นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 9

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 9

พอถึงบ้านแล้วมินตราเดินขึ้นห้องนอนไปเลย คิลเลี่ยนก็เลยบอกให้น้องเธอไปเอาเตียงที่ห้องตรงบันไดทางซ้ายมาไว้ที่เรือนหลังเล็กข้างล่าง เขาขอไปดูมินตราก่อน แล้วจะไปช่วย

บรรพ์เอาของไปเก็บก่อนแล้วค่อยขึ้นไปที่ห้อง เห็นที่นอนมีแล้วก็มีชุดเครื่องนอนแต่คลุมผ้าไว้อย่างดี เขากับแฟนก็ช่วยกันขนเท่าที่จะทำได้

คิลเลี่ยนเข้ามาในห้อง เห็นภรรยาขึ้นเตียงแล้วปิดหน้าร้องไห้ “ใจเย็นๆ มินต์”

มินตราเงียบไม่พูด ก็ถูกเขากอดไว้ปลอบใจเท่านั้น สักพักเธอก็สะอื้น เขารู้ว่าเธอเจ็บปวด แต่ก็เป็นความจริงที่เธอต้องยอมรับให้ได้ นี่คือสิ่งที่แม่เธอเป็น

เสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้อง คิลเลี่ยนก็บอก “เข้ามาสิ”

บรรพ์ค่อยๆ เข้ามา เขาค่อยๆ ขนของลงไปข้างล่างหมดแล้ว ยกเว้นเตียงก็ตั้งใจว่าเอาแค่ที่นอนไปก่อน “ผมกับปูจะลงไปข้างล่างแล้วนะครับ เดี๋ยวจะล็อกให้นะครับ”

“ขอบใจมาก เครื่องใช้ในห้องน้ำมีไหม” มินตราถามน้องชาย พยายามเช็ดน้ำตาออกไปให้มากที่สุด

“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่มินต์ เห็นในห้องน้ำข้างล่างมี ผมใช้ๆ ไปก่อนได้” บรรพ์ก็ไม่กล้าสบตาพี่สาว รู้สึกว่าเป็นความผิดของเขาด้วยที่ทำให้พี่สาวถูกตบ “ผมขอโทษนะพี่”

“ขอโทษพี่เรื่องอะไร” มินตราเป็นงงที่น้องชายพูดแบบนั้น

“ผมว่าแค่พี่มินต์เอาของมา แม่คงไม่โกรธเท่าไร แต่พอผมออกมาด้วยแม่ก็เลยโกรธ” บรรพ์คิดอย่างง่ายๆ เรื่องลึกซึ้งนี่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ เขาเป็นคนซื่อ คิดอะไรซื่อๆ ตามประสาเขา

“ถ้าแม่จะโกรธ แม่ก็โกรธได้ทุกอย่างนั่นแหละ” มินตราลุกไปหยิบของที่เธอได้จากโรงแรมมาให้น้องชาย “เอานี่ไปใช้ก่อนแล้วกัน พี่ได้มาจากโรงแรมที่ไปพักน่ะ ไว้พี่จะซื้อตู้เย็นเล็กให้ใช้ในห้องนะ”

“ขอบคุณพี่มากครับ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงมองพี่กับพี่เคในแง่ร้ายนัก อย่าไปคิดมากเลยพี่ แม่ก็ทำอะไรขาดสติอย่างนี้มานานแล้วล่ะ ยังไงก็แม่ เลือกไม่ได้แล้ว ต้องทำใจ” บรรพ์บอกพี่สาวให้ทำใจ ก่อนลงไปข้างล่าง ดีที่เรือนเล็กมีทางเชื่อมต่อไม่ต้องเดินผ่านสวนให้น่ากลัว แต่เป็นห้องแล้วมีหน้าต่างระหว่างทางที่เดินแทน เขาก็เลยเดินได้สบายใจ

คิลเลี่ยนเห็นน้องเธอลงไปแล้วก็ดึงมินตรามากอด “เดี๋ยวไปล้างหน้าล้างตาแล้วก็เตรียมตัวนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำบุญบ้านอีกนะ ดีที่ขัดพ่อไม่จัดงานเลี้ยงได้ แล้วอีกวันก็มีถ่ายภาพด้วย อย่าเครียดไป”

มินตราได้แต่พยักหน้าช้าๆ แล้วเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง

เมื่อมองตัวเองที่หน้ากระจก เธอก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่จึงไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ แล้วอยากได้ของคนอื่นอยู่เสมอแบบนี้

**********************************

ทีมงานของพ่อเขาจ้างบริษัทโฆษณามาถ่ายภาพเธอกับสามี เครื่องเพชรถูกขนมาเต็มไปหมด พร้อมเสื้อผ้าทันสมัย ชุดราตรี ชุดอยู่บ้าน แม้แต่ชุดเดินเล่น ขนออกมาให้มินตรากับสามีเปลี่ยน

ภาพหนึ่งที่มินตราชอบมาก็คือ ภาพที่คิลเลี่ยนยกมือขึ้นลูบหน้าเธอแล้วโชว์นาฬิกาฝังเพชร สบตากันหวานซึ้ง ภาพนี้มินตราไม่รู้สึกว่ากำลังถ่ายแบบ แต่กำลังแสดงความรักและความเข้าใจกัน

เมื่อแสงเริ่มจาง งานก็เสร็จพอดี ทีมงานมากันแต่เช้า เตรียมทุกอย่างรวดเร็ว เพราะมินตรากับคิลเลี่ยนจะต้องออกเดินทางกลับอังกฤษพรุ่งนี้

มินตราขอภาพมาจากทีมงาน ถ้าเธอกลับมาพ่อเขาจะให้ทีมงานเอาภาพที่เธอเลือกไปขยายใหญ่แล้วใส่กรอบมาติดไว้ที่บ้านให้ มินตรายิ้มออกแล้วก็เลี้ยงอาหารทีมงานที่พักจากงาน

“คุณมินตราเป็นนักแสดงมานานแค่ไหนแล้วคะ” ทีมงานคนหนึ่งถามขึ้นอย่างสนใจ

“ประมาณสี่ห้าปีได้แล้วค่ะ” มินตราตอบตามตรง และมีรอยยิ้มเป็นมิตรเสมอ

“ทำไมไม่เคยได้รับบทเด่นเลยคะ” ทีมงานคนเดิมถามซ้ำ นึกสงสัยเหมือนกัน หากกลับมาเมืองไทยไม่แน่มินตราอาจจะได้รับบทเด่นๆ บ้าง

“ไม่เคยมองหาบทเด่นค่ะ เขาจ้างบทไหนที่คิดว่าแสดงได้ ก็รับค่ะ ไม่อยากให้ทีมงานลำบาก” มินตราพูดแล้วก็นำอาหารไปนั่งทานกับสามีที่โต๊ะอาหาร น้องชายเธอเพิ่งกลับจากขายขนม ก็มานั่งทานด้วย และจะเริ่มทำขนมเพิ่มหลังจากนี้

“อาจมีผู้กำกับที่เมืองไทยอยากให้คุณเป็นนางเอกของเขาที่นี่นะคะ ไม่ลองตัดสินใจดูเหรอคะ” ทีมงานคนเดิมเลียบเคียงถาม ผลงานจะได้ติดตาคนไทยมากขึ้น

“พอดีฉันรับงานแล้วก็คุยงานแล้วค่ะ ต้องดูตารางอีกทีค่ะ ฉันไม่อยากเสียคำพูดค่ะ” มินตราตอบเป็นกลางๆ

“อีกอย่างยังไม่มีใครติดต่อมา เราก็เลยยังไม่ได้คิดอะไรมาก” คิลเลี่ยนตอบแทนภรรยา รู้ว่าอีกฝ่ายสนใจจึงถาม ไม่ได้ถามเพื่อกวนประสาทใคร

“จริงๆ คุณคิลเลี่ยนก็น่าจะรับงานด้วยนะคะ สามีก็หล่อ ภรรยาก็สวยแบบนี้ รับรองงานเข้าตลอดแน่ค่ะ” ทีมงานคนเดิมมองคิลเลี่ยนตาเยิ้ม เพราะตอนสวมชุดว่ายน้ำถ่ายที่สระ รูปร่างคิลเลี่ยนเรียกสายตาสาวๆ ในทีมงานได้เลย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ กลัวว่าพ่อผมเขาคงไม่ชอบนัก” คิลเลี่ยนยิ้มที่มุมปากอย่างมีเสน่ห์ ก่อนดึงภรรยามานั่งตัก แล้วอ้อน “ป้อนพี่หน่อยสิ เมียจ๋า”

มินตราตามใจสามีอยู่แล้ว เขาอยากทำอะไรก็ไม่เคยขัด เพราะเขาก็คิดมาดีแล้วว่า เธออยากทำอะไร หรือไม่อยากทำอะไร เธอจึงป้อนสามี แล้วก็ถูกสามีจูบเอาใจ

ทีมงานเห็นว่าเป็นคนนอกก็ถอยไปจากตรงนั้น ปล่อยให้สามีภรรยาได้แสดงความรักของกันและกัน

พอทีมงานกลับหมดแล้ว บรรพ์ก็เข้าครัวกับปูทำขนมเพื่อขายเพิ่มในวันพรุ่งนี้ แผงเล็กๆ ในตลาดของเขา แต่ก็ทำให้คนรู้จักมากพอจะทำกล่องของว่างตามงานต่างๆ ได้

“ได้ออร์เดอร์มาเหรอ” มินตราเข้ามาในครัวเพื่อคุยกับน้องชาย เห็นน้องชายขยันก็รู้สึกภูมิใจ

“ครับ พรุ่งนี้เอาไปส่งสามร้อยชุด ต้องจัดกันเยอะเลยครับ แต่มีกล่องอยู่แล้ว ผมกับปูช่วยกันจัด แล้วเอาไปส่งตอนเย็น ต้องไปส่งที่วัดด้วย ดีที่ผมกับปูลงเรียนเหมือนกัน จะได้มีตารางเวลาเหมือนกัน” บรรพ์บอกพี่สาวแล้วก็ไม่หยุดทำขนม

“ดีแล้วล่ะ ขยันทำงาน และสร้างทุกสิ่งขึ้นมาด้วยความสามารถของตัวเอง” มินตราสรุปทุกอย่างที่น้องชายควรจะทำและเป็นสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอด

“เราสองคนดูจะผิดพ่อผิดแม่นะเนี่ย” บรรพ์พูดขึ้น มือก็ยังทำงาน

ใจเขาไม่เกี่ยงเงินน้อย ขอให้มีกำลังใจ ถึงไหนก็ถึงกัน

“อย่าไปคิดมากเลย พี่พยายามจะไม่คิดมากแล้ว” มินตราปลอบน้องชาย ก่อนหันไปคุยกับแฟนน้อง “ไงปู เป็นแฟนบูมลำบากหน่อยนะ”

“สบายกว่าเมื่อก่อนเยอะค่ะ เมื่อก่อนต้องช่วยพ่อแม่ทำนา ออกแดดจนตัวดำ สามเดือนถึงได้เงินใช้ นี่ได้เงินใช้ทุกวัน บูมเขาจ้างมาช่วยเขาทำงานค่ะ” ปูพูดติดตลกในตอนท้าย สบตาคนรักแล้วยิ้มให้กัน

“จ้างเป็นเงิน หรือว่าจ้างด้วยหัวใจจ๊ะ” มินตราได้ทีก็แซวน้องๆ ทำให้บรรยากาศครึกครื้น

“แหมพี่ ต้องหัวใจล้วนๆ เงินไม่ค่อยมีหรอก” บรรพ์พูดแล้วก็หัวเราะแก้เขิน

“อ่ะนะ กระเป๋าเดียวกันนินา” ปูแก้ต่างให้แฟนหนุ่ม ยิ้มอายๆ

“พี่ไม่อยู่ วันไหนร้อนก็เปิดแอร์นะ ไม่ต้องคิดมาก พี่เอาเงินใส่ธนาคารไว้แล้วให้เขาหักผ่านธนาคารแทน ทั้งค่าน้ำค่าไฟ แต่แก๊สเราก็ต้องออกเองนะ” มินตราบอกน้องชาย

“อ๋อครับ ก็เราเอามาทำขนมขายนี่น่าแค่ไม่ต้องเช่าบ้าน ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟก็พอแล้วฮะ” บรรพ์บอกพี่สาว

“ค่าเทอมพี่จะส่งให้ เหลือก็เก็บไว้บ้างนะ ส่วนพ่อแม่ถ้าพี่มีจะส่งให้บ้าง เฮ้อ คิดแล้วก็เหนื่อยจริงๆ ได้ยินว่าบอมมันไม่ยอมเรียนเลยเหรอ” มินตราพูดอย่างหนักใจ

“อย่าไปพูดถึงมันเลยพี่ วันๆ เอาแต่อยู่บ้านเล่นเกม จะเอาอะไรกับมัน ตอนนี้แม่ก็พอกัน ดูละครทั้งวัน ดีที่ยังทำความสะอาดบ้าน หาข้าวหาปลาให้พ่อกิน ไม่งั้นสงสารพ่อ หันไปทางไหน มีแต่คนจนไม่เจียม” บรรพ์ปากจัดน้อยเสียเมื่อไร

ลูกคุณบุษบาเห็นจะมีมินตราคนเดียวที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง เมื่อก่อนยอมตลอด มองโลกในแง่ดีเสมอมา ไม่คิดว่าโดนเอาเปรียบจนกระทั่งบริวารทั้งหลาย ซึ่งหมายถึงคนในครอบครัว เพื่อนและอดีตคนรัก พากันทอดทิ้ง เธอจึงมองโลกแตกต่างออกไป

“เอาล่ะ พี่ไม่รบกวนแล้วนะ ขึ้นข้างบนก่อนดีกว่า” มินตราลาน้องๆ แล้วก็ขึ้นข้างบน มาถึงก็เห็นสามีกำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ก็ไปจัดการตัวเอง ออกมาแล้วก็ถูกสามีรวบไปกอด

“หอมจริง เมียพี่” คิลเลี่ยนอ้อนภรรยาทันทีที่มีโอกาส ทั้งกอดทั้งหอม ลูบสะโพก โอ้โลมเท่าที่ทำได้

“โธ่ ว่าแต่พี่อาบน้ำหรือยังคะ” มินตรารีบแกะมือเขา ก่อนที่เขาจะลากเธอไปที่เตียง

“อาบแล้ว ก็อาบก่อนไปทานมื้อเย็นไง เมียจ๋า” คิลเลี่ยนบอก เพราะนั่นเขาขึ้นจากสระน้ำ หลังถ่ายแบบไป

“แหมพี่ก็” มินตราโดนเขากึ่งลากกึ่งอุ้มไปที่เตียง แล้วสามีก็ไม่ปล่อยว่าง เข้ามานัวเนียเลยทีเดียว

คิลเลี่ยนไม่ปล่อยเธอเกลี่ยกล่อมเขาสำเร็จ ก็รุกเร้าภรรยาเขาจนยอมตามใจ เรื่องแบบนี้เขาฝึกมาเยอะ ชั่วโมงบินสูงก็คงไม่แปลก แต่ถึงอย่างไรเขาก็พยายามทำให้ภรรยาเขามีความสุขมากที่สุด เพื่อชีวิตคู่ที่แสนสุขของเขาและเธอ

**********************************

ลืมตาเพราะบางอย่างที่อยู่ในหัวแล้วสลัดไม่หลุด แม้ยามพักผ่อนจากกิจกรรมรักหนักๆ เมื่อครู่ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากพรมขนสัตว์โดยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต่างจากภรรยาสาวที่นอนเปลือยกายอยู่ด้านหน้าเตาผิง

เขาเดินไปนั่งที่แกรนด์เปียโน แล้วเริ่มบรรเลงเพลงที่วนเวียนอยู่ในสมอง ทันทีที่กดอัดเสียงไว้ เขาเริ่มอย่างเนิบนาบ ก่อนจะจับจังหวะอารมณ์ของตัวโน๊ตในสมอง เขาบรรเลงเพลงให้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่คนฟังที่หลับอยู่ ยังต้องหันหน้ามามองเขา

เพลงมีจังหวะเร่งร้อน เนิบนาบแค่ช่วงหนึ่ง ปนเศร้าเล็กน้อย แล้วเร่งจังหวะเร็วขึ้น เขาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการเล่นเพลง แทนที่จะต้องมานั่งคอยจับจังหวะ ตอนนี้เป็นช่วงที่เขาเล่นอย่างมีอิสระ

มินตราพลิกตัวนอนคว่ำ หันหน้ามามองเขา เขากำลังเปลือยและเล่นเปียโนโดยไม่สนใจอะไร เพลงแล้วเพลงเล่า ดูเหมือนเขาจะเล่นแต่เพลงของตัวเองเท่านั้น ซึ่งมินตราไม่เคยได้ยินเขาเล่น

กระท่อมบนเขาสูงห่างไกลจากผู้คนและความวุ่นวาย เป็นสถานที่ที่เธอกับเขาเลือกเพื่อพักจากผู้คน ต่างก็เก็บตัวโดยปิดการติดต่อจากคนทั่วไป แม้แต่มือถือยังปิดไว้อย่างไม่ใส่ใจจะติดต่อใคร

แกรนด์เปียโนคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาเลือกพักที่นี่ มินตราทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วและส่งงานทันทีที่มาถึงอังกฤษ จากนั้นก็แยกตัวไปพักผ่อน เพราะนัดกับทางผู้ว่าจ้างเสร็จแล้ว

พอเสียงเพลงเบาลงและเงียบหายไป เขาหันมามองภรรยาสาวที่มองเขาอยู่ จากนั้นก็กดหยุดอัด แล้วลงไปนอนข้างๆ ก่อนจะดึงเธอขึ้นมานอนบนตัวเขา จากนั้นก็เปิดเพลงที่เขาเล่น

“เพลงพวกนี้พี่แต่งเองเหรอคะ” มินตราพอเดาได้ แต่ต้องถาม เพราะเธอก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพลงนัก

“เพราะไหม” คิลเลี่ยนไม่ตอบมากความ เขาลูบดวงหน้าสวยเฉียบของเธออย่างพอใจ

“เพราะค่ะ แต่ยังสับสนไปนิด” มินตราบอกแล้วยืดตัวจูบเขาเบาๆ

“ต้องปรับแก้ก่อนสิ เล่นตามใจฉันก็อย่างนี้แหละ” คิลเลี่ยนยิ้มเอ็นดูภรรยาสาว แล้วพลิกตัวให้เธออยู่ใต้ร่างเขา “ถ้าพี่ปรับปรุงเสร็จเมื่อไร มินต์จะได้ฟังเป็นคนแรกเลยล่ะ”

มินตราหัวเราะนิดๆ “ต้องอย่างนั้นสิคะ ก็พี่เป็นสามีมินต์นี่ ต้องให้มินต์ได้ฟังก่อน”

“ไม่ใช่แค่นั้น เพราะมินต์เป็นแรงบันดาลใจให้พี่ต่างหาก” คิลเลี่ยนก้มลงจูบเธออีกรอบ แล้วเริ่มเล้าโลมเธออีกครั้ง

“เดี๋ยวค่ะ พี่ต้องป้องกันด้วยนะคะ” มินตรารีบเตือน เพราะกลัวว่าท้องแล้วจะกระทบงาน เธอไม่ได้ทานยาคุมเหมือนคนอื่นด้วย

“รู้แล้วล่ะน่า พี่ก็กลัวไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นเหมือนกัน ช่วงนี้มีแต่รายจ่าย” คิลเลี่ยนพูดอย่างไม่จริงจังนัก เขาไม่ใส่ใจพวกรายจ่ายอยู่แล้ว เพราะเขามีแหล่งรายได้ที่เขาไม่ค่อยได้บอกใคร

มินตราก็หัวเราะ เพราะเขาก็ชอบพูดติดตลกอยู่ตลอดเวลา เสียงหัวเราะดูจะเหมาะกับชีวิตเธอและเขาในเวลานี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อะไรๆ ในชีวิตลงตัวอย่างนี้

**********************************

บ้านนอกเมืองติดกับบ้านแม่สามีแต่ก็สงบดี มินตราฟังสามีบรรเลงเพลงของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเข้าที่ เธอยังไม่ค่อยมีนัดแสดง แต่ก็เริ่มมีคิวต้องไปบ้างแล้ว

มินตราแยกไปเตรียมอาหารค่ำ ก่อนจะกลับมาเพื่อเรียกเขาไปทานอาหาร เห็นเขามองแท็ปเล็ตอย่างงุนงง

“มินต์นั่งลงก่อนนะ” คิลเลี่ยนเข้ามาโอบไหล่เธอหาไปนั่งที่เก้าอี้โซฟา บ้านหลังนี้ขนาดพอดี เมื่อจะตั้งเปียโนจึงต้องตั้งที่ห้องโถงสำหรับรับแขก จึงจะกว้างพอ ส่วนห้องนอนก็ขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่โตเกินไป

“มีอะไรไม่ดีเหรอคะ” มินตราเป็นงง แต่ก็ทำตามที่เขาบอก เห็นเขาทำท่าทางแปลกๆ ก็ยิ่งสงสัย

คิลเลี่ยนเปิดคลิปของแม่เธอที่ออกมาพูดกับสื่อให้เธอดู เขาถอนหายใจอย่างสงสาร

“มินต์เคยเป็นเด็กดีและว่านอนสอนง่ายมาตลอด แต่ตอนนี้แม่คิดว่ามินต์เปลี่ยนไปมาก มินต์เชื่อแต่สามีและไม่ยอมให้พ่อแม่เข้าไปอยู่ในบ้านที่มินต์ซื้อหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของเขา มินต์ยังด่าทอว่าแม่ต่างๆ นานา เพราะเชื่อสามีมาก จนไม่ฟังใครแล้ว กลับมาเจอกัน มินต์ก็เอาแต่ทำท่าทางหงุดหงิดใส่แม่ตลอด เหมือนกับแม่ไปทำสิ่งไม่ดีกับเขา แม่ตำหนิเขาเรื่องสามีนิดเดียว เขาก็ด่าแม่เสียๆ หายๆ แม่เสียใจจริงๆ ที่มันเกิดเรื่องแบบนี้” บุษบาพูดแล้วก็บีบน้ำตาได้สมจริง เพราะเชื่อสิ่งที่พูด

“คุณมินต์เขาพูดยังไงบ้างคะ”

“เขาว่าอย่ายุ่งเรื่องของสามีกับเขา” บุษบาได้ทีก็ใส่ใหญ่ ออกท่าทางโกรธๆ ลูก สาวมากด้วย ตามความรู้สึกของตัวเอง “มินต์เขาส่งเงินให้แม่ใช้เดือนเว้นเดือน ให้ไม่กี่พัน เขาไม่สนใจว่าพ่อแม่จะอยู่ยังไง เขาไปเมืองนอก เราต้องหาเงินให้เขาใช้จ่าย พอได้ดีก็กลับว่าสามีเป็นคนช่วยเหลือเขามาตลอด แม่ก็ท้อใจ เขาเชื่อสามีมากกว่าแม่”

“ไม่อยากเชื่อเลยนะครับว่า ลูกชายคุณสมเจตน์ ล่ำประเสริฐสุทธิจะเป็นคนแบบนี้”

“แม่ขอตัวก่อนนะคะ” บุษบาให้ข่าวก็ขอหลบฉากไปเลย เรพาะรู้ว่าคนที่มาฟังเห็นใจเธอมาก

‘สงสารแม่ดาราสาวไทยใจอกตัญญู’ ชื่อคลิปที่เอามาโพสต์หน้าแฟนเพจ แล้วแฟนคลับก็ลากมาให้มินตราดูอีกที

มินตราปล่อยโฮออกมาทันที เพราะโกรธจัด จากนั้นก็พยายามกดโทรหาน้องชาย มือสั่นเพราะคุมอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อน้องชายรับเธอก็ถามทันที “บูมรู้ไหม แม่พูดอย่างนั้นออกสื่อได้ยังไง”

“ผม...ผมไม่รู้เหมือนกันพี่ ทำไมแม่ถึงทำลายลูกตัวเองอย่างนี้” บรรพ์ไม่ได้กลับบ้านเลย จึงเล่าความให้พี่รู้เรื่อง “หลังพี่ไปอังกฤษได้สักอาทิตย์ พ่อบอกว่าอยากมาเยี่ยม ผมบอกว่าพี่กลับอังกฤษไปแล้ว พ่อก็ยืนยันจะมาให้ได้ ผมเลยให้มา กลายเป็นว่าแม่บังคับให้พ่อพามา พอเห็นบ้านช่องใหญ่โตก็ถามใหญ่ ผมก็ว่าคงสักสิบล้านมั้ง แม่ก็ว่าทำไมพี่ไม่ให้พ่อแม่มาอยู่ ผมบอกไม่รู้ แม่ก็โกรธ พ่อน่ะไม่อะไร แม่น่ะโวยวายใหญ่ แล้วก็กลับ หลังจากนั้นสักอาทิตย์ คลิปนี่ก็ออกมาเนี่ยแหละครับ สื่อบันเทิงเล่นข่าวสนุกปากเลยแหละ”

มินตรานั่งร้องไห้ ก่อนตัดบทน้องชาย “ไม่จำเป็นไม่ต้องให้แม่มาบ้านอีกนะ”

“ครับๆ ผมรู้แล้ว ผมบอกพ่อว่าถ้าพี่รู้เข้า พี่ต้องโกรธแน่ๆ พ่อก็เข้าใจ” บรรพ์ถอนหายใจยาว

“แค่นี้ก่อนนะ พี่ขอเวลาทำใจหน่อย” มินตราวางสายจากน้องชายก็โผเข้ากอดสามี “ไม่คิดเลยว่าแม่จะทำแบบนี้กับมินต์”

“ใจเย็นๆ เมียพี่ทนได้ตั้งหลายอย่าง แค่นี้ไม่เท่าไรหรอกจ๊ะ ที่รัก” คิลเลี่ยนลูบผมเธอปลอบอย่างเห็นใจ แอบเซ็งแม่ยายเล็กน้อย แต่ก็ทำใจได้ เพราะคิดว่ายังไงสักวันคงก่อเรื่องแน่นอน

มินตราตั้งสติได้ ก็เปิดคอมพิวเตอร์ก้มหน้าก้มตาพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ชี้แจงแฟนคลับที่ต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับพูดจาไม่ดีถึงแม่ตัวเอง

“ทำอะไรน่ะ” คิลเลี่ยนเห็นเธอพิมพ์ไม่หยุดก็งง แล้วอ่านข้อความ

‘ถึงผู้ที่รักและหวังดีต่อมินต์, ฉันอาจไม่ใช่คนดีที่สุด แต่พยายามทำดีที่สุดแล้ว ข่าวที่ออกไป สามีฉันไม่เคยเข้าไปวุ่นวายหรือเกี่ยวข้อง ทรัพย์สินเงินทองใดๆ ที่หามาได้ ฉันได้นำไปชำระหนี้สินไปเสียมาก เป็นหนี้สินจากการที่มาเรียนที่อังกฤษ ไม่เคยขาดส่งเงินกลับทางบ้านแต่อย่างใด ปัญหาในครอบครัวขอไม่พูดถึง อย่างไรก็พ่อแม่ จะผิดถูกอย่างไรย่อมรู้แจ้งอยู่แก่ใจ สามีของฉันไม่เคยพูดหรือทำสิ่งใดที่ทำให้เกิดเรื่องดังที่เป็นข่าว ฉันเองขออภัยถ้าทำให้ใครก็ตามผิดหวัง แต่ฉันก็คือคนธรรมดาที่พยายามจะจัดการชีวิตให้ดีที่สุด ด้วยความจริงใจ’

“หิวแล้ว เราไปทานมื้อค่ำเถอะ” คิลเลี่ยนบอกภรรยาแล้วก็พากันไปทานอาหารที่โต๊ะ เขานั่งข้างๆ เธอ แล้วทานอาหารที่เธอทำให้ หากมินตรายังคงเคร่งเครียดกับข่าวที่ออกไป “ไม่เอาน่า ความจริงเป็นยังไง ใจเรารู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ อีกอย่างสื่ออังกฤษก็ไม่ได้สนใจนักหรอก มินต์ก็อย่าไปเครียดกับมัน มะรืนนี้จะต้องไปนอนกลางดินกินกลางทรายแล้วนะ ดีที่ได้บทเด่นหน่อยเป็นนางร้าย พี่อ่านบทแล้วท่าทางจะเปลืองตัวพอควร”

“ค่ะ” มินตราไม่มีอารมณ์พูดอะไรนัก แต่ก็ทานอาหารแต่โดยดี

ไม่รู้ว่าชีวิตเธอเกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่จึงทำกับเธอแบบนี้ ยังดีที่ยังมีเขาอยู่ข้างกายและคอยดูแลหัวใจเธอ ไม่อย่างนั้น

**********************************

ฉากนี้เป็นฉากที่มินตราต้องเข้าฉากมีอะไรกับพระเอก เขาก็เปลือย เธอก็เปลือย แต่ก็มีการป้องกัน เพียงแต่จะมองไม่เห็น เพราะต้องหลบสายตาคนดู ผู้กำกับก็ทำงานอย่างตั้งใจจริง ทุกอย่างจึงราบรื่น

“มินต์ผ่อนคลายนิดนึง” ผู้กำกับบอก เพื่อให้ภาพสมจริง

คิลเลี่ยนมองเธอในท่านั่ง มีการเล้าโลมลูบไล้ เขาก็กอดอกแล้วหันหลังเดินหนี แม้จะรู้ว่ามันเป็นเพียงการแสดง แต่พอมาเห็นจริงๆ เขาก็รับไม่ได้ สุดท้ายต้องพาตัวเองออกมาจากฉากนั้น

มินตราขยับร่างกายตามที่ผู้กำกับสั่ง พระเอกโชว์ด้านหลัง ที่เป้าเขามีฟองน้ำหนาๆ สีเนื้อปิดไว้ เธอก็เช่นกัน จึงแทบไม่รู้สึกอะไรเลย ด้านที่คนดูไม่เห็นแปะเทปสีเนื้อ ปิดไว้หมด จึงถ่ายฉากได้ไม่ยากนัก

เมื่อเป็นฉากที่ถึงจุดสุดยอดแล้ว มินตราก็หอบถี่ๆ ต้องทำหน้าเคลิ้ม แล้วก็ค่อยๆ สะบัดผม ขยับตัวแอบยิ้มร้ายด้านหลังพระเอก เป็นฉากที่นางร้ายจะเอาคลิปที่แอบถ่ายไปให้นางเอกดู

“คัท” เสียงสั่งจบฉากดังแล้ว มินตราก็รีบถอยออกมาให้ห่างจากพระเอก แล้วคว้าเสื้อคลุมมาสวม

พระเอกของเรื่องก็เช่นกัน แล้วแยกย้ายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะไม่อยากกระดากละอายใจกัน

มินตราสวมเสื้อคลุมแล้วก็มองหาสามี ไม่เห็นเขาอยู่ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วถามเขาไปที่รถเทลเลอร์ จากนั้นก็เปิดประตู เห็นเขาใส่หูฟังแล้วกดคีย์บอร์ดไปเรื่อยๆ จึงไปนั่งข้างๆ

“ทำไมออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ” มินตราถามเขา เพราะกลัวเขาอึดอัด

“บอกตามตรง ทนดูไม่ได้น่ะ เพราะเป็นสามีก็อดหวงไม่ได้ แล้วไม่อยากให้ทีมงานลำบากใจ พี่ก็เลยมาซ้อมเพลง” คิลเลี่ยนกลับมาซ้อมเพลงที่รถ

หนังเรื่องนี้ถ่ายมาสามสี่เดือนแล้วยังไม่จบเสียที เพลงที่เขาส่งเดโมไปก็ยังไม่มีการตอบรับจากตัวแทน เขาก็แต่งเพิ่มใหม่เรื่อยๆ ระหว่างรอเธอเลิกกอง

มินตรามีสีหน้าลำบากใจ เพราะไม่อยากให้เขาเครียด “กลับกันเถอะค่ะ”

มินตราถอดสิ่งป้องกันออกจากร่างกายแล้วแต่งตัวเสียใหม่ คิลเลี่ยนก็เก็บอุปกรณ์ของเขา เอาแต่คอมพิวเตอร์เท่านั้น เพราะเพลงทุกเพลงของเขาที่เขาเล่น มันจะเข้าเครื่องคอมทั้งหมด ทั้งสองกลับโรงแรมโดยสงบ ไม่มีการทะเลาะกัน

“ดีจะที่มินต์ไม่มีคิวถ่ายตั้งห้าวัน จะได้ไปคุยกับทางฮ่องกงว่าตกลงเอายังไงแน่นะคะ” มินตราพูดขึ้น เมื่อถึงห้องพักแล้วจากนั้นก็รออาหารที่เธอกับสามีสั่งให้ขึ้นมาส่งก่อนจะกลับมาที่โรงแรม

“ใช่สิ ช่วงตอนออกจากงาน เที่ยวซะเยอะเลย นี่ไปฮ่องกงจะได้เที่ยวไหม” คิลเลี่ยนมองเธอร่าเริงก็คลายความคิดเรื่องฉากนั้นไปเสีย

หากเขาก็ถูกผู้หญิงชนเข้าให้ พอมองก็เห็นเป็นวิคตอเรีย...ตอเก่าที่เขาขุดทิ้งยังไงก็กลับมาหาเขาได้ทุกที

วิคตอเรียมองคิลเลี่ยนแล้วก็มองยัยก้างที่ยืนอยู่ข้างเขาอย่างไม่พอใจนัก ก่อนหันมาคุยกับกิ๊กเก่า “ไงเค ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกนะ”

“คิดเหมือนกันเลย งั้นก็อย่าคุยกันเลยนะ” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็เดินหนี แต่วิคตอเรียดึงแขนเขาไว้ จิกแขนเขาเป็นรอยเลยทีเดียว

“ทำกับฉันเจ็บแสบมากเลยนะ” วิคตอเรียพยายามตอแยเขา นึกแค้นใจเขาอยู่มาก

“ก็อย่าใส่ใจ มันก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ น่าเลิกแล้วต่อกันเถอะนะ คิดมากไปได้” คิลเลี่ยนแกะมือเธอออก ทำหน้าเบื่อๆ เหมือนความรู้สึกในอดีตมันจางหายไปแล้ว

“ว่างไหม” วิคตอเรียอยากจะแย่งเขามาจากมินตรา แล้วทิ้งบ้าง

“เป็นสามีเต็มเวลาแล้วไม่ว่างแล้ว เข้าใจนะว่าเซ็กซ์ก็คือเซ็กซ์ มันไม่ต้องมีความรับผิดชอบ ปล่อยได้แล้วล่ะ ก่อนจะรำคาญมากไปกว่านี้” คิลเลี่ยนพูดจบก็โดนตบอย่างแรง เขาก็ปล่อยให้เธอตบ

“สารเลว!!!” วิคตอเรียด่าเขา พอเขาจะเดินหนี เธอก็กระชากเขาไว้ ตะคอกเขาอย่างไม่พอใจ “จะมาทำแบบนี้แล้วเดินหนีกันไปง่ายๆ ไม่ได้นะ”

“ทำไมไม่ได้ เธอก็ไม่ได้สำคัญกับฉันเท่าไร ฟังนะ ไม่สำคัญอีกต่อไป” คิลเลี่ยนเน้นย้ำ พอจะโดนตบอีกรอบ เขาก็จับข้อมือเธอไว้ แล้วสะบัดจนเธอเซ “ครั้งเดียวก็พอ ไม่คิดจะยอมอีกหรอกนะ”

คิลเลี่ยนโอบเอวมินตราไปที่ลิฟต์ แล้วมองวิคตอเรียที่โกรธจัด

“จำไว้ แกต้องเจอดีแน่” วิคตอเรียฝากรอยแค้นแล้วก็มองลิฟต์ปิดลง

มินตราฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เห็นคิลเลี่ยนไม่สนใจก็ได้แต่เงียบ รู้สึกเป็นห่วง แต่ก็เชื่อว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้ หวังว่าทุกอย่างจะไม่มีปัญหา

หวังว่า...จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา

**********************************

ท่าเรือเก่าแก่ของฮ่องกงเป็นจุดที่มีร้านอาหารดีๆ อยู่มาก ทั้งของสดของแห้ง มินตราก็เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่พัก ก่อนเข้าร้านที่นัดคุยงานไว้ ทั้งสองรอจนโปรดิวเซอร์มา แต่ผู้กำกับไม่มาด้วย เพราะติดธุระ

“คุณพูดภาษาจีนได้ไหม” เฉินลู่ถามมินตราทันที มองหล่อนอย่างสำรวจ

“ไม่ได้ค่ะ” มินตราก็ตอบตามตรง รู้สึกว่าคนคนนี้เสียมารยาทมากที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนั้น

“คือตัวละครนี่ต้องพูดเยอะ และเป็นภาษาจีน เราอยากให้พูดจีนได้น่ะ” เฉินลู่บอกตามตรง อยากดันคนอื่นมากกว่า

“แล้วคุณไม่บอกเราก่อนล่ะครับ เห็นติดต่อมาแต่ไม่ได้มีลงว่าต้องพูดจีนได้” คิลเลี่ยนถามอย่างสุภาพ แม้จะไม่พอใจเท่าไรนัก เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายทำงานไม่มืออาชีพ

“เห็นในหนังพูดจีนคล่อง นึกว่าพูดได้น่ะค่ะ ก็เลยไม่ได้ถาม” ผู้ช่วยพูดเสียงอ่อนลง พยายามไกล่เกลี่ย

“แปลว่าคุณต้องการคนที่พูดจีนได้เพื่อรับบทนี้เหรอครับ ถ้าพูดไม่ได้ก็ไม่ตกลงใช่ไหม” คิลเลี่ยนคาดเดาได้ทันที เพราะท่าทางอีกฝ่ายดูไม่ค่อยสนใจมินตราเท่าไรนัก

“ต้องอย่างนั้นแหละคุณ ถ้าพูดจีนไม่ได้เลย ก็รับบทยากนะ” เฉินลู่บอกและตั้งใจจะปฏิเสธอยู่แล้ว

“คุณควรจะโทรบอก ไม่ใช่พอมาคุยรายละเอียด ค่อยบอกว่าต้องการแบบนี้ เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมานะครับ ถ้าโทรบอกก็ไม่ต้องเสียเวลามา” คิลเลี่ยนเห็นท่าทางโปรดิวเซอร์แล้วอยากต่อยสักที

“น่าๆ เราเลี้ยงข้าวมื้อนี้แทนก็แล้วกัน” เฉินลู่บอกปัดๆ เพราะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว

“ทานไม่ลง กลับเถอะ มินต์ ขอบคุณที่ให้มาพบเพื่อปฏิเสธ แต่ถ้ามีคราวหน้า ปากแตกแน่” คิลเลี่ยนขู่แล้วตบโต๊ะเสียงดังลั่น ลากมินตราออกไปจากร้านทันที แล้วเดินออกมาอย่างหงุดหงิด เดินไปสักพักหิวก็หาร้านอาหารนั่งริมทะเล นิ่งเงียบแทน

“อย่าโกรธไปเลยค่ะ เราก็ไม่ได้ถามเขาให้ดี ถือเสียว่าพี่พามินต์มาเที่ยวผ่อนคลายจากหนังก็แล้วกันนะคะ” มินตราพูดเอาใจเขา เพราะหมดหนังเรื่องนี้แล้ว เธอก็ไม่มีงานอื่นอีกนอกจากงานออกแบบ

คิลเลี่ยนเห็นภรรยาอารมณ์ดีไม่คิดมากก็ใจเย็นลง “พี่กังวลน่ะ ไม่ค่อยมีงานแล้ว พี่เองก็ไม่มีรายได้ประจำเลย เงินเก็บก็กลัวว่าหมดไป พี่อยากเลี้ยงเมียพี่ได้”

“เอาเถอะค่ะ ตอนนี้มินต์ว่าเรามาเที่ยวให้พอ เรื่องอื่นกลับไปค่อยคิดนะคะ” มินตราแกะปูให้เขาแล้วทานด้วยกัน โดยพยายามไม่เครียดกับปัญหาในอนาคต

“ได้สิ” คิลเลี่ยนปล่อยวางไปก่อน ใจก็นึกหวั่นในสิ่งที่พูดออกไป เขากลัวว่าจะไม่สามารถเลี้ยงภรรยาได้อย่างที่แม่ยายเขาสบประมาทไว้

มินตราถ่ายภาพอาหารแล้วก็เขาที่ท่าเรือ ก่อนโพสต์ ‘สามีที่ดีที่สุด’

คิลเลี่ยนหัวเราะเพราะเธอติดป้ายชื่อเขามาด้วย แล้วก็คงต้องทำอย่างที่ภรรยาบอก คือเที่ยวให้สมกับที่เสียเงินมาแล้ว แทนที่จะเอาทุกข์ติดตามไปทุกที่ การมีภรรยามองโลกในแง่ดีก็ช่วยให้ความเครียดลดลงได้

**********************************

เมื่อหนังปิดกล้อง มินตราก็ต้องไปงานแสดงเพชรชุดที่เธอออกแบบ เธอก็ได้เจอนายเก่ากับคริสต์ที่งานนั้น แต่เธอถูกเรียกไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวคิดของเครื่องเพชรที่คนตื่นตาตื่นใจ

คิลเลี่ยนตามเธอมาออกงานด้วย ก็เลยเดินตามภรรยาอยู่ห่างๆ เขาเห็นวิคตอเรียมางานนี้ด้วยก็ต้องหาที่หลบ เพราะไม่อยากมีเรื่องกับใครอีก เขาเหนื่อยแล้วก็อยากจะพัก แต่วิคตอเรียก็เข้ามาคุยกับเขาจนได้

“เป็นไง ได้ข่าวว่าส่งเพลงไปทั่วเลยไม่ใช่เหรอ มีที่ไหนตอบรับบ้างล่ะ” วิคตอเรียพูดเยาะเย้ย ทำให้คิลเลี่ยนอ่านท่าทางเธอออก

“เธอทำอะไรลงไป” คิลเลี่ยนย้อนถาม ควาฒโกรธก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว

“ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ให้คำแนะนำบางที่เท่านั้น” วิคตอเรียก็มีเส้นสายไม่น้อย พอรู้ว่าเขาดิ้นรนเอาเพลงส่งไปหาตัวแทน เธอก็สกัดแต่แรก

“เธอนี่ เฮ้อ ช่างเถอะ” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาวแล้วไม่ต่อปากต่อคำกับเธอ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรอีก

วิคตอเรียเห็นเขาเงียบไม่ตอบคำ ก็ยื่นข้อเสนอให้เขา “กลับมาหาฉันสิ แล้วฉันจะช่วย”

คิลเลี่ยนมองหล่อนแล้วก็รังเกียจมากกว่าเดิม จึงไม่พูดด้วยอีกแล้วเดินไปหามินตราที่ว่างแล้ว

“หวังว่าเครื่องเพชรชุดนี้ เธอคงออกแบบหลังจากที่ออกไปจากร้านฉันแล้วนะ” คริสต์พูดขึ้น ย้ำเตือนให้เธอเข้าใจถึงข้อตกลงที่แม้ว่าจะออกไปแล้ว ถ้ามีการทำงานออกแบบของที่อื่นขณะที่ทำงานกับร้านบราวน์ไดม่อนล่ะก็ ถือว่าเธอทำผิดสัญญา

“ฉันรับงานหลังจากลาออกแล้วค่ะ” มินตราตอบอย่างสุภาพ พยายามไม่เอาเรื่องของคริสต์มาใส่ใจ “ไม่พบกันนานนะคะ คุณบราวน์”

“ยินดีด้วยที่ได้งานเสียทีนะ” คุณบราวน์รู้จักมินตรามากกว่าหลานชายและภรรยา แต่ไม่รู้เพราะอะไรภรรยากับหลานชายจึงไม่ชอบมินตรานัก เขาเสียดายมินตราเพราะเป็นนักออกแบบที่มีอนาคต

“ไม่ได้งานประจำค่ะ แต่ได้งานฟรีแลนซ์แทน เพราะฉันรับงานแสดงด้วยค่ะ ทางนี้เขาให้ค่าออกแบบแล้วก็ให้ส่วนแบ่งรายได้จากการขายงานชุดนี้ค่ะ” มินตราเล่าความตามจริง ยินดีที่นายเก่าไม่ได้โกรธเธอ บอกเล่าให้รับรู้ เพราะเธอให้ความนับถือคุณบราวน์อยู่นั่นเอง

“เสียดายนะ คุณเป็นนักออกแบบที่มีฝีมือ เสียดายที่มีคนไม่เห็นคุณค่าของคุณ” คุณบราวน์ว่ากระทบภรรยากับหลานชายเล็กน้อย ก่อนขอตัวไปเดินดูส่วนอื่นของงาน

“เหนื่อยไหม เมียจ๋า” คิลเลี่ยนถามภรรยาที่ยืนคอยตอบคำถาม

“ขอให้ขายได้ค่ะ ก็ไม่เหนื่อยแล้ว” มินตราบอกตามตรง ก่อนถามเขา “พ่อพี่ยังจะจ้างมินต์ออกแบบอยู่ไหม”

“มั้ง ไม่รู้สิ ไม่เห็นโทรมาหลายเดือนแล้ว มินต์ยังเหลืออีกงานไม่ใช่เหรอ” คิลเลี่ยนถามภรรยา ใจก็นึกไม่อยากให้ภรรยาเข้าไปยุ่งกับพ่อมากนัก เขากลัวว่าพ่อจะยึดเธอไว้ใกล้ตัว

“ก็ทำไปเยอะแล้วค่ะ มีลูกค้าเก่าหลายคน มาขอให้ออกแบบ นี่เพื่อนนักแสดงก็มาขอให้ออกแบบนะคะ มินต์ก็ขอเวลาหน่อย จะต้องจัดตารางกัน มินต์คิดๆ ดูแล้ว ช่วงที่มีลูก มินต์ก็จะได้ทำงานนี้เต็มตัว เราก็ยังมีรายได้” มินตราคิดเล็กไม่คิดใหญ่ ฝันใกล้เพราะกลัวว่าฝันไกลไปไม่ถึงแล้วจะผิดหวัง

คิลเลี่ยนหอมแก้มเธออย่างเอ็นดู เธอเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เขาเสียอีกที่ตอนนี้ไม่รู้อนาคตจะต้องมาดับเพราะคู่ขาเก่า จากนั้นก็คิดๆ ถ้าที่นี่ไม่มีใครต้องการเพลงของเขา เขาก็ต้องหาทางไปที่อื่นแทน

คิลเลี่ยนได้สติเพราะคิดถึงการใช้ชีวิตของภรรยา หล่อนไม่ดิ้นรนจนเกินไป แต่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะพยายามหาทางอื่นได้ตลอด หนทางมันมีอีกมาก เพียงแต่จะมองเห็นไหมเท่านั้น

**********************************

หนังปิดกล้องไปแล้วก็จริงๆ แต่ก็ต้องไปช่วยโปรโมทหนัง ระหว่างตัดต่อ ต้องไปฟังแผนงานต่างๆ มินตราถอนหายใจยาว หลังซื้อข้าวของไปเก็บที่รถ เธอตกใจมาก เพราะมีคนมาที่บ้านชนบทของเธอกับสามีเต็มไปหมด

“คลิปจริงหวังสร้างข่าวหรือเปล่าคะ” นักข่าวถาม ทำให้มินตราขมวดคิ้วงง

“อะไรเหรอคะ” มินตราทำหน้างุนงงหนักอย่างไม่รู้เรื่อง

“นี่คุณไม่รู้เรื่องเหรอ” นักข่าวเป็นงง

“ค่ะ ฉันต้องรู้เรื่องอะไรคะ” มินตราถามซ้ำอีกรอบ ขมวดคิ้วและหงุดหงิดมากขึ้น เมื่อโดนเซ้าซี้

“ก็มีคลิปคุณมีเซ็กซ์กับผู้ชายผิวสีสองคนพร้อมกันออกไปทั่ว คุณไม่รู้เหรอ” นักข่าวก็เอาไมค์จ่อปาก

มินตรารีบเอารถเข้าบ้าน แล้วก็งุนงง พวกนักข่าวจะกรูเข้ามา แต่มินตรารีบเข้าไปที่โรงจอดรถ แล้วขึ้นบ้านทันที ก่อนจะโทรเรียกตำรวจมาพานักข่าวออกไปจากบริเวณบ้าน

คิลเลี่ยนออกไปทำธุระ เธอจึงอยู่บ้านคนเดียว แต่ก็เป็นงง จึงรีบเข้าไปเช็คข่าวหน้าแฟนเพจ มีการพูดถึงแต่เธอยังไม่เห็นคลิป จึงถามผู้ดูแลเพื่อหาข่าว

‘อย่าดูเลยค่ะ มินต์ มันแย่มาก มันคือหนังโป๊เลย เราไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก’

‘นักข่าวมาเต็มหน้าบ้านเลย กำลังงงมาก พอมีลิงค์ให้ดูไหม’

‘จะดูจริงๆ เหรอ นี่ไง’

มินรากำลังดูตัวเองมีอะไรกับผ้ายผิวสีสองคน ทำหน้ายุ่งมีความสุข แต่มันไม่ใช่เธอ เพราะเธอไม่เคยทำแบบนั้น เธองุนงงหนัก แล้วก็ปิดเพราะรับไม่ได้ แค่สงสัยว่าทำไมต้องมีคนทำแบบนี้ เธอก็ร้องไห้อย่างเงียบๆ จนหลับไปในที่สุด

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
อุปสรรคเหมือนลมร้อน พัดมาแล้วก็พัดไปนะคะ
อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ
อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณคิมหันต์ - นางยังไม่เพลียง่ายๆ ค่ะ ต้องเจอดี
คุณใบบัวน่ารัก - เกิน 1 วันนะคะ มาถึงรีสอร์ท 1 วัน ไปเที่ยวน้ำตกอีก 1 วัน เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ 1 วัน ซื้อรถอีกวัน
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - *-* อิอิ ทางเดียวกันลุยค่ะ
คุณน้องแสตมป์ - ลูกได้เชื้อพ่อมาเยอะค่ะ ^^
คุณkonhin - สู้อุปสรรคกันต่อไปค่ะ (ไม่มีอุปสรรคเรื่องก็ไม่เกิดเนาะๆ)
พี่ตุ้งแช่ - ความโลภไม่เข้าใครออกใครค่า

คุณนอนดูดาว - อ่ะแน่นอนค่ะ รอยจูบพี่เครักษาได้ทุกอย่าง อิอิ

ป.ล. ขอล็อคการคอมเม้นในบล็อกแก๊งนะคะ
มีพวกมักง่ายเข้ามาก่อกวนเพื่อโฆษณาค่ะ
งั้นต่อไปใครจะคอมเม้นต้องล็อคอินนะคะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.พ. 2557, 21:33:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.พ. 2557, 21:33:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1936





<< Crying Villain ตอนที่ 8   Crying Villain ตอนที่ 10 >>
น้องแสตมป์ 25 ก.พ. 2557, 21:52:50 น.
ชีวิตมีแต่เรื่องตลอด ใครอยู่เบื้องหลังคลิปนี้ วิคตอเรียใช่มั้ย


konhin 25 ก.พ. 2557, 22:59:12 น.
คิดถึงเรื่องนักแสดงคนไทยที่ไปนอกคนนึงเลย โดนพ่อแม่สาดเสียซะแบบเนี้ย

คนไทยแปลความกตัญญูเป็นการให้พ่อแม่ทุกอย่าง ต้องส่งเสีย ต้องเลี้ยงดู ต้องเทิดทูญ ต้องๆๆๆๆ
แต่เราว่าทำอะไรมันต้องมีขอบเขต เหมือนกับความรัก ที่ต้องรักให้เป็นมากกว่า


ใบบัวน่ารัก 25 ก.พ. 2557, 23:28:30 น.
ม่ายๆๆๆๆๆๆ แค่นี้ก็ซ้ำเติมกันจัง. ไปประเทศอื่นเถอะ
ที่ถามไปนะ ฉากโดนตบมันเป็นวันเดียวกับที่ไปขนของออกจากบ้านน่ะ
รู้สึกเศร้าๆๆใจจัง


Pat 25 ก.พ. 2557, 23:41:49 น.
อุปสรรคคือการเรียนรู้เพื่อจะก้าวข้ามไป สู้ๆเน้อ


นักอ่านเหนียวหนึบ 26 ก.พ. 2557, 00:17:34 น.
โว๊ะ นิทานเรืาองนี้สอนให้รู้ว่า ไม่มีใครดีบริสุทธิ์ และก็ไม่มีใครเลวววววสนิทเหมือนกัน เห้อ มินต์พี่เค สู้ๆ นะ


คิมหันตุ์ 26 ก.พ. 2557, 00:45:13 น.
มีคลิปแบบนี้คุณสามีโกรธแย่


ตุ๊งแช่ 26 ก.พ. 2557, 08:17:16 น.
มินต์ต้องปกป้องตัวเองมากขึ้นแล้ว แคร์คนอื่นน้อยลงอีกก แต่แคร์พี่เคเยอะๆน๊าา


ร้อยวจี 26 ก.พ. 2557, 08:51:15 น.
น่าสงสารค่ะ น่าจะมีการเอาคืนคนที่จ้องจะทำลายเพื่อเป็นบทเรียนบ้าง
ปล.คิดถึงอันธอนกับฝ้ายค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account