางส่วนไปทำต่อ จากโปรเจ็กท์ที่ค้างไว้ และกำชับให้เธอเชื่อฟังสิ่งที่คริสโตเฟอร์แนะนำ ก่อนที่สายจะถูกเปลี่ยนไปหามารดา คุยกันเล็กน้อยแล้วก็วางสายไป
"คริส มานั่งใกล้ๆนี่มา" ความคิดของร่างบางสะดุด เมื่อได้ยินเสียงทุ้มอบอุ่น และอ่อนโยนทุกครั้งเวลาคุยกับเธอเอ่ยเรียก คริสตินขยับตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีดำตัวใหญ่ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนตักแกร่งของชายหนุ่มหน้าตาเฉย
ปากหนาทำท่าจะค้านที่บอกว่าให้มานั่งใกล้ๆ ไม่ได้หมายถึงให้มานั่งตัก แต่เมื่อรู้สึกว่าตนเองก็ชอบเวลาที่มีสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้อยู้ใกล้ๆเหมือนกัน ปากที่กำลังจะค้านจึงต้องหุบลงโดยฉับพัน พร้อมจับร่างบางให้นั่งในท่าทางที่ถนัดราวกับเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง ก่อนที่มือข้างนึงจะเลื่อนไปโอบเอวบางเบาๆ ส่วนมืออีกข้างก็เปิดแฟ้มเอกสารไปด้วย
จากที่นั่งตัวตรงตั้งใจฟังร่างสูงอธิบายงาน เมื่อสัมผัสกับเครื่องปรับอากาศเย็นๆ โดยมีชายหนุ่มช่วยให้ความอบอุ่น บวกกับการนั่งฟังเสียงนุ่มทุ้มอธิบายงานราวกับจะขับกล่อม ทำให้ตอนนี้คริสตินเอนหลังไปพิงกับแผ่นอกกว้าง ศีรษะก็ซุกซบอยู่กับซอกคอ พร้อมที่จะเคลิ้มหลับอยู่ตลอดเวลา และใช้เวลาไม่นานนัก ร่างบางก็ค่อยๆหลับไป พร้อมกับเสียงหายใจสมํ่าเสมอ
ส่วนร่างสูงที่ทำหน้าที่เป็นเบาะก็ยังคงอธิบายงานให้ลม ฟ้า อากาศฟังอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูจากเลขา
"เชิญ" คริสโตเฟอร์แปลกใจเล็กน้อยที่ร่างในอ้อมกอดไม่แม้แต่จะแสดงอาการรับรู้ว่ามีคนเข้ามาในห้อง จึงก้มหน้าลงไปมอง ก็พบว่าคนตัวเล็กหลอกให้เขาพูดคนเดียวมาซักพักแล้วก็ได้แต่ยิ้มขัน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นเลขาส่วนตัวของคริสตินยืนอมยิ้มอย่างรู้ทันอยู่ ร่างหนาได้แต่กระแอมแล้วปรับสีหน้าให้นิ่งขรึมแบบมาดนักธุรกิจตามเดิม
"เมื่อกี้ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากท่านประธาน บอกให้นำแฟ้มแจ้งยอดสินค้าส่งออกของเดือนที่แล้วมาให้คุณหนูน่ะค่ะ"
คริสโตเฟอร์พยักหน้ารับรู้ พร้อมๆกับที่มือหนาตบแขนเรียวเล็กเบาๆเป็นการกล่อม เลขาสาวได้แต่อมยิ้ม อดเขินแทนคุณหนูไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีเอาใจใส่ประคบประหงมของชายหนุ่มที่มีต่อคุณหนูเลสลี่ ก่อนจะขอตัวเดินออกไปข้างนอก ด้านคริสโตเฟอร์เองก็ปั้นหน้าแทบไม่ถูก เมื่อเห็นแววตาล้อเลียนของเลขาสาวเช่นกัน
รอจนเลขาสาวออกไปซักพัก ร่างแกร่งจึงค่อยๆอุ้มหญิงสาวพามานอนที่โซฟา ยังไม่ทันจะปล่อย อ้อมแขนเรียวก็ตวัดเข้าที่รอบคอหนาไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเขาก็ต้องอุ้มหญิงสาวมาหลับบนตักเช่นเคย โดยที่รอบคอก็ยังถูกรัดแน่นเช่นเดิม คริสโตเฟอร์ก้มลงจูบปากนุ่มเบาๆ ก่อนจะผละออกเพื่อมองดูใบหน้าหวานให้ชัดๆ รอยยิ้มอบอุ่นจริงใจที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก ถูกมอบให้ร่างบางที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างง่ายดาย หญิงสาวผู้ที่เขาคอยเฝ้ามองดูเธอเติบโตอย่างช้าๆ ระหว่างนั้นก็คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดเพื่อให้ถึงเวลาที่เธอพรั่งพร้อมสำหรับเขา ในขณะที่เขาก็ค่อยๆทำให้หญิงสาวขาดเขาไปไม่ได้ เวลานี้นี่มัน... เหมาะสมจริงๆ!
.................................................................................................................
หญิงสาวใบหน้างดงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย โดยมีชายหนุ่มรูปงามประคองกอดไว้ไม่ให้ห่าง ทำเอาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลียวหลังมองไปตามๆกัน บวกกับว่าทั้งคู่เป็นคนดังในวงการไฮโซที่ใครๆต่างก็รู้จัก ยิ่งทำให้คู่นี้เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก ใครที่ได้เห็นสายตาหวานหยดของใบหน้าคมเวลาที่มองคนในอ้อมแขนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชายหนุ่มนั้นหลงใหลในตัวร่างบางขนาดไหน
คริสโตเฟอร์พาคริสตินมาเดินห้างสรรพสินค้าเกรดเอที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยมีใครย่างกายเข้ามาที่นี้บ่อยนัก เพื่อดูชุดสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงสังคมระดับสูงของคนแวดวงธุรกิจที่จะจัดขึ้นในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะพาเลี้ยวเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นแบรนด์โปรดของหญิงสาวอย่างรู้ใจ
"สวัสดีค่ะคุณหนูเลสลี่ คุณชายเบอร์นาร์ด วันนี้มีอะไรให้ดิฉันรับใช้ดีค่ะ" พนักงานแย้มยิ้มต้อนรับ พร้อมมองภาพชินตาตรงหน้า เพราะเวลาที่คุณหนูเลสลี่มาที่นี่ทีไร ไม่มีครั้งไหนที่คุณชายเบอร์นาร์ดจะไม่ตามประกบมาด้วย
คริสตินยิ้มตอบรับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปถามร่างสูงที่ยังคงเกาะเกี่ยวเอวเธอไม่ยอมปล่อย "คริส คุณว่าครั้งนี้เค้าควรจะใส่ชุดแบบไหน หรือสีไหนดีนะ"
"เธอเลือกเครื่องประดับไว้แล้วหรือยังล่ะว่าอยากจะใส่อะไร" มือหนาโอบเอวบางให้เดินไปดูชุดราตรีที่แขวนเรียงกันตามราว พลางเลื่อนดูชุดทีละชุด
"เค้าว่าจะใส่ชุดเครื่องเพชรที่มัมยกให้เค้าตอนวันเกิดปีที่แล้วไปน่ะ เพราะเค้ายังไม่เคยได้ใส่เลย"
"ชุดเครื่องเพชรเหรอ... งั้นใส่เป็นราตรียาวสีนํ้าเงินดีไหม? ฉันว่ามันจะได้ขับผิวเธอ แถมเครื่องเพชรจะได้ดูเด่นๆด้วยไงล่ะ"
"คริสเก่งจัง" ร่างบางเขย่งเท้าขึ้นไปจูบแก้มสากเบาๆให้รางวัล ก่อนจะยิ้มตาหยี ไม่ว่าเรื่องอะไร ชายหนุ่มก็มักจะรู้ใจเธอไปเสียหมด แม้แต่รอบเดือนที่เธอไม่เคยคิดจะนับวัน ก็ต้องให้เขาคอยเตือนให้ตลอด
"เอาเรียบๆก็พอเนอะ จะได้ไม่ดูเยอะเกินไป" คริสโตเฟอร์เลือกหยิบชุดที่เขาคิดว่าโชว์เนื้อหนังน้อยที่สุดให้คนตัวเล็กลอง นึกขัดใจที่ร้านนี้ไม่มีชุดที่มิดชิดมากกว่านี้
หลังจากที่คริสตินลองชุดที่คริสโตเฟอร์เลือกให้ เธอก็ตกลงซื้อชุดโดยที่ไม่แม้แต่จะดูชุดอื่น เพราะคิดว่าเขาเป็นคนที่รู้ใจเธอที่สุดแล้ว สิ่งไหนที่เขาเลือกให้ มักจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอเสมอ
เมื่อออกมาจากร้าน คริสตินจึงลากคริสโตเฟอร์ไปร้านเสื้อผ้าผู้ชายเพื่อเลือกสูทให้ ซึ่งเธอก็หยิบสูทสีดำหนึ่งตัว กับสีขาวอีกหนึ่งตัวให้ชายหนุ่มไปลอง คริสโตเฟอร์เดินเข้าห้องลองเสื้อเพื่อไปส่องกระจก เพราะเห็นว่าคนตัวเล็กยังพลิกนั่นจับนี่ดูอยู่ข้างนอกจึงยังไม่เรียก รอซักพัก จึกบอกพนักงานให้ไปตามหญิงสาวเพื่อให้มาตัดสินใจแทนเขา
คริสตินเดินมายังห้องลองเสื้อ ก่อนจะเห็นประตูห้องแรกเปิดแง้มเอาไว้ มองผ่านๆเห็นเป็นผู้ชายรูปร่างใกล้เคียงกับคริสโตเฟอร์จึกผลักประตูเข้าไปหา...
ร่างบางเดินเข้ามาในห้องลองเสื้อ พร้อมกับหมุนตัวเพื่อปิดประตู แต่ยังแง้มๆไว้อยู่หน่อย ไม่ได้ปิดสนิท เมื่อหมุนตัวกลับเข้าไปหาคนที่ตนเองคิดว่าเป็นคริสโตเฟอร์ก็ตกใจตาโต
ชายนิรนามร่างกำยำเปลือยท่อนบนกำลังยืนหันหน้ามาทางร่างเล็กด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่สายตาเจือแววงุนงงน้อยๆ คริสตินที่กำลังตกใจจนพูดไม่ออกก็ได้แต่ยืนมองตาค้าง เพราะนอกจากบิดา และคริสโตเฟอร์แล้ว เธอก็ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายที่เปลือยท่อนบนแถมมีซิกแพ็กเป็นรอนสวยงามในพื้นที่แคบๆเท่านี้มาก่อน
ร่างแกร่งเจ้าของหุ่นสมบูรณ์แบบขยับตัวเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก ซึ่งคริสตินก็ได้แต่มองการกระทำนั้นอย่างอึ้งๆ จนกระทั่งเมื่อมือหนาเอื้อมมาเท้าแขนไว้บนผนังห้องลองเสื้อกักเธอไว้ด้วยแขนข้างเดียว และรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ใกล้ๆใบหน้า...
"กรี๊ดดดดดดดดด!!"
"คริส! เกิดอะไรขึ้น!?" คริสโตเฟอร์ที่รอคนตัวเล็กอยู่นานก็ไม่เห็นเดินมาสักที จึงออกมาจากห้องลองเสื้อกะว่าจะเดินไปตามที่หน้าร้าน แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาผ่านห้องลองเสื้อห้องนอกสุด ก็ได้ยินเสียงร้องคุ้นหูดังออกมาจากห้องลองเสื้อ จึงรีบผลักประตูเข้ามาอย่างตกใจ
ภาพที่เห็นคือผู้ชายเปลือยท่อนบนยืนลูบท้ายทอยตัวเองพร้อมกับขมวดคิ้วน้อยๆ ลักษณะเหมือนเพิ่งถอยห่างจากร่างบางที่ยืนปิดบังใบหน้าด้วยสองมือเรียวเล็ก ที่ตอนนี้กำลังมองผ่านซอกนิ้วตัวเองมายังเขา สลับกับผู้ชายในห้องลองเสื้ออีกหนึ่งคน...
.................................................................................................................
ขณะนี้ ในร้านเสื้อผ้าบุรุษ โซฟาสำหรับรับรองลูกค้าถูกนักธุรกิจรูปหล่อชื่อดังใช้งาน โดยมีหญิงสาวใบหน้าหวานนั่งทับอยู่บนตักแกร่ง มือหนาข้างหนึ่งกอดรัดเอวบางไว้แน่นอย่างหวงแหน ส่วนมืออีกข้างทำหน้าที่ใช้กระดาษทิชชูซับเลือดกำเดาของหญิงสาวไปด้วย พลางขมวดคิ้วตีหน้ายุ่ง มองคนในอ้อมกอดอย่างคาดโทษ
"คริสอ่า" เสียงหวานเรียกเจ้าของมือหนาที่กำลังซับเลือดกำเดาไหลให้เธออย่างกระเง้ากระงอด
"อะไร" คนตัวโตกว่าตอบกลับเสียงห้วนอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยังปิดสายตาเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาวไม่มิด
"โอเค เค้าผิดเอง นะๆๆ ไม่เอา อย่าโกรธเค้าสิ เลิกทำสายตาดุๆอย่างนั้นได้แล้วนะ เค้ากลัว" เจ้าของเสียงหวานใสซุกหน้าอยู่กับไหล่หนา คลอเคลียอย่างออดอ้อน แต่ก็ถูกไหล่กว้างดันหน้าออกมาเพื่อที่จะได้ซับเลือดให้สะดวก ก่อนจะตวัดสายตาดุๆไปเผื่อแผ่คนที่ยืนกอดอกพิงเคาท์เตอร์ด้วยใบหน้านิ่งๆ และก่อนที่จะได้เปิดศึกนํ้าลาย พนักงานหญิงก็รีบเข้ามาห้ามศึกก่อนที่จะมีสงครามประสาทกันในร้าน
"คุณเบอร์นาร์ดต้องการกระดาษทิชชูเพิ่มอีกไหมค่ะ"
"เอามาอีกก็ดี"
"ไม่ต้องแล้วล่ะ เค้าไม่เป็นอะไรแล้ว" มือบางคว้าหมับเข้าที่แขนแข็งแรงก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูเพิ่มจากพนักงานสาว
ร่างบางหลับตาปี๋เมื่อได้ยินชายหนุ่มถอนหายใจ เพราะมั่นใจว่าหลังจากเสียงถอนหายใจของเขาแล้ว ต้องตามมาด้วนคำบ่นเป็นแน่ และเธอก็เดาไว้ไม่มีผิด
"เป็นบ้าอะไร แค่เห็นผู้ชายถอดเสื้อทำไมต้องเลือดกำเดาไหลแบบนี้ด้วยฮะ" ร่างสูงที่ซับเลือดที่ไหลออกจากจมูกของร่างบางเสร็จแล้ว ก็ผละมือลดลงมาสวมกอดเอวบางด้วยแขนทั้งสองข้างหลวมๆ เหมือนประกาศเป็นนัยๆว่าเขาเป็นเจ้าของสาวน้อยใบหน้าหวานคนนี้เพียงคนเดียว ก่อนจะบ่นออกมาเบาๆอย่างไม่จริงจัง แต่เมื่อพูดแล้วก็อดหงุดหงืดอีกไม่ได้ อ้อมแขนแกร่งรัดเอวบางแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
"เค้าจะไปรู้ไหมล่ะ ก็มันไหลออกมาเองนี่ คุณเอากระดาษทิชชูเลอะเลือดไปไกลๆเลยนะ เค้ากลัวเลือด" ร่างบางย่นจมูกอย่างน่ารัก ก่อนจะทำหน้างอ แล้วบ่นงุบงิบกลับไป
"แล้วแน่ใจนะว่าไม่ได้โดน'มัน'ทำอะไร" คริสโตเฟอร์ปรายตามองคนที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จามาตั้งแต่ต้น สงสัยว่าจะเป็นใบ้ เพราะไม่เห็นยอมพูดอะไรนอกจากยิ้มยียวนจนน่ามันไส้ อยากจะต่อยเอาซักหมัด
"ฉันชื่อโจเซฟ กิลเบิร์ด ไม่ใช่'มัน' แล้วอีกอย่าง คุณหนูเลสลี่สุดสวยก็เป็นคนเดินเข้ามาหาฉันในห้องลองเสื้อผ้าเอง มีของหวานลอยเข้ามาใกล้ๆแบบนี้ คิดว่าฉันจะทำอะไรดีล่ะ?" หลังจากแนะนำตัวเสร็จ คนตัวโตก็ยิ้มยั่ว แม้จะคุ้นชื่อ แต่ความโกรธที่มีมากกว่าทำให้เขาไม่ทันได้ไตร่ตรอง และไม่ได้เอะใจที่โจเซฟรู้ว่าคริสตินเป็นใคร เพราะเธอเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมอยู่แล้ว คริสโตเฟอร์แทบอยากจะกระโจนเข้าไปซ้อมหนักๆ ถ้าไม่ติดว่ามีคนตัวเล็กนั่งอยู่บนตัก
"นายนี่มัน...!!"
"พอๆๆ ไม่มีใครทำอะไรเค้าทั้งนั้นแหละ เค้าแค่เข้าใจผิดคิดว่าคนที่อยู่ในห้องลองเสื้อเป็นคุณก็เท่านั้น ยังไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ" คริสตินรีบคว้าแขนแกร่งที่ยกมือขึ้นชี้หน้าคู่กรณี ร่างสูงโกรธจนหน้าแดง แต่ในเมื่อคนตัวเล็กปรามไว้ก็ทำอะไรไม่ได้
"เหอะ!"
"คริส เค้าหิวข้าวแล้วอ่ะ ไปกันเถอะนะ" เมื่อได้ยินเสียงหวานอ้อน ชายหนุ่มจึงตัดใจ ประคองร่างบางให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่ตัวเองจะยืนตาม แล้วโอบเอวเล็กเข้าชิดตัว พยายามไม่มองหน้าชายอีกคน ไม่งั้นมีหวังคงได้เปิดศึกกันซักตั้งแน่
"ยินดีที่ได้พบครับคุณหนู แล้วเจอกันอีกครั้งนะครับ" ไม่รอให้คริสโตเฟอร์เอ่ยปากไล่ โจเซฟก็รีบเดินดุ่มๆผิวปากอารมณ์ดีออกจากร้านไป โดยมีสายตาดุเขม่นตามหลังไปอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
"เจอกันอีกครั้งอะไร หึ ฉันไม่ให้เจอแน่ๆ เข้าใจมั๊ย!?" หญิงสาวได้แต่พยักหน้าเออออตามไปอย่างอ่อนใจกับคนขี้หวง ก่อนจะหันมาจัดการเลือกเสื้อสูทให้ชายหนุ่มอย่างจริงจัง หลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นๆ และตั้งแต่รับประทานอาหารไปจนกลับถึงบ้าน คริสตินก็ต้องรับฟังเสียงบนงุ้งงิ้งของคนตัวโตไปตลอดทาง พลางทำใจยอมรับสภาพ
เพชรอันดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2557, 21:49:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2557, 21:49:41 น.
จำนวนการเข้าชม : 986
ความเปลี่ยนแปลง >> |
รรวโรจน์ 21 ม.ค. 2557, 00:16:26 น.
ชอบพระเอกแนวนี้จัง 55555
ชอบพระเอกแนวนี้จัง 55555