หวานรักจอมบงการ
พ่อและแม่ของเธอไว้ใจฝากลูกสาวไว้กับลูกชายของเพื่อนสนิทในขณะที่พวกเขาไม่อยู่ หารู้ไม่ว่า คนที่(คิดว่า)ปลอดภัยที่สุด อาจเป็นคนที่อันตรายที่สุดก็เป็นได้!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ความเปลี่ยนแปลง

หวานรักจอมบงการ

ตอนที่ 1 : ความเปลี่ยนแปลง


..........

"ได้ข่าวว่าว่าที่พ่อตาไว้ใจฝากกระต่ายไว้กับหมาป่า"
"หุบปากไปเลยไป!" คริสโตเฟอร์ชักสีหน้าใส่อดัม เพื่อนตัวแสบที่ตอนนี้มานั่งเล่นอยู่ในห้องทำงานของเขาที่เบอร์นาร์ดกรุ๊ป เขาแค่มาเคลียร์เอกสารที่เหลือนิดหน่อย เพราะตอนนี้บิดาของเขาให้หยุดงานชั่วคราว เพื่อจะได้ไปคอยดูแลคริสตินได้อย่างเต็มที่
"ก็ดีแล้วนี่ เห็นก่อนหน้านี้ชอบเพ้อๆ ยิ่งเวลาแกเมานะ คริสตงคริสตินนี่หลุดปากออกมาเต็มเลย 'เมื่อไหร่เธอจะโตซักทีนะ นี่ฉันแก่ไปสำหรับเธอหรือเปล่า นายว่าเธอยังเด็กเกินไปไหม' บลาๆๆ" อดัมทำเสียงล้อเลียนเพื่อนของตนเอง แล้วก็อยากจะหลุดหัวเราะสะใจ เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจปนอับอายของคริสโตเฟอร์ "นี่ ฉันจะบอกอะไรแกให้ ตอนนี้คริสตินโตเป็นสาวแล้วนะ ห่างกับแกก็แค่ห้าหกปี ไม่ได้ห่างเป็นสิบๆปีซักหน่อย แล้วอีกอย่าง ช่วงนี้พ่อของเธอไม่อยู่ เป็นโอกาสอันดีที่แกจะสานสัมพันธ์ได้อย่างเต็มที่ เดินหน้าไปเลยเว้ยเพื่อน!" อดัมลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปใกล้คริสโตเฟอร์แล้วตบบ่าให้กำลังใจ
"นี่แกจะหุบปากได้รึยังวะ ไอ้อดัม"
"เออๆๆ ก็แค่เตือนด้วยความหวังดี อีกหน่อยเธอก็ต้องเข้าสังคม มีผู้ชายดีๆที่เพรียบพร้อมอยู่ถมเถไป เกิดเธอไปปิ๊งปั๊งกับหนุ่มคนไหน อย่ามานั่งนํ้าตาเช็ดหัวเข่าให้ฉันเห็นก็แล้วกัน เหอะ"
"ไม่มีทาง" คริสโตเฟอร์บ่นอุบอิบทั้งที่ในใจก็เริ่มมีแอบหวั่นขึ้นมาบ้างเหมือนกัน ก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วปิดแฟ้มลง ลุกขึ้นยืน หยิบเสื้อสูทที่วางพาดอยู่กับเก้าอี้ขึ้นมาสวม
"นี่แกจะไปไหนวะ ฉันจะชวนออกไปทานข้าวเที่ยงพอดีเลย"
"วันนี้ไม่มีสาวให้หิ้วแล้วหรือไงถึงมาชวนฉันไปทานข้าวด้วยเนี่ย?" คริสโตเฟอร์เลิกคิ้วถามเพื่อนอย่างประชดประชัน
"แหม่ ว่างๆก็อยากจะออกมาทานข้าวกับเพื่อนฝูงบ้างไม่ได้หรือไง บางทีพวกผู้หญิงก็เรื่องมาก น่ารำคาญจะตายไป แล้วนี่สรุปแกจะออกไปไหนเนี่ย ถ้ามีธุระฉันจะได้โทรตามกิ๊กอันดับที่สองร้อยของฉันออกไปทานข้าวแทน"
"เหอะ" คริสโตเฟอร์ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างมันไส้เพื่อน "จะไปรับคริสตินออกไปหาอะไรทาน นายก็มาด้วยกันสิ เห็นเมื่อวันก่อนเธอก็ยังบ่นๆถึงนายอยู่เลย"
"แหม มีสาวสวยบ่นคิดถึงขนาดนี้ เรื่องอะไรจะไม่ไปวะ ฮ่าๆๆ" เสียงคริสโตเฟอร์ และอดัมเถียงกันออกมานอกห้องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ทั้งสองจะออกมาจากห้องทำงานเพื่อไปรับหญิงสาวที่เป็นประเด็นในการถกเถียงเมื่อครู่ไปทานข้าวเที่ยง

.................................................................................................................

สามวันต่อมา ณ เรือนกระจก ในสวนหลังบ้านของตระกูลเลสลี่ ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ประจำของคริสติน หญิงสาวกำลังนั่งอ่านข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับบริษัท ตัดสินใจว่าวันนี้จะศึกษาเอกสารอยู่ที่บ้าน และจะไม่เข้าบริษัท
"คริส..." เสียงกระซิบข้างหูที่ดังขึ้นอย่างไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว ทำเอาร่างบางสะดุ้งน้อยๆ แล้วหันไปหาคนต้นเหตุ
"คริสอ่ะ! ตกใจหมดเลย นี่แหน่ะ!" ร่างบางตีแขนคนตัวโตเบาๆแล้วย่นจมูกใส่ เลยโดนชายหนุ่มกัดจมูกเข้าให้ทีนึงไม่แรงนัก จนหญิงสาวต้องปัดมือไล่เป็นพัลวันพลางหน้าแดง ส่งค้อนแถมให้อีกทีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากร่างหนา
คริสโตเฟอร์เข้าไปนั่งซ้อนหลังคนตัวเล็ก พร้อมโอบกอดเอวบางจากข้างหลังแล้วดึงร่างเล็กให้มาประชิดตัว ซึ่งคริสตินก็ไม่อิดออด นั่งพิงศีรษะลงกับไหล่หนาอย่างรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย
"วันนี้คริสมาทำไมล่ะ เค้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องมา เพราะวันนี้เค้าจะไม่เข้าบริษัท" ร่างบางซบใบหน้าลงกับซอกคอคนตัวโต พร้อมหลับตาพริ้ม พลางถามคำถามไปด้วย
"คิดถึง" คำตอบสั้นๆที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจหญิงสาวขึ้นมาได้กระทันหันจนเธอสะดุ้งตกใจกับตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าที่ผ่านมา คริสโตเฟอร์จะแสดงออกให้เธอรับรู้จากการกระทำ ไม่ว่าจะหวง ห่วง คิดถึง หรือรัก แต่เขาก็ไม่เคยพูดออกมาตรงๆซักครั้ง ซึ่งเธอก็ชินกับคริสโตเฟอร์คนนั้นมากกว่าน่ะนะ พอได้ยินเขาพูดขึ้นมาแบบนี้โต้งๆก็ต้องตกใจกันเป็นธรรมดา
เธอไม่ได้รู้สึกไปเองหรอกใช่ไหม? หลังๆมานี้เหมือนเขาจะเริ่มแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆอยู่บ่อยครั้งอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมแววตาที่เมื่อก่อน แม้จะสื่อความรู้สึกผ่านออกมาบ้าง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนชัดเจนเท่าช่วงนี้เลยแม้แต่น้อย จนเดี๋ยวนี้เธอต้องคอยหลบตาเวลาพูดคุยกับคริสโตเฟอร์ตลอด ไม่งั้นมีหวัง... เธอคงได้หน้าแดง พร้อมทัั้งปิดอาการเขินไม่มิดแน่ๆ
"เดี๋ยวนี้คุณแปลกๆนะ ไม่สบายหรือเปล่า" คริสตินผละออกมาจากอกแกร่ง พลางถามกลบเกลื่อนอาการเขิน และก็รู้สึกว่าตัวเองทำผิดมหันต์ที่ผละออกจากร่างหนาแล้วช้อนสายตาขึ้นมองเขา เพราะตอนนี้คริสโตเฟอร์ใช้สายตาหวานหยดมองเธออีกแล้ว...
ราวกับต้องมนต์สะกด เหมือนสายตาสองคู่ที่ใช้จ้องมองกันและกันมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้ไม่สามารถละสายตาออกจากกันได้ ใบหน้าคมคายค่อยๆก้มตํ่าเข้ามาใกล้ๆใบหน้าเรียวเล็ก พร้อมมือหนาที่เลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าหวานไว้ในอุ้งมือใหญ่อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากอุ่นแนบลงกับริมฝีปากเรียวเล็กอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอยออกมา แต่ใบหน้าก็ยังไม่ห่างจากกันอยู่ดี
ตอนแรก หญิงสาวคิดว่าเขาจะจบลงอยู่แค่นี้ เหมือนที่เคยจุ๊บกันอย่างที่ผ่านๆมา แต่ไม่เลย เพราะตอนนี้เรียวปากอุ่นได้เคลื่อนที่ลงมาครอบครอบบนริมฝีปากเรียวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เต็มไปด้วยความอ่อนหวานกว่าครั้งไหนๆ และจู่ๆ เรียวลิ้นอุ่นที่เธอไม่เคยได้รับจากคริสโตเฟอร์ก็ค่อยๆผ่านเข้ามาในช่องปากของเธอ เหมือนเขาพยายามที่จะเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กในปากของหญิงสาว
คริสตินที่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ ตอนนี้กำลังเลียนแบบสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังมอบให้อย่างเงอะๆงะๆ ทั้งที่ไม่รู้ว่าควรจะทำหรือไม่ มือบางค่อยๆเลื่อนขึ้นไปบีบต้นแขนหนาตามอารมณ์วาบหวามของจุมพิตที่ร้อนแรงแต่ก็ผสมความอ่อนหวานนุ่มนวลไปด้วย จนเมื่อคริสโตเฟอร์เริ่มได้สติจากแรงบีบที่ต้นแขน และรู้สึกว่าร่างบางยังไม่รู้วิธีหายใจ จึงยอมผละริมฝีปากออกในที่สุด มองใบหน้าแดงกํ่าที่หลับตาไม่กล้าเผชิญหน้ากับตนแล้วอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แนบอก แล้วจุมพิตเรือนผมเงางามเบาๆอย่างเอ็นดู
"ตกใจเหรอ?" เสียงนุ่มทุ้มถามขึ้นหลังจากเกิดความเงียบอยู่ครู่ใหญ่ นํ้าเสียงเจือแววขบขันเล็กน้อย
ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาว มีเพียงแรงกำชายเสื้อสูทของเขาที่เหมือนโดนดึงเพื่อระบายความเขินอายของร่างบางเท่านั้น

.................................................................................................................

"มองทำไม!?" เสียงหวานใสเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด แต่สีหน้าเจือไปด้วยความเขินอาย แหม ก็ตั้งแต่เขา... เอ่อ ปิดปากให้เธอหายใจไม่ออก หลังจากพากันเดินเข้ามาในห้องอาหารเพื่อเข้ามาทานอาหารเที่ยงในบ้านแล้ว(เรียกว่าเธอถูกคริสโตเฟอร์ลากมาดีกว่า) ระหว่างที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ คนตัวโตก็นั่งจ้องหน้าเธอ จนเธอทำอะไรติดๆขัดๆไปหมด จะจับนั่นจับนี้ก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ จนเธอเกือบลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเธอทำตัวอย่างไรเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม
"ก็อยากมองเฉยๆอ่ะ ไม่ได้เหรอ? ทีเมื่อก่อนฉันมอง เธอก็ยังไม่เคยว่าอะไรเลยนี่ หืม" ปากหนาขยับยิ้ม ยิ้มในแบบที่ทำให้เธอเขินอายจนต้องหันหน้าหนี หลบแววตาล้อเลียนของชายหนุ่ม
"อยู่ดีๆก็เหม็นขี้หน้า! ไม่เอา ไม่หิว ไม่กินแล้ว หึ้ย!" ร่างบางทำเสียงฮึดฮัดใส่ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่ทันจะได้กระทืบเท้าปึงปังออกไปจากห้องอาหาร ร่างสูงก็เดินมาดักอยู่ตรงหน้า แล้วพูดเสียงเข้ม ภาพคนขี้แกล้ง อารมณ์ดีหายไปหมด เหลือแต่ใบหน้าดุๆแบบที่เขาใช้จ้องมองเธอเวลาที่ทำตัวพยศ หรือไม่เชื่อฟังใส่เขา
"กลับไปนั่งที่เก้าอี้ คริส เธอทานข้าวยังไม่ถึงสามคำเลยนะ เดี๋ยวก็ได้หิวไส้กิ่วหรอก"
"ไม่เอา ก็บอกไปแล้วไงว่า อิ่ม-แล้ว!" หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะมองไปทางนู่นทีทางนี้ทีแบบไม่สนใจอย่างต้องการจะกวนประสาทคนตัวโต ทำเป็นมองชมนกชมไม้ ทั้งๆที่ในห้องอาหารก็ไม่ได้มีวิวอะไรให้ดูมากไปกว่าโต๊ะ เก้าอี้ และจานกับข้าว
"อย่าดื้อ ฉันบอกให้กลับไปนั่งที่เก้าอี้ เดี๋ยว-นี้" ร่างสูงเอื้อมมือไปจับคางเรียวให้หันมามองทางตน พลางพูดยํ้า
ร่างบางยังคงแสดงอาการต่อต้านด้วยการหลับตาปี๋ คลายมือที่กอดอกอยู่เมื่อสักครู่ออก แล้วยกขึ้นมาปิดหูตัวเองอย่างดื้อดึง
คริสโตเฟอร์มองอาการของคนตัวเล็ก พลางถอนหายใจกับความเอาแต่ใจไม่มีเปลี่ยนของหญิงสาว แม้จะรู้สึกเอ็นดู และมองว่าน่ารัก แต่คนภายนอกอาจจะมองในแง่ร้ายกว่าที่เขาคิดก็เป็นได้ จึงไม่อยากให้หญิงสาวติดเป็นนิสัย ตอนนี้จึงต้องขอขัดใจเธอไปก่อน
"อย่าทำแบบนี้น่า ไม่น่ารักเลย ไป ไปทานข้าวกัน" ร่างหนาพูดด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนลง ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะปิดหู ปิดตา หรือทำอะไร จัดการยกร่างบางจนขาลอยขึ้นมาจากพื้น อุ้มมานั่งที่ตักแกร่ง บนเก้าอี้ตัวเดียวกับที่เขานั่งเมื่อครู่ แล้วเอื้อมมือหยิบจานข้าวของหญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามมาไว้ใกล้ๆ
ร่างบางลืมตาขึ้นมาทันที เมื่อได้รับรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งอยู่ตำแหน่งไหน พลางดิ้นแล้วเตะแขนเตะขาไปมากลางอากาศเพื่อให้มือหนายอมปล่อยจากเอวเล็กๆของตน
"หยุดเดี๋ยวนี้ คริสติน ฉันจะไม่ตามใจแล้วนะ พอตามใจแล้วเป็นอย่างนี้เหรอ? เคยตัว" ร่างสูงต่อว่าหญิงสาว และเมื่อเห็นว่าร่างเล็กเริ่มอยู่นิ่งบ้างแล้ว จึงเอ่ยต่อ "หยุดดิ้น แล้วอ้าปากซะ อยากให้ฉันตีเธอจริงๆใช่ไหมฮะ ฟังกันบ้างได้แล้ว" คริสโตเฟอร์ตักข้าวในจานของหญิงสาวด้วยมือเพียงข้างเดียว เพราะอีกข้างคอยจับเอวบางไว้กันเธอตก บอกให้เจ้าของใบหน้าหวานอ้าปากเพียงเบาๆ แล้วป้อนข้าวให้ทาน
"คริส เป็นอะไรไป" ชายหนุ่มที่ตักข้าวป้อนร่างเล็กไปได้พอสมควรแล้ว สังเกตเห็นอาการตาแดงๆจวนจะร้องไห้ของหญิงสาวก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"คุณดุ ดุเค้าทำไม" พูดยังไม่ทันจบประโยคดี นํ้าตาก็ไหลออกจากดวงตากลมโตแทบจะทันที พลางก้มหน้าซบลงกับอกแกร่ง กอดคนตัวโตไว้แน่นแล้วสะอึกสะอื้น ไม่ต้องการที่จะให้คนตัวโตเห็นใบหน้าตอนเธอร้องไห้สักเท่าไหร่ เพราะมันก็คงไม่ได้น่าชวนมองเท่าที่ควร
"ไม่เอา ไม่ร้อง ฉันผิดเอง ขอโทษๆ" คริสโตเฟอร์กอดตอบพลางลูบหลังปลอบใจ
"แถมเมื่อกี้คุณยังเรียกเค้าว่าคริสตินด้วย" เมื่อเห็นเขาโอ๋เธอ ร่างเล็กจึงพูดอู้อี้อยู่กับอกแกร่งต่อ พลางสะบัดเสียงใส่ในท้ายประโยคอย่างงอนๆ รู้สึกได้ใจเมื่อเห็นเขางอนง้อเธอ ยังไม่ทันที่จะได้แอบยิ้มสะใจ ร่างสูงก็ดันเธอออกจากอก ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร ปากหน้าก็ประกบเข้ากับริมฝีปากบาง จุมพิตเอาใจอย่างอ่อนหวาน
"ต่อไปจะไม่เรียกแบบนั้นอีกแล้วนะ หยุดร้องไห้นะคนดี" ทันทีที่ถอนริมฝีปากออก ชายหนุ่มก็รีบพูดเอาใจ ก่อนจะจูบเบาๆที่หน้าผากอย่างต้องการจะปลอบประโลม
ร่างเล็กที่ยังมึนๆกับจุมพิตที่ได้รับจากคนตัวโตเมื่อครู่ หลังจากได้สติก็เขินอายหน้าแดง ทำเสียงฮึดฮัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขานี่มันจอมบงการ! ชอบสั่งๆๆๆๆ พอตบหัวเสร็จก็มาลูบหลังตลอดๆๆ เหอะ!
"เอ้า อิ่มแล้วใช่ไหม เดี๋ยวจะได้พาออกไปข้างนอก"
"หือ? คริสจะพาเค้าไปไหนเหรอ" มือแกร่งอมยิ้ม ก่อนจะช่วยจับให้เธอลุกขึ้นยืน แล้วทิ้งประโยคปริศนาไว้ พลางหันหลังเดินออกจากห้องอาหารไปอย่างอารมณ์ดี
"ไม่บอกหรอก อยากรู้ก็ตามมา" คนตัวเล็กอ้าปากพลางลูบแก้มข้างที่ปากหนาก้มลงมาจูบหนักๆทีหนึ่ง กว่าจะได้สติ เจ้าของจุมพิตที่ข้างแก้มก็เดินพ้นห้องอาหารไปไกลลิบแล้ว
"เดี๋ยวคริส รอเค้าด้วยสิ!"

.................................................................................................................

"หืมม นี่คิดจะซื้อบ้านใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย คุณซื้อบ้านในฝรั่งเศสเยอะจนทั้งหมดแทบจะกลายเป็นพื้นที่ของคุณหมดแล้วล่ะมั้งเนี่ย" เสียงหวานพูดเจื้อยแจ่ว และยังไม่มีท่าว่าจะหยุดพูด ตั้งแต่คริสโตเฟอร์พามาดูคฤหาสน์ที่เขาหมายตาเอาไว้
"เอ๋? แต่ครั้งนี้ดูจะใหญ่กว่าบ้านพักที่คุณเคยซื้ออีกนะ เล็กรองลงมาจากคฤหาสน์ของเค้ากับคริสนิดเดียวเอง" คริสตินที่โดนมือหนาจับจูงพาไปดูด้านในตัวคฤหาสน์พูดออกมาอย่างตื่นตาตื่นใจ โดยที่ร่างสูงเอาแต่อมยิ้ม ไม่นึกรำคาญกับเสียงใสที่พูดขึ้นเรื่อยๆแม้สักนิด
"แล้วที่นี่ก็ใกล้เมืองด้วยนี่นา แสดงว่าไม่ใช่บ้านพักธรรมดา คุณจะย้ายมาอยู่ที่นี่เลยเหรอ?" คนตัวเล็กเเหงนหน้าขึ้นถามร่างสูง เพราะเธอสูงยังไม่ถึงไหล่หนาเลยเสียด้วยซํ้า
"ประมาณนั้นล่ะมั้ง"
"แล้วจะย้ายมาอยู่เมื่อไหร่เหรอ"
"เร็วๆนี้แหละ" คริสตินพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันกลับไปสนใจสิ่งรอบตัวแทนร่างสูง ซึ่งถ้าเธอหันกลับมามองอีกสักนิด คงจะได้เห็นรอยยิ้มมุมปากแสนเจ้าเล่ห์นั่นเป็นแน่
คริสตินไม่นึกแปลกใจสงสัยอะไร เพราะที่ผ่านมาเวลาที่ชายหนุ่มจะซื้อบ้านพักแถวชานเมือง หรือแม้แต่คอนโด เขาก็จะพาสาวเจ้าไปช่วยดูอยู่ตลอด มีอยู่แค่อย่างเดียวที่เธอสงสัยคือ คฤหาสน์หลังนี้อยู่ไม่ไกลจากทั้งบ้านของเขาและเธอ แถมยังอยู่ไม่ห่างจากบริษัทสักเท่าไหร่ จึงไม่รู้ว่าเขาจะซื้อไปเพื่ออะไร แต่ก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจมากมาย
"ถูกใจไหม คริส" คริโตเฟอร์ถาม เมื่อพาคนตัวเล็กเดินดูชั้นสองของคฤหาสน์ และเดินกลับลงมาข้างล่างแล้ว พร้อมวิศวกรที่ออกแบบคฤหาสน์ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานตามคำสั่งของคริสโตเฟอร์ เบอร์นาร์ด เพียงแต่เขายังไม่ได้บอกให้เธอรู้ ตั้งใจจะให้เธอเข้าใจไปก่อนว่ามีคนสร้างไว้และนำมาขายให้แก่เขา
"ชอบมากๆเลยล่ะ คริสจำบ้านในฝันที่เค้าบอกได้ไหม ว่าห้องนอนของเค้าจะต้องมีระเบียงที่สามารถมองเห็นสวนหลังบ้านที่มีดอกไม้เยอะๆ แล้วก็มีศาลาไม้น่ารักๆไว้พักผ่อน มีสระว่ายนํ้าข้างบ้าน แล้วคฤหาสน์สีขาวที่เหมือนพระราชวังแบบนี้เค้าก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่เลยล่ะ สรุปคือหลังนี้เค้าชอบมากๆเลย! คริสซื้อนะ แล้วเค้าจะขออนุญาตคุณป๋ากับมัมมานอนที่นี่บ่อยๆ" คนตัวเล็กตาเป็นประกาย ก่อนจะเขย่าแขนคริสโตเฟอร์อย่างออดอ้อน บ่งบอกความต้องการ
"ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวจะได้มาอยู่จนเบื่อเลย" ใบหน้าหล่อคมฉวยจมูกลงมาหอมแก้มนวลหนักๆ หากหญิงสาวพิจารณาประโยคเมื่อครู่สักนิด ก็คงได้รู้ว่ามีบางอย่างบอกเป็นนัยๆอยู่แล้ว
คริสตินหน้าแดงกรํ่า เขินอายวิศวกรหนุ่มสองคนที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็มีอมยิ้มล้อเลียนแฝงอยู่ในใบหน้า ทำให้มือบางต้องไประบายความเขินอายกับคนตัวโตโดยการทุบไปที่ต้นแขนแรงๆหนึ่งที
ร่างบางเดินดูรอบๆบ้านอย่างมีความสุขขณะรอคริสโตเฟอร์คุยธุระอยู่กับวิศวกรทั้งสองคน อยู่ดีๆลางสังหรณ์ดีๆก็แวบเข้ามาในหัวว่าอีกไม่นาน บ้านหลังนี้จะกลายมาเป็นของเธอ หญิงสาวสะบัดหัวไล่ความคิด จะเป็นแบบนั้นได้ไงล่ะ ก็คนซื้อเป็นคริสโตเฟอร์นี่นา

................................................................................................................

ร่างเพรียวระหงสุดเย้ายวนนั่งอยู่บนโซฟาราคาแพงในคอนโดหรูส่วนตัวของเธอ พลางเอื้อมมือไปหยิบนิตยาสารซุบซิบที่วางอยู่บนโต๊ะที่น้องสาวนำติดมือมาจากฝรั่งเศสด้วย เปิดดูข่าวบันเทิงไปสักพักก็ต้องตาโตกับข่าวในนิตยาสารหนึ่งหน้ากระดาษ ก่อนเสียงแหลมๆจะเอ่ยเรียกน้องสาวเสียงดัง
"มาลีน มานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ นี่มันอะไรกัน!?"
"อะไรของพี่เนี่ย เมแกน จะโวยวายอะไร" ผู้เป็นน้องสาวรีบเดินออกมาจากห้องครัว ในมือมีแก้วกาแฟราคาแพง ก่อนจะเดินตรงมานั่งลงข้างๆผู้เป็นพี่สาว เจ้าของเสียงที่ตะโกนเรียกเธอเมื่อสักครู่
"ก็ดูนี่สิ ทำไมยัยคุณหนูเลสลี่ถึงได้มีภาพไปไหนมาไหนกับคริสโตเฟอร์สองต่อสองเยอะขนาดนี้ฮะ!" มาลีนก้มหน้าลงไปอ่านนิตยาสารฝรั่งเศสที่พี่สาวโยนลงบนโต๊ะ ซึ่งมีรูปคุณชายเบอร์นาร์ด และคุณหนูเลสลี่อยู่ในสถานที่ต่างๆไม่ซํ้ากันสักรูป แถมทุกรูปยังแสดงออกถึงความหวงแหนของชายหนุ่มที่มีต่อร่างบาง ไม่ว่าจะเป็นการจับมือ โอบไหล่หรือแม้กระทั่งโอบเอว ก่อนที่มาลีนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางทำหน้าเบื่อโลก แล้วเอ่ยย้อนพี่สาวไป
"ไม่เห็นจะแปลก เขาก็สนิทกันมาตั้งนานแล้วนี่ อยู่ด้วยกันจนจะแต่งงานมีลูกแล้วมั้งเนี่ย พี่จะมาอารมณ์เสียทำไม"
"เอ๊ะ! นี่เธอรู้แล้วไม่ยอมบอกพี่เหรอมาลีน!"
"อย่าว่าแต่ฉันรู้เลย คนในวงการเขาก็รู้กันทั่วว่าสองตระกูลนี้เขาสนิทกันขนาดไหน โดยเฉพาะสองคนนี้ ที่น่าแปลกคือทำไมพี่ถึงไม่รู้มากกว่า หรืออยู่อเมริกานานเกินไปเลยไม่ได้ติดตามข่าวสาร" มาลีนมองเมแกนอย่างปลงๆ ก่อนจะยกแก้วกาแฟในมือขึ้นจิบช้าๆ
"ไม่จริง! ฉันไม่เคยเห็นคริสโตเฟอร์จะมีข่าวกับผู้หญิงมาก่อน" ร่างสวยในชุดเดรสสีแดงพูขึ้นอย่างไม่อยากยอมรับความจริง
"อันนั้นก็ใช่ ถ้าจะยกเว้นคุณหนูเลสลี่คนนึงน่ะนะ เมแกน ฉันไม่รู้นะว่าความจริงเป็นแบบไหน แต่ถ้าจะให้พูดในสายตาคนนอกอย่างฉันและคนอื่นๆที่มองล่ะก็ สองคนนั้นเขารักกันมาก และเหมือนจะรักกันมานานกว่าที่พี่จะคิดถึงเสียด้วยซํ้าไป" มาลีนวางแก้วกาแฟลง ก่อนจะหันหน้าไปทางผู้เป็นพี่สาวอย่างต้องการที่จะคุยจริงจัง "แต่ที่ฉันสงสัยก็คือ เมื่อสี่ปีก่อน คริสโตเฟอร์เขาก็เคยปฏิเสธพี่อย่างเด็ดขาดไปแล้ว พี่เองก็เหมือนจะลืมๆเขาไปแล้วด้วยเหมือนกัน แล้วทำไมอยู่ๆถึงโวยวายขึ้นมาอีก หรือพี่ยังลืมคริสโตเฟอร์ไม่ได้?"
"เขาหักหน้าฉัน อีกไม่กี่วันฉันก็จะกลับไปฝรั่งเศสแล้ว ฉันก็จะไปทวงคืนของทุกๆอย่างที่เป็นของฉัน รวมถึงธุรกิจที่พวกเลสลี่เอาของเราไป" เมแกนกัดฟันพูดอย่างโกรธแค้น
"ไม่ว่าพี่จะคิดอะไร ฉันขอเตือนไว้ตรงนี้เลยนะว่าหยุดซะ เรื่องธุรกิจ พ่อก็เคยอธิบายให้เราฟังแล้วว่าถึงจะดันทุรังทำต่อไปแค่ไหนก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง พ่อเลยตัดสินใจขายให้กับเลสลี่กรุ๊ป แล้วหากิจการใหม่ทำ ตอนนี้เราก็กลับมารํ่ารวยเหมือนเดิมแล้ว พี่จะไปชิงชังอะไรเขาอีก ส่วนคริสโตเฟอร์ของพี่น่ะ เมื่อก่อนอาจจะไม่มีข่าวแพร่งพรายนักกับคุณหนูเลสลี่เพราะพวกผู้ใหญ่ปิดข่าว แต่พอพี่บินมาอเมริกาได้ไม่นาน ข่าวก็เริ่มออกมามากขึ้น จนสุดท้ายเขาเลยเลิกปิดข่าวกัน เรื่องจริงมันก็เลยแผ่หราอยู่กลางนิตยาสารแบบนี้นี่ไง"
"เรื่องจริง? นี่เธอกล้าบอกว่ามันคือเรื่องจริงงั้นเหรอมาลีน" เมแกนเขย่าแขนน้องสาวตามอารมณ์
"จริง! แล้วตอนนี้วงในเขาก็ลือกันหนาหูก่อนที่ฉันจะมาหาพี่ที่นี่ไม่กี่วันเลยนะ ว่าคริสโตเฟอร์เขาเตรียมคฤหาสน์ไว้เป็นเรือนหอให้คุณหนูเลสลี่ราคาร้อยกว่าล้าน นี่ยังไม่รวมตกแต่งภายในที่กำลังจะเริ่มลงมือหรอกนะ แค่นี้พี่ยังไม่รู้อีกหรือไงว่าคริสโตเฟอร์เขาจริงจังกับเธอขนาดไหน ที่ผ่านมาถึงไม่เคยมีข่าวคู่ควงของเขาออกมาเลยไงล่ะ!"
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะมาลีน!"
"ฉันหยุดพูดแน่ เมแกน ถ้าประโยคนี้จบลง ฉันจะบอกพี่ให้นะว่า ต่อให้พี่จะกลับไปแทรกกลางระหว่างเขาทั้งสองคนขนาดไหน พี่ก็ไม่มีทางทำสำเร็จหรอก เขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก เขารักกัน! พี่เข้าใจไหมว่า เขา-รัก-กัน-มาก!! พี่เลิกอิจฉาคนอื่นได้แล้วนะ ฉันอายที่มีพี่สาวเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแถมยังนิสัยไม่ดีแบบนี้!" พูดจบ มาลีนก็ไม่รอให้เมแกนไล่ เธอรีบตรงเข้าห้องของตัวเองก่อนที่จะได้เปิดศึกกับพี่สาวอีกซักรอบ
"กรี๊ด!! นี่เธอกล้าด่าพี่เหรอมาลีน! คอยดูนะ ยังไงคริสโตเฟอร์ก็ต้องเป็นของฉัน ไม่ใช่ยังคุณหนูบ้านั่น เข้าใจมั๊ย!!?" เมแกนโยนหมอนปาไล่หลังผู้เป็นน้องสาวที่ตอนนี้ปิดประตูใส่หน้าเธอเสียงดัง ก่อนจะโวยวายอยู่คนเดียว
'ไม่มีทาง! ฉันเป็นเจ้าของคริสโตเฟอร์ได้คนเดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ได้เขาไปครองนอกจากฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น!'


.................................................








เพชรอันดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2557, 21:50:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2557, 21:50:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 854





<< การกลับมาของคุณหนูเลสลี่   ใครที่ร้ายกว่ากัน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account