เสน่ห์นางหงส์
ตมิสา แม่หงส์สวยแสนเสน่ห์ เซเลบฯ สาวจอมหยิ่ง ขี้วีน ปากร้าย แล้งน้ำใจ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา แต่ทำไม๊ทำไมคนอย่าง คณาธิป เจ้าของไร่ "พระจันทร์” หนุ่มหล่อพ่อไม่รวยถึงได้ตกหลุมเสน่ห์แม่หงส์จนถอนตัวไม่ขึ้น
ในอดีตเขาคือ "ไอ้เด็กวัด" แสนเชยที่คอยตามตอแยเธอตลอด แต่สาวเจ้าหรือจะชายตาแล และเมื่อฐานะเปลี่ยน งานนี้เขาจึงต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อพิชิตหัวใจเย็นชาของแม่สาวจอมขี้วีนอย่างเธอมาให้ได้ ดั่งคำกล่าวว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล เมื่อไม่ได้ด้วยกลก็เอาด้วยคาถา คำว่า "มารยา" ใครว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้เป็น

Tags: นิยายรัก สาริน

ตอน: ตอนที่ 6 50%

ตมิสาตื่นแต่เช้าตรู่เพราะนอนไม่หลับเลยทั้งคืน เธอไม่ชินกับห้องพักที่ไร้ความเลิศหรูและห่างไกลจากคำว่าสุขสบายโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะเสียงนกร้องเหมือนนกกระจอกแตกรังแต่เช้ามืดปลุกให้เธอตื่นทั้งที่เพิ่งงีบไปได้ไม่กี่นาทีในขณะที่แม่ของเธอหลับสนิทแถมยังยิ้มราวกับว่าห้องพักหลังนี้น่ารื่นรมย์จนทำให้หลับฝันดี
หญิงสาวหยัดกายลุกจากเตียงนอนเดินออกไปนอกระเบียง หมอกสีขาวมัวซัวลอยล่อง อากาศหนาวสำหรับคนอื่นแต่กำลังเย็นสบายสำหรับเธอ หมอกสีขาวตัดกับดอกกุหลาบสีแดงเข้มมองไกลๆ มีรีสอร์ตไม้หลังงามหลายหลังตั้งลดหลั่นกันไปดูคล้ายเมืองในฝันหรือในจินตนาการ
ก็…ถือว่ายังพอมีดีอยู่บ้าง
หญิงสาวยักไหล่ แม้จะไม่พิสมัยกับการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติซักเท่าไหร่แต่ก็อดไม่ได้จึงได้หลับตาพริ้มสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดทว่าลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอกับผู้ชายร่างหนาตัวสูง ผมยาวเคลียไหล่หยักศกมัดเอาไว้ด้านหลังลวกๆ ใต้คางมีเคราเขียวจางๆ เหมือนไม่ได้ผ่านการโกนหนวดมาราวหนึ่งสัปดาห์ ใบหน้านั้นมีคราบเปื้อนดิน ในมือข้างหนึ่งถือเสียมแต่อีกข้างมีถุงกระดาษสีทองสกรีนชื่อสาธิตารีสอร์ตเป็นอักษรสีเงิน
คุ้นตา…
“นาย…” หญิงสาวชี้หน้าคนตัวหนาให้คณาธิปหัวใจเต้นแรง กลัวว่าหญิงสาวจะจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเรียนร่วมสถาบันกับเธอ และเคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อน
“คุณตมิสา คือผม…”
“ไอ้คนสวนที่ทำเสื้อฉันเปื้อนเมื่อคืนนี่” ตมิสาเสียงห้วนเข้าใส่ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก ตัวเขาไม่มีค่าควรให้เธอจดจำเลยจริงๆ
“ใช่ครับคุณนาย เอ๊ย…คุณผู้หญิง” คณาธิปยิ้มยิงฟันขาวทำให้หญิงสาวเบ้หน้าโบกมือ
“พอๆ ไม่ต้องมายิ้ม เห็นแล้วมวนท้องจะอาเจียน แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณนายหรือคุณผู้หญิงได้แล้ว เรียกฉันว่าคุณตมิสาเฉยๆ”
“ครับคุณตมิสาเฉยๆ” คณาธิปยิ้มเผล่หน้าซื่อ ไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังยียวนทำให้หญิงสาวยับยั้งคำด่าทอเอาไว้ในใจ
“ตมิสา ไม่ต้องมีคำว่าเฉยๆ แล้วนั่นถุงอะไร” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นมืออีกข้างของเขาถือถุงสีทองเดินมาหยุดหน้าเรือนพักของเธอ
“เสื้อคุณ”
“เสื้อฉัน!” เจ้าของเสื้อขึ้นเสียงสูง ตาวาววับ ก้าวเท้าฉับๆ ไปตรงหน้าเขาแล้วคว้าถุงนั้นมาเปิดดู เห็นเป็นเสื้อชุดเมื่อวานที่เปื้อนคราบน้ำมัน “ทุเรศที่สุด ทำไมรีสอร์ตนี้มันห่วยแบบนี้”
“อะไรกันคุณผู้หญิง ทางรีสอร์ตก็ทั้งซักทั้งรีดมาให้ ยังจะว่าห่วยอีกเหรอ” คนตัวดำย้อนถาม เสื้อในถุงหอมกรุ่นด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซักสะอาดจนไม่เหลือคราบแถมยังรีดจนเรียบร้อยมาให้
“ซักดี รีดดีแต่ที่ไม่ดีก็คือใช้ให้คนสวนเอาของมาให้แขก” หญิงสาวสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อในถุง เมื่อเห็นทุกอย่างเรียบร้อยจึงวางแอบไว้ข้างเสา
“ใครเอามาให้ก็เหมือนกันละคุณ ไอ้คราบสกปรกบนตัวผมมันก็คงไม่ไหลเปรอะเปื้อนชุดสวยของคุณหรอก แล้วที่ผมเอามาให้ด้วยตัวเองก็เพราะผมเป็นคนทำให้มันเปื้อนก็อยากรับผิดชอบเอามาส่งให้แต่ถ้าคุณรังเกียจก็เอามา เดี๋ยวผมเอาไปซักใหม่” มือหนาจะคว้าถุงนั้นกลับคืนแต่หญิงสาวตวาด
“หยุด”
ชายหนุ่มเบือนหน้าขึ้นมาสบพร้อมกับที่หญิงสาวหยิบถุงนั้นมาถือไว้ในมือ ไม่พูดแต่เขาก็อ่านสายตารังเกียจนั้นออกจึงได้ล่าถอยไป
“ไม่ต้องดุขนาดนั้นก็ได้คุณตมิสา ผมไม่แตะต้องของๆ คุณแล้วก็ได้” เขาตัดบทแล้วเดินไปหยุดใต้พุ่มผกากรองแล้วพรวนดิน จงใจตวัดปลายเสียมให้เศษดินปลิวมาโดนตัวทำให้หญิงสาวร้องโวยวาย
“ไอ้บ้านี่ แกจงใจแกล้งฉันใช่ไหม”
“โอ๊ะ..อย่ากล่าวหาอะไรรุนแรงอย่างนั้นสิครับคุณ ผมนึกว่าคุณไปแล้วก็เลยพรวนดินแรงไปหน่อย” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น ทิ้งเสียมแล้วล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงสีซีดมอซอออกมาส่งให้ ไม่คิดว่าเธอจะคว้ามาไว้ในมือทว่าเพียงไม่นานผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นก็ปะทะใบหน้าเขาเต็มแรง
“คนอย่างฉันตมิสา ตฤนโสภณ ไม่เอาผ้าเช็ดหน้าราคาถูกๆ แบบนี้มาเช็ด อย่าว่าแต่ตัวเลยต่อให้เป็นรองเท้าฉันก็ไม่ใช้” ตมิสาตวาด ริมฝีปากบิดออกให้เห็นรอยยิ้มหยันก่อนสะบัดหน้าเดินกลับเข้าห้องไป ได้ยินเสียงใครอีกคนในห้องนั้นงัวเงียถาม
“ตื่นแต่เช้าจังลูก”
“ตื่นเช้าอะไรละคะแม่ จันทร์ยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก ไม่เอาแล้วนะคะรีสอร์ตห่วยๆ แบบนี้ แม่ตื่นก็ดีแล้วค่ะ เราจะได้เช็กเอาท์เสียที”
“อ้าว ก็ไหนว่าทีมงานจะมาถึงบ่ายนี้”
“ช่างมันสิคะ เดี๋ยววันนี้จันทร์จะโทรไปเฉ่งคุณปฏิพัทธ์ซักหน่อย โทษฐานที่หาที่พักแย่ๆ แบบนี้มาให้จันทร์ นี่ถ้าไม่เกรงใจละก็จันทร์จะยกเลิกไม่ถ่งไม่ถ่ายมันแล้ว”
“ได้ยังไงละจันทร์ อย่าทำแบบนั้นเลยน่า เกิดพวกนั้นมันพูดๆ ไปปากต่อปากมันจะเสียกันหมด”
“ก็เพราะอย่างนี้ไงละคะจันทร์ถึงได้ยั้งไว้ก่อน รีบๆ ถ่ายให้มันเสร็จจะได้กลับกรุงเทพฯ ซะที ไม่น่าหลวมตัวแต่แรกเลยจริงๆ” หญิงสาวดูจะไม่ชอบใจไปเสียทุกอย่างทำให้เจ้าของรีสอร์ตห่วยๆ ถอนหายใจ ยังไม่ทันเริ่มต้นเขาก็ชักจะหมดหวังเสียแล้ว

โป๊ก…โป๊ก
เสียงเคาะดังเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอทำให้คนอารมณ์หงุดหงิดอย่างตมิสาต้องกลอกตาขึ้นมองเพดานห้องพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
“เห็นไหมคะแม่ ว่าไอ้รีสอร์ตนี่มันเป็นยังไง” ตมิสาเดินมากระชากประตูเปิดออกแล้วกวาดสายตามองหาที่มาของเสียงแล้วก็ได้เห็นว่าคนสวนหน้าดำที่กวนประสาทเธอเมื่อเช้ากำลังก้มหน้าก้มตาตอกไม้ลงกับดินเพื่อใช้เป็นหลักยึดให้กับดอกไม้ที่เพิ่งเอาลงใหม่
“แก” หญิงสาวส่งเสียงเรียกทว่ามันถูกกลบด้วยเสียงตอกไม้ คนเรียกจึงสาวเท้าไปหยุดตรงหน้า ขาขาวๆ ในกางเกงขาสั้นทำให้ชายหนุ่มหยุดมือก่อนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองตั้งแต่ปลายเท้าในรองเท้าแตะสานมาจนถึงใบหน้าสวยหยาดเยิ้มทว่ามันถูกลดทอนความงามด้วยใบหน้โาบูดบึ้งนั้น
“มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับคุณตมิสา”
“มี…ฉันสั่งให้แกหยุดตอกไม้พวกนี้เสียที มันดังหนวกหู”
“ผมจะพยายามตอกเบาๆ แล้วกันนะครับคุณ แต่ถ้าจะให้หยุดไปเลยก็คงทำไม่ได้ เพราะมันเป็นคำสั่งของคุณธิป”
“คุณธิป?”
“เจ้านายผมครับ เจ้าของไร่สวยๆ ที่คุณยืนอยู่รวมทั้งรีสอร์ตห่วยๆ นี่ด้วย” ชายหนุ่มวาดมือออกสุดแขนก่อนชี้มือมายังเรือนไม้สักตรงหน้า
หญิงสาวเบ้หน้า ยิ้มเหยียด
“ชื่อธิปหรอกเหรอ เจ้าของไร่เล็กๆ ไร้ความศิวิไลซ์แล้วรีสอร์ตพวกนี้”
“ครับคณาธิป ท่านเป็นคนดุมาก ถ้ารู้ว่าผมทำงานพวกนี้ไม่เสร็จละก็ มีหวังเดือนทั้งเดือนผมคงไม่ได้รับเงินเดือน” คนสวนกำมะลอโอดครวญทว่าหญิงสาวโบกมือให้หยุดอย่างรำคาญใจ
“นั่นเป็นเรื่องที่แกกับนายคนนั้นจะต้องเคลียร์กันเอง แต่ฉันเป็นลูกค้าและสั่งให้หยุดเพราะว่ามันหนวกหูมาก ถ้าไม่หยุดละก็ฉันจะเดินไปบอกผู้จัดการรีสอร์ตเดี๋ยวนี้”
“แต่งานผม…”
“อยากโดนไล่ออกเพราะเจอคอมเม้นต์ยาวๆ ของฉันหรือไง ถ้าฉันได้ยินเสียงแกตอกไม้อีกละก็เจอดีแน่” หญิงสาวชี้หน้าคาดโทษก่อนเดินเชิดหน้ากลับเข้าไปในเรือนพัก คณาธิปส่ายหัวกับความร้ายกาจของตมิสาที่แม้จะผ่านมากี่ปีก็ยังไม่เปลี่ยน
หญิงสาวหายไปในเรือนพักไม่นานก็ออกมาด้วยชุดใหม่ที่เตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอก เดินผ่านหน้านายคนสวนที่ก้มหน้าก้มตาขุดหลุมปลูกกุหลาบแทนที่การตอกไม้ไปโดยไม่คิดปรายตามอง ต่อเมื่อเดินไปถึงลานจอดรถสำหรับลูกค้า เธอก็เดินลิ่วๆ ไปยังเคาน์เตอร์ด้านหน้า เสียงโวยวายนั้นทำให้เขาต้องเดินตามหลังไปห่างๆ
“ฉันไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วนะกับรีสอร์ตของคุณ”
“ใจเย็นๆ นะคะคุณตมิสา เกิดอะไรขึ้นคะ” ลลิตาออกมารับหน้าในทันทีที่เห็นเซเลบฯ สาวเดินย่ำรองเท้าสูงเข้ามา
“รถฉัน แบนแต๊ดแต๋จนแม็กติดพื้นแบบนั้น ทั้งที่จอดในลานจอดรถของรีสอร์ต พวกคุณจะต้องรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นฉันจะประจานให้ทั่วเลยนะว่าบริการของสาธิตารีสอร์ตมันย่ำแย่แค่ไหน”
“เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้นะคะ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่รถจะซ่อมเสร็จ ฉันกำลังจะออกไปทานข้าว หิวจะตายอยู่แล้ว”
“ที่รีสอร์ตของเรามีร้านอาหาร เชิญคุณตมิสาที่นั่นนะคะ ทางเราไม่คิดค่าอาหารรวมทั้งเครื่องดื่มด้วยค่ะ” ลลิตานำเสนอ สบตาเข้ากับนายคนสวนกำมะลอที่จู่ๆ ก็โผล่มาที่รีสอร์ตแต่เช้าพร้อมด้วยคำสั่ง



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มี.ค. 2557, 22:26:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มี.ค. 2557, 22:26:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 979





<< ตอนที่ 5 100%   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account