Flower of Love สุภาพบุรุษสีชมพู (ผ่านการพิจารณา สนพ.ดอกหญ้า 2000)
“ทิวลิป” นักการตลาดสาวสวยเปรี้ยวเฉี่ยว วัย ๓๐ ปี เนื่องจากต้องพบเจอกับปัญหาครอบครัวของคนรอบข้างอยู่เสมอ ทิวลิปจึงไม่คิดจะมีครอบครัวและไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครได้ใกล้ชิด ทั้งที่หัวใจปฏิเสธแต่ในส่วนลึกนั้น ทิวลิปก็เหมือนหญิงสาวทั่วไปที่ต้องการชายหนุ่มที่เข้าใจในทุกสิ่งที่ผู้หญิงเป็นและต้องการความรักจากใครสักคนที่จะไม่ทำให้เธอเจ็บปวด
“ศิวา (หิน)” ชายหนุ่มวัย ๓๑ ปี เพราะหน้าตาที่หล่อมากจนกระเดียดไปทางสวยกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก ทั้งที่มีรูปร่างที่สูงใหญ่มาดแมนแต่เพราะเขาไม่เคยเปิดใจให้ใครจึงถูกมองว่าเป็น “เกย์” ศิวาไม่เคยมีความรักแบบหนุ่มสาวกับใคร เขาใช้ชีวิตหนุ่มโสดไปกับการดูแลเหล่าดอกไม้ทั้ง ๖ ของเขา และดูแลร้านดอกไม้ที่เป็นธุรกิจของครอบครัว เพราะหน้าที่ปกป้องดอกไม้เหล็กที่ผู้เป็นพ่อมอบหมาย ทำให้ทุกเรื่องของผู้หญิงนั้นศิวารู้ไปทุกอย่าง แม้แต่การเลือกซื้อผ้าอนามัย ควรจะซื้อแบบไหนถึงจะซึมซับได้ดี เครื่องสำอางแบบไหนและการแต่งหน้าอย่างไรจึงจะส่งขับความสวยงามตามธรรมชาตินั้นออกมามากที่สุด
เมื่อทั้งสองมาเจอกัน ทิวลิปไม่คิดว่าตัวเองจะมีรักแรกพบกับใคร ผู้ชายที่เธอคิดว่า “ใช่” มาเกิดแล้ว แต่ “Oh! My god. He แอ๊บแมน” ทิวลิปเสียศูนย์กับรักครั้งแรกของตัวเองแต่ก็ได้กำลังใจจากกลุ่มเดอะแก๊งค์ของเธอ ทำให้เธอฮึดสู้ แต่เพราะไม่แน่ใจว่าศิวาเป็นเกย์จริงหรือไม่ ภาระกิจพิสูจน์เกย์จึงเกิดขึ้น
Tags: นิยาย, รัก, ร้านดอกไม้, สีชมพู, สุภาพบุรุษ

ตอน: รักแรกพบมีอยู่จริง

ตอนที่ ๑
รักแรกพบมีอยู่จริง

ทิวไม้ใหญ่หลากหลายต้นที่ขึ้นเป็นแนวตลอดสองฝั่งข้างทางฟุตบาทเพื่อให้ร่มเงากับผู้สัญจรไปมา และยังใช้เป็นร่มเงาให้กับร้านอาหารขนาดกลางที่ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูดูเข้ากับบรรยากาศร่มรื่นของพันธุ์ไม้สีเขียว บรรยากาศยามเที่ยงทำให้มีลูกค้าในวัยทำงานมาใช้บริการมากกว่าปกติ แต่น่าจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงแปดหลอดของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน

“แง๊.. ทิวลิปแกคิดดู วันๆ มันก็เอาแต่กินเหล้าเที่ยวผู้หญิง มันไม่เคยเห็นใจฉันเล๊ย.. ฉันน่ะต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานทั้งนอกบ้านทั้งในบ้าน ไหนจะเรื่องบนเตียงใต้เตียงหรือว่าขอบเตียงมันก็ให้ฉันทำหมดทุกอย่าง แล้วแกดูมั๊น! มันก็ยังไปเอานังนั่น มันไม่เคยเห็นคุณค่าของฉันเลย ยังไงนะแก ถ้ามันทิ้งฉันจริงๆ อ่ะ แง๊.. แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ ทิวลิป..”

ทิวลิปที่เพื่อนสาวเอ่ยเรียกนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยเก๋ซอยผมสั้นทันสมัยในเฉดสีเหลืองมะนาวเปรี้ยวจี๊ด ผิวขาวอมชมพูดูสุขภาพดีส่งผลให้แก้มอิ่มมีสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ จมูกโด่งรั้นๆ รับกับริมฝีปากกระจับบางเคลือบด้วยสีเชอรี่มันวาว โดยเฉพาะดวงตาคมจัดที่แต่งแต้มอายไลเนอร์เส้นหนาและตวัดหางขึ้นให้สวยเฉี่ยวนั้น ยิ่งทำให้เจ้าของใบหน้านี้ดูเป็นสาวมีกึ๋นทันคนและก็คงจะเป็นกูรูผู้รอบรู้ในสิ่งที่เพื่อนเธอเอ่ยถาม

องค์ประกอบของเครื่องหน้าสวยเก๋จะดูดีมากๆ ถ้าริมฝีปากบางกระจับนั้นจะไม่เบ้ออกแบบอืมระอากับเรื่องราวของเพื่อนที่มารุมปรับทุกข์ให้เธอฟัง เพราะนี่มันเป็นรอบที่เท่าไรของเดือนนี้ก็ไม่รู้ ที่ยัยพวกนี้โทรนัดเธอให้มานั่งฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้

“ไร้สาระสำหรับเรา แต่สำหรับนังพวกนี้มันกลับเต็มไปด้วยสาระอันล้นพ้น”

นั่นแหละคือความคิดที่ทำให้ต้องอดทนนั่งฟังอย่างหลังขดหลังแข็ง และต้องสรรหาสารพันวิธีการแก้ปัญหาเรื่องผัวเมีย ทั้งที่ศิราณีจำเป็นนี้ไม่มีประสบการณ์จริงเลยสักครั้ง ซึ่งหลังๆ นี้เธอพยายามจะคิดว่า “เพื่อนคงลืม” ว่าเธอยังไม่มีใครสักคน เพื่อนสาวทั้ง ๔ จึงขยันมาปรับทุกข์กับเธอกันจัง สุดท้ายเธอเลยกลายเป็นกูรูผู้รู้ลึกรู้จริงไปเสียแล้ว

“ทิวลิปแกจะว่าไง ทำไมแกนั่งเฉยแบบนี้! แกไม่สงสารเพื่อนเลยเหรอไง”

“ใช่! ทิวลิปแกแนะนำมันหน่อยสิ แกน่ะรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว บอกยุมันหน่อยจะให้มันทำอย่างไร ผัวมันถึงจะกลับบ้าน”

“ใช่! คราวที่แล้วที่แกแนะนำฉัน ฉันยังใช้ได้ผลเลย แกน่ะรู้ดีไปหมด แนะนำยุมันหน่อยเถอะน่า”

อัมรา นุจรี และลดา ต่างช่วยกันพูดให้เธอแนะนำวิธีที่ดี สำหรับให้ยุรนานำไปใช้ผูกมัดสามีของเธอให้กลับมาบ้านหลังจากทั้งสามสาวก็ต่างผลัดกันมาขอคำปรึกษาจากเธอ และดูเหมือนในทุกคราวที่นัดจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่มีปัญหาจนต้องเรียกร้องศิราณีไฮเทคอย่างเธอมาแก้ไขให้

“นะแก ทิวลิปช่วยฉันหน่อย คราวที่แล้วที่แกบอกให้ฉันลองที่ขอบเตียงมันก็ใช้ได้ผลนะแก แต่ก็แค่ไม่กี่ครั้ง มันก็อดจะกลับไปหานังนั่นไม่ได้ ไม่รู้นังนั่นมันใช้ท่าไหนจับผัวฉันไว้ แกช่วยสอนฉันหน่อยสิ ได้ไหม ทิวลิป”

“ช่วยยุมันเถอะนะทิวลิป”

“นะทิวลิป นะ”

“โอ๊ย! พวกแกหยุดได้แล้ว ฉันจะบ้าตาย หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”

เสียงหวานตวาดแหววอย่างเหลืออด จนทำให้ลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามาและที่นั่งอยู่ก่อนแล้วต่างหันมามองเธอเป็นจุดเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่งทิพยุพาเจ้าของร้านสาวสวยที่ต้องออกมายืนใช้สายตาปรามๆ ส่งตรงมาที่เธอ จนทิวลิปต้องหดหัวอย่างแหยงๆ พลางก้มศีรษะขอโทษขอโพยทั้งแขกมาใหม่และเก่า ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหันไปใช้สายตาปรามๆ เพื่อนสาวทั้ง ๔ ของหล่อนเป็นการเอาคืนเหมือนกัน

ร้าน “สีชมพู” ร้านนัดพบของพวกหล่อนที่ตั้งชื่อได้กิ๊บเก๊ได้ใจมากๆ โดยเฉพาะธีมตกแต่งร้านที่ใช้สีน้ำตาล สีขาว และสีชมพูเป็นโทนหลักทำให้ร้านดูหวานปนแกร่งได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งทิพยุพาบอกว่าคนออกแบบเป็นน้องชายของเธอเอง รุ่นพี่สาวสวยที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันและเป็นพี่รหัสของทิวลิป จนทำให้เธอและผองเพื่อนต่างใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สิงสถิตทุกครั้งที่เกิดปัญหาตั้งแต่เรียน จนจบเข้าทำงานและจนต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัว แต่เรื่องมันจะไม่เกิดถ้า..

“นี่พวกแก! คำถามที่ถามน่ะ แน่ใจนะว่าตั้งใจมาถามฉันจริงๆ พวกแกรู้บ้างไหมว่าฉันต้องอดทนอดกลั้นกับพวกแกมากมายขนาดไหน นังบ้า! ทั้งหลาย สารพันคำถามมากมายร้อยแปด ถามจริง! พวกแกลืมไปรึไงว่าฉัน.. ยังไม่มี ผอสระอัว ผัวน่ะ ลืมกันหรือไง”

น้ำเสียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันที่พยายามพูดให้เบาที่สุด ทว่าความกราดเกรี้ยวก็ยังทำให้น้ำเสียงเล็ดลอดไปจนลูกค้าโต๊ะอื่นได้ยิ้มกับคำถามของเจ้าหล่อน โดยเฉพาะเหล่าผองเพื่อนทั้ง ๔ ที่นั่งอึ้งไปอย่างไม่คาดคิดนั้น ก็ยิ่งทำให้สาวขี้วีนดูน่ารักกับคำถามโพล่งๆ ของเธอ จนถึงกับลูกค้าโต๊ะข้างๆ ลุกขึ้นมาขอถ่ายรูปคู่กับเธอไปซะงั้น ทิวลิปจึงต้องปรับอารมณ์เป็นยิ้มหวานรับกล้องอย่างช่วยไม่ได้ที่เกิดมาสวยเก๋ดูดี แต่ว่าจะจริงเหรอ? หัวคิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นครุ่นคิดเพราะคานทองนิเวศดูเหมือนกำลังเปิดประตูรอรับเธออยู่แล้ว ก็นี่มัน ๓๐ ฝนแล้วหนิ

“ว่าไง.. จะแนะนำเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้ไม่ต้องมาถามอีก พวกแกทั้ง ๔ นั่นแหละที่ต้องปรึกษากันเอาเอง เคยๆ กันแล้วทั้งนั้นนี่ ถามอยู่ได้คนไม่เคย”

“โธ่.. ทิวลิป พวกฉันขอโทษ ก็เห็นทุกครั้งถามไปแกก็ตอบได้ ฉันก็เลยคิดว่าแกเป็นกูรูผู้รู้จริง ก็ดันตอบได้ทุกครั้งอ่ะ”

“ก็ใครล่ะที่ทำให้ฉันต้องตอบน่ะ สารพัดปัญหาช่างไม่ซ้ำกันเลยจริงจริ๊ง เอ้า! นี่ ฉันซื้อมาให้พวกแก ๔ คน ๔ เล่มอ่านกันเข้าไป รับรองถ้าพวกแกเล่นครบทุกท่า ผัวรักผัวหลงแน่นอน ต่อให้ ๑๐ นังพวกนั้นก็สู้พวกแกไม่ได้หรอก และอย่ามาถามฉันอีกนะว่าทำไง เอาไปซี่!”

“ทิวลิป!”

เสียง ๔ สาวที่โพล่งขึ้นพร้อมๆ กัน พร้อมกับมองหนังสือในมือสลับกับมองหน้าสวยเก๋ของทิวลิปไปมา ราวกับเห็นสิ่งแปลกประหลาด “Sex secret” คือชื่อหนังสือที่เพื่อนสาวส่งให้ แต่เมื่อเห็นสายตาเอาจริงของทิวลิป เหล่าเพื่อนสาวก็เปลี่ยนมาเป็นเปิดหนังสือพลิกซ้ายพลิกขวาดูเนื้อหาภายในที่มีทั้งภาพประกอบสมจริงและคำบรรยายอย่างละเอียด จนทั้ง ๔ สาวต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอิ้ก!

“มิน่าล่ะ มันถึงชื่อว่า Sex secret อืม.. บรรยายได้สมจริงแจ่มแจ๋ว”

“นังยุ!”

เพื่อนสาวทั้ง ๔ ร้องขึ้นพร้อมๆ กัน ทำให้ยุรนายิ้มแหยพลางรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าตามผองเพื่อนที่ต่างก็รีบเก็บเช่นกัน เพราะเริ่มกลัวกับสายตาโต๊ะข้างๆ ที่มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ และกลัวที่สุดว่าทิวลิปจะเปลี่ยนใจเอาคืนเสียก่อน

“แฮะ.. ลืมตัว ว่าแต่ทิวลิป แกซื้อมาทำไมตั้ง ๔ เล่ม ถามจริงแกมีเอี่ยวกับนักเขียนหรือเปล่าว่ะ”

“บ้าน่ะดิ ฉันรำคาญเวลาพวกแกถาม เลยตัดใจซื้อซะเลย แกจะได้เลิกๆ ถามฉันกันสักที ไปศึกษาด้วยตัวเองบ้าง ไม่ใช่ถามแต่ฉันยัน และนี่ไม่ใช่แค่ ๔ ยังมีอีกเพียบ”

“ทิวลิป! แกจะบ้าเหรอ ใจคอแกจะซื้อไปแปะข้างฝาบ้านแทนวอลเปเปอร์เลยรึไง”

อัมราส่งเสียงแหวขึ้นในทันทีที่เห็นหนังสือปกขาวที่มองคร่าวๆ มากกว่า ๕ เล่มเรียงกันอยู่ในถุง เมื่อทิวลิปยกขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ เพราะทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเล่มเดียวกับตำรารักลับๆ ที่พวกเธอพากันยัดใส่กระเป๋าเมื่อครู่

“ฉันซื้อมา ๑ โหล สำหรับพวกแกและบรรดาพี่ๆ น้องๆ ที่บริษัท ตลอดจนคุณลูกค้าทั้งหลายที่คิดว่าฉันเป็นกูรูผู้รอบรู้อย่างที่พวกแกเข้าใจ ได้ครบทุกคน ต่อไปนี้จะได้ไม่มีใครมาถามฉันเรื่องนี้อีก ฉันเซ็ง! ฉันเบื่อ!”

“OK. OK. ต่อจากนี้พวกฉันจะไม่กวนใจแกเรื่องนี้อีกแล้วนะ แกน่ะโชคดีแล้วนะทิวลิปที่อยู่เป็นโสดน่ะ อย่ามีเล๊ย.. ครอบครัว แต่อย่างว่าล่ะนะเรื่องแบบนี้ คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า ฉันคงห้ามแกไม่ได้หรอก”

“นุจแกไม่ต้องมาบอก ชาตินี้ฉันไม่คิดจะมีคู่อยู่แล้ว ถ้ามีแล้วต้องเจออย่างพวกแก สู้ฉันอยู่คนเดียวให้แห้งเหี่ยวอย่างนี้จะดีกว่า”

“นุจแกก็พูดเกินไป บางทีทิวลิปอาจจะไม่เจอเหมือนพวกเราก็ได้”

“ใช่ และมันก็ไม่ได้เจอแต่เรื่องแย่ๆ เสมอไปซะเมื่อไร ไม่เชื่อเย็นนี้แกลองเปิดใช้สักบทสองบทสิ รับรองเรื่องดีๆ มีมาแน่นอน”

นุจรีและลดาพูดเย้าแหย่กันไปมาเพราะวันนี้ไม่ใช่คิวของเธอทั้งสองปรับทุกข์ แต่เป็นยุรนาที่สามีไปติดพันนักร้องห้องอาหาร เลยทำให้ทั้งสามนางที่เหลือดูจะยิ้มแย้มกันได้อยู่ ไม่เหมือนเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนที่ทั้งสามสาวก็มีสภาพไม่ต่างไปจากยุรนาสักเท่าไร

ทิวลิปมองเพื่อนสาวของเธอที่พูดกันไปเถียงกันไป เรื่องทั้งหมดนั้นมันสร้างความชาชินให้กับเธอ เริ่มตั้งแต่พี่สาวที่ทะเลาะตบตีกับพี่เขยไม่เว้นแต่ละวัน ตลอดจนพี่ป้าน้าอาญาติพี่น้องทั้งหลาย ที่บางครอบครัวก็แยกกันอยู่ บางครอบครัวที่ยังอยู่ด้วยกันแต่ก็มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันได้ตลอดเวลา จนเธอชาชินและไม่คิดที่จะมีคู่ เพราะไม่เห็นใครสักคนที่จะมีความสุขที่จีรังนั้น

“ทิวลิป แกฟังพวกฉันอยู่หรือเปล่า”

“ฮ่ะ! ว่าไงนะ”

“ฉันถามว่าแกไม่คิดจะมีผอสระอัวจริงๆ น่ะเหรอ”

“ไม่อ่ะ สงสัยเนื้อคู่ฉันยังไม่เกิดมั้งแก”

“เสียดายความสวยของแกว่ะ แกจะปล่อยให้มันร่วงโรยเหี่ยวแห้งไปจริงๆ เหรอ นี่มันก็ ๓๐ ฝนแล้วนะแก ลองเปิดใจคบใครดูบ้างไหม เผื่อบางทีชีวิตมันจะได้ชุ่มชื่นกว่านี้”

“อื้อ! จะกี่ฝนฉันก็ไม่ว่ะ ฉันถือคติ.. จะอยู่ให้ผู้ชายมันเสียดายเล่น เป็นไงแก.. วลีฉันเด็ดไหม”

“ดะ.. เด็ดมากอ่ะแก...โอว.. ว๊าว.. หล่ออ่ะ! ว๊าวววว..”

“อะไรของแกว่ะนังอัม พวกแกด้วย ผัวมีเมียน้อยจนเพี้ยนแล้วมั้งเนี๊ย”

อัมราที่อ้าปากค้างแต่สายตาส่งตรงไปด้านหลังซึ่งเป็นทางเข้าของร้าน รวมทั้งเพื่อนสาวคนอื่นๆ ก็มีอาการอึ้งๆ ไม่แพ้กัน ทำให้ทิวลิปต้องหันมองตาม และความอึ้งทึ่งเสียวก็มาเยือนเธอเข้าจนได้ เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่นั้นสะกดทุกสายตาของคนในร้านได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะหากคนมองนั้นเป็นผู้หญิง

มนุษย์ผู้ชายที่สูงกว่า ๑๘๐ เซนติเมตร ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงยีนส์สีซีดๆ ชุดที่ธรรมดากลับดูไม่ธรรมดาเอาเสียเลยเมื่อคนสวมใส่เป็นเขา เพราะใบหน้าหล่อจัด ไม่สิ.. เรียกว่าสวยจัดนั่นต่างหาก ดวงตาคมล้อมกรอบด้วยขนตางอนหนารับกลับจมูกโด่งและริมฝีปากบางเฉียบสีแดงระเรื่อ จะขัดกันก็ตรงที่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ชวนจินตนาการและไรเคราเขียวอ่อนที่มองออกว่าเพิ่งโกนมาหมาดๆ นั้น ที่ทำให้หัวใจของเธอมันเต้นถี่อย่างไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อริมฝีปากบางเฉียบนั้นเหมือนจะคลี่ยิ้มให้เธอเพียงนิดพร้อมกับก้มศีรษะทักทาย ก่อนเจ้าของร่างสูงที่หล่อเสียจนทำให้เธอละเมอจะเดินหายเข้าไปในโซนด้านหลังร้าน

“ผู้ชายอะไรว่ะแก ว๊าว.. หล่อลากดิน หล่อระเบิดระเบ้อ หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อไม่แบ่งปันเพื่อนฝูง”

ดวงตาคมเฉี่ยวแพรวพราวยามพรรณนาถึงรูปลักษณ์ของชายหนุ่มพร้อมคำเปรียบเปรย ทำให้เหล่าเพื่อนสาวพากันมองทิวลิปอย่างอึ้งๆ ปนขำ

“สงสัยเนื้อคู่ไอ้ทิวลิปจะมาเกิดแล้วว่ะ แกดูมันดิ ถึงกับละเมอเลย ลองเรียกดูสิ มันจะรู้ตัวไหมเนี๊ย ทิวลิป.. ทิวลิป!”

“อะไรของแกนังอัม! อยู่ใกล้กันแค่นี้แกจะตะโกนทำไม หูจะแตก”

“อย่ามา อย่ามา แกเจอเนื้อคู่แล้วใช่ไหม อ่ะ อ่ะ อ่ะ.. ทิวลิป ฉันอยากให้แกเห็นหน้าตัวเองตอนนี้ว่ะ นุจแกเอากระจกมาให้มันดูดิ มันจะได้รู้ว่าหน้ามันทั้งแดงแจ๋ทั้งเหวอขนาดไหน”

ทิวลิปหน้าเหวอพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อเพื่อนๆ ต่างมารุมล้อม เพราะไอ้อาการทั้งหมดนั้นมันฟ้องได้จากความรู้สึกวูบวาบไปทั้งใบหน้าและหัวใจที่เต้นรัวเร็วอย่างกับจังหวะร็อคแอนด์โรล ซึ่งหากสามารถทำได้ก้อนเนื้อที่เต้นรัวนี้ก็คงอยากจะแล่ตามเขาเข้าไปหลังร้านแล้วล่ะ

“แกจะเอายังไงทิวลิป มหานครเที่ยวสุดท้ายของแกแล้วนะโว๊ย”

“อะไรว่ะมหานคร..”

“ก็รถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของทิวลิปมันไง คิดหน่อยสิเพื่อน.. คิดหน่อย”

นุจรีเฉลยคำตอบให้ลดาซึ่งยังคงทำสีหน้างงๆ ก่อนจะร้องอ๋อเพราะเพิ่งเข้าใจ จากนั้นทั้ง ๔ สาวก็พร้อมใจกันหันไปนั่งจ้องหน้าทิวลิปเพื่อเคล้นเอาคำตอบ อย่างกับเพื่อนเลิฟคนนี้กลายเป็นจำเลยให้ทนายแหววอย่างพวกเธอซักฟอกจนใสสะอาดเสียแล้ว

“จะเอายังไงบอกมา เขาอยู่หลังร้าน ต้องรู้จักพี่ทิพย์แน่ๆ ไม่งั้นไม่ตรงเข้าไปอย่างนั้นหรอก ถ้าแกไม่เอา.. ฉันเอานะ!”

“เอา! ฉันเอา”

“เฮ้อ! ก็แค่นั้นแหละ อ้ำอึ้งอยู่ได้”

เพื่อนสาวทั้ง ๔ ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะร้องออกมาพร้อมๆ กันเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคำตอบนั้นมันหมายความว่ายังไง

“ฮะ! ทิวลิปแกว่าไงนะ”

“ฉันจะเอาอ่ะแก แล้วฉันก็จะเอาให้ได้”

น้ำเสียงเบาๆ เอ่ยตอบ ทว่าดวงตาคมเฉี่ยวกลับเปลี่ยนเป็นหวานหยาดเยิ้มชวนฝัน และดูท่าหัวใจคงลอยตามคนหล่อนั้นไปอย่างกู่ไม่กลับเสียแล้ว

“ทิวลิป โอ๊ย! ฉันดีใจ ฉันไม่อยากให้แกขึ้นคาน จริงๆ นะเพื่อน โอ๋.. เพื่อนเลิฟของฉัน ต่อไปนี้แกจะได้ให้คำปรึกษาพวกฉันอย่างรู้ลึกรู้จริงเสียที ไม่ต้องไปพึ่งมันแล้ว ทั้งหนังสือทั้งอินเตอร์เน็ตนี่อ่ะ เนอะ! พวกแกเนอะ”

“ใช่ๆๆ ลุยเลยแก เข้าไปเลย เข้าไปชวนพี่ทิพย์คุยอะไรก็ได้ แกต้องเจอเขาแน่ๆ ไปสิ ไปเลย”

ทิวลิปยิ้มเอียงอาย ซึ่งดูท่าว่าครั้งนี้หล่อนคงจะไม่เลือกมากอีกต่อไปแล้ว เพราะก็คงจะเป็นรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของเธอจริงๆ เมื่อเพื่อนสาวทั้งหลายเชียร์มากๆ เข้า ทิวลิปที่กล้าจนเกินงามอยู่แล้วก็ทำท่าจะลุกไป แต่แล้วก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงนั่งลงอีกครั้ง

ผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนทุกคนที่ผ่านมา อะไรบางอย่างในหัวใจบอกแบบนั้น จังหวะการเต้นของหัวใจในครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งไหน เพราะมันร่ำร้องแต่เขา.. เขา.. และเขาอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ

“รักแรกพบ.. ความรู้สึกนี้คือ รักแรกพบใช่ไหม”

คำถาม.. ที่หัวใจตั้งให้เธอตอบ ทำให้ไม่ได้ยินเสียงเพื่อนสาวที่เร้าหรือให้เธอรีบเร่ง

“ไปสิ! ทิวลิป แกจะรออะไร เดี๋ยวแกก็อดหรอก”

“ฉันว่าไม่หรอกว่ะแก ดูนั่นเด่ะ”

ยุรนาพยักเพยิดให้เพื่อนสาวมองตาม ยกเว้นแค่เพียงทิวลิปเท่านั้นที่เธอไม่ต้องบอก เพราะเจ้าของใบหน้าสวยเฉี่ยวที่เปลี่ยนเป็นสวยหวานในพริบตานั้น ทอดสายตามองตรงไปยังคนหล่อลากดินตาไม่กะพริบเลยทีเดียว เพราะคนหล่อนั้นมีผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลคาดอยู่ที่เอว ในมือมีสมุดเล่มเล็กไว้จดรายการอาหารและเดินตรงไปยังโต๊ะที่เข้ามาใหม่อย่างรู้หน้าที่

“คุณคะ! รับออร์เดอร์โต๊ะนี้ด้วยค่ะ”

เขาคนนั้นหันมายิ้มพร้อมกับก้มศีรษะให้กับกลุ่มของเธอ โดยแม่นุจรีตัวดีนั้นถึงกับกัดฟันกรี๊ดเพราะเป็นฝีมือของเธอเอง ก่อนทั้ง ๔ สาวจะพยักหน้าให้กันและกันดูทิวลิปที่ยังคงจ้องมองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อมอยู่อย่างนั้น

“สวัสดีครับ จะรับอะไรเพิ่มดีครับ”

ศิวาก้มศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับอมยิ้ม เพราะ ๕ สาวที่นั่งอยู่โต๊ะนี้เรียกเขามาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำนอกจากยิ้ม ยิ้มและก็ยิ้มเท่านั้น โดยเฉพาะ “เธอ” ที่นั่งจ้องมองเขาอยู่นานแล้วตั้งแต่เขาเดินเข้ามาในร้านจนถึงเวลานี้ ผู้หญิงที่หน้าตาสวยหวานแต่กลับแต่งแต้มใบหน้ามากมายเสียจนเขาคิดว่า หากวาดอายไลเนอร์แบบเส้นบางๆ ที่ขอบตาและปัดมาสคาร่าเพิ่มอีกนิดใบหน้าที่สวยมากอยู่แล้วก็คงจะสวยมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่สวยแบบเฉี่ยวๆ ที่ทำให้ผู้ชายอย่างเขารู้สึกกลัวกับสายตาคมกริบจ้องเขมิบของเธออย่างนี้

“ครับ.. จะรับอะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ กาแฟ โกโก้ หรือว่าอาหารดี”

“เอ่อ.. ค่ะๆๆ อืม.. ฉันเอา...”

ทั้ง ๔ สาวแข่งกันสั่งอาหารจนเขาจดแทบไม่ทัน จนต้องทวนรายการซ้ำๆ พร้อมกับพูดโต้ตอบกับทั้ง ๔ สาวไปมา แต่ก็ไม่วายที่จะก้มศีรษะให้เธอที่ยังคงจ้องเขาไม่วางตาอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวนำออร์เดอร์เข้าไปในครัวด้านหลังเมื่อเห็นว่าไม่มีใครจะสั่งอะไรเพิ่มแล้ว แต่เธอล่ะ.. ยังไม่ได้สั่งอะไรเลยนี่นา “เมนูโปรดของเธอ”

“แล้วแกล่ะจะเอาอะไร เพื่อนค่ะชื่อทิวลิป ยังโสดและก็สดมากกกก.. ทิวลิปน่ะเขาเป็นน้องรหัสของพี่ทิพย์นะคะ ซี้ปึ๊กเลยล่ะ จริงไหมแก เออ.. ว่าแต่แกจะสั่งอะไรล่ะ คุณเขาจะได้จดไปพร้อมกันเลย ทิวลิป..”

“คุณทิวลิปจะทานอะไรครับ ข้าวผัดปลาอินทรีย์ดีไหมครับ”

“อ๊ายยย.. รู้ได้ไงคะ ว่าทิวลิปเขาชอบข้าวผัดปลาอินทรีย์น่ะ น่ารักอ่ะ..”

เขาไม่ตอบแต่ยิ้มรับพร้อมกับจดออร์เดอร์ลงไปเพิ่ม เสียงโต้ตอบทุ้มๆ กับเสียงหัวเราะสดใสของเขา มันยิ่งทำให้เธอไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้ ที่ทำได้ก็แค่มองอยู่อย่างนี้จนเขาเดินลับหายเข้าไปด้านหลังร้าน หัวสมองอื้ออึงของเธอไม่รับรู้แม้เพื่อนๆ จะเอ่ยจะแซวอะไรอีก เพราะตอนนี้เสียงที่ได้ยินมันก็ยังคงเป็นเสียงทุ้มๆ ของเขาก้องกังวานไปมาอยู่ในหัว ทว่าเสียงหนึ่งที่แทรกเข้ามากลับทำให้โสตประสาทของเธอเต้นโผงตื่นตัวเต็มที่ ราวกับพบเจอเรื่องพิสดารจนเกินจะทนอยู่ตรงหน้า

“เสียดายคุณหินนะแก หล่อลากดินอย่างเนี๊ย ไม่น่าเป็นเกย์เลยอ่ะ ฉันน่ะเสียด๊ายเสียดาย.. เสียดายของอ่ะแก”

“ใช่ ฉันก็ด้วย เสียดายเนอะ ไม่น่าเลย ทำไมนะสมัยนี้ผู้ชายถึงได้ชอบเป็นเกย์ ยิ่งน้อยๆ อยู่ด้วย”

ทิวลิปลุกพรวดขึ้นทันที โลกทั้งโลกที่เหมือนจะถล่มลงมาตรงหน้าทำให้เธอเอ๋อเสียจนทนนั่งอยู่ไม่ไหว ร่างโปร่งบอบบางจึงเดินออกไปในทันที โดยไม่ฟังแม้แต่เสียงเพื่อนสาวทั้ง ๔ ที่พากันเรียกเธอเสียงหลง ยุรนาในฐานะเจ้ามือรีบเรียกพนักงานมาเช็คบิลก่อนจะรีบตามให้ทันเพื่อนๆ ที่จ้ำอ้าวตามทิวลิปออกไปก่อนแล้ว และไม่มีใครสักคนที่จะสนใจสัมภาระของทิวลิปที่วางลืมทิ้งไว้


“อ้าว! ปุ้ม ทำไมเหรอ”

ศิวาร้องทักเมื่อเห็นเด็กปุ้มถือถาดอาหารกลับเข้ามา มือที่กำลังจัดผักใส่จานข้าวผัดปลาอินทรีย์ที่เขาตั้งใจทำสุดฝีมือนั้นชะงัก เมื่อเห็นว่าอาหารนั้นส่งคืนมาจากโต๊ะไหน

“ลูกค้ากลับแล้วค่ะ เห็นว่ารีบ เช็คบิลไว้เรียบร้อยเลยนะคะ ไม่เอาตังค์ทอนด้วยของก็เลยเหลือเลย เสียดายนะคะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย เสียดายเราก็ทานเองสิ ลูกค้าคงรีบจริงๆ นั่นแหละ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบขณะมือยังคงหยิบจับผักจัดเรียงใส่จาน

“ก็ปุ้มเสียดายนี่คะ คุณหินอุตส่าห์ลงทุนทำเองกับมือ คุณพวกนี้จะต้องเสียใจนะคะที่ไม่ได้ชิมฝีมือเชฟมือทอง”

“หึหึหึ.. พูดเกินไปน่ะเรา เอาอาหารไปเก็บก่อนเถอะ”

“ค่ะ ว่าแต่คุณหินจะทำต่อทำไมคะ ลูกค้าก็กลับไปแล้ว”

“ก็ทำไว้ให้พวกเราทานกันเองไง ไปเหอะ เอาของไปเก็บได้แล้ว มัวแต่เม้าท์อยู่ เดี๋ยวพี่ทิพย์ดุเอานะ”

“ลืมไปเลยค่ะ คุณหินช่วยรับที ลูกค้าลืมไว้ที่โต๊ะน่ะค่ะ น่าจะเป็นของคุณทิวลิปเพราะปุ้มเห็นเธอหิ้วเข้ามา ปุ้มไม่กล้าเปิดดูไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร”

“อืม.. ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ดูเอง”

ศิวาหยิบถุงกระดาษที่เด็กปุ้มหิ้วไว้กับนิ้วมือก่อนจะนำมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าทำทีไม่สนใจ ทั้งที่อยากรู้อยู่เหมือนกันว่าอะไรที่เธอลืมไว้ และอะไรที่ทำให้เธอรีบรุดกลับไปโดยที่ยังไม่ทันได้ชิมฝีมือของเขา ดวงตาคมหวานที่สวยเกินผู้หญิงทอดมองข้าวผัดสีสวยที่ประดับไว้ด้วยพริกขี้หนูเม็ดแดงซอยหยาบสลับกับก้านคะน้าสีเขียวตัดกัน ที่เขาตั้งใจทำเพื่อเธอโดยเฉพาะอย่างเสียดาย อาหารที่เขาทำด้วยใจแค่อยากรู้ว่าเธอจะรับไว้ด้วยใจได้ไหม




ชนิตร์นันท์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ม.ค. 2557, 10:26:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ม.ค. 2557, 11:46:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 974





   องครักษ์พิทักษ์ดอกไม้ >>
รรวโรจน์ 26 ม.ค. 2557, 22:27:57 น.
ตกลงยังไงเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account