หวานรักจอมบงการ
พ่อและแม่ของเธอไว้ใจฝากลูกสาวไว้กับลูกชายของเพื่อนสนิทในขณะที่พวกเขาไม่อยู่ หารู้ไม่ว่า คนที่(คิดว่า)ปลอดภัยที่สุด อาจเป็นคนที่อันตรายที่สุดก็เป็นได้!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 7 : Chris's beloved(100%)

หวานรักจอมบงการ

ตอนที่ 7 : Chris's beloved


.......................................................................


“เชิญครับ คุณผู้หญิง” ร่างบางระหงมองเจ้าของมือหนาที่เปิดประตูรถให้ และผายมือเชิญเธอขึ้นรถอย่างขบขัน คุณผู้หญิงอะไรของเขากัน บ๊องชะมัด


“ไม่ต้องมาทำเป็นใจดีเพื่อลบความผิดหรอกนะ” หญิงสาวบ่นอุบอิบ ก่อนจะขยับเข้าไปหอมแก้มคนตัวโตเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลานั่นหม่นลงไปทันตา “จริงๆก็ยังเคืองอยู่หน่อยๆนะ แต่ยอมให้ก็ได้” คริสตินขึ้นไปนั่งบนรถทันทีที่พูดจบ จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มสว่างไสวบนใบหน้าของคริสโตเฟอร์ ชายหนุ่มปิดประตูรถให้หญิงสาว ก่อนจะอ้อมไปประจำที่ยังฝั่งคนขับ


วันนี้เขามีนัดทานข้าวกับคริสตินคนสวย หลังจากผ่านมาสองอาทิตย์เต็มๆแล้วที่คริสตินไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้เพราะยังคงตงิดๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่ แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเพราะโทรไปคุยกับพยานปากเอกอย่างอดัมแล้ว แต่ก็อดค่อนขอดอยู่ในใจไม่ได้ว่าก็ไม่ใช่เพราะความหล่อรวยโอเวอร์ของเขาเหรอ ถึงทำให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จนวันนี้เธอเข้ามาหอมแก้มเขาก่อน คงจะยอมให้อภัยเขาแล้วจริงๆ ชายหนุ่มคิดอย่างชื่นใจ







ในระหว่างที่กำลังพากันเดินเข้าไปในร้านอาหารสุดหรูที่แพงแสนแพงในย่านคนรวย ที่คริสโตเฟอร์เองไม่ได้หยี่ระเลยแม้แต่น้อย ก็มีคุณหนูไฮโซนางหนึ่งที่แอบพึงใจในตัวคริสโตเฟอร์อยู่ลึกๆ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังเดินเข้ามาในร้านอาหารที่ตนอยู่พอดี จึงรีบปรี่เข้าไปหาทันที แม้จะเห็นว่าเขามีใครคนเดิมเคียงคู่กันมาด้วย แต่ก็คิดว่าเธอพอจะรู้จักเขาจากงานสังคม คงไม่น่าเกลียดถ้าจะเข้าไปทักทายบ้างตามประสาคนรู้จัก


“สวัสดีค่ะ คุณเบอร์นาร์ด” แต่มันจะน่าเกลียดก็ตรงที่ทักแต่คริสโตเฟอร์ และไม่ทักอีกคนที่อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มนี่ล่ะ ทั้งๆที่คริสตินก็อยู่ในตระกูลที่มีชื่อเสียง อย่างไรคนในระดับเดียวกันก็ต้องรู้จักอยู่แล้ว


“เอ่อ ครับ” คริสโตเฟอร์ตอบไปอย่างอึดอัดใจ เหลือบมองคนตัวเล็กข้างๆก็เห็นว่าเธอเริ่มทำหน้าตึงขึ้นมาบ้างแล้ว เขารู้ ปกติคริสตินไม่ใช่คนงี่เง่า แต่หญิงสาวตรงหน้าของทั้งคู่ก็แสดงโจ่งแจ้งให้เห็นชัดจนเกินไปว่าเข้ามาเพราะมีจุดประสงค์ใด มีอย่างที่ไหน คริสตินก็อยู่ด้วย แต่ไม่เอ่ยทักสักคำ เป็นเขาก็คงไม่พอใจเช่นกัน


“แหม บังเอิญจังเลยนะคะ ฉันก็มาทานข้าวร้านนี้เหมือนกัน ขออนุญาตร่วมโต๊ะด้วยได้ไหมคะ” เจ้าของคำพูดยิ้มหวานพร้อมกับส่งสายตาเชิญชวน คริสโตเฟอร์รู้ดีว่าสายตานั่นหมายถึงอะไร และคริสตินก็คงพอจะเดาได้เช่นกัน เพราะตอนนี้หญิงสาวช้อนตามองเขาด้วยแววตาที่... น่ากลัวเหลือเกิน ทำไมสายตาเหมือนแม่เราจังวะ! ร่างหนาคิดอยู่ในใจ


“ขอโทษครับ ผมกับคริสตินคงไม่สะดวก เพราะวันนี้เราตั้งใจมาดินเนอร์กันสองคน” โอเค คำตอบนี้ใช้ได้ เพราะคริสตินคลายจากอาการเกร็งเมื่อครู่ลงฉับพลัน และนั่น ทำให้คู่สนทนาหันมามองทางคริสตินเล็กน้อย


“เหรอคะ เสียดายจัง งั้นไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะคะ” สาวไฮโซทำสีหน้าเสียดาย และคริสโตเฟอร์ก็ต้องรับคำไปเบาๆอย่างไม่อยากเสียมารยาท นั่นทำให้คนในอ้อมแขนขืนตัวออกจากวงแขนของเขา แล้วเดินนำหน้าไปก่อน โดยมีเจส ลูกน้องของคริสโตเฟอร์ที่เลือกจะเดินตามว่าที่นายหญิงไปด้วยเพื่อดูแลความปลอดภัย


เอาแล้วไง ความเก่า คนตัวเล็กยังไม่ทันหายงอนดีเลยด้วยซ้ำ ความใหม่ก็ยังมาเยือนให้ปวดหัวเล่นซะแล้ว งานนี้จะทำยังไงดีล่ะ คริสโตเฟอร์ เบอร์นาร์ด...


“คริส! มัวโอ้เอ้อะไรอยู่ รีบๆเดินมาได้แล้วนะ!” เสียงหวานใสเขาชอบในยามที่เจ้าของเสียงหวานใช้เอ่ยชื่อเขา บัดนี้ เสียงใสเปรียบได้กับลูกกวาดรสหวานที่อาบไปด้วยยาพิษที่พร้อมจะปลิดชีวิตเขาเมื่อใดก็ได้


“ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เท้าใหญ่เร่งจังหวะการเดินให้ทันร่างบางที่มองมาด้วยสายตาแทบจะกินเลือดกินเนื้อเขา ก่อนจะรั้งเอวบางเข้าหาแล้วโอบให้เดินไปด้วยกัน แกล้งทำเป็นไม่เห็นสายตาไม่พอใจของร่างเล็ก แล้วลอบถอนหายใจเบาๆเพื่อไม่ให้เธอได้ยิน


ด้านลูกน้องคนสนิทที่เดินตามเจ้านายโดยเว้นระยะห่างเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้านายก็ลอบยิ้มให้กับอาการอ่อนลงให้กับคุณหนูผู้เป็นที่รักของตระกูลเลสลี่ โดยมีสายตาของผู้พบเห็นที่รู้สึกคล้ายๆกับเจสมองตามมาด้วย







มุมที่คริสโตเฟอร์จองไว้เป็นมุมส่วนตัว ซึ่งเป็นบริเวณที่บรรยากาศดีที่สุดในร้าน มีการเปิดไฟสลัวๆ และมีนักดนตรีมาสีไวโอลีนบรรเลงเพลงหวานซึ้ง ชวนให้บรรยากาศดูโรแมนติก


แต่จะไม่โรแมนติกก็เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ยังทำให้ร่างบางนั่งปั้นปึ่งใส่เขาอย่างหมดอารมณ์หวานแหววนั่นแหละ มีเสน่ห์เหลือร้ายจริงนะ คุณชายเบอร์นาร์ด คริสตินแอบประชดประชันคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอยู่ในใจ


“ใครกันน้า ขี้งอนจังเลย” คริสโตเฟอร์บีบเสียงเล็กเพื่อให้ดูขี้อ้อน แต่ในสายตาหญิงสาวตอนนี้แล้ว มันแลดูปัญญาอ่อนสิ้นดี ดวงตาคู่สวยค้อนให้กับคนพูด จนคริสโตเฟอร์ต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง “โอเคๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้” คนตัวโตทำหน้ามุ่ยขัดกับอายุ


“แล้วโปรเจคท์พิเศษของคริสไปถึงไหนแล้ว อีกอาทิตย์กว่าๆก็จะเปิดตัวคอลเลคชั่นของตัวเองแล้วไม่ใช่เหรอ” คริสตินเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองดูหงุดหงิดง่าย คาดว่ารอบเดือนคงจะใกล้มาเร็วๆนี้


“เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ งานนี้ฉันทุ่มสุดตัวเลยนะ ถึงวันนั้นแล้วคริสก็จะเห็นว่ามันเพอร์เฟคมากแค่ไหน อลังการสุดๆ”ร่างสูงพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ ติดจะโอ้อวดนิดๆ และครั้งนี้หญิงสาวเห็นว่ามีอะไรบางอย่างหลบซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นของชายหนุ่มด้วย แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากจึงเลือกที่จะไม่ได้ถามออกไป


“เหนื่อยไหม ช่วงนี้เห็นทำแต่งาน เค้ารู้ว่างานนี้สำคัญสำหรับคริสมาก แต่ก็ต้องพักบ้างรู้ไหม เค้า... เค้าเป็นห่วง” คำสุดท้าย หญิงสาวพูดเสียงเบาแล้วหลบสายตาร่างสูง แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ทำเอาคนตัวโตยิ้มจนหน้าบาน


“เฮ้อ อยากให้ถึงวันงานเร็วๆจัง” คริสโตเฟอร์ยิ้มล้อเลียนร่างบาง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้ากรุ้มกริ่มแล้วแสร้งทำเป็นบ่นออกไป


“มีความลับอะไรหรือเปล่าเนี่ย เค้าว่าคริสแปลกๆนะ ปิดบังเค้าเรื่องอะไรอยู่กันแน่” คริสตินหรี่ตามองคนตรงข้างอย่างจับผิด


“มีความลงความลับที่ไหนกันเล่า” ร่างหนารีบปฏิเสธ ก่อนจะหาเรื่องอื่นมาชวนคุย เมื่อเห็นว่าบริกรยกอาหารมาเสิร์ฟแล้ว “อาหารมาพอดีเลย ดูน่ากินดีเนอะ”


แม้จะยังติดใจ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะตอนนี้เธอก็หิวมากแล้ว และนั่นทำให้ชายหนุ่มลอบถอนหายใจอย่างรอดตัว







.........................................................................................................................................







และแล้ว วันที่คริสโตเฟอร์รอคอยก็มาถึง งานเปิดตัวอัญมณีของเขาจะเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม ซึ่งชายหนุ่มตั้งใจจัดให้มันเป็นกึ่งๆงานเลี้ยง แขกที่เชิญมาส่วนใหญ่ก็เป็นแขกวีไอพีทั้งนั้น คนที่จะเข้ามาภายในงานต้องผ่านการตรวจอย่างดี ส่วนเรื่องสื่อที่จะมาในงาน คริสโตเฟอร์ก็ให้คนตรวจสอบอย่างดี และจำกัดสื่อที่จะเข้ามาอยู่เพียงไม่กี่สื่อเท่านั้น เพราะครั้งนี้คริสโตเฟอร์ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่อย่างเดียว


ชายหนุ่มออกไปรับคริสตินตั้งแต่บ่ายสองโมง พาเธอไปแต่งหน้าทำผม และรับชุดที่สั่งตัดไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ


“คริส มานี่หน่อยสิ” เสียงหวานจากคนตัวเล็กที่ออกมาด้วยเสื้อคลุมสีขาวเรียกให้ชายหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟารับแขกหันไปมอง ก่อนที่จะอดบ่นคนตัวเล็กไม่ได้


“ใครให้ใส่ชุดคลุมเดินออกมาหน้าร้าน รีบเข้าไปเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มเอ็ดเบาๆ ก่อนจะรีบรุนหลังหญิงสาวให้เข้าไปภายในร้านเร็วๆ โชคดีที่ช่วงบ่ายไม่ค่อยมีคน มีเพียงพนักงานต้อนรับหน้าร้านที่เป็นผู้หญิง และลูกค้าผู้หญิงอีกประมาณสองคนที่นั่งอยู่แถวๆนั้น


“แล้วทำไมคริสไม่ไปนั่งรอเค้าที่ชั้นสองเล่า จะมานั่งอยู่หน้าร้านทำไม” คริสตินทำปากยื่น ขณะที่กำลังโดนมือหนาโอบเอวให้เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของร้านด้วยกัน


“แล้วทำไมไม่ให้คนอื่นมาเรียกแทน” ร่างบางได้แต่ฮึดฮัดเถียงไม่ออก เธอมัวแต่ตื่นเต้น รู้ตัวอีกทีก็วิ่งลงมาหาคริสโตเฟอร์เองเสียแล้ว


“คริสมาลองสูทตัวนี้หน่อยสิ” ร่างบางวิ่งออกจากอ้อมแขนคนตัวโตไปรับเอาเสื้อสูทสีขาวที่พนักงานถือรอเอาไว้ให้ ก่อนจะวิ่งกลับมาหาคนตัวโตอีกรอบ “เค้าสั่งตัดชุดไว้ให้คริสเป็นของขวัญวันเปิดตัวอัญมณีล่ะ” หญิงสาวยิ้มหวาน


คริสโตเฟอร์มองใบหน้าหวานอย่างมีความหมาย ลืมเรื่องชุดที่ให้คนสนิทจัดหามาให้ และตั้งใจว่าจะใส่ชุดที่คริสตินเตรียมไว้ให้แทน ชายหนุ่มสอดแขนใส่แขนเสื้อ โดยมีคนตัวเล็กช่วยใส่ และจัดเสื้อสูทให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วประเมินความเรียบร้อย และความพอดีของไซส์กับร่างกายของชายหนุ่ม


“เค้ากะได้พอดีจริงๆด้วย” ร่างบางในชุดเสื้อคลุมพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะสั่งให้คริสโตเฟอร์ถอดสูทออกแล้วส่งให้พนักงานตามเดิม “เค้าเตรียมชุดไว้ให้คริสแล้วนะ ไว้ตอนเค้าใกล้เสร็จเดี๋ยวค่อยเปลี่ยนชุดแล้วกันเนอะ ไม่งั้นเดี๋ยวคริสอึดอัด”


ร่างสูงมองใบหน้าเรียวสวยพลางอมยิ้ม ก่อนจะให้รางวัลความน่ารักของคนตัวเล็กด้วยจุมพิตเบาๆที่หน้าผากเนียน และเขาก็ได้รอยยิ้มหวานตอบกลับมา


“รีบไปแต่งหน้าทำผมเถอะ เดี๋ยวฉันต้องไปเตรียมงานอีกนะ” คริสโตเฟอร์ว่า ก่อนจะจับไหล่บางให้หันเข้าไปทางห้องแต่งหน้า “เสร็จแล้วเรียกนะ ฉันจะนั่งรออยู่ข้างหน้านี้แหละ…”







.........................................................................................................................................


ภายในห้องบอลลูมของโรงแรม ถูกเนรมิตให้คล้ายกับหลุดเข้ามาในเทพนิยาย ทางเข้าเป็นอุโมงค์ที่มีเถาวัลย์เลื้อยแทรกกับดอกไม้ได้อย่างลงตัว และมีพืชพรรณดอกไม้นานาชนิดจัดอยู่ทั่วทุกบริเวณ หน้างานจะมีของที่ระลึกเป็นปากการาคาค่อนข้างสูง หลังจากผ่านอุโมงค์ดอกไม้มาได้แล้ว จะมีกระดานไม้สักสีทองขนาดใหญ่ ข้างๆกันมีโพสอิทและปากกาสีให้ผู้เข้าร่วมงานเขียนอวยพร ก่อนจะมีทางเดินปูด้วยพรมราคาแพง มีเสาที่ประดับด้วยเทียนตรงจุดยอดไปตลอดทาง งานนี้มีคอนเซปต์กึ่งงานเลี้ยง จึงมีซุ้มอาหารให้เลือกตักเอง ซึ่งจัดซุ้มได้ปราณีตจนแทบไม่กล้าจะหยิบกิน แต่ละโต๊ะของแขก ก็จะมีช่อดอกไม้เล็กๆสีขาวผูกริบบิ้นสีชมพูอ่อนวางไว้บนจาน และมีเชิงเทียนวางไว้อยู่ตรงกลางของโต๊ะ ถัดขึ้นไปบนเวทีหรู ที่มีเพียงป้ายขึ้นว่า ‘Bernard Group’ เท่านั้น แต่ไม่บอกคอนเซปต์ของอัญมณีชุดนี้


คนตัวเล็กที่ตื่นตาตื่นใจตั้งแต่เดินผ่านประตูทางเข้าเข้ามาพร้อมกับเจ้าของงานจึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้


“หมดเงินไปเท่าไหร่เนี่ย ทุ่มเกินไปหรือเปล่า อย่างกับงานแต่งงานแหนะ”


“ก็เยอะอยู่ แต่ถ้าเป็นงานแต่งงานของเรา มันต้องยิ่งกว่านี้สิถึงจะถูก”


“อี๋ ใครจะแต่งกับคุณ แล้วสรุปโปรเจ็กต์ของงานนี้คืออะไรกันแน่” มือบางหยิกเข้าที่แขนคนขี้แกล้ง ก่อนจะถามต่อ


“เดี๋ยวท้ายงานก็รู้เอง” เจ้าของมือหนาที่กุมมือเล็กเอาไว้เอ่ยขึ้น พร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม


“บอกเค้าก่อนไม่ได้เหรอ ทำไมต้องให้รู้พร้อมคนอื่น” เมื่อคนตัวเล็กเริ่มงอแง คริสโตเฟอร์จึงรีบเบี่ยงเบนความสนใจทันที


“ไม่เอาน่า ฉันแค่อยากเซอร์ไพรส์คริสเท่านั้น ไปดูเขาจัดซุ้มอาหารกันดีกว่า มีแต่ของน่าทานทั้งนั้นเลยนะ” ชายหนุ่มจูงร่างบางเดินไปทางซุ้มจัดอาหารที่มีเชฟชื่อดังหลายคนกำลังจัดเรียงอาหารและของหวาน ซึ่งอยู่ในโดมสีขาวสะอาดตา


“เค้าอยากกินมาการอง ได้ไหม?” คนตัวเล็กที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับอาหารตรงหน้าพูดขึ้น ก่อนจะช้อนตามองร่างสูงอย่างออดอ้อน นั่นทำให้คริสโตเฟอร์ยิ้มขัน ก่อนจะเอ่ยขอมาการองหนึ่งชิ้นจากเชฟคนที่กำลังจัดเรียงมาการองบนจานอยู่มาให้หญิงสาว


ชายหนุ่มมองร่างบางที่อยู่ในชุดเดรสสีขาวเข้ากับผิวนวลผ่องของคนใส่ ตามคอนเซปต์ที่เขาให้ผู้ร่วมงานต้องใส่ชุดสีขาวเท่านั้น วันนี้เธอดูสวยเป็นพิเศษ เหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆน่ารัก ก่อนจะยิ้มบางๆ เมื่อเห็นเศษขนมติดอยู่ที่มุมปากของสาวเจ้า จึงเอื้อมมือไปหยิบออกให้


ร่างเล็กหน้าร้อนขึ้นมาทันที เมื่อชายหนุ่มหยิบเศษขนมออกให้ ก่อนจะเอาเข้าปากตัวเอง และได้รับเสียงหัวเราะน้อยๆตอบกลับมา คริสตินมองดูชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูดสีขาว กางเกงสีขาว ข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัดกับเนกไทสีเข้ม และมีรองเท้าที่ขัดเงาสีดำขลับ ดูหล่อเหลาราวกับเจ้าชายในนิทานที่แม่ของเธอเคยอ่านให้เธอฟังตอนเด็กๆก่อนเข้านอนทุกคืน


หลังจากที่ทั้งคู่ต่างมองกันและกันไม่ว่างตาอยู่นานสองนาน คริสโตเฟอร์ก็พาเธอไปเดินดูนู่นดูนี่ และตรวจดูความเรียบร้อยภายในงาน จวบจนกระทั่งใกล้จะถึงเวลางาน คริสโตเฟอร์จึงพาเธอมานั่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะออกไปต้อนรับแขกที่หน้างาน












“คุณป๊า มัม มาได้ไงคะเนี่ย!” ร่างบางร้องออกมาอย่างดีใจ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อและแม่กำลังเดินมาที่โต๊ะที่เธอนั่งอยู่ ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินไม่สวมกอดเจเน็ท ผู้เป็นมารดา


“ก็คริสโตเฟอร์เชิญป๋ากับมัมมางานนี้นี่” อังเดรเป็นคนตอบ ก่อนจะอมยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ชายหนุ่มโทรศัพท์ไปเชิญตนกับภรรยา และได้พูดคุยเรื่องสำคัญบางอย่าง


“จะมาก็ไม่บอกกันเลย” หญิงสาวทำหน้างอ ก่อนจะชวนบิดามารดาให้นั่งลง “แล้วนี่คุณป๋ากับมัมเจอคริสหรือยังคะ”


“อ๋อ มัมกับคุณป๋าเจอคริสที่หน้างานแล้วล่ะลูก” เจเน็ทตอบ ก่อนจะมองหน้าลูกสาวสุดที่รักยิ้มๆ นั่นทำให้คริสตินเริ่มสงสัย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามออกไป ประกอบกับคนในงานเริ่มเยอะ และถึงเวลาเริ่มงานแล้ว คริสโตเฟอร์จึงเดินมานั่งข้างๆตน พร้อมกับพ่อและแม่ของเขา ครอบครัวคริสโตเฟอร์และเธอเอ่ยทักทายกันเล็กน้อย ก่อนจะหันไปให้ความสนใจบนเวที เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญคริสโตเฟอร์ขึ้นไปกล่าวเปิดงานบนเวที หลังจากชายหนุ่มกล่าวเสร็จก็เรียกเสียงตบมือทั่วทั้งงาน ก่อนที่เขาจะลงจากเวทีแล้วลงมานั่งลงข้างเธออีกครั้ง


งานดำเนินต่อไปอย่างดีเยี่ยม และแสนจะเพอร์เฟค แขกในงานต่างพากันชมไม่ขาดปากว่าเป็นงานเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปี นางแบบและดาราที่ได้รับเชิญมาเดินแบบโชว์อัญมณีในงานล้วนแล้วแต่เป็นคนมีชื่อเสียงทั้งนั้น จนกระทั้งนางแบบเดินหายไปหลังเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พิธีกรก็ประกาศว่ายังเหลือเครื่องประดับอีกหนึ่งชิ้นที่เป็นไฮไลท์ของงาน ก่อนที่ไฟในงานจะดับลง เหลือเพียงสปอร์ตไลท์ที่ส่องขึ้นไปยังเวที


คริสตินจะหันไปถามคริสโตเฟอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ ก็พบว่าเขาไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว จึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ และหันกลับไปมองยังเวทีซึ่งขณะนี้มีโปสเตอร์ที่ปล่อยลงมาจากเพดาน โปสเตอร์ที่บอกชื่อโปรเจ็กต์ของอัญมณีล็อตนี้... ‘Chris’s Beloved’’


พลันทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นแรงเมื่ออ่านโปรเจ็กต์ที่คริสโตเฟอร์ไม่ยอมบอกเธอในทีแรก มือบางกำกระโปรงไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น เสียงตบมือจากคนรอบข้างดังอื้ออึง และเมื่อคนทั้งโต๊ะหันมาจ้องเธอพลางอมยิ้มมีเลศนัย ทำให้เธอพอจะเดาลางๆได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร


เครื่องประดับชิ้นสุดท้ายไม่ได้ถูกนำออกมาโดยนางแบบหน้าสวยรูปร่างดีอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับกลายเป็นเป็นเจ้าของงานร่างแกร่งเดินออกมาจากหลังเวที ในมือมีกล่องกำมะหยี่สีแดงที่เปิดเอาไว้ให้เห็นถึงแหวนที่ส่องประกายวิบวับสวยงามอยู่ในนั้น


ร่างสูงเดินลงมาจากเวที เดินตรงมาที่โต๊ะวีไอพีที่มีเป้าหมายนั่งอยู่ ก่อนจะแบมือรอให้เธอจับ และคริสตินก็เอื้อมมือไปจับมือหนาอย่างไม่ลังเล ขณะที่โดนคนตัวโตจับจูงขึ้นบนเวทีนั้น หญิงสาวบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร หูมันอื้อไปหมด เหลือเพียงผู้ชายตรงหน้าเท่านั้น


ร่างสูงจูงมือบางขึ้นมากลางเวที ก่อนจะหยุดยืนมองร่างบางที่ดูตื่นตกใจอยู่ครู่หนึ่งเท่านั้น แล้วค่อยๆคุกเข่าลงกับพื้น รับไมค์มาจากพิธีกรที่ยื่นมาให้ แล้วกล่าวคำที่อยากจะพูดที่สุดในตอนนี้ออกไปว่า...


“คริส เธออยากได้ฉันไหม ฉันเป็นของเธอหมดทั้งตัวและหัวใจ เธอพร้อมที่จะรับผู้ชายคนนี้ไว้หรือเปล่า” คริสตินยกมือปิดปากน้ำตาคลอ ก่อนที่มันจะร่วงลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ และไมค์อีกตัวก็ถูกยื่นมาให้เธอถือไว้


“ขอรับไว้แค่แหวนได้ไหม” เสียงเครือตอบติดตลก นั่นทำให้เรียกเสียงฮาจากคนในห้องบอลลูมได้เป็นอย่างดี ก่อนที่คริสโตเฟอร์จะหันไปทำหน้าตาตลกๆใส่กล้อง แล้วหันมาทางใบหน้าหวานอีกครั้ง นี่คงเป็นการออกสื่อครั้งแรกที่ผู้ชายตรงหน้าดูมีความสุขที่สุด คริสตินคิด


“ก็เอาแหวนไป ของแถมคือฉันไง” เป็นอีกครั้งที่ได้รับเสียงขำขันของแขกในงาน “หลังจากนี้ถ้าเธอตกลง จะแหวนกี่วงฉันก็ให้ได้ เธอเป็นสุดที่รักของฉันนะ แต่งงานกันเถอะ พลีส” เสียงอ้อนวอนจากคนตัวโตเรียกคะแนนจากแขกในงานได้อย่างมากมาย มีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมา ก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจพูดตามกันว่า ‘แต่งเลยๆ!’


คริสตินหันไปทางพ่อและแม่ของเธอ เห็นท่านยิ้มกว้างอย่างมีความสุข นั่นทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตอบกลับไป


“แต่งสิ...” เสียงแสดงความยินดีไม่ได้อยู่ในโสตประสาทหูของคนทั้งคู่อีกต่อไป คริสโตเฟอร์ยิ้มกว้างก่อนจะบรรจงสวมแหวนที่เขาเป็นคนออกแบบด้วยตัวเองให้แก่หญิงสาวที่อยากจะแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วย ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เกลี่ยน้ำตาออกจากดวงตาหวานที่มองมาที่เขาด้วยความตื้นตัน แล้วดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด ยิ้มกว้างเข้าไปอีกเมื่อคนตัวเล็กซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง แล้วกอดตอบแน่น


“แล้วไงต่อ” เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหูเล็ก


“แล้วไงต่ออะไร” เสียงหวานถามกลับไปอย่างสงสัย


“ก็พอเรากอดกันเสร็จ แล้วเราต้องทำยังไงต่อ เดินลงจากเวทีเลยจะน่าเกลียดไหม หรือต้องพูดอะไรก่อน...”


“วางแผนมาซะหมดแล้ว แต่ดันไม่รู้ว่าหลังจากนี่ต้องทำยังไงเนี่ยนะ คริสนี่มัน” มือบางแอบหยิกเข้าที่สีข้างคนตัวโต จนชายหนุ่มสะดุ้ง ก่อนจะดันร่างบางออกจากอ้อมกอด เปลี่ยนเป็นกุมมือบางไว้แทน แล้วตัดสินใจพูดใส่ไมค์


“ขอบคุณทุกๆคนมากนะครับที่มางานเปิดตัวของผมในวันนี้ และร่วมแสดงความยินดีกับเราด้วย” ชายหนุ่มหันมองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปดังเดิม “ต่อไปขอยกหน้าที่ให้กับพิธีกรของเราอีกครั้งนะครับ ขอบคุณมากครับ”


คริสโตเฟอร์จัดการจูงมือบางลงจากเวทีมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง ก่อนที่คริสตินจะหน้าแดงเมื่อหันไปเห็นสายตาของคนทั้งโต๊ะที่มองมา โดยเฉพาะพ่อและแม่ของตัวเอง หญิงสาวจึงอดแหวใส่เพื่อกลบเกลื่อนความอายไม่ได้


“นี่ทุกคนเตี๊ยมกันไว้ใช่ไหมคะ” คริสตินหน้างอ ขัดกับแก้มแดงระเรื่อ


“อย่าไปว่าคนอื่นเลย ฉันเป็นคนโทรไปขอความร่วมมือจากคุณลุง คุณป้าเอง” คริสโตเฟอร์ออกโรงรับผิดชอบ พลางยิ้มล้อเลียนคนที่นั่งหน้าแดง มือก็ยังกุมมือคนตัวเล็กไว้ไม่ยอมปล่อย


“ใครถามคุณ” คริสตินย่นจมูกใส่ เรียกรอยยิ้มจากคนทั้งโต๊ะ บิดาและมารดาของทั้งคู่ต่างก็พากันแสดงความยินดี และถามถึงรายเอียดงานแต่งงานว่าจะจัดอะไรยังไง ซึ่งว่าที่เจ้าบ่าวก็ตอบอย่างกระตือรือร้นจนร่างบางยังมันไส้ แต่ก็คอยเสนอความต้องการของตัวเองไปด้วย ว่าอยากได้รูปแบบไหน







…………………………………………………………………………………………………







หลังจากวันนั้น วันต่อมา สื่อก็ประโคมข่าวการขอแต่งงานซึ่งดูจะดังกว่าข่าวเปิดตัวอัญมณีของคริสเฟอร์ ข่าวนี้ได้ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจข่าวนี้เป็นอย่างมาก และติดตามการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ต่างมีแต่คนโทรมาแสดงความยินดีถึงคนทั้งคู่ไม่ขาดสาย คนที่รับรู้ข่าวก็มีอิจฉาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่าทั้งคู่เป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง คงจะมีแค่บางคนเท่านั้นที่ไม่พอใจกับข่าวที่ออกมา โดยเฉพาะสาวๆ และหนุ่มๆที่หมายปองคนทั้งคู่มาก่อนหน้านี้












………………………………………….







ครั้งนี้ลงให้จบบททีเดียวเลย ครั้งหน้าอาจจะมาช้าหน่อยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกัน คู่นี้เรื่องไม่ได้จบแค่ตรงนี้นะ ปัญหาอะไรจะตามมาอีก ไม่อยากให้มีเลย(แต่ไม่มีไม่ได้ 555) แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ บทหน้าก็ยังหวานอยู่ ง้องแง้งบ้างตามประสาคนรักอะไรประมาณนั้นนน











เพชรอันดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.พ. 2557, 15:25:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.พ. 2557, 15:36:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 1121





<< ตอนที่ 6 : เรื่องไม่ดี   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account