นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 11

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 11

เช้ามินตราเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เขา แล้วก็ออกจากบ้าน แม้จะถูกเขาลากกลับไปที่เตียงหลายครั้ง กว่าจะได้ออกมาก็สาย ดีที่ไม่นัดครูสอนภาษาจีนมา เธอก็ช่วยงานแมเรียนได้เต็มที่

วันนี้คนงานของแมเรียนมาเริ่มงานไวกว่าที่คาดไว้ มินตราจึงมีเวลาว่าง ก็ออกมาหามาเตโอ

“คุณวาดภาพให้ฉันเสร็จหรือยังคะ” มินตราอยากเอาภาพไปให้คิลเลี่ยนดู แต่ก็ไม่บอกเขา แล้วเขาทำท่าจะไม่ให้เธอออกจากบ้าน อีกทั้งแมเรียนก็ได้คนงานแล้ว เธอก็โล่งใจไป เมื่อทุกอย่างลงตัว

“ใกล้แล้วล่ะ” มาเตโอสู้ยืดเวลาที่เธอจะมาที่นี่ให้นานกว่านี้ ก่อนจะถาม “ขอผมวาดรูปคุณเดี่ยวๆ หน่อยได้ไหม”

“ได้สิ” มินตรายิ้มให้เขา แล้วเขาก็ร่างภาพตามใจนึก เธอไม่คิดมาก ตามประสาคนเป็นเพื่อน ตอนนี้เธอก็แทบไม่เหลือเพื่อนแล้ว ถ้าใครจะให้มิตรภาพกับเธอ เธอก็พร้อมจะรับไว้

“คุณถือดอกไม้นี่หน่อยนะ” เขาส่งดอกไม้ให้เธอ จะได้ประกอบฉากให้งามขึ้น

“คุณนี่ดีจัง ได้ดอกไม้เยอะเชียว” มินตรารับดอกไม้มาแล้วก็ถือไว้ โพสต์ท่าสวยๆ ก่อนถาม “ไม่ถ่ายภาพเหรอคะ จะได้เก็บไว้วาดไงคะ”

“ไม่ต้องหรอก ฝีมืออย่างผมไม่ต้องถ่ายภาพไว้ก็ได้” มาเตโอบอกแล้วก็ร่างภาพไปเรื่อยๆ

มินตราไม่คิดมาก ถือดอกไม้แล้วดม แอบหลับตาชื่นชมกลิ่นหอมของดอกไม้ ก็มองแล้วมองอีก แต่ลมแรงหอบเอากลีบดอกไม้จากร้านดอกไม้ลอยมาหามินตรา ผมเธอจึงมีแต่กลีบดอกไม้ มาเตโอเห็นก็ยิ้มเอ็นดู ก่อนจะหยิบออกให้ แต่มือเขาถูกจับแน่น จึงเงยหน้าไปมองอย่างหงุดหงิด

“มีอะไรเหรอคุณ” มาเตโอถามอย่างแปลกใจ ที่แปลกใจยิ่งกว่าคือมินตรามองผู้ชายคนนั้นอย่างงุนงง

“อย่าแตะต้องเมียฉัน!!” คิลเลี่ยนพูดภาษาฝรั่งเศสชัดเจนแล้วปล่อย จากนั้นก็ฉุดมินตราให้ลุกขึ้น “กลับบ้าน!!!”

มินตราเป็นงงที่ถูกลาก ขณะที่มาเตโอก็งุนงง ก่อนจะดึงมินตราไว้อีกข้าง เพราะคิลเลี่ยนเอาหมวกสวมคลุมศีรษะและสวมแว่นตากันแดด ขณะที่มินตรากำลังงง แต่ก็จำสามีได้ดี เพราะเสียงของเขาฟังดุแบบแปลกๆ

“อย่ามามั่ว มินต์ยังไม่บอกเลยว่าคุณเป็นสามีเขา” มาเตโอคิดว่ามีคนมั่วนิ่ม เขาเคยเห็นสามีของมินตราจากภาพวาด ส่วนเรื่องออกเทป เขาไม่รู้เพราะไม่เคยสนใจดาราอื่นๆ และมินตราไม่เคยเล่าว่าสามีมาทำงานอะไรที่ปารีส

“ทำไมจะไม่ใช่ บอกไปสิว่าฉันเป็นใคร” คิลเลี่ยนตะคอกเสียงดังลั่น หงุดหงิดมากจนลืมตัวทำให้ภรรยาเสียขวัญ

“มาเตโอคะ นี่สามีฉันค่ะ คิลเลี่ยน เอ่อ ฉันกลับก่อนนะคะ” มินตราบอกลามาเตโอแล้วถูกสามีลากไปขึ้นรถ

คิลเลี่ยนไม่ฟังอะไรก็ลากมินตราเดินไปจนถึงรถ แล้วก็จับเธอยัดใส่รถ แล้วไปนั่งที่นั่งคนขับ ออกรถกระชากโดยไม่พูดสักคำ มินตราก็ไม่กล้าพูด และรู้ว่าเขาอารมณ์เสีย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

มินตราลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน มองเขาเป็นระยะ ไม่รู้เขาหงุดหงิดอะไรหนักหนา เห็นเขาทิ้งน้ำหนักลงที่เก้าอี้รับแขก เธอจึงถาม “พี่หิวเหรอคะ มินต์ทำกับข้าวไว้ให้แล้วแต่เช้า ก่อนจะออกจากบ้านนะคะ พี่หาไม่เจอเหรอ”

คิลเลี่ยนเห็นเธอนึกว่าเขาหิวก็ถอนหายใจยาวๆ แล้วพูดไปอีกเรื่อง “ก็ใช่ พอออกไป ว่าจะหามินต์ก่อนแล้วค่อยชวนไปหาอะไรกินสักหน่อย เห็นผู้ชายคนนั้นเหมือนจะลวนลามมินต์ก็เลยโกรธจัด”

“โธ่ มาเตโอไม่ได้ลวนลามมินต์สักหน่อย” มินตราบอกอย่างไม่จริงจังนัก แล้วรีบเข้าครัวเอาอาหารอุ่น กลัวเขาจะหิวมากกว่าเดิม ไม่เห็นเขาตามมา เมื่อเธออุ่นเสร็จแล้วก็รีบออกไปตามเขา “หิวไม่ใช่เหรอคะ มาเร็วๆ ค่ะ เดี๋ยวเป็นลม”

คิลเลี่ยนเห็นเธอเป็นห่วงเป็นใยก็ถอนหายใจยาว แล้วลุกไปที่โต๊ะอาหาร นั่งลงทานอาหารที่เธอเตรียมไว้ให้ มองเธอที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง แล้วก็ดึงมือเธอไว้ “นั่งเป็นเพื่อนพี่หน่อยไม่ได้เหรอ”

“ค่ะ” มินตราก็นั่งลงข้างๆ เขา แล้วนิ่งอย่างอึดอัด เพราะไม่รู้จะพูดอะไรหรือทำอะไรขณะที่เขาทานอาหาร และก็ทำให้เขาอึดอัดด้วยเหมือนกัน

“มินต์อึดอัดไหมที่ต้องนั่งตรงนี้” คิลเลี่ยนถามเพราะเห็นเธอเหมือนจะทำตัวไม่ถูก

“ค่ะ” มินตราพูดสั้นๆ ทำให้คิลเลี่ยนรู้สึกเหมือนชีวิตคู่กำลังจะพัง เพราะเมื่อก่อน เธอไม่เคยรู้สึกอย่างนี้

“มินต์อยากพูดอะไรกับพี่ไหม” คิลเลี่ยนถามเพื่อให้เธอพูดตามตรง “บอกมาเถอะ ยิ่งเก็บไว้ยิ่งอึดอัด”

“พี่อยากรู้อะไรกันแน่คะ” มินตราชักหงุดหงิดที่เขาเหมือนจะพูดอะไรก็ไม่พูด

คิลเลี่ยนหยุดทานแล้วหันมามองเธอให้ชัดขึ้น กระแทกลมหายใจข่มใจแล้วพูดออกมา “ทำไมอะไรๆ ก็เปลี่ยนไปแบบนี้”

มินตรามองเขาอย่างงุนงง แล้วค่อยถาม “อะไรเหรอคะที่เปลี่ยน”

“ก็นี่ไง เมื่อก่อนมินต์ไม่เคยอึดอัดที่นั่งเป็นเพื่อนพี่ เวลาทานอาหาร หยุดทำอะไรหลายอย่างที่เคยทำแล้วนั่งเป็นเพื่อน” คิลเลี่ยนถาม กลัวครอบครัวที่เพิ่งเข้าที่จะพัง

“เพราะมินต์คิดว่าพี่อยากให้เปลี่ยน พี่ไม่รู้หรอกว่ากี่ครั้งที่มินต์เตรียมอาหารแล้วพี่ไม่กลับมาทาน มินต์จำเป็นต้องถอยห่างจากพี่ เพราะพี่กำลังรำคาญ” มินตราบอกตามตรง แล้วลุกเดินหนี จากนั้นก็ร้องไห้ ก่อนหันมาทางเขาที่เดินตามมา สุดท้ายยอมสารภาพ แต่ก็ไม่กล้าพูดจนจบก็สะอื้น “มินต์กลัวว่าพี่จะเบื่อ...”

คิลเลี่ยนเข้าไปสวมกอด ลูบหลังเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน ปล่อยให้เธอสะอื้น “พี่ขอโทษ พี่จะเบื่อเมียพี่ได้ยังไง ขอโทษที่พี่งานยุ่งมาก พอเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ มันก็ยุ่งแบบนี้แหละ”

มินตราพยักหน้าช้าๆ แล้วต้องตกใจเพราะเขาอุ้มเธอ แล้วพาไปที่ห้องนอน เธอรีบปฏิเสธ “พี่ปล่อยมินต์เถอะ”

“พี่กำลังง้อนะเนี่ย” คิลเลี่ยนไม่ใส่ใจคำปฏิเสธเธอนัก ตอนนี้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก

“ไม่ค่ะ ไม่ใช่ตอนนี้ มินต์ต้องทำอะไรอีกเยอะเลย” มินตรารีบปฏิเสธ รู้ว่าเขาจะพาไปไหน

“ต้องทำอะไร ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า” คิลเลี่ยนนึกว่าเธอไม่พร้อม

“ไม่ใช่ค่ะ มินต์ยังไม่ได้เตรียมมื้อเย็นเลย” มินตรารีบบอกเขา อายเหมือนกันที่เคลียร์กันได้แต่ต้องไปจบบนเตียง

“เวลาอย่างนี้ ยังจะเตรียมมื้อเย็นอีกเหรอ ตอนนี้พี่ไม่หิวอะไรเท่ามินต์แล้ว” คิลเลี่ยนกอดจูบเธอเป็นพัลวัน หลังวางเธอที่เตียง

มินตราก็ได้แต่ตามใจเขา เพราะท่าทางเขาจะไม่หยุดง่ายๆ ถ้าไม่ได้อย่างใจเขาต้องการ

**********************************

มื้อเช้าผ่านไปอย่างเรียบง่าย สามวันที่อยู่ด้วยกันก็เต็มตื้นพอประมาณ คิลเลี่ยนจับมินตรานั่งตัก ให้เธอป้อนมื้อเช้าอย่างมีความสุข พอผ่านมื้อเช้าแล้ว เขาก็นั่งลงแต่งเพลงของเขาต่อ สายๆ มินตราก็เตรียมมื้อเที่ยง แต่กลับเห็นเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกบ้าน

“พี่จะไปไหนเหรอคะ” มินตราถามเพราะไม่เห็นเขาบอกว่าจะออกไปไหน

“เพลงมีปัญหาน่ะ เขาอยากให้พี่ไปอธิบายอารมณ์ของเพลง” คิลเลี่ยนอธิบายแล้วมาแอลิซก็เข้ามาในบ้าน

“คุณพร้อมพอดีเลย ไปกันเถอะค่ะ” มาแอลิซพูดภาษาฝรั่งเศสกับเขา ทำให้มินตรามองอย่างไม่เข้าใจ

“พี่จะกลับมาให้ทันมื้อเย็นนะ” คิลเลี่ยนจูบมินตราแล้วรีบออกไปจากบ้าน เพราะไม่อยากให้ยืดเยื้อ ไม่ทันขึ้นแสดงอาทิตย์หน้า

มินตราได้แต่ถอนหายใจ ก่อนนึกขึ้นได้ แล้วโทรหามาเตโอ เพราะให้เขาเอาของมาส่งให้ เธอรอจนใกล้เที่ยงเขาก็มาถึงพร้อมห่อภาพขนาดใหญ่พอประมาณ

“ภาพเดี่ยวของคุณ ผมจะส่งไปให้ที่อังกฤษนะ” มาเตโอบอกมินตรา ที่ตอนนี้อยากเห็นภาพใจจะขาดแล้ว “แกะออกสิครับ”

มินตราค่อยๆ แกะอย่างระมัดระวัง เห็นภาพแล้วก็ตื้นตันจนร้องไห้

มินตราอยู่ในอ้อมแขนคิลเลี่ยน สายตาจับจ้องกันแล้วกอดกันอย่างแสนหวาน

“ผมวาดจากความรู้สึกของคุณที่มีต่อสามีน่ะครับ” มาเตโอเห็นสิ่งเหล่านั้นจากวิธีที่เธอเล่าถึงสามี หากได้เจอผู้หญิงอย่างมินตรา เขาคงเป้นคนที่โชคดีที่สุดในโลก

“ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวฉันเอาไปเก็บก่อนนะคะ” มินตรารีบเอาไปเก็บก่อนที่สามีจะมาเห็นเข้า แล้วกลับมาต้อนรับมาเตโออีกรอบ “จริงสิคะ ถ้าคุณไม่รังเกียจ พอดีสามีฉันออกไปธุระข้างนอก ฉันทำมื้อเที่ยงไว้สองที่ มาทานด้วยกันนะคะ”

“ได้สิครับ” มาเตโอมองอาหารที่เธอทำ ก็รู้ว่าเธอคงจะรักและเอาใจสามีมาก แม้จะเป็นอาหารธรรมดาก็ตาม

“คงพอทานได้นะคะ ดีที่ไม่ได้ทำอาหารไทย ไม่งั้นคุณคงทานไม่ได้แน่ๆ” มินตราบอกเขาแล้วก็เสริฟอาหารเที่ยงให้เขา

“สามีคุณนี่โชคดีจริงๆ ที่มีคุณเป็นภรรยา” มาเตโออยากโชคดีอย่างนั้นบ้าง แต่คนรุ่นใหม่หายากแล้วที่จะเป็นอย่างมินตรา

“ฉันต่างหากล่ะคะที่โชคดีที่เขายอมรับฉันเป็นภรรยา” มินตราพูดติดตลก แล้วก็เห็นมาเตโอมองไปทางด้านหลัง เธอก็หันไปมองตาม เห็นคิลเลี่ยนกับมาแอลิซก็มองอย่างงุนงง “คุยงานเสร็จแล้วเหรอคะ”

“เปล่า มาเอาโน้ตเพลงใหม่” คิลเลี่ยนบอกอย่างเคร่งขรึม แล้วก็รีบไปเอากระดาษบันทึกโน้ต

มาแอลิซมองมินตรากับมาเตโออย่างยิ้มๆ แล้วมองเมินไปทางอื่น พอคิลเลี่ยนออกมาก็ออกไปทันที ทำให้มาแอลิซรีบเดินตามไป และมินตรากับมาเตโอก็มองหน้ากัน มินตรานั้นงงแต่มาเตโอนั้นรู้ว่าคิลเลี่ยนหึง เพียงแต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไง จึงแสดงออกอย่างเฉยชา

มินตราก็ทานต่อแล้วคุยกับมาเตโอ ทำให้มาเตโอรู้ว่ามินตราไม่คิดมากเรื่องนั้น บางทีมินตราอาจไม่รู้เลยว่าคิลเลี่ยนหึงหวงอยู่ก็ได้

มาเตโออยู่จนบ่ายกว่าๆ ก็ขอตัวกลับ มินตราก็เตรียมอาหารค่ำไว้รอสามี

**********************************

เสียงพูดคุยเรื่องงานดูเข้มข้นกว่าปกติ มาแอลิซแกล้งไม่เข้าใจอารมณ์ของเพลงแล้วลากเขาออกจากบ้าน แล้ววันนี้ภรรยาเขาก็นัดผู้ชายมาบ้านเรียกว่าเข้าทางเธอเลยทีเดียว

มาแอลิซก็อ้อนเขาให้เขาช่วยเล่นเปียโนและอธิบายทีละท่อน หากคิลเลี่ยนไม่มีสมาธิ สุดท้ายผ่านไปช่วงบ่ายเขาก็ขอกลับ

“ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายขอตัวกลับก่อนนะครับ” คิลเลี่ยนบอกแล้วลา เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถแท็กซี่แล้วออกไปทันที

มาแอลิซได้แต่งุนงง นึกอีกที บางทีเขาอาจจะกลับไปทะเลาะกับภรรยาหน้าซื่อคนนั้นก็ได้ ก็ไม่คิดจะขัดขวาง อยากให้แตกหักเลิกรากันไปเลยยิ่งดี

หากพอลงจากรถแท็กซี่ คิลเลี่ยนก็รีบขึ้นไปที่ห้องนอน เห็นห้องนอนตึงเรียบก็เดินดูจนครบทุกห้อง พอลงมาก็เห็นมินตรากำลังเตรียมทำครัวเพื่อทำอาหารค่ำ

“ทำไมกลับเร็วจังคะ ยังไม่ถึงเวลามื้อค่ำเลย” มินตรามองเขาอย่างงุนงง

คิลเลี่ยนขมวดคิ้ว เห็นเธอมองอย่างแปลกใจก็สงสัยว่าเธอจะอ่านท่าทางเขาไม่ออกเชียวเหรอ เขาว่ายังไงก็ต้องดูออกว่าเขาหึง แต่เขาก็ไม่พูดมาก จึงถาม “มินต์มีอะไรให้พี่กินไหม เมื่อเที่ยงมัวแต่คุยงานเลยไม่ได้กินอะไรเลย”

“อ๋อ ได้ค่ะ แซนวิชเบาๆ ก่อนเนอะ มีแฮมกับทูน่านะคะ ผักสดเยอะ มินต์ทำให้ค่ะ” มินตราเตรียมแซนวิชให้สามีแล้วก็เอามาวางให้ จากนั้นก็ชงกาแฟให้เขา

“ขอบใจมากจ๊ะ” คิลเลี่ยนมองมินตราเตรียมมื้อเย็นต่อ เห็นเธอดูไม่รู้เรื่องที่เขาหึงก็ต้องแอบถอนหายใจอีกรอบ

“พี่จะเอาของหวานไหมคะ” มินตราถามขึ้น เห็นเขามองเธอออยู่หลายรอบแล้ว

“มีเหรอ” คิลเลี่ยนถามแต่ก็ไม่สนใจเท่าไรนัก

“มีค่ะ คุณมาเตโอไม่ค่อยชอบของหวานค่ะ” มินตราตอบแล้วเปิดตู้เย็น จะเอาของหวานมาให้สามี

“ของเหลือ งั้นไม่เอา” คิลเลี่ยนพูดอย่างงอนๆ

“ไม่ใช่ซะหน่อยค่ะ ตอนแรกมินต์ก็เตรียมไว้ให้พี่นั่นแหละ พี่ไม่อยู่ทานมื้อเที่ยง พอดีคุณมาเตโอเอาของมาส่ง มินต์ก็เลยชวนทานมื้อเที่ยง ก็ดีกว่าเอาไปทิ้งนี่คะ ทีนี้คุณมาเตโอเขาไม่ชอบของหวาน มินต์ก็เลยไม่ได้เอาออกจากตู้เย็นค่ะ” มินตราอธิบายให้เขาเข้าใจ

คิลเลี่ยนก็เลยเข้าใจสถานการณ์ จึงพยักหน้ารับของหวานด้วย ก่อนถาม “เขาเอาอะไรมาส่ง”

มินตราแอบหลุดไปแล้ว ก็ต้องหาข้อแก้ตัวอีก “มินต์ลืมของไว้ที่ร้านแมเรียนน่ะค่ะ”

คิลเลี่ยนเห็นเธอร้อนรนนิดๆ ก็เริ่มระแวงอีกรอบ “ของอะไร”

“ก็ของทั่วๆ ไปน่ะค่ะ” มินตราไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี และโกหกไม่เก่ง เพราะไม่ได้เตรียมสคลิปมาก่อน

“แล้วไอ้ของทั่วๆ ไปน่ะ มันอะไร” คิลเลี่ยนก็ซักความ จนมินตราต้องถอนหายใจ

“เฮ้อ พี่น่ะ มินต์ไม่อยากให้พี่รู้ก่อนเลยจริงๆ” มินตราถอนหายใจ “พรุ่งนี้มินต์ค่อยบอกไหมคะ”

“ก็แล้วทำไมต้องพรุ่งนี้ด้วยล่ะ” คิลเลี่ยนมองเธออย่างสำรวจ

“เฮ้อ ก็มินต์อยากเซอร์ไพร์ซพี่ แต่พี่ทำมินต์เซ็งแล้ว อยากรู้ก็ได้ เดี๋ยวมินต์ไปเอามาให้ดูเลย” มินตรารำคาญก็วางมือแล้วล้างมือ แต่พอเดินผ่านเขาก็โดนเขารวบมากอด

“รอพรุ่งนี้ก็ได้จ๊ะ เมียจ๋า” คิลเลี่ยนกอดจูบเมียรักในอ้อมแขน เห็นท่าทางของเธอก็รู้ว่าต้องเป็นของที่จะให้เขาแน่นอน

“ไม่อยากดูแล้วเหรอคะ” มินตราถามแล้วอมยิ้มอย่างอายๆ

“แหม ก็มินต์อยากให้ดูพรุ่งนี้ พี่ก็จะดูพรุ่งนี้ แต่ยังไงคืนนี้พี่ดูมินต์ไปพรางๆ ก่อนแล้วกันจ๊ะ” คิลเลี่ยนหยอดคำหวาน แล้วมองเธอทำครัวไปเรื่อยๆ แทนที่จะปลีกตัวออกไปเล่นเปียโน ซึ่งพักหลังเขาติดการเล่นเปียโน จนเขารู้สึกว่าเขาละเลยภรรยาคนสวยของเขาไป

มินตราทำอาหารไปเรื่อยๆ และเริ่มเล่าเรื่องที่ไปเจอมาเตโอกับแมเรียนให้เขาฟัง เล่าเรื่องจิปาถะที่ร้านกาแฟ แล้วก็เรื่องที่ครูสอนภาษาจีนเล่าความให้เธอฟัง พ่นภาษาจีนออกมาเป็นระยะ แล้วเล่าเรื่องที่ช่วยมาเตโอพูดภาษาจีน

คิลเลี่ยนฟังเพลินๆ อย่างไม่คิดมาก จากที่ไม่คุยกัน เขาก็รู้สึกว่าได้ฟังเรื่องราวของเธอมากขึ้น แทนที่จะหมกมุ่นกับงานจนลืมความสำคัญเรื่องอื่นในชีวิตไป

**********************************

เช้าอีกวัน คิลเลี่ยนนอนตะแคงมองภรรยาที่หลับหันหลังให้ ใจนั้นขี้เกียจออกบ้านเพราะอยากใช้เวลาร่วมกับเธอให้มากกว่านี้ แต่ตอนค่ำโนอาโทรมานัด เขาก็ต้องไปให้เสร็จๆ และเริ่มรำคาญมาแอลิซที่ดูจะเข้าใจอะไรยากขึ้น

มินตราพลิกตัวเพราะใกล้เวลาตื่นแล้ว พอหันมาเห็นเขานอนมองก็งุนงง “ตื่นแล้วเหรอคะ หิวหรือเปล่า”

“ยังจ๊ะ อยากกินอย่างอื่นเป็นอาหารเช้ามากกว่า” คิลเลี่ยนพลิกตัวขึ้นอยู่เหนือเธอ แล้วฟังเธอหัวเราะ ลูบผมเธอที่บังหน้า แล้วมองให้เต็มตาอีกรอบ

“อะไรคะ เมื่อคืนยังไม่อิ่มอีกเหรอคะ” มินตรายังไม่ได้ตื่นเต็มที่ก็ถูกเขารุกอีกรอบ

“ไหนๆ ก็ยังไม่ได้สวมอะไร ต่ออีกหน่อยจะเป็นอะไรไปจ๊ะ แล้วนี่เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเป็นเดือนๆ เลยนะ พี่จะได้คิดถึงแต่มินต์คนเดียวไง แล้วมินต์ก็จะได้คิดถึงแต่พี่คนเดียวด้วยไง” คิลเลี่ยนแก้ตัวแล้วก็หัวเราะอย่างมีชัย เมื่อเธอโอบรอบคอเขา ตามใจเขาอย่างที่เคย

เมื่อภรรยาตามใจเขาแบบนี้ เขาก็จัดเต็มทุกประการ

มินตราพลิกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม รู้ว่าสามีออกไปคุยงานแล้ว แม้จะเหนื่อยแต่ก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะก่อนเขาออกไปยังย้อนกลับมาจูบเธออีกรอบ ดูเหมือนเขาจะไม่อยากได้อาหารเช้าอื่นนอกจากเธอ ทำให้เธอสบายใจได้ เรื่องเขาจะนอกใจไปมีคนอื่นคงไม่มี

เมื่อเธอลุกจากที่นอนก็พบว่าตัวเองหิวแค่ไหน จึงลงไปหาของกินก่อน แล้วก็จัดเตรียมบ้านให้พร้อมต้อนรับเขาเมื่อเขากลับมา เธอบอกเขาแล้วว่าถ้าเขาขับรถเข้ามาแล้วให้โทรมาบอก เธอจะได้เตรียมตัวทัน

เวลาทำอะไรแล้วคิดถึงเขา เธอก็จะยิ้มออกมาได้ และเป็นความโชคดีของเธอ ที่คิดถึงแต่ความดีของเขา ทำให้ชีวิตคู่เป็นไปได้ง่ายขึ้น และวันนี้เธอรู้ว่าต้องเตรียมบ้านและตัวเองยังไงเพื่อความสุขของเธอกับเขา

**********************************

ที่สตูดิโอ คิลเลี่ยนพยายามจัดการงานเขาให้เสร็จ และพอฟ้าเริ่มมืด เขาก็จัดการจนเสร็จ ก่อนแอบบอกโนอาว่าเขาจะไม่ทำงานสองวัน แล้วไม่ต้องให้ใครพยายามติดต่อเขาด้วย ซึ่งโนอาก็เห็นด้วย เพราะเขาทำงานไม่หยุดมาหลายเดือนแล้ว สมควรได้พักบ้าง

เมื่อเขาตกลงกับโนอาได้แล้ว เขาก็เก็บของของเขาออกจากสตูดิโอ หากมาแอลิซดึงเขาไว้

“ไปทานมื้อเย็นกันนะคะ ฉันไม่มีเพื่อนทานมื้อเย็นเลยค่ะ” มาแอลิซพยายามอ้อนเขา เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ทะเลาะกักบภรรยารุนแรงนัก

“ภรรยาผมเขาก็ไม่มีเหมือนกัน ผมเชื่อว่าถ้าคุณจะหาคนมาทานมื้อค่ำด้วยคงไม่ยาก ขอตัว” คิลเลี่ยนปฏิเสธอ้อมๆ

“แต่” มาแอลิซพยายามจะค้าน ส่งสายตาอ้อนวอนเต็มกำลัง

“ผมพูดอะไรไม่ชัดเจนหรือยังไง ผมแต่งงานแล้วและต้องการใช้เวลากับภรรยาผม คุณไม่เข้าใจตรงไหน” คิลเลี่ยนเริ่มหงุดหงิดที่เธอเข้ามาวุ่นวายกับเขา “ผมพยายามสุภาพกับคุณมากแล้วนะ อย่าทำให้ผมโมโหมากไปกว่านี้”

มาแอลิซมองเขาสะบัดแขนแล้วเดินจากไป เธอก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที ตั้งใจจะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาให้ได้ ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม

คิลเลี่ยนขับรถออกมาด้วยความหงุดหงิด เมื่อมาถึงบ้านเขาก็โทรหามินตรา “พี่ถึงแล้วนะ”

“ค่ะ” มินตรารับสายแล้วนั่งรอเขาที่ห้องรับแขก ด้านข้างมีรูปเขากับเธอวางอยู่ และเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นภรรยาสวมชุดใส มองทะลุทั้งตัว ทั้งยังสวมเครื่องเพชรล่อตาเขาอีก พอเธอลุกขึ้นแล้วยิ้มอย่างอายๆ เขาก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม

คิลเลี่ยนเข้าไปกอดภรรยาแล้วจูบดูดดื่ม จากนั้นก็สบตาเธอ “โอกาสพิเศษอะไรเหรอจ๊ะ เมียจ๋า”

มินตราหลบตาอย่างอายๆ ก่อนบอก “ครบรอบแต่งงานสี่ปีค่ะ มินต์รู้ว่ามันเลยมาเยอะ แต่พี่ก็ไม่ค่อยว่างเลยนี่คะ”

“ภาพนี่เหรอที่เขาเอามาส่ง” คิลเลี่ยนประคองเธอไปนั่ง ขาเธอพาดอยู่บนขาเขา เขาไม่ยอมปล่อยเธอจากอ้อมแขน แต่ก็หยิบภาพมาดูร่วมกัน

“ใช่ค่ะ มินต์ไปขอคุณมาเตโอวาดให้ แต่มินต์ก็จ่ายค่าจ้างนะคะ อยากให้พี่ประหลาดใจ แต่ไม่รู้ทำไมพี่หงุดหงิดก็ไม่รู้” มินตรามองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ก็ยอมรับว่ารักเขามากแค่ไหน มองเขาวางภาพลงแล้วหันมาสนใจเธอแทน

คิลเลี่ยนกอดจูบเล้าโลมเป็นพัลวัน พอได้พักหอบหายใจกันบ้าง

“ทานมื้อค่ำก่อนดีกว่าค่ะ จะได้มีแรงไงคะ” มินตราผลักเขาเล็กน้อย แล้วจับมือจูงพาเขาไปที่โต๊ะอาหารเพื่อทานมื้อค่ำ

คิลเลี่ยนมองรูปร่างใต้ชุดบางนั่นแล้วพยายามสะกดอารมณ์ไว้ ขณะที่มินตราก็เสริฟอาหารอย่างอายๆ พอเสร็จแล้วก็ถูกเขาลากไปนั่งตัก ให้เธอป้อนอาหารแล้วทานพร้อมกัน

มินตราหน้าแดงกร่ำอย่างเขินอาย คิดอยากเอาใจเขา เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยพูดเล่นให้เธอฟัง เธอก็พยายามทำให้ดีที่สุด ฟังเขาอ้อล้อแล้วก็หัวเราะเขินๆ ตลอด

“มินต์ยังจำได้อีกนะ” คิลเลี่ยนพูดขึ้นในตอนท้าย ปลื้มใจกับภรรยาสุดที่รัก

“ก็พี่พูดบ่อยนี่คะ บอกว่าคงเร้าใจดี รู้ไหมว่ามินต์อายจะแย่อยู่แล้ว” มินตราโอบรอบคอเขา พยายามสลัดความอายทิ้งแต่ก็ยากเต็มที แม้แสดงหนังทำได้ แต่เวลาอยู่กับคนรัก เธอก็ไม่ใช่นักแสดงอีก ไม่ได้ปั้นหน้าเข้ากล้อง แต่แสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา

“แล้วนี่พี่จะได้ทานมินต์ตอนไหนเนี่ย ของคาวอิ่มแล้วนะ” คิลเลี่ยนถามหยอกแล้วจูบเธอ แหย่ไปเรื่อยๆ

“ไม่ทานไอศกรีมก่อนเหรอคะ” มินตราถามก็รู้ว่าเขาคงไม่อยากรอแล้ว

“พอเถอะ เดี๋ยวพี่ก็จุกก่อนได้แกะห่อของขวัญหรอก” คิลเลี่ยนปล่อยเธอลุกขึ้น แล้วจูบพร้อมถอดเสื้อผ้าเขาไปจนถึงห้องนอน เมื่อมินตราล้มลงนอนที่เตียง เขาก็ถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว “ให้พี่แกะห่อก่อนนะ”

มินตราหยักหน้าช้าๆ เพราะนอกจากชุดใสด้านนอกกับเครื่องประดับ เธอก็ไม่ได้สวมอะไรไว้เลย เธอมองไปทางอื่นเมื่อเขาค่อยๆ แกะกระดุมออกทีละเม็ด ปล่อยให้เขาสำรวจของขวัญชิ้นสำคัญเสียให้พอ

“มินต์ลืมตาแล้วมองพี่ด้วยสิ อย่าให้พี่มองมินต์อยู่คนเดียว” คิลเลี่ยนทิ้งน้ำหนักลงอย่างช้าๆ จากนั้นก็จูบเธอที่ริมฝีปาก ไล่ลงมาเรื่อยๆ จนเธอหอบหายใจแทบไม่เป็นจังหวะ

หลังจากนั้นเธอก็เรียกแต่ชื่อเขา ขณะที่เขาก็รับของขวัญของเขาอย่างเต็มที่ เติมเต็มความปรารถนาให้กันและกันจนถึงที่สุด เก็บเกี่ยวความต้องการเผื่อในช่วงเวลาที่ต้องจากกัน

**********************************

สองเดือนที่มินตราต้องแปลกใจ เพราะศนิหาทางติดต่อเธอจนได้ สุดท้ายพอมาเที่ยวที่ฮ่องกง ก็โทรหาเธอเพื่อนัดออกมาทานมื้อเที่ยง และพอไปถึงแทนที่จะมีแต่ศนิ ก็มีโชติมาด้วย

“สวัสดี” มินตราทักทายทั้งสอง แต่ไม่ยกมือไหว้โชติอย่างเคย

“สวัสดีจ๊ะ มินต์ นึกว่าจะไม่ว่างซะแล้ว” ศนิรีบต้อนรับเพื่อน เมื่อเพื่อนมีชื่อเสียง เธอก็อยากจะรู้จักไว้ อีกทั้งโชติขอความช่วยเหลือ เธอจึงยอมรับ

“ช่วงนี้เหลือเก็บอีกไม่กี่ฉากแล้วล่ะ สี่ห้าวันก็เสร็จแล้ว” มินตราบอกเพื่อนแล้วสั่งของว่างทาน “แฟนคุณไม่มาด้วยเหรอคะ”

“เปล่าจ๊ะ เรียกซะห่างเหิน ถึงจะไม่ได้คบกันแล้วแต่ก็เป็นเพื่อนกันได้นี่จ๊ะ” โชติยิ้มประจบ เพราะตอนนี้พ่อเขาดูจะรักลูกสะใภ้คนนี้มาก แม้แต่แม่เขายังแตะต้องไม่ได้

“แฟนฉันมาด้วยนะ เดี๋ยวเขามาจ๊ะ เขาแวะไปหาญาติเขา” ศนิยิ้มให้ ก่อนชม “สวยขึ้นมากเลยนะ แต่งตัวเก่งขึ้น เห็นแล้วมีแฟนเพจเยอะเลยนี่ มีแต่คนรักจริงๆ นะเนี่ย”

“ไม่หรอก คนเกลียดก็มี คราวก่อนต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายกันเลย เจอคลิปตัดต่อน่ะ แต่ก็ทำใจไว้แล้ว เพราะถ้ารับฉากแบบนั้นก็ต้องเจออย่างนี้บ้างล่ะ” มินตราอธิบายความ แต่พยายามคุยกับศนิมากกว่าโชติ

“จะกลับเมืองไทยเมื่อไรล่ะ” ศนิถามเพื่อน แล้วอ้างว่าเพื่อนๆ จะนัดเจอกัน

“ยังไม่รู้เลยจ๊ะ พอจบงานที่นี่แล้วก็ว่าจะกลับอังกฤษสักพัก คิดถึงบ้านน่ะ แต่พี่เคเขาจะต้องอยู่ที่ฝรั่งเศสอีกพัก แล้วเขาก็จะไปหลายที่ เวลาทำงาน เขาทำงานจริงจังมาก เราก็เลยว่าจะอยู่ที่อังกฤษรอเขา แล้วก็ทางโน้นมีคนติดต่องานโฆษณามาด้วยน่ะ เสร็จจากที่นี่ก็มีงานต่อ แต่คุยๆ กับพี่เคแล้ว เขาอยากมีลูก เราก็เลยไม่รับงานหนังช่วงนี้น่ะ” มินตราเล่าความตามปกติ เหมือนที่เล่าให้แฟนคลับฟัง

“ตายจริง! ยังหนุ่มยังสาวอยากมีลูกแล้วเหรอจ๊ะ” ศนิถามอย่างมีจริต

“ก็นะ แต่งกันมาสี่ปีแล้ว ก็น่าจะต้องสร้างครอบครัวสักทีล่ะจ๊ะ มีลูกตอนแก่เหนื่อยตายเลย” มินตราบอกเล่า นึกถึงตอนมีลูกอย่างมีความสุข ครอบครัวจะได้สมบูรณ์พร้อมมากขึ้น

โชติได้แต่ฟังอย่างอิจฉา…

“เธอนี่นะ ถ้าสามีชี้นกก็เป็นนก ชี้ไม้ก็เป็นไม้เลยล่ะสิ” ศนิแกล้งพูดเล่น แต่จริงๆ แล้วประชด หมั่นไส้เพื่อนไม่ต่างจากสมัยก่อนตอนคบกับโชติ ไม่รู้ว่าหล่อนซื่อหรือเซ่อกันแน่ แต่ก็ตามน้ำไปก่อน

“มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรนี่จ๊ะ คนเรารักกันก็ต้องอยากมีพยานรักสิ อีกอย่างสี่ปีมานี่ก็ทำงานกันมาเยอะแล้ว กลับบ้านก็อยากจะกอดลูกบ้าง ไม่เห็นจะแปลกเลยนี่นะ” มินตราบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก

คนเราคิดต่าง แต่ไม่จำเป็นต้องเอาความคิดมาใส่หัวคนอื่น หรือเอาความคิดคนอื่นมาใส่หัวตัวเอง

“แล้วนี่ฐานะมั่นคงแล้วใช่ไหมล่ะ ครั้งก่อนสามีเธอไม่ทำงานทำการ ตอนนี้ทำแล้วเหรอ” ศนิเป็นฝ่ายถามแทนโชติ ไม่งั้นมินตราโกรธก็คงเดินหนี

“ใช่แล้วล่ะ พี่เคแต่งเพลงเองแล้วก็ออกซิงเกิ้ลที่ฝรั่งเศสแล้วนะ ค่อยเป็นค่อยไป แต่เขาก็เริ่มมีออกคอนเสิร์ตแล้วล่ะ อีกอาทิตย์หนึ่งคิวแน่นมากเลยเชียวล่ะ” มินตราพูดอย่างภูมิใจที่สามีเริ่มประสบความสำเร็จทีละนิด

“ได้ฟังแล้วล่ะ” ศนิตามเพจเพื่อนอยู่ก็มีคนเอาเพลงของคิลเลี่ยนมาปล่อยให้ฟังบางช่วง แต่เพลงเป็นภาษาฝรั่งเศส ทำให้ฟังแล้วแปลยาก ถ้าฟังผ่านๆ ก็จัดว่าเป็นเพลงที่เพราะ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มินตราก็ขอรับสาย แล้วพูดภาษาจีนกับปลายสายเพื่อฝึกภาษา พยักหน้าช้าๆ แล้วเข้าใจ ก่อนวางสายแล้วหันมาฟังเพื่อน

“มีอะไรเหรอจ๊ะ” ศนิถามขึ้นแล้วมองเพื่อนอย่างสงสัย

“เขาโทรมายกเลิกการถ่ายของวันนี้น่ะ เห็นบอกว่าฉากที่คนอื่นถ่ายวันนี้เลื่อนออกไป ต้องใช้เวลามากกว่าเดิม คงเซ็ตฉากให้เราไม่ทัน แล้วก็ต้องเป็นช่วงกลางวันด้วยน่ะ” มินตราบอกเล่า แสดงว่าเธอจะว่างอีกทั้งวัน

“งั้นเราก็ไปช็อปปิ้งกันนะ ฉันมาที่นี่ก็เพราะอย่างนี้แหละ รอแฟนเราแปบนะ พอเขามาทานรองท้องแล้วไปเดินเที่ยวกัน” ศนิได้ช่องก็รีบชวนเพื่อน เพื่อนจะได้สนิทใจเหมือนเดิม

“ก็คงได้จ๊ะ” มินตราตอบรับ เพราะไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน อีกอย่างมีน้ำใจให้เพื่อนก็คงไม่เป็นไร

โชติค่อยโล่งใจ เพราะมินตรามีท่าทีอ่อนลงมาก อย่างที่ศนิบอก มินตราจะใจอ่อนเสมอเมื่อมีคนทำดีด้วย เขาคงรู้ถ้ารู้จักสังเกตคนรัก แต่มัวสับรางอยู่ ทำให้ไม่ค่อยได้ใส่ใจนัก แต่ก็ไม่เคยให้เธอไปรับหรือไปส่งเวลาที่เขาแอบไปกับหญิงอื่น เขายังรู้สึกเกรงใจในความดีของเธอบ้าง

**********************************

หลังจากส่งของที่ศนิชวนซื้อฝากไปให้พ่อแม่กับน้องแล้ว มินตราก็มาเข้าฉากสุดท้ายของเธอ เธอต้องใส่สลิงแล้วต้องหล่นลงมา ซึ่งก็นัดคิวกันไว้แล้วและไม่ใช่ความสูงอะไรมาก หากพอเข้าฉากจริง เกิดผิดคิวเล็กน้อย ท้องเธอกระแทกเข้ากับราวเหล็กขนาดใหญ่อย่างจัง แต่ก็พยายามแสดงต่อจนกระทั่งหล่นลงมานอนที่พื้น ต่อบทอีกเล็กน้อยก็สั่งคัท

มินตราปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อย และรุนแรงขึ้น พอลุกก็รู้สึกมีอะไรเหนียวๆ ไหลมาที่หว่างขา เท่านั้นก็ชุลมุนกันใหญ่ ได้ยินเสียงคนบอกพาเธอส่งโรงพยาบาล เธอก็พยายามตั้งสติแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

หากไม่มีใครบอกเธอได้ พอถึงโรงพยาบาลแล้วหมอพาเธอไปตรวจจนมั่นใจ จนรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

หมออธิบายให้เธอเข้าใจ เธอจำได้แต่ว่า “คุณแท้ง”

“แท้งเหรอ ไม่นะ” มินตรากรีดร้องแล้วก็ร้องไห้หนักมากจนเป็นลมไป ตัวอ่อนใจครรภ์ถูกกระแทกอย่างแรงจนเสียหาย และเพราะมินตราไม่มีสติ หมอจึงต้องรักษาตามหน้าที่

มินตราตื่นขึ้นในช่วงสายของวันใหม่ มีดอกไม้ให้กำลังใจอยู่เป็นจำนวนมากจากทีมงาน พอเธอนึกออกว่าหมอบอกอะไร เธอก็ร้องไห้หนักขึ้น เพราะตอนนี้อยู่ลำพังคนเดียว จนทีมงานเข้ามา

“ขอโทรศัพท์ให้ฉันหน่อย” มินตราบอกทีมงานแล้วโทรหาสามี

คิลเลี่ยนงัวเงียเพราะเป็นช่วงใกล้เช้ามืดของวัน เห็นเป็นเบอร์มินตราก็รีบรับ “มีอะไรเหรอ มินต์ ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น” เขาลุกขึ้นนั่ง เพราะเสียงร้องไห้ของเธอและพยายามตั้งสติ

“พี่เค มินต์แท้ง” มินตราบอกสามีแล้วร้องไห้

“แท้ง?” คิลเลี่ยนทวนคำแล้วพยายามตั้งสติ “เกิดอะไรขึ้น”

“มินต์ไม่รู้ว่ามินต์ท้อง นี่มันก็ฉากสุดท้ายแล้ว มินต์ต้องห้อยลงมา แต่มันผิดคิว มินต์กระแทกกับราวจับ แล้วถูกทีมงานหย่อนลงมา พอถ่ายจบฉาก มินต์มีเลือดออก ทางกองถ่ายพามินต์ส่งโรงพยาบาล หมอถึงบอกว่ามินต์แท้ง มินต์ขอโทษนะ พี่เค” มินตราพร่ำขอโทษเขาไม่ขาดปาก

คิลเลี่ยนรวบรวมสติ เขาก็เสียใจ แต่ตอนนี้คนที่เสียใจมากกว่าใครคงจะเป็นมินตรา และเธอก็กลัวเขาจะผิดหวังในตัวเธอด้วย เขาจึงได้แต่ปลอบเธอ “ไม่เป็นไร มินต์ไม่รู้นี่จ๊ะ นี่หมอว่าไงบ้าง”

“หมอไม่ว่าอะไร หมอก็ปลอบ บอกว่ามินต์ยังมีลูกใหม่ได้ เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ ทางทีมงานทางนี้เขาก็กลัวว่าเราจะฟ้องเขา มินต์ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว” มินตราบอกตามตรง เธอยังไม่รู้จะหาทางออกยังไง

“ใจเย็นๆ สิมินต์ ทางกองถ่ายเขาว่ายังไงบ้าง” คิลเลี่ยนพยายามปลอบให้เธอใจเย็นๆ

“เขาเสนอจ่ายค่าเสียหายให้มินต์ เห็นว่าวันนี้ทนายความของเขาจะมาคุยด้วย” มินตราถอนหายใจยาว แล้วเช็ดน้ำตากับน้ำมูกที่ไหลไม่หยุด

“งั้นมินต์บอกเขาว่า ขอดูสัญญาก่อน จะเอาให้ทนายศึกษา พี่จะโทรหาทนายความ ให้เขาตามไป พี่จะลองโทรถามแม่พี่ว่าไปอยู่เป็นเพื่อนมินต์ได้ไหม พี่อยากไปนะ แต่ เฮ้อ พี่ต้องออกคอนเสิร์ต ไม่งั้นเราจะโดนปรับ” คิลเลี่ยนอธิบายความ แม้จะอยากไปใกล้ๆ อยู่เธอก็ตาม

“ยังไงก็ได้ค่ะ” มินตราเบาใจที่เขาไม่โกรธ แต่ยังเสียใจอยู่ไม่หาย

“เรื่องค่าเสียหายพี่ว่าไม่ต้องอะไรมาก แค่สัญญาเป็นธรรมก็พอ ให้ทนายเขาดูแลไปนะ อย่าคิดมาก ไว้เราค่อยพยายามกันใหม่” คิลเลี่ยนปลอบใจมินตราได้แค่เสียง ทั้งที่อยากกอดปลอบเธอใจจะขาด

“ค่ะ” มินตราถอนหายใจยาว ดีที่เขาไม่ต่อว่าเธอแต่นิสัยอย่างเขามีเหตุผลพอ

“มินต์ไม่โกรธที่พี่ไม่ได้ไปอยู่ด้วยนะ” คิลเลี่ยนถามภรรยาแล้วเขาก็ถอนหายใจอีกรอบ

“ค่ะ มินต์เข้าใจค่ะ” มินตรารู้ว่าเขาจำเป็นต้องอยู่ต่อ เพราะค่าปรับนั้นสูงเกินไป อีกอย่างเธอก็อยู่ในความดูแลของหมอแล้ว ไม่ได้มีอันตรายอีก หากเสียใจที่เสียลูกไปเท่านั้น

“เดี๋ยวพี่โทรหาทนายกับแม่ก่อนนะ ใจเย็นๆ พี่อยู่กับมินต์เสมอ” คิลเลี่ยนบอกแล้วก็รีบโทรหาแม่ พอแม่ตกลงจะไป เขาก็โทรหาทนายความเรื่องค่าเสียหาย

ไม่คิดว่าจะมีเรื่องใหญ่แบบนี้ เขาเสียดายที่ต้องเสียลูก และรู้ว่าเธอเสียใจและผิดหวังแค่ไหน

มินตราได้รับสายจากศนิ จึงบอกไปตามตรง สักพักศนิก็ตามมาพร้อมโชติ

“โชคร้ายจริงๆ แต่อย่าไปคิดมากล่ะ” ศนิปลอบเพื่อนแล้วก็ถอนหายใจ

สักพักคิลเลี่ยนก็โทรเข้ามาอีกรอบ บอกเรื่องแม่เขาจะไปเยี่ยมลูกสะใภ้และอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าลูกสะใภ้จะเดินทางกลับอังกฤษได้ และทนายความก็ให้มินตราส่งสัญญาจากทางค่ายหนังไปให้

“เฮ้อ เรื่องเยอะจริงๆ” ศนิพูดกับเพื่อนแล้วสงสาร ถึงจะห่างเหินกันไป แต่ก็หัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน

“อืม แล้วเธอกลับวันไหนล่ะ” มินตราถาม เพราะกว่าแม่เขาจะมาถึงก็ตั้งพรุ่งนี้บ่ายๆ เพราะลูกสะใภ้เกิดอุบัติเหตุ และต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อน

ศนิบอกไปแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนอีกพักก็ค่อยออกไปเที่ยวต่อ ส่วนโชติขออยู่ต่อ เพราะเป็นห่วงเธอ

“คิลเลี่ยนว่าไงบ้างล่ะ” โชติถามและอยากรู้ความเป็นไปมากกว่า

“พี่เคเขาก็เสียใจ แต่ช่วงนี้เขางานยุ่ง ก็เลยมาไม่ได้น่ะ เขาจะให้เฮเลนมาแทน” มินตราบอกแล้วก็ซุกตัวนอนต่อ น้ำตาเพิ่งแห้ง ใจเธอก็ระบม

“กลับไปรักษาต่อที่เมืองไทยไหม” โชติถาม เพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนดูแล เข้าไปจับมือเธอ แต่มินตราหดมือกลับ เขาก็ใจเสียเล็กน้อย

“ฉันยังต้องคุยงานอีกค่ะ ถ้าจะรักษาตัวก็คงไปอังกฤษ เฮเลนจะสะดวกกว่าเยอะ แล้วก็นัดมาคุยงานที่บ้านแทน ส่วนพี่เคเขาคงทำงานเขาให้เสร็จ ก็คงร่วมเดือน กว่าจะได้เจอกัน ยังไงก็ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์มาเยี่ยม” มินตราพูดในตอนท้าย ทิ้งระยะห่างจากโชติมากขึ้น หวังว่าเขาจะเข้าใจ แล้วก็ถอนหายใจยาว

บ่ายนี้ยังต้องยุ่งอีกเยอะ เหตุที่ผิดคิวก็เป็นทีมงานที่ดูแลสลิงไม่ดี ส่วนเธอก็มีส่วนผิดที่ไม่รู้ว่าตัวเองท้อง ทำให้ทุกอย่างวุ่นวาย พอตกลงกันได้แล้ว มินตราก็ส่งสัญญาให้ทนายความจัดการตามระเบียบเท่านั้น

มีอีกหลายคนมาเยี่ยมเธอ กว่ามินตราจะได้มีเวลาส่วนตัวก็เย็นมากแล้ว เธอจึงค่อยโพสต์ลงหน้าเฟซบุ๊คของเธอ

‘ฉันเสียใจกับความประมาทครั้งนี้ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้จะระวังตัวให้มาก ชีวิตหนึ่งจึงไม่ได้ลืมตาดูโลก หวังว่าครั้งหน้าเราจะได้อยู่ด้วยกันนะ รัก’

โชติมองเธอร้องไห้น้ำตาซึมก็ถอนหายใจยาว เมื่อก่อนมินตราก็ร้องไห้ง่ายแบบนี้ แต่กระนั้นเขาถึงคบกับเธอได้นาน แต่พอมีผู้หญิงที่พ่อแม่เขาสนับสนุน และหล่อนก็ทอดกายให้เขา เขาก็ไม่พลาดที่จะคว้าเอาไว้ แล้วทิ้งเธอไป มาบัดนี้เขากลับเสียดายกับอะไรๆ ที่เสียไปพร้อมกับเธอ

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
ทะเลาะกันไม่นานก็ดีกันน่ะคู่นี้
พี่เคก็รักน้องมินต์ของพี่เค
น้องมินต์ก็รักพี่เคของน้องมินต์ อิอิ
เฮ้อ เสียลูกจนได้ สงสารเนาะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - 555+ แอบขัดใจผู้อ่านเล็กน้อยค่ะ
คุณkonhin - มินต์ไม่อะไรกับมาเตโอหรอกค่ะ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาแอบชอบ 555+พี่เคหึงโหดค่า
คุณร้อยวจี - อุปสรรคที่ต้องต่อสู้ไปค่า
พี่ตุ้งแช่ - 555+ ยากๆ คนเคยโสดเคยอิสระมากก็งี้แหละค่ะ
คุณเดิมเดิม - มีเรื่องให้เสียน้ำตาเรื่อยๆ ค่ะ
คุณใบบัวน่ารัก - หึงแรงจริงๆ ค่ะ แต่สติพี่เคมาไวค่ะ // เป็นนางร้ายค่ะ ก็ต้องเซ็กซี่หน่อยค่ะ

คุณนอนดูดาว - มีแล้วเสียลูกไปแล้วด้วยค่ะ น่าสงสารเนาะ T-T

ป.ล. อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มี.ค. 2557, 18:37:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มี.ค. 2557, 18:37:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1810





<< Crying Villain ตอนที่ 10   Crying Villain ตอนที่ 12 >>
ร้อยวจี 3 มี.ค. 2557, 20:31:15 น.
เป็นกำลังใจให้มินต์กับเคค่ะ อย่าท้อนะคะ หนทางยังอีกไกล ขอเพียงเข้าใจกันตลอดแบบนี้ก็แฮปปี้แล้วค่ะ


konhin 3 มี.ค. 2557, 20:44:42 น.
พี่เคหึงโหดจริงๆด้วยย ว่าแต่เมื่อไหร่พี่เคกับหนูมิ้นจะได้มีความสุขกันนานๆแบบไม่มีปัญหามาขัดจังหวะซะที


น้องแสตมป์ 3 มี.ค. 2557, 21:08:12 น.
เสียใจแทน ที่อดเห็นลูกน้อย ไม่เป็นไรสู้ใหม่ได้ แต่ก้อเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อ แม่ เราเองก้อเคยเกือบแท้งลูกตอน 3เดือน เพราะภาวะแท้งคุกคาม ดีว่าหมอเก่งเลยเอาอยู่ ให้เร่ได้ชื้นใจกับเจ้าตัวแสบในวันนี้


นักอ่านเหนียวหนึบ 3 มี.ค. 2557, 22:51:28 น.
ไม่ขัดใจละค้า
มาเร็ว เคลมเร็วขนาดนี้
อะเค ผ่านนน
5555


ใบบัวน่ารัก 4 มี.ค. 2557, 19:19:00 น.
ระวังผู้หวังดีประสงร้าย ล้อบๆๆตัว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account