นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 8

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 8

ผ้าห่มถูกสะบัดทิ้งไปทางไหนไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าเมื่อได้พัก มินตราก็รู้สึกหนาว จึงค่อยๆ ควานหาผ้าห่ม เมื่อครู่เธอกรีดร้องเสียงดัง เพราะสุขสมจนยากบรรยายออกมาเป็นคำพูด แต่พอมีสติก็อายที่ส่งเสียงดังอย่างนั้น

เมื่อคว้าผ้าห่มได้ เธอก็ดึงมาห่มตัว รู้สึกเหนียวๆที่ช่วงล่างแต่ก็สุดจะรู้ว่าอะไร ได้กลิ่นคาวเล็กน้อยก็คาดว่าน่าจะเหมือนที่เพื่อนๆ พูดกัน ครั้งแรกมันมีเลือดออกเสมอ และมันคงผสมกับของเหลวที่ไหลออกมาจากร่างกายราวกับน้ำจะไหลออกหมดตัว

เธอเหนื่อยอ่อนพอประมาณ ไม่รู้ว่าคิลเลี่ยนยืดเวลานานแค่ไหน เธอรู้แต่ว่าเมื่อเขาถึงปลายทาง เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านไปหลายครั้ง เมื่อจะลุกไปหยิบน้ำดื่มในตู้เย็น เธอก็รู้สึกถึงน้ำหนักที่ไม่อาจควบคุมจึงลงไปนั่งกับพื้นทั้งอย่างนั้น

คิลเลี่ยนได้ยินก็ลุกขึ้นมอง เห็นเงารางๆ นั่งที่พื้นก็หัวเราะนิดๆ ทั้งที่รู้ว่าเพราะฝีมือเขา “ลงไปทำอะไรที่พื้นน่ะ”

มินตราถอนหายใจก่อนตอบอย่างอายๆ “จะเดินไปหยิบน้ำค่ะ คอแห้งมากแต่ขาอ่อนไปหมด”

เขาฟังอย่างนั้นก็หัวเราะ ต้องโทษที่เขาดึงเวลายาวนาน ทำให้เธอหมดแรงได้ง่ายๆ จึงลุกทั้งที่เปลือย “เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้ ขึ้นมานอนบนเตียงไหวไหม”

มินตราแอบค้อนเขา ก็ฝีมือเขาที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ แล้วก็มองไปทางอื่น เพราะแสงสลัวทำให้มองเห็นเขาเดินเปลือยไปที่ตู้เย็น เขาเปิดตู้เย็น เธอก็ตกใจ แล้วมองไปทางอื่น ใครจะคิดว่าเขาไม่กลัวอายแบบนี้

คิลเลี่ยนหันมาเห็นเธอเอาผ้าห่มปิดร่างกายก็ไม่คิดมาก รินน้ำดื่มใส่แก้วแล้วเอามาส่งให้ ทั้งยังเอาน้ำทั้งขวดมาด้วย

มินตราดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว และดื่มไม่หยุด พอหมดแก้วก็ขอเขาเพิ่มอีก คิลเลี่ยนก็เทส่งให้ ตัวเขาดื่มจากขวดเลย เพราะเขาก็เสียน้ำไม่น้อย เมื่อดื่มจนพอมินตราก็ถามเขา “กี่โมงแล้วคะ”

“สี่โมงเย็นแล้วล่ะ” คิลเลี่ยนบอกเพราะเขาเป็นคนเปิดดูนาฬิกา

มินตราจำได้ว่าพวกเขาเข้าห้องมาตอนเที่ยง และยังไม่ได้นอนเลย ก็นึกอายขึ้นมา

“น่า พี่ไม่ได้ทำมานาน ก็อดอยากเป็นธรรมดา อย่าไปคิดมาก เดินไหวไหม เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน” คิลเลี่ยนจะชวนเธอออกไปข้างนอก แม้จะรู้สึกว่าสภาพเธอคงไม่ไหว

มินตราส่ายหน้าช้าๆ ก่อนตอบ “ไม่ไหวหรอกค่ะ ขนาดจะเดินไปหยิบน้ำยังไม่ไหวเลย นี่ตาก็จะปิดแล้วนะคะ”

“งั้นพี่จะสั่งอาหารขึ้นมาทานกันข้างบน ดีเหมือนกัน พี่จะเก็บแรงไว้ คืนนี้เราจะได้ปลดปล่อยให้เต็มที่ จะได้หลับสบายไงจ๊ะ ที่รัก” คิลเลี่ยนพูดตบท้าย แล้วก็โทรไปสั่งอาหาร ให้เอาขึ้นมาส่งประมาณหนึ่งทุ่ม

มินตราแอบถอนหายใจ ว่าเขาคงจะทำเกมรักอีกนาน เธอจึงนอนลงแล้วหันหลังให้ หวั่นใจเล็กน้อย

“มินต์ทำแวกซ์ข้างล่างอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ” คิลเลี่ยนถามอย่างสงสัย สังเกตมานานแล้วแต่ไม่ถาม ในใจก็นึกรู้อยู่บ้าง เพราะเวลาสวมชุดว่ายน้ำไม่เคยเห็นมีอะไรโผล่ออกมา

มินตราได้ฟังก็หัวเราะแล้วก็ตอบตามตรง “ใช่ค่ะ ก็ชุดเต้นบางทีมันก็เว้าขาสูงนี่คะ เพื่อนที่อังกฤษแหละค่ะพาไป ไม่งั้นเขาว่าต้องมาคอยเก็บไม่ให้แพลมออกมา ทีนี้มินต์ก็เลยหัดทำเองจนเป็น เพราะไปจ้างเขาทำมันแพงค่ะ”

คิลเลี่ยนฟังเธออธิบายแล้วก็หัวเราะแล้วพูดอย่างไม่จริงจังนัก “นั่นสินะ พี่ก็นึกกลัวจะแว็กซ์เผื่อคนอื่น”

มินตราเอาหมอนฟาดเขาอย่างงอนๆ “พี่เคนี่บ้าที่สุด”

“โอ๋ๆ พี่ขอโทษ พี่พูดเล่น พี่รู้จักมินต์ดี และที่สำคัญพี่รู้จักสาวบริสุทธิ์ดี” คิบลเลี่ยนก็ถูกเธอตีเข้าให้อย่างอายๆ จากนั้นเขาก็รวมมือเธอมากอด แล้วปลอบ “คนดีของพี่ พักหน่อยนะจ๊ะ นอนนะ พักผ่อนเยอะๆ”

มินตราก็หยุดเพราะเหนื่อย จึงนอนหันหลังให้เขา คิลเลี่ยนเข้ามาสวมกอดแล้วปล่อยให้เธอหลับในอ้อมเขนอย่างอบอุ่น ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่อบอุ่น แต่ใจเขาก็เป็นสุขและอบอุ่นด้วยเช่นกัน

**********************************

ช่วงสายของวันที่สอง มินตรายังไม่รู้สึกว่าได้หลับอย่างเต็มที่ แต่คิลเลี่ยนก็ลากเธอออกจากห้องแล้วไปขึ้นรถเช่าพาไปน้ำตก ก่อนไปเขาถามหาร้านอาหารดีๆ แล้วก็เดินทาง

มินตรามองบรรยากาศแล้วชวนง่วงจริงจัง เขาแวะทานอาหารที่ร้าน ซึ่งทางรีสอร์ตแนะนำก่อน จากนั้นก็มองมินตราเดินลงรถอย่างไร้วิญญาณ แล้วดูเหมือนการมาเที่ยว หล่อนจะง่วงตลอดเวลา

“เมื่อคืนก็ไม่ได้ดึกสักหน่อย” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็อมยิ้ม

“ตีสองเนี่ยนะคะไม่ดึก มินต์ยังอยากนอนอยู่เลยค่ะ” มินตราถอนหายใจยาว เพราะยังง่วงอยู่เลย

คิลเลี่ยนเชยคางเธอมองหวานซึ้ง แล้วจูบเบาๆ ที่ริมฝีปาก “ก็พี่มีความสุขที่ได้แนบชิดกับเมียพี่นี่นา”

มินตราเขินๆ แล้วปล่อยเขาเอาใจ เพราะตอนนี้เหมือนถูกสูบพลังวิญญาณไปเกือบหมด ยอมรับว่าหลงใหลเขามานาน ตอนนี้เขาอยากได้อะไรก็พร้อมจะให้หมด ไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงจะติดใจเขา

“สดชื่นหน่อยนะจ๊ะ” คิลเลี่ยนรู้สึกผิดที่ทำให้เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เขาก็ห่างเรื่องพวกนี้มาเป็นปี ครั้งสุดท้ายก็กับวิคตอเรียตอนนั้นเท่านั้น ที่เหลือเขาก็ขจัดความต้องการด้วยการออกกำลังกายแทน

เขารู้สึกโชคดีกับชีวิตเซ็กซ์แสนอันตรายของเขา เพราะก่อนกลับเมืองไทย เขาไปตรวจเลือดอย่างละเอียดไม่พบโรคร้ายใดๆ และเพราะรู้จักป้องกัน เขาจึงปลอดภัย หากต่อไปนี้คงใช้ชีวิตอันตรายแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะเขามีครอบครัวที่ต้องดูแล

พอทานเสร็จมินตราค่อยสดชื่นขึ้นมาอีกนิด ได้ดื่มน้ำอัดลมก็พอไหวขึ้น คาดว่าร่างกายคงขาดน้ำตาลทำให้ไม่ค่อยสดชื่นเท่าไรนัก เมื่อเขาพาเธอไปเที่ยวน้ำตก เธอก็ค่อยๆ เดินไปขึ้นดูความสวยงามทีละขั้น แต่อากาศยังคงเย็นอยู่ แต่ก็เรียกว่าเริ่มร้อนแล้ว เพราะฤดูร้อนมาเร็วกว่าปกติ

คิลเลี่ยนถ่ายภาพเธอกับเขาแล้วโพสต์ลงหน้าไทม์ไลน์ของเขา โดยติดป้ายชื่อเธอเข้าไปด้วย ทำให้มีแฟนคลับเข้ามากดไลค์กันให้เยอะแยะ เพราะทางผู้ดูแลเพจก็แชร์ทันที

ตอนหลังที่มินตราเข้าไปติดต่อกับทางแฟนเพจ ทำให้แฟนคลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น และด้วยนิสัยมีน้ำใจของมินตรา แฟนคลับก็ยิ่งปลื้มมากขึ้นไปอีก

เขากับเธอตัดสินใจไม่เล่นน้ำ แต่ก็นั่งพักฟังเสียงน้ำตกอย่างเพลิดเพลิน คิลเลี่ยนนั่งที่หินก้อนหนึ่ง มินตรานั่งข้างๆ แล้วซบอกเขา ให้เขาโอบไหล่ สักพักมินตราก็วางคางที่เข่าของเขา มองสายน้ำอย่างสงบ

“พี่เคคิดเรื่องแต่งเพลงหรือยังไงคะ” มินตราถามขึ้นแล้วไม่ได้มองเขา ไม่อยากคาดคั้นเขาเอาคำตอบ เพียงแต่ถามไปตามเรื่องเท่านั้น

“คิดไว้บ้างแล้วล่ะ ตั้งใจว่าซื้อบ้านแล้วก็จะซื้อเปียโนมาตั้งไว้สักตัว มาคราวหน้าเราจะได้พักกันเยอะๆ หน่อย” คิลเลี่ยนสั่งแกรนด์เปียโนเข้าบ้านแล้ว

เมื่อเขาไม่ต้องจ่ายเงินซื้อบ้าน เขาก็มีเงินพอจะซื้อแกรนด์เปียโนราคาแพงเข้าบ้าน เพื่อฝึกซ้อม แต่เขาก็สั่งทำห้องเก็บเสียง เพราะไม่ต้องการรบกวนมินตราเวลาอยู่บ้าน

จริงๆ บ้านราคาสิบกว่าล้านที่พ่อเขาซื้อให้ก็ใช่ว่าจะใหญ่โตนัก แต่เพราะจุดที่เลือกใกล้สโมสร ทำให้ดูแลได้สะดวกมาก เขากับมินตรากำลังคิดว่าจะเปิดใช้แค่ห้องนอนกับห้องรับแขกเท่านั้น และจะปรับปรุงหนึ่งห้องไว้ให้คิลเลี่ยนซ้อมเปียโนและแต่งเพลง ให้เขาทำเป็นห้องอัดไปเลย ห้องนอนอีกสี่ห้องชั้นบนเขาตั้งใจปิดไว้

“มินต์พอจะขอให้บูมมาช่วยดูห้องที่ตกแต่งใหม่ได้ไหม” คิลเลี่ยนไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับที่บ้านเขา แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนแล้ว จะโทษเขาระแวงมากก็ไม่ได้ ประสบการณ์ในวัยเด็กทำให้เขาไม่สามารถไว้ใจครอบครัวฝั่งเขาจริงๆ

“มินต์อาจจะให้บูมมาอยู่ช่วงที่เราไม่อยู่ค่ะ แล้วจ้างแม่บ้านรายอาทิตย์เอา ให้บูมใช้ครัวทำขนม ยังไงที่บ้านพ่อแม่ก็แคบอยู่แล้ว แต่มินต์ก็กลัวว่าที่บ้านมินต์จะแอบเข้ามาอยู่น่ะสิคะ บ้านหลังนี้พ่อพี่ซื้อให้พี่ ถึงจะมีชื่อมินต์อยู่ด้วย แต่มินต์ไม่อยากให้ที่บ้านมินต์มายุ่งวุ่นวาย” มินตราคิดไว้หลายอย่าง ที่ผ่านมายังไม่ได้คุยกับเขาจริงจัง เพราะวุ่นวายมาก

พ่อของคิลเลี่ยนทำเรื่องให้คิลเลี่ยนลงทุนในประเทศ ตามกฎหมายสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้ไม่เกินสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของเนื้อที่บ้าน มินตราจึงถือครองกรรมสิทธิ์ที่ห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเธอกับเขาต่างก็ไม่อยากรู้เรื่องหรือวุ่นวายด้วย เอาเป็นว่าพ่อของคิลเลี่ยนจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วก็พอ

“ก็ลองคุยกับบูมดู มินต์เปิดบัญชีไว้ด้วยแล้วกัน ให้เขาหักค่าน้ำค่าไฟผ่านธนาคาร จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องโอนเงิน แล้วค่าส่วนกลาง ให้เขาเมลทวงมาแล้วมินต์ก็โอนออนไลน์แทน บูมจะได้ไม่ต้องลำบาก” คิลเลี่ยนพยายามเดินทางสายกลาง

“ค่าส่วนกลาง บูมไม่มีปัญญาจ่ายหรอกค่ะ” มินตราพูดแล้วก็หัวเราะ เธอยังไม่แน่ว่าจะมีเงินจ่ายไปตลอดไหม เพราะไม่ได้รับงานเยอะอย่างนั้น

“พอเสร็จทุกอย่างแล้ว มินต์เคลียร์งานสักพักแล้วมีลูกให้พี่สักคนนะ” คิลเลี่ยนพูดขึ้น เขาเป็นคนดูแลตารางงานให้เธอในช่วงนี้ จึงพยายามจัดหาช่องให้ตัวเอง

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ มินต์ยังมีงานออกแบบอีก มินต์ลงตารางไว้แล้วค่ะ เพราะมันจะต้องทันงานแฟชั่นฤดูร้อน” มินตรากับคิลเลี่ยนต่างก็ดูตารางงานไปด้วยกัน

“ดีแล้วล่ะ พี่ว่าจะหาเวลาว่างแต่งเพลงเหมือนกัน แต่ช่วงนี้ต้องหาแรงบันดาลใจก่อนนะ” คิลเลี่ยนโอบไหล่เธอแล้วช่วยกันพยุงลุกขึ้น “กลับกันเถอะ พี่ไม่อยากขับรถลงเขาตอนค่ำๆ เพราะเราไม่คุ้นทาง”

มินตราพยักหน้าช้าๆ แล้วเดินลงไปกับเขา ก่อนออกมา เขาสั่งอาหารเย็นไว้แล้ว พรุ่งนี้ก็จะเข้าไปค้างในตัวเมืองหนึ่งคืน เพราะไม่อยากฉุกละหุกไปขึ้นเครื่องไม่ทัน

**********************************

วันที่สามคิลเลี่ยนพามินตราออกมาเช็คเอาท์เพื่อไปพักในตัวเมือง หากเธอยังคงเพลียๆ อยู่ จึงนั่งรอแล้วปล่อยให้เขาทำทุกอย่างแทนหมด สักพักเขาก็เข้ามาช่วยพยุงอย่างขำๆ รู้สึกผิดนิดๆ ที่ทำให้เธอเหนื่อยอ่อนอย่างนี้

“พี่ขอโทษนะ” คิลเลี่ยนพูดไปอย่างนั้น แต่เขาอมยิ้มตลอดเวลา ทำไมต้องสำนึกผิดที่ได้ทำรักกับภรรยา

“ไม่คิดว่าที่พี่บอกว่าอดอยาก จะมากอย่างนี้” มินตรากลับมาจากน้ำตกก็ว่าเหนื่อยแล้ว มาเจอกิจกรรมตอนกลางคืนของเขา แทบจะไม่ได้หลับได้นอนเลย

“น่าเดี๋ยวเวลาเราย้ายเข้าบ้าน ก็ไปนอนเสียให้พอ” คิลเลี่ยนพูดไปอย่างนั้นเอง ถ้าเขาต้องการ ก็พร้อมจะกวนใจเธอ และรู้ว่าเธอก็เต็มใจอนุญาต

“ค่ะๆ” มินตรารออยู่พัก รถก็มาจอด ของขนขึ้นรถแล้ว เขากับเธอก็เดินทางเข้าเมืองไปพักที่โรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่ ตั้งใจว่าคืนนี้จะออกไปเที่ยวตามตลาดกลางคืนของเชียงใหม่ หลังจากสอบถามพนักงานจนมั่นใจแล้ว

เมื่อเข้าห้องได้แล้ว มินตราก็นอนพักจนกระทั่งบ่ายถึงตื่นเพราะหิว คิลเลี่ยนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ผ่านแท็ปเล็ตของเขา เงยหน้าขึ้นเห็นมินตราลุกขึ้นนั่งก็พ่นลมหายใจขำ เพราะภรรยาเขาหมดมาดนักแสดงสาวคนสวยไปเลยทีเดียว ยิ่งขำกว่าเดิมเมื่อเธอเอนหลังนอนต่ออย่างเกียจคร้าน

“ไม่หิวหรือยังไง” คิลเลี่ยนถามเมื่อเห็นเธอนอนได้นอนดี จะว่าไปมินตราก็ไม่ใช่คนไม่แข็งแรง แต่ทำไมดูอยากจะนอนพักเอามากก็ไม่รู้เหมือนกัน

“หิวมากที่สุดค่ะ” มินตราบอกแล้วเอามือก่ายหน้าผาก ก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา ตั้งใจว่าเสร็จแล้วค่อยโทรไปสั่งของกินขึ้นมา แต่เขาโทรให้เสร็จแล้ว เธอก็มานั่งรอ ดื่มน้ำมากๆ หน่อย เพราะตอนเย็นเขาจะพาไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน

คิลเลี่ยนมองเธอทานจนเสร็จแล้วก็พาไปเดินเล่น มองแสงไฟยามค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ แล้วก็ถอนหายใจยาว เพราะเมืองแห่งนี้ ยิ่งดึกแสงไฟยิ่งน้อยลง ความเงียบเข้ามาเยือนเร็ว แตกต่างจากเมืองกรุง ทั้งที่นึกว่าแสงสีจะมากมายกว่านี้

“ไม่ไปเที่ยวตามผับเหรอคะ” มินตราถามเห็นเขาเหมือนจะชะงักๆ ไป

“มินต์อยากไปเหรอ” คิลเลี่ยนถามด้วยความแปลกใจ

“ไม่ค่ะ มินต์ไม่ชอบเที่ยวแบบนั้นอยู่แล้ว” มินตราไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แต่ที่ถามเพราะเห็นเขาเคยเที่ยว “ถ้างั้นเรากลับกันไหมคะ”

คิลเลี่ยนดึงเธอมากอด มินตราร่างสูงระหงส์คาดว่าคงเพราะได้เชื้อมาจากพ่อ พ่อของมินตราสูงว่าค่าเฉลี่ยชายไทยมาก และน้องๆ ก็ได้สิ่งนี้มาเช่นกัน ทำให้ทั้งสามคนสูงเด่น แต่บุคลิกแต่ละคนก็ผิดกันมาก

“เรามาเที่ยวกันนะ ไม่ได้มานอน คิดแต่จะชวนพี่กลับไปนอนหรือยังไง” คิลเลี่ยนพูดติดตลก

“ก็นะคะ ไม่มีอะไรให้เที่ยวแล้วนี่คะ เนี่ยตลาดก็วายแล้ว ไม่กลับก็ไม่รู้จะไปไหนนี่คะ” มินตราพูดตามประสาซื่อ

“นั่นสินะ” คิลเลี่ยนปล่อยเธอจากอ้อมแขน แล้วพาเดินไปเรียกรถสองแถวสีแดง เพื่อกลับโรงแรม ตอนนี้เขาเบื่อหน่ายชีวิตเดิม อยากลองใช้ชีวิตที่น่าเบื่อบ้าง และมันคงไม่น่าเบื่อไปกว่าที่เคย

เมื่อเข้าห้องแล้ว คิลเลี่ยนก็มองมินตราเดินไปเดินมาจัดการตัวเอง ก่อนพูดขึ้น “รู้ไหม ถ้ามินต์เที่ยวเก่งกว่านี้ อาจจะมีงานแสดงมากขึ้น”

มินตราหันมามองแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “อบายมุขมันไม่ช่วยให้เราเจริญขึ้นหรอกค่ะ เที่ยวกลางคืนมีแต่จะฉุดให้เราเข้าหาหนทางที่เสื่อมลง มินต์รู้ว่าวงการนี้ต้องดื่มเหล้าเที่ยวกลางคืน มินต์ก็ไปนะคะ แต่ไปแค่แปบเดียว คุยงานแล้วก็กลับ มินต์ไม่ดื่มมาก แค่แตะที่ริมฝากปากแล้วแอบเททิ้ง พอเห็นว่าคนอื่นเริ่มเมา มินต์ก็ขอตัวกลับ บอกซ้อมบทบ้างอะไรบ้าง คนจะได้เข้าใจไปกันเอง”

“ฉลาดนะ เรา” คิลเลี่ยนชมแล้วก็ยิ้มเอ็นดู เชยคางเธอแล้วจูบให้ชื่นใจ มินตราก็ให้ความแล้วยิ้มให้ เป็นที่ส่วนตัวแบบนี้เธอก็ยินดีให้เขาแสดงความรักเต็มที่

“ครูสอนลีลาศสอนน่ะค่ะ เมื่อก่อนไปกับพี่โชติแหละค่ะ คนนั้นชอบเที่ยว มินต์ว่ามันเสียสุขภาพ แต่มินต์ต้องคอยขับรถไปส่งพี่โชติที่ที่พัก แล้วมินต์ก็ขับกลับบ้าน คงอย่างนี้มั้งคะ พี่โชติถึงไม่เลิกตั้งแต่ตอนนั้น เก็บไว้ใช้งาน” มินตราพูดแล้วก็หัวเราะ หากเป็นตอนเลิกใหม่ๆ เธอคงขำไม่ออก

คิลเลี่ยนก็สวมกอดจากด้านหลัง ก่อนกระซิบ “พี่ว่าเพราะมันไม่เคยได้ใกล้ชิดมินต์อย่างพี่มากกว่า เห็นมันอย่างนั้น มันบ้ามินต์น่าดู”

“บ่าน่าพี่เค” มินตราส่ายหน้าช้าๆ เมื่อเขาจับสะโพก เธอก็หันไปตี “อาบน้ำก่อนนะคะ ตัวเหนียวจะตาย”

“รู้แล้วน่า ไปอาบด้วยกันเถอะนะ ห้องอาบน้ำออกกว้าง อย่าอิดออด” คิลเลี่ยนอุ้มเธอแล้วพาเข้าห้องน้ำ

เสียงหัวเราะก็ดังอย่างมีความสุข มินตรารู้สึกเหมือนมาฮันนีมูนหลังแต่งงานใหม่ ถึงจะแต่งงานกันมาสามปีแล้วก็ตาม หากเวลานี้เธอกับเขาเหมือนข้าวใหม่ปลามัน ทุกอย่างสดชื่นรื่นรมย์

**********************************

สนามบินนานาชาติดูวุ่นวายเสมอ มินตรากับคิลเลี่ยนเดินลงจากเครื่องแล้วก็ลากกระเป๋าไปที่จอดรถ บังเอิญคิลเลี่ยนถูกผู้หญิงคนหนึ่งชนเข้า เขาก็หันไปขอโทษ

“คุณคิลเลี่ยน อ้าว มินต์” ศนิทักทายทั้งสองคนเหมือนบังเอิญมาเจอกัน แต่จริงๆ แล้วเธอตั้งใจชนคิลเลี่ยน และรู้ว่ามินตราลงจากเครื่องเมื่อไร

“ศนิ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอตัวก่อนนะ” มินตราทักทายสั้นๆ แล้วตัดบท ไม่อยากคุยกับอดีตเพื่อนให้เสียอารมณ์

“เพื่อนๆ ในกลุ่มคุยกันว่าจะนัดเจอกัน มีเบอร์ไหมล่ะ มินต์” ศนิรีบยื้อเพื่อนไว้ เพราะอยากสานมิตรภาพไว้ ตอนนี้เพื่อนมีชื่อเสียงคบได้ไม่อายใคร

“เต็มมีเบอร์เรา เดี๋ยวให้เขาโทรนัดเราก็แล้วกัน” มินตราพยายามจะแยกจากเพื่อนตัวแสบ

“ขอเบอร์เธอให้เราหน่อยสิ” ศนิก็พยายามตื้อเอาเบอร์โทรให้ได้ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายยังโกรธอยู่

“เราไม่มีเบอร์ที่เมืองไทยหรอกนะ มีอะไรเฟสไปก็แล้วกัน เราไม่เคยบล็อกเธอ” มินตราตอบแล้วพยายามที่จะแยกจากศนิให้เร็วที่สุด “ขอโทษทีนะ ฉันจะรีบไปดูบ้านกับสามีฉัน มีอะไรเฟสไปแล้วกัน ไว้เจอกัน”

มินตราโบกมือลาแล้วก็ถูกคิลเลี่ยนลากไปที่รถ

ศนิได้แต่มองตาม ไม่อยากเชื่อว่ามินตราจะดังได้อย่างนี้ ตอนนั้นเธอตัดสินใจเร็วไปหน่อย จึงไม่สนใจมินตราอีก ไม่รู้ว่ามินตราได้ไปถ่ายหนังที่เมืองนอก และเริ่มมีแฟนคลับที่เมืองไทยด้วย ยังมารู้ทีหลังว่าสามีของมินตราเป็นลูกไฮโซ ถึงจะเป็นแค่ลูกเมียน้อย แต่ก็เห็นอยู่ว่าพ่อเขายกย่องเป็นลูกออกหน้าออกตา

ระหว่างขับรถ คิลเลี่ยนก็มีสายเข้า จึงส่งให้มินตราเปิดลำโพง “ครับ พ่อ”

“นี่แกอยู่ไหนแล้วเนี่ย” สมเจตน์ถามลูกชาย

“กรุงเทพแล้ว กำลังจะเข้าบ้านใหม่ที่พ่อซื้อให้ไง” คิลเลี่ยนบอกแล้วก็ขับรถไปเรื่อยๆ

“เออดี เดี๋ยวฉันจะส่งเลขาฯ กับฝ่ายประชาสัมพันธ์ไปคุยกับแกแล้วก็มินต์ จะได้ไปดูโลเคชั่นด้วย” สมเจตน์บอกเพราะเป็นวันธรรมดา เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใช้เลขาเขา

“แล้วส่งเลขาฯ พ่อมาทำไมล่ะครับ” คิลเลี่ยนเป็นงง เพราะรู้ว่าจะใช้บ้านเขาถ่ายแบบ

“เลขาฯ ฉันจะไปคุยเรื่องทำบุญบ้านแล้วก็งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่” สมเจตน์บอก ก่อนตัดบทวางสาย “แค่นี้แหละ ไปคุยกันเอาเอง”

คิลเลี่ยนทำหน้าเซ็ง เพราะพ่อเขาไม่เปิดโอกาสให้เขาปฏิเสธ รถติดอยู่พักใหญ่ กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปเป็นชั่วโมง คิลเลี่ยนลงไปไขประตูรั้ว แล้วขับรถ จากนั้นก็ลงมาปิดประตูรั้ว แล้วขับไปจอด

เขามองบ้านหลังใหญ่ บริเวณกว้างราคาสิบกว่าล้านที่พ่อซื้อให้ รู้ว่าระหว่างเขากับมินตราไปเที่ยว พ่อให้คนมาทำความสะอาดแล้ว พร้อมเข้าอยู่ในวันนี้

คิลเลี่ยนเอากระเป๋าลงจากรถ เดินเข้าไปเปิดไฟฟ้ากับน้ำในบ้าน ตอนนี้อะไรๆ เขาก็ต้องทำเองหมด ส่วนมินตราก็เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บด้านบน บ้านสะอาดจนเธอไม่ต้องทำอะไรเลย แต่อีกไม่กี่วันเธอต้องกลับอังกฤษแล้วนึกไปก็ใจหาย

มินตราถอนหายใจ แต่งานที่รับไว้รออยู่ เมื่อคิลเลี่ยนขึ้นมาถึงห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน เขาเห็นเธอนั่งที่เก้าอี้ปลายเตียง ท่าทางห่อเหี่ยวก็นึกสงสัย

“เป็นอะไรเหรอ มินต์” คิลเลี่ยนนั่งที่ข้างๆ ภรรยา โอบไหล่เธอให้สบายใจ

“ใจหายนี่คะ เพิ่งได้เข้ามาอยู่บ้านไม่กี่วันต้องกลับอังกฤษอีกแล้ว” มินตรานึกอยากอยู่บ้านใหม่ที่เธอเพิ่งมี อยู่นานๆ แล้วค่อยกลับ

“ต้องไปจัดการซื้อบ้านใหม่อีกหลังนี่เมียจ๋า ไว้ไปพักที่บ้านใหม่นะจ๊ะ” คิลเลี่ยนพูดเอาใจภรรยาสาวของเขา รู้สึกกระชุ่มกระชวย ได้พลังใจจากกิจกรรมที่แสนคิดถึง

มินตราได้ยินเขาพูดหวานก็อดหัวเราะไม่ได้ “อะไรกันคะ”

“พี่ว่าระหว่างรอสาวๆ ของพ่อพี่มา เรามาฉลองเข้าบ้านใหม่ดีกว่าไหมจ๊ะ” คิลเลี่ยนพูดจาจ๊ะจ๋าใส่มินตราแล้วมือก็ไม่หยุดแค่ที่ขาเธอ กลับไปพยายามปลดกระโปรงเธอออกมากกว่า

“เดี๋ยวเขาก็มากันแล้วนะคะ พี่เค” มินตราพยายามปัดป้อง

“อย่าขัดขืนสิ เดี๋ยวเสร็จไม่ทันนะ ร่วมมือหน่อยรับรองทันจ๊ะ” คิลเลี่ยนจูบปิดปากมินตรา แล้วจัดการสิ่งที่เขาถนัด เล้าโลมเธอนิดเดียวก็เหมือนน้ำมันเจอไฟ เครื่องติดได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา เพราะเขากระตุ้นมาตลอด

มินตราได้แต่ตามใจเขา...เมื่อเธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มที่

**********************************

สายตาของเขามองบ้านหลังโตของพี่สาวอย่างแปลกใจ เขากดกริ่งหน้าบ้านเพราะพี่สาวเรียกให้มาพบที่นี่ สักพักคิลเลี่ยนก็เดินออกมาแล้วเปิดประตูรั้วให้เขา

“ยังไม่ได้ทำประตูรีโมทน่ะ เขาว่าจะทำให้ตอนที่พี่ไม่อยู่ เข้ามาสิ” คิลเลี่ยนบอกแทนภรรยาที่นั่งอยู่ในบ้าน และทำงานของเธอออยู่

“สวัสดีครับ พี่” บรรพ์รีบยกมือไหว้ แล้วพาแฟนมาด้วย รีบบอกแฟนสาว “ปูไหว้พี่เขยเราสิ”

“สวัสดีค่ะ” ปูยกมือไหว้ตาม แล้วมองบ้านหลังใหญ่ของพี่สาวแฟนก็ตื่นตาตื่นใจ

“อืมๆ เข้าไปในบ้านก่อนเถอะ” คิลเลี่ยนบอกแล้วพาน้องเมียเข้าบ้าน มินตราเก็บคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้วก็รับไหว้น้องชาย มองหญิงสาวที่มากับน้องชายอย่างแปลกใจ จนกระทั่งน้องชายแนะนำ

“อ๋อ คืองี้นะ พี่กับพี่เคต้องกลับอังกฤษวันมะรืน ทีนี้จะมีคนเข้ามาทำห้องดนตรีของพี่เคเขา พี่อยากให้บูมเข้ามานอนที่บ้านนี้ แล้วก็อยู่ช่วงที่ช่างมาทำงานด้วย พอได้ไหม” มินตราถามน้องชายเข้าเรื่องทันที เห็นน้องชายทำหน้าแปลกใจปนดีใจก็รู้ว่าน้องต้องอึดอัดแค่ไหน

“เอาจริงเหรอพี่” บรรพ์มองพี่อย่างประหลาดใจ แอบดีใจมากๆ ที่ได้ออกมาจากบ้านเสียที ไม่ต้องอึดอัดกับท่าทีของแม่และคู่แฝด

“แต่มีข้อแม้ ห้ามพาใครมานอนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้แต่พ่อแม่ พี่จะให้บูมนอนที่เรือนรับรองแขกหลังเล็ก แต่ไม่ใช่ห้องคนงานนะ เป็นบ้านชั้นเดียวที่อยู่ด้านข้าง เห็นแล้วใช่ไหม” มินตราถามน้องชายให้แน่ใจ แม้น้องชายจะพยักหน้าเพราะเห็นตอนเดินเข้ามา

“จริงเหรอครับ ดีจังเลย” บรรพ์ยิ้มกับปู เพราะจะได้มีที่ของตัวเอง

“ครัวพี่ให้ใช้ได้ จะทำขนมเท่าไรก็ทำไป แต่ต้องดูแลความสะอาดด้วย วันอังคารจะมีแม่บ้านมาดูแลความสะอาด ให้ทำเฉพาะห้องที่บูมใช้ก็พอ เรื่องค่าแรงไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่โอนมาให้” มินตราบอกตามที่ตกลงกับคิลเลี่ยนไว้

“จริงเหรอพี่ แต่ผมไม่มีรถน่ะสิ จะเข้าจะออกลำบากนะ ยังต้องขนขนมไปอีก ปกติเอารถจักรยานยนต์ของพ่อไป ถ้ามาอยู่นี่ คงเอารถพ่อมาใช้ไม่ได้หรอก ไอ้บอมด่าตาย” บรรพ์ถอนหายใจยาว จะเอาขนมขึ้นแท็กซี่ไปส่งก็ไม่ไหว ค่าแท็กซี่แพงอีก

“ไม่ต้องกังวล พี่จะซื้อรถทิ้งไว้คันหนึ่ง บูมเอาไปใช้แล้วเติมน้ำมันเองแล้วกัน พี่ขออย่างเดียว อย่าทำให้บ้านพี่เละเทะ เพราะเมื่อพี่กลับมา พี่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม” คิลเลี่ยนบอกน้องเมียให้เข้าใจ ว่าเขาไม่ชอบให้ใครเอาบ้านเขาไปใช้ส่วนตัวจนเสียหาย

“พี่เคครับ ผมไม่คิดจะทำแบบนั้นหรอก บ้านพี่ก็คือบ้านพี่ ผมแค่ใช้พื้นที่ที่พี่อนุญาตให้ผมใช้เท่านั้น” บรรพ์ให้คำสัญญา ตรงจุดนี้เขาเหมือนพี่สาว เขาไม่มีทางละลาบละล้วง ใช้สิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาตแน่นอน

“ดีเลย มีใบขับขี่ไหม” คิลเลี่ยนถามเพราะไม่อยากให้มีปัญหาหากเขาอยู่ที่เมืองนอก

“ยังไม่มีครับ” บรรพ์บอกตามตรง เขาก็พอขับได้แต่ยังไม่มีเวลาไปสอบใบขับขี่เท่านั้น

“แต่ปูมีค่ะ” ปูบอกตามตรง เพราะเธอช่วยแฟนทำขนมแล้วไปช่วยขายมานานแล้ว บ้านเธอก็ใช่ว่าจะร่ำรวยนัก แต่มีรถยนต์เก่าๆ คันหนึ่ง แล้วก็ทำใบขับขี่ไว้

“ดีเลย ตามนั้นก็แล้วกัน” คิลเลี่ยนเป็นคนพูดไม่ยาก ก็จบเรื่องง่ายๆ

“มาพี่จะพาไปดูห้องต่างๆ แล้วบ่ายพี่กับพี่เคจะไปซื้อรถ จะให้ไปส่งไหม” มินตราถาม แล้วพาน้องชายไปดูเรือนหลังเล็ก ที่กว้างขวางและมีห้องน้ำหนึ่งห้อง

ในห้องติดม่านบังสายตา ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์มากนัก แต่มินตรามองว่าหาเข้ามาใส่ได้ไม่ยาก เฟอร์นิเจอร์สำเร็จหาง่าย ออกไปซื้อแล้วก็สั่งมาส่ง

“นี่คือที่พักนะ มีห้องเล็กสำหรับเป็นตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำก็กว้างกว่าห้องน้ำที่บ้านเราอีก ตั้งเตียงแล้วก็ตั้งเก้าอี้ได้อีกนะ คือพี่ไม่อยากให้บูมขึ้นไปยุ่งกับชั้นสอง บ้านหลังนี้พ่อพี่เคซื้อให้เขา ถึงจะมีชื่อพี่ด้วย แต่มันก็ไม่ใช่เงินที่พี่ซื้อเอง บูมเข้าใจพี่ใช่ไหม” มินตราพูดกับน้องชายให้เข้าใจ ไม่อยากให้มีปัญหาอะไรอีกในเวลานี้

“ผมพาปูมาค้างที่นี่ได้ไหม” บรรพ์ถามให้แน่ใจก่อน

“ถ้าค้างที่เรือนหลังนี้ บูมพามาได้ ขออย่างเดียวปูต้องไม่ไปวุ่นวายที่ตัวบ้านนอกเหนือจากในครัว พี่เคเขาไม่ชอบให้ใครวุ่นวาย ตอนพี่อยู่อังกฤษกับเขา พี่ไม่เคยวิจารณ์อะไรของเขา วิถีชีวิตหรืออะไร พี่ขอให้น้องๆ เคารพพื้นที่ของเขาให้มากๆ เราจะได้อยู่ด้วยกันได้” มินตราเกรงใจคิลเลี่ยนมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นสามีภรรยาที่สมบูรณ์แล้ว แต่เธอก็รู้จักความเป็นส่วนตัวของเขามากพอ

“พี่เขาเป็นลูกเมียน้อยของไฮโซจริงๆ เหรอพี่” บรรพ์กล้าถามเพราะพี่เขยไม่อยู่ตรงนี้

“ใช่ แต่อย่าเรียกว่าเมียน้อยเลย แม่พี่เคเขาไม่รู้เรื่อง พอเขารู้ เขาก็พาพี่เคมาเมืองไทยแล้ว เอาล่ะอย่าพูดเรื่องพี่เคเลยนะ ถ้าพี่หาเงินได้อีกก้อน พี่จะเอามาช่วยเรา ถ้าเราอยากจะทำขนมขายเป็นชิ้นเป็นอัน” มินตราบอกน้องชาย และอยากสนับสนุนน้องชายอย่างเต็มที่

“พี่พูดจริงหรือเปล่า” บรรพ์ยิ้มดีใจ เขาชอบทำขนมอยู่แล้ว จะยึดเป็นอาชีพเลี้ยงตัวก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เดี๋ยวนี้ก็นิยมทำร้านกาแฟกัน เขาก็อยากจะมีร้านแบบนั้นบ้าง แต่ต้องดูที่ทำเลอีกด้วย ซึ่งยิ่งดีเท่าไร ก็ยิ่งแพง เขาไม่หวังสูง แต่มีทุนทำของว่างใส่กล่องส่งตามงานต่างๆ ได้มากขึ้นก็ถือว่าโชคดีมาก

“บูมอย่าเพิ่งดีใจ พี่บอกตามตรงนะ บูม งานแสดงของพี่ พี่เป็นแค่ตัวประกอบ งานก่อนหน้านี้ พี่ก็เอาเงินไปใช้หนี้หมด คิดว่าเป็นนักแสดงที่อังกฤษเงินมากนักเหรอ งานแรกพี่ได้เงินไม่ถึงห้าแสน ก็เอาเงินไปใช้หนี้หมด บูมอย่าไปฟังแม่มากนัก ฟังจากพี่ พี่ไม่ใช่ได้เงินเป็นล้านหรอกนะ แล้วพี่ก็ไม่ได้แสดงหนังตลอดทั้งปี แม่คิดไปเองทั้งนั้น” มินตราเปิดใจให้น้องชายเข้าใจ หลังจากที่ไม่ได้เล่าหรืออธิบายเลย

“อ๋อ พ่อพี่เคเลยซื้อบ้านให้เหรอครับ” บรรพ์ก็เดาไปเรื่อยๆ ขณะที่ปูก็รับข้อมูลมาเหมือนกัน ก็นึกเห็นใจมินตราอยู่ไม่น้อย พี่สาวของคนรักถือว่าเป็นคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง

“พี่อยากมีบ้านที่เมืองไทย พี่เคเขาก็จะซื้อ ตอนแรกตั้งใจว่า ซื้อราคาไม่แพง ไม่เกินห้าล้านเพราะไม่อยากผ่อน พี่ก็ไม่มีเวลามาผ่อนด้วย เพราะพี่มีงานอื่นที่ต้องทำอีก ทีนี้พ่อพี่เคเขารู้ เขาก็เลยรวมเงินกับปู่ย่า ให้เป็นมรดกกับพี่เค พี่เคเขาก็ได้แค่นี้แหละบูม” มินตราอธิบายความให้น้องชายเข้าใจ ไม่อยากให้คิดผิดๆ แบบแม่

“เข้าใจแล้วครับพี่” บรรพ์เป็นคนเข้าใจง่าย และไม่โลภมาก ไม่ถึงกับมีคุณธรรมสูง แต่ก็มีความดีเฉกเช่นคนธรรมดาก็เพียงพอแล้ว

“เอาล่ะ ไปดูครัวกันนะ แต่พี่ว่าบูมต้องสะดวกมากกว่าที่บ้านแน่ๆ เพราะเจ้าของโครงการเขาแต่งเอาใจฝรั่งด้วยน่ะ ครัวจึงมีตู้อบขนมฝรั่ง เข้ามาใช้ได้หมด แต่ต้องปิดครัวให้เรียบร้อย ก่อนออกจากห้องครัว ที่นี่มีหัวฉีดดับเพลิงทุกห้อง เพราะงั้นระวังด้วย ในบ้านมีกล้องวงจรปิดหลายจุด ส่วนมากจะเป็นที่มุมชายคา สามารถเก็บภาพได้ทั่ว พ่อพี่เคเขาจัดการไว้ให้ สัญญาณภาพจะเข้าไปที่ศูนย์กลาง แล้วก็ลิงค์ไปที่พ่อพี่เคเขาน่ะ ถ้ามีเหตุอะไรเกิดขึ้น” มินตราอธิบายความ เผื่อมีปัญหา กลัวว่าคนเข้าใจผิดคิดว่าบ้านไม่มีคนขโมยเข้าง่าย ถึงหมู่บ้านจะมีระบบรักษาความปลอดภัยดีก็เถอะ

“พ่อพี่เคเขาจัดการหมดเลยแหระครับ” บรรพ์ถามอีกรอบ รู้สึกทึ่งในความรอบคอบของพ่อสามีของพี่สาวเอามาก

“ใช่ พี่เคเขาบอกพ่อเขาแล้วให้บูมมานอนเฝ้าบ้านนะ” มินตรานึกว่าน้องชายกลัวโดนจับข้อหาบุกรุก

“อ๋อครับ วันไหนผมไปเรียนก็สบายใจหน่อย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเข้ามาขโมยของ” บรรพ์บอกแล้วก็ยิ้ม จากนั้นก็ถาม “พี่จะให้ผมเข้ามาอยู่เมื่อไร”

“บูมคิดว่าสะดวกเมื่อไร พี่กับพี่เคจะไปซื้อรถแล้ววันนี้แหละ ซื้อสดเลย แต่จะได้เมื่อไรไม่รู้ พี่เคเขาจะเอารถพ่อเขามาให้ใช้ก่อน แต่พี่ไม่อยากให้ใช้เลย รถเขาแพงไป พี่กลัวว่าเราน่ะจะทำเสียหาย รอจนรถมาได้ไหม รถคันนี้ที่เช่ามา พี่เคเขาเช่าไว้เดือนนึง ก็ใช้ไปก่อน” มินตราบอกแล้วให้น้องชายเอาเบอร์โทรสำหรับเรียกบริษัทให้เช่ามาเอารถคืน พร้อมกำชับว่าต้องเอาเงินประกันมาก่อน ถึงจะปล่อยรถไป ส่วนเงินประกัน คิลเลี่ยนให้ไว้ใช้

มินตราอธิบายหลายอย่างให้น้องชายเข้าใจแล้วก็พากลับไปที่ห้องนั่งเล่น รอจนได้เวลาก็ไปซื้อรถ ถ้ารถราคาถูกหน่อยก็ต้องใช้เวลา มินตราจึงพาน้องชายกับแฟนไปด้วย เพราะทั้งสองว่างกันอยู่แล้ว

**********************************

เมื่อไปถึงศูนย์เพื่อซื้อรถ คิลเลี่ยนก็หงุดหงิด เพราะรู้สึกว่าพนักงานขายไม่อยากขายเท่าไร เขาจึงโทรไปหาพ่อ “ผมอยากได้รถ แต่พนักงานไม่อยากขาย ผมซื้อสดทำไมไม่อยากขาย”

สมเจตน์ส่ายหน้าช้าๆ เพราะลูกชายไม่เข้าใจระบบของเมืองไทยเท่าไร ก็อธิบายไปตามเรื่องเพื่อตัดปัญหา “เออ แกจะเอารุ่นไหนยังไง เดี๋ยวบอกเลขาฯ ฉัน เขาจะติดต่อเซลล์ให้ แค่นี้ใช่ไหม แกยังอยากได้อะไรอีกไหมวะ”

“ไม่ครับ” คิลเลี่ยนตอบพ่อแล้วพ่อเขาก็เรียกเลขาฯ บอกให้โทรหาลูกชาย เขาก็แค่บอกขอบคุณพ่อแล้วรอสายจากเลขาฯ พ่อ สักพักเลขาฯ พ่อเขาก็โทรมา เขาก็บอกลักษณะรถที่อยากได้ แล้วเลขาฯ พ่อเขาก็จัดการให้

“ไปกัน มินต์ เราไปดูที่อื่นกัน” คิลเลี่ยนขับรถออกแล้วพาทั้งหมดไปที่ศูนย์รถยนต์ยี่ห้ออื่น แล้วก็มีพนักงานขายเข้ามาต้อนรับอย่างดี

“ผมว่ารถรุ่นนี้เหมาะกับความต้องการของคุณเพียร์ซนะครับ” พนักงานขายพาไปดูรถครอบครัวขนาดใหญ่ มีคนโทรมาบอกให้ต้อนรับอย่างดี เขาก็รีบเข้ามาต้อนรับ ไม่อยากเสียลูกค้าที่ช่วยเขาทำยอดอยู่บ่อยๆ

“ผมจ่ายเงินสด คุณมีปัญหาไหม จริงๆ ผมอยากได้รถภายในสองวันเลย แต่ได้ยินว่าต้องจองนาน ผมจะให้น้องเมียผมมารับรถแทน” คิลเลี่ยนบอกหลังดูรถจนพอใจแล้วทั้งยังสั่งติดตั้งและตั้งศูนย์ทันทีที่มีของ เขาต้องการรถที่มีความปลอดภัย จึงสั่งศูนย์เช็คละเอียดชนิดว่าไม่ให้มีข้อผิดพลาด

“ซื้อรถสปอร์ตไม่เห็นจะลำบากเท่าซื้อรถเงินสดที่เมืองไทยเลย” คิลเลี่ยนพูดขึ้นเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย

ดีที่ทางศูนย์ใหญ่แห่งนี้มีรถ ผู้จัดการรับรองอย่างดี ไม่เหมือนอีกที่ แต่สิ่งที่คิลเลี่ยนสั่ง ต้องใช้เวลาในการทำพอสมควร คิลเลี่ยนไม่คิดมาก ให้ทางศูนย์ทำเรื่องค่าใช้จ่ายมา เขาต้องการทุกอย่างที่ดีและปลอดภัย รถคันนี้เขาซื้อให้มินตรา ดังนั้นต้องมั่นใจว่าเธอจะไม่ได้รับอันตราย แม้เกิดอุบัติเหตุก็ตาม

“เอาจริงเหรอคะ” มินตราหวั่นๆ เมื่อเขาบอกซื้อให้เธอ

“จริงสิ พี่มีรถสปอร์ตอยู่แล้ว ที่เมืองไทยก็ชื่อมินต์ไปเลย อย่าคิดมากสิ” คิลเลี่ยนบอกแล้วก็ขับพามินตรากับน้องๆ ไปขนของออกมาจากบ้าน หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว

“พี่เคใจดีจังเลยครับ” บรรพ์พูดขึ้น รู้สึกชอบพี่เขยอีกเป้นกอง ความคิดร้ายๆ ที่แม่พยายามใส่หัวหายไปมาก พี่เขยไม่ใช่คนที่พยายามจะเกาะพี่สาวเสียหน่อย แค่ดูเรื่องความปลอดภัยก็รู้แล้วว่าพี่เขยหวังดีกับพี่สาวมาก

“พี่ใจดีด้วยก็อย่าได้ใจล่ะ พี่ไม่ชอบคนที่ฉวยโอกาส” คิลเลี่ยนพูดดักคอตามตรง เขาถือว่าเขาไม่สนิทกับบูมมาก รู้แต่ว่ามินตราไว้ใจน้องชายคนนี้มากกว่าใคร แต่เขาไม่จำเป็นต้องไว้ใจด้วย

บรรพ์รับคำ เมื่อรถเลี้ยวเข้าบ้าน เขาก็ลงไปเปิดประตูบ้านให้พี่เขย เมตตากลับมาถึงบ้านแล้วก็ออกมาดู เห็นลูกชายก็มองรถอีกที เห็นมินตรากับคิลเลี่ยนลงจากรถก็ออกมาต้อนรับ

“มาเที่ยวบ้านเหรอ มินต์” เมตตายิ้มให้ลูกสาวกับลูกเขย ดีใจเพราะนึกว่าลูกสาวคงให้อภัยแล้ว

“เปล่าค่ะ มินต์มาเก็บของ” มินตราไหว้พ่อพร้อมคิลเลี่ยน แล้วขอตัวไปเก็บของมาใส่รถ

“เก็บของทำไมลูก” เมตตาเป็นงง แล้วเดินตามลูกสาว

“พี่มินต์เขามีบ้านอยู่แล้ว เขาก็จะมาเก็บของของเขาไปไว้ที่บ้านจะพ่อ” บรรพ์บอกพ่อ แล้วก็บอกเรื่องของตัวเองด้วย “ผมก็จะย้ายไปอยู่บ้านพี่มินต์ พี่มินต์เขาให้เฝ้าบ้านให้ ตอนเขาไปอังกฤษ เขาเลยจะให้บูมไปอยู่ด้วยเลย” บรรพ์บอกพ่อแล้วขอเข้าไปเก็บของ

“เออ เอาสิ ดูแลบ้านพี่เขาดีๆ อย่าพาเพื่อนไปมั่วสุมล่ะ” เมตตาเตือนลูกชายที่เข้าไปเก็บของ ไม่ห้ามปราม เพราะลูกทำดีกับพี่สาวก็ดีใจ

บรรพ์เดินผ่านแม่ไปพร้อมพี่สาว ทำให้บุษบาต้องเดินตาม แล้วมองลูกๆ เก็บของอย่างงุนงง “พวกแกทำอะไร”

“ผมจะย้ายไปอยู่กับพี่มินต์น่ะ แม่” บรรพ์บอกแล้วก็รีบเก็บของใส่ถุงง่ายๆ

“ย้ายวันนี้เลยเหรอ บูม” มินตราเป็นงง ที่น้องชายตัดสวินใจย้ายตามไปวันนี้เลย

“วันนี้แหละพี่ ฤกษ์ดี ฤกษ์สะดวก ที่นอนไม่มีก็ไม่เป็นไร แค่ได้นอนก็พอ” บูมจับยัดๆ แล้วช่วยพี่สาวขนกล่องของพี่สาวไปใส่ไว้ท้ายรถ ของเขาก็แค่เอาเสื้อผ้ากับหนังสือเรียนไปยัดก่อน

คิลเลี่ยนมองน้องเมียแล้วก็ส่ายหน้าช้าๆ สงสัยอยากจะไปจากบ้านนี้มานานแล้ว เขาก็ไม่ขัด ยังไงก็ต้องอาศัยไหว้วานกันอีกนาน จึงปล่อยให้ทำตามใจไปเลย

“ไว้ไปยกเตียงที่แถมมากับบ้านข้างบน มาไว้นอนก็ได้นะ” เขาบอกน้องเมียทำให้น้องเมียยิ่งขยันมากขึ้น

“นี่มันอะไร แกทำอะไรน่ะ ไอ้มินต์” บุษบาสงสัยมากขึ้น ขณะที่บอมออกมาแล้วก็งงด้วย

“มินต์ให้บูมไปนอนเฝ้าบ้านให้มินกับพี่เคค่ะ” มินตราบอกแม่แล้วถอนหายใจยาว ขี้เกียจอธิบายให้มากความ ไม่อยากเสียใจเพราะคำพูดของแม่อีก

“แกให้น้องแกไปนอน แต่ไม่ให้พ่อแม่ไปอยู่ด้วยเหรอ” บุษบาได้ยินแล้วก็โกรธมาก เข้าใจผิดคิดว่าลูกสาวซื้อบ้านให้สามีอยู่ แล้วปล่อยให้ตนกับสามีอยู่อย่างซ่อมซ่อ

“ทำไมต้องไปอยู่คะ ก็พ่อแม่ก็มีบ้านแล้วนี่” มินตราถามแม่อย่างสงสัย ก่อนถูกแม่ตบหน้าทำให้ตกใจมากกว่าเดิม

“นังลูกอกตัญญู ซื้อบ้านก็ไม่ให้พ่อแม่ไปอยู่ แกกะจะเอาไว้ปรนเปรอผัวแกใช่ไหม เสียแรงที่ดูแลแกมา” บุษบาก็ร้องไห้โวยวายใหญ่ ฟูมฟายมากมายจนน่าเกลียด

มินตราตะลึงไม่คิดว่าจะโดนแม่ตบ พอเงยหน้าอีกทีแทบเป็นลม จนคิลเลี่ยนต้องพยุง ทำให้คิลเลี่ยนโกรธจัดแล้วไม่สนใจผู้ใหญ่ฝ่ายเธออีก

“บูม ปู ไปขึ้นรถ ถ้าไม่ไป พี่จะไปแล้วนะ” คิลเลี่ยนพาภรรยาไปขึ้นรถ อุ้มวางที่ด้านข้างคนขับได้ก็ไม่สนใจอะไรอีก

บรรพ์หันมาทางแม่แล้วขมวดคิ้ว ถามอย่างงงและโกรธ “แม่ตบพี่มินต์ทำไม แม่บ้าไปแล้วเหรอ ผมไปดีกว่า แม่บ้าไปแล้ว”

บรรพ์ไม่รอให้แม่เข้ามาตบก็ไปขึ้นรถ ของก็เก็บพอประมาณ วันหลังเขาค่อยมาเก็บอีกก็ได้ ตอนนี้พี่เขยคงโกรธจัดที่อยู่ๆ แม่ก็ตบพี่สาวเขา แม้แต่เขาก็งงว่าทำไมแม่ต้องโกรธ บ้านก็บ้านพี่ แม่ก็บ้านอยู่แล้ว อยากไปอยู่บ้านพี่เขาทำไม

มินตรานั่งเงียบบนรถไม่พูดอะไร คิลเลี่ยนก็เช่นกัน ทำให้ทั้งปูทั้งบรรพ์อึดอัด แม้จะผ่านไปนานเป็นชั่วโมง ก็ไม่มีใครพูดอะไร จนคิลเลี่ยนถึงหน้าบ้านก็บอกให้บรรพ์ไปเปิดประตูรั้ว

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
ขอบคุณที่ดูแลห่วงใยใส่ใจกันมานาน
แม้ไม่ใช่นิยายที่ภาษาสวยที่สุด
แต่ก็หวังว่าคงอยู่ในใจใครหลายคนบ้างนะคะ
ดราม่า...คือ...ทางของเพลิงวารี
ยังไงก็คงไม่ไปจากตรงนี้มากค่ะ ^^
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณkonhin - อิอิ รักเมียค่า
คุณน้องแสตมป์ - จิ้นว่าเป็นน้องมินต์ใช่ไหมคะ อิอิ
คุณใบบัวน่ารัก - อ๋อ ไม่เหมือนหรอกค่ะ พ่อมินต์เขาเนี่ยไม่ค่อยอะไร แม่มินต์สิวุ่นวาย
คุณคิมหันต์ - จัดไปค่า ^^
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - หมอนขาดแล้วค่า ^^

คุณนอนดูดาว - ข้างนอกมันหนาวค่ะ ออกไปก็แข็งตายพอดีค่า หุหุ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.พ. 2557, 13:47:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.พ. 2557, 13:47:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 2034





<< Crying Villain ตอนที่ 7   Crying Villain ตอนที่ 9 >>
คิมหันตุ์ 23 ก.พ. 2557, 15:48:54 น.
- -* แม่ของมิ้นต์ นี่ เพลียบ้างไหม !!


ใบบัวน่ารัก 23 ก.พ. 2557, 18:59:27 น.
เลือดลมร้อนแรง
จะมาแรงมากที่โดนแม่ตบ
เข้าใจว่าแม่อยากสบายแล้วแม่ก็เข้าใจผิด
เหตุการไปเร็วจบเร็วภายใน1 วัน งง ๆๆ น่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 23 ก.พ. 2557, 19:42:43 น.
เค้าชอบความคิดพระ นางคู่นี้นะ
รู้สึกมันใช่อะ กับสภาพสังคมปัจจุบัน
อินด้เคือทางของเค้า คิๆๆๆ


น้องแสตมป์ 23 ก.พ. 2557, 20:07:06 น.
แม่มินต์นี่มีตรรกะของชีวิตแปลกๆนะ เอาแต่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีลูกดีๆ ตั้ง 2คน


konhin 24 ก.พ. 2557, 00:44:10 น.
หวานซ้าาาาา เอาน่า อุปสรรคชีวิต


ตุ๊งแช่ 24 ก.พ. 2557, 08:22:20 น.
คนเราเนอะ กับลูกนี่ยังโลภอีก กรรมจริงๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account