ดวงใจอธิษฐาน ซีรีส์ชุด รอยรักข้ามกาลเวลา
คำอธิษฐานก่อนตายของเธอ ส่งผลมาทุกภพทุกชาติ และไม่ว่าชาติไหนเธอก็ยังเกลียดผู้ชายคนนี้สุดหัวใจ
Tags: ลินิน สาริน พีเรียเ อรุณ

ตอน: ตอนที่ 3 50%

กัณฐิกาวางสร้อยข้อมือลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ทั้งห้องเต็มไปด้วยของเก่าแก่สะสมที่ซื้อหามาทีละชิ้นสองชิ้นไม่นานก็เต็มห้องพักในคอนโดขนาดกลาง หลังอาบน้ำเสร็จก็ดึงชุดผ้านุ่งลายไทยกับผ้าแถบออกมาจากตู้ ผ้าสองผืนนี้ไม่ใช่ของโบราณมาจากไหน แต่เมื่อเดือนก่อนเธอไปหาข่าวที่กองถ่ายละครแนวย้อยยุคในวันที่เขาปิดกล้องเลยคะยั้นคะยอขอซื้อเขามา และเธอก็ชอบสวมใส่มันแทนชุดนอน
พิลึก….
มิรันตีเคยมานอนเป็นเพื่อนเธอหลายครั้ง แต่ครั้งล่าสุดคือเมื่อเดือนก่อนหลังกัณฐิกาได้ชุดนี้มา และสาบานเลยว่าจะไม่มานอนค้างที่นี่อีก เพราะตื่นขึ้นมากลางดึกหัวใจแทบวายตายเมื่อคนนอนข้างๆ นุ่งโจงคาดผ้าแถบปล่อยผมยาวสยายนอนหันหลังให้
กัณฐิกาสวมผ้าแถบนุ่งโจงเสร็จในเวลาไม่กี่นาทีก็สวมสร้อยข้อมือทองฝังอัญมณีที่เพิ่งได้มา ดูมันเข้ากันได้ดีกับเครื่องแต่งกาย เสร็จแล้วจึงหย่อนกายลงนั่งแปรงผมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เสียดายที่ไม่ได้เป็นเจ้าของกระจกบานนั้น แต่ก็ได้สร้อยข้อมือเส้นนี้มา
สตรีสาวในเงาสะท้อนของกระจกที่มองตอบเธอมาดูงดงามอ่อนหวานเหมือนหญิงสาวในยุคโบราณ ราวกับได้หลงยุคมาจริงๆ อย่างที่มิรันตีเคยว่า จะเป็นอย่างไรนะถ้าหากเธอสามารถย้อนอดีตไปได้จริงๆ
แค่คิด…เหยี่ยวข่าวสาวก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา พลางส่ายหน้าให้กับความคิดเหลวไหลไร้สาระของตัวเอง ทำอย่างกับนางเอกเรื่องทวิภพไปได้กัณฐิกา
หญิงสาวลุกขึ้นยืน บิดตัวสองสามทีแล้วเดินไปนอนบนเตียง ลมจากภายนอกพัดอื้ออึงเข้ามากระทบกับหน้าต่าง มันปิดไม่สนิทจึงถูกลมพัดเข้ามาแล้วดันให้เปิดออกก่อนถูกพัดตีเข้ามาใหม่ ดังจนสะดุ้ง โชคดีที่เธอไม่ใช่คนขวัญอ่อนเพราะหากเป็นมิรันตีละก็คงกรีดร้องลั่นบ้าน
กัณฐิกาล้มตัวลงนอนเหยียดยาวบนเตียงนอน หลับตาไม่นานก็หลับสนิท

เปลวนั่งเหม่ออยู่ภายในศาลาท่าน้ำริมคลองหน้าเรือนของหมื่นกล้า พักเดียวก็ชะเง้อคอมองออกไปสลับกับอาการทอดถอนใจอยู่หลายครั้งจนนางสร้อยผู้เป็นแม่ที่ดูจะใหญ่ขึ้นเป็นกองที่ลูกสาวได้กลายมาเป็นเมียของหมื่นกล้าเจ้าของเรือนเล็กถัดจากเรือนใหญ่ของคุณหญิงผู้เป็นมารดา นางสร้อยเดินมาหาลูกสาวแล้วเรียก
“เปลว”
หญิงสาวยังคงนั่งเงียบ จนคนเป็นแม่ต้องเรียกซ้ำ
“นังเปลว”
“แม่ ตกใจหมด” คนเหม่อลอยสะดุ้ง นางสร้อยเห็นอาการของลูกสาวก็ถอนหายใจแล้วขยับมานั่งข้าง บีบมือให้กำลังใจ รู้ดีว่าเวลานี้หัวใจของลูกทุกข์เพียงใด
“ประเดี๋ยวท่านก็กลับมา ไม่ต้องมานั่งรอหรอก”
“คุณมะยง สวยไหมแม่” หญิงสาวถามขึ้นอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีเพื่อให้ความอัดอั้นที่มีอยู่มลายหายไป เมื่อวานนี้เองหมื่นกล้าเพิ่งจะแจ้งแก่เธอ ว่าวันนี้เขาจะต้องไปที่เรือนของพระยาพลเทพตามคำสั่งของคุณหญิงพะยอม หลายเสียงพูดกันให้ทั่วเรือนใหญ่ว่าท่านจะพาหมื่นกล้าไปดูตัวผู้หญิง
มะยง…ธิดาคนเล็กของคุณหญิงศรีทองกับพระยาพลเทพ ผู้หญิงที่คุณหญิงพะยอมหมายตาเอาไว้จะให้ตบแต่งเป็นเมียออกหน้าของหมื่นกล้า ผู้หญิงที่มีศักดิ์และศรีเสมอเทียบ ไม่เหมือนเธอที่เป็นเพียงแค่ทาสในเรือนเบี้ยที่ไม่มีโอกาสได้ไถ่ถอนตัวเองให้เป็นไท
“ข้าจะไปรู้รึวะ ไม่เคยเห็น แต่ก็….เห็นเขาว่ากันว่างามนัก”
เท่านั้นหยาดน้ำตาก็พร่างพรู มือเลื่อนมาลูบคลำสร้อยข้อมือทองอันเปรียบเสมือนพยานรักของเธอกับเขา คำสาบานของหมื่นกล้ายังก้องอยู่ในหัว
“ข้าไม่ได้ปากหวานดอกเปลว ข้ารักเอ็งและจะรักอย่างนี้ไปทุกๆ ชาติ ข้าสาบาน”
“แม่….หมื่นกล้าสาบานว่าจะรักฉันคนเดียว” หญิงสาวยังคงเชื่อมั่นในตัวชายคนรักแต่คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนและเห็นความปากหวานก้นเปรี้ยวของผู้ชายมามากต่อมากอย่างนางสร้อยถอนหายใจ
“คำชาย อย่าเชื่อมากนัก”
“แต่ฉันเชื่อเขา เขารักฉัน” หญิงสาวยืนยัน น้ำตายังนองหน้าคนเป็นแม่จึงบีบมือให้กำลังใจ
“เอาเถอะๆ ประเดี๋ยวก็จะได้รู้ แต่เอ็งก็ต้องทำใจไว้บ้างนะนังเปลว หมื่นกล้าอาจจะรักเอ็ง แต่ท่านจะขัดใจคุณหญิงได้อย่างไร”
“แม่…ฉันกลัว” หญิงสาวโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ ความหวาดหวั่นในใจกำลังเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่เพลานี้แล้ว เมื่อใดที่เรือของหมื่นกล้าขึ้นเทียบท่า ก็จะได้รู้ว่าเขาจะรักษาสัตย์ที่เคยให้ไว้หรือไม่ เป็นแค่เมียบ่าวนั้นทนได้ แต่อยากเป็นเมียคนเดียวของเขาตลอดไป
หญิงสาวหัวเราะอย่างขมขื่นในใจเพราะดูจะเป็นความต้องการที่มากเกินไป แม้นว่าหมื่นกล้าจะรักเธอแต่เขาก็คงไม่อาจขัดใจคุณหญิงไปได้ เมื่อนั้นเธอก็ต้องยอมรับคุณมะยง สตรีผู้มีศักดิ์และศรีควรค่าแก่การเป็นเมียของหมื่นกล้ามากกว่า ต่อไปตำแหน่งของเขาก็จะยิ่งสูงส่งขึ้นไปตัวเธอเองก็จะยิ่งต่ำต้อยเรี่ยดินลงไปเท่านั้น
“เอ็งต้องทำใจ” นางสร้อยยังคงปลุกปลอบ หญิงสาวก้มหน้างุดมองพื้น น้ำตาไหลอาบหน้าแต่ก็จำต้องยอมรับสภาพของตัวเอง
หวานอมขมกลืน….เพิ่งรู้ซึ้งเอาก็วันนี้เอง
“ขอแค่ท่านรักฉัน ใช่ไหมแม่” หญิงสาวกระตุกมือแม่เหมือนจะให้อีกฝ่ายตอบรับให้ตัวเองสบายใจขึ้น จะอีกกี่สิบมะยงขอแค่เขารักเธอก็ไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว
เขารักเธอ….สิ่งนี้ต่างหากที่ผู้หญิงทุกคนต้องการจากชายที่ได้ชื่อว่าสามี
“เออ…ท่านรักเอ็ง แค่นี้ก็ดีถมไปแล้วชีวิตทาสอย่างเรามันก็อย่างนี้ละวะนังเปลว แค่คุณหญิงยอมให้เอ็งเป็นเมียลูกชายท่านก็ดีถมไปแล้ว ตอนนี้ท่านอาจจะยังไม่เมตตาเอ็ง แต่ต่อไปถ้าเอ็งมีลูก ท่านก็คงจะเมตตาเอ็งมากขึ้น” นางสร้อยปลอบใจ
“ฉันต้องมีลูก” หญิงสาวบอกอย่างมุ่งมั่น แค่เธอมีลูก เธอก็จะมีโซ่ทองมาคล้องใจหมื่นกล้ากับคุณหญิงพะยอมเอาไว้กับตัว
“กลับขึ้นเรือนไปเถอะนังเปลว อย่ามานั่งอ้อยสร้อยอยู่ตรงนี้เลย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด หนทางข้างหน้ายังยาวนัก มีอีกหลายอย่างที่คนเป็นเมียทาสอย่างเอ็งจะต้องเจอ” นางสร้อยลูบศีรษะลูกสาวเบาๆ อย่างเห็นใจ ถึงเธอจะผูกข้อไม้ข้อมืออยู่กินกับทาสด้วยกัน แต่พ่อของนังเปลวก็รักเดียวใจเดียวไม่ทำให้นางต้องทุกข์ใจ หัวอกคนเป็นเมียอะไรจะทุกข์เท่าเห็นผัวตัวเองมีคนอื่น
“จ้ะแม่” หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วหยัดกายลุกขึ้น มือข้างหนึ่งยังกำสร้อยข้อมือไว้แน่น หลายคนหมั่นไส้ ริษยาในบุญวาสนาของเปลวนังเด็กหัวดื้อจอมซน อีทาสในเรือนเบี้ยที่วิ่งเล่นแก้ผ้าโทงๆ อยู่ไม่นานก็มีวาสนาได้กลายเป็นเมียหมื่นกล้า
คนรักมีมากเพราะเปลวเป็นคนมีน้ำใจ ถึงจะดื้อและรั้นไปบ้างแต่ไม่ว่าใครไหว้วานอะไร หากทำได้เปลวยอมทำถวายหัวให้ทั้งนั้น ทว่าคนชังก็มีมากไม่ต่างกัน โดยเฉพาะนังพวกทาสสาวๆ ที่ต่างก็หมายตาหมื่นกล้าเอาไว้แต่เขาไม่เคยชายสองตาแลใครนอกจากเปลว
เมื่อจู่ๆ มีประกาศิตจากคุณหญิงพะยอม จะรับคุณมะยง ลูกชาติลูกตระกูลมาเป็นศรีของเรือนนี้ จึงมีทั้งคนเห็นใจและเตรียมเหยียบซ้ำให้จมดิน
“แม่หงส์ใกล้จะปีกหักแล้วโว้ย…” ใครคนหนึ่งบุ้ยปากตามหลังร่างที่เดินไหล่ตก คอตกกลับขึ้นเรือนไปของเปลว มองเสร็จก็ถุยน้ำลายลงกับลานดิน
“ท่าทางมันเหมือนกำลังจะตาย”
“ดี สมน้ำหน้ามัน ข้านึกว่าจะแน่ เผยอหน้าชูคอเป็นเมียท่านอยู่ได้แค่สามเดือน นังคางคกก็จะตกจากวอเสียแล้วละว่ะ” ผู้พูดแหงนหน้าขึ้นหัวเราะ ด้วยริษยาที่สู้อุตส่าห์หมายตาหมื่นกล้าเอาไว้ เสนอตัวมาช่วยบีบนวดให้ก็หลายครั้งแต่เขาไม่คิดสนใจ เพราะในใจของเขานั้นก็มีแต่นังเปลว คนหนุ่มอย่างหมื่นกล้าจะมีเมียบ่าวก่อนเมียแต่งสักกี่คนก็ได้ทั้งนั้นแต่เขาก็ไม่มอง
“นังชุ่ม เอ็งว่าคุณมะยงจะยอมไหมวะ เรื่องที่หมื่นกล้ามีเมียบ่าว” คนฟังถามขึ้น ชุ่มก้มลงหยิบดอกปีบที่หล่นอยู่กับพื้นขึ้นมาทัดหู ผมทรงเกรียนตัดสั้นเพราะเป็นเหาไม่สวยเหมือนคุณมะยงที่ไว้ผมยาวประบ่าด้านหน้าทำเป็นปีกตามความนิยมของลูกสาวผู้ลากมากดีที่รับมาจากพวกในวังมาอีกต่อหนึ่ง
ชุ่มเคยเห็นคุณมะยงเมื่อครั้งตามคุณหญิงไปทำบุญที่วัดเมื่อครั้งทำบุญวัดใหญ่ งามแต่ก็ดูน้อยกว่านังเปลว ดูเรียบๆ ไม่สวยแบบดึงดูดอย่างนี้หรือจะสู้นังเปลวได้
“ถ้าท่านไม่รักนังเปลวมากกว่าก็คงยอม ผู้หญิงอะไรก็ทนได้ แต่ถ้าจะเห็นผัวตัวไปรักผู้หญิงคนอื่นมากกว่าโดยเฉพาะแค่เมียบ่าว รายไหนรายนั้น โดยเฉพาะมีเมียสอง….ตำราเขาว่าไม่เหมาะ” ชุ่มว่า ดวงตาระยับพราวจนคนเป็นเพื่อนเบ้ปาก
“เมียสองต้องห้าม เมียสามตามตำรา เอ็งก็เลยอยากจะเป็นสามอย่างนั้นสิ”
“มันก็ไม่แน่หรอก คุณมะยงข้าก็เคยเห็นมาแล้ว หากจับข้าไว้ผมยาวๆ ทาปากด้วยขี้ผึ้ง ขัดขมิ้นมะขามเปียก ปะด้วยดินสอพองหอมๆ แต่งเนื้อแต่งตัวสวยๆ ข้าก็ไม่แพ้ใครหรอกโว้ย” ชุ่มเชิดหน้าขึ้นสูงแต่คนฟังตกใจรีบตะครุบปากแล้วมองดุ
“นังชุ่ม ประเดี๋ยวเถอะ ใครมาได้ยินเข้าแล้วถึงหูคุณหญิงท่านได้โดนจับคว่ำเฆี่ยนหลังขาด”
“มาเฆี่ยนข้าเรื่องอะไร” ชุ่มดิ้นหลุดมาได้ก็ตวาด เพราะมือที่ทำงานหนักมาทั้งวันแล้วไม่ได้ล้างของเพื่อนเค็มปี๋
“ก็ที่เอ็งเอาตัวไปเปรียบกับคุณมะยงนะสิ อย่าเชียวนะนังชุ่ม เอ็งเป็นเพื่อนหรอกข้าถึงเตือน” เจียมเอ่ยเตือน คนเป็นเพื่อนจึงเชิดหน้า
“สักวันข้าจะเอาหมื่นกล้ามาเป็นผัวให้ได้ ไม่เชื่อก็คอยดู” ชุ่มว่าแล้วก็เดินหน้าเชิดออกไป เจียมมองตามแล้วส่ายหน้าอย่างนังชุ่มมันต้องลิ้มรสหวายของคุณหญิงพะยอมเข้าซักวันถึงจะรู้สึกตัว

ทางด้านหมื่นกล้าหลังกลับจากเรือนพระยาพลเทพ ก็นั่งหน้าบึ้งบูดมาตลอดทาง จนกระทั่งเรือเทียบท่าหน้าเรือนใหญ่ หัวใจเขาร้อนรุ่มอยากไปหาเปลวเมียรักใจจะขาด ทว่าคุณหญิงพะยอมรั้งตัวเอาไว้
“รับข้าวกับแม่ก่อน เจ้าคุณพ่อถามหา”
“เอ่อ…”
“ทำไมรึ หรือว่าเดี๋ยวนี้เห็นนังเปลวมันดีกว่าแม่ อย่าลืมนะพ่อกล้าว่าวันนี้แม่เพิ่งพาไปดูตัวแม่มะยงมาอีกหน่อยเขาก็จะมาเป็นนายหญิงที่เรือนโน้น พ่อกล้าอย่าลำเอียงให้มันมาก ห้ามยกย่องนังเปลวมากกว่าแม่มะยง” คุณหญิงออกคำสั่งแต่คนเป็นลูกหน้ายุ่ง
“กระผมไม่รักแม่มะยง”
“เอ๊ะ…พูดไม่รู้เรื่องหรืออย่างไรพ่อกล้า แม่มะยงเหมาะสมกับพ่อกล้าทุกอย่าง อยากได้นังเปลวเป็นเมียแม่ก็ยอมแล้ว จะตามใจแม่กับเจ้าคุณพ่อบ้างไม่ได้เชียวรึ” คุณหญิงเพิ่งอารมณ์ดีๆ ออกมาจากเรือนพระยาพลเทพก็ต้องมาอารมณ์เสียกับท่าทางหนักใจเหมือนกำลังจะออกรบกับข้าศึกของลูกชาย
“กระผมสาบานกับเปลวเอาไว้ ว่าจะรักมันคนเดียวไปจนวันตาย”
“ตายแล้วๆ ไปสาบานอย่างนั้นได้อย่างไรพ่อกล้า แล้วนี่สาบานว่าอย่างไร ได้พูดไหมว่าหากผิดคำสาบานจะให้เป็นอย่างไร” คุณหญิงเกิดอาการทุกข์ร้อน ทำท่าจะเป็นลมจนนังเมี้ยนนางต้นห้องคนสนิทต้องเข้ามาประคองแล้วยื่นเกล็ดพิมเสนที่ขยี้จนละเอียดให้อย่างรู้ใจ
“พิมเสนเจ้าค่ะ”
“ก็….ไม่ได้บอกขอรับ ว่าจะพูดต่อแต่เปลวมันห้ามไว้”
เท่านั้นคุณหญิงก็ถอนหายใจ บ้วนน้ำหมากลงกับกระโถนปากแตรแล้วเช็ดปาก ครู่นี้ลมมันดันขึ้นจนหมากที่เคี้ยวมาในระหว่างทางเสียรส
“นังเปลวมันยังพอรู้กาลเทศะอยู่บ้าง จำเอาไว้นะพ่อกล้าไม่ว่าจะกับผู้หญิงคนไหนก็ตามห้ามสาบานอย่างนี้อีก หากทำไม่ได้ขึ้นมาจะเป็นอย่างไร” ท่านมองลูกชายคนเล็กด้วยสายตาดุดัน กลัวลูกชายสาบานเกี่ยวกับความเป็นความตายขึ้นชื่อว่าทหาร วันใดวันหนึ่งก็ต้องออกรบเจอกับคมหอกคมดาบ
“ตอนที่พูดกระผมก็ตั้งใจทำอย่างนั้น” คนเป็นลูกยังตะแบง
“อย่ามาเถียงแม่ ยามรักก็เป็นอย่างนี้ อีกหน่อยพออยู่ๆ ไปก็รักแม่มะยงเอง”
“กระผมยังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับนังเปลว คุณแม่อย่าเพิ่ง…”
“หยุด!” ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบคุณหญิงก็สวนขึ้น ดวงตาวับวาวเอาเรื่อง ดวงตาที่ทุกคนในเรือนเกรงขาม ครั่นคร้ามยิ่งกว่ากับท่านพระยาวิชิตชัยผู้สามี “ระหว่างนังเปลวกับแม่จะเลือกใคร”
“โธ่…มันเหมือนกันที่ไหนเล่าขอรับคุณแม่” หมื่นกล้าทอดถอนใจ แม่กับเมียใครจะไปเลือกได้
“ไม่รู้ล่ะ อยากให้แม่ช้ำใจตายหรือยังไง อายุยี่สิบ ไม่ทันบวชให้แม่ได้ชื่นใจก็เบียดเสียก่อน แม่ขอแค่นี้ให้กันไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเผาผี พ่อกล้าก็รู้ว่าแม่ไม่สบาย อายุก็ปูนนี้จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้” คุณหญิงร่ายยาว ก่อนหน้าจะไปดูตัวแม่มะยงก็ได้ออกอุบายทำทีป่วยไข้ ให้สินบนหมอไปหน่อยหนึ่งให้บอกลูกชายให้อาการหนักๆ เข้าไว้ เขาถึงได้ยอมตามใจไปบ้านพระยาพลเทพ
“เฮ้อ…” หมื่นกล้าทำหน้าคิดหนัก แล้วต้องลุกจากเรือเดินตามหลังคุณหญิงไปเรือนใหญ่ ทั้งที่หัวใจบินไปยังเรือนตัวเองเสียตั้งนานแล้ว



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 เม.ย. 2557, 22:33:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 เม.ย. 2557, 22:33:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1136





<< ตอนที่ 2 100%   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account