My herat อดีตปัจจุบันหัวใจของฉันก็คือเธอ
วันคริสต์มาสปีนี้ฉันโดดเดี่ยวเดียวดายเหลือเกิน~ ToT แต่ก็ยังดีที่มียัยนาวเพื่อนซี้ของฉันไปเดินเล่นงานวันคริสต์มาสด้วย แต่เมื่อวันคริสต์มาสผ่านไป ห้องเรียนของฉันก็มีเพื่อนใหม่เข้ามาตั้ง 2 คน แต่ฉันก็ต้องช็อคเมื่อหนึ่งในนั้นมี 'รัฟเฟิล' คนที่ฉันเฝ้ารอเขามานานแสนนาน แต่การกลับมาของเขาครั้งนี้มันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือมาก! เขาไม่ใช่รัฟเฟิลที่แสนดีอีกต่อไป แล้ว'ปีใหม่' คนนี้ต้องทำยังไงเขาถึงจะกลับมาเป็นคนที่อ่อนหวานเหมือนเดิม....
Tags: My herat อดีตปัจจุบันหัวใจของฉันก็คือเธอ
ตอน: บทที่ 2
บทที่ 2
6.00 น.
กริ๊ง !!!! ~
ปึก !
ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกตามเคยเช่นทุกวัน แต่ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกตามันหนักอึ้งยังไงไม่รู้ สงสัยคงเป็นเพราะฉันร้องไห้เมื่อคืนนี้มั้ง ฮ่าว~ โอยย ง่วงชะมัดเลยเมื่อคืนฉันได้นอนแค่ 3 ช.ม. เอง ก็มัวแต่คิดเรื่องข้อความที่ส่งมาเมื่อคืนนี้นั้นแหละ ฉันลุกออกจากเตียงและเดินไปเข้าห้องน้ำ พอฉันแต่งตัวมัดผมเสร็จ ฉันก็เดินลงมาทานข้าวกับพ่อเหมือนเดิม ระหว่างที่ฉันกำลังจะหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ แต่ทว่าฉันก็ต้องแทบตกเก้าอี้เมื่อแม่ของฉันที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวกรี๊ดเสียงดังลั่นเหมือนเห็นผี (ก็แกนั้นแหละผี >o<)
“ กรี๊ด !!!! ยัยใหม่นี่หนูไปทำอะไรมาลูกทำไมตาถึงได้ทั้งบวมทั้งคล้ำอย่างนั้น O_O!” แม่ฉันพูดพร้อมกับวิ่งมาหาฉันที่นั่งซังกะตายอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ แหม แม่ก็เอะอะโวยวายไป ลูกเรามันโตเป็นสาวแล้ว มันก็คงช่วยตัวเองดึกไปหน่อยน่ะแหละ ^o^”
พรวด !!
ฉันที่กำลังตักโจ๊กเข้าปากก็ต้องพ้นออกมาด้วยความเร็วสูงเมื่อได้ยินประโยคที่พ่อพูด O_O แต่พ่อของฉันก็ใช่ย่อยซะที่ไหน หลบไวยิ่งกว่าเดอะแมดทริกซ์อีก - -^ ฉันมองหน้าพ่อด้วยความตกใจ ก็แหมพูดออกมาได้ไงว่าที่ขอบตาฉันคล้ำเพราะช่วยตัวเอง ! จะบ้าตาย แค่นั้นไม่พอแม่ผู้ใสซื่อของฉันก็ถามคำถามที่ทำให้ฉันอยากจะวิ่งออกไปให้รถชนตายวันละ 10 รอบ -_-^
“ ช่วยตัวเอง ? O_O มันคืออะไรหรอพ่อ”
“ โว๊ยย !! พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้เลยหนูจะไปเรียนแล้ว พ่อไปเร็วๆ”
ย๊ากก !! ไม่กงไม่กินมันแล้วโจ๊ก นี่มันอะไรกันเนี่ย ตื่นเช้ามาก็เจอเรื่องทุเรศๆนี้แล้ว ฉันรีบลากพ่อออกมา ก่อนที่พ่อฉันจะเปิดประเด็นไปมากกว่านี้ พ่อฉันรีบยัดขนมปังเข้าปากอย่างรวดเร็วแล้วเดินตามแรงลากของฉันมา แม่ฉันที่ยืนงงอยู่นั้น ก็ตะโกนไล่หลังพ่อฉันว่าให้กับมาเล่าให้ฟังด้วยว่าไอ้ช่วยตัวเองมันคืออะไร แอร้ยย ! นี่แม่ฉันยังไม่จบใช่ไหมเนี้ย ~
“ ได้เลยจ้ะ ที่รัก ^o^”
พ่อของฉันหันไปตอบแม่ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถ ฉันรีบบอกให้พ่อขับรถออกไปเร็วๆ พ่อทำท่าเลิ่กลั่กเหมือนกลัวว่าฉันจะกิน รีบสตาร์ทเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว
เห้อ ~ ถึงโรงเรียนซักที วันนี้รถติดเป็นบ้าเลย ใครมันเสด็จกันมาเนี้ย ! -_-“ ฉันหันไปสวัสดีพ่ออย่างเคืองๆแล้วลงจากรถ พ่อฉันเหมทอรู้ว่าฉันเคืองก็ยิ้มแหยแล้วชู 2 นิ้วขึ้น พร้อมกับพูดว่า ‘ไม่ต้องเครียดเรื่องเมื่อเช้าน่ะ พ่อเข้าใจวัยรุ่นลูก >o<’ แล้วหลังจากนั้นพ่อก็รีบออกรถไปเลย ทิ้งให้ฉันยืนเอ๋ออยู่คนเดียว แง~ ทำไมไม่มีใครเข้าฉันเลย T^T
“ ยัยใหม่ ~ มาแล้วหรอ แว๊ก ! OoO!”
เสียงยัยนาวดังมาแต่ไกล มันวิ่งเข้ามาหาฉันที่ยืนหมดอะไรตายอยากอยู่หน้าโรงเรียน แต่เมื่อมันวิ่งมาถึงตัวฉันมันก็กรี๊ดซะฉันตกใจเลย - -“
“ เห้ย ! ยัยใหม่ นี่แกไปทำอะไรกับตาแกมาว่ะ OoO”
“ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง เรื่องที่ฉันบอกแกเมื่อคืนแหละ”
ฉันเห็นท่าทางตกใจของเพื่อน ฉันก็เลยเล่าให้มันฟังระหว่างที่เรากำลังเดินขึ้นห้อง พอฉันเล่าจบมันทำท่าคิดปนตกใจ แฮ่กๆ ว่าแต่เล่าตอนเดินขึ้นบันไดนี่มันเหนื่อยจริงๆเลยอ่ะ ฉันว่าวันนี้ฉันต้องน้ำหนักลง 1-2 กิโลกรัมแน่ ฮิ้ว ~ \ (^o^) / (เอาแล้วไง (- -“) )
“ แก ฉันว่ามันต้องเป็นพวกโรคจิตแน่เลยอ่ะ OoO” พอขึ้นมาถึงห้อง หย่อนก้นนั่งไม่ถึงนาที ยัยนาวก็เปิดประเด็นเลย ให้ฉันพักเหนื่อยก่อนไม่ได้หรือไงย่ะ - -
“ จะบ้าอ๋อ โรคจิตที่ไหนจะส่งข้อความมา Merry Christmas ฉันว่ะ (- -“)”
“ มันก็ไม่แน่น่ะแก อาจจะแบบว่าถ้ำมองแกมานานแล้ว แบบอยากได้แกเป็นเมีย และพอเวลาที่แกอยู่คนเดียว มันก็ฉุดแกมาปล้ำทำเมียเลยก็ได้น่ะ บรึ้ย ~ น่ากลัวว่ะ ><”
“ อีบ้า ! คิดได้ไงว่ะ”
ฉันว่าคนที่น่ากลัวเริ่มจะไม่ใช่ไอ้โรคจิตแล้วแหละมันเริ่มจะเป็นยัยนาวเพื่อนสนิทของฉันเองนี่แหละที่น่ากลัว มันเรียนหนักเกินหรือว่ามันเก็บกดเรื่องไม่มีใครเอาจนทำให้คิดเรื่องบ้าๆนี่ได้หรือเปล่าว่ะเนี้ย O_O!
“ เฮ้ ~ สวัสดีทุกคน เย้ย ! O_O”
นั่นไง มาอีกคนและ นายมิคกี้ นี่จะตกใจอะไรคนสวยนักหนาเนี้ย ! >< แค่นอนไม่หลับแค่นี้เนี้ยน่ะ ตอนนี้ตาฉันมันเริ่มหายบวม แต่ขอบตาฉันยังคล้ำอยู่นิดหน่อยเอง ทำอย่างกับเห็นผีเหมือนแม่ฉันเลย ฉันสวยกว่าผีตั้งเยอะ ^o^
“ ฮ่าๆ ขนาดมิคกี้ยังตกใจเลยอ่ะ” ยัยนาวแทรกขึ้น
“ แล้วทำไมใหม่ถึงขอบตาคล้ำขนาดนั้นหล่ะ O_O’
“ อ้ะ ! นี่ไปสนิทกันตอนไหนเนี่ยถึงเรียกไอ้ใหม่ว่า’ใหม่’ อย่าบอกน่ะว่ากลับบ้านด้วยกันเมื่อคืนวันเดียวพวกแกก็…”
“ เห้ย ! เลิกคิดเลยน่ะยัยบ้า ! สมองเดี๋ยวนี้คิดแต่เรื่องพวกนี้แล้วไง”
ฉันหันไปตบหัวยัยนาวทีหนึ่ง ก่อนที่มันจะคิดไรไปมากกว่านี้ ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองมิคกี้ที่ยังยืนตาโตอยู่ นายนี้ก็ไม่คิดจะหาที่นั่งเลยหรือไง พอค้างก็ค้างอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อนเลย เห้อ ~
“ ไม่มีไรหรอกฉันนอนไม่ค่อยหลับหน่ะ” ฉันตอบมิคกี้ไปเพื่อจะตัดปัญหาเพราะถ้าฉันไม่ตอบ นายนั่นก็คงยืนค้างอยู่แค่นั้นแหละ
“ อ๋อ งั้นฉันขอย้ายมานั่งกับพวกเธอได้ไหมอ่ะ *o*”
“ ก็เอาสิ นั่งด้วยกันจะได้มีเพื่อนคุยเยอะๆ ^o^” ยัยนาวตอบตกลงแทบจะทันที แหม น้อยๆหย่อยย่ะยัยนาว ไม่ได้คิดก่อนตอบเลย นี่ถ้ามีผู้ชายหล่อราวเทพบุตรมาชวนไปกระโดดตึกตายมันคงยอมพลีชีวิตมันเลยหล่ะมั้งเนี่ย - -“
ตึ่ง ตึง ตึ่ง ตึง ~
เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนดังแล้วว แง้~ ไม่อยากเรียนคาบแรกเลยเพราะเช้ามาก็เปิดการเรียนด้วยวิชาคณิตศาสตร์หน่ะสิ T^T ฉันไม่ชอบเลยเพราะฉันเป็นคนคิดเลขไม่เก่งง่า ~ ตอนนี้มิคกี้ย้ายมานั่งกับพวกฉันแล้วเขานั่งซ้ายมือฉัน ส่วนฉันนั่งตรงกลางและขวามือของฉันก็คือยัยนาว สักพักอาจารย์ ดรุณีก็เดินเข้ามา แต่วันนี้อาจารย์แกดูยิ้มแย้มผิดปกติขนาดเด็กเรียนอย่างยัยนาวยังหันมาพูดกับฉันเลย
“ นี่แก ทำไมวันนี้เจ้แกดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษว่ะ O.O”
“ ไม่รู้สิ สงสัยไปเจอคนที่ถูกใจมามั้งเลยอารมณ์ดี ฮ่าๆ ^o^”
“ นี้ ! พวกเธอ 2 คน นินทาอะไรฉันห่ะ !”
เฮือก ! O_O
ฉันกับยัยนาวสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงแหลมตะโกนมาทางนี้ ตอนนี้ฉันกันยัยนาวหันมานั่งหน้าตรงและหลังตรงโดยอัตโนมัติ และยิ้มสู้ไว้ก่อน แหะๆ
“ อ๋อ เปล่านินทาค่ะ หนูกับนภัสสรแค่บอกว่าวันนี้อาจารย์แต่งตัวสวยดีค่ะ ^^’’”
ฉันรีบตอบอาจารย์อย่างกล้าๆกลัวๆ แต่อาจารย์ ดรุณี เป็นคนบ้ายอฉันก็เลยต้องงัดไม่นี้มาใช้เหมือนตอนม.ต้น ฉันก็เคยทำแบบนี้ ฮ่าๆ
“ งั้นก็แล้วไป อะแฮ่ม ! วันนี้ห้องเราจะมีเด็กใหม่เพิ่มมา 2 คนน่ะจ้ะ ตบมือต้อนรับพวกเขาหน่อยจ้ะ ^o^” ห่ะ ! นี่มัน ม.6 แล้วน่ะ ยังมีเด็กมาเข้าอีกหรอเนี้ย O.O
แปะๆ !!
ฟิ้ว ~~
อ่าว เห้ย ! กระดาษใบงานของฉันมันดันปลิวไปหลังห้องอีก ลมมาแรงอะไรตอนนี้เนี้ย ฉันวิ่งตามใบงานไปหลังห้อง พอฉันตะขุบมันได้และหันหลังกำลังจะกลับไปนั่งที่ ทว่าฉันกลับต้องหยุดชะงักเพราะเมื่อฉันเงยหน้ามองผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าห้อง 2 คนนั้น ก็ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจเพราะหนึ่งในนั้นมี ‘รัฟเฟิล’ อยู่ด้วย! O.O ตอนนี้ฉันกับเข้าจ้องตากันเหมือนกับว่าตอนนี้มีแค่ฉันกับเขาแค่ 2 คนเท่านั้น เขามองฉันด้วยสายตาที่นิ่งและเรียบเฉยราวกับว่าเขาไม่ตกใจเลยที่เจอฉัน แต่ผิดกับฉันที่ตอนนี้ยืนเบิกตากว้างและอ้าปากค้างด้วยความตกใจสุดขีด O[]O ! แต่ขณะที่ฉันจ้องตากับเขา ฉันก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงแหลมของอาจารย์ ดรุณี ที่ยืนดูพวกเรายืนจ้องตากันอยู่นานสองนาน
“ อะแฮ่ม ! นี่ มณรัตน์จ้ะ เมื่อไหร่เธอจะนั่งจ้ะ จะยืนอยู่อีกนานไหม - -^”
“ เอ่อ…ค่ะ ค่ะ ^^””
พอฉันได้สติฉันก็รีบเดินไปนั่งที่ ยัยนาวมองหน้าฉันอย่างงงๆ แต่ก็ยังไม่ถามอะไร ยัยนาวมันไม่เคยเห็นรัฟเฟิลมาก่อนมันรู้แค่เรื่องราวระหว่างฉันกับเขาเท่านั้น
“ อ่าว นักเรียนทุกคนเงียบ !!”
อาจารย์ ดรุณี หันมาทำหน้าโหดใส่ราวกับจะฆ่าแกงกัน - -“ พร้อมกับบอกให้นักเรียนทุกคนในห้องเงียบโดยเฉพาะสาวๆที่แอบนั่งกรี๊ดกร๊าดรัฟเฟิลกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา และอาจารย์ก็หันกลับไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าที่ร่าเริงเชียว (ปรับไวจังว่ะ - -“)
“ อ๊ะ พวกเธอ 2 คนแนะนำตัวเลยจ้ะ ^^”
แหม อาจารย์หรือกิ่งก่าเนี่ย ทำไมถึงได้ปรับเปลี่ยนอารมณ์ไวขนาดนี้ ~ อาจารย์ก็อายุเยอะแล้วน่ะ แต่ดูจากสายตาและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่มองเด็กผู้ชาย 2 คนนั้น โอยย เหมือนแกลืมเรื่องสามีกับลูกแกไปเลย - -“
“ สวัสดีครับ ผมชื่อ เศรษฐวิชย์ ชื่อเล่นชื่อ ไบรอัน ครับ ^^”
กร๊ด !!~
“ สวัสดีครับ ผมชื่อ วีรุวัฒน์ ชื่อเล่นชื่อ รัฟเฟืล ครับ”
กรี๊ด !!!!~
เห้ย !! ดังไปหรือเปล่าย่ะ ว่าแต่ทำไมรัฟเฟิลถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ ทำไมน้ำเสียงของเขาถึงได้ดูเย็นชาอย่างนี้หล่ะ ฉันไม่ชอบเลย T^T พอพวกเขาแนะนำตัวเสร็จ รัฟเฟิลกับไบรอันก็เดินผ่านหน้าฉันไปนั่งข้างหลังห้องเลย แต่เขานั่งอยู่แถวเดียวกันฉัน นี่เขาไม่คิดจะทักทายฉันหน่อยเลยหรอ ทำไมเขาต้องทำเป็นไม่รุ้จักฉันด้วยน่ะ เขาจะรู้บ้างไหมว่าฉันคิดถึงเขามากแค่ไหน T^T
จึก จึก
เฮือก O.O
แต่แล้วฉันก็ต้องสะดุ้งตื่นจากความคิด เมื่อยัยนาวเอานิ้วชี้มาจิ้มฉันราวกับว่าฉันเป็นขี้อย่างนั้นแหละ
-0- ยัยนี่มองฉันอย่างคาดคั้นเมื่อเห็นอาการเอ๋อๆของฉัน
“ นิ ยัยใหม่ บอกมาเลยน่ะว่าแกรู้จัก 2 คนนั้นหรือเปล่า *^*”
“ เอ่อ…คือ แกเอาหูมานี่”
ยัยนาวรีบยื่นหูมาหาฉันอย่างรวดเร็ว ฉันกระซิบบอกยัยนาวเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน พอยัยนาวรู้เท่านั้นแหละ มันก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจจนฉันแทบจะปิดปากมันไม่ทัน -0-
“ ห่ะ !! รัฟ…โอ๊ย ! T0T”
ปึก !
“ ชู่ ~ >o<”
ฉันตบหัวมันไปทีหนึ่ง ตอนที่มันจะพูดชื่อ รัฟเฟิล ออกมา ยัยบ้าเอ้ย ! ทำไมต้องตกใจอะไรเว่อร์ขนาดเน้~ เดี๋ยวก็ได้ซวยทั้งคู่หรอก >< ฉันชูนิ้วชี้ขึ้นทาบที่ปากเป็นเชิงบอกว่า ให้มันเงียบๆห้ามพูดชื่อนี้
“ แกตบหัวฉันทำไมอ่ะ ฉันแค่จะบอกว่า รัฟเด็กใหม่แค่ 2 คนนี้ก็พอแล้วอ่ะ >o<”
ดูมันแถไปเรื่อย ‘รับ’ ย่ะ ไม่ใช่ ‘รัฟ’ เห้อ~ ฉันหันไปมองรัฟเฟิลที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้น่ะ
“ เฮ้ ! สวัสดี เธอชื่ออะไรอ่ะ ^o^”
เฮือก ! O_O
ไบรอันที่เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือแล้วพบว่าฉันกำลังมองไปทางที่เขานั่งอยู่ก็ตะโกนทักฉันอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาซะฉันแทบตกจากเก้าอี้ -0-
“ ห่ะ อ๋อ เอ่อ…ฉันชื่อ ปีใหม่ หน่ะ แหะๆ ^^’”
ฉันยิ้มแห้งๆให้เขา แต่ทว่าฉันเห็นรัฟเฟิลเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือนิดนึง แล้วก็ใช้หางตามองฉันด้วยความเรียบเฉย ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือต่อ นี่เขาเป็นอะไรของเขาเนี่ย ! ฮึ่ย !
“ ยินดีที่ได้รู้จักน่ะปีใหม่ ^o^”
ไบรอันที่ยังคงร่าเริงอยู่ พูดต่อก่อนที่จะใช้มือข้างขวาทำท่าวันทยาหัตพลางฉีกยิ้มกว้างก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ฉันพยักหน้าแล้วยิ้มเจือนๆตอบเขา
วันนี้ตลอดทั้งวัน ตัวหนังสือแทบจะไม่ได้เข้าสมองฉันเลย ฉันมัวแต่นั่งเหม่อคิดแต่เรื่องของ รัฟเฟิล พออาจารย์ถามอะไรฉันก็ตอบไม่ได้สักข้อ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ จนถึงเวลาเลิกเรียนนักเรียนทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปกันหมดแล้ว เหลือแค่กลุ่มฉันกับรัฟเฟิลและก็ไบรอัน ฉันเก็บของเข้ากระเป๋าเสร็จแล้ว และกำลังจะเดินเข้าไปทัก รัฟเฟิล ที่กำลังสะพายกระเป๋าและกำลังจะเดินออกนอกห้อง แต่ทว่าเขากับเดินผ่านหน้าฉันไปเฉยราวกับว่าเขามองไม่เห็นฉัน ฉันที่ได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกสมองของฉันไม่ยังไม่สั่งการ แต่ปากของฉันมันเร็วกว่าสมองเสียอีก
“ รัฟเฟิล !”
เขาหยุดชะงัก และยังคงหันหลังให้ฉันอยู่เขายืนนิ่งไม่พูดอะไร ไบรอันก็หยุดเดินแล้วหันมาหาฉันอย่างงงๆ ฉันเลยเป็นฝ่ายถามต่อ
“ นายกลับมานานแล้วหรอ ? ^^””
ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นแรงมากเมื่อได้คุยกับเขา (ตรงไหนย่ะ ฉันเห็นแกพูดอยู่ฝ่ายเดียว - -) แต่ทว่าในเวลาเดียวกันหัวใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แสนจะเย็นชาของเขา
“ อืม…”
เขาพูดพลางพงกหัวหนึ่งทีก่อนที่เขาจะเดินจากไป ให้ตายเถอะ ! นี่มันอะไรกัน ทำไมตอนนี้หัวใจของฉันมันเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม เพราะฉันไม่มีแรงที่จะก้าวต่อไปแล้ว…
“ ยัยใหม่ เป็นอะไรหรือเปล่า”
น้ำเสียงเป็นห่วงจากยัยนาว มันทำให้ฉันอยากจะร้องไห้แต่ฉันก็ต้องกลั่นมันเอาไว้ ฉันไม่อยากให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ !
“ ใหม่รู้จักกับเขาด้วยหรอ ?”
มิคกี้ที่ยืนเงียบอยู่นาน ก็เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด แต่พอเห็นฉันไม่พูดอะไร มิคกี้ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะกลัวว่าฉันจะโกรธที่เขาพูดมาก
“ เอ่อ งั้นเราไปนั่งกินไอศกรีมร้านหน้าโรงเรียนดีกว่าเนาะ ^o^” มิคกี้ปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงกว่าเดิมและหันมาชวนฉันกับยัยนาวไปกินไอศกรีม
พอพวกเรามาถึงร้านไอศกรีมมิคกี้ก็อาสาไปซื้อไอศกรีมให้ บรรยากาศในร้านนี้จัดได้น่ารักดี มีเสียงเพลงเคล้ากับบรรยากาศในร้าน จัดได้ว่าถ้าใครมาที่นี่ก็คงผ่อนคลายเยอะเลย ฉันมองผ่านกระจกออกไปนอกร้านเพื่อผ่อนคลายจะว่าไปโรงเรียนของฉันนักเรียนก็เยอะใช่ได้เลยน่ะเนี่ย แต่ทว่าฉันก็ต้องชะงักเมื่อสายตาของฉันมันไปสะดุดกับภาพที่ทำให้ฉันชาไปทั้งตัว มันคือภาพที่ยัยแอนเดรียเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ค่อยถูกกับฉัน กำลังเดินควงแขนอยู่กับรัฟเฟิล !! นี่มันอะไรกัน ! 2 คนนั้นไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่และที่เขาทำท่าทีเย็นชาใส่ฉันก็เพราะว่าเขามีแอนเดรียอยู่แล้วหรอ ! O.O ตอนนี้สมองของฉันมืดสนิท สายตาของฉันยังคงจ้องอยู่กับภาพนั้น ฉันมองดูเขา 2 คนเดินด้วยกันจบลับตาไป ยัยนาวที่เห็นท่าทีของฉันก็รีบมองตาม พอมันเห็นอย่างที่ฉันเห็นมันก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ที่เห็น 2 คนนั้นเดินด้วยกัน มันหันกลับมามองฉันแล้วรีบพูดปลอบ ไม่ให้ฉันคิดไปมากกว่านี้
“ ยัยใหม่ แกอย่าคิดมากน่ะเว้ย มันคงไม่มีอะไรหรอก ยัยแอนเดรียมันก็นิสัยแบบนี้แหละ เรายังไม่รู้อะไรแกอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปน่ะ”
“ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนน่ะ”
ตอนนี้ความอดทนของฉันมันถึงขีดสุดแล้ว ฉันไม่สามารถกลั่นมันไว้ได้อีกต่อไป ฉันวิ่งออกมาจากร้านไอศกรีม ตอนนี้ตาทั้ง 2 ข้างของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา เท้าสองข้างของฉันยังคงวิ่งไปอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องวิ่งไปให้ไกลที่สุด ฉันก้มหน้าก้มตาวิ่งโดยที่ไม่ดูทาง พอฉันเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็มีแสงไฟจากรถที่กำลังมุ่งหน้ามาทางฉันพร้อมกับบีบแตรเสียงดังลั่น แต่ทว่าขาของฉันมันดันก้าวไม่ออก ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่จะยกแขนขึ้นมาบังหน้าไว้ ในใจฉันคิดแค่ว่าฉันคงไม่รอดแน่ๆ
ปรี๊น !!~
กรี๊ด !!~
ตุ้บ !!
เฮือก O_O
ฉันรีบลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เห้ย ! นี่ฉันยังไม่ตายหรอเนี่ย O.O ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตอนนี้หน้าของฉันซุกอยู่บนหน้าอกของใครซักคน เขากอดฉันไว้แน่นราวกับกลัวว่าฉันจะหายไปไหน ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่กอดฉันไว้แน่น แต่แล้วฉันก็ต้องเบิกตากว้างเพราะว่าคนที่กอดฉันอยู่คือ รัฟเฟิล ! O0O ฉันรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วและเขาก็ลุกขึ้นนั่งด้วยเช่นกัน
“ ทำบ้าอะไรของเธอเนี้ย ! อยากตายหรือไง !” ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดุดันแต่แฝงไปด้วยความตกใจของเขา
“ ฉะ…ฉันขอโทษ T^T”
“ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ตอนนี้น้ำเสียงของเขาอ่อนลงและอ่อนโยนจนฉันสัมผัสได้ ฉันเงยหน้ามองเขาที่กำลังมองฉันอยู่ ตอนนี้ดวงตาสีฟ้าครามของเขาฉายแววเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของฉันเต้นแรงเป็นบ้าเลย >///<
“ เปล่า ขอบคุณนายมากน่ะ ^^”
“ อื้ม ทีหลังก็วิ่งดูรถด้วยไม่ใช่มองแต่พื้น”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นยืน แต่ทว่าที่แขนข้างซ้ายของเขามีเลือดออกด้วยแหละ O_O ฉันรีบลุกขึ้นตามแล้วเอื้อมมือไปจับแขนเขาอย่างรวดเร็ว จนเขาต้องหันกลับมาอย่างตกใจ
“ เฮ้ แขนนายมีเลือดออกด้วยอ่ะ O.O”
“ แผลแค่นี้เองเดี๋ยวล้างน้ำก็หายแล้ว”
เอิ่ม…เออ ! ฉันรู้ว่านายเก่ง แต่นี่มันแผลน่ะย่ะ ไม่ใช่ขี้ดินที่ล้างน้ำแล้วก็หายไปหน่ะ อวดเก่งเหมือนเดิม เชอะ ! ฉันรู้ว่าตอนนี้นายเจ็บแต่ไม่แสดงออก - _-“ ฉันลากเขามาที่บ้านของฉัน โดยที่ฉันไม่ฟังเสียงคัดค้านอะไรของเขาทั้งนั้น เขาทำหน้างงๆแต่ก็ยอมเดินมาด้วย (จะไม่มาได้ไงก็แกลากเขามาอ่ะ - _-“)
“ นายนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนน่ะ เดี๋ยวฉันมา ^^”
ฉันบอกให้รัฟเฟิลนั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านฉันก่อน ฉันเดินเข้าไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในบ้าน พอฉันเดินออกมาจากบ้านฉันก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้รัฟเฟิลเล่นอยู่กับเจ้าตะเกียบที่วิ่งเข้าไปหาเขาด้วยความคิดถึง รอยยิ้มของเขาดูอ่อนโยนและน่ารักมาก ฉันเดินเข้าไปหาเขาและนั่งลงที่ม้าหินอ่อนข้างๆ แต่พอเขาเห็นฉัน เขาก็หุบยิ้มทันที T^T
“ ตะเกียบ เดี๋ยวพี่ทำแผลก่อนน่ะ ^^’
ดูสิ เขาหันไปพูดกับเจ้าตะเกียบซะเพราะพริ้ง แต่พอหันมาหาฉันกลับทำหน้าไร้ความรู้สึกซะงั้น T^T ฉันเอื้อมมือไปจับแขนเขาแล้วเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์ไปล้างแผลให้เขา รัฟเฟิลกระตุกแขนเล็กน้อยด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร จนกระทั่งฉันพันผ้าก๊อตให้เขาเสร็จ
“ ขอบใจน่ะ”
เอาอีกแล้ว ~ เขาทำน้ำเสียงเย็นชาใส่ฉันอีกแล้ว ฉันได้แต่นั่งพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับบ้าน ฉันเดินไปส่งเขาที่หน้าบ้านกับเจ้าตะเกียบ
“ กลับบ้านดีๆน่ะ ^^”
“ อืม…พี่กลับก่อนน่ะตะเกียบ ^^”
รัฟเฟิลก้มลงไปลาเจ้าตะเกียบก่อนที่เขาจะเงยหน้ามามองหน้าฉันแล้วเข้าก็หันหลังเดินจากไปเลย เห้อ ~ ฉันหล่ะอิจฉาเจ้าตะเกียบจริงๆเลย ฉันกับเจ้าตะเกียบกลับเข้ามาในบ้าน แม่ฉันที่เพิ่งลงมาจากบนบ้านก็ถามฉันด้วยความตกใจเพราะตอนนี้ตัวฉันเปื้อนขี้ดินมาหน่ะสิ
“ ใหม่ ทำไมตัวหนูถึงได้เปื้อนอย่างนี้หล่ะลูก O.O”
“ อ๋อ พอดีใหม่วิ่งแล้วไปสะดุดก้อนหินล้มอ่ะค่ะ ^^”
“ จริงหรอลูก แล้วมีแผลตรงไหนบ้างหรือเปล่า O.O”
“ ไม่มีค่ะแม่ แม่ค่ะใหม่ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ ^^”
“ จ้ะๆ”
ฉันขึ้นมาบนห้องพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฉันนึกถึงอ้อมกอดของรัฟเฟิลที่กอดฉันไว้วันนี้ ฉันคิดไปเขินไป พลางกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงเพื่อแก้เขิน >///< เอาว่ะ ! ยัยใหม่ ! ถึงแม้วันนี้จะเป็นการเริ่มต้นเจอเขาแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่วันหน้าก็ยังมีอีก เขาจะเย็นชาใส่ฉันแค่ไหนฉันก็ต้องอดทน และฉันจะทำให้รัฟเฟิลกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ ! เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่า ในใจของฉันนั้นมีแค่เขาคนเดียว ! ><
6.00 น.
กริ๊ง !!!! ~
ปึก !
ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกตามเคยเช่นทุกวัน แต่ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกตามันหนักอึ้งยังไงไม่รู้ สงสัยคงเป็นเพราะฉันร้องไห้เมื่อคืนนี้มั้ง ฮ่าว~ โอยย ง่วงชะมัดเลยเมื่อคืนฉันได้นอนแค่ 3 ช.ม. เอง ก็มัวแต่คิดเรื่องข้อความที่ส่งมาเมื่อคืนนี้นั้นแหละ ฉันลุกออกจากเตียงและเดินไปเข้าห้องน้ำ พอฉันแต่งตัวมัดผมเสร็จ ฉันก็เดินลงมาทานข้าวกับพ่อเหมือนเดิม ระหว่างที่ฉันกำลังจะหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ แต่ทว่าฉันก็ต้องแทบตกเก้าอี้เมื่อแม่ของฉันที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวกรี๊ดเสียงดังลั่นเหมือนเห็นผี (ก็แกนั้นแหละผี >o<)
“ กรี๊ด !!!! ยัยใหม่นี่หนูไปทำอะไรมาลูกทำไมตาถึงได้ทั้งบวมทั้งคล้ำอย่างนั้น O_O!” แม่ฉันพูดพร้อมกับวิ่งมาหาฉันที่นั่งซังกะตายอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ แหม แม่ก็เอะอะโวยวายไป ลูกเรามันโตเป็นสาวแล้ว มันก็คงช่วยตัวเองดึกไปหน่อยน่ะแหละ ^o^”
พรวด !!
ฉันที่กำลังตักโจ๊กเข้าปากก็ต้องพ้นออกมาด้วยความเร็วสูงเมื่อได้ยินประโยคที่พ่อพูด O_O แต่พ่อของฉันก็ใช่ย่อยซะที่ไหน หลบไวยิ่งกว่าเดอะแมดทริกซ์อีก - -^ ฉันมองหน้าพ่อด้วยความตกใจ ก็แหมพูดออกมาได้ไงว่าที่ขอบตาฉันคล้ำเพราะช่วยตัวเอง ! จะบ้าตาย แค่นั้นไม่พอแม่ผู้ใสซื่อของฉันก็ถามคำถามที่ทำให้ฉันอยากจะวิ่งออกไปให้รถชนตายวันละ 10 รอบ -_-^
“ ช่วยตัวเอง ? O_O มันคืออะไรหรอพ่อ”
“ โว๊ยย !! พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้เลยหนูจะไปเรียนแล้ว พ่อไปเร็วๆ”
ย๊ากก !! ไม่กงไม่กินมันแล้วโจ๊ก นี่มันอะไรกันเนี่ย ตื่นเช้ามาก็เจอเรื่องทุเรศๆนี้แล้ว ฉันรีบลากพ่อออกมา ก่อนที่พ่อฉันจะเปิดประเด็นไปมากกว่านี้ พ่อฉันรีบยัดขนมปังเข้าปากอย่างรวดเร็วแล้วเดินตามแรงลากของฉันมา แม่ฉันที่ยืนงงอยู่นั้น ก็ตะโกนไล่หลังพ่อฉันว่าให้กับมาเล่าให้ฟังด้วยว่าไอ้ช่วยตัวเองมันคืออะไร แอร้ยย ! นี่แม่ฉันยังไม่จบใช่ไหมเนี้ย ~
“ ได้เลยจ้ะ ที่รัก ^o^”
พ่อของฉันหันไปตอบแม่ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถ ฉันรีบบอกให้พ่อขับรถออกไปเร็วๆ พ่อทำท่าเลิ่กลั่กเหมือนกลัวว่าฉันจะกิน รีบสตาร์ทเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว
เห้อ ~ ถึงโรงเรียนซักที วันนี้รถติดเป็นบ้าเลย ใครมันเสด็จกันมาเนี้ย ! -_-“ ฉันหันไปสวัสดีพ่ออย่างเคืองๆแล้วลงจากรถ พ่อฉันเหมทอรู้ว่าฉันเคืองก็ยิ้มแหยแล้วชู 2 นิ้วขึ้น พร้อมกับพูดว่า ‘ไม่ต้องเครียดเรื่องเมื่อเช้าน่ะ พ่อเข้าใจวัยรุ่นลูก >o<’ แล้วหลังจากนั้นพ่อก็รีบออกรถไปเลย ทิ้งให้ฉันยืนเอ๋ออยู่คนเดียว แง~ ทำไมไม่มีใครเข้าฉันเลย T^T
“ ยัยใหม่ ~ มาแล้วหรอ แว๊ก ! OoO!”
เสียงยัยนาวดังมาแต่ไกล มันวิ่งเข้ามาหาฉันที่ยืนหมดอะไรตายอยากอยู่หน้าโรงเรียน แต่เมื่อมันวิ่งมาถึงตัวฉันมันก็กรี๊ดซะฉันตกใจเลย - -“
“ เห้ย ! ยัยใหม่ นี่แกไปทำอะไรกับตาแกมาว่ะ OoO”
“ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง เรื่องที่ฉันบอกแกเมื่อคืนแหละ”
ฉันเห็นท่าทางตกใจของเพื่อน ฉันก็เลยเล่าให้มันฟังระหว่างที่เรากำลังเดินขึ้นห้อง พอฉันเล่าจบมันทำท่าคิดปนตกใจ แฮ่กๆ ว่าแต่เล่าตอนเดินขึ้นบันไดนี่มันเหนื่อยจริงๆเลยอ่ะ ฉันว่าวันนี้ฉันต้องน้ำหนักลง 1-2 กิโลกรัมแน่ ฮิ้ว ~ \ (^o^) / (เอาแล้วไง (- -“) )
“ แก ฉันว่ามันต้องเป็นพวกโรคจิตแน่เลยอ่ะ OoO” พอขึ้นมาถึงห้อง หย่อนก้นนั่งไม่ถึงนาที ยัยนาวก็เปิดประเด็นเลย ให้ฉันพักเหนื่อยก่อนไม่ได้หรือไงย่ะ - -
“ จะบ้าอ๋อ โรคจิตที่ไหนจะส่งข้อความมา Merry Christmas ฉันว่ะ (- -“)”
“ มันก็ไม่แน่น่ะแก อาจจะแบบว่าถ้ำมองแกมานานแล้ว แบบอยากได้แกเป็นเมีย และพอเวลาที่แกอยู่คนเดียว มันก็ฉุดแกมาปล้ำทำเมียเลยก็ได้น่ะ บรึ้ย ~ น่ากลัวว่ะ ><”
“ อีบ้า ! คิดได้ไงว่ะ”
ฉันว่าคนที่น่ากลัวเริ่มจะไม่ใช่ไอ้โรคจิตแล้วแหละมันเริ่มจะเป็นยัยนาวเพื่อนสนิทของฉันเองนี่แหละที่น่ากลัว มันเรียนหนักเกินหรือว่ามันเก็บกดเรื่องไม่มีใครเอาจนทำให้คิดเรื่องบ้าๆนี่ได้หรือเปล่าว่ะเนี้ย O_O!
“ เฮ้ ~ สวัสดีทุกคน เย้ย ! O_O”
นั่นไง มาอีกคนและ นายมิคกี้ นี่จะตกใจอะไรคนสวยนักหนาเนี้ย ! >< แค่นอนไม่หลับแค่นี้เนี้ยน่ะ ตอนนี้ตาฉันมันเริ่มหายบวม แต่ขอบตาฉันยังคล้ำอยู่นิดหน่อยเอง ทำอย่างกับเห็นผีเหมือนแม่ฉันเลย ฉันสวยกว่าผีตั้งเยอะ ^o^
“ ฮ่าๆ ขนาดมิคกี้ยังตกใจเลยอ่ะ” ยัยนาวแทรกขึ้น
“ แล้วทำไมใหม่ถึงขอบตาคล้ำขนาดนั้นหล่ะ O_O’
“ อ้ะ ! นี่ไปสนิทกันตอนไหนเนี่ยถึงเรียกไอ้ใหม่ว่า’ใหม่’ อย่าบอกน่ะว่ากลับบ้านด้วยกันเมื่อคืนวันเดียวพวกแกก็…”
“ เห้ย ! เลิกคิดเลยน่ะยัยบ้า ! สมองเดี๋ยวนี้คิดแต่เรื่องพวกนี้แล้วไง”
ฉันหันไปตบหัวยัยนาวทีหนึ่ง ก่อนที่มันจะคิดไรไปมากกว่านี้ ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองมิคกี้ที่ยังยืนตาโตอยู่ นายนี้ก็ไม่คิดจะหาที่นั่งเลยหรือไง พอค้างก็ค้างอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อนเลย เห้อ ~
“ ไม่มีไรหรอกฉันนอนไม่ค่อยหลับหน่ะ” ฉันตอบมิคกี้ไปเพื่อจะตัดปัญหาเพราะถ้าฉันไม่ตอบ นายนั่นก็คงยืนค้างอยู่แค่นั้นแหละ
“ อ๋อ งั้นฉันขอย้ายมานั่งกับพวกเธอได้ไหมอ่ะ *o*”
“ ก็เอาสิ นั่งด้วยกันจะได้มีเพื่อนคุยเยอะๆ ^o^” ยัยนาวตอบตกลงแทบจะทันที แหม น้อยๆหย่อยย่ะยัยนาว ไม่ได้คิดก่อนตอบเลย นี่ถ้ามีผู้ชายหล่อราวเทพบุตรมาชวนไปกระโดดตึกตายมันคงยอมพลีชีวิตมันเลยหล่ะมั้งเนี่ย - -“
ตึ่ง ตึง ตึ่ง ตึง ~
เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนดังแล้วว แง้~ ไม่อยากเรียนคาบแรกเลยเพราะเช้ามาก็เปิดการเรียนด้วยวิชาคณิตศาสตร์หน่ะสิ T^T ฉันไม่ชอบเลยเพราะฉันเป็นคนคิดเลขไม่เก่งง่า ~ ตอนนี้มิคกี้ย้ายมานั่งกับพวกฉันแล้วเขานั่งซ้ายมือฉัน ส่วนฉันนั่งตรงกลางและขวามือของฉันก็คือยัยนาว สักพักอาจารย์ ดรุณีก็เดินเข้ามา แต่วันนี้อาจารย์แกดูยิ้มแย้มผิดปกติขนาดเด็กเรียนอย่างยัยนาวยังหันมาพูดกับฉันเลย
“ นี่แก ทำไมวันนี้เจ้แกดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษว่ะ O.O”
“ ไม่รู้สิ สงสัยไปเจอคนที่ถูกใจมามั้งเลยอารมณ์ดี ฮ่าๆ ^o^”
“ นี้ ! พวกเธอ 2 คน นินทาอะไรฉันห่ะ !”
เฮือก ! O_O
ฉันกับยัยนาวสะดุ้งโหย่งเมื่อได้ยินเสียงแหลมตะโกนมาทางนี้ ตอนนี้ฉันกันยัยนาวหันมานั่งหน้าตรงและหลังตรงโดยอัตโนมัติ และยิ้มสู้ไว้ก่อน แหะๆ
“ อ๋อ เปล่านินทาค่ะ หนูกับนภัสสรแค่บอกว่าวันนี้อาจารย์แต่งตัวสวยดีค่ะ ^^’’”
ฉันรีบตอบอาจารย์อย่างกล้าๆกลัวๆ แต่อาจารย์ ดรุณี เป็นคนบ้ายอฉันก็เลยต้องงัดไม่นี้มาใช้เหมือนตอนม.ต้น ฉันก็เคยทำแบบนี้ ฮ่าๆ
“ งั้นก็แล้วไป อะแฮ่ม ! วันนี้ห้องเราจะมีเด็กใหม่เพิ่มมา 2 คนน่ะจ้ะ ตบมือต้อนรับพวกเขาหน่อยจ้ะ ^o^” ห่ะ ! นี่มัน ม.6 แล้วน่ะ ยังมีเด็กมาเข้าอีกหรอเนี้ย O.O
แปะๆ !!
ฟิ้ว ~~
อ่าว เห้ย ! กระดาษใบงานของฉันมันดันปลิวไปหลังห้องอีก ลมมาแรงอะไรตอนนี้เนี้ย ฉันวิ่งตามใบงานไปหลังห้อง พอฉันตะขุบมันได้และหันหลังกำลังจะกลับไปนั่งที่ ทว่าฉันกลับต้องหยุดชะงักเพราะเมื่อฉันเงยหน้ามองผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าห้อง 2 คนนั้น ก็ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจเพราะหนึ่งในนั้นมี ‘รัฟเฟิล’ อยู่ด้วย! O.O ตอนนี้ฉันกับเข้าจ้องตากันเหมือนกับว่าตอนนี้มีแค่ฉันกับเขาแค่ 2 คนเท่านั้น เขามองฉันด้วยสายตาที่นิ่งและเรียบเฉยราวกับว่าเขาไม่ตกใจเลยที่เจอฉัน แต่ผิดกับฉันที่ตอนนี้ยืนเบิกตากว้างและอ้าปากค้างด้วยความตกใจสุดขีด O[]O ! แต่ขณะที่ฉันจ้องตากับเขา ฉันก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงแหลมของอาจารย์ ดรุณี ที่ยืนดูพวกเรายืนจ้องตากันอยู่นานสองนาน
“ อะแฮ่ม ! นี่ มณรัตน์จ้ะ เมื่อไหร่เธอจะนั่งจ้ะ จะยืนอยู่อีกนานไหม - -^”
“ เอ่อ…ค่ะ ค่ะ ^^””
พอฉันได้สติฉันก็รีบเดินไปนั่งที่ ยัยนาวมองหน้าฉันอย่างงงๆ แต่ก็ยังไม่ถามอะไร ยัยนาวมันไม่เคยเห็นรัฟเฟิลมาก่อนมันรู้แค่เรื่องราวระหว่างฉันกับเขาเท่านั้น
“ อ่าว นักเรียนทุกคนเงียบ !!”
อาจารย์ ดรุณี หันมาทำหน้าโหดใส่ราวกับจะฆ่าแกงกัน - -“ พร้อมกับบอกให้นักเรียนทุกคนในห้องเงียบโดยเฉพาะสาวๆที่แอบนั่งกรี๊ดกร๊าดรัฟเฟิลกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา และอาจารย์ก็หันกลับไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าที่ร่าเริงเชียว (ปรับไวจังว่ะ - -“)
“ อ๊ะ พวกเธอ 2 คนแนะนำตัวเลยจ้ะ ^^”
แหม อาจารย์หรือกิ่งก่าเนี่ย ทำไมถึงได้ปรับเปลี่ยนอารมณ์ไวขนาดนี้ ~ อาจารย์ก็อายุเยอะแล้วน่ะ แต่ดูจากสายตาและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่มองเด็กผู้ชาย 2 คนนั้น โอยย เหมือนแกลืมเรื่องสามีกับลูกแกไปเลย - -“
“ สวัสดีครับ ผมชื่อ เศรษฐวิชย์ ชื่อเล่นชื่อ ไบรอัน ครับ ^^”
กร๊ด !!~
“ สวัสดีครับ ผมชื่อ วีรุวัฒน์ ชื่อเล่นชื่อ รัฟเฟืล ครับ”
กรี๊ด !!!!~
เห้ย !! ดังไปหรือเปล่าย่ะ ว่าแต่ทำไมรัฟเฟิลถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ ทำไมน้ำเสียงของเขาถึงได้ดูเย็นชาอย่างนี้หล่ะ ฉันไม่ชอบเลย T^T พอพวกเขาแนะนำตัวเสร็จ รัฟเฟิลกับไบรอันก็เดินผ่านหน้าฉันไปนั่งข้างหลังห้องเลย แต่เขานั่งอยู่แถวเดียวกันฉัน นี่เขาไม่คิดจะทักทายฉันหน่อยเลยหรอ ทำไมเขาต้องทำเป็นไม่รุ้จักฉันด้วยน่ะ เขาจะรู้บ้างไหมว่าฉันคิดถึงเขามากแค่ไหน T^T
จึก จึก
เฮือก O.O
แต่แล้วฉันก็ต้องสะดุ้งตื่นจากความคิด เมื่อยัยนาวเอานิ้วชี้มาจิ้มฉันราวกับว่าฉันเป็นขี้อย่างนั้นแหละ
-0- ยัยนี่มองฉันอย่างคาดคั้นเมื่อเห็นอาการเอ๋อๆของฉัน
“ นิ ยัยใหม่ บอกมาเลยน่ะว่าแกรู้จัก 2 คนนั้นหรือเปล่า *^*”
“ เอ่อ…คือ แกเอาหูมานี่”
ยัยนาวรีบยื่นหูมาหาฉันอย่างรวดเร็ว ฉันกระซิบบอกยัยนาวเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน พอยัยนาวรู้เท่านั้นแหละ มันก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจจนฉันแทบจะปิดปากมันไม่ทัน -0-
“ ห่ะ !! รัฟ…โอ๊ย ! T0T”
ปึก !
“ ชู่ ~ >o<”
ฉันตบหัวมันไปทีหนึ่ง ตอนที่มันจะพูดชื่อ รัฟเฟิล ออกมา ยัยบ้าเอ้ย ! ทำไมต้องตกใจอะไรเว่อร์ขนาดเน้~ เดี๋ยวก็ได้ซวยทั้งคู่หรอก >< ฉันชูนิ้วชี้ขึ้นทาบที่ปากเป็นเชิงบอกว่า ให้มันเงียบๆห้ามพูดชื่อนี้
“ แกตบหัวฉันทำไมอ่ะ ฉันแค่จะบอกว่า รัฟเด็กใหม่แค่ 2 คนนี้ก็พอแล้วอ่ะ >o<”
ดูมันแถไปเรื่อย ‘รับ’ ย่ะ ไม่ใช่ ‘รัฟ’ เห้อ~ ฉันหันไปมองรัฟเฟิลที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้น่ะ
“ เฮ้ ! สวัสดี เธอชื่ออะไรอ่ะ ^o^”
เฮือก ! O_O
ไบรอันที่เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือแล้วพบว่าฉันกำลังมองไปทางที่เขานั่งอยู่ก็ตะโกนทักฉันอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาซะฉันแทบตกจากเก้าอี้ -0-
“ ห่ะ อ๋อ เอ่อ…ฉันชื่อ ปีใหม่ หน่ะ แหะๆ ^^’”
ฉันยิ้มแห้งๆให้เขา แต่ทว่าฉันเห็นรัฟเฟิลเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือนิดนึง แล้วก็ใช้หางตามองฉันด้วยความเรียบเฉย ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือต่อ นี่เขาเป็นอะไรของเขาเนี่ย ! ฮึ่ย !
“ ยินดีที่ได้รู้จักน่ะปีใหม่ ^o^”
ไบรอันที่ยังคงร่าเริงอยู่ พูดต่อก่อนที่จะใช้มือข้างขวาทำท่าวันทยาหัตพลางฉีกยิ้มกว้างก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ฉันพยักหน้าแล้วยิ้มเจือนๆตอบเขา
วันนี้ตลอดทั้งวัน ตัวหนังสือแทบจะไม่ได้เข้าสมองฉันเลย ฉันมัวแต่นั่งเหม่อคิดแต่เรื่องของ รัฟเฟิล พออาจารย์ถามอะไรฉันก็ตอบไม่ได้สักข้อ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ จนถึงเวลาเลิกเรียนนักเรียนทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปกันหมดแล้ว เหลือแค่กลุ่มฉันกับรัฟเฟิลและก็ไบรอัน ฉันเก็บของเข้ากระเป๋าเสร็จแล้ว และกำลังจะเดินเข้าไปทัก รัฟเฟิล ที่กำลังสะพายกระเป๋าและกำลังจะเดินออกนอกห้อง แต่ทว่าเขากับเดินผ่านหน้าฉันไปเฉยราวกับว่าเขามองไม่เห็นฉัน ฉันที่ได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกสมองของฉันไม่ยังไม่สั่งการ แต่ปากของฉันมันเร็วกว่าสมองเสียอีก
“ รัฟเฟิล !”
เขาหยุดชะงัก และยังคงหันหลังให้ฉันอยู่เขายืนนิ่งไม่พูดอะไร ไบรอันก็หยุดเดินแล้วหันมาหาฉันอย่างงงๆ ฉันเลยเป็นฝ่ายถามต่อ
“ นายกลับมานานแล้วหรอ ? ^^””
ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นแรงมากเมื่อได้คุยกับเขา (ตรงไหนย่ะ ฉันเห็นแกพูดอยู่ฝ่ายเดียว - -) แต่ทว่าในเวลาเดียวกันหัวใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แสนจะเย็นชาของเขา
“ อืม…”
เขาพูดพลางพงกหัวหนึ่งทีก่อนที่เขาจะเดินจากไป ให้ตายเถอะ ! นี่มันอะไรกัน ทำไมตอนนี้หัวใจของฉันมันเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม เพราะฉันไม่มีแรงที่จะก้าวต่อไปแล้ว…
“ ยัยใหม่ เป็นอะไรหรือเปล่า”
น้ำเสียงเป็นห่วงจากยัยนาว มันทำให้ฉันอยากจะร้องไห้แต่ฉันก็ต้องกลั่นมันเอาไว้ ฉันไม่อยากให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ !
“ ใหม่รู้จักกับเขาด้วยหรอ ?”
มิคกี้ที่ยืนเงียบอยู่นาน ก็เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด แต่พอเห็นฉันไม่พูดอะไร มิคกี้ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะกลัวว่าฉันจะโกรธที่เขาพูดมาก
“ เอ่อ งั้นเราไปนั่งกินไอศกรีมร้านหน้าโรงเรียนดีกว่าเนาะ ^o^” มิคกี้ปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงกว่าเดิมและหันมาชวนฉันกับยัยนาวไปกินไอศกรีม
พอพวกเรามาถึงร้านไอศกรีมมิคกี้ก็อาสาไปซื้อไอศกรีมให้ บรรยากาศในร้านนี้จัดได้น่ารักดี มีเสียงเพลงเคล้ากับบรรยากาศในร้าน จัดได้ว่าถ้าใครมาที่นี่ก็คงผ่อนคลายเยอะเลย ฉันมองผ่านกระจกออกไปนอกร้านเพื่อผ่อนคลายจะว่าไปโรงเรียนของฉันนักเรียนก็เยอะใช่ได้เลยน่ะเนี่ย แต่ทว่าฉันก็ต้องชะงักเมื่อสายตาของฉันมันไปสะดุดกับภาพที่ทำให้ฉันชาไปทั้งตัว มันคือภาพที่ยัยแอนเดรียเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ค่อยถูกกับฉัน กำลังเดินควงแขนอยู่กับรัฟเฟิล !! นี่มันอะไรกัน ! 2 คนนั้นไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่และที่เขาทำท่าทีเย็นชาใส่ฉันก็เพราะว่าเขามีแอนเดรียอยู่แล้วหรอ ! O.O ตอนนี้สมองของฉันมืดสนิท สายตาของฉันยังคงจ้องอยู่กับภาพนั้น ฉันมองดูเขา 2 คนเดินด้วยกันจบลับตาไป ยัยนาวที่เห็นท่าทีของฉันก็รีบมองตาม พอมันเห็นอย่างที่ฉันเห็นมันก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ที่เห็น 2 คนนั้นเดินด้วยกัน มันหันกลับมามองฉันแล้วรีบพูดปลอบ ไม่ให้ฉันคิดไปมากกว่านี้
“ ยัยใหม่ แกอย่าคิดมากน่ะเว้ย มันคงไม่มีอะไรหรอก ยัยแอนเดรียมันก็นิสัยแบบนี้แหละ เรายังไม่รู้อะไรแกอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปน่ะ”
“ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนน่ะ”
ตอนนี้ความอดทนของฉันมันถึงขีดสุดแล้ว ฉันไม่สามารถกลั่นมันไว้ได้อีกต่อไป ฉันวิ่งออกมาจากร้านไอศกรีม ตอนนี้ตาทั้ง 2 ข้างของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา เท้าสองข้างของฉันยังคงวิ่งไปอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องวิ่งไปให้ไกลที่สุด ฉันก้มหน้าก้มตาวิ่งโดยที่ไม่ดูทาง พอฉันเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็มีแสงไฟจากรถที่กำลังมุ่งหน้ามาทางฉันพร้อมกับบีบแตรเสียงดังลั่น แต่ทว่าขาของฉันมันดันก้าวไม่ออก ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่จะยกแขนขึ้นมาบังหน้าไว้ ในใจฉันคิดแค่ว่าฉันคงไม่รอดแน่ๆ
ปรี๊น !!~
กรี๊ด !!~
ตุ้บ !!
เฮือก O_O
ฉันรีบลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เห้ย ! นี่ฉันยังไม่ตายหรอเนี่ย O.O ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตอนนี้หน้าของฉันซุกอยู่บนหน้าอกของใครซักคน เขากอดฉันไว้แน่นราวกับกลัวว่าฉันจะหายไปไหน ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่กอดฉันไว้แน่น แต่แล้วฉันก็ต้องเบิกตากว้างเพราะว่าคนที่กอดฉันอยู่คือ รัฟเฟิล ! O0O ฉันรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วและเขาก็ลุกขึ้นนั่งด้วยเช่นกัน
“ ทำบ้าอะไรของเธอเนี้ย ! อยากตายหรือไง !” ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดุดันแต่แฝงไปด้วยความตกใจของเขา
“ ฉะ…ฉันขอโทษ T^T”
“ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ตอนนี้น้ำเสียงของเขาอ่อนลงและอ่อนโยนจนฉันสัมผัสได้ ฉันเงยหน้ามองเขาที่กำลังมองฉันอยู่ ตอนนี้ดวงตาสีฟ้าครามของเขาฉายแววเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของฉันเต้นแรงเป็นบ้าเลย >///<
“ เปล่า ขอบคุณนายมากน่ะ ^^”
“ อื้ม ทีหลังก็วิ่งดูรถด้วยไม่ใช่มองแต่พื้น”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นยืน แต่ทว่าที่แขนข้างซ้ายของเขามีเลือดออกด้วยแหละ O_O ฉันรีบลุกขึ้นตามแล้วเอื้อมมือไปจับแขนเขาอย่างรวดเร็ว จนเขาต้องหันกลับมาอย่างตกใจ
“ เฮ้ แขนนายมีเลือดออกด้วยอ่ะ O.O”
“ แผลแค่นี้เองเดี๋ยวล้างน้ำก็หายแล้ว”
เอิ่ม…เออ ! ฉันรู้ว่านายเก่ง แต่นี่มันแผลน่ะย่ะ ไม่ใช่ขี้ดินที่ล้างน้ำแล้วก็หายไปหน่ะ อวดเก่งเหมือนเดิม เชอะ ! ฉันรู้ว่าตอนนี้นายเจ็บแต่ไม่แสดงออก - _-“ ฉันลากเขามาที่บ้านของฉัน โดยที่ฉันไม่ฟังเสียงคัดค้านอะไรของเขาทั้งนั้น เขาทำหน้างงๆแต่ก็ยอมเดินมาด้วย (จะไม่มาได้ไงก็แกลากเขามาอ่ะ - _-“)
“ นายนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนน่ะ เดี๋ยวฉันมา ^^”
ฉันบอกให้รัฟเฟิลนั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านฉันก่อน ฉันเดินเข้าไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในบ้าน พอฉันเดินออกมาจากบ้านฉันก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้รัฟเฟิลเล่นอยู่กับเจ้าตะเกียบที่วิ่งเข้าไปหาเขาด้วยความคิดถึง รอยยิ้มของเขาดูอ่อนโยนและน่ารักมาก ฉันเดินเข้าไปหาเขาและนั่งลงที่ม้าหินอ่อนข้างๆ แต่พอเขาเห็นฉัน เขาก็หุบยิ้มทันที T^T
“ ตะเกียบ เดี๋ยวพี่ทำแผลก่อนน่ะ ^^’
ดูสิ เขาหันไปพูดกับเจ้าตะเกียบซะเพราะพริ้ง แต่พอหันมาหาฉันกลับทำหน้าไร้ความรู้สึกซะงั้น T^T ฉันเอื้อมมือไปจับแขนเขาแล้วเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์ไปล้างแผลให้เขา รัฟเฟิลกระตุกแขนเล็กน้อยด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร จนกระทั่งฉันพันผ้าก๊อตให้เขาเสร็จ
“ ขอบใจน่ะ”
เอาอีกแล้ว ~ เขาทำน้ำเสียงเย็นชาใส่ฉันอีกแล้ว ฉันได้แต่นั่งพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับบ้าน ฉันเดินไปส่งเขาที่หน้าบ้านกับเจ้าตะเกียบ
“ กลับบ้านดีๆน่ะ ^^”
“ อืม…พี่กลับก่อนน่ะตะเกียบ ^^”
รัฟเฟิลก้มลงไปลาเจ้าตะเกียบก่อนที่เขาจะเงยหน้ามามองหน้าฉันแล้วเข้าก็หันหลังเดินจากไปเลย เห้อ ~ ฉันหล่ะอิจฉาเจ้าตะเกียบจริงๆเลย ฉันกับเจ้าตะเกียบกลับเข้ามาในบ้าน แม่ฉันที่เพิ่งลงมาจากบนบ้านก็ถามฉันด้วยความตกใจเพราะตอนนี้ตัวฉันเปื้อนขี้ดินมาหน่ะสิ
“ ใหม่ ทำไมตัวหนูถึงได้เปื้อนอย่างนี้หล่ะลูก O.O”
“ อ๋อ พอดีใหม่วิ่งแล้วไปสะดุดก้อนหินล้มอ่ะค่ะ ^^”
“ จริงหรอลูก แล้วมีแผลตรงไหนบ้างหรือเปล่า O.O”
“ ไม่มีค่ะแม่ แม่ค่ะใหม่ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ ^^”
“ จ้ะๆ”
ฉันขึ้นมาบนห้องพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฉันนึกถึงอ้อมกอดของรัฟเฟิลที่กอดฉันไว้วันนี้ ฉันคิดไปเขินไป พลางกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงเพื่อแก้เขิน >///< เอาว่ะ ! ยัยใหม่ ! ถึงแม้วันนี้จะเป็นการเริ่มต้นเจอเขาแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่วันหน้าก็ยังมีอีก เขาจะเย็นชาใส่ฉันแค่ไหนฉันก็ต้องอดทน และฉันจะทำให้รัฟเฟิลกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ ! เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่า ในใจของฉันนั้นมีแค่เขาคนเดียว ! ><
Font
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มี.ค. 2557, 22:19:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มี.ค. 2557, 22:19:56 น.
จำนวนการเข้าชม : 1075
<< บทที่ 1 |