นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 18

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 18

เมื่อไฟรักสงบลง คิลเลี่ยนโอบกอดภรรยาไว้ในอ้อมแขน เขายังไม่เหนื่อยชนิดที่จะหลับหลังเสร็จกิจ เขาลูบแขนภรรยาแล้วครุ่นคิด แล้วค่อยบอกความจริง

“พี่เลิกสัญญากับทางค่ายเพลงแล้วนะ ไม่ไหวแล้วล่ะ ยัดงานมาให้ไม่ลืมหูลืมตา” คิลเลี่ยนบอกภรรยา ก่อนหัวเราะนิดๆ “กลับมาตกงานอีกรอบ”

มินตราพลิกตัว แล้วเท้าคางมองสามี “แล้วโดนปรับเยอะไหมคะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ในสัญญาไม่มีค่าปรับนะ สงสัยตอนนั้นยังไม่แน่ใจมั้งว่าพี่จะมีค่าหรือเปล่า พี่ก็อิ่มตัวแล้วด้วย ชีวิตคู่ทางไกลนี่มันเหนื่อยนะ” คิลเลี่ยนบอกแล้วลูบผมมินตราอย่างอ่อนโยน “สงสารเมียพี่ โดนโจมตี พี่ก็ไม่มีเวลาปลอบ มัวแต่จำเพลงนั้น ท่องเพลงนี้ ทำอารมณ์ของเพลงอีก ไม่มีเวลา โดนมาแอลิซแกล้งก็ทำอะไรไม่ได้ ปวดหัว”

“พี่เคน่ะ ก็น่าสงสารเหมือนกันนะคะ” มินตรายืดตัวไปโอบรอบคอ แล้วจูบเขาเอาใจ

“ใช่น่าสงสารมาก เมียพี่ก็ขยันเอาหนุ่มคนนั้นคนนี้มาเดินควง” คิลเลี่ยนก็แกล้งพูดเศร้าๆ

“มินต์มีพี่เคคนเดียวนะคะ ไม่เคยมีคนอื่นจริงๆ พี่โมเขาก็แค่อยู่เป็นเพื่อนเฉยๆ พี่เขานิสัยดีมากนะคะ เป็นผู้ใหญ่ใจดี ขยันทำงานด้วยค่ะ เห็นว่าทำไร่ทำสวน วาดภาพฝากขายในแกลอรี่ มินต์น่ะนับถือพี่เขาเฉยๆ” มินตรารีบอธิบาย “ส่วนนายโชติน่ะ มินต์รังเกียจเลยค่ะ ไม่เคยให้เข้าใกล้อีกแล้ว”

“แล้วพ่อพี่ล่ะ” คิลเลี่ยนถามแล้วถูกเธอทุบอกเข้าให้ “โอ๊ยๆ พี่ล้อเล่น”

มินตราทำหน้างอ แต่ก็ถามอย่างงอนๆ “พ่อพี่มาเกี่ยวอะไรคะ”

“ก็เห็นมีข่าวกับพ่อพี่ด้วยนี่นะสิ อีกอย่างพ่อพี่เสน่ห์แรงนะ เห็นออกแรงช่วยมินต์ทุกอย่าง พี่ยังคิดเลยว่าหวังผลหรือเปล่า” คิลเลี่ยนบอกอย่างไม่จริงจังนัก

“มินต์มีพี่เคคนเดียวแหละค่ะ” มินตราจูบเขาอีกรอบ

“งั้นบอกรักพี่หน่อยสิ” คิลเลี่ยนอมยิ้มเจ้าเล่ห์

มินตรานิ่งแล้วอมยิ้ม “พี่เคบอกรักมินต์ก่อนสิคะ”

คิลเลี่ยนหลับตาแล้วส่ายหน้า “มินต์ตอบบอกให้พี่มั่นใจก่อน ว่ามินต์รักพี่”

“ฮึ๋ย พี่เคขี้โกง” มินตราได้แต่หน้าแดง เพราะเขารุกเร้าช่วงล่างของเธออีกรอบ กระตุ้นอารมณ์ของเธอ

“บอกเร็วๆ ไม่งั้นพี่ขย้ำมินต์แล้วนะ” คิลเลี่ยนพลิกตัวแล้วส่งเธอนอนที่เตียง เตรียมขย้ำเหมือนปากพูดจริงๆ

“มินต์รักพี่เคคนเดียวค่ะ” มินตราหลับตาพริ้ม กำลังเร่าร้อนในร่างกาย แต่รอฟังเขาบอกตอบ ไม่ได้ยิน ก็ผลักมือเขาออกจากตัวแล้วถอย “พี่เคไม่รักมินต์เหรอคะ”

คิลเลี่ยนชะงักแล้วมองหน้าเธอ ก่อนหัวเราะ “รักสิ ยังไม่ได้พูดเลยว่าไม่รัก รักแล้วก็หึงด้วย”

เขาขยับเข้าไปหา เธออีกรอบ แล้วกระซิบที่ข้างหู “พี่รักมินต์จะแย่อยู่แล้ว” เขากัดที่ใบหู พ่นลมร้อนทำให้เธอมีอารมณ์มากขึ้น เขาไม่เพียงรุกด้านบน ยังรุกด้านล่าง ทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง แล้วเขาก็ชะงักเมื่อนึกขึ้นได้

“พี่เคมีอะไรคะ” มินตราเห็นเขาหยุดก็ฉงนสงสัย

“มินต์ว่ามีโอกาสที่มินต์จะท้องไหม” คิลเลี่ยนถามมินตราอีกรอบ

“ไม่รู้สิคะ มินต์ว่าน่าจะเครียดลงกระเพาะมากกว่านะคะ” มินตราครุ่นคิด เพราะเธอเคยเป็นมาก่อน จึงสงสัยว่าน่าจะใช่

“แล้วประจำเดือนมินต์มาหรือเปล่า” คิลเลี่ยนถามขึ้น

มินตราครุ่นคิด ก่อนนึกขึ้นได้ “ไม่มาได้สองเดือนแล้วค่ะ”

“มินต์อาจจะท้องก็ได้นะ” คิลเลี่ยนครุ่นคิด

“จริงเหรอคะ” มินตราดีใจมากเมื่อรู้ว่าอาจมีโอกาสท้อง พอถูกเขารุกหนักเข้าๆ ก็ได้แต่เคลิ้มตามความต้องการของสามี ก่อนนึกขึ้นได้ “มีอะไรกันแล้วจะเป็นอะไรไหมคะ”

“คิดว่าพี่จะทำรุนแรงรึไง น่านะ” คิลเลี่ยนเห็นภรรยาโอนอ่อน ก็รุกเข้าหาต่อ แต่ถ้ามีโอกาสที่จะมีลูก เขาก็อ่อนโยนลง แล้วเน้นให้ความสุขกันและกันให้หายคิดถึงมากขึ้น

ความรักดูจะลงตัวมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าชีวิตในอนาคตของทั้งสองจะเป็นยังไงบ้าง

**********************************

เช้าอีกวัน มินตราตรวจครรภ์แล้วก็ยิ้ม ก่อนจะร้องดีใจ “ท้องค่ะ พี่เค ท้องค่ะ”

คิลเลี่ยนลุกพรวดจากเตียงแล้วรีบเข้ามาดูในห้องน้ำ “ดีจังเลย”

มินตราเข้ามาสวมกอดสามี แล้วเขาก็อุ้มเธอขึ้นแล้วจูบรับขวัญเธอ ตั้งแต่แท้งคราวที่แล้ว มินตราก็กลัวไปเสียหมด บางทีก็เศร้าๆ เวลาเห็นเด็กอ่อน ตอนนี้เริ่มมีความหวังขึ้นมา

สักพักมินตราชะงัก แล้วเป็นกังวล “พี่เคว่า ยาที่นายโชติวางมินต์จะมีผลกับลูกเราไหมคะ”

“น่าอย่าเพิ่งไปกังวลเลย คงมีผลไม่เท่าไร เดี๋ยวบ่ายๆ เราไปตรวจแล้วถามหมอก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกก็เป็นลูกของเรานะ เราก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดก็แค่นั้นแหละ” คิลเลี่ยนบอกอย่างไม่คิดมาก

“ตายแล้ว เรื่องซี่รีย์อีกเดือนนึงละคะ” มินตราเริ่มกังวล

“ท้องสาวท้องแรกพี่ว่าคงไม่ใหญ่เท่าไรหรอกนะ ลองถามชาร์ลีก่อนแล้วกัน แล้วพี่จะโทรไปบอกแม่พี่ด้วย จะได้เตรียมหมอประจำบ้านทางโน้นเอาไว้ เตรียมไว้ล่วงหน้า เพราะเราจะกลับอังกฤษกัน” คิลเลี่ยนบอกแล้วหอมแก้มเธออีกสองฟอด ค่อยปล่อยแล้วแปรงฟัน

เสียงโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาก็เดินออกไปดู ล้างปากเสร็จค่อยโทรกลับ “พ่อว่าไง”

“ว่าไง แกถึงเมืองไทยไม่โทรหาพ่อเลยเรอะ” สมเจตน์ถามลูกชาย หงุดหงิดเล็กน้อยที่ไอ้ตัวแสบไม่ค่อยโทรหาเขา

“ก็ว่าจะโทรอยู่ แต่ยุ่งๆ กับเมีย เลยยังไม่ได้โทร” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็รอมินตราที่ ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว

เขากับมินตราไม่ได้ปฏิบัติการอะไรเมื่อคืน เพราะเมื่อวานก็จัดหนักไปแทบจะทั้งวัน ตกเย็นเขาพาเธอออกไปทานข้าวนอกบ้าน กลับมาอาบน้ำแล้วก็สลบกันจนเช้า ดีที่ไม่ลืมซื้อที่ตรวจครรภ์มาด้วย

“ถ้าฉันไม่เห็นข่าวสวีตสยบเตียงหักของดาราคาวแล้วล่ะก็คงไม่รู้ว่าแกกลับเมืองไทย” สมเจตน์พูดแล้วก็ดุลูกชายอีกรอบ “เออเย็นนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านฉันด้วย ปู่ย่าแกอยากเห็นหน้าแก แค่นี้นะ”

คิลเลี่ยนฟังพ่อตัดสายแล้วก็โอบไหล่มินตราออกจากห้อง เห็นแหม่มกับบรมกอดจูบกันเล็กน้อยหลังออกจากห้อง ก็พอทำใจ เพราะมินตราเล่าความแล้วเมื่อคืน

พอลงมาข้างล่าง พ่อตาเขาหยุดก็เลยนั่งทานอะไรเบาๆ มีแม่ยายเขาคอยเอาใจ เขาก็นั่งลงเพราะปูกับบรรพ์ออกไปจ่ายตลาดมาแต่เช้ากับบุษบาแล้ว พอทุกคนตื่นก็ได้กินมื้อเช้าพอดี

เมตตามองครอบครัวพร้อมหน้าก็ได้ยิ้ม ก่อนบอกให้ภรรยานั่งลงข้างๆ หัวโต๊ะเป็นที่ของคิลเลี่ยน ไม่มีใครกล้านั่งอยู่แล้ว แม้เจ้าตัวจะไม่อยู่ก็ตาม

“ยิ้มอะไรพ่อ” บุษบาเห็นสามียิ้มอยู่ตลอดก็สงสัย

“ครอบครัวพร้อมหน้า พ่อมีความสุข” เมตตาบอกภรรยา แล้วก็ทานอาหารเช้าของเขาอย่างมีความสุข

“ไว้มินต์คลอดจะส่งตั๋วให้ไปเยี่ยมนะครับ” คิลเลี่ยนพูดขึ้น เมื่อปูเอาอาหารมาเสริฟ ทำให้คนอื่นๆ ชะงัก

“พี่เคน่ะ” มินตราพูดอย่างอายๆ ก่อนบอกทุกคน “มินต์ท้องแล้วค่ะ บ่ายนี้ว่าจะไปตรวจให้แน่ใจว่ากี่เดือนแล้ว คุยกับพี่เคน่าจะสามเดือนค่ะ ช่วงที่มินต์ไปหาพี่เคที่ฝรั่งเศสพอดี”

“ถ้านานกว่านั้นก็ไม่ไหวนะ แปลว่าท้องเล็กเกิน หน้าท้องมินต์ยังแบนราบอยู่เลย” คิลเลี่ยนพูดติดตลก แล้วก็หอมแก้มมินตราตลอด ทำให้คนอื่นๆ โล่งใจ กลัวคิลเลี่ยนระแวงคิดว่ามินตรามีอะไรกับชายอื่นจนตั้งครรภ์

“พี่เคมั่นใจมากเลยนะครับ” บรมหลุดปากออกมาทำให้คนอื่นๆ ชะงัก

คิลเลี่ยนมองสบตาบรม แล้วพูดขึ้น “เมียพี่ พี่ก็ต้องรู้จักดีสิ คนอย่างพี่สาวนายไม่โกหกคนที่ตัวเองรักหรอก”

คนอื่นก็เหมือนมีชนักปักหลัง ทำให้ได้แต่เงียบไป

“วันนี้พี่เคไปร้านกับผมไหมครับ ผมเตรียมขนมไว้ขายเยอะเลย” บรรพ์รีบเปลี่ยนเรื่องให้บรรยากาศดีขึ้น

“เดี๋ยวดูก่อนนะ ว่าจะพามินต์ไปหาหมอเลย แล้วค่อยแวะไปก็คงได้ ตอนเย็นต้องไปกินข้าวบ้านพ่อพี่อีก ที่เหลือค่อยว่ากัน” คิลเลี่ยนบอกทุกคนแล้วทานอาหารต่อ เริ่มปล่อยวางปากของคนในครอบครัวภรรยาแล้ว

“ไปบ้านโน้นเหรอคะ” มินตราเริ่มเสียวไส้นิดๆ

“ทำไมล่ะ” คิลเลี่ยนถามก่อนนึกขึ้นได้ “ไปกับพี่ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ไม่ให้นังคุณนายนั่นมาทำอะไรมินต์ได้หรอกน่า อีกอย่างไปกินที่เก๋งจีน มันคงไม่ยกพวกตามมาหรอก”

มินตราพยักหน้าช้าๆ แล้วทานมื้อเช้าจนเสร็จ ก่อนจะขึ้นห้อง ปล่อยคนที่เหลือช่วยทำงานบ้านกันไป ก่อนนึกขึ้นได้ “หาลูกจ้างสักคนดีไหมคะ พี่เค”

“หามาทำไม เดี๋ยวก็วุ่นวายหรอก พอเราไปแล้ว จะไว้ใจเฝ้าบ้านได้หรือเปล่าก็ไม่รู้” คิลเลี่ยนบอกตามตรง จึงฝากบ้านไว้กับระบบกล้องวงจรปิดมากกว่า

“แต่พ่อแม่สิคะ แก่แล้วนะ ต้องมาคอยทำความสะอาด มินต์จะทำก็ไม่ยอม แม่น่ะแหละค่ะ” มินตราบอก

“เอางี้แล้วกัน ถ้าเรายังมีงานทำ มีรายได้ เราก็ค่อยหาจ้างลูกจ้างให้พ่อแม่มินต์สักคน แล้วให้ไปอยู่กับพ่อแม่มินต์ที่บ้านใหม่ดีไหม แล้วให้มาบ้านเราอาทิตย์ละครั้งก็พอ ให้ค่าจ้างตามความเหมาะสม” คิลเลี่ยนสรุปสุดท้าย

“อ๋อค่ะ” มินตราพยักหน้าช้าๆ

เขาและเธอต่างก็จัดการงานต่างๆ ของตัวเองในช่วงเช้า เมื่อขาดหายการติดต่อ มินตราถึงได้รู้ว่าวุ่นวายแค่ไหน ถึงจัดการตารางให้เข้าที่ได้โดยเร็ว

“อ๋อค่ะ ชาร์ลี ช่วยแจ้งฝ่ายเสื้อผ้าด้วยแล้วกันนะคะ” มินตราถอนหายใจยาว

“แล้วนี่คลอดแล้วต้องลดน้ำหนักให้ได้ด้วยนะ คิวงานจ่อรอแล้ว น่าจะหลังคลอดสามเดือน ระหว่างคลอดก็ให้นักโภชนาการคอยดูแลเรื่องน้ำหนัก แล้วบำรุงด้วยล่ะ ไม่ให้ขาดสารอาหาร แต่ห้ามบวมลดยาก” ชาร์ลีเตือนอีกรอบ ก่อนตบท้ายด้วย “บอกไอ้เคด้วยว่า ให้มันมาเคลียร์เพลงด้วย ถามมันว่าเงินจะเอาไหม”

“คุยเองแล้วกันค่ะ” มินตราส่งมือถือให้สามี “ชาร์ลีจะคุยด้วยค่ะ”

“ว่า” คิลเลี่ยนถามเพื่อนทันที

“ว่าห่าอะไรล่ะ มาเคลียร์เพลงแกด้วย สักสองเดือนก็ได้ ตอนนี้ไล่เก็บฉากที่ต้องซ่อมอยู่” ชาร์ลีบอกรายละเอียดให้เพื่อนเข้าใจ ก่อนจะวางหู

มินตราถอนหายใจยาว แล้วนึกถึงงานเล็กน้อยที่รออยู่ ดีที่ค่าตอบแทนมากพอให้เธออยู่ได้ สามีก็มีเงินเก็บพอสมควร ทั้งสองจึงสบายใจอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

เมื่อถึงช่วงบ่าย เขาก็พาเธอไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อตรวจให้แน่ชัด พอหมอบอก เขาก็กอดจูบเธอแบบไม่อายใคร แล้วขอบคุณหมอ แล้วโทรหาหมอประจำบ้านที่อังกฤษ เพื่อปรึกษาเรื่องฝากท้อง

เวลาเหลือก็ไปที่ร้านของน้องฝาแฝดของมินตรา มีบางคนเป็นแฟนคลับก็เข้ามาหา ทักทายกันบ้างตามประสา ขอถ่ายภาพคู่ของมินตรากับคิลเลี่ยน คิลเลี่ยนก็กอดหอมภรรยาแต่ยังไม่บอกเรื่องท้องให้ใครฟัง

แฟนคลับก็แอบกรี๊ดกันเบาๆ ไม่อยากให้รบกวนลูกค้าคนอื่น แค่แฟนคลับกลุ่มเล็กๆ จึงไม่วุ่นวายเท่าไร

พอเย็นมากแล้วก็มีสามสาวเดินเข้ามาในร้าน มินตราเห็นก็เข้าไปทักทาย เพราะรู้จัก

“มาได้ยังไง หญิง ดิว บีม” มินตราแปลกใจที่เพื่อนมาหาที่ร้านน้องชาย

“เห็นในไอจีเลยแวะมา เห็นว่าจะออกไปก่อนห้าโมงเย็น ก็เลยแวะมาจ๊ะ” หญิงแต่งตัวเรียบร้อยกว่าเพื่อนทักทาย ก่อนสั่งเครื่องดื่ม แล้วหาที่นั่ง

“พวกเราน่ะ อยากจะนัดเจอแกมานานแล้ว แต่ศนิไม่ยอมให้เบอร์สักที ที่แกโทรไปไม่รับ เพราะพวกฉันเปลี่ยนเบอร์น่ะ ต้องตามจากไอจีกับเฟส ถึงได้รู้เรื่องของแก งานก็ยุ่งชะมัด ช่วงนี้ต้องหาลูกค้า เศรษฐกิจแบบนี้ ไม่วิ่งเข้าหาลูกค้าอดตาย” ดิวบอกแล้วมองมินตราให้เต็มตา “สวยมากเลยนะ เพื่อนเรา ไม่เจอกันนาน งาบหนุ่มหล่อแถมยังสวยขึ้น”

“ไอ้บ้าดิว ยังชอบพูดสองแง่สองง่ามเหมือนเดิม นึกว่าพวกแกเลิกคบฉันแล้ว ฉันก็เลยไม่กล้าติดต่อ” มินตราบอกเพื่อนตามตรง

สามสาวมองหน้ากัน ก่อนบีมสารภาพ “พวกเราฟังไอ้ศนิมากเกินไป มันว่าร้ายแกสารพัด แม้แต่ตอนนี้ มันว่าแกไม่อยากเจอพวกเรา แกหยิ่งไม่เห็นหัวพวกเรา พอได้ไปอังกฤษลืมเพื่อนแล้ว”

“ใช่ๆ ตอนนั้นเราก็หลงเชื่อ แกไม่เข้าเฟส โพสต์อะไรก็ไม่เคยเข้ามากดไลค์หรือคอมเม้น เห็นโพสต์แกบอกนั่นนี่ ไม่เคยพูดถึงเพื่อน เราก็เลยคิดว่า สงสัยศนิพูดจริง” ดิวบอกตามตรง จับมือเพื่อนอย่างรู้สึกผิด

“แต่ไม่นานมานี่ ศนิมันโวยวายใหญ่ บอกแกฟ้องมันละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เอาภาพแกไปขาย เราก็บอกว่า ถ้ามันเข้าใจผิด คดีก็จบไปเอง แต่มันร้อนใจยังไงก็ไม่รู้ สักพัก ดูเหมือนจะมีมูล เห็นมันขอเข้าไกล่เกลี่ยแต่เห็นว่าทนายฝั่งแกไม่ยอม ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย มันต้องไปขอร้องบ้านแฟนช่วยไกล่เกลี่ย เรื่องถึงเบาลง ถึงมั่นใจว่า มันคงทำจริงๆ” หญิงถอนหายใจ แล้วพยักหน้ากับเพื่อน

“ช่างมันเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว เห็นทนายเขาว่ายังต้องคุยกันอีกหลายเดือน ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง พ่อพี่เคเป็นคนจัดการน่ะ” มินตราหันไปโบกมือให้สามีมาหา เพื่อแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก “นี่พี่เค นี่หญิง ดิว บีม ค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คิลเลี่ยนโอบไหล่ภรรยาดูสนิทสนม แถมด้วยหอมแก้มอีกที

“ยินดีค่ะ” หญิงพูดนำ คนอื่นก็พูดตาม

“พี่ไปนั่งกับบูมที่หน้าเคาน์ทเตอร์ก่อนนะ ตามสบายนะครับ” คิลเลี่ยนหาทางปลีกตัวไป เพื่อให้สาวๆ ได้คุยกัน

“โหย หล่อละลายใจมาก อยากได้แบบนี้มั่ง” บีมรีบออกอาการหลังสามีเพื่อนไปแล้ว “สามีที่บ้านอ้วนลงพุงแล้วน่ะ แต่ก็ยังมีน้ำยาอยู่นะ ขอฟินกับหนุ่มหล่อแทนแล้วกัน”

คนอื่นก็ส่ายหน้า แล้วก็หัวเราะ ก่อนหญิงจะบอกเพื่อน “อีกสามเดือนฉันจะแต่งงานแล้วนะ แกต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย”

มินตรายิ้มยินดีกับเพื่อนก่อนนึกขึ้นได้ “แกไม่กลัวคนอื่นว่าเอาเหรอ ตอนนี้ใครๆ ก็คิดว่าฉันเป็นคนนิสัยไม่ดีทั้งนั้นนะ”

“แกเนี่ยนะ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าอย่างแกไม่มีทางเป็นคนไม่ดีหรอก ดูแฟนคลับแกสิ เหนียวแน่น คนที่จะเข้าใจผิดก็เพราะไม่เคยติดตามงานของแกล่ะนะ” ดิวสนับสนุนเพื่อนอีกคน “อีกอย่างดูเถอะ ถ้าข่าวจริง สามีแกจะมานั่งเฝ้าแสดงความรักหวานฉ่ำเหรอ แฟนฉันสิ จนบัดนี้ยังไม่คิดจะขอฉันแต่งงานเลย”

“เดี๋ยวก็ได้แต่งจ้า ถ้าแกไม่ไปงาบหนุ่มอื่นเสียก่อน” บีมแซวเพื่อนจึงโดนค้อนให้ เพราะดิวก็จัดว่าเป็นคนสวยเหมือนกัน

“ไอ้บ้า มันคงปล่อยโอกาสให้ได้ไปงาบคนอื่นหรอก ล่อกันทุกวัน” ดิวก็พูดเล่นออกมาอีก ก่อนหันไปถามเพื่อน “ว่าแต่สามีแกนี่แรงดีไหม ไอ้มินต์”

มินตรายิ้มหน้าแดงแล้วพยักหน้าอายๆ

“แล้วเมื่อไรจะมีน้ำยาทำหลานออกมาสักที” บีมพูดล้ออีก ทำเอาเพื่อนๆ หัวเราะขำ

“มีแล้วจ๊ะ เพิ่งไปตรวจให้แน่เมื่อบ่ายนี่เอง ฉันนึกว่าฉันเครียดลงกระเพาะ พี่เคเขาสงสัยเลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาน่ะ ฉันมีความสุขมากเลยนะ ตอนที่แท้งลูกคนแรก ฉันกลัวพี่เคจะโกรธ เพราะฉันไม่ดูแลตัวเอง แต่พี่เคเขานิสัยดีมาก เขาบอกว่าฉันไม่รู้นี่ จะถือว่าฉันผิดได้ยังไง พอมาท้องตอนนี้ก็เลยต้องระวังมากขึ้น” มินตราบอกเพื่อน ทำให้เพื่อนแสดงความยินดีกันใหญ่

มิตรภาพที่หายก็ได้กลับคืนมา เพื่อนที่ห่างหายก็กลายมาสนิทกันอีกครั้ง

“งั้นแกก็ต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวท้องโตแน่เลยว่ะ” หญิงพูดขึ้นแล้วต่างก็หัวเราะอีกรอบ

“พี่ๆ คะ ขอเราถ่ายรูปไปลงหน้าแฟนเพจพี่มินต์ได้ไหมคะ” แฟนคลับคนหนึ่งรีบปาดเข้ามาขอ

สี่สาวก็เลยเข้ากล้องให้น้องแฟนคลับถ่ายภาพกัน จากนั้นน้องแฟนคลับก็ถอยหลับไปนั่งโต๊ะเขา

หากแฟนคลับแสดงหน้าแฟนเพจพร้อมกดไลค์ จะได้รับส่วนลดครั้งแรกห้าสิบเปอร์เซ็น แต่ต้องขอชื่อไว้กันการแอบอ้าง ร้านทวินก็มีการเสริฟขนมใหม่ให้ทดลองรับประทานกันด้วย ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“นี่น้องแกก็เก่งนะ เปิดร้านได้ดี” บีมมองบรรากาศแล้วก็รู้สึกชอบ

“เพิ่งเปิดได้สามสี่เดือนเอง ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ ช่วงมีข่าวหนักๆ มีคนเอาไข่มาหาหน้าร้านด้วย ตอนดึกมีคนเอาสเปรย์มาฉีดเขียนไม่ดี สงสารน้องเหมือนกัน เขามีกันสามคนช่วยๆ กัน ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก” มินตราพูดแล้วก็ถอนหายใจที่ตัวเองเอาความเดือดร้อนมาให้

“ไม่เป็นไรหรอก พี่มินต์ ร้านนี้พี่มินต์ช่วยเราสามคนให้มีงานทำ เราก็อดทนกันได้” ปูเอาขนมมาเสริฟได้ยินพอดี

“เห็นไหม ยังไงก็ต้องอดทน แกเป็นคนดี ยังไงสักวันคนก็ต้องรู้ว่าแกดี” หญิงปลอบใจเพื่อน แล้วยิ้มให้ปู “พี่จะซื้อเค้กอีกสี่ชิ้น แล้วก็ขนมด้วยนะ มีขนมที่ไม่ทำให้อ้วนไหม พ่อพี่เป็นเบาหวาน ถ้าเห็นขนมคงห้ามยาก”

“ขนมมันต้องหวานอยู่แล้วค่ะ เป็นพวกแป้งด้วย ไม่แนะนำเลยสักอย่างค่ะ แต่ถ้าพ่อพี่อดมานานแล้ว ให้เขาทานสักคำเถอะค่ะ ทานให้หายอยากหนึ่งคำเคี้ยวให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ แล้วทานอาหารพวกเส้นใย อย่าให้เขาอดเลย เวลาอดมากๆ ถ้าเขาเจอขนมเข้าแล้วหลงหูหลงตาเรา เขาจะกระโจนเข้าใส่ ทีนี้เบาหวานจะหนักกว่าเดิมนะคะ เอ๋ เดี๋ยวนะคะ” ปูเหมือนจะนึกได้ ก็รีบไปที่หลังร้าน แล้วเอาขนมทดลองมาให้

“อะไรเหรอ น้อง” ดิวมองอย่างงุนงง

“ขนมตัวใหม่ค่ะ ผลไม้สดอบแห้ง แต่เป็นผลไม้พวกที่น้ำตาลน้อยนะคะ กำลังทดลอง พ่อปูก็เป็นเบาหวาน บูมบอกว่าอาจจะทานโดยเอาไปแช่น้ำร้อนกินเป็นชา ยังต้องทดลองอีกเยอะ หรือทานแห้งๆ ก็ได้ค่ะ อีกอย่างเก็บได้นาน ส่งขายไปที่อื่นได้ง่าย เพราะเบา กำลังหาทางทำให้มันถูกอยู่ค่ะ” ปูอธิบายความตามประสาแม่ค้า

บีมหันไปทางเพื่อน แล้วพูดชม “ฉันว่าแกหมดห่วงเถอะว่ะ น้องแกไม่ว่าจะเป็นเจ้าคู่แฝดหรือน้องสะใภ้นี่ ขยันชะมัด หาอะไรมาทดลอง มาทำเยอะไปหมด”

ปูขอตัวแต่วางกระปุกไว้ให้ เป็นรากบัวอบแห้ง หญิงก็ลองแกะออกมาทาน ปรากฏกรอบใช้ได้ ทานง่าย รสชาติไม่ค่อยหวาน เพราะไม่มีการเคลือบน้ำตาล

“ปล่อยเขาทำไป เขามีไอเดียอะไรก็ให้เขาทำน่ะ อีกอย่างเขาทำขนมโบราณขายด้วย ตึกนี้ก็ไม่ได้เช่า เพราะงั้นถึงทำต้นทุนต่ำออกมาได้น่ะสิ” มินตราบอกเพื่อนๆ แล้วเบาใจ

“อะไรนะ!! ไม่ต้องเช่าเหรอ” ดิวมองตึกและทำเลรู้ดีว่าไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้าน

“ใช่จ๊ะ ฉันซื้อไว้เองน่ะ แต่ให้น้องไว้เปิดร้าน ได้ตั้งตัวได้น่ะ” มินตราเล่าความตามเรื่อง

“เป็นดาราที่เมืองนอกได้เงินเยอะอย่างนี้เลยเหรอ” หญิงถามอย่างงุนงง ยังคงทานขนมกับเครื่องดื่มในร้านต่อไป

“ก็พอได้ แต่ไม่ได้มากอย่างที่คิดหรอก ภาษีอ่วมพอสมควรน่ะ แต่ก็พออยู่ได้ เงินอีกก้อนที่ได้มา ตอนนั้นมีคนเอาคลิปไปตัดต่อไง ทางค่ายหนังจ่ายค่าเสียหายมา ก็เลยเอามาทำบ้านแล้วซื้อร้านน่ะ” มินตราอธิบาย

ทั้งสี่สาวก็พูดคุยกันจนได้เวลาที่คิลเลี่ยนกับมินตราต้องไปบ้านสมเจตน์ จึงแยกย้ายกันทั้งยังแลกเบอร์โทรกัน สุดท้ายเพื่อนสาวก็บอกว่า ถ้าโทรไม่ติดจะมาที่ร้านนี้แทน เพราะชอบขนมของที่นี่มาก

**********************************

เมื่อถึงเก๋งจีนในพื้นที่กว้างขวาง คิลเลี่ยนก็พามินตราเลี่ยงไปที่เก๋งทันที แต่แพรพลอยก็พาคนมาจนได้ เพราะรู้ข่าวมาจากคนบ้านนี้ว่าคิลเลี่ยนกับมินตราจะมาทานมื้อเย็น

“ยังกล้าพาเมียคาวโลกีย์ของแกมาที่บ้านนี้อีกนะ” แพรพลอยเยาะเย้ยเต็มที่

คิลเลี่ยนเห็นโชติมีหวานใจยืนข้างๆ ก็เข้าไปหาโชติแล้วต่อยเข้าเต็มๆ จนกระทั่งคนสวนเข้ามาห้าม ยึดเขาให้ถอย แต่ปากโชติแตกแล้วก็มีรอยช้ำที่หน้า

“ทำบ้าอะไรของแกน่ะ” สมเจตน์ถามลูกชายคนโตทันที

“พ่อก็ถามมันสิ ว่ามันทำระยำอะไรไว้” คิลเลี่ยนย้อนกลับฮึดฮัดเพราะโมโห

“ไอ้ชั้นต่ำ! ไอ้สันดานหยาบ! ไอ้เนรคุณ! ฉันให้ข้าวให้น้ำแกจนแกโต แกยังมาต่อยลูกชายฉันได้” แพรพลอยหันไปด่าคิลเลี่ยน โกรธจัดที่อยู่ๆ ลูกชายก็โดนต่อยปากแตก

“ถุย!!” คิลเลี่ยนถ่มน้ำตาลลงพื้น ก่อนย้อนแพรพลอยตรงๆ อย่าไม่เกรงใจอีก “ข้าวกับน้ำตาน่ะเหรอ มีหน้ามาทวง ลูกชายแกทำดีนัก นัดเมียฉันไปไกลถึงบางแสน มอมยาทำมิดีมิร้าย ยังมีหน้าถ่ายภาพเก็บไว้ประจานอีก เลวจนไม่รู้จะพูดยังไง ถ้าลูกฉันเป็นอะไรล่ะก็ หรือมีอะไรผิดปกติทางร่างกายล่ะก็ เจอดีแน่ ไอ้โชติ”

“พอที พวกมึงจะทะเลาะกันทำห่าอะไรวะ แม่งก็น้ำเชื้อเดียวกัน ไป แพร เธอพาลูกชายเธอกลับบ้านไปเลยนะ แล้วไม่ต้องมาวุ่นวายอีก ให้มันจบ” สมเจตน์กระแทกลมหายใจ ไม่อยากให้หวานใจมารับรู้ปัญหาในบ้านมากจนไม่คิดการแต่งงานกับลูกชายอีก

“มันเรื่องอะไรเหรอคะ” หวานใจถามขึ้น ทำให้โชติร้องโอดโอยเรียกร้องความสนใจ แล้วรีบพยุงตัวเองกอดหวานใจพากลับไปที่บ้านทันที

“พี่เจ็บจริงๆ นะ ไอ้คิลเลี่ยนมันมือหนัก มันพาลอะไรก็ไม่รู้ ชอบใส่ร้ายพี่ เวลาเมียมันมีเรื่อง มันก็หาว่าพี่เป็นคนทำ มันจิตหลอนน่ะ” โชติรีบอธิบายหลังออกมาไกลจากเก๋งจีนแล้ว

“นิสัยเสียนะคะ” หวานใจก็เชื่อคนรักหนุ่ม

“มันเลวมากเลยต่างหาก หนูหวาน” แพรพลอยพูดอย่างหงุดหงิด และไม่รู้เรื่องที่ลูกชายทำลงไป

หวานใจได้แต่ถอนหายใจยาว รำคาญมินตราอยู่ไม่น้อย เริ่มสงสัยแล้วว่าระหว่างมินตรากับโชติมีอะไรกันหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นมีเหตุอะไรให้คิลเลี่ยนสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างมินตรากับโชติ

**********************************

ที่โต๊ะอาหาร สมเจตน์ได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนถาม “มันเรื่องอะไร เจอหน้ากันก็ตั้งท่ากัดกัน”

“พ่อก็รู้นี่ครับ ว่าไอ้โชติมันทำอะไร พ่อถึงได้เข้ามาควบคุมเรื่องคดี ตอนที่มันวางยามินต์ มินต์ท้องอ่อนด้วย เลยไม่รู้ตัว วันนี้ไปตรวจมา มินต์ท้องได้สามเดือนแล้ว ถ้ายาบ้านั่นมีผลกับพัฒนาการลูกผมล่ะก็น่าดู” คิลเลี่ยนพูดคาดโทษเอาไว้อย่างโกรธๆ แต่ใจหลักต้องการสั่งสอนไม่ให้น้องชายมายุ่งกับเมียเขาได้อีก

“แกนี่มันใจร้อนเหมือนใครวะ ช่างเถอะ กินข้าวๆ หิวจะตายอยู่แล้ว” กมลส่ายหน้าช้าๆ ชวนที่เหลือทานข้าว ก่อนนึกขึ้นได้ “อ้าวนี่ฉันจะมีเหลนแล้วสิ แม่สายใจ”

“รู้สึกตัวช้าไปมั้ง เฮีย” สายใจพูดแล้วก็หัวเราะ ทานอาหารไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก

“งานของแกเป็นยังไงมั่ง” สมเจตน์ถามขึ้นเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างมา

“แย่หน่อยครับ แต่ก็จบแล้ว กำลังหาอย่างอื่นทำอีก” คิลเลี่ยนบอกเล่าแล้วทำเฉยๆ

“มาช่วยฉันทำงานนะ ฉันจะให้แกเรียนรู้งาน ไม่ต้องจบด้านนี้ ขอแค่แกพยายาม” สมเจตน์บอกลูกชายแล้วยิ้มๆ เข้าทางเขาแล้วล่ะ

คิลเลี่ยนมองหน้าพ่อแล้วส่ายหน้า “ผมจะไม่ไปไหนไกลจากมินต์แน่ๆ ยิ่งมินต์ท้องแบบนี้ อยากกลับอังกฤษจะตายแล้ว”

“ฉันส่งคนไปคุยกับออร์เดย์ ทางนั้นอยากมาเปิดตลาดในอาเซียนเพิ่ม ฉันคุยข้อตกลงทางธุรกิจกับเขา จะร่วมหุ้นกัน เพราะเขาอยากขยายสาขาที่สิงคโปร์มาไทยยังไงล่ะ ถ้าแกอยากให้เมียไปคลอดที่อังกฤษ ก็ได้ แต่ให้กลับมา หลังคลอดหลานฉันแล้ว มาช่วยฉันทำงาน” สมเจตน์แอบไปล็อบบี้ทางออร์เดย์ยื่นข้อเสนอเพื่อดึงลูกสะใภ้มาอยู่กับเขาแทน

“ฉันคงไม่ยอมทำงานกับคุณโชติหรอกค่ะ ไม่มีทางเด็ดขาด” มินตราก็พูดขึ้นมาทันที ทั้งที่ปกติไม่ค่อยพูด

“เห็นไหมครับ ผมจะทนทำงานกับไอ้เลวโชติได้ยังไง” คิลเลี่ยนสนับสนุนมินตราเต็มที่

“ก็ทำคนละโครงการ ไม่เกี่ยวกัน” สมเจตน์หาทางออกไปก่อน จะได้หมดเรื่องไป

“ขอคิดดูก่อนแล้วกันครับ” คิลเลี่ยนไม่หักหน้าพ่อในคราวเดียว ต้องวางแผนเตะถ่วงไปก่อน

“คิดอะไรอีกวะ ไม่ต้องคิดแล้วน่า” สมเจตน์ตั้งใจจะเอาลูกชายคนโตมาลองช่วยงานดู อาจพอฝากธุรกิจได้ เพราะพักหลังลูกชายคนเล็กรับงานไปดูแลเยอะขึ้น แทนที่จะระมัดระวัง กลับทำงานพลาดมากขึ้น จนไม่แน่ใจว่าจะดูแลกิจการให้ดีได้หรือเปล่า

“เอาน่า ไว้ค่อยคิด” สายใจตัดบทแล้วทานมื้อค่ำกับหลานชายหลานสะใภ้ ปรามไม่ให้ลูกชายบีบบังคับเจ้าหลานหัวดื้อคนนี้มากนัก ไม่งั้นเกิดหนีไปก็ผิดแผนอีก

สมเจตน์ได้แต่เชื่อฟัง แอบมองคิลเลี่ยนกับมินตราแล้วเห็นความลงตัว ยังไงเขาก็จะหาทางเอาทั้งสองคนมาทำงานกับเขาให้ได้ เพื่อธุรกิจของครอบครัวจะได้คงอยู่ต่อไปในมือของลูกหลานของครอบครัว

**********************************

เสียงขยับตัวขึ้นเตียงของสามีทำให้เธอแอบลืมตามอง เย็นนี้เขาอยู่ที่เก๋งจีนทั้งเย็น โดยไม่กลับมาดูลูกชายเธอเลยสักนิด เธอจึงพลิกตัวหันหลังให้อย่างงอนๆ

“อะไรของเธออีก” สมเจตน์ถามภรรยาที่ออกอาการงอนชัดเจน

“คุณนั่นแหละ ทำไมไม่ไล่พวกนั้นไปจากบ้านเรา มันทำร้ายลูกเรานะ” แพรพลอยยังแบ่งแยกอยู่เช่นเดิม

“คุณแพรคงไม่รู้สินะ ว่าลูกเราที่เธอว่าน่ะ มันไปทำระยำตำบอนอะไรมา มันลอกยัยมินต์ไปหวังขืนใจ เพื่อนมันซ้อนแผนถ่ายภาพเก็บไว้ ดีเท่าไรที่มันเบลอหน้าลูกเธอน่ะ เธอจะเอาภาพต้นฉบับยืนยันไหมล่ะ มีคลิปด้วย ลูกเธอน่ะ มันวางยาแน่นอน ฉันถึงต้องช่วยลูกเธอด้วย เฮ้อ” สมเจตน์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ

“ก็คงเหมือนคุณนั่นแหละ เจ้าชู้ ลูกถึงได้รับกรรมไป ทำเหมือนพ่อทุกอย่าง” แพรพลอยก็หาเรื่องสามีอีก

สมเจตน์หัวเราะในคอ มองภรรยาของเขาแล้วถอนหายใจ “เธอนึกว่าฉันไม่รู้เรื่องเธอกับชู้หนุ่มเหรอ อย่ามาว่าฉันเจ้าชู้หน่อยเลย เธอเองก็ใช่ย่อย สิบกว่าปีมานี่เปลี่ยนชู้มากี่คนล่ะ ฉันน่ะอ๊อฟเด็กเล่นๆ นอกจากสาวิตรี ฉันก็ไม่เคยเลี้ยงดูคนไหนจริงจัง ได้แล้วก็เลิก เธอล่ะ เลี้ยงดูมากี่คนแล้ว”

แพรพลอยตะลึงงัน ไม่คิดว่าสามีรู้เรื่อง

“ใช่ๆ ฉันรู้มาตั้งแต่เธอเริ่มมีชู้คนแรกแล้วล่ะ แต่ฉันเห็นว่าเธอมีความสุข ฉันถึงไม่ห้าม รู้ว่าเธอเหงา เพราะฉันก็งานยุ่ง ต้องคอยดูแลธุรกิจต่างๆ ฉันไม่โทษเธอหรอก สิ่งที่มันเกิดขึ้น เพราะความเหงาทั้งนั้น มีห้าหกปีหลังนี่แหละ ที่เธอหยุด ฉันก็ไม่ได้มองหาผู้หญิงอื่น เหลือแต่สาวิตรีกับเธอเท่านั้น” สมเจตน์ถอนหายใจ แล้วเอื้อมไปโอบกอดภรรยา

โชคดีแค่ไหนแล้วที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ติดโรค แต่ก็ต้องยอมรับว่าต่างก็มีความต้องการ

“ก็คุณน่ะ ไม่ค่อยมีอะไรกับฉันนี่” แพรพลอยพูดอ้อมแอ้มโทษคนอื่นตลอด

“อยากก็บอก ไม่บอกจะรู้ไหม นึกว่าเธออยากได้แต่หนุ่มๆ เห็นมีความสุขก็ตามใจไป เธอน่ะก็น่าสงสาร อะไรที่ไม่เคยพูด ฉันก็จะพูดล่ะคืนนี้ ถ้าเธอไม่สังเกต ให้ฉันมีอีหนูนอกบ้านยังไง สุดท้ายฉันก็กลับมาร่วมเตียงกับเธอ ยกเว้นตอนแม่ไอ้คิลเลี่ยน ตอนนั้นฉันไปเรียนต่อที่อังกฤษ เธอไม่ยอมตามฉันไปเองนี่นะ” สมเจตน์กระชับอ้อมแขนให้เธอได้ความอบอุ่นมากขึ้น

“ฉันไม่อยากได้อ้อมแขนของผู้ชายคนไหนเท่าคุณหรอกค่ะ ผ่านอะไรด้วยกันมาก็มาก” แพรพลอยพูดเสียงอ่อน ยิ่งสามีพูดดีด้วยแบบเปิดใจ ก็อ่อนลงไปเยอะ

สมเจตน์มองเรือนร่างของภรรยาในความมืด ไม่ว่าจะสาวหรือเข้าวัยร่วงโรย แพรพลอยก็รักษารูปร่างให้เข้ารูปเข้ารอยเสมอ เขายังเข้าใจว่าหล่อนคงกลัวว่าพวกหนุ่มๆ จะไม่สนใจหล่อน

“ทำไมเธอถึงหยุดหาหนุ่มๆ ล่ะ” สมเจตน์ถามสิ่งที่สงสัยมานาน ตอนแรกคิดว่าหล่อนแอบซ่อนไว้ แต่พอให้คนตามจริงๆ ก็ไม่มีเลย

“เบื่อค่ะ หาผู้ชายคนไหนก็ไม่เติมเต็มความต้องการของฉันได้ เพราะที่ฉันต้องการไม่ใช่ความใคร่ แต่ฉันต้องการความรัก และเป็นความรักจากคุณ ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าฉันจะลืมช่วงเวลาดีๆ ที่เราเคยมีให้กัน” แพรพลอยลืมความอิจฉาไปพักใหญ่

“แล้วใครบอกเธอว่าฉันไม่รักเธอ” สมเจตน์ย้อนถามแล้วก็หัวเราะ

“ก็คุณไม่แสดงความรักกับฉันแล้วนี่” แพรพลอยก็ออกอาการงอนอีกรอบ หันหลังให้เขาแต่ยังคงอยู่ในอ้อมแขนเขา แค่อยากให้เขาเอาใจมากเท่านั้น

สมเจตน์พลิกตัวไปโอบกอดแล้วยืดตัว จ่อปากที่หูแล้วกระซิบ “อยากก็บอกสิ ขอร้องดีๆ รับรองฉันส่งให้ถึงใจ”

“บ้า! ไม่คุยแล้วค่ะ” แพรพลอยอายก็ค้อนให้ แต่สามีกลับรุกคืบ เธอก็พยายามห้าม “แก่แล้วนะคะ ไม่ไหวแล้วค่ะ”

“ก็ต้องลองก่อน ถึงจะรู้ว่าไหวไม่ไหว” สมเจตน์ก็รุกคืบไปเรื่อยๆ

แพรพลอยก็ได้แต่ตามใจ อาการงอนต่างๆ ก็หายไป เหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อได้รู้ว่าความรักที่หายไปได้กลับคืนมา

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
แจ้งข่าวค่ะ ตอนที่ 19-23 จะเล่นเก้าอี้ดนตรีแล้วนะคะ
อัพตอนที่ 19 - 23 แล้วจะลบใน 24 โมงค่ะ
ทุกครั้งที่อัพจะแจ้งข่าวหน้าเพจนะคะ
ใครตามอ่านไม่ทัน เชิญ Bloggang เลยค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมกดไลค์หรือเม้นนะคะ
ถ้ามีโอกาสได้ตีพิมพ์จะได้จับแจกค่า
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณร้อยวจี - อุปสรรคมีไว้เรียนรู้ค่า หุหุ
คุณkonhin - พี่เคไม่นึกว่าจะมีเมียที่ใครๆ ก็รุมทำร้ายค่า เฮ้อ
คุณใบบัวน่ารัก - มีชื่อเสียงในต่างประเทศแล้วก็งี้อ่ะค่ะ
พี่ตุ๊งแช่ - ห่างกันประมาณ 3 เดือนค่ะ ^^
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - อิอิ ข่าวดีสุดๆ ค่า

คุณนอนดูดาว - มันเหนียวตัวนะคะ 555+

ป.ล. อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********นิทานสอนใจ**********
เรื่องมีอยู่ว่าคนคนหนึ่งชื่อว่า...กอ เขามีสินค้ามือสองอยู่ชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีคนสนใจอยากขอเช่า เจ้าของร้านแรกจะมาขอไปฟรีๆ กอไม่ยอมให้เช่า จึงเก็บไว้ไม่ได้สนใจอีก แล้วอยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของกอซึ่งทำงานให้ร้านสองบอกว่าทุกคนในร้านสองมีความสนใจเช่าสินค้าของกอ กอเห็นว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนดี จึงได้ตกลงให้เช่าไป พอกอได้ส่งสินค้าให้ร้านสองเช่า ระหว่างที่ตกลงทำสัญญาเช่านั่นเอง เพื่อนของกอก็ตัดสินใจลาออก และปฏิเสธไม่ยุ่งกับทุกอย่างในร้านสอง เพราะมีปัญหากัน ด้วยความหวังดีต่อกอ เพื่อนคนนี้จึงบอกเล่าปัญหา ให้กอตัดสินใจเอง และกอก็ตัดสินใจให้เช่าต่อไป โดยจะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจเอง กอจึงได้ติดต่อกับเจ้าของร้านโดยตรง และต่อมาเจ้าของร้านก็ได้แนะนำลูกจ้างคนใหม่แทนเพื่อนของกอ

เมื่อสินค้าของกอได้เป็นต้นแบบสินค้าที่วางขายในร้าน กอก็รอเวลาที่ทางเจ้าของร้านได้ตกลงว่าจะจ่าย แล้วเมื่อถึงกำหนดจ่าย เจ้าของร้านกลับให้ลูกจ้างมาแจ้งว่า สินค้าที่ผลิตมีปัญหาและถือว่าขายจริงหลังจากที่เคยวางขายไปแล้วสองเดือน จึงเลื่อนดิวเป็นอีกเดือนหนึ่ง กอโกรธแต่ก็คิดว่ารอได้ จึงรอต่อ แล้วพอหนึ่งวันก่อนถึงกำหนด เจ้าของร้านก็เข้ามาบอกว่าพรุ่งนี้จะโอนให้แน่นอน ทำให้เกิดความโล่งใจไปมาก เพราะกอกำลังฝืดเคืองจริงๆ และแล้วฝันก็สลาย เมื่อถึงกำหนดแล้ว เจ้าของร้านก็ไม่โอนตามที่ได้พูดไว้ กอโกรธจัดจนพูดไม่ออก จุกไปหมด จึงเข้าไปทักท้วงกับลูกจ้าง เพราะเจ้าของร้านไม่อยู่ ทางลูกจ้างที่ดีก็รีบติดต่อกับเจ้าของร้าน ซึ่งก็ติดต่อไม่ได้สักทาง กอจึงบอกจะแจ้งความ ทางลูกจ้างจึงรีบส่งข้อความไปให้ และเป็นที่น่าอัศจรรย์กับความศักดิ์สิทธิ์ของคำว่า “แจ้งความ” กอก็ได้รับการติดต่อว่าจะมีการโอนเงินให้ส่วนหนึ่งก่อน แล้วจะทยอยจ่ายจนครบงวดแรก กอจึงสงบลงไปได้ เมื่อถึงกำหนดงวดสุดท้าย กอพอรู้ว่าทางนั้นยังไม่มีจ่าย จึงไม่ได้ออกปากทวงเงินไป จนกระทั่งปลายเดือน จึงออกปากทวงไป เจ้าของร้านจึงแจ้งกำหนดมาให้ กอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจากรอเท่านั้น

ระหว่างนั้นเอง มีผู้ให้เช่าสินค้าอีกรายได้ทำการล็อบบี้เพื่อให้ได้เงินค่าเช่าจากคนอื่น ทั้งยังยั่วยุให้เกิดรอยร้าวระหว่างผู้ให้เช่าและเจ้าของร้านสอง ทำให้กอโดนไปด้วย โดยเจ้าของร้านสองได้ส่งข้อความเชิงยั่วยุให้เกิดการแจ้งความและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย กอจึงตั้งใจจะทำตามความต้องการของเจ้าของร้านสอง

ขณะเดียวกันผู้ให้เช่าเจ้าปัญหาก็เข้ามาเลียบเคียงถาม กอจึงบอกไปตามความตั้งใจ และเป็นที่อัศจรรย์อีกครั้ง เมื่อเจ้าของร้านเข้ามาบอกว่า กอเข้าใจสิ่งที่เขาพูดผิดไป กอเริ่มไม่ไหวมากขึ้นแล้วแต่ยังให้โอกาสเจ้าของร้านสองอยู่ จึงรออีก และพอถึงกำหนด เจ้าของร้านสองขอเลื่อนอีกสามวัน ด้วยความใจดี กอจึงยอมรอ และเหตุการณ์ก็พลิกผัน เมื่อเจ้าของร้านสองเข้ามาบอกว่าโอนเงิน แต่เงินไม่เข้าบัญชีอย่างที่เจ้าของร้านสองพูด และแจ้งกลับไปในเช้าอีกวันเผื่อการโอนเงินมีปัญหา แล้วก็ไม่มีเงินเข้าอีกเช่นเดิม จึงแจ้งไป เจ้าของร้านสองก็แสดงหลักฐานเป็นข้อความที่แสดงว่าเจ้าของร้านสองได้ตั้งเวลาโอนเงินล่วงหน้าเท่านั้น วันนั้นเจ้าของร้านสองได้แจ้งว่าระบบการโอนเงินมีปัญหา ให้ตรวจเช็คได้อีกวัน กอก็รอ เมื่ออีกวันแล้วเงินก็ยังไม่เข้าบัญชี กอรู้สึกว่าเจ้าของร้านสองพูดเหมือนมีเงินเข้าแต่กอทำเป็นว่าเงินไม่เข้า จึงได้ส่งภาพหน้าบัญชีไปให้ว่าไม่มีเงินเข้าจริงๆ เจ้าของร้านสองทำทีเป็นงุนงง

และนำภาพบัญชีที่มีชื่อและเลขบัญชีของกอไปโพสต์ไว้ที่หน้าไทม์ไลน์ของตน ทำทีว่าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น กอจึงไม่ทนอีก จึงไปธนาคารในอีกวันแล้วให้ธนาคารติดต่อเจ้าของร้านสองไป เจ้าของร้านสองไม่พูดคุยอธิบายใดๆ กอจึงแสดงความจำนงว่าจะบอกเล่าเรื่องราวและพฤติกรรมของเจ้าของร้านสองให้คนได้รู้กัน ปรากฏวันนั้น ก็มียอดโอนเข้ามา โดยเจ้าของร้านสองอ้างว่า เงินตีกลับเข้าบัญชีของตน ผู้รู้ด้านการเงินคงทราบดีกว่าใครว่าเหตุการณ์นี้มันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ กอไม่เหนื่อยตามเรื่องแล้ว จึงย้ำให้เจ้าของร้านสองจ่ายส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จในสองวัน ซึ่งในวันถัดมาเจ้าของร้านสองก็ได้โอนเงินให้เรียบร้อย กอจึงกรวดน้ำคว่ำขัน บอกลาตลอดกาลกับเจ้าของร้านนี้ไปเลย......จบ.....สอนให้รู้ว่า ใจดีและโง่ได้แต่อย่าดักดาน

**********************************
รายการหนังสือตอนนี้นะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก เล่ม 1-2 แพ็คคู่ 450 บาท แต่แยกเล่ม เล่มละ 250 บาท (จากราคาปก 600 บาท)
2. เราสามคน...หนทางเดียว เล่มละ 300 บาท (จากราคาปก 400 บาท)
3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว เล่มละ 300 บาท (จากราคาปก 400 บาท)
4. แผนร้ายในทางรัก เล่มละ 275 บาท (จากราคาปก 375 บาท)
5. ผูกพัน เข้าใจ สายใยแห่งเรา เล่มละ 260 บาทค่ะ
6. รักนี้...ที่ขาดหาย เล่มละ 150 บาท (จากราคาปก 300 บาท) มีแค่ 10 เล่มค่ะ

ค่าส่ง
1. จำนวน 1.เล่ม ส่งธรรมดา +35 บาท และ EMS +50 บาท
2. จำนวน 2 เล่มขึ้นไป ส่งธรรมดาฟรีค่ะ สำหรับ EMS ต้องขอเช็คน้ำหนักก่อนค่ะ

สั่งซื้อได้ที่ https://www.facebook.com/messages/koseybznw และ koseybz@live.com

**********************************

eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มี.ค. 2557, 21:29:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มี.ค. 2557, 21:29:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 2186





<< Crying Villain ตอนที่ 17   Crying Villain ตอนที่ 19 (ลบจ๊ะ) >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 25 มี.ค. 2557, 22:53:56 น.
เห้อออออ
เหมือนยกภูเขาออกจากอก
สบายยยย
หุๆๆๆๆ
ดีใจที่หนูมินต์กำลังจะได้สิ่งดีๆ ตอบแทน
ทำดีต้องอดทน !!!!
เอาละ พร้อมละคะ ไรเตอร์ จะแย่งเก้าอี้มาให้ได้ทุกชอตเลยยย


ร้อยวจี 25 มี.ค. 2557, 23:35:45 น.


konhin 25 มี.ค. 2557, 23:54:04 น.
แอบสะใจที่โชติโดนต่อย ส่วนตัวแม่ขนาดรู้ว่าลูกทำผิดยังโทษคนอื่นได้อีกรักลูกแบบผิดๆจริงๆ หนูมิ้นต์อย่าทำงานใกล้อีตาโชติเลย โครตเลวแบบนี้ไม่รู้วันไหนจะคิดชั่วขึ้นมาอีก


ใบบัวน่ารัก 26 มี.ค. 2557, 04:55:08 น.
เริ่มดีๆๆ. กัน จะมีเรื่องอีกไหม
คนรวยนี่ก็แปลก อยากได้กันก็ไม่บอกผัว เรียนมาสูง
เหงามากก็ไม่ทำงานมีเงินซื้อผู้ชายน้อยเพื่อที่จะเอากันสนุกกัน
มีลูกก็ไม่อบรม. น่าจะมีลูกเยอะๆๆไปเลยจะได้ไม่ต้องฆ่ากันแย่งสมบัติ
หรือไม่มีดี. นะ. ไงก็จัดให้ป้าเค้าเยอะๆๆหน่อย จะได้หายอยากหายบ้าซะที


ตุ๊งแช่ 26 มี.ค. 2557, 08:42:53 น.
ว่าแล้วต้องท้องงงงง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account