My herat อดีตปัจจุบันหัวใจของฉันก็คือเธอ
วันคริสต์มาสปีนี้ฉันโดดเดี่ยวเดียวดายเหลือเกิน~ ToT แต่ก็ยังดีที่มียัยนาวเพื่อนซี้ของฉันไปเดินเล่นงานวันคริสต์มาสด้วย แต่เมื่อวันคริสต์มาสผ่านไป ห้องเรียนของฉันก็มีเพื่อนใหม่เข้ามาตั้ง 2 คน แต่ฉันก็ต้องช็อคเมื่อหนึ่งในนั้นมี 'รัฟเฟิล' คนที่ฉันเฝ้ารอเขามานานแสนนาน แต่การกลับมาของเขาครั้งนี้มันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือมาก! เขาไม่ใช่รัฟเฟิลที่แสนดีอีกต่อไป แล้ว'ปีใหม่' คนนี้ต้องทำยังไงเขาถึงจะกลับมาเป็นคนที่อ่อนหวานเหมือนเดิม....
Tags: My herat อดีตปัจจุบันหัวใจของฉันก็คือเธอ
ตอน: บทที่ 1
บทที่ 1
25 ธันวาคม 2555
6.00 น.
กริ๊ง !!!!
โอยย ~ ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่มันร้องเสียงดังจนคนข้างบ้านยังได้ยินเลย - - (เว่อร์ไปย่ะ) ฉันบิดขี้เกียจก่อนจะลุกไปหยิบผ้าขนหนู และก็เดินไปเข้าห้องน้ำโดยที่ตาของฉันมันยังไม่ลืมเลย ฮ่าว ~ -O-
ปึก !!
“ โอ๊ย !!”
นั่นไง - -“ ฉันร้องเสียงดังลั่นเมื่อเดินไปชนตู้เก็บหนังสือที่วางอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ เห้อ อะไรกันเนี้ย เจ็บตัวแต่เช้าเลยอ่ะ T^T ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ประมาณ 20 นาที ฉันก็เดินออกมาด้วยใบหน้าที่ใสปิ้ง ! ^o^ พอฉันแต่งตัวเสร็จ ฉันเดินไปหน้ากระจกแล้วส่องดูใบหน้าที่สวยใสไร้สิวของของตัวเอง(หลงตัวเองอ่ะ - -“) ก่อนที่จะบรรจงรวบผมทั้งหมดไว้ด้านหลัง และเหลือไว้แค่หน้าม้าเพราะมันไปไม่ถึงด้านหลัง -_- พอฉันมัดผมเสร็จฉันก็ใช้มือของตัวเองดึงๆผมส่วนหน้าให้หย่อนนิดๆ เพราะฉันไม่ชินกับการมัดผมตึงหน่ะสิ แหะๆ ฉันเดินลงบันไดพลางร้องเพลงด้วยท่าทางร่าเริง จนแม่ต้องถามฉันขึ้นด้วยความตกใจเพราะนานครั้งมากๆที่ฉันจะร้องเพลง
“ นี่ ! วันนี้หนูกินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่าลูก ? O_O”
แม่ฉันทำหน้าตาตื่นเหมือนเห็นนางฟ้าบินลงมาจากท้องฟ้าอย่างนั้นแหละ(จะเปรียบตัวเองว่างั้น ? (- -“ )) ) นี่ถ้าฉันเต้นแม่คงช็อคตาตั้งเลยล่ะมั้งเนี้ย -_-“ แต่ฉันก็ไม่ชอบเต้นจริงๆนั้นแหละฉันเป็นคงไม่กล้าแสดงออกอ่ะน่ะ >< (อ่ะจ้ะ - -“) แต่ไอ้เรื่องร้องเพลงอ่ะ ฉันชอบน่ะแต่ก็อย่างที่บอกว่านานครั้งมากกว่าฉันจะร้องเพลงทีหนึ่ง
“ โหแม่ วันนี้เปิดเทอมวันแรกของใหม่ ใหม่ก็ต้องร่าเริงหน่อยสิค่ะ ^o^”
ฉันตอบแม่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแฉ่งจนปากจะถึงหู -0- แต่ฉันก็แทบจะต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากพ่อบังเกิดเกล้า
“มันก็กระตือรือร้นแค่วันแรกเท่านั้นแหละเดี๋ยวคอยดูวันต่อไปสิ เหอะ นาฬิกา 10 เครื่องมันก็ไม่ตื่น -_-“ “
แย้ก !! ทำไมพ่อถึงพูดอย่างนี้ ~ T0T ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย ฉันแค่เป็นคนที่ทำอะไรเชื่องช้าเท่านั้นเอง -0- แต่ ! ฉันจะทำให้พ่อเห็นว่าฉันนี่แหละจะตื่นก่อนใครในบ้านเลยคอยดู !!
“ โถพ่อ เดี๋ยวพ่อคอยดูและกัน ชิช้ะ -^- “
ฉันพูดพร้อมทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดและเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะตักข้าวเข้าปากคำเบ้อเริ่ม ))^o^((
“ เห้อ ดูมันทำ - -“ “
พ่อฉันพูดอย่างหน่ายใจกับฉัน แต่ก็เอาเถอะเพราะนี้มันเหมือนกิจวัตรประจำวันของฉันกับพ่ออยู่แล้ว =_=” หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้ว พ่อก็ขับรถมาส่งฉันที่โรงเรียนทุกครั้งตั้งแต่เด็ดยันโต สักพักฉันก็มาถึงโรงเรียนบ้านของฉันกับโรงเรียนก็ห่างกันไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ฉันขี้เกียจมาเองเลยขอติดรถพ่อมาทุกวัน เพราะที่ทำงานของพ่อต้องผ่านโรงเรียนฉันอยู่แล้ว
“ สวัสดีค่ะพ่อ ^^” ฉันหันไปสวัสดีพ่อที่นั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ
“ อื้ม ตั้งใจเรียนล่ะ ^^”
ฉันพยักหน้ารับคำพ่อก่อนที่จะเดินลงจากรถแล้วมองรถพ่อที่ขับออกไป ฉันหันหลังกลับมาแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียน ที่จริงตอนนี้ฉันอยู่ ม.6 แล้วแหละ และวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการเรียน ม.6 โรงเรียนของฉันไม่เหมือนใครเขาหรอกเปิดเรียนในเดือนธันวาคม -_-“ ฉันอยู่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ ม.1 แล้ว ตอนที่ฉันจะขึ้น ม.4 ที่นี่ฉันกลัวมาก กลัวว่าจะไม่ติดที่นี่เพราะที่นี่กดเกรดมากและรองผอ.คนใหม่ ก็ดันมาเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในปีของฉันซะด้วยสิ เกรดของฉันอยู่ในขั้น 3 ขึ้นก็จริงแต่เอาเกรดของทุกเทอมมารวมกันฉันได้แค่ 3.02 เอง T^T มันกดมากๆเลยอ่ะ ฉันอยากจะอยู่โรงเรียนเดิมเพราะฉันไม่อยากไปที่อื่นหน่ะสิ และสิ่งสำคัญที่ฉันกลัวอีกอย่างคือฉันจะไม่ได้อยู่กับเพื่อนหน่ะสิ ToT (ที่แท้แกก็ติดเพื่อน - -)
~ จิงกะเบล จิงกะเบล จิงกะออนเดอะเวย์ ~
ไม่ต้องแปลกใจ มันคือเสียงโทรศัพท์ของฉันเองแหละ แหม ก็วันนี้มันวันคริสต์มาสนิ ฉันก็เลยเลือกเพลงให้มันเข้ากับเทศกาลหน่อย ว่าแล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่พอเห็นชื่อคนโทรเข้าฉันยิ้มออกมาเลย ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกมันคือไอ้ ‘มะนาว’ เพื่อนสนิทของฉันเองแหละ
“ ฮัลโหล ว่าไงไอ้นาว “
( ฮัลโหล ใหม่ แกมาถึงโรงเรียนยังว่ะเนี้ย >< )
“ มาถึงแล้ว ยืนอยู่หน้าโรงเรียนเนี้ย “
( อ๋อ แล้วแกจะให้ฉันไปรับไหม )
“ ไม่ต้องอ่ะ แกอยู่ไหนหล่ะ “
( ฉันอยู่บนห้องเราอ่ะ 253 อ่ะ )
“ อ่าๆ โอเคๆ เดี๋ยวฉันขึ้นไป “
ติ้ด
หลังจากที่ฉันคุยโทรศัพท์กับมะนาวเสร็จ ฉันรีบเดินไปที่ตึก 2 ชั้น 5 ห้อง 3 ห้ะ ! ชั้น 5 ! เย้ย !ไมมันสูงจังว่ะเนี้ย ตาย ! ขืนเดินขึ้นเดินลงแบบนี้ 2 เทอม น่องฉันก็โตพอดีอ่ะสิ T0T ลิฟต์ก็ไม่มีซะด้วย แต่ถึงฉันจะเรียนที่นี่มา 5 ปีแล้ว แต่ขอบอกเลยน่ะว่าฉันยังไม่ชินกับการขึ้นไปเรียนชั้นสูงๆแบบนี้เลยอ่า ~ เพราะทุกทีฉันเรียนแค่ชั้น 2 กับชั้น 3 เท่านั้นเอง เห้อ ~
ฉันใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็เดินมาถึงห้องเรียน โอ๊ย ! เหนื่อยชะมัดเลย ฉันว่าฉันต้องผอมแน่ๆเลยอ่ะ ขึ้นๆลงๆแบบนี้บ่อยๆอ่ะ ฉันยืนหอบแฮ่กๆ อยู่หน้าห้อง ยัยมะนาวที่มันเห็นฉันเหมือนหมาหอบแดด ก็รีบวิ่งออกมาหาฉันและก็เอากระเป๋าฉันไปถือมันเข้ามาประคองฉันราวกับว่าฉันเป็นยายแก่ที่กำลังจะเป็นลม - -“ และมันก็ค่อยๆพยุงฉันเข้าไปนั่งที่ที่มันจองไว้ให้ฉันอยู่แล้ว มันเลือกนั่งตรงกลางห้องเลย และประเด็นมันตรงกับพัดลมพอดีเลย ^o^ ไอ้มะนาวมันทั้งเอายาดมมาให้ฉันดมทั้งพัดให้สารพัดเลย ฮะๆ ยัยนี่มันชอบทำอะไรเว่อร์ๆหน่ะ แต่ฉันก็ดีใจน่ะที่มีมันเป็นเพื่อน แล้วมันก็เป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันด้วย มันอยู่กับฉันมาตั้งแต่ ม.1 ตอนที่จะขึ้น ม.4 ฉันกับยัยนาวก็ไปบนบานศาลเจ้าให้ฉันกับมันได้ขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนเดิมและได้อยู่ห้องเดียวกัน และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ฉันอยู่ห้องเดียวกับมันมาตลอดจนถึง ม.6 ฉันอยากจะบอกว่ามันรักฉันมากกว่าคนในครอบครัวมันเสียอีก และแต่ฉันก็อยากจะบอกมันว่าฉันก็รักมันมากเหมือนกัน มันคือเพื่อนแท้ของฉันเลยแหละ เวลาฉันเสียใจและนั่งร้องไห้ มันก็จะปลอบฉันและสักพักมันก็จะร้องตามฉันและที่สำคัญมันร้องหนักกว่าฉันอีก =_=” เวลาฉันพามันบ้ามันก็บ้าจนสุดขีดจนคนที่เป็นบ้าจริงๆยังอาย ฮ่าๆ มันแทบจะเป็นมือขวาของฉันเลย ( พูดอย่างกับเป็นมาเฟีย -_-“ )
“ นี่ ฉันไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้นน่ะแก –o- “ ฉันหันไปพูดกับไอ้นาวเมื่อเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของมัน
“ ไม่ได้ๆ ขืนแกเป็นลมแล้วไม่ฟื้นฉันจะทำไงอ่ะ T0T”
ฉันเนี้ยน่ะจะเป็นลมง่ายๆ ถ้าฉันไม่ฟื้นก็แค่จองวัดก็เท่านั้น - - (ก็ยังจะพูดต่อน่ะ) ยัยนาวมันกลัวว่าฉันจะตายจากมันมากเลยแหละ เย้ย ! นั้นไง มันเบะปากจะร้องไห้แล้ว แต่ฉันว่าการที่มันพูดอย่างนี้บ่อยๆ มันเหมือนคำแช่งฉันยังไงยังงั้นแหละ -_-“
“ ไอ้บ้า ! ฉันไม่ได้อ่อนแออะไรขนาดนั้นน่ะย่ะ กะอีแค่ชั้น 5 ชั้น 10 ฉันยังเคยขึ้นมาแล้วเลย “
“ ห่ะ ? ชั้น 10 โรงเรียนเรามีด้วยหรอว่ะ ? O_O” หง่ะ มันถามฉันหน้าตายมาก นี่มันไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้เนี่ยว่าฉันประชดมันอยู่ เห้อ ~
“ ฉันประชดย่ะ - -”
“ แหะๆ นี่แก ออกไปยืนที่ระเบียงหน้าห้องกัน ^^”
“ อืม เอาดิ”
ยัยนาวชวนฉันออกไปยืนที่ระเบียงหน้าห้อง ฉันสูดอากาศเข้าเต็มปอด ฉันว่าอยู่สูงๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ มองเห็นวิวทิวทัศน์ในรงเรียนชัดดี และอากาศก็ดีอีกด้วย ^o^
“ โห ~ ฉันเพิ่งรู้น่ะเนี้ยว่าโรงเรียนเราก็กว้างเหมือนกันอ่ะ *o*” ยัยนาวยืนทำตาเป็นประกายเมื่อมองเห็นบริเวณโรงเรียน
“ แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมาแกคิดว่าโรงเรียนเรามันแคบหรือไงย่ะ - -“”
ควับ !
ยัยนาวหันมามองค้อนฉัน ตอนนี้หน้าของมันไม่ต่างอะไรกับคิงคองตอนโกรธเลย ฮ่าๆ ฉันสะดุ้ง ไม่ได้กลัวมันน่ะ แต่แค่ตกใจใบหน้าของมันในตอนนี้มาก ฉันกลั้นไม่ไหวจนต้องพ่นขำออกมา จนยัยยาวปรับสีหน้าเป็นบึ้งตึงก่อนที่จะพ่นขำออกมาเหมือนกัน มันคงรู้ว่าฉันขำหน้าของมัน เปิดเทอมมาวันแรกก็ได้ขำเลยแห่ะ ^o^
“ ฮ่าๆ หน้าแกโคตรฮาเลยอ่ะนาว ฮ่าๆ”
“ เชอะ ขำไปเถอะย่ะ ระวังตัวไว้เหอะฉันจะเอาภาพหลุดๆของแกไปประจานให้ประชาชีรู้ให้หมดเลย ฮ่าๆ ^o^”
เฮือก ! ฉันหยุดขำทันที เมื่อได้ยินคำว่า ‘ภาพหลุด’ ฉันหันไปค้อนยัยมะนาวที่ยืนขำอยู่อย่างกับคนบ้า ยัยนี่มันชอบแอบถ่ายฉันตอนหลุดๆไว้น่ะสิ ฉันว่าจะหาโอกาสแกล้งยืมโทรศัพท์มันมาแล้วลบรูปทิ้งซะ แต่ก็ไม่มีโอกาสซักที เพราะว่ามันรู้มันตลอดเลยอ่ะ T^T
“ เออ แกจำไว้เลยน่ะ แกกล้าประจานเพื่อนรักแกอ๋อ ”
“ เห้ย แกงอลฉันหรอ ฉันขอโทษฉันไม่ทำหรอก ฉันพูดไปอย่างนั้นแหละ แกอย่างอลฉันน้า ~ *^*”
ฮ่าๆ มารยาของฉันได้ผลจริงๆด้วยแหละ ยัยนาวหยุดขำทันทีแล้วหันมาขอโทษขอโพยฉัน หน้ามันกำลังจะร้องไห้เลยอ่ะ ฮ่าๆ เวลามันเบะก็น่ารักดีเหมือนกันน่ะเนี้ยเพื่อนเรา ^_~ และขณะที่พวกเรากำลังคุยเล่นกันอยู่นั้น ก็ต้องชะงักเมื่อ อาจารย์ที่ใส่แว่นตาต่ำอยู่ที่สันจมูกตามสไตล์ของอาจารย์โหดๆ เกล้าผมขึ้นตึงเรียบ ใส่เสื้อแขนยาวติดกระดุมจนถึงคอ กระโปรงยาวคุมเข่า และเอาเสื้อเข้าในกระโปรงพร้อมกับรองเท้าส้นเตี้ย เดินเชิดมาแต่ไกล ในมือถือหนังสือ 2-3 เล่ม พร้อมกับไม้เรียว เอ้ย ! นี่มันอาจารย์ ดรุณี ที่สอนคณิตศาสตร์ โจทย์เก่านี่หว่า ! ฉันกับยัยนาววิ่งเข้าห้องอย่างรวดเร็วปานสายลม และนั่งที่ของตัวเองอย่างเงียบเฉียบ ไม่นานอาจารย์ ดรุณี ก็ย่างกรายเข้ามาในห้องเรียนของฉัน ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที ขนาดเด็กใหม่ที่ยังไม่รู้อะไรยังหุบปากเงียบทันทีที่เห็นอาจารย์เดินเข้ามา
“ สวัสดี นักเรียนทุกคน !”
“ สะ…สวัสดีค่ะ/ครับ อาจารย์”
ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกจนถึงกระดูกสันหลังเลยอ่ะ ToT เสียงแหลมปี๊ดของอาจารย์ ดรุณี ทักทายนักเรียนทุกคน ฉันสังเกตเห็นพวกเด็กนักเรียนที่นั่งข้างหน้าสะดุ้งกันนิดหน่อยเมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ ดรุณี ฮึ่ย ! นี่อย่าบอกน่ะว่าฉันจะต้องเจอกับอาจารย์เสียงแปดหลอดคนนี้ไปทั้งเทอมเลยอ่ะ T^T (หง่ะ สมควรแล้วแหละ ดูเรียกอาจารย์สิ -_-“)
ตึ่ง ตึง ตึ่ง ตึง ~
เย้ ! เสียงสวรรค์ของฉันดังขึ้นแล้ว มันคือเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนหน่ะ หลังจากอาจารย์ที่สอนวิชาสุดท้ายออกไปแล้ว ฉันก็ยืนขึ้นบิดขี้เกียจจนตัวขี้เกียจหล่นกระจาย ฮ่าๆ วันเปิดเรียนวันแรกผ่านไปแล้ว เฮ้ !~ วันนี้ฉันเรียนกับอาจารย์ ดรุณี ตั้ง 2 คาบติดกันแหนะ หัวสมองแทบจะระเบิด แถงยังต้องนั่งเกร็งตลอดเวลาอีก ก็อาจารย์คนนี้แกตาไวยิ่งกว่าเหยี่ยวอีก =_=”
“ เฮ้ ปีใหม่ ^o^”
เย้ย ! O_O ฉันตกใจจนเกือบเอาหนังสือในมือฟาดคนตรงหน้าซะแล้ว เอ้ ~ แต่ทำไมนายคนนี้หน้าคุ้นจัง เหมือนเคยเจอเมื่อตอนเด็กๆ (แกก็ยังจำได้เนาะ - -) แต่ขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้น นายนี่ก็เหมือนจะรู้ว่าฉันนึกไม่ออก ก็เลยพูดแนะนำชื่อตัวเองขึ้นมา
“ ฉันมิคกี้ไง จำได้ไหม ^o^” นายนี่ยิ้มเก่งชะมัดเลยพูดทียิ้มที
“ อ๋อ ฉันจำได้แล้ว ว่าแต่นายมีไรหรอ ?”
“ อ๋อ เปล่าหรอก ฉันแค่มาทักเฉยๆ ^o^”
“ นี่ ยัยใหม่ เย็นนี้ไปเที่ยวงานวันคริสต์มาสกันไหม ฉันอยากเปิดหูเปิดตาอ่ะ *o*”
ยัยนาวที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยปากชวนฉันไปเที่ยวด้วยท่าทางตื่นเต้น แหม แล้วทุกวันนี้แกไม่ได้เปิดหูเปิดตาหรือไงย่ะ - -
“ อื้ม เอาดิ ฉันก็อยากไปเหมือนกัน ^^” (แหม ว่าแต่เพื่อนแกก็ตอบตกลงเหมือนกันแหละย่ะ)
“ เฮ้ ! ดีเลย งั้นฉันขอไปด้วยได้ไหมอ่ะ คือฉันเป็นเด็กใหม่ยังไม่ค่อยมีเพื่อนหน่ะ ^^”
นายมิคกี้ที่นั่งฟังพวกเราคุยกันอยู่นั้น ก็ร้องออกมาจนพวกฉันสะดุ้ง ฉันกับยัยนาวยืนมองหน้ากันอย่างงงๆ และยัยนาวก็เป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน
“ ก็เอาสิ ไปกันเยอะสนุกดี ^^”
โถ ฉันก็นึกว่าแกจะปฎิเสธเสียอีก เห็นทำหน้างงๆ ที่ไหนได้กับตอบตกลงซะงั้น แหม เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้ - -“
ตกเย็น…
ฉันนัดเจอกับไอ้นาวและก็มิคกี้ที่หน้าร้านไอศกรีมที่เดิมหน้าโรงเรียน ฉันยังคงใส่ชุดนักเรียนเหมือนเดิมแต่แค่เอาเสื้อออกจากกระโปรงเท่านั้น ไม่ใช่อะไรหรอกน่ะ ฉันแค่ขี้เกียจเปลี่ยนเท่านั้นเอง พอฉันไปถึงร้านไอศกรีมฉันก็เห็นยัยนาวยืนรอฉันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ฉันจึงวิ่งเข้าไปหามัน และไม่นานมิคกี้ก็มาถึง
“ รอนานไหมอ่ะ โทษทีน่ะ พอดีฉันแวะไปทำธุระนิดหน่อยอ่ะ ^^’’” มิคกี้รีบพูดอย่างร้อนรนเพราะกลัวว่าพวกฉันจะโกรธ
“ ไม่นานหรอกฉันก็เพิ่งมาเหมือนกัน” ฉันตอบกลับไปเพื่อให้เขาสบายใจ
“ ป้ะ เรารีบเข้าไปในงานกันเถอะ ><”
ยัยนาวรีบจูงมือพวกเราเข้าไปในงานทันที ภายในงานมีคนแต่งตัวเป็นซานตาคลอสเดินแจกขนมทั่วงานไปหมด ในนี้ก็จะมีร้านขายของต่างๆ เป็นซุ้มๆ ตลอดทางเดินที่ประดับไฟระโยงระย้าเต็มต้นไม้และทางเดินอย่างสวยงาม พวกเราเดิมมาหยุดอยู่ที่ร้านข้าวโพดปิ้ง ยัยนาวมันอยากกินก็เลยลากพวกฉันไปซื้อด้วยกัน ยัยนาวซื้อให้ฉันกับมิคกี้คนละอัน ถือว่าเป็นบุญมากเพราะนานๆทีที่มันจะควักเงินตัวเองออกมาใช้ พอซื้อเสร็จพวกเราก็ออกเดินดูของในงานต่อ ฉันมองไปรอบๆงาน แต่ทว่าฉันต้องชะงัก เมื่อสายตาของฉันดันไปสะดุดกันผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ดวงตาสีฟ้าครามนั้น ! O_O ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ข้าวโพดในมือของฉันล่วงลงพื้น เพราะฉันจำเขาได้แม่นเลยว่าผู้ชายคนนั้นคือ รัฟเฟิล !! ถึงมันจะมืดแต่ฉันก็จำผู้ชายที่ฉันเฝ้ารอเขามานานได้ เขามองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ฉันเดาไม่ถูก เขาใส่ชุดคลุมสีดำ และในขณะที่ฉันกำลังจะวิ่งเข้าไปหาเขานั้น มิคกี้ก็จับแขนฉันไว้ จนฉันต้องหันกลับไปหาเขา แต่พอฉันหันกลับมารัฟเฟิลก็หายไปแล้ว ฉันแทบหมดแรง ความหวังที่ฉันจะเจอเขามันริบรี่ลงอีกแล้ว… T^T
“ จะไปไหนอ่ะปีใหม่” มิคกี้ถามฉันด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร่าวจนฉันตกใจ
“ เปล่า…ไม่มีอะไร ฉันแค่ตาฟาดหน่ะ”
“ ยัยใหม่ เราไปหาที่นั่งกันดีกว่าน่ะ”
ยัยนาวที่เหมือนจะรู้ว่าฉันไปอะไร ก็พาฉันหาที่นั่ง พวกเรามานั่งที่โต๊ะอาหารของซุ้มหนึ่ง ยัยนาวบอกให้มิคกี้ไปซื้อบะหมี่มาให้หน่อย แต่ฉันรู้ว่ายัยนาวมันต้องการให้ฉันระบายความอึดอัดใจให้มันฟัง มันเลยไม่อยากให้คนอื่นอยู่ด้วย
“ ใหม่ แกเป็นอะไรหรือเปล่า แกมีอะไรก็บอกฉันได้น่ะ” ยัยนาวถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“ ฉัน…ฉันเจอเขาอ่ะนาว ฮึก ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักและไม่นานน้ำตาของฉันก็ไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้ ยัยนาวกอดปลอบฉันด้วยความห่วงใย มันรูว่า ‘เขา’ ที่ฉันพูดถึงคือรัฟเฟิลเพราะฉันเคยเล่าเรื่องฉันกับรัฟเฟิลให้มันฟัง
“ นี่มันผ่านมา 10 ปี แล้วน่ะ แกยังไม่ลืมเขาอีกหรอ” ยัยนาวถามฉันพลางปลอบฉันที่อยู่ในอ้อมกอดของมัน
“ ฉันลืมเขาไม่ได้” ฉันตอบพลางร้องไห้โหเหมือนเด็กๆ ใครจะลืมคนที่ตัวเองรักได้ลง… มิคกี้ที่เดินเข้ามาพร้อมถ้วยบะหมี่ 2 ถ้วย ก็ถึงกับทำหหน้างงเมื่อเห็นฉันร้องไห้หนัก เขาทำหน้าเหล่อหลาแล้วนั่งลง
“ มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ ใครทำอะไรใหม่หรอ O_O?” เขาถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้ใหม่มันแค่เสียใจที่พ่อกับแม่มันทะเลาะกันหน่ะ”
“ อ๋อ ~ ไม่เป็นไรน่ะใหม่ ^^”
มิคกี้เอามือมาลูบไหล่ฉันเป็นเชิงปลอบ ฉันเลิกร้องไห้แล้วปาดน้ำตาทิ้ง และฉันก็นั่งกินบะหมี่ที่มิคกี้ซื้อมาให้ ยัยนาวนี่มันคิดข้อแก้ตัวให้ฉันดีจริงๆ ว่าแต่พ่อแม่ของฉันไปทะเลาะกันตอนไหนน่ะ ฮ่าๆ แต่ฉันก็ต้องขอบคุณมันน่ะ ที่ช่วยฉันและเป็นห่วงฉัน แต่นายมิคกี้ก็ต้องขอบใจที่เป็นห่วงอ่ะน่ะ แต่นายไม่หน้าเชื่อใครง่ายขนาดนี้เลย
-_-“
พอกินเสร็จยัยนาวก็แย้กย้ายกับฉันกลับบ้านแถมมันยังบอกส่งท้ายอีกว่า ‘อย่าคิดมากน่ะแก พรุ่งนี้ฉันไม่อยากเห็นคนตาบวมเหมือนโดนผึ้งต่อยย่ะ ^o^’ ฮ่าๆ ยัยนี่นี่จริงๆเลย ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับมิคกี้ 2 คนเขาอาสาจะไปส่งฉันที่บ้านเพราะทางกลับบ้านของเขามันต้องผ่านบ้านฉันอยู่ดี
ตอนนี้ฉันกับมิคกี้ยืนอยู่ที่หน้าบ้านของฉัน ฉันหันไปขอบใจมิคกี้แล้วกำลังจะหันหลังกลับไปเปิดประตูบ้านแต่ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของเขา
“ ใหม่ เรื่องในอดีตอ่ะ บางทีก็ลืมๆมันไปบ้างน่ะ แล้วมาอยู่กับปัจจุบันเถอะ Merry Christmas น่ะ ^^”
ฉันหันกลับมาหาเขาที่กำลังบ๊ายบายฉันแล้วเดินจากไป ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าบ้านอย่างงงๆ ฉันไม่รู้ว่ามิคกี้รู้อะไรเกี่ยวกับอดีตของฉันหรือเปล่า และคำพูดของเขาก็แปลกๆเขาไม่เคยเรียกฉันว่า ‘ใหม่’ คนที่สนิทกับฉันจริงๆเท่านั้นถึงจะเรียกชื่อฉันคำเดียวได้ ฉันสะบัดหัวแล้วเลิกคิด ก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านไป
ตอนนี้ 23.40 น. แล้ว ฉันออกมายืนอยู่ตรงระเบียงบนห้องนอน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่มืดสนิท และมีดวงดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า ความเงียบเหงาทำให้ฉันฉุกคิดไปถึงอดีต…อดีตที่มันเด็กชายและเด็กหญิงคู่หนึ่ง ที่กำลังนอนดูดาวด้วยกันอย่างมีความสุข ในวันคริสต์มาส…แต่นี่มันคือปัจจุบันฉันคิดไปแล้วก็ใจหายวันคริสต์มาสทุกปี ฉันจะมีเขาอยู่ข้างกายเสมอ และตั้งแต่เขาจากไป วันคริสต์มาสสำหรับฉันมันก็เหมือนวันธรรมดาๆวันนึงนั้นแหละ ถึงฉันจะมียัยมะนาวที่อยู่ข้างฉัน ชวนฉันไปเที่ยวนู้นเที่ยวนี่ แต่ในใจของฉันก็อยากมีเขาอยู่ข้างกายฉันตลอดอยู่ดี
23.50 น. ฉันก้มมองเวลาในโทรศัพท์ แล้วเงยหน้าขึ้นพร้อมพูดกับตัวเอง
“ ใหม่ เรามานับถอยหลังกันน่ะ เตรียมน่ะ 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 Merry Christmas”
ฉันบอกกับตัวเอง และสมองของฉันก็ย้อนกลับไปถึงตอนที่ฉันนับถอยหลังและนั่งดูพลุกับเขาคนนั้น ฉันอยากจะห้ามสมองตัวเองไม่ให้คิดถึงมันอีก แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ขอบตาของฉันร้อนผ่าว ไม่นานน้ำตาเพื่อนยากมันก็ไหล ลงมา ลงมา…อย่าไม่มีทีท่าว่าจะหยุด นี่ฉันเป็นอะไร
ตือดึง ~
เสียงข้อความดังขึ้นทำให้ฉันต้องละสายตาจากท้องฟ้า ลงมามองข้อความในโทรศัพท์ ฉันปาดน้ำตาทิ้ง แล้วดูว่าใครส่งข้อความมา แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะในนี้มันขึ้นเป็นเบอร์แปลก มันไม่มีชื่อบอกว่าใคร
‘ Merry Christmas เลิกร้องไห้ได้แล้ว ยัยขี้แย ^^’
ห่ะ ! เขารู้ได้ไงว่าฉันร้องไห้ O_O เขาอยู่แถวนี้หรอ ฉันหันซ้ายหันขวามองลงไปข้างล่างก็ไม่พบใคร เย้ย ! ฉันเริ่มกลัวแล้วน่ะ T0T ระหว่างที่ฉันกำลังพิจารณาเรื่องข้อความอยู่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นและก็พบว่าเป็นยัยนาวที่โทรมาหาฉัน
“ ฮัลโหล ว่าไงแก”
( นี่ Merry Christmas น่ะแก ^^)
“ อื้ม Merry Christmas เช่นกันน่ะ ^^”
( หนิ แกเลิกคิดมากได้แล้วน่ะ แกยังฉันน่ะ)
“ อื้ม ฉันเลิกคิดตั้งนานแล้ว ขอบใจแกมากๆน่ะเว้ย ^^”
(อื้ม ดีแล้วงั้นฉันไปนอนก่อนน่ะแก พรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีจ้ะ ^^)
“ โอเคๆ เห้ยแก พรุ่งนี้ฉันมีอะไรจะเล่าให้ฟังด้วย”
(จริงอ่ะ เรื่องผู้ชายป่ะแก ><)
“ อีบ้า ไม่ใช่ย่ะ ฝันดีแกฉันจะไปนอนและ”
( ฮ่าๆ โอเคๆ บาย)
25 ธันวาคม 2555
6.00 น.
กริ๊ง !!!!
โอยย ~ ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่มันร้องเสียงดังจนคนข้างบ้านยังได้ยินเลย - - (เว่อร์ไปย่ะ) ฉันบิดขี้เกียจก่อนจะลุกไปหยิบผ้าขนหนู และก็เดินไปเข้าห้องน้ำโดยที่ตาของฉันมันยังไม่ลืมเลย ฮ่าว ~ -O-
ปึก !!
“ โอ๊ย !!”
นั่นไง - -“ ฉันร้องเสียงดังลั่นเมื่อเดินไปชนตู้เก็บหนังสือที่วางอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ เห้อ อะไรกันเนี้ย เจ็บตัวแต่เช้าเลยอ่ะ T^T ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ประมาณ 20 นาที ฉันก็เดินออกมาด้วยใบหน้าที่ใสปิ้ง ! ^o^ พอฉันแต่งตัวเสร็จ ฉันเดินไปหน้ากระจกแล้วส่องดูใบหน้าที่สวยใสไร้สิวของของตัวเอง(หลงตัวเองอ่ะ - -“) ก่อนที่จะบรรจงรวบผมทั้งหมดไว้ด้านหลัง และเหลือไว้แค่หน้าม้าเพราะมันไปไม่ถึงด้านหลัง -_- พอฉันมัดผมเสร็จฉันก็ใช้มือของตัวเองดึงๆผมส่วนหน้าให้หย่อนนิดๆ เพราะฉันไม่ชินกับการมัดผมตึงหน่ะสิ แหะๆ ฉันเดินลงบันไดพลางร้องเพลงด้วยท่าทางร่าเริง จนแม่ต้องถามฉันขึ้นด้วยความตกใจเพราะนานครั้งมากๆที่ฉันจะร้องเพลง
“ นี่ ! วันนี้หนูกินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่าลูก ? O_O”
แม่ฉันทำหน้าตาตื่นเหมือนเห็นนางฟ้าบินลงมาจากท้องฟ้าอย่างนั้นแหละ(จะเปรียบตัวเองว่างั้น ? (- -“ )) ) นี่ถ้าฉันเต้นแม่คงช็อคตาตั้งเลยล่ะมั้งเนี้ย -_-“ แต่ฉันก็ไม่ชอบเต้นจริงๆนั้นแหละฉันเป็นคงไม่กล้าแสดงออกอ่ะน่ะ >< (อ่ะจ้ะ - -“) แต่ไอ้เรื่องร้องเพลงอ่ะ ฉันชอบน่ะแต่ก็อย่างที่บอกว่านานครั้งมากกว่าฉันจะร้องเพลงทีหนึ่ง
“ โหแม่ วันนี้เปิดเทอมวันแรกของใหม่ ใหม่ก็ต้องร่าเริงหน่อยสิค่ะ ^o^”
ฉันตอบแม่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแฉ่งจนปากจะถึงหู -0- แต่ฉันก็แทบจะต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากพ่อบังเกิดเกล้า
“มันก็กระตือรือร้นแค่วันแรกเท่านั้นแหละเดี๋ยวคอยดูวันต่อไปสิ เหอะ นาฬิกา 10 เครื่องมันก็ไม่ตื่น -_-“ “
แย้ก !! ทำไมพ่อถึงพูดอย่างนี้ ~ T0T ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย ฉันแค่เป็นคนที่ทำอะไรเชื่องช้าเท่านั้นเอง -0- แต่ ! ฉันจะทำให้พ่อเห็นว่าฉันนี่แหละจะตื่นก่อนใครในบ้านเลยคอยดู !!
“ โถพ่อ เดี๋ยวพ่อคอยดูและกัน ชิช้ะ -^- “
ฉันพูดพร้อมทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดและเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะตักข้าวเข้าปากคำเบ้อเริ่ม ))^o^((
“ เห้อ ดูมันทำ - -“ “
พ่อฉันพูดอย่างหน่ายใจกับฉัน แต่ก็เอาเถอะเพราะนี้มันเหมือนกิจวัตรประจำวันของฉันกับพ่ออยู่แล้ว =_=” หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้ว พ่อก็ขับรถมาส่งฉันที่โรงเรียนทุกครั้งตั้งแต่เด็ดยันโต สักพักฉันก็มาถึงโรงเรียนบ้านของฉันกับโรงเรียนก็ห่างกันไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ฉันขี้เกียจมาเองเลยขอติดรถพ่อมาทุกวัน เพราะที่ทำงานของพ่อต้องผ่านโรงเรียนฉันอยู่แล้ว
“ สวัสดีค่ะพ่อ ^^” ฉันหันไปสวัสดีพ่อที่นั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ
“ อื้ม ตั้งใจเรียนล่ะ ^^”
ฉันพยักหน้ารับคำพ่อก่อนที่จะเดินลงจากรถแล้วมองรถพ่อที่ขับออกไป ฉันหันหลังกลับมาแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียน ที่จริงตอนนี้ฉันอยู่ ม.6 แล้วแหละ และวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการเรียน ม.6 โรงเรียนของฉันไม่เหมือนใครเขาหรอกเปิดเรียนในเดือนธันวาคม -_-“ ฉันอยู่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ ม.1 แล้ว ตอนที่ฉันจะขึ้น ม.4 ที่นี่ฉันกลัวมาก กลัวว่าจะไม่ติดที่นี่เพราะที่นี่กดเกรดมากและรองผอ.คนใหม่ ก็ดันมาเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในปีของฉันซะด้วยสิ เกรดของฉันอยู่ในขั้น 3 ขึ้นก็จริงแต่เอาเกรดของทุกเทอมมารวมกันฉันได้แค่ 3.02 เอง T^T มันกดมากๆเลยอ่ะ ฉันอยากจะอยู่โรงเรียนเดิมเพราะฉันไม่อยากไปที่อื่นหน่ะสิ และสิ่งสำคัญที่ฉันกลัวอีกอย่างคือฉันจะไม่ได้อยู่กับเพื่อนหน่ะสิ ToT (ที่แท้แกก็ติดเพื่อน - -)
~ จิงกะเบล จิงกะเบล จิงกะออนเดอะเวย์ ~
ไม่ต้องแปลกใจ มันคือเสียงโทรศัพท์ของฉันเองแหละ แหม ก็วันนี้มันวันคริสต์มาสนิ ฉันก็เลยเลือกเพลงให้มันเข้ากับเทศกาลหน่อย ว่าแล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่พอเห็นชื่อคนโทรเข้าฉันยิ้มออกมาเลย ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกมันคือไอ้ ‘มะนาว’ เพื่อนสนิทของฉันเองแหละ
“ ฮัลโหล ว่าไงไอ้นาว “
( ฮัลโหล ใหม่ แกมาถึงโรงเรียนยังว่ะเนี้ย >< )
“ มาถึงแล้ว ยืนอยู่หน้าโรงเรียนเนี้ย “
( อ๋อ แล้วแกจะให้ฉันไปรับไหม )
“ ไม่ต้องอ่ะ แกอยู่ไหนหล่ะ “
( ฉันอยู่บนห้องเราอ่ะ 253 อ่ะ )
“ อ่าๆ โอเคๆ เดี๋ยวฉันขึ้นไป “
ติ้ด
หลังจากที่ฉันคุยโทรศัพท์กับมะนาวเสร็จ ฉันรีบเดินไปที่ตึก 2 ชั้น 5 ห้อง 3 ห้ะ ! ชั้น 5 ! เย้ย !ไมมันสูงจังว่ะเนี้ย ตาย ! ขืนเดินขึ้นเดินลงแบบนี้ 2 เทอม น่องฉันก็โตพอดีอ่ะสิ T0T ลิฟต์ก็ไม่มีซะด้วย แต่ถึงฉันจะเรียนที่นี่มา 5 ปีแล้ว แต่ขอบอกเลยน่ะว่าฉันยังไม่ชินกับการขึ้นไปเรียนชั้นสูงๆแบบนี้เลยอ่า ~ เพราะทุกทีฉันเรียนแค่ชั้น 2 กับชั้น 3 เท่านั้นเอง เห้อ ~
ฉันใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็เดินมาถึงห้องเรียน โอ๊ย ! เหนื่อยชะมัดเลย ฉันว่าฉันต้องผอมแน่ๆเลยอ่ะ ขึ้นๆลงๆแบบนี้บ่อยๆอ่ะ ฉันยืนหอบแฮ่กๆ อยู่หน้าห้อง ยัยมะนาวที่มันเห็นฉันเหมือนหมาหอบแดด ก็รีบวิ่งออกมาหาฉันและก็เอากระเป๋าฉันไปถือมันเข้ามาประคองฉันราวกับว่าฉันเป็นยายแก่ที่กำลังจะเป็นลม - -“ และมันก็ค่อยๆพยุงฉันเข้าไปนั่งที่ที่มันจองไว้ให้ฉันอยู่แล้ว มันเลือกนั่งตรงกลางห้องเลย และประเด็นมันตรงกับพัดลมพอดีเลย ^o^ ไอ้มะนาวมันทั้งเอายาดมมาให้ฉันดมทั้งพัดให้สารพัดเลย ฮะๆ ยัยนี่มันชอบทำอะไรเว่อร์ๆหน่ะ แต่ฉันก็ดีใจน่ะที่มีมันเป็นเพื่อน แล้วมันก็เป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันด้วย มันอยู่กับฉันมาตั้งแต่ ม.1 ตอนที่จะขึ้น ม.4 ฉันกับยัยนาวก็ไปบนบานศาลเจ้าให้ฉันกับมันได้ขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนเดิมและได้อยู่ห้องเดียวกัน และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ฉันอยู่ห้องเดียวกับมันมาตลอดจนถึง ม.6 ฉันอยากจะบอกว่ามันรักฉันมากกว่าคนในครอบครัวมันเสียอีก และแต่ฉันก็อยากจะบอกมันว่าฉันก็รักมันมากเหมือนกัน มันคือเพื่อนแท้ของฉันเลยแหละ เวลาฉันเสียใจและนั่งร้องไห้ มันก็จะปลอบฉันและสักพักมันก็จะร้องตามฉันและที่สำคัญมันร้องหนักกว่าฉันอีก =_=” เวลาฉันพามันบ้ามันก็บ้าจนสุดขีดจนคนที่เป็นบ้าจริงๆยังอาย ฮ่าๆ มันแทบจะเป็นมือขวาของฉันเลย ( พูดอย่างกับเป็นมาเฟีย -_-“ )
“ นี่ ฉันไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้นน่ะแก –o- “ ฉันหันไปพูดกับไอ้นาวเมื่อเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของมัน
“ ไม่ได้ๆ ขืนแกเป็นลมแล้วไม่ฟื้นฉันจะทำไงอ่ะ T0T”
ฉันเนี้ยน่ะจะเป็นลมง่ายๆ ถ้าฉันไม่ฟื้นก็แค่จองวัดก็เท่านั้น - - (ก็ยังจะพูดต่อน่ะ) ยัยนาวมันกลัวว่าฉันจะตายจากมันมากเลยแหละ เย้ย ! นั้นไง มันเบะปากจะร้องไห้แล้ว แต่ฉันว่าการที่มันพูดอย่างนี้บ่อยๆ มันเหมือนคำแช่งฉันยังไงยังงั้นแหละ -_-“
“ ไอ้บ้า ! ฉันไม่ได้อ่อนแออะไรขนาดนั้นน่ะย่ะ กะอีแค่ชั้น 5 ชั้น 10 ฉันยังเคยขึ้นมาแล้วเลย “
“ ห่ะ ? ชั้น 10 โรงเรียนเรามีด้วยหรอว่ะ ? O_O” หง่ะ มันถามฉันหน้าตายมาก นี่มันไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้เนี่ยว่าฉันประชดมันอยู่ เห้อ ~
“ ฉันประชดย่ะ - -”
“ แหะๆ นี่แก ออกไปยืนที่ระเบียงหน้าห้องกัน ^^”
“ อืม เอาดิ”
ยัยนาวชวนฉันออกไปยืนที่ระเบียงหน้าห้อง ฉันสูดอากาศเข้าเต็มปอด ฉันว่าอยู่สูงๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ มองเห็นวิวทิวทัศน์ในรงเรียนชัดดี และอากาศก็ดีอีกด้วย ^o^
“ โห ~ ฉันเพิ่งรู้น่ะเนี้ยว่าโรงเรียนเราก็กว้างเหมือนกันอ่ะ *o*” ยัยนาวยืนทำตาเป็นประกายเมื่อมองเห็นบริเวณโรงเรียน
“ แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมาแกคิดว่าโรงเรียนเรามันแคบหรือไงย่ะ - -“”
ควับ !
ยัยนาวหันมามองค้อนฉัน ตอนนี้หน้าของมันไม่ต่างอะไรกับคิงคองตอนโกรธเลย ฮ่าๆ ฉันสะดุ้ง ไม่ได้กลัวมันน่ะ แต่แค่ตกใจใบหน้าของมันในตอนนี้มาก ฉันกลั้นไม่ไหวจนต้องพ่นขำออกมา จนยัยยาวปรับสีหน้าเป็นบึ้งตึงก่อนที่จะพ่นขำออกมาเหมือนกัน มันคงรู้ว่าฉันขำหน้าของมัน เปิดเทอมมาวันแรกก็ได้ขำเลยแห่ะ ^o^
“ ฮ่าๆ หน้าแกโคตรฮาเลยอ่ะนาว ฮ่าๆ”
“ เชอะ ขำไปเถอะย่ะ ระวังตัวไว้เหอะฉันจะเอาภาพหลุดๆของแกไปประจานให้ประชาชีรู้ให้หมดเลย ฮ่าๆ ^o^”
เฮือก ! ฉันหยุดขำทันที เมื่อได้ยินคำว่า ‘ภาพหลุด’ ฉันหันไปค้อนยัยมะนาวที่ยืนขำอยู่อย่างกับคนบ้า ยัยนี่มันชอบแอบถ่ายฉันตอนหลุดๆไว้น่ะสิ ฉันว่าจะหาโอกาสแกล้งยืมโทรศัพท์มันมาแล้วลบรูปทิ้งซะ แต่ก็ไม่มีโอกาสซักที เพราะว่ามันรู้มันตลอดเลยอ่ะ T^T
“ เออ แกจำไว้เลยน่ะ แกกล้าประจานเพื่อนรักแกอ๋อ ”
“ เห้ย แกงอลฉันหรอ ฉันขอโทษฉันไม่ทำหรอก ฉันพูดไปอย่างนั้นแหละ แกอย่างอลฉันน้า ~ *^*”
ฮ่าๆ มารยาของฉันได้ผลจริงๆด้วยแหละ ยัยนาวหยุดขำทันทีแล้วหันมาขอโทษขอโพยฉัน หน้ามันกำลังจะร้องไห้เลยอ่ะ ฮ่าๆ เวลามันเบะก็น่ารักดีเหมือนกันน่ะเนี้ยเพื่อนเรา ^_~ และขณะที่พวกเรากำลังคุยเล่นกันอยู่นั้น ก็ต้องชะงักเมื่อ อาจารย์ที่ใส่แว่นตาต่ำอยู่ที่สันจมูกตามสไตล์ของอาจารย์โหดๆ เกล้าผมขึ้นตึงเรียบ ใส่เสื้อแขนยาวติดกระดุมจนถึงคอ กระโปรงยาวคุมเข่า และเอาเสื้อเข้าในกระโปรงพร้อมกับรองเท้าส้นเตี้ย เดินเชิดมาแต่ไกล ในมือถือหนังสือ 2-3 เล่ม พร้อมกับไม้เรียว เอ้ย ! นี่มันอาจารย์ ดรุณี ที่สอนคณิตศาสตร์ โจทย์เก่านี่หว่า ! ฉันกับยัยนาววิ่งเข้าห้องอย่างรวดเร็วปานสายลม และนั่งที่ของตัวเองอย่างเงียบเฉียบ ไม่นานอาจารย์ ดรุณี ก็ย่างกรายเข้ามาในห้องเรียนของฉัน ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที ขนาดเด็กใหม่ที่ยังไม่รู้อะไรยังหุบปากเงียบทันทีที่เห็นอาจารย์เดินเข้ามา
“ สวัสดี นักเรียนทุกคน !”
“ สะ…สวัสดีค่ะ/ครับ อาจารย์”
ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกจนถึงกระดูกสันหลังเลยอ่ะ ToT เสียงแหลมปี๊ดของอาจารย์ ดรุณี ทักทายนักเรียนทุกคน ฉันสังเกตเห็นพวกเด็กนักเรียนที่นั่งข้างหน้าสะดุ้งกันนิดหน่อยเมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ ดรุณี ฮึ่ย ! นี่อย่าบอกน่ะว่าฉันจะต้องเจอกับอาจารย์เสียงแปดหลอดคนนี้ไปทั้งเทอมเลยอ่ะ T^T (หง่ะ สมควรแล้วแหละ ดูเรียกอาจารย์สิ -_-“)
ตึ่ง ตึง ตึ่ง ตึง ~
เย้ ! เสียงสวรรค์ของฉันดังขึ้นแล้ว มันคือเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนหน่ะ หลังจากอาจารย์ที่สอนวิชาสุดท้ายออกไปแล้ว ฉันก็ยืนขึ้นบิดขี้เกียจจนตัวขี้เกียจหล่นกระจาย ฮ่าๆ วันเปิดเรียนวันแรกผ่านไปแล้ว เฮ้ !~ วันนี้ฉันเรียนกับอาจารย์ ดรุณี ตั้ง 2 คาบติดกันแหนะ หัวสมองแทบจะระเบิด แถงยังต้องนั่งเกร็งตลอดเวลาอีก ก็อาจารย์คนนี้แกตาไวยิ่งกว่าเหยี่ยวอีก =_=”
“ เฮ้ ปีใหม่ ^o^”
เย้ย ! O_O ฉันตกใจจนเกือบเอาหนังสือในมือฟาดคนตรงหน้าซะแล้ว เอ้ ~ แต่ทำไมนายคนนี้หน้าคุ้นจัง เหมือนเคยเจอเมื่อตอนเด็กๆ (แกก็ยังจำได้เนาะ - -) แต่ขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้น นายนี่ก็เหมือนจะรู้ว่าฉันนึกไม่ออก ก็เลยพูดแนะนำชื่อตัวเองขึ้นมา
“ ฉันมิคกี้ไง จำได้ไหม ^o^” นายนี่ยิ้มเก่งชะมัดเลยพูดทียิ้มที
“ อ๋อ ฉันจำได้แล้ว ว่าแต่นายมีไรหรอ ?”
“ อ๋อ เปล่าหรอก ฉันแค่มาทักเฉยๆ ^o^”
“ นี่ ยัยใหม่ เย็นนี้ไปเที่ยวงานวันคริสต์มาสกันไหม ฉันอยากเปิดหูเปิดตาอ่ะ *o*”
ยัยนาวที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยปากชวนฉันไปเที่ยวด้วยท่าทางตื่นเต้น แหม แล้วทุกวันนี้แกไม่ได้เปิดหูเปิดตาหรือไงย่ะ - -
“ อื้ม เอาดิ ฉันก็อยากไปเหมือนกัน ^^” (แหม ว่าแต่เพื่อนแกก็ตอบตกลงเหมือนกันแหละย่ะ)
“ เฮ้ ! ดีเลย งั้นฉันขอไปด้วยได้ไหมอ่ะ คือฉันเป็นเด็กใหม่ยังไม่ค่อยมีเพื่อนหน่ะ ^^”
นายมิคกี้ที่นั่งฟังพวกเราคุยกันอยู่นั้น ก็ร้องออกมาจนพวกฉันสะดุ้ง ฉันกับยัยนาวยืนมองหน้ากันอย่างงงๆ และยัยนาวก็เป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน
“ ก็เอาสิ ไปกันเยอะสนุกดี ^^”
โถ ฉันก็นึกว่าแกจะปฎิเสธเสียอีก เห็นทำหน้างงๆ ที่ไหนได้กับตอบตกลงซะงั้น แหม เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้ - -“
ตกเย็น…
ฉันนัดเจอกับไอ้นาวและก็มิคกี้ที่หน้าร้านไอศกรีมที่เดิมหน้าโรงเรียน ฉันยังคงใส่ชุดนักเรียนเหมือนเดิมแต่แค่เอาเสื้อออกจากกระโปรงเท่านั้น ไม่ใช่อะไรหรอกน่ะ ฉันแค่ขี้เกียจเปลี่ยนเท่านั้นเอง พอฉันไปถึงร้านไอศกรีมฉันก็เห็นยัยนาวยืนรอฉันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ฉันจึงวิ่งเข้าไปหามัน และไม่นานมิคกี้ก็มาถึง
“ รอนานไหมอ่ะ โทษทีน่ะ พอดีฉันแวะไปทำธุระนิดหน่อยอ่ะ ^^’’” มิคกี้รีบพูดอย่างร้อนรนเพราะกลัวว่าพวกฉันจะโกรธ
“ ไม่นานหรอกฉันก็เพิ่งมาเหมือนกัน” ฉันตอบกลับไปเพื่อให้เขาสบายใจ
“ ป้ะ เรารีบเข้าไปในงานกันเถอะ ><”
ยัยนาวรีบจูงมือพวกเราเข้าไปในงานทันที ภายในงานมีคนแต่งตัวเป็นซานตาคลอสเดินแจกขนมทั่วงานไปหมด ในนี้ก็จะมีร้านขายของต่างๆ เป็นซุ้มๆ ตลอดทางเดินที่ประดับไฟระโยงระย้าเต็มต้นไม้และทางเดินอย่างสวยงาม พวกเราเดิมมาหยุดอยู่ที่ร้านข้าวโพดปิ้ง ยัยนาวมันอยากกินก็เลยลากพวกฉันไปซื้อด้วยกัน ยัยนาวซื้อให้ฉันกับมิคกี้คนละอัน ถือว่าเป็นบุญมากเพราะนานๆทีที่มันจะควักเงินตัวเองออกมาใช้ พอซื้อเสร็จพวกเราก็ออกเดินดูของในงานต่อ ฉันมองไปรอบๆงาน แต่ทว่าฉันต้องชะงัก เมื่อสายตาของฉันดันไปสะดุดกันผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ดวงตาสีฟ้าครามนั้น ! O_O ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ข้าวโพดในมือของฉันล่วงลงพื้น เพราะฉันจำเขาได้แม่นเลยว่าผู้ชายคนนั้นคือ รัฟเฟิล !! ถึงมันจะมืดแต่ฉันก็จำผู้ชายที่ฉันเฝ้ารอเขามานานได้ เขามองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ฉันเดาไม่ถูก เขาใส่ชุดคลุมสีดำ และในขณะที่ฉันกำลังจะวิ่งเข้าไปหาเขานั้น มิคกี้ก็จับแขนฉันไว้ จนฉันต้องหันกลับไปหาเขา แต่พอฉันหันกลับมารัฟเฟิลก็หายไปแล้ว ฉันแทบหมดแรง ความหวังที่ฉันจะเจอเขามันริบรี่ลงอีกแล้ว… T^T
“ จะไปไหนอ่ะปีใหม่” มิคกี้ถามฉันด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร่าวจนฉันตกใจ
“ เปล่า…ไม่มีอะไร ฉันแค่ตาฟาดหน่ะ”
“ ยัยใหม่ เราไปหาที่นั่งกันดีกว่าน่ะ”
ยัยนาวที่เหมือนจะรู้ว่าฉันไปอะไร ก็พาฉันหาที่นั่ง พวกเรามานั่งที่โต๊ะอาหารของซุ้มหนึ่ง ยัยนาวบอกให้มิคกี้ไปซื้อบะหมี่มาให้หน่อย แต่ฉันรู้ว่ายัยนาวมันต้องการให้ฉันระบายความอึดอัดใจให้มันฟัง มันเลยไม่อยากให้คนอื่นอยู่ด้วย
“ ใหม่ แกเป็นอะไรหรือเปล่า แกมีอะไรก็บอกฉันได้น่ะ” ยัยนาวถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“ ฉัน…ฉันเจอเขาอ่ะนาว ฮึก ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักและไม่นานน้ำตาของฉันก็ไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้ ยัยนาวกอดปลอบฉันด้วยความห่วงใย มันรูว่า ‘เขา’ ที่ฉันพูดถึงคือรัฟเฟิลเพราะฉันเคยเล่าเรื่องฉันกับรัฟเฟิลให้มันฟัง
“ นี่มันผ่านมา 10 ปี แล้วน่ะ แกยังไม่ลืมเขาอีกหรอ” ยัยนาวถามฉันพลางปลอบฉันที่อยู่ในอ้อมกอดของมัน
“ ฉันลืมเขาไม่ได้” ฉันตอบพลางร้องไห้โหเหมือนเด็กๆ ใครจะลืมคนที่ตัวเองรักได้ลง… มิคกี้ที่เดินเข้ามาพร้อมถ้วยบะหมี่ 2 ถ้วย ก็ถึงกับทำหหน้างงเมื่อเห็นฉันร้องไห้หนัก เขาทำหน้าเหล่อหลาแล้วนั่งลง
“ มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ ใครทำอะไรใหม่หรอ O_O?” เขาถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้ใหม่มันแค่เสียใจที่พ่อกับแม่มันทะเลาะกันหน่ะ”
“ อ๋อ ~ ไม่เป็นไรน่ะใหม่ ^^”
มิคกี้เอามือมาลูบไหล่ฉันเป็นเชิงปลอบ ฉันเลิกร้องไห้แล้วปาดน้ำตาทิ้ง และฉันก็นั่งกินบะหมี่ที่มิคกี้ซื้อมาให้ ยัยนาวนี่มันคิดข้อแก้ตัวให้ฉันดีจริงๆ ว่าแต่พ่อแม่ของฉันไปทะเลาะกันตอนไหนน่ะ ฮ่าๆ แต่ฉันก็ต้องขอบคุณมันน่ะ ที่ช่วยฉันและเป็นห่วงฉัน แต่นายมิคกี้ก็ต้องขอบใจที่เป็นห่วงอ่ะน่ะ แต่นายไม่หน้าเชื่อใครง่ายขนาดนี้เลย
-_-“
พอกินเสร็จยัยนาวก็แย้กย้ายกับฉันกลับบ้านแถมมันยังบอกส่งท้ายอีกว่า ‘อย่าคิดมากน่ะแก พรุ่งนี้ฉันไม่อยากเห็นคนตาบวมเหมือนโดนผึ้งต่อยย่ะ ^o^’ ฮ่าๆ ยัยนี่นี่จริงๆเลย ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับมิคกี้ 2 คนเขาอาสาจะไปส่งฉันที่บ้านเพราะทางกลับบ้านของเขามันต้องผ่านบ้านฉันอยู่ดี
ตอนนี้ฉันกับมิคกี้ยืนอยู่ที่หน้าบ้านของฉัน ฉันหันไปขอบใจมิคกี้แล้วกำลังจะหันหลังกลับไปเปิดประตูบ้านแต่ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของเขา
“ ใหม่ เรื่องในอดีตอ่ะ บางทีก็ลืมๆมันไปบ้างน่ะ แล้วมาอยู่กับปัจจุบันเถอะ Merry Christmas น่ะ ^^”
ฉันหันกลับมาหาเขาที่กำลังบ๊ายบายฉันแล้วเดินจากไป ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าบ้านอย่างงงๆ ฉันไม่รู้ว่ามิคกี้รู้อะไรเกี่ยวกับอดีตของฉันหรือเปล่า และคำพูดของเขาก็แปลกๆเขาไม่เคยเรียกฉันว่า ‘ใหม่’ คนที่สนิทกับฉันจริงๆเท่านั้นถึงจะเรียกชื่อฉันคำเดียวได้ ฉันสะบัดหัวแล้วเลิกคิด ก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านไป
ตอนนี้ 23.40 น. แล้ว ฉันออกมายืนอยู่ตรงระเบียงบนห้องนอน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่มืดสนิท และมีดวงดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า ความเงียบเหงาทำให้ฉันฉุกคิดไปถึงอดีต…อดีตที่มันเด็กชายและเด็กหญิงคู่หนึ่ง ที่กำลังนอนดูดาวด้วยกันอย่างมีความสุข ในวันคริสต์มาส…แต่นี่มันคือปัจจุบันฉันคิดไปแล้วก็ใจหายวันคริสต์มาสทุกปี ฉันจะมีเขาอยู่ข้างกายเสมอ และตั้งแต่เขาจากไป วันคริสต์มาสสำหรับฉันมันก็เหมือนวันธรรมดาๆวันนึงนั้นแหละ ถึงฉันจะมียัยมะนาวที่อยู่ข้างฉัน ชวนฉันไปเที่ยวนู้นเที่ยวนี่ แต่ในใจของฉันก็อยากมีเขาอยู่ข้างกายฉันตลอดอยู่ดี
23.50 น. ฉันก้มมองเวลาในโทรศัพท์ แล้วเงยหน้าขึ้นพร้อมพูดกับตัวเอง
“ ใหม่ เรามานับถอยหลังกันน่ะ เตรียมน่ะ 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 Merry Christmas”
ฉันบอกกับตัวเอง และสมองของฉันก็ย้อนกลับไปถึงตอนที่ฉันนับถอยหลังและนั่งดูพลุกับเขาคนนั้น ฉันอยากจะห้ามสมองตัวเองไม่ให้คิดถึงมันอีก แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ขอบตาของฉันร้อนผ่าว ไม่นานน้ำตาเพื่อนยากมันก็ไหล ลงมา ลงมา…อย่าไม่มีทีท่าว่าจะหยุด นี่ฉันเป็นอะไร
ตือดึง ~
เสียงข้อความดังขึ้นทำให้ฉันต้องละสายตาจากท้องฟ้า ลงมามองข้อความในโทรศัพท์ ฉันปาดน้ำตาทิ้ง แล้วดูว่าใครส่งข้อความมา แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะในนี้มันขึ้นเป็นเบอร์แปลก มันไม่มีชื่อบอกว่าใคร
‘ Merry Christmas เลิกร้องไห้ได้แล้ว ยัยขี้แย ^^’
ห่ะ ! เขารู้ได้ไงว่าฉันร้องไห้ O_O เขาอยู่แถวนี้หรอ ฉันหันซ้ายหันขวามองลงไปข้างล่างก็ไม่พบใคร เย้ย ! ฉันเริ่มกลัวแล้วน่ะ T0T ระหว่างที่ฉันกำลังพิจารณาเรื่องข้อความอยู่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นและก็พบว่าเป็นยัยนาวที่โทรมาหาฉัน
“ ฮัลโหล ว่าไงแก”
( นี่ Merry Christmas น่ะแก ^^)
“ อื้ม Merry Christmas เช่นกันน่ะ ^^”
( หนิ แกเลิกคิดมากได้แล้วน่ะ แกยังฉันน่ะ)
“ อื้ม ฉันเลิกคิดตั้งนานแล้ว ขอบใจแกมากๆน่ะเว้ย ^^”
(อื้ม ดีแล้วงั้นฉันไปนอนก่อนน่ะแก พรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีจ้ะ ^^)
“ โอเคๆ เห้ยแก พรุ่งนี้ฉันมีอะไรจะเล่าให้ฟังด้วย”
(จริงอ่ะ เรื่องผู้ชายป่ะแก ><)
“ อีบ้า ไม่ใช่ย่ะ ฝันดีแกฉันจะไปนอนและ”
( ฮ่าๆ โอเคๆ บาย)
Font
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มี.ค. 2557, 12:47:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มี.ค. 2557, 12:47:27 น.
จำนวนการเข้าชม : 1152
<< บทนำ | บทที่ 2 >> |