นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 17

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 17

พอกลับมาเมืองไทย ศนิพยายามโทรหามินตรา แต่มินตรายุ่งๆ จึงไม่ได้รับสายจนกระทั่งวันนี้

“ให้ทนายความของเธอถอนฟ้องเรื่องภาพหลุดเธอเลยนะ มินต์” ศนิรีบสั่งเพื่อนทันทีที่เพื่อนรับสาย

“อะไรของเธอน่ะ ศนิ ฉันไม่รู้เรื่องคดีอะไรเลยนะ” มินตราบอกอย่างงุนงง

“ก็ทนายความเธอกำลังฟ้องเรื่องภาพหลุดของเธออยู่เนี่ย” ศนิถามเพื่อนให้แน่ใจว่าเป็นฝีมือเพื่อนจริงๆ หรือไม่

“ใช่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ” มินตรางุนงง เพราะไม่รู้เรื่องรายละเอียด

“เอ่อ ก็นะ ก็ ไม่รู้ล่ะ บอกให้ทนายความของเธอถอนฟ้องเลยนะ” ศนิไม่กล้าบอกเพื่อนว่าเป็นฝีมือเธอเองที่เอาภาพหลุดไปปล่อย ทางหนังสือโดนฟ้อง ทำให้ลากเธอให้โดนฟ้องอีกด้วย

“ฉันทำไม่ได้แล้วล่ะ คุณสมเจตน์เป็นคนจัดการเรื่อง ฉันมอบอำนาจให้เขาไปแล้ว เรื่องคดีความเป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจน่ะ ถ้าเธอจะให้ถอนฟ้อง ก็ต้องไปคุยกับคุณสมเจตน์เอง ศนิเธอไม่น่าไปรับปากใครเลย ถึงเธอกับฉันจะเป็นเพื่อนกัน แต่เรื่องนี้ฉันช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ นะ” มินตราบอกตามตรง เพราะเรื่องคดีเป็นเรื่องของสมเจตน์ไปแล้ว เธอกับสามีไม่อยากยุ่งเรื่องนี้เท่าไรนัก

“นี่แกจะไม่ช่วยอะไรฉันเลยเหรอ” ศนิเริ่มเหวี่ยงใส่เพื่อน เพราะหมายเรียกจ่อคอเธอออยู่

“ก็ถ้าช่วยได้ ฉันจะช่วย แต่ช่วยไม่ได้ เพราะฉันมอบหมายให้คุณสมเจตน์กับทีมทนายเขาจัดการแล้วนี่” มินตราพูดยังไม่ทันจบดี ศนิก็วางสายใส่เธอทันที

มินตราได้แต่ถอนหายใจ พอลงมาข้างล่างเห็นผู้หญิงวัยกลางคนมาพบก็สงสัย

“นั่นไงคะ มาพอดีเลย มินต์นี่ทนายความสมจิตนะ เขามาซักซ้อมเรื่องคดีน่ะ” บุษบารีบแนะนำและอยากช่วยลูกสาวที่โดนทำร้ายทั้งที่ไม่เคยทำอะไรเลย

“สวัสดีค่ะ” มินตรายกมือไหว้ ก่อนก็ทำหน้างงๆ “ซักซ้อมเรื่องคดีเหรอคะ”

“ก็คดีของคุณนั่นแหละค่ะ เจ้านายของฉันสั่งให้มาคุยกับคุณเรื่องคดี ถึงจะอีกหลายเดือนกว่าจะถึงนัดดำเนินคดีน่ะค่ะ” สมจิตอธิบายอย่างดี

มินตราเห็นรายละเอียดของคดีแล้วก็ขมวดคิ้ว “นี่เพื่อนฉันนี่คะ”

“ใช่ค่ะ คุณศนิคนนี้เป็นคนจัดหาที่พักให้ผู้ชายในภาพ และยังเป็นคนแอบถ่ายภาพด้วยค่ะ ทางหนังสือไม่ยอมโดนฟ้องคนเดียว ก็เลยลากออกมากันหมดค่ะ” สมจิตอธิบายความตามรายละเอียดที่รู้มา

“ถึงว่าล่ะ โทรมาบอกให้มินต์ถอนฟ้อง” มินตราบอกแม่แล้วถอนหายใจพร้อมกัน

“อะไรนะ เพื่อนกันแท้ๆ ทำแบบนี้ได้ยังไง” บุษบาออกโรงปกป้องลูกสาว สำนึกแล้วก็ช่วยลูกสาวกับลูกเขยเต็มที่

“นี่เป็นอีกคดี ท่านสมเจตน์สั่งให้ฟ้องหมิ่นประมาทค่ะ” สมจิตเอาสำนวนอีกคดีมาให้ดู

มินตราก็ทำหน้าตาลาย บอกอย่างจนปัญญา “แล้วแต่คุณเถอะค่ะ ฉันตาลายไปหมดแล้วค่ะ”

สมจิตก็เลยซักซ้อมคดี เล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง แล้วทิ้งสำเนาเอกสารไว้ให้ มินตรากับแม่ต่างก็ถอนหายใจยาว ก่อนจะชวนทานมื้อเที่ยงที่น้องชายกับน้องสะใภ้ทำให้ไว้ก่อนออกจากบ้าน ซึ่งคุณสมจิตก็ไม่ปฏิเสธ

“อาหารอร่อยมากค่ะ” สมจิตชื่นชมตามจริง วันนี้ไม่มีคดีที่ต้องไปอีก และเจ้านายก็ให้เวลาทั้งวันเพื่อคุยเรื่องคดีกับมินตรา เพราะเจ้านายรับดูแลคดีของครอบครัวสมเจตน์มานาน จึงรู้จักมักคุ้นกับสมเจตน์ดีมาก

“น้องชายกับแฟนเขาทำน่ะค่ะ เป็นน้องที่นิสัยดีมากค่ะ” มินตราชมน้องชายให้เธอฟัง

“มีน้องที่ดีนี่ก็ดีนะคะ” สมจิตไม่ค่อยวิจารณ์เรื่องของใครนัก

บุษบาค่อยยิ้มปลื้มที่มีคนชมลูกชายบ้าง ก่อนต้องโอ๋หลานชายที่ร้องให้ย่าอุ้ม แล้วลูบหลัง

“คุณมินต์จะต้องไปต่างประเทศเมื่อไรคะ” สมจิตถามไว้ เผื่อเรื่องคดีความ

“ประมาณสองอาทิตย์ค่ะ ทางบริษัทหนังที่อังกฤษเขาจะให้ไปรับเชิญสามตอนในซีรี่ย์ค่ะ ถ่ายทำไม่กี่วันค่ะ แต่ว่าจะพักอยู่ที่อังกฤษนานเลย เรื่องคดีนี่ต้องไปไหมคะ” มินตราถามไว้ เผื่อต้องกลับเมืองไทย

“ก็อาจจะต้องมาค่ะ ดูก่อนนะคะ ทางเราเป็นโจทก์สามารถให้ทนายความเป็นตัวแทนได้ค่ะ ถ้าไม่สะดวกก็ให้ทีมทนายความจัดการเองค่ะ” สมจิตอธิบายเป็นกลาง แต่ยังไงคดีความต้องลากยาวเป็นปีอยู่แล้ว ทางนั้นต้องไม่มีทางยอมให้คดีจบเร็วแน่

“เรื่องค่าใช้จ่าย ยังไงก็บอกมานะคะ” มินตราพูดขึ้นเมื่อนึกได้

“ท่านสมเจตน์เป็นคนจัดการทุกอย่างแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลค่ะ” สมจิตบอกตามตรง

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว มินตราก็มาส่งสมจิตที่หน้าบ้าน เพราะมินตราเข้าใจอะไรง่าย และขอเอกสารไว้ศึกษา และดูเหมือนจะพยายามไม่เข้าไปวุ่นวายกับรูปคดี พอทางนั้นซักซ้อมอะไร มินตราก็ทำตามโดยไม่คัดค้าน จึงคุยกันง่ายเข้า

“เฮ้อ แม่นะ อยากให้คดีมันจบๆ เร็วๆ ไม่รู้ทำไมถึงมีคนอยากจะทำร้ายมินต์เยอะนะเนี่ย” บุษบาลูบหลังหลานชายให้สบายตัว หลังจากเรอออกมามาก อีกไม่กี่เดือนคงจะคลานให้วุ่นวายไปหมด

“ช่างมันเถอะค่ะ มินต์ว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติแล้วกันค่ะ” มินตราพูดอย่างปลงๆ แล้วเข้าบ้าน

สามีก็ไม่โทรมาสองวันแล้ว มินตราก็ไม่กล้าโทรไป กลัวเขากังวลใจ เห็นว่าตั้งแต่เป็นข่าว สามีหลีกเลี่ยงมาแอลิซมากขึ้น เหมือนโดนแกล้งให้งานเข้าเยอะมาก จนเขาไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นอีก แถม มาแอลิซก็ขยันเข้ามากอดแขนเดินกับเขา ทำให้มินตราไม่รู้ว่าควรนึกอะไร เพราะไม่กล้าถามเขาอีก กลัวเขาโกรธ

เรื่องบางเรื่องถ้าถามมากๆ ก็ทำให้ชีวิตคู่มีรอยร้าว

**********************************

เสียงโทรศัพท์ดังรอบแล้วรอบเล่า สามวันมานี้มีคนโทรมาก่อกวนมินตราเยอะมาก

“ไม่ค่ะ หนังโป๊ไม่เอาค่ะ” มินตราตะคอกกลับไปอย่างโมโห

สมเจตน์คว้ามือถือมินตรามาแล้วพูดไป “ให้ลูกสาวมึงไปเล่นหนังโป๊เลย ไป!!!” แล้วกดปิดโทรศัพท์

“ขอบคุณค่ะ” มินตรายกมือไหว้อย่างโล่งใจ

“เจอโทรศัพท์ก่อกวนแบบนี้ ทีหลังไม่ต้องไปคุย ให้ทนายจัดการแทน” สมเจตน์พูดจบ ก็เอาเครื่องเพชรที่ทำเสร็จแล้วออกมา แล้วเริ่มคุยรายละเอียดต่อ จนเสร็จ “นี่เธอเริ่มทำโปรเจคของออร์เดย์หรือยัง”

“ค่ะ ออร์เดย์ส่งคนมาคุยที่ฮ่องกงแล้วค่ะ เริ่มคุยเรื่องรายละเอียดกันมากแล้วค่ะ ส่วนเรื่องแบบกำลังค้นๆ ดูว่ามีอันไหนเข้าคอนเซ็ปเขาไหม” มินตราเล่าความตามเรื่อง ยังไงก็ถือว่าเป็นคู่แข่ง

“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วล่ะ นี้เป็นเช็คเงินสดล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาเธอก็ขึ้นเงินได้” สมเจตน์ส่งเช็คให้

“ขอบคุณค่ะ แต่ขอไม่รับนะคะ คุณจัดการเรื่องคดีความให้ ฉันยังไม่ได้จ่ายเลยค่ะ” มินตราส่งคืนให้

“รับไปเถอะ บ้านเธอไม่สอนหรือไง ว่าผู้ใหญ่ให้ก็รับไว้ ถ้าฉันจะเอาเงินเธอ ฉันคงไม่จัดการให้ทนายทำทุกอย่างหรอกน่า อีกอย่างมันเกี่ยวกับชื่อเสียงของฉันด้วย เสร็จงานแล้วก็กลับได้แล้วล่ะ” สมเจตน์จัดการเก็บเครื่องเพชรชุดใหม่ไว้ในตู้เซฟ รอเวลาให้คนมาขนไปเก็บ

“ขอบพระคุณมากค่ะ” มินตรารับเช็คค่าจ้างงวดสุดท้ายมาแล้วยกมือไหว้ ก่อนลา “กลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”

สมเจตน์โบกมืออนุญาตแล้ว มินตราก็ออกมาจากห้องทำงานของเขา พอออกมาเจอโชติรออยู่ ก็พยายามเลี่ยง

“มินต์ พี่อยากขอโทษ” โชติพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด

มินตราไม่คุยด้วย แล้วเลขาฯ ของสมเจตน์ก็รีบเข้ามาขัดจังหวะ

“คุณมินต์คะ ท่านสั่งให้ดิฉันพาคุณไปรับเอกสารจากฝ่ายการเงินค่ะ”

“ค่ะ เชิญค่ะ” มินตรารีบเชิญแล้วไปลงลิฟต์กัน

โชติได้แต่มองลิฟต์ปิดลง เขาถอนหายใจเพราะสิ่งที่ทำลงไปไม่มีทางแก้ไขอะไรได้อีก...แสนเสียดาย

เมื่อลิฟต์ปิดลง เลขาฯ ก็กดลิฟต์ชั้นที่จอดรถของมินตรา

“ไม่ไปเอาเอกสารเหรอคะ” มินตราถามอย่างงุนงง

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ในซองเช็คมีเอกสารภาษีเรียบร้อยแล้วค่ะ ท่านสั่งให้ฉันคอยดูไม่ให้คุณโชติเข้ามาวุ่นวายกับคุณมินต์น่ะค่ะ ฉันเห็นคุณโชติพยายามขวางทาง ก็เลยคิดว่าลงมาส่งคุณดีกว่า” เลขาฯ สาวอธิบายความแล้วยืนรอส่ง

“ขอบคุณนะคะ ฉันไม่อยากให้เขามาวุ่นวายกับฉันจริงๆ ค่ะ” มินตราถอนหายใจยาว ถ้าไม่เพราะเขาคิดชั่ว คงไม่เปิดโอกาสให้ศนิทำลายชื่อเสียงเธอแบบนี้

เลขาฯ สาวรอจนลิฟต์เปิดแล้วก็ยกมือไหว้ลา จากนั้นก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ

มินตราถอนหายใจแล้ว เดินไปที่จอดรถ แล้วขับออกไปที่ร้านน้องชาย เห็นคู่ฝาแฝดช่วยกันทำงานแล้วมีลูกค้าประจำแล้วก็ได้ยิ้ม

“พี่มินต์มาแล้ว” เสียงน้องผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วรีบปาดมาตรงหน้าเอาภาพมาให้เซ็นชื่อ เป็นภาพจากภาพยนตร์

“สวัสดึค่ะ” มินตราถูกแฟนคลับชวนไปนั่งที่โต๊ะ และพูดคุยกันไปเรื่อยๆ

“นี่ถ้าเราไม่รู้จักพี่มินต์ คงเชื่อข่าวแย่ๆ พวกนั้นแน่ๆ แต่พี่มินต์เป็นคนดีจริงๆ ไม่รู้พวกนั้นทำไมจ้องทำรายพี่มินต์นะคะ” เสียงแฟนคลับหญิงพูดคุยแล้วให้กำลังใจกันอีก

มินตราก็เลยออกเงินเลี้ยงขนมกับน้ำให้แฟนคลับ แล้วแฟนคลับก็ถ่ายภาพคู่ด้วยทีละคน แล้วแต่ละคนโพสต์ลงเฟสบุ๊คของตัวเอง พร้อมเขียนข้อความให้กำลังใจมินตรา

เมื่อส่งแฟนคลับออกจากร้านแล้ว มินตราก็หันไปคุยกับน้องชายที่เคาน์เตอร์ เพื่อจ่ายเงิน

“พี่ไม่ต้องจ่ายก็ได้” บรรพ์บอกพี่สาว

“ของซื้อของขาย พี่ต้องจ่ายสิ นั่นน่ะแฟนคลับพี่นะ” มินตราบอกแล้ววางเงินให้คนรักน้องชาย

“บูมเขาใจดีครับ ชอบเลี้ยง” บรมพูดแล้วก็หัวเราะ “ไอ้นัทมันงอแงไหมพี่ เมื่อเช้าเหมือนมันไม่ค่อยสบาย แม่พาไปหาหมอหรือยัง”

“ไม่มีไข้นะ มันงอแงจะตามพ่อมันมาร้านหรือเปล่า” มินตราบอกน้องชายแล้วหัวเราะ แล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะมีคนสะกิด พอมินตราหันไปมอง ถูกสาดน้ำผลไม้ใส่

“ดารามั่วคาว ระวังคราวหน้าไปเอาผัวใครเข้าจะโดนมากกว่าน้ำผลไม้” พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งออกจากร้าน

ปูรีบเอาผ้ามาช่วยมินตราเช็ด “บ้าชะมัด พี่มินต์ขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นสองก่อนไหมคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก แต่เดี๋ยวพี่ขึ้นไปล้างหน่อยก็ดีนะ” มินตราเสียดายเสื้อสีครีมของเธอ ที่ตอนนี้เปื้อนเป็นรอยใหญ่มาก

ปูมองพี่สาวคนรักขึ้นชั้นสอง แล้วสบตาคู่แฝดทั้งสอง ต่างก็ถอนหายใจ “ปูไม่คิดเลยนะว่าคนสมัยนี้จะนิสัยแย่แบบนี้ พี่มินต์น่ะ ไม่เคยคิดร้ายกับใคร เห็นใจคนอื่นมาตลอด พอมีข่าวไม่ดี คนพวกนี้ก็เชื่อไม่ดูความจริง พี่มินต์น่าสงสารจะตายไป ต้องเสียลูก ต้องฝ่าฟันอะไรมาเยอะ แต่ก็ไม่เคยให้ร้ายใคร บ้าจริงๆ โดนหลอกไปข่มขืน พยายามไม่ทำให้เป็นเรื่อง ยังจะสารเลวเอาภาพมาทำลายชื่อเสียงอีก ฮือๆๆ”

บรรพ์ได้แต่เข้าไปกอดคนรักที่ร้องไห้ “ไม่มีอะไรครับ ขอโทษด้วยนะครับ ใจเย็นๆ นะปู ไปหลังร้านกับเค้าเถอะ”

บรมก็เข้ามาดูแลหน้าร้านแทนคู่แฝดกับคนรัก เพราะปูร้องไห้เสียใจหนักมาก ดีที่ลูกค้าเห็นใจมินตรากับปู จึงยิ้มให้แล้วต่างก็นั่งในมุมของตัวเองต่อไป สักพักเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น บรมก็ต้อนรับลูกค้า “สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่ร้านทวินโบราณครับ เชิญที่เคาน์เตอร์นะครับ”

บรมเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าก็ตกใจ “แหม่ม”

บรรพ์ออกมาพอดี ก็งุนงง เพราะดูเหมือนคู่แฝดจะรู้จักลูกค้า “รับอะไรดีครับ คุณลูกค้า”

บรมกับแหม่มมองหน้ากันอยู่นาน ก่อนบรรพ์จะพยักหน้าให้บรมพาแหม่มไปคุยหลังร้าน แล้วตนเองก็ต้อนรับลูกค้าที่มาสั่งขนมเพิ่ม

บรมกับแหม่มเดินไปหลังร้าน เห็นล้างหน้าล้างตา แล้วกำลังจะไปช่วยหน้าร้าน เขาก็หยุดที่จอดรถด้านหลัง

“แหม่มมาทำไม” บรมถามขึ้นบอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกยังไงดี

“เค้าคิดถึงลูก” แหม่มบอกบรม แล้วถอนหายใจยาว “พ่อแม่เค้าไม่ให้เค้ามา แต่เค้าทนคิดถึงลูกไม่ไหว ยิ่งพี่สาวพี่บอมมีข่าวฉาว พ่อแม่ยิ่งไม่อยากให้มาก”

“คิดถึงเหรอ เอาลูกมาทิ้งตั้งหลายเดือน แล้วมาบอกคิดถึง ไม่เคยมาดูแล ไม่เคยมามอง เอาเขามาทิ้งแล้วยังมีหน้ามาบอกคิดถึงอีกเหรอ กลับไปเถอะ ไอ้นัทมันไม่ต้องการเธอแล้วล่ะ” บรมใส่อารมณ์เต็มที่

“พี่บอมไม่เข้าใจหรอก เค้าถูกพ่อแม่บังคับ ไม่ได้อยากเอาลูกมาให้ผีติดเกมส์อย่างพี่ เค้าคิดตลอดว่าลูกเป็นยังไงบ้าง จะมีใครดูแลไหม เค้าคิดนะ” แหม่มแย้งแล้วก็เริ่มร้องไห้

“เออ ตอนนี้พี่ไม่ได้เป็นแล้ว ทุกวันนี้นอนกับลูกทุกคืน ลูกรักพี่จะตาย ลูกน่ะไม่ต้องการเธอแล้ว สบายใจแล้วใช่ไหม” บรมบอกแล้วก็จะกลับเข้าร้าน แต่แหม่มดึงไว้ เขาก็กลัวตัวเองใจอ่อน

“พี่มีคนอื่นแล้วใช่ไหม หาแม่ให้ไอ้นัทแล้วใช่ไหม” แหม่มแสดงท่าทางหึงหวง แอบดูเขาในเฟสบุ๊คทุกวัน โดยใช้ชื่ออื่นสมัครเป็นเพื่อนเขา เห็นเขาโพสต์ภาพและข้อความแสดงว่ารักลูก บางทีก็เอาลูกมาที่ร้าน ให้ลูกค้าได้ผ่อนคลาย

“จะบ้าหรือไง ก็อย่างที่เธอบอกน่ะแหละ พี่ก็แค่ไอ้ผีติดเกมส์ ผู้หญิงที่ไหนจะมาสนใจ” บรมพยายามแกะมือเธอออก เพราะเห็นคนเริ่มเดินมาที่จอดรถ

“พี่เกลียดเค้าขนาดนั้นเลย” แหม่มพูดน้ำตาซึม

“เกลียด? บ้าหรือไง ไม่เกลียดสิบ้า แม่ประสาอะไร อุ้มท้องลูกมาตั้งเก้าเดือน ลูกอายุไม่ครบเดือนก็เอามาทิ้ง” บรมโวยวายแล้วพยามแกะมือของแหม่มออก

“เค้าไม่ได้เป็นคนเอามาทิ้ง แม่เค้าแย่งไปจากเค้าแล้วก็ขังเค้าไว้ที่บ้าน พ่อแม่เค้าเอาไปให้พี่ต่างหาก เค้าแอบมองอยู่หน้าบ้านพี่ตั้งสองเดือน พอพ่อแม่พี่สร้างบ้านใหม่ เค้าไม่ได้ไปอีก เค้าก็เลยมาเฝ้าที่ร้านแทน เค้าไม่มีสมาธิจะเรียนด้วย เค้าคิดถึงลูก” แหม่มพูดแล้วก็ร้องไห้จริงจัง “บางวันเค้าเห็นพี่เอาลูกใส่หลังขายขนม เห็นสาวๆ แซวพี่ พี่ยิ้มให้มัน เค้ายังอยากเข้าไปตบเลย”

“จะบ้าหรือไง อย่ามาก่อเรื่องในร้านนะ” บรมรีบห้าม กลัวว่าแหม่มจะทำแบบนั้นจริงๆ

“ก็ไม่ได้ทำจริงๆ ซักหน่อย ยังไงพี่บอมพาลูกมาร้านบ้างนะ เค้าจะแอบมาหาลูก” แหม่มพูดปิดท้าย ก่อนจะบอกอีก “พี่บอมพาลูกมาค้างที่ร้านบ้างสิ เค้าจะได้มาหาได้”

“บ้าเหรอ ชั้นสองกำลังติดตั้งเครื่องทำขนม ชั้นสามน่ะ ยังไม่ได้ทำเลย” บรมเห็นแหม่มเอาหน้าอกมาเบียดแขนก็กลืนน้ำลาย

“เย็นนี้เค้าจะมาหาอีกนะ” แหม่มบอกแล้วปล่อยมือ

“ร้านปิดสองทุ่ม” บรมก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะหน้าอกของแหม่มขนาดไม่ธรรมดา

“อือ เค้ารู้แล้ว เค้าไปเรียนก่อนนะ” แหม่มบอกแล้วมองเขาไม่วางตา

“แล้วไม่ต้องแวะเล่นเกมที่ร้านเกมล่ะ” บรมเตือนแหม่ม

“บ้า!! เค้ารู้น่า เย็นนี้เค้าจะมาหา ห้ามนัดสาวอื่นด้วย” แหม่มบอกแล้วนึกวางแผนจะไปหาลูกกับเขา ไปค้างที่บ้านเขาเพื่อจะได้นอนกับลูกบ้าง โดยบอกพ่อแม่ว่าไปทำรายงานกับเพื่อนแทน ก่อนไปยังเข้าไปจูบเขาอีกรอบ แล้วเล้าโลมเขา จากนั้นก็พูดดักคอ “ตั้งแต่ครั้งแรกกับพี่ เค้าก็ไม่เคยมีใครมาก่อน นี่เค้าหัดกับเพื่อนผู้หญิงหรอกนะ เค้าอยากมัดใจพี่”

“ถามจริงๆ พี่สาวพี่มีแต่ข่าวไม่ดี ครอบครัวพี่ก็เหมือนกัน แล้วทำไมไม่ลืมพี่ไปซะ” บรมถามให้แน่ใจ ใจอ่อนไปเยอะ เพราะไม่ได้เจอผู้หญิงแสดงท่าทีสนใจนานแล้ว

“ก็พี่เป็นผู้ชายคนแรกของเค้า แล้วพี่ก็ยังเปลี่ยนเป็นผู้ชายอบอุ่น รักลูกอย่างนี้ เค้าไม่ยอมเสียพี่ให้ผู้หญิงคนไหนหรอกนะ บอกเลย เค้าขี้หึงมาก” แหม่มเข้าไปกัดปากเขาอย่างแรงเป็นการเตือน ก่อนจัดชุดนักศึกษาให้เรียบร้อยแล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดไว้

บรมกลับมีอารมณ์ขึ้นมา ก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ แล้ววิ่งไปหาคู่แฝด กระซิบอีกฝ่าย

บรรพ์มองหน้าบรม แล้วถอนหายใจยาว ก่อนแอบยื่นให้ “ทีหลังไปซื้อเองมั่ง”

ปูมองสองคนกระซิบกันก็งงๆ แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก ขายของให้ลูกค้าไป แล้วมินตราก็ลงมาข้างล่าง

บรมก็เดินเข้ามาหาพี่สาว แล้วกระซิบคุยด้วย ไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ กลัวพี่สาวตัดหางปล่อยวัด

“อะไรนะ บอม” มินตราถามให้ชัด ว่าฟังน้องชายไม่ผิด

“คือว่าแหม่ม แม่ไอ้นัท อยากเจอลูก ผมเลยว่าจะพาไปเจอลูกที่บ้านพี่น่ะครับ” บรมบอกเล่าพี่สาวอีกรอบ

“แล้วไงล่ะ” มินตราไม่ได้ปฏิเสธ แค่พยักหน้ารับรู้

“บางทีแหม่มอาจจะค้างคืน” บรมพูดแค่นั้นก็ชะงัก เพราะพี่สาวทำสีหน้าเข้มงวดทันที

“มันก็ได้นะ บอม แต่บอมต้องรู้นะว่า บ้านพี่ไม่ใช่โรงแรม อย่าทำอะไรที่มันมักง่ายก็แล้วกัน ห้องที่บอมอยู่ก็เป็นห้องพักแขก ถ้าบอมไม่อยู่แล้วก็รู้นะว่าเตียงน่ะ อาจมีคนอื่นต้องใช้นอนอีก” มินตราเตือนสติน้องชาย ก็เข้าใจเพราะห่างเรื่องนี้มานาน แต่ก็ไม่ห้าม เพราะเขายังหนุ่ม

“ถ้าผมย้ายมาอยู่ตึกแล้ว ผมขนเตียงนั้นมาที่นี่ได้ไหมพี่” บรมก็รู้ว่าพี่สาวหมายถึงอะไร

“ก็ได้พี่ยกให้ แต่อยากให้ทำอะไรก็มีสตินะ” มินตราเตือนน้องชายอีกรอบ “ไอ้นัทก็เป็นตัวอย่างที่ดีแล้ว”

“ครับๆ ผมจะระวังไม่ให้เกิดเรื่องอีก” บรมรับปากพี่สาว หากเป็นเมื่อก่อนคงรับปากส่งๆ แต่ตอนนี้เขาเรียนรู้หลายอย่าง จึงพยายามตั้งสติ

“งั้นก็ตามใจ ทำอะไรต้องคิดว่า ถ้ามันเกิดกับลูกสาวเราบ้าง เราจะรู้สึกยังไง” มินตราเตือนสติน้องชายซ้ำๆ ใครจะว่าขี้บ่นก็ช่าง ไม่อยากให้เด็กมีปัญหา

บรมพยักหน้ารับอย่างจริงจัง “ผมจริงจังครับพี่ ผมต้องจริงจังเพื่ออนาคตของลูก”

“อืม พี่ไม่ยุ่งแล้วกัน” มินตราบอกน้องชายแล้วก็ขอตัวกลับบ้านก่อน

บรรพ์มองคู่แฝดยิ้มๆ รู้กันว่าอะไรเป็นอะไรได้ไม่ยาก จากนั้นก็ตั้งใจทำงานของตนให้ดีที่สุด เพื่อว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขา ที่ตอนนี้กำลังต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง แล้วก็เอาขนมใหม่ๆ มาแถมให้ลูกค้าลองชิมดู

**********************************

ตอนเช้าของวันใหม่ มินตราปวดหัวมากขึ้น เพราะโดนเล่นข่าวแรงๆ เธอก็ตั้งใจจะกลับอังกฤษ เพราะไม่อยากอยู่ที่นี่ให้วุ่นวาย สักพักเสียงโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรมา ทีนี้เธอก็กดรับเพราะปลายสายโทรมาถี่เกินไป

“คุณมินตรา เพียร์ซหรือเปล่าครับ” อีกฝ่ายถามทันทีที่เธอพูดทักทาย

“ใช่ค่ะ” มินตราตอบแล้วกลัวนิดๆ

“ผมโทรมาจากทีมสร้างหนังของไทธนานะครับ เราเห็นว่าคุณเป็นนักแสดงมีความสามารถอยากให้มาร่วมงานกัน” ทีมงานอธิบายรายละเอียด แล้วตบท้ายด้วย “คือมีฉากหนึ่งที่คุณต้องเปลือย แต่ไม่ต้อง...”

“ไม่ค่ะ อย่าโทรมาอีกนะ คนเลว ฉันไม่ใช่ดาราหนังโป๊นะ ตัณหากลับ ประสาท จิตไม่ว่าง สารเลว ไม่ต้องโทรมาอีกนะ คนชั่ว” มินตราด่าแปลกแล้วกดปิดเครื่องทันที โดยไม่รู้ว่าค่ายหนังไทธนาเป็นค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในเมืองไทย และสิ่งที่เธอด่า ก็ถูกอัดไว้

มินตราเกือบร้องไห้ที่ถูกชวนไปถ่ายหนังโป๊อีก พอลงมาข้างล่าง เห็นแหม่มอุ้มลูกชายไว้ แล้วหอมแก้มหลายรอบมาก ก็รู้สึกว่าดีที่ให้มาค้างที่นี่

“พี่มินต์ สวัสดีค่ะ เดี๋ยวแหม่มช่วยแม่เลี้ยงลูกแล้วก็จะไปเรียนนะคะ” แหม่มบอกแล้วก็ประคองลูกชายนอนลง แล้วแหย่เล่นตามประสา หากต้องการทิ้งลูก เธอก็คงทำแท้งตามคำแนะนำของเพื่อนไปแล้ว พอท้องได้เจ็ดเดือนความแตกถึงพ่อแม่ ก็ไม่ได้ทำแท้งแล้ว

“ขับรถดีๆ ล่ะ” มินตราบอกแม่ของหลาน แล้วมองแม่ที่ยังไว้ท่าอยู่มาก “แม่กินอะไรหรือยังคะ”

“กินแล้วกับพ่อ พ่อออกไปทำงานแล้ว” บุษบาโกรธๆ ที่เช้ามาเจอแหม่มอุ้มหลานออกมาจากห้องลูกชาย ไม่คิดว่าจะต้องมีเจอกับแม่ผู้หญิงคนนี้ “มินต์ล่ะหิวไหม”

“ไม่ค่ะ แต่ยังไงก็ต้องกิน แหม่มไปกินกับพี่ไหมล่ะ บอมไปทำงานแต่เช้าแล้วเหรอ” มินตราถามไปตามเรื่อง เหมือนไม่รู้เรื่อง

“ฝากนัทด้วยนะคะ” แหม่มบอกแม่คนรักอย่างเกรงใจ เพราะถูกเกลียดเอาไว้มาก

“โอ๊ย!! ก็ดูแลมันมานาน ไม่ต้องฝากหรอกย่ะ” บุษบาพูดกระแทกใส่แหม่ม แล้วหันไปมองอีกทาง

แหม่มก็ดูหงอยๆ ไปแล้วตามมินตราไปที่ห้องอาหาร ก่อนจะพูดขึ้น “แหม่มรู้ว่าแหม่มทำไม่ดี แม่พี่ต้องเกลียดแหม่มมากแน่ๆ”

“ช่างเถอะ ก็ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ใจอ่อน ทานเถอะ นี่ยังมีน้ำนมให้ลูกอยู่ไหม” มินตราถามขึ้น เปลี่ยนเรื่องคุย

“มีน้ำนมคัดๆ อยู่ในอกค่ะ ต้องไปซื้อเครื่องมาปั๊มทิ้ง ตอนปั๊มนะพี่ น้ำตาไหลเลย เคยเอาให้ลูกดูด พอลูกไม่ได้ดูด ได้แต่นอนร้องไห้ แอบไปดูที่หน้าบ้านพี่บอมหลายรอบ ถ้าวันไหนประตูรั้วไม่ได้ล็อกก็แอบเข้าไปมองที่หน้าต่าง แม่พี่เอาหลานมาเลี้ยงที่ห้องรับแขก เห็นว่าเลี้ยงดู เค้าเลยเบาใจ” แหม่มเล่าความแล้วถอนหายใจ

“เมื่อคืนลองเอาให้ลูกดูดดู แต่ก็ไม่มีแล้วค่ะ สุดท้ายพ่อมันดูดคนเดียว” แหม่มพูดขึ้นแล้วก็นึกได้ ปกติจะพูดทะลึ่งกับเพื่อนๆ เสมอ

มินตราก็หัวเราะอย่างไม่ถือสา

แหม่มเห็นมินตราไม่ถือก็ได้ระบายความในใจ “พี่บอมเล่นซะหมดกล่องเลยค่ะ เพิ่งได้นอนเช้านี่เอง พี่บอมก็ออกไปที่ร้านเลย ยังไม่ได้นอนเลยค่ะ ก่อนไปพี่บอมยังจูบแหม่มเลย แหม่มค่อยโล่งใจ คิดว่าพี่บอมเกลียดแหม่มซะแล้ว”

“ไม่เกลียดก็ดีแล้วล่ะ” มินตราได้แต่พูดอย่างเขินๆ แทน

“ไม่เกลียดแต่ก็ไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า เวลาผู้ชายเอาผู้หญิง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขารักหรอกนะพี่ เขาแค่อาจจะไม่มีที่ระบายก็ได้ ตอนได้กับพี่บอมครั้งแรก สองวันเต็มเลย แหม่มต้องใช้หอพักของเพื่อน พี่บอมไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม ดีที่เพื่อนมันไปค้างบ้านแฟน หลังจากนั้นก็ได้กันเรื่อย จนมีนัทนี่แหละ ตอนท้องนัทได้สี่เดือนถึงเพิ่งรู้ตัว เค้าด่าพี่บอมสาดเสียเทเสียเลย พี่บอมโกรธเลยไม่ยอมมาหาอีก เค้าก็เคว้งคว้างไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ นึกว่าพี่บอมเขี่ยเขาทิ้งเพราะเขาท้อง ที่ไหนได้เมื่อคืนคุยกัน พี่บอมไม่รู้จะทำยังไง เครียดก็เลยไปลงกับเกม” แหม่มเล่าความเศร้าๆ

แหม่มได้เล่าอย่างเขินๆ เมื่อคืนคนรักจัดหนัก เหนื่อยก็เหนื่อย แต่เขาก็เตือนให้ไปเรียนสม่ำเสมอ ไม่งั้นไม่ให้มาหาอีก เธอก็ได้แต่ทำตาม มีกำลังใจร่ำเรียนให้จบ

มินตราเห็นเรื่องของน้องๆ เข้าที่เข้าทางก็โล่งใจ ถ้าจะกลับอังกฤษก็ไม่ต้องห่วงแล้ว เรื่องบ้านพ่อแม่ก็ใกล้เรียบร้อยแล้ว เหลืออีกไม่กี่เดือนบ้านก็จะเสร็จ

**********************************

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อข่าวเธอปฏิเสธงานบริษัทหนังยักษ์ใหญ่เป็นเรื่องร้ายแรง ทำให้เธอกลายเป็นดาราหน้าเงินและเชิดใส่หนังไทย มีคนโทรมาต่อว่าเธอเยอะมาก

“พี่เค มินต์ไม่อยากอยู่ที่เมืองไทยแล้วค่ะ” มินตรารีบบอกสามีทันทีที่สามีรับสาย

“อะไรอีกล่ะ มินต์ ไม่อยากอยู่ก็กลับอังกฤษสิ จะทนอยู่ทำไม” คิลเลี่ยนหงุดหงิดเพราะงานที่มาขึ้น เหมือนโดนแกล้ง เพราะเขาแทบไม่ได้พัก แล้วต้องจำเพลงใหม่ๆ เยอะมาก จากคนที่ไม่คิดอะไร ทำงานสบายๆ ต้องมาทำงานตารางแน่นแบบนี้

“พี่เค!!!” มินตราฟังเขาพูดอย่างรำคาญก็ตกใจ

“ก็ให้พี่ทำยังไง มาหาพี่ พี่ก็ไม่มีเวลาให้หรอกนะ ตอนนี้ตารางงานพี่แน่นจะตาย ส่งไปให้ดูแล้วไม่ใช่เหรอ อีกแค่อาทิตย์เดียวแหละ ไปอังกฤษก่อนแล้วกัน” คิลเลี่ยนพูดตัดบท แล้วโดนทีมงานเรียก เขาก็ต้องรีบวางสาย

มินตราได้แต่ร้องไห้อย่างเงียบๆ แล้วปิดเครื่องและโยนมือถือไปทางหัวเตียง จากนั้นก็กระโดดขึ้นเตียงร้องไห้ จากนั้นก็หลับไปแล้วไม่ออกมาจากห้องอีก

บรรพ์กลับมาบ้านรู้เรื่องพี่สาวก็รีบขึ้นไปดู เห็นอาหารวางอยู่หน้าห้องก็ถอนหายใจแล้วเคาะประตูเรียก

ปูตามมาก็ส่ายหน้ากับแฟน แล้วเคาะแทน “พี่มินต์ออกมาเถอะ ปูเอง”

มินตราลืมตาตื่นแล้วได้ยินก็ลุกไปเปิดประตูให้ปู “กี่โมงแล้วเนี่ย”

“สามทุ่มแล้วพี่ ทำไมไม่กินอะไรเลยล่ะ” ปูยื่นถาดให้ แต่มินตราได้กลิ่นก็วิ่งเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมา จึงยื่นให้คนรักแทนแล้ววิ่งไปชวนลูบหลัง “บูมเอาน้ำอุ่นมาให้พี่มินต์ล้างปากหน่อยสิ”

มินตราพยายามจะเอาน้ำย่อยออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แล้วพอน้องชายส่งน้ำอุ่นให้ก็ดื่มล้างคอ “ขอบใจนะ บูม ปู”

“เครียดลงกระเพาะอีกแล้วสิพี่” บรรพ์ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนออกมาข้างนอก แล้วเอาอาหารไปอุ่นอีกรอบ วางไว้ให้ “ยังไงพี่ก็ต้องกินนะ”

“อืม รู้แล้วจ๊ะ” มินตราบอกน้องชาย พอออกมาได้ยาดม ก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

“กระติกน้ำร้อนวางตรงนี้นะพี่ อย่าดื่มน้ำเย็นเลยนะ ผมวางไว้ให้ตรงนี้ เรื่องอะไรที่มันเกิดขึ้นมาแล้วก็ค่อยแก้ไขกันไปนะพี่ แฟนคลับพี่ไปที่ร้าน เป็นห่วงมากเลย รู้ว่าข่าวไม่จริง แต่ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง ก็ได้แต่เป็นห่วง” บรรพ์บอกพี่สาวแล้วก็ออกมาจากห้อง

“พี่กินเสร็จแล้วก็เอาวางไว้หน้าห้องนะคะ อย่าไปเครียดมากกับเรื่องข่าวพวกนี้ เดี๋ยวพวกมันก็ลืมแล้วค่ะ” ปูส่ายหน้าช้าๆ สงสารพี่สาวคนรักมากที่ต้องกลายเป็นเหยื่ออยู่เรื่อย

มินตราได้แต่รับคำแล้วเริ่มอยากอาหารมากขึ้นก็ทานเต็มที่ อาหารทะเลนึ่งเต็มถาด คาดว่าที่เธอบ่นให้แม่ฟัง แม่คงออกไปจ่ายตลาดแล้วซื้อกลับมาทำให้กิน เธอก็ทานจนอิ่ม นึกถึงคิลเลี่ยนแล้วก็เศร้า เหมือนเธอเป็นตัวถ่วงไปเสียหมด

หวังว่าจะมีบทสรุปที่ดีให้กับชีวิตคู่ของเธอ...

**********************************

สีหน้าเขาไม่ดีเท่าไรนัก สุดท้ายเขาตัดสินใจทิ้งทุกอย่าง เมื่อภรรยาไม่รับสายเขาอีกตั้งแต่วันนั้น ส่วนเรื่องของชีวิตค่อยคิดใหม่ในวันหลัง อาทิตย์ที่แสนวุ่นวาย ดีที่งานจบพอดี แล้วเขาก็ไม่เอาอะไรอีกเลย บินกลับเมืองไทยทันที

พอมาถึงบ้านก็เห็นแม่ยายกำลังเลี้ยงหลานกับนักศึกษาสาวคนหนึ่ง ก็แปลกใจ “สวัสดีครับ”

“กลับมาแล้วเหรอ คุณเค” บุษบาเรียกลูกเขยอย่างสุภาพ เพราะรู้แล้วว่าคิลเลี่ยนไม่ใช่ลูกเขยกระจอก และเธอก็เข็ดมากแล้ว จึงอยากให้ครอบครัวลูกสาวสงบสุข

“รีบขึ้นไปหามินต์เถอะ มันเครียดแล้วก็อ๊วกทุกวันเลย แล้วก็ไม่ออกจากห้องด้วย น้าก็ไม่รู้ว่าจะมันออกจากห้องยังไงแล้ว เอาข้าวขึ้นไปให้ที่หน้าห้องมันทุกวันเลย” บุษบาหาคนช่วยทันที

แหม่มมองพี่เขยของคนรักอย่างตื่นตะลึง ไม่คิดว่าจะเป็นคนหน้าตาดีแบบนี้ แต่จะว่าไปคนรักก็หน้าตาดี พี่สาวคนรักก็หน้าตาดี เรียกว่าอยู่ไม่ผิดที่

คิลเลี่ยนพยักหน้ารับแล้วเอากระเป๋าขึ้นไปชั้นบน เห็นอาหารอยู่หน้าห้องก็เคาะประตู “มินต์ ตื่นอยู่หรือเปล่า ทำไมต้องล็อกประตูด้วย”

มินตราลืมตาขึ้นช้าๆ ไม่ได้เจอหน้าสามีมาสามเดือนแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาจะโทรมา เพราะไม่โทรมาเป็นอาทิตย์แล้ว เธอก็นึกว่าฝันไป

“มินต์ เปิดประตูนะ อย่าให้พี่ต้องไปเอากุญแจมาไขห้องนอนเรานะ” คิลเลี่ยนตบประตูเสียงดังลั่นจนแหม่มต้องออกมาดูจากชั้นล่าง แต่บุษบาเรียกให้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นแทน ไม่ให้ไปยุ่งเรื่องของลูกสาวกับลูกเขย

มินตราค่อยแน่ใจแล้วว่าสามีมา แต่ก็ยังงอนอยู่ เพราะไม่โทรมาเกือบสิบวัน แล้วก็กลัวเขาโกรธ จึงลุกไปเปิดประตู พอได้กลิ่นอาหารหน้าห้อง ก็รีบวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำทันที

คิลเลี่ยนเข้ามาในห้องพร้อมถาดอาหาร แล้ววางที่โต๊ะ ก่อนไปปิดล็อกห้อง เพราะอาจมีปากเสียงกันแล้วไม่อยากให้ใครเข้ามา เขาเห็นกาต้มน้ำร้อนไฟฟ้าอยู่ในห้อง ก็จัดการเติมน้ำแล้วต้ม แล้วเอาน้ำอุ่นไปให้ภรรยาล้างปาก

“เป็นอะไรอีกล่ะ” คิลเลี่ยนถามเมื่อเธอล้างปากเสร็จ “เครียดลงกระเพาะอีกแล้วเหรอ ทำไมไม่ไปหาหมอ”

มินตราไม่ตอบ ท่าทางยังงอนอยู่ จึงออกจากห้องน้ำไปขึ้นเตียงแล้วไม่สนใจเขาอีก

“เป็นอะไรอีกล่ะ โกรธอะไรพี่อีก” คิลเลี่ยนพยายามมองหน้าเธอ แต่เธอไม่มองหน้าเขา “จะไม่คุยกับพี่เหรอ พี่โทรหาเป็นร้อยๆ สาย ไม่โทรกลับ ส่งข้อความเป็นร้อยในเฟสก็ไม่สนใจ หรือเดี๋ยวนี้ไม่สนใจพี่แล้ว”

“พี่โทรมาเหรอคะ” มินตราหันมาถาม แล้วมองหามือถือ “มือถือมินต์หายไปไหน”

“เอ๋า แล้วพี่จะรู้ไหม เมียจ๋า หลงคิดว่าเมียพี่เตรียมมีคนใหม่ พี่ก็รีบจับเครื่องมาหาเลย กลัวจับใจ” คิลเลี่ยนแกล้งพูดหยอก ถูกเธอค้อนเข้าให้ “หิวไหม ทำไมไม่ทานอะไรเลย”

“เพิ่งตื่นนี่คะ กว่าจะหลับได้แทบตาย อยากไปหาหมอให้หมอจ่ายคลายเครียดให้ เครียดเรื่องข่าวเนี่ยแหละค่ะ” มินตราถอนหายใจยาว แล้วลุกไปนั่งที่เก้าอี้ เห็นอาหารเยอะแยะที่แม่เตรียมไว้ให้ ก็ตักข้าวเผื่อเขาด้วย “แม่น่ะ กลัวมินต์อดแน่เลย ตักมาอย่างกับจะให้กินจนถึงเย็น แต่มินต์กินไม่หมดหรอกค่ะ แล้วพอเที่ยงก็เอามาเปลี่ยนให้อีกค่ะ”

คิลเลี่ยนก็หิวพอควร จึงนั่งทานด้วย สักพักนึกครึ้ม ก็อุ้มภรรยามานั่งบนตัก จากนั้นจูบเธอดูดดื่มอยู่นาน แล้วรุกเร้ามากขึ้น เพราะความต้องการที่ต้องห่างเมียนั่นเอง

“บ้าน่า พี่เคน่ะ มาแย่งมินต์จากปากเลย” มินตราบ่น แต่ยังนั่งอยู่บนตักสามี เพราะเธอผละจากเขาแล้วเอียงอาย จากนั้นพอหยิบหน่อไม้ฝรั่งเขี้ยว เขาก็กัดแย่งทันที

“ก็มินต์ทานดูน่าอร่อย” คิลเลี่ยนเริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยา

“ขอมินต์กินให้อิ่มก่อนได้ไหมคะ พี่เค หรือพี่เคไม่หิว” มินตราถามสามีที่ทำท่าจะสนใจเธอมากกว่าอาหาร

“พี่ก็อยากจะง้อเมียมากกว่าน่ะ เอาเถอะ กินให้อิ่มก่อน” คิลเลี่ยนก็ปล่อยภรรยาจากตักแล้วทานอาหารไปเรื่อยๆ จนอิ่ม เขาก็เอาของออกจากกระเป๋า

พออิ่มแล้ว มินตราก็ลุกไปตามหามือถือ ได้ยินสามีกำลังแปรงฟัน เธอหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ “พี่เคมาช่วยมินต์หามือถือหน่อยได้ไหมคะ มินต์หาไม่เจอค่ะ”

คิลเลี่ยนล้างปากแล้วออกมาช่วยหา เห็นช่องว่างระหว่างหัวเตียงกับที่นอน ก็ล้วงไปนิดเดียวก็เอามือถือออกมา “มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเนี่ย”

“นั่นสิคะ” มินตราเปิดมือถือแล้วดูเห็นเขาโทรเข้ามาร้อยกว่าสายจริงๆ

“เห็นไหม พี่บอกแล้วว่าพี่โทรมาจริงๆ” คิลเลี่ยนจูบภรรยาเขาอีกรอบ

มินตราผลักเขาเบาๆ แล้วเบี่ยงหลบ “ขอมินต์ดูข้อความก่อนได้ไหมคะ เผื่อมีเรื่องงาน”

“แหม มันรอมาตั้งหลายวันได้ ก็ต้องรอต่อไปได้แหละ เมียจ๋า” คิลเลี่ยนเอามือถือออกจากมือเธอ แล้วเริ่มรุกเร้ามากขึ้น

มินตราได้แต่ตามใจสามี เห็นใจเพราะสองสามเดือนที่ผ่านมา เขาก็คงทำอย่างบอกเธอจริงๆ คือห้ามใจอย่างหนัก ไม่แตะต้องของล่อตาล่อใจ เรื่องที่โกรธกันก็เป็นอันหายไปทันที

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
^^ ถึงจะทะเลาะกันยังไง พี่เคที่แสนเอาแต่ใจก็ยังรักเมียเหมือนเดิมนะคะ
มินต์ก็ไม่ได้งอนอะไรนาน ขอแค่สามีกลับมาหาก็ดีใจแล้วจ้า
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
พี่ตุ้งแช่ - ใบบัวบกน่าจะดีนะคะ อิอิ
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - ไทยมุงอ่ะค่ะ ชอบวิจารณ์เรื่องคนอื่นทั้งที่ไม่ได้ไปรู้จักเขา มันเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งคนธรรมดาๆ เนาะๆ
คุณร้อยวจี - สู้อยู่ค่า ^^
คุณkonhin - คนบางคนก็ร้ายเกินค่ะ มีความสุขกับการทำร้ายคนอื่น เพราะยอมรับความจริงของตัวเองไม่ได้ค่ะ // มาแล้วๆ ค่ะ ^^ ได้หวานกันแล้วค่า หุหุ
คุณเดิมเดิม - สู้ตายค่า หมายถึงหนูมินต์นะคะ อิอิ
คุณใบบัวน่ารัก - ที่เมืองนอกไม่แรงเท่าเมืองไทยค่ะ ก็ยังรับงานที่เมืองนอกได้อยู่ค่ะ

คุณนอนดูดาว - ไม่หย่าง่ายๆ หรอกค่ะ ^^

ป.ล. อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********นิทานสอนใจ**********
เรื่องมีอยู่ว่าคนคนหนึ่งชื่อว่า...กอ เขามีสินค้ามือสองอยู่ชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีคนสนใจอยากขอเช่า เจ้าของร้านแรกจะมาขอไปฟรีๆ กอไม่ยอมให้เช่า จึงเก็บไว้ไม่ได้สนใจอีก แล้วอยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของกอซึ่งทำงานให้ร้านสองบอกว่าทุกคนในร้านสองมีความสนใจเช่าสินค้าของกอ กอเห็นว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนดี จึงได้ตกลงให้เช่าไป พอกอได้ส่งสินค้าให้ร้านสองเช่า ระหว่างที่ตกลงทำสัญญาเช่านั่นเอง เพื่อนของกอก็ตัดสินใจลาออก และปฏิเสธไม่ยุ่งกับทุกอย่างในร้านสอง เพราะมีปัญหากัน ด้วยความหวังดีต่อกอ เพื่อนคนนี้จึงบอกเล่าปัญหา ให้กอตัดสินใจเอง และกอก็ตัดสินใจให้เช่าต่อไป โดยจะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจเอง กอจึงได้ติดต่อกับเจ้าของร้านโดยตรง และต่อมาเจ้าของร้านก็ได้แนะนำลูกจ้างคนใหม่แทนเพื่อนของกอ

เมื่อสินค้าของกอได้เป็นต้นแบบสินค้าที่วางขายในร้าน กอก็รอเวลาที่ทางเจ้าของร้านได้ตกลงว่าจะจ่าย แล้วเมื่อถึงกำหนดจ่าย เจ้าของร้านกลับให้ลูกจ้างมาแจ้งว่า สินค้าที่ผลิตมีปัญหาและถือว่าขายจริงหลังจากที่เคยวางขายไปแล้วสองเดือน จึงเลื่อนดิวเป็นอีกเดือนหนึ่ง กอโกรธแต่ก็คิดว่ารอได้ จึงรอต่อ แล้วพอหนึ่งวันก่อนถึงกำหนด เจ้าของร้านก็เข้ามาบอกว่าพรุ่งนี้จะโอนให้แน่นอน ทำให้เกิดความโล่งใจไปมาก เพราะกอกำลังฝืดเคืองจริงๆ และแล้วฝันก็สลาย เมื่อถึงกำหนดแล้ว เจ้าของร้านก็ไม่โอนตามที่ได้พูดไว้ กอโกรธจัดจนพูดไม่ออก จุกไปหมด จึงเข้าไปทักท้วงกับลูกจ้าง เพราะเจ้าของร้านไม่อยู่ ทางลูกจ้างที่ดีก็รีบติดต่อกับเจ้าของร้าน ซึ่งก็ติดต่อไม่ได้สักทาง กอจึงบอกจะแจ้งความ ทางลูกจ้างจึงรีบส่งข้อความไปให้ และเป็นที่น่าอัศจรรย์กับความศักดิ์สิทธิ์ของคำว่า “แจ้งความ” กอก็ได้รับการติดต่อว่าจะมีการโอนเงินให้ส่วนหนึ่งก่อน แล้วจะทยอยจ่ายจนครบงวดแรก กอจึงสงบลงไปได้ เมื่อถึงกำหนดงวดสุดท้าย กอพอรู้ว่าทางนั้นยังไม่มีจ่าย จึงไม่ได้ออกปากทวงเงินไป จนกระทั่งปลายเดือน จึงออกปากทวงไป เจ้าของร้านจึงแจ้งกำหนดมาให้ กอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจากรอเท่านั้น

ระหว่างนั้นเอง มีผู้ให้เช่าสินค้าอีกรายได้ทำการล็อบบี้เพื่อให้ได้เงินค่าเช่าจากคนอื่น ทั้งยังยั่วยุให้เกิดรอยร้าวระหว่างผู้ให้เช่าและเจ้าของร้านสอง ทำให้กอโดนไปด้วย โดยเจ้าของร้านสองได้ส่งข้อความเชิงยั่วยุให้เกิดการแจ้งความและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย กอจึงตั้งใจจะทำตามความต้องการของเจ้าของร้านสอง

ขณะเดียวกันผู้ให้เช่าเจ้าปัญหาก็เข้ามาเลียบเคียงถาม กอจึงบอกไปตามความตั้งใจ และเป็นที่อัศจรรย์อีกครั้ง เมื่อเจ้าของร้านเข้ามาบอกว่า กอเข้าใจสิ่งที่เขาพูดผิดไป กอเริ่มไม่ไหวมากขึ้นแล้วแต่ยังให้โอกาสเจ้าของร้านสองอยู่ จึงรออีก และพอถึงกำหนด เจ้าของร้านสองขอเลื่อนอีกสามวัน ด้วยความใจดี กอจึงยอมรอ และเหตุการณ์ก็พลิกผัน เมื่อเจ้าของร้านสองเข้ามาบอกว่าโอนเงิน แต่เงินไม่เข้าบัญชีอย่างที่เจ้าของร้านสองพูด และแจ้งกลับไปในเช้าอีกวันเผื่อการโอนเงินมีปัญหา แล้วก็ไม่มีเงินเข้าอีกเช่นเดิม จึงแจ้งไป เจ้าของร้านสองก็แสดงหลักฐานเป็นข้อความที่แสดงว่าเจ้าของร้านสองได้ตั้งเวลาโอนเงินล่วงหน้าเท่านั้น วันนั้นเจ้าของร้านสองได้แจ้งว่าระบบการโอนเงินมีปัญหา ให้ตรวจเช็คได้อีกวัน กอก็รอ เมื่ออีกวันแล้วเงินก็ยังไม่เข้าบัญชี กอรู้สึกว่าเจ้าของร้านสองพูดเหมือนมีเงินเข้าแต่กอทำเป็นว่าเงินไม่เข้า จึงได้ส่งภาพหน้าบัญชีไปให้ว่าไม่มีเงินเข้าจริงๆ เจ้าของร้านสองทำทีเป็นงุนงง

และนำภาพบัญชีที่มีชื่อและเลขบัญชีของกอไปโพสต์ไว้ที่หน้าไทม์ไลน์ของตน ทำทีว่าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น กอจึงไม่ทนอีก จึงไปธนาคารในอีกวันแล้วให้ธนาคารติดต่อเจ้าของร้านสองไป เจ้าของร้านสองไม่พูดคุยอธิบายใดๆ กอจึงแสดงความจำนงว่าจะบอกเล่าเรื่องราวและพฤติกรรมของเจ้าของร้านสองให้คนได้รู้กัน ปรากฏวันนั้น ก็มียอดโอนเข้ามา โดยเจ้าของร้านสองอ้างว่า เงินตีกลับเข้าบัญชีของตน ผู้รู้ด้านการเงินคงทราบดีกว่าใครว่าเหตุการณ์นี้มันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ กอไม่เหนื่อยตามเรื่องแล้ว จึงย้ำให้เจ้าของร้านสองจ่ายส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จในสองวัน ซึ่งในวันถัดมาเจ้าของร้านสองก็ได้โอนเงินให้เรียบร้อย กอจึงกรวดน้ำคว่ำขัน บอกลาตลอดกาลกับเจ้าของร้านนี้ไปเลย......จบ.....สอนให้รู้ว่า ใจดีและโง่ได้แต่อย่าดักดาน

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 มี.ค. 2557, 08:42:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 มี.ค. 2557, 08:42:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 2193





<< Crying Villain ตอนที่ 16   Crying Villain ตอนที่ 18 >>
ร้อยวจี 20 มี.ค. 2557, 09:20:04 น.
อุปสรรคเยอะจริงๆ แต่สู้ๆ นะคะ


konhin 20 มี.ค. 2557, 11:01:28 น.
โห ทำร้ายเค้าขนาดนั้นยังมีหน้าโทรมาบังคับให้เค้าถอนฟ้องอีก วรนุชมาก แม่เจ้านัทกลับมาแบบนี้ถ้าไม่มีปัญหาอีกก็คงดี อ้อ ไอ้ค่ายหนังบ้านั่นหน่ะ ฟ้องให้ล่มจมเลยยย เฮ้อ พี่เคน่าจะเป็นทนายความให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ช่วยเมียได้ตลอด


ใบบัวน่ารัก 20 มี.ค. 2557, 11:35:52 น.
ใจดีเหมือนมิ้นอะดิ
มีแต่เรื่อง เป็นแค่นักแสดงประกอบธรรมดานะ
หาเรื่องกันจริง แย่จัง


ตุ๊งแช่ 20 มี.ค. 2557, 13:08:15 น.
ทำบุญเข้าวัดอย่างเดียวเลยยย งานนี้

อืม ท้องป่าวนี่ แต่เดี๋ยวนะ ห่างกันนานแค่ไหนนี่ งึมๆๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 21 มี.ค. 2557, 00:50:11 น.
หูยยย หนูมินต์มีข่าวดีกลบข่าวร้ายๆ แน่ๆ เลยยยย
แล้วอิตาค่ายยักษ์ใหญ่จะจงใจอัดเสียงทำไมกันละ ไม่บริสุทธิ์ใจแต่แรกปะเนี่ยยย
หนูแหม่มก็ิอย่ามาทำผิดซ้ำสองอีกละ เห้อออ บ้านนี้ช่างวุ่นวาย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account