บ่วงนฤมิต พิมพ์คำ ตีพิมพ์
ละครที่รับเล่น บทประพันธุ์เรื่องเยี่ยมที่เป็นตำนานเล่าขาน ทำให้ขวัญอุมากังขาถึงเงื่อนงำบางอย่าง ยิ่งสืบยิ่งค้นก็ยิ่งเห็นว่ามีบางอย่างปิดปกติ
Tags: บ่วง ลินิน

ตอน: ตอนที่ 4 100%

ขวัญอุมาพูดคุยกับภารดีต่ออีกหลายประโยคจึงเอ่ยขอตัว เนื้อเย็นเห็นว่าแขกออกไปแล้วจึงเดินมาหาลูกสาวแล้วเอ่ยถาม
“คุณดาราเขามาทำไมเหรอ”
“มาหาหนังสือคุณพ่อ อยากได้ไปทำไมไม่รู้นะคะ ท่าทางอยากได้มากซะด้วย”
“แม่ว่าเขาดูแปลกๆ ถ้าไม่ใช่ดาราละก็ต้องคิดว่ามาดูลาดเลาบ้านเราแน่ๆ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เขาคงอยากได้ไว้อ่านเพราะแสดงเรื่องนี้ อาจจะอ่านบทไม่เข้าใจเลยอยากมาถามคุณพ่อ เขาคงทุ่มเทกับงานนี้มาก” ภารดีคาดเดาเนื้อเย็นก็คล้อยตามเพราะไม่มีเหตุผลอะไรมาขัดแย้งได้ดีไปกว่านี้

กานติมาพร้อมด้วยพระยาสารประดิษฐ์มาตามคำเชิญของบ้านรมย์ฤดีเพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ปฐมาออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าแย้มยิ้มยินดีตาก็กวาดมองหาผู้หญิงที่ตัวเองหมายมั่นปั้นมืออยากจะได้เป็นลูกสะใภ้ เมื่อไม่พบจึงเอ่ยปากหลังยกมือไหว้ทักทายสามีของเพื่อนรุ่นน้อง
“หนูแขละจ๊ะ ไม่มาด้วยหรือ”
“กนกแขไม่สบายค่ะ ดิฉันเองก็คงอยู่คุยด้วยได้ไม่นานเพราะเป็นห่วงลูก” กานติมาออกตัว ปฐมาเองก็พลอยเป็นห่วงไปด้วย
“เป็นอะไรไปจ๊ะ เป็นมากหรือเปล่า”
“ไม่มากหรอกค่ะ ก็…ปวดท้องของผู้หญิง” กานติมาบอกขึ้นปฐมาจึงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่เสียดายที่วันนี้ลูกชายเธอกับกนกแขจะไม่ได้พบกัน
เถอะ…บ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้ วันหลังก็คงได้เจอกัน
“มาเถอะจ้ะ อาหารเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว เฮ้อ…เสียดายที่เด็กๆ จะไม่ได้พบกัน” สตรีสองวัยผู้สนิทสนมชิดเชื้อกันราวกับรู้จักกันนานปีเดินจูงกันเข้าไปในห้องอาหาร พันตรีปพน รมย์ฤดี ออกมาต้อนรับขับสู้ผู้สูงด้วยวัยและมากด้วยศักดิ์กว่าอย่างพระยาสารประดิษฐ์แล้วเชื้อเชิญอีกคน
“ปภาคิน วรดามากราบเจ้าคุณกับน้ากานต์ก่อนลูก” ปฐมาส่งสียงเรียกสองพี่น้องจึงผละจากการเลือกเพลงใส่ในเครื่องเสียงประกอบการทานอาหาร เป็นเพลงท่วงทำนองแปลกหูที่ปภาคินได้มาจากต่างประเทศ แต่ฟังแล้วก็รื่นหูสำหรับคนวัยอย่างเจ้าคุณจนต้องเอ่ยปาก
“เพลงเพราะดีจริงๆ”
สองพี่น้องไหว้นอบน้อม และเจ้าคุณก็จงใจจับตามองชายหนุ่มเป็นพิเศษ บุรุษหนุ่มอนาคตไกล ยังหนุ่มแน่นและได้ยินว่าจบหมอจากอังกฤษ ไม่เป็นทหารตามพ่อ
ปภาคินเป็นคนหนุ่มรูปร่างสูง ใบหน้าออกเหลี่ยมผิวสองสี ดวงตาสีนิลเข้มรับกันได้ดีกับสีผมมะฮอกกานี ดวงตากลมลึกรวมกับชั้นพับตาสองชั้นทำให้บุคลิกดูเป็นคนขี้เล่น ฉายแววอารมณ์ดีอยู่เป็นนิตย์ ดูสำรวยสำอางอยู่ไม่น้อย ท่าทางแบบนี้เองเล่าถึงไม่ชอบเป็นทหารเหมือนพ่อ
“ได้ยินคุณพ่อเล่าถึงเจ้าคุณกับคุณน้ากานต์ให้ฟังอยู่บ่อยๆ ครับ” ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงให้ ริมฝีปากสีอ่อนคลี่ยิ้มนอบน้อมก่อนผายมือไปยังเครื่องเสียง “จังหวะเร็วๆ แบบนี้คงพอฟังได้นะครับ”
“ตามสบายเลยพ่อคุณ หน่วยก้านน่าชม น่าอิจฉาตระกูลรมย์ฤดีที่มีลูกชายเอาไว้สืบสกุล แต่ฉันสิมีแต่ลูกสาวรู้อย่างนี้มีนังเล็กๆ ซักคนสองคน” พระยาสารประดิษฐ์เอ่ยทีเล่นทีจริงผู้เป็นภรรยาจึงค้อนขวับ
“ถ้าอยากมีก็ยังไม่สายหรอกนะคะเจ้าคุณ”
“โธ่…แม่กานต์ ถ้าท่านเจ้าคุณจะทำจริงคงไม่พูดต่อหน้าเธอหรอกจ้ะ” ปฐมาปิดปากหัวเราะเมื่อเห็นเพื่อนรุ่นน้องทำสีหน้าน้อยอกน้อยใจผู้เป็นสามี
“ว่าได้หรือคะคุณพี่ ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย”
“ผมไปเรียนที่โน่นได้วิชาหนึ่งมาครับคุณน้ากานต์” ปภาคินแทรกขึ้นขณะเดินนำไปยังโต๊ะอาหารแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ กิริยาทุกอย่างที่ปฏิบัติต่อสตรีเป็นสุภาพบุรุษเต็มขั้นยิ่งทำให้กานติมาชื่นชม
“วิชาอะไรจ๊ะ น่าสนใจ”
“ดูโหงวเฮ้งคนครับ เท่าที่ผมดูลักษณะท่าทางอย่างท่านเจ้าคุณไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ดอกครับ รักเดียวใจเดียว” ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มทั้งปากทั้งตา
กานติมาค้อนให้ได้ยินแค่เสียงหัวเราะร่าของผู้เป็นสามี
“ผู้ชายก็เข้าข้างกันแบบนี้เสมอแหละ”
“ฮะๆ พ่อหนุ่มนี่ช่างถูกใจฉันจริง น่าอิจฉาเหลือเกินที่มีลูกชายน่ารักอย่างนี้” ท่านเจ้าคุณเจอคนมาก็มาก มีลูกชายเพื่อนที่รับราชการด้วยกันหรือแม้แต่ข้าราชการรุ่นใหม่ๆ สนใจในตัวกนกแขก็มากทว่าไม่เคยเลยที่จะถูกใจใครเหมือนอย่างนี้
“อิจฉาก็รับไปเป็นลูกชายเสียอีกคนซิคะท่าน รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง” ปฐมาเริ่มกรุยทาง พระยาสารประดิษฐ์ก็สนองรับแต่โดยดี
“เข้าที”
“คุณพี่ว่าอย่างไรคะ” กานติมาแสร้งหันมาถามทั้งที่รู้กันดีอยู่แล้วกับเพื่อนรุ่นพี่ สตรีทั้งสองพูดคุยทีเล่นทีจริงมาก่อนหน้านี้แล้วว่าอยากให้ลูกสาวลูกชายเกี่ยวดองกัน กานติมานั้นไม่ได้รู้ระแคะระคายเลยว่ากนกแขได้ผูกสมัครรักใคร่อยู่กับครูหนุ่มมานานนับปี
“เรื่องแบบนี้มันก็ต้องถามคนกลางว่าเขาจะอยากมาเป็นลูกชายเราหรือเปล่า” พระยาสารประดิษฐ์เปิดทางให้ทว่าคนกลางอย่างปภาคินแสร้งไม่รู้เท่าทัน ไม่ยอมเดินข้ามสะพานโรยด้วยกลีบกุหลาบที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทอดมาให้ เพียงแค่ยิ้มในหน้า ยิ้มที่ไม่มีใครดูออกว่าแท้จริงแล้วคิดอย่างไร
“ได้ยินมาว่าเจ้าคุณอามีลูกสาวคนหนึ่งอายุน่าจะมากกว่าน้องเล็กไม่กี่ปี วันนี้ไม่มาด้วยหรือครับ” ปภาคินปล่อยให้ความเงียบควบคุมสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยถามเพราะหากไม่ถามอะไรออกไปเสียเลยก็เกรงจะเสียมารยาทมากเกินไป
เมื่อคืนนี้วรดาแอบเข้ามากระซิบให้รู้ตัว
“พรุ่งนี้เล็กคงได้พี่สะใภ้” น้องสาวตัวดีของเขาถือวิสาสะขึ้นมานอนอ่านหนังสือเล่นบนเตียงของพี่ชายกลิ้งตัวไปหลายรอบจึงเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว
“มีได้อย่างไร พี่ไม่ได้พกแหม่มที่ไหนกลับมานี่คะ” ชายหนุ่มทอดเสียงอ่อน ยามพูดจากับน้องสาวหรือผู้หญิงมักลงท้ายอ่อนหวานเช่นนี้เสมอ หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ชวนฝันที่หากใครเห็นเป็นต้องหลงเคลิบเคลิ้มทว่าเขายังไม่พบใครที่ถูกใจ อาจมีบ้างที่คบหากันกับผู้หญิงต่างชาติคนสองคนในระหว่างศึกษาต่อแต่ไม่ได้คิดจริงจัง เธอเหล่านั้นก็คบหาเขาเป็นแค่เพื่อนเล่นแก้เหงาเช่นเดียวกัน
“ไม่ได้พกมานั่นล่ะค่ะ เลยต้องมาเอาที่นี่”
“หืม เล็กนี่พูดจามีลับลมคมใน เฉลยให้พี่เข้าใจหน่อยได้ไหมคะ”
“ตอนที่พี่ใหญ่ไปอังกฤษใหม่ๆ เขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ ตอนแรกคุณแม่ยังไม่ทันสนิทกับคุณน้ากานต์แต่ตอนนี้คุณแม่กับคุณน้าสนิทสนมกันอย่างกับเป็นพี่น้องคลานตามกันออกมาแหนะค่ะ”
“แล้วยังไงคะ? พี่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ ขยับแว่นสายตาให้เข้าที่เพื่อมองสีหน้าทะเล้นของน้องสาวคนสวยให้ชัดๆ อดไม่ไหวที่จะจับศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยผมสีเข้มนั้นโยกไปมา
“ก็คุณน้ามีลูกสาวคนหนึ่ง สวยด้วยนะคะ ชื่อกนกแข มาที่บ้านเราบ่อยๆ แต่เล็กไม่ค่อยได้คุยกับเธอหรอกค่ะ มีการบ้านให้ทำเยอะแยะ อีกอย่างเธอก็ชอบทำแต่ขนมนมเนยหรือไม่ก็ร้อยมาลัยกับคุณแม่ น่าเบื่อออกค่ะ เล็กก็เลยหลบไม่อย่างนั้นคุณแม่ก็ให้นั่งขลุกด้วยทั้งวัน สู้แอบไปขี่ม้ากับคุณพ่อไม่ได้” หญิงสาวเจื้อยแจ้วไม่วกเข้าสู่เรื่องที่เขาอยากรู้เสียที
“เอาแค่เนื้อก็พอค่ะ”
“แหม…ก็มันติดลมนี่คะ ก็คุณแม่อยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้”
สิ้นเสียงน้องสาวปภาคินก็สำลักน้ำลายตัวเอง ตาโต
“เล็กพูดจริงเหรอ ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” คราวนี้เขารวบตัวน้องสาวให้มาเผชิญหน้าแล้วเขย่า วรดาทำหน้ายุ่งแล้วผลักร่างหนาของพี่ชายออกห่าง
“ตัวจะหักอยู่แล้ว อยากรู้ก็ไปถามคุณแม่สิคะ แต่จะบอกให้นะว่าพรุ่งนี้เย็นว่าที่ภรรยาของพี่ใหญ่จะมาที่นี่ ดูเองแล้วกันว่าชอบไหม แต่…จะว่าไปพี่แขก็สวยดีหรอกค่ะ พี่ใหญ่เห็นแล้วอาจจะชอบก็ได้” หญิงสาวยักไหล่แล้วหยิบหนังสือในห้องพี่ชายติดมือมาหลายเล่ม
ภายในห้องนอนของปภาคินมีข้าวของเพียงไม่กี่อย่างส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเสียมากกว่า ราวกับย่อเอาห้องสมุดมาไว้ตรงนี้
หนุ่มหล่อชวนฝัน ชอบวาดภาพ ชอบอ่านหนังสือ
เพื่อนๆ เธอแค่ได้เห็นภาพถ่ายของพี่ชายเธอที่เอาไปอวดที่โรงเรียนต่างก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ สมัครเป็นพี่สะใภ้กันถ้วนหน้า เธอเองก็มีคนที่มองๆ เอาไว้อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่เพื่อนเท่านั้น
“พี่ยังไม่คิดมีเมียตอนนี้หรอกค่ะ ยังมีงานอีกมากรออยู่”
“ไปพูดกับคุณแม่เองเถอะค่ะ รายนั้นบ่นกับคุณนมหอมทุกวันว่าอยากอุ้มหลานเต็มแก่ แล้วพอพี่ใหญ่ไม่อยู่ก็มาลงที่เล็ก ร่ำๆ ไม่อยากให้เล็กเรียนมหาวิทยาลัย โอ๊ย…ไม่เอาหรอกค่ะ ถ้าจะต้องมานั่งเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน ขอออกไปทำงานนอกบ้านอย่างครูฉัตรดีกว่า”
“ครูฉัตร? ผู้หญิงหรือ”
“ใช่ค่ะ ครูฉัตรเป็นครูที่โรงเรียนของเล็ก เพิ่งเข้ามาสอนปีนี้เป็นปีแรก แต่ใจดีชะมัดเลยใครๆ ก็รักครูฉัตรกันทั้งนั้น จะว่ากันตามจริง เล็กก็ชักอยากให้ครูฉัตรกับพี่ใหญ่ได้พบกันแล้วสิคะ แข่งกับคุณแม่ว่าพี่แขของคุณแม่กับครูฉัตรของเล็ก พี่ชายใหญ่จะรักใคร”
“แก่แดดใหญ่แล้วนะเรา ไม่ทันไรคิดจะจับคู่พี่เสียแล้ว แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าพี่ยังไม่คิดรักใครตอนนี้ และคิดว่าคงอีกหลายปีทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่าคิดจับคู่เสียให้ยาก” ชายหนุ่มเอื้อมมือมาหยิกแก้มน้องสาวจอมแก่นอย่างหมั่นไส้ คนตัวเล็กกว่าทำหน้ายุ่ง
“ไปบอกคุณแม่ดีกว่าค่ะเพราะรายนั้นท่าจะเอาจริงส่วนของเล็กแค่คิดเล่นๆ เท่านั้น” หญิงสาวผละออกไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องพี่ชายแต่ไม่วายหันมาบอก “แต่ถ้า…ได้ก็ดี”
บอกแล้วก็ผลุบหายออกไปจากห้อง ปภาคินมองตามแล้วส่ายหน้า

“พ่อใหญ่” เสียงเรียกพร้อมกับมือที่วางมาบนหัวไหล่ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง
“ครู่นี้คุณอาพูดถึงน้องแขให้ฟัง ทำไมเงียบไปละจ๊ะ เหม่ออะไร” ปฐมาถามขึ้นทำให้ชายหนุ่มยิ้มเจื่อน ไม่ทันฟังว่าพระยาสารประดิษฐ์พูดถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนว่าอย่างไรแต่จะให้ตอบตามตรงก็ไม่ได้จึงได้ตอบตรงข้ามกับความเป็นจริง
“ผมตั้งใจฟังครับ”
“ยายแขเกิดปวดท้องเลยมาด้วยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงได้พบกัน คนบ้านใกล้เรือนเคียงกันควรได้รู้จักมักจี่กันไว้ เผื่อวันหน้าวันหลังได้ช่วยเหลือกัน”
“ครับเจ้าคุณอา” ชายหนุ่มยิ้มรับแต่โดยดี ไม่ซักถามอะไรต่ออย่างที่ทางผู้ใหญ่คาดการณ์ ปฐมาจึงคิดอะไรขึ้นมาได้
“จริงด้วยสิคะ ปภาคินไปอังกฤษก็ตั้งหลายปีถึงได้กลับมาบ้าน แม่จัดงานเลี้ยงต้อนรับพ่อใหญ่ดีไหมลูก” ปฐมาหันมาถามลูกชาย วรดานั้นแทบอยากกรีดร้อง หัวใจพองโตคับอก นานแล้วที่แม่ไม่ได้จัดงานเลี้ยงที่บ้าน ครั้งสุดท้ายก็ตั้งแต่ตอนพ่อได้เลื่อนตำแหน่ง พูดถึงเสียงดนตรีเพราะๆ งานเต้นรำ ชักคิดถึงทว่าคำตอบของผู้เป็นพี่ชายก็ทำให้หญิงสาวหน้าม่อย
“ผมว่าสิ้นเปลืองเปล่าๆ ครับคุณแม่ เราทานอาหารเป็นการภายในอย่างวันนี้ก็เพียงพอแล้ว”
“แต่น้าเห็นด้วยนะจ๊ะ ปภาคินไปเมืองนอกมาหลายปี ห่างหายจากเพื่อนฝูงเก่าๆ ไปก็มาก ควรจะจัดงานเพื่อพบปะกันซักหน่อย ทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย” กานติมาออกความเห็นบ้าง วรดาเกรงงานเลี้ยงจะถูกยกเลิกจึงยกมือหรา
“เล็กเห็นด้วยค่ะ”
“ได้ทีเลยนะเรายายเล็ก” ผู้เป็นพ่อโคลงศีรษะ แต่ในเมื่อมีคนเห็นด้วยเกินสองเสียงชายหนุ่มจึงต้องเลยตามเลย และเริ่มต้นหนักใจ
งานนี้ท่าทางแม่จะเอาจริง



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.พ. 2557, 22:46:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.พ. 2557, 22:46:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1286





<< ตอนที่ 4 50%   ตอนที่ 5 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account