เพื่อเธอเพื่อรัก
อาชวีและรามิลลูกพี่ลูกน้องนักการเ้มืองอนาคตไกล คนนึงเป็นพ่อหม้ายอีกคนโดนสาวทิ้งบนถนนสายการเมืองไม่ได้ราบรื่นซักเท่าไหร่ และถนนสายความรักก็เช่นกันเมื่อพวกเขาพบรักกับนางเอกสาวคันธนีรา(สดใสน่ารัก)นักข่าวสาววรรณพร(ดุจริงจังห้าว)มาลุ้นกันว่าคนพี่จะชอบคนใหนคนน้องจะรักคนใหนแล้วคุณจะเคลิบเคลิ้มกับความรักของทั้ง 4
Tags: นักการเมือง ดารา นักข่าว

ตอน: พบเพื่อรัก

เสียงระเบิดดังสนั่นหน้าบ้าน ทำให้คนที่กำลังเข้านอนหลับอย่างมีความสุขต้องตกใจตื่น ทุกคนวิ่งออกมายังต้นเสียงหน้าบ้าน คนที่มาถึงหน้าบ้านเป็นคนแรกคือผู้นำฝ่ายค้านหรืออาชวี วรโชติโภคิน เจ้าของบ้านผู้มีรูปร่างสูง เขาเป็นนักการเมืองสมัยใหม่ที่ซื่อตรง และพร้อมที่จะขจัดคนโกงให้หมดไป ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดีจึงทำให้สาวและไม่สาวนิยมชมชอบเขา พอพ้นสมัยเลือกตั้งมาพรรคของเขาก็แพ้ทำให้ต้องมาเป็นฝ่ายค้าน คนที่วิ่งตามมาคนที่2คือเลขาส่วนตัว รามิล กิจสุพัฒน์ภาคิน เลขาส่วนตัวของอาชวีเขาเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม ทั้งสองนอกจากเป็นหัวหน้าและเลขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มารดาของอาชวีเป็นพี่สาวของมารดาของรามิลทั้งสองจึงสนิทสนมกัน ทั้งสองไม่ได้บอกใครถึงความสัมพันธ์นี้ ด้านหลังของรามิลก็เป็นบรรดาคนรับใช้ ทุกคนยังอยู่ในชุดนอนโดยเฉพาะเจ้าของบ้านและเลขาซึ่งอยู่ในสภาพคนนึงเสื้อไหล่หลุดไปข้างคนนึงยังไม่ทันใส่เสื้อแต่หยิบติดมือมา ซักพักมีไซเรนตำรวจมาและนักข่าวหนึ่งในนักข่าวนั้นคือนักข่าวสาวช่อง1 หรือ วรรณพร หล่อนเป็นนักข่าวที่ซื่อตรงรักความถูกต้องสิ่งแรกที่หล่อนเห็นคือชายหนุ่ม2คนอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยยืนเคียงกันซึ่งเป็นภาพที่น่าคิดไม่น้อย นักข่าวสาวรู้จักนักการเมืองทั้งสองคนนี้ดีเธอเคยได้ยินเรื่องที่เขาทั้งสองเป็นเกย์จริงๆหล่อนก็ไม่อยากเชื่อเพราะเสียดายแต่พอมาเห็นภาพนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ หล่อนเห็นรามิล กระซิบกระซาบอาชวีและทำตาหวานใส่หล่อนและเห็นอาชวียิ้มๆ หญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มทั้งสองอาจกำลังทำอะไรอยู่ก่อนจะออกมาจึงสภาพเป็นอย่างที่เห็นหญิงสาวรู้สึกโกรธเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าโกรธอะไร ข้างฝ่ายรามิลกระซิบบอกอาชวี
“เฮียคนนี้งัย” อาชวีมองตามสายตาญาติผู้น้องแล้วยิ้ม “คนนี้นี่เหรอชั้นว่านายคงเจอศึกหนักหว่ะ” ที่อาชวีพูดแบบนี้เพราะเขารู้จักวรรณพรดีว่าหล่อนเฮี๊ยบและดุขนาดใหน “ผมชอบ”
ก่อนที่ทั้งคู่จะพูดอะไร วรรณพรก็เดินเข้ามาหล่อนรู้ร้อนๆหนาวๆกับสายตาของรามิล มองอะไรนักหนานะเลิกมองได้แล้ว
นักข่าวสาวต่อว่านักการเมืองหนุ่มในใจ อยู่จนอายุจะ40แล้วยังไม่เคยเจอสายตาใครกวนใจแบบนี้เลย ตั้งแต่เรียนจบหล่อนเลือกเป็นนักข่าวสายการเมืองหล่อนทำงานมากว่า20ปี หญิงสาวรู้จักนักการเมืองทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ รามิลถือว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงเขาเติบโตในสายการเมืองอย่างรวดเร็วหล่อนเคยอ่านประวัติรามิลเขาเป็นนักการเมืองที่ตรงไปตรงมากล้าชนกับพวกโกงกินทันทีที่เขาจะเล่นการเมืองพรรคแรกที่เขาเลือกคือ พรรคประชาชาติไทยในขนาดนั้นมีคุณ ฐิติ เป็นหัวหน้าพรรค เขาให้สัมภาษณ์ว่าที่เขาสมัครพรรคนี้เพราะเป็นพรรคเก่าแก่และมีหัวหน้าที่ซื่อสัตย์ทำให้เขาศรัทธา หญิงสาวรู้สึกชอบรูปร่างหน้าตาของนักการเมืองรุ่นน้องคนนี้ หล่อนแอบอ่านผู้หญิงในสเปคคือผู้หญิงที่อายุมากกว่าถ้างั้นหล่อนก็มีสิทธิ์หญิงสาวคิดเล่นๆ หญิงสาวอายุเยอะก็จริงแต่เนื่องจากหล่อนไม่แต่งหน้าไม่แต่งตัวทำให้ดูไม่ออกว่าหล่อนอายุเท่าไหร่กันแน่
ในห้องพักของดาราสาวนามว่า คันธนีรา หรือ วินนี่กำลังดูเทปบันทึกภาพ บ้านผู้นำฝ่ายค้านถูกระเบิด ด้วยความเป็นห่วงซึ่งจริงๆแล้วดาราสาวไม่ได้รู้จักผู้นำฝ่ายค้านเป็นส่วนตัว แต่เธอหลงรักผู้นำคนนี้มาตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าวงการมาและนี่เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ตัวเธอเข้าวงการ เธอตอบตกลงทันทีที่มีแมวมองไปเจอเธอที่แหล่งช๊อปปิ้งยอดนิยม มันอาจจะเป็นเหตุผลงี่เง่าที่คนทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระแต่สำหรับเธอมันคือความใฝ่ฝันที่อยากเจอนักการเมืองคนนี้ คันธนีราหาหนทางทุกวิถีทางที่จะใกล้ชิดนักการเมืองหนุ่มผู้นี้ และก็เหมือนสวรรค์ เห็นใจเธอทำให้เธอได้เข้าวงการบันเทิงและยังโชคดีซ้ำเข้าไปอีกที่พรรคต้นสังกัดของนักการเมืองผู้นี้ต้องการทำโฆษณาให้พรรคโดยใช้นักแสดง เป็นพรีเซ็นเตอร์ และวันนี้เป็นวันที่เธอได้นัดไปเซ็นสัญญาที่พรรคและจะได้พบชายในฝัน เสียที คันธนีรายิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของนักการเมืองหนุ่ม
“วินนี่ วินนี่” คันธนีราสะดุ้งหันไปที่เสียงเรียกก่อนจะยิ้มหวานให้ผู้จัดการสาวประเภทสอง “อ้าวพี่ณชว่ายังงัยคะ” “ใกล้เวลานัดแล้วย่ะแหมหล่อนน่าจะเป็นนักการเมืองนะ ดูแต่ข่าวการเมือง” ผู้จัดการสาวแซวดาราในสังกัด คันธนีรายิ้มอายๆ “แหมพี่ก็รู้หนูดูอะไร” ผู้จัดการสาวรู้ดีว่าคันธนีราชื่นชอบอาชวี นักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล
ที่หน้าพรรคการเมือง ประชาชาติไทย รถตู้สีดำแล่นมาจอดหน้าพรรคประตูรถเปิดออก คันธนีราและณชลงจากรถเดินเข้าไปในพรรคเจ้าหน้าที่พรรคเชิญดาราสาวและผู้จัดการไปห้องประชุมดาราสาวแอบผิดหวังที่ไม่ได้เป็นห้องทำงานของหัวหน้าพรรค ทันทีที่เปิดห้องประชุมสิ่งที่ดาราสาวเห็นสิ่งแรกคือใบหน้าชายในฝัน ซึ่งนั่งหัวโต๊ะ และข้างๆก็เป็นรามิลเลขาส่วนตัวของหัวหน้าพรรค ซึ่งฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาเลขาผู้นี้เป็นคู่เกย์กับหัวหน้าพรรค เพราะรามิลโสดทั้งๆที่อายุก็ 36 ปีแล้ว ส่วนหัวหน้าพรรคก็ตกพุ่มหม้ายไม่นานมานี้ แต่ดาราสาวขอแค่ได้ทำความรู้จักก็พอถึงแม้เขาเป็นเกย์ หล่อนก็จะคอยดูเขาเฉยๆ ดาราสาวภาวนาขอให้ชายในฝันไม่เป็นเกย์ความคิดมาหยุดลงเมื่อหญิงสาวก้าวเข้ามาในห้อง คันธนีราเลือกที่จะนั่งข้างหัวหน้าพรรคซึ่งตรงข้ามเลขาส่วนตัวของหัวหน้าพรรค ทันทีที่เห็นดาราสาวเดินเข้ามาในห้องหัวใจอาชวีเต้นแรงแทบจะหลุดออกมานอกอก ตั้งแต่อำพรจากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับเขาก็ไม่ได้สนใจหญิงสาวคนใหนเลย พอมาเห็นเธอคนนี้ทำไมใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้หรือว่าเพราะเขาห่างหายจากผู้หญิงมานานพอมาเจอดาราสาวหัวใจมันเลยเรียกร้อง
“สวัสดีครับคุณณช คุณคันธนีรา นี่หัวหน้าครับคุณอาชวี”
ชายหนุ่มหายตลึงยื่นมือออกไปเพื่อจะจับมือ หญิงสาวยิ้มยกมือไหว้ เขาเขินๆยกมือรับไหว้ เลขาส่วนตัวยิ้มขำญาติผู้พี่และหัวหน้าเขารู้ทันทีว่าญาติผู้พี่คิดอะไรจึงยิ้มๆแล้วเขาก็คุยเรืองสัญญากับผู้จัดการดาราสาว ซึ่งดาราสาวมีอาการไม่แตกต่างจากหัวหน้าของเขา ยิ้มๆอย่างเอียงอายเมื่อรู้ว่าถูกจ้องมอง ฝ่ายหัวหน้าหนุ่มเมื่อรู้ว่าญาติผู้น้องของตนจับได้ก็แกล้งก้มหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมาเจอดวงตาของดาราสาว ก็เขินๆยกมือลูบท้ายทอยตัวเอง
“คุณอาชวีที่บ้านเป็นงัยบ้างคะได้ข่าวโดนระเบิด” ดาราสาวชวนคุยแก้เขิน “อ้อ กระจกหน้าบ้านแตกครับสนามหน้าบ้านก็โดนสะเก็ดระเบิดเป็นหลุมครับ” “แหม!แย่จังเลยนะคะพวกผู้ไม่หวังดีนี่น่ากลัวจัง แล้วมีใครเป็นอะไรมั้ยคะ” “ไม่มีคนบาดเจ็บครับ” “แล้วตัวคุณอาชวีล่ะคะ” “ปลอดภัยครับไม่เป็นอะไร”
กว่าจะเสร็จการเซ็นสัญญาก็เป็นเวลาเที่ยงวันไปแล้ว ดาราสาวและผู้จัดการได้รับเชิญทานกลางวันที่พรรค แต่ผู้จัดการต้องออกไปติดต่องานให้ดาราสาว ส่วนดาราสาวมีงานเดินแบบอีกทีในช่วงเย็นหญิงสาวจึงรับเชิญทานข้าว รามิลได้รับโทรศัพท์และเขาก็ออกไป ซักพักแม่บ้านก็เข้ามาถามจะรับอาหารที่ใหน อาชวีให้อาหารไปตั้งที่ห้องทำงานของเขา ชายหนุ่มเดินนำหญิงสาวขึ้นไปชั้นสองแล้วเข้าไปในห้องที่อยู่ด้านในสุดติดป้ายหน้าห้องว่าหัวหน้าพรรค ภายในห้องเป็นห้องทำงานที่เรียบง่ายมีโต๊ะกลมอยู่ข้างโต๊ะทำงาน ริมกระจกบานใหญ่ซึ่งปิดม่านไว้ทำให้ห้องเย็นและมืดถ้าไม่เปิดไฟ เขาเดินนำหญิงสาวไปนั่งที่โต๊ะกลมที่มีอาหารมาวางเขาผายมือเชิญหญิงสาวนั่งเก้าอี้ตัวตรงข้าม
“วันนี้คงต้องทานข้าวในพรรคนะครับพอดีอาชีพนักการเมืองไม่ค่อยสะดวก” “เข้าใจค่ะอาชิพของวินนี่ก็เหมือนกันค่ะ” ต่างฝ่ายต่างทานข้าวไปเงียบจนกระทั่งหญิงสาวเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ “เออ!ภรรยาท่านละคะ” “อ้อ!เสียแล้วครับ แล้วคุณคันธนีราล่ะครับ” หญิงสาวแอบยิ้มอย่างสมใจ จริงๆหล่อนรู้ตั้งแต่แรกแล้วแต่ก็แกล้งถามไปเท่านั้นเอง “เรียกว่าวินนี่เถอะค่ะ ขอวินนี่เรียกพี่มาร์คได้มั้ยคะ” “ยินดีครับ” “เออ!คุณวินนี่” “อ๋อ!วินนี่โสดค่ะ”
ชายหนุ่มนึกในใจขำๆดาราสาวยังไม่ทันถามรีบบอกซะก่อน อาชวีนึกชอบอุปนิสัยของสาวน้อยคนนี้ ชายหนุ่มยิ้มให้ดาราสาวอย่างเป็นมิตร โอ๊ย!ตายแล้วคันธนีราเห็นยิ้มบาดใจแบบนี้หัวใจจะวายเธอไม่ค่อยเชื่อว่าเขาจะเป็นเกย์ แต่ข่าวหนาหูเหลือเกินแถมภาพข่าวเมื่อเช้าอีกทำให้อดคิดไม่ได้ แต่เกย์ก็เกย์เถอะจะลองจีบเกย์ดู
วรรณพรนักข่าวสาวใหญ่นั่งรอรามิลที่ห้องทำงานหญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมาเจอนายรามิลเพราะคิดถึงสายตาของชายหนุ่มที่เจอเมื่อคืนทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆ ยากจะขจัดความรู้สึกนี้ออกไป พยายามจะเงียบๆไว้ทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับ หญิงสาวมัวคิดถึงแต่เรื่องตัวเองมารู้สึกตัวเมื่อมีแขนมาโอบแล้วใบหน้าคนที่นึกถึงก็ก้มลงมาหน้าแทบจะชนหน้าของเธอ วรรณพรตกใจลุกขึ้นจนแว่นกันแดดตกพื้น รามิลก้มลงไปหยิบแล้วเอามาคาดผมให้หญิงสาว เขาเดินไปนั่งที่ทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่ในหน้า
“อ้าว!เจ๊ไม่นั่งเหรอ”วรรณพรรู้สึกตัวรีบนั่งพร้อมกับคว้างค้อนไปหนึ่งวง “นี่คุณรามิลฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณนะ ไม่ต้องมาเรียกว่าเจ๊เลย” “ไม่เรียกว่าเจ๊ก็ได้งั้นเรียกที่รักแล้วกัน” สาวใหญ่หน้าแดงด้วยความอาย “ฉันอายุมากกว่าคุณนะ” “แล้วงัย ผู้ชายอายุน้อยกว่าเป็นแฟนผู้หญิงอายุมากกว่าไม่ได้เหรอ”
หญิงสาวอึ้งเธอยอมรับว่าสมัยนี้เรื่องอายุไม่สำคัญแต่ไม่คิดว่ารามิลจะมาจริงจังอะไรและคิดว่าเขาเป็นเกย์เธอเห็นเขาตั้งแต่ยังเป็น ส.ส.ครั้งแรก เขามีใบหน้าที่หล่อคมเข้มสะดุดตาหล่อนตั้งแต่นาทีแรกที่พรรคเปิดตัวเขาเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.และเป็นส.ส.เพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกตั้งในสมัยนั้น หลังจากนั้นเมื่ออาชวีได้เป็นหัวหน้าพรรคเขาก็ได้เป็นเลขาไปใหนมาใหนด้วยกันจนคนลือกันว่าเขาและหัวหน้าเป็นคู่เกย์ “คุณไม่ชอบผู้หญิงหรอกคุณเป็นเกย์”
ชายหนุ่มหุบยิ้ม ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าหานักข่าวสาว วรรณพรถอยหลังโดยอัตโนมัติถอยจนหลังชนผนังห้อง ชายหนุ่มยกมือท้าวผนังเป็นการปิดทางไม่ให้หญิงสาวหนีไปใหน ชายหนุ่มก้มลงปิดปากนุ่ม ตอนแรกกะแค่แกล้งเฉยๆแต่เมื่อได้จูบแล้วเขาก็หยุดไม่ได้ มือของเขาเลื่อนมาจับศรีษะหญิงสาวให้เงยขึ้นรับจูบของเขา อีกมือลูบสะโพกหญิงสาวรู้สึกตัวออกแรงผลักอกหนา เต็มแรงเงื้อมือตบแต่ชายหนุ่มจับมือนักข่าวสาวไว้
“โถ!ที่รักจูบนิดจูบหน่อยแค่นี้จะตบ แล้วแบบนี้จะเรียกผมว่าเกย์หรือป่าว” “ก็แค่จูบจะมาพิสูจน์อะไร” “1เดือนผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมไม่ใช่เกย์!” “จะพิสูจน์ยังงัย” “เรามาเป็นแฟนกัน” “บ้าเราอายุต่างกันนะ” “ผมชอบผู้หญิงอายุมากกว่าอยู่แล้ว หรือว่าคุณไม่กล้า” รามิลจ้องหน้านักข่าวสาวอย่างท้าทาย วรรณพรคิดว่าจะให้เด็กมาสบประมาทได้อย่างไรเมื่อกล้าท้าหล่อนก็ต้องลองอีกซักตั้ง “ก็ได้” รามิลยิ้มชอบใจที่นักข่าวสาวหลงกล มีเสียงเคาะประตูแม่บ้านยกอาหารเข้ามา “อ้าว!งั้นเชิญคุณทานข้าวเถอะค่ะเดี๋ยวชั้นกลับก่อนพรุ่งนี้ชั้นจะโทรมาใหม่” ชายหนุ่มรีบก้าวไปขวางหน้าหญิงสาว “เราเป็นแฟนกันแล้วมาทานข้าวด้วยกันนะ” ชายหนุ่มอ้อนพร้อมจับมือหญิงสาว หญิงสาวยิ้ม หญิงสาวคิดยอมๆไปก่อนเพื่องาน “ก็ได้ค่ะแต่เราทานเสร็จ แล้วชั้นขอสัมภาษณ์นะ” “โอเคก่อนสัมภาษณ์ขอจูบเดียว” หญิงสาวหน้าแดงด้วยความอาย สองหนุ่มสาวมานั่งทานข้าว ทานกันไปหยอกล้อกันไป พอทานข้าวเสร็จชายหนุ่มจับมือหญิงสาวจุงมานั่งบนโซฟรับแขก แล้วให้หญิงสาวนั่งตัก หญิงสาวจะลุกขึ้นแต่ชายหนุ่มไม่ยอมจับหญิงสาวให้นั่งอยู่แบบนั้น
“คุณรามิลปล่อยชั้นเถอะชั้นพูดไม่ออก” “ผมยังพูดได้เลยแล้วแทนตัวเองด้วยชื่อนะอย่าเรียกว่าชั้นนะครับวรรณ” “ได้ค่ะคุณอาร์มแล้ววรรณจะสัมภาษณ์ได้ยัง” “ยัง”
นักข่าวสาวตั้งท่าจะเถียง ชายหนุ่มก้มลงใช้ปากปิดปาก มันเป็นจูบที่หวาวหวาบที่สุด หล่อนรู้สึกมวนๆที่ช่องท้อง มือข้างที่ว่าง วางบนไหล่ของชายหนุ่ม ส่วนมือชายหนุ่มเลื่อนมาที่ด้านหน้าล้วงเข้าไปในเสื้อของหญิงสาวสัมผัสทรวงอกนุ่มผ่านยกทรงตัวสวย “อย่าค่ะคุณอาร์ม” แต่ชายหนุ่มใช้ใบหน้าซุกไซร้ที่ซอกคอและทรวงอกหญิงสาว จนหญิงสาวตีที่ไหล่เขาเบาๆ “อาร์มค่ะหยุดเถอะถ้าไม่หยุดวรรณจะไม่มาอีกนะ” รามิลได้ยินจึงถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง แต่ยังไม่ยอมให้หญิงสาวลงจากตัก แล้วบทสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้นแต่เป็นบทสัมภาษณ์ที่ฝ่ายหญิงเสียเปรียบที่เพราะถาม1คำถามก็โดนจูบ1ที หญิงสาวแทบไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นเกย์หรือว่าเขาแค่แสดงแค่นั้นเดี๋ยวก็รู้



wanvisatreewong
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.พ. 2557, 18:03:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.พ. 2557, 18:19:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 964





   ยัดเยียดตัวเอง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account