บ่วงนฤมิต พิมพ์คำ ตีพิมพ์
ละครที่รับเล่น บทประพันธุ์เรื่องเยี่ยมที่เป็นตำนานเล่าขาน ทำให้ขวัญอุมากังขาถึงเงื่อนงำบางอย่าง ยิ่งสืบยิ่งค้นก็ยิ่งเห็นว่ามีบางอย่างปิดปกติ
Tags: บ่วง ลินิน
ตอน: ตอนที่ 6 50%
ขวัญอุมาในชุดสีขาวเรียบร้อยยืนโพสให้นักข่าวถ่ายรูปหลังจากทำพิธีบวงสรวงละครเสร็จสิ้น แม้ในเรื่องจะไม่ได้รับบทนางเอกแต่ก็ได้รับความสนใจจากนักข่าวมากกว่าตัวนางเอกผู้สวมบทพิมพ์แขเสียอีก โฉมเฉลานางร้ายหน้าซื่อที่ท้ายสุดยอมเผยโฉมธาตุแท้ให้คนอื่นเห็น
ทว่าสำหรับคนเล่นแล้วยิ่งอ่านบทยิ่งเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง เธอรู้สึกว่านางร้ายตัวจริงควรจะเป็นพิมพ์แขมากกว่า และยิ่งมารู้ว่าบทประพันธ์เรื่องนี้ได้เค้าโครงมาจากเรื่องจริงเธอก็ยิ่งหงุดหงิด บางครั้งบางคราถึงกับใส่อารมณ์เอากับนักข่าวที่พูดถึงตัวละครโฉมเฉลาในทางไม่ดี
“โฉมเฉลาในเรื่องชีดูแรงมากเลยนะคะคุณน้องขวัญ แอ๊บใสแต่ใจแตก หนักใจบ้างไหมคะกับบทนี้” นักข่าวถามขึ้น หญิงสาวจึงตวัดสายตาวับๆ มาหาในขณะที่ผู้จัดการร่างใหญ่เริ่มบีบขมับมองลุ้น หากในนิยายเอาเค้าโครงเรื่องจริงมาเขียน เธออยากจะเชื่อซะเหลือเกินเชียวว่าแม่ขวัญอุมาคือโฉมเฉลากลับชาติมาเกิด ไม่ว่าใครต่อใครที่ลงความเห็นว่าหล่อนร้ายแม่ขวัญอุมาเถียงแทนคอเป็นเอ็น
“ไม่หนักใจเลยค่ะ ขวัญยินดีและเต็มใจที่จะรับบทโฉมเฉลา เพราะตัวขวัญเองยังไม่เห็นว่าโฉมเฉลาจะร้ายตรงไหน ที่ตอนท้ายมีเรื่องเขาคบชู้และวางแผนฆ่าคนในบ้าน อาจจะเป็นแผนการของพิมพ์แขก็ได้นะคะ” ดาราสาวตอบคำถามที่ทำให้คนถามและนักข่าวอีกหลายคนงงไปตามๆ กันจนต้องหันมาถามกันเอง
“อ้าว…บทเปลี่ยนเหรอวะ”
“นั่นสิ แล้วตกลงใครเป็นนางเอก”
“ใครร้ายกันแน่ล่ะระหว่างโฉมเฉลากับพิมพ์แข”
นักข่าวซักถามกันวุ่นวายเพราะเรื่องย่อละครที่ได้มาดูจะขัดกับคำตอบตอนสัมภาษณ์ของดาราสาวที่เปลี่ยนโฉมเฉลาจากดำเป็นขาว
ลูกปลาเห็นไม่ได้การจึงปรี่เข้ามาขัด
“คุณน้องขา…หน้าน้องขวัญมันแผล็บเลยคุณพี่ขอพาไปซับหน้าหน่อยนะคะ ไปนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ตรงมุมโน้นก่อนนะคะ” ลูกปลาแยกดาราสาวในสังกัดออกมาอีกมุมแล้วตวาดแว๊ด “หล่อนให้สำภาษณ์บ้าอะไรของหล่อนยะ ไปคนละทิศละทางกับบทประพันธ์เขา”
“ตรงไหนคะ” ขวัญอุมาตีหน้าซื่อ
“ไม่ต้องมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้ว่าหล่อนรู้ หากผู้กำกับมาได้ยินเข้าละก็เดี๋ยวได้โดนปลดกลางอากาศ ทำให้นักข่าวงงไปหมด จำไว้นะยะว่าพิมพ์แขเป็นนางเอกผู้แสนดีแต่ถูกคนมองว่าร้ายมาตลอดแต่ท้ายสุดพระเจ้าไม่เข้าข้างคนผิด แม่โฉมเฉลาจึงได้เผยธาตุแท้ออกมา นี่คือบทบาทที่หล่อนต้องเล่นไม่ใช่ไปเสริมเติมแต่งให้เขา”
“ไม่ได้เสริมซักหน่อยนี่ค่ะ ขวัญก็แค่บอกว่าบางที…คนที่ร้ายอาจจะเป็นพิมพ์แข แค่บอกว่าบางทีเท่านั้นเองนะคะ คนดูจะได้ตื่นเต้น” หญิงสาวแก้ตัวแต่ลูกปลาเบ้หน้าค่อนขอด
“ทำอย่างกับเป็นแม่โฉมเฉลากลับชาติมาเกิด”
“อาจจะใช่นะคะ แค่อ่านบทขวัญยังอินขนาดนี้ ถ้าได้เล่นละก็คงคิดว่าตัวเองเป็นโฉมเฉลาจริงๆ แน่ ไม่แน่นะคะเห็นเขาว่ากันว่ามันเป็นเรื่องจริง หากวิญญาณคุณโฉมเฉลายังไม่ตายเขาอาจจะเข้ามาสิงร่างของขวัญแล้วเล่นเองก็ได้” ขวัญอุมาพูดไม่ทันจบก็ทำสะดุ้ง ตัวแข็งทื่อทำให้ลูกปลากระโดดถอยหลัง
“ข…ขวัญอุมา”
“เอาความยุติธรรมคืนมา ฉันถูกใส่ร้าย” ขวัญอุมาทำตาขวาง ยกมือขึ้นทำท่าจะบีบคอทำให้ลูกปลาเกือบจะร้องโวยวายออกมาหากจะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะขบขันดังมาจากคนถูกผีเข้า
“หึๆ”
“ยายขวัญอุมา!” ลูกปลาเงื้อมือแต่หญิงสาวหลบได้ว่องไว ก่อนวิ่งหนีฝ่ามือใหญ่ยักษ์ของผู้จัดการสาวร่างใหญ่ แต่เพราะไม่ทันมองทางข้างหน้าจึงเกือบชนเข้ากับร่างสูงสง่าของใครคนหนึ่งทำให้กรอบรูปในมือเขาหลุดตกกระจกด้านนอกแตกเพราะแรงกระแทกเข้ากับพื้นคอนกรีต
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ขวัญอุมาตกใจรีบคุกเข่าลงเพื่อช่วยเขาเก็บของ มือเรียวสัมผัสกับมือแกร่งก่อให้เกิดกระแสร้อนวาบผ่านปลายมือจนต้องเงยหน้าขึ้นมองกัน ริมฝีปากเผยอค้างเมื่อเห็นหน้าคนถูกชน
“นาย”
“นี่คุณเองเหรอ” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น หญิงสาวลุกตามทว่าชายกระโปรงยาวรุ่มร่ามเกี่ยวกับเศษกระจกบนกรอบรูปดึงรั้งให้เธอเซลงไปใหม่แต่ชายหนุ่มตาไวเอาตัวเข้าบังทำให้ตัวเขาเองเป็นฝ่ายล้มทับกรอบรูปที่แตกเป็นแง่งคล้ายปากฉลาม แขนและข้อศอกถูกแก้วบาดไปสองแผล เลือดสดๆ ไหลซึม
“คุณ!” หญิงสาวตกใจ กระโปรงสีขาวตัวสวยเปื้อนเลือดสีแดงฉานดูน่ากลัว ลูกปลาที่วิ่งตามมาทันร้องโวยวายลั่นเรียกความสนใจจากนักข่าวและทุกคนที่มาร่วมในงานบวงสรวง ขวัญอุมาเป็นฝ่ายประคองเขาเอาไว้แต่ชายหนุ่มยังห่วงรูป
ภาพที่มีคนสั่งซื้อจากแม่หลายภาพและให้เอามาส่งที่ค่ายไทยละคร เป็นภาพวาดคนเพียงแต่เขาไม่ทันได้เปิดดูว่าเป็นภาพของใคร แม่แพ็กและห่อไว้อย่างดี เขาเองยังไม่คิดว่าแรงกระแทกเพียงเท่านั้นจะทำให้กระจกแตกได้ จึงได้เห็นว่าภาพนั้นเป็นภาพของผู้หญิงที่เป็นสาเหตุให้กรอบรูปพวกนี้แตกกระจายเกลื่อนพื้น
“พี่ปลา ช่วยเก็บภาพของเขาด้วย ขวัญจะพาไปทำแผล” ขวัญอุมาฉุดรั้งคนตัวโตให้เข้าไปด้านใน ที่จริงยังไม่อยากจะญาติดีแต่เพราะเห็นว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้เขาต้องเจ็บตัวจึงต้องปัดความไม่ชอบหน้าออกไปก่อน เอาไว้คราวหน้าค่อยปะทะคารมใหม่
เมื่อพาเขาไปยังด้านใน หลายคนหันมามองอย่างสนใจเพราะชุดสีขาวที่เปื้อนคราบเลือดสีแดงเด่นชัด เมื่อมาถึงดาราสาวก็ร้องสั่งให้แม่บ้านเอาชุดทำแผลมาให้
“ทำเป็นเหรอ” คนบาดเจ็บร้องถามเมื่อเห็นหญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้เขาซับแผลแล้วจับขวดยาหลายขวดมาวางเรียง อ่านฉลากยาด้วยสีหน้าคล้ายไม่แน่ใจ หยิบขวดแอลกอฮอล์มาดูสลับกับโพวิดีนแล้วตัดสินใจวางก่อนหยิบยาแดงขึ้นมาแทน พักเดียวก็หยิบแอลกอฮอล์มาใหม่
“เอ๊ะ…จะทำให้อย่าเรื่องมากได้ไหม” คนหวังดีชักเสียงขุ่นจึงกระชากแขนเขามา จากที่ตั้งใจจะทำแผลให้ดีๆ จึงกลายเป็นจับขวดแอลกอฮอล์เทราดส่งผลให้คนตัวโตร้องลั่น
“โอ๊ย…จะบ้าหรือไงคุณ แสบจะตาย”
“ตัวโตซะเปล่าแค่โดนแอลกอฮอล์แค่นี้ร้องซะลั่นค่าย” หญิงสาวเบ้หน้าแล้วจิ้มสำลีเข้ากับโพวิดีน จงใจกระแทกแรงจนเขาร้องตะโกนอีกครั้ง
“โอ๊ย” ธีรัชขยับปากจะต่อว่าแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองหน้าสวยที่ก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ ความรู้สึกเคยคุ้นบางอย่างก็แทรกผ่าน
กิริยานี้ ชุดแบบนี้ ท่าทางอย่างนี้….เคยเห็นที่ไหน อีกครั้งที่ควมทรงจำสลัวราง วาบมาแล้วก็จาง เหมือนน้ำค้างยามเช้าโดนแสงแดดแผดเผา
ขวัญอุมาตั้งอกตั้งใจทำแผลให้เขาจนเสร็จจึงเงยหน้าขึ้น ซีกหน้าด้านหนึ่งร้อนผ่าวกับสายตาที่เขาทอดมอง และเมื่อเขารู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงรีบชักสายตากลับ
“เจอคุณทีไรผมซวยทุกที แย่จริง” ธีรัชบ่นอุบทำให้คนอุตส่าห์บริการกระแทกขวดยาลงกับโต๊ะดังปัง สายตาวับๆเอาเรื่อง
“ฉันอุตส่าห์ทำแผลให้นะ ไม่รู้บุญคุณ”
“ก็คุณทำผมเจ็บ แล้วยังคิดทวงบุญคุณอีก” เขาส่ายหน้า มีอย่างหรือเป็นคนชนเขาเจ็บจนเสียเลือด รูปภาพเสียหายกลับมาทวงบุญคุณเอาดื้อๆ
“ฉันยังไม่ทันชน คุณตกใจแล้วทำของหล่นมือเอง”
“อ้าว…ไหงพูดแบบนี้ล่ะ ถ้าคุณไม่ทะเล่อทะล่าเข้ามาไม่ดูทางก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก แล้วนี่รู้ไหมว่ารูปที่ผมเอามาต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะวาดออกมาได้ คุณทำเสียหายหมด ทางค่ายเขาต้องเอาไปประดับฉากด้วย คุณรับผิดชอบเองแล้วกัน” ธีรัชปัดให้แล้วมองการแต่งตัวของเธออีกครั้งก่อนเลิกคิ้ว
“เป็นดารามางานบวงสรวงครั้งนี้เหรอ หรือว่าทำงานที่นี่”
“อยู่หลังเขาหรือไงฮะ ถึงได้ไม่รู้จักฉัน” นิ้วชี้เรียวชี้มาหาตัวเองแล้วย้อนถามเสียงสูงปรี๊ด คนหลังเขาเลยชักเกิดอาการหมั่นไส้
“ใช่ แล้วจะบอกได้หรือยังว่าคุณเป็นใคร แล้วทำไมผมหรือว่าใครๆ จะต้องรู้จักคุณ”
หญิงสาวส่ายหน้า เหยียดริมฝีปากคล้ายหมิ่นแคลนในความไม่รู้ของชายหนุ่ม แล้ววินาทีต่อมาก็กลายเป็นสมเพชจนคนถูกมองฉุนกึก
“นี่! หยุดทำสายตาแบบนั้นเวลามองคนอื่นทีเถอะ เห็นแล้วหมั่นไส้”
แทนคำตอบรับดาราสาวลุกขึ้นยืนแล้วโพสท่าทั้งที่ชุดสวยที่สวมอยู่เปื้อนคราบเลือดสีแดงยังสดอยู่แล้วยังมีกลิ่นคาวติดมาด้วย ใบหน้าสวยรั้นเชิดขึ้นแล้วหมุนตัว
“ขวัญอุมา จันทรารักษ์”
“ขวัญอุมา?” คิ้วหนายังเลิกสูง คนที่เคยเด่นดังและใครต่อใครจดจำได้มาตลอดชักขัดใจ เท้าสะเอวมองแล้วตวาดแว๊ด
“ฉันเป็นนางเอกที่กำลังดังมากจนถึงมากที่สุด ไม่รู้หรือไงยะ”
“ไม่รู้” ชายหนุ่มสั่นศีรษะ “ไม่รู้ก็แสดงว่าไม่ดังจริง”
“นาย! นายหลังเขา” ดาราสาวที่เชื่อว่าตัวเองดังที่สุดในนาทีนี้ตวาดเสียงดัง ดวงตาวาวเรืองรองวับๆ อย่างเอาเรื่อง
“ผมชื่อธีรัช”
“ไม่เห็นอยากรู้จัก” คนหน้าสวยย่นจมูกทำให้เขาส่ายหน้า
“เรื่องนี้เขาให้คุณเล่นเป็นอะไรล่ะ ตัวร้าย นางอิจฉารือว่าตัวประกอบ แต่อย่าบอกนะว่าอย่างคุณเป็นนางเอก เพราะผมไม่เชื่อ” เขาทำหน้ายียวน ใช้สายตากวนประสาทมองดาราสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เล่นเอาคนถูกมองตัวสั่นด้วยความโกรธ
“หมายความว่ายังไง”
“หน้าตาคุณน่ะ” อีกครั้งที่สายตาคมวาวยียวนมองจับมาบนใบหน้าเธอ “มันบ้านๆ เกินไป”
ริมฝีปากสีกลีบบัวเผยอค้าง ตาโตแล้วลูบมาที่หน้าตัวเอง
“ไอ้…”
“อย่าเรียกจิกสิ คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ผมมีสิทธิ์ที่จะชอบหรือไม่ชอบคุณก็ได้ไม่ใช่เหรอ” เขาย้อนถามหน้าตาเฉย
หญิงสาวพยายามนับหนึ่งถึงสิบ รักษาภาพพจน์อย่างที่ลูกปลาเคยบอกเคยสอนแต่ดวงตายังวาววับก่อนบอกเสียงเรียบ
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์คนอื่นในทางเสียหายแบบนี้ เพราะหน้าตาคุณเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไร คนสวนบ้านฉันยังหน้าตาดีกว่าคุณหลายเท่า” คนที่ไม่เคยถูกมองว่าหน้าตาบ้านๆ มาก่อนเลยในชีวิตแทบอยากกรีดร้อง ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน ตั้งแต่เด็กจนโตมาขนาดนี้เธอเด่นที่สุด สวยที่สุดมาโดยตลอด
กล้าดียังไงมาว่าเธอหน้าตาบ้านๆ
“ผมอาจจะหน้าตาไม่ดีแต่ผมไม่ได้เป็นดารานี่นา อะไรกันผมวิจารณ์แค่นี้ก็โกรธหรือไง โธ่เอ๊ย…เป็นคนสาธารณะก็ต้องกล้าโดนติซี่” เขาสอนเข้าให้ หญิงสาวอยากกัดลิ้นตัวเองเอาไว้ไม่โต้ตอบ จำคำสอนของลูกปลาได้ว่าไม่ควรเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
“ถ้าฉันไม่สวยเขาก็ไม่ให้ฉันเป็นนางเอกหรอกย่ะ”
ทว่าสำหรับคนเล่นแล้วยิ่งอ่านบทยิ่งเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง เธอรู้สึกว่านางร้ายตัวจริงควรจะเป็นพิมพ์แขมากกว่า และยิ่งมารู้ว่าบทประพันธ์เรื่องนี้ได้เค้าโครงมาจากเรื่องจริงเธอก็ยิ่งหงุดหงิด บางครั้งบางคราถึงกับใส่อารมณ์เอากับนักข่าวที่พูดถึงตัวละครโฉมเฉลาในทางไม่ดี
“โฉมเฉลาในเรื่องชีดูแรงมากเลยนะคะคุณน้องขวัญ แอ๊บใสแต่ใจแตก หนักใจบ้างไหมคะกับบทนี้” นักข่าวถามขึ้น หญิงสาวจึงตวัดสายตาวับๆ มาหาในขณะที่ผู้จัดการร่างใหญ่เริ่มบีบขมับมองลุ้น หากในนิยายเอาเค้าโครงเรื่องจริงมาเขียน เธออยากจะเชื่อซะเหลือเกินเชียวว่าแม่ขวัญอุมาคือโฉมเฉลากลับชาติมาเกิด ไม่ว่าใครต่อใครที่ลงความเห็นว่าหล่อนร้ายแม่ขวัญอุมาเถียงแทนคอเป็นเอ็น
“ไม่หนักใจเลยค่ะ ขวัญยินดีและเต็มใจที่จะรับบทโฉมเฉลา เพราะตัวขวัญเองยังไม่เห็นว่าโฉมเฉลาจะร้ายตรงไหน ที่ตอนท้ายมีเรื่องเขาคบชู้และวางแผนฆ่าคนในบ้าน อาจจะเป็นแผนการของพิมพ์แขก็ได้นะคะ” ดาราสาวตอบคำถามที่ทำให้คนถามและนักข่าวอีกหลายคนงงไปตามๆ กันจนต้องหันมาถามกันเอง
“อ้าว…บทเปลี่ยนเหรอวะ”
“นั่นสิ แล้วตกลงใครเป็นนางเอก”
“ใครร้ายกันแน่ล่ะระหว่างโฉมเฉลากับพิมพ์แข”
นักข่าวซักถามกันวุ่นวายเพราะเรื่องย่อละครที่ได้มาดูจะขัดกับคำตอบตอนสัมภาษณ์ของดาราสาวที่เปลี่ยนโฉมเฉลาจากดำเป็นขาว
ลูกปลาเห็นไม่ได้การจึงปรี่เข้ามาขัด
“คุณน้องขา…หน้าน้องขวัญมันแผล็บเลยคุณพี่ขอพาไปซับหน้าหน่อยนะคะ ไปนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ตรงมุมโน้นก่อนนะคะ” ลูกปลาแยกดาราสาวในสังกัดออกมาอีกมุมแล้วตวาดแว๊ด “หล่อนให้สำภาษณ์บ้าอะไรของหล่อนยะ ไปคนละทิศละทางกับบทประพันธ์เขา”
“ตรงไหนคะ” ขวัญอุมาตีหน้าซื่อ
“ไม่ต้องมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้ว่าหล่อนรู้ หากผู้กำกับมาได้ยินเข้าละก็เดี๋ยวได้โดนปลดกลางอากาศ ทำให้นักข่าวงงไปหมด จำไว้นะยะว่าพิมพ์แขเป็นนางเอกผู้แสนดีแต่ถูกคนมองว่าร้ายมาตลอดแต่ท้ายสุดพระเจ้าไม่เข้าข้างคนผิด แม่โฉมเฉลาจึงได้เผยธาตุแท้ออกมา นี่คือบทบาทที่หล่อนต้องเล่นไม่ใช่ไปเสริมเติมแต่งให้เขา”
“ไม่ได้เสริมซักหน่อยนี่ค่ะ ขวัญก็แค่บอกว่าบางที…คนที่ร้ายอาจจะเป็นพิมพ์แข แค่บอกว่าบางทีเท่านั้นเองนะคะ คนดูจะได้ตื่นเต้น” หญิงสาวแก้ตัวแต่ลูกปลาเบ้หน้าค่อนขอด
“ทำอย่างกับเป็นแม่โฉมเฉลากลับชาติมาเกิด”
“อาจจะใช่นะคะ แค่อ่านบทขวัญยังอินขนาดนี้ ถ้าได้เล่นละก็คงคิดว่าตัวเองเป็นโฉมเฉลาจริงๆ แน่ ไม่แน่นะคะเห็นเขาว่ากันว่ามันเป็นเรื่องจริง หากวิญญาณคุณโฉมเฉลายังไม่ตายเขาอาจจะเข้ามาสิงร่างของขวัญแล้วเล่นเองก็ได้” ขวัญอุมาพูดไม่ทันจบก็ทำสะดุ้ง ตัวแข็งทื่อทำให้ลูกปลากระโดดถอยหลัง
“ข…ขวัญอุมา”
“เอาความยุติธรรมคืนมา ฉันถูกใส่ร้าย” ขวัญอุมาทำตาขวาง ยกมือขึ้นทำท่าจะบีบคอทำให้ลูกปลาเกือบจะร้องโวยวายออกมาหากจะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะขบขันดังมาจากคนถูกผีเข้า
“หึๆ”
“ยายขวัญอุมา!” ลูกปลาเงื้อมือแต่หญิงสาวหลบได้ว่องไว ก่อนวิ่งหนีฝ่ามือใหญ่ยักษ์ของผู้จัดการสาวร่างใหญ่ แต่เพราะไม่ทันมองทางข้างหน้าจึงเกือบชนเข้ากับร่างสูงสง่าของใครคนหนึ่งทำให้กรอบรูปในมือเขาหลุดตกกระจกด้านนอกแตกเพราะแรงกระแทกเข้ากับพื้นคอนกรีต
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ขวัญอุมาตกใจรีบคุกเข่าลงเพื่อช่วยเขาเก็บของ มือเรียวสัมผัสกับมือแกร่งก่อให้เกิดกระแสร้อนวาบผ่านปลายมือจนต้องเงยหน้าขึ้นมองกัน ริมฝีปากเผยอค้างเมื่อเห็นหน้าคนถูกชน
“นาย”
“นี่คุณเองเหรอ” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น หญิงสาวลุกตามทว่าชายกระโปรงยาวรุ่มร่ามเกี่ยวกับเศษกระจกบนกรอบรูปดึงรั้งให้เธอเซลงไปใหม่แต่ชายหนุ่มตาไวเอาตัวเข้าบังทำให้ตัวเขาเองเป็นฝ่ายล้มทับกรอบรูปที่แตกเป็นแง่งคล้ายปากฉลาม แขนและข้อศอกถูกแก้วบาดไปสองแผล เลือดสดๆ ไหลซึม
“คุณ!” หญิงสาวตกใจ กระโปรงสีขาวตัวสวยเปื้อนเลือดสีแดงฉานดูน่ากลัว ลูกปลาที่วิ่งตามมาทันร้องโวยวายลั่นเรียกความสนใจจากนักข่าวและทุกคนที่มาร่วมในงานบวงสรวง ขวัญอุมาเป็นฝ่ายประคองเขาเอาไว้แต่ชายหนุ่มยังห่วงรูป
ภาพที่มีคนสั่งซื้อจากแม่หลายภาพและให้เอามาส่งที่ค่ายไทยละคร เป็นภาพวาดคนเพียงแต่เขาไม่ทันได้เปิดดูว่าเป็นภาพของใคร แม่แพ็กและห่อไว้อย่างดี เขาเองยังไม่คิดว่าแรงกระแทกเพียงเท่านั้นจะทำให้กระจกแตกได้ จึงได้เห็นว่าภาพนั้นเป็นภาพของผู้หญิงที่เป็นสาเหตุให้กรอบรูปพวกนี้แตกกระจายเกลื่อนพื้น
“พี่ปลา ช่วยเก็บภาพของเขาด้วย ขวัญจะพาไปทำแผล” ขวัญอุมาฉุดรั้งคนตัวโตให้เข้าไปด้านใน ที่จริงยังไม่อยากจะญาติดีแต่เพราะเห็นว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้เขาต้องเจ็บตัวจึงต้องปัดความไม่ชอบหน้าออกไปก่อน เอาไว้คราวหน้าค่อยปะทะคารมใหม่
เมื่อพาเขาไปยังด้านใน หลายคนหันมามองอย่างสนใจเพราะชุดสีขาวที่เปื้อนคราบเลือดสีแดงเด่นชัด เมื่อมาถึงดาราสาวก็ร้องสั่งให้แม่บ้านเอาชุดทำแผลมาให้
“ทำเป็นเหรอ” คนบาดเจ็บร้องถามเมื่อเห็นหญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้เขาซับแผลแล้วจับขวดยาหลายขวดมาวางเรียง อ่านฉลากยาด้วยสีหน้าคล้ายไม่แน่ใจ หยิบขวดแอลกอฮอล์มาดูสลับกับโพวิดีนแล้วตัดสินใจวางก่อนหยิบยาแดงขึ้นมาแทน พักเดียวก็หยิบแอลกอฮอล์มาใหม่
“เอ๊ะ…จะทำให้อย่าเรื่องมากได้ไหม” คนหวังดีชักเสียงขุ่นจึงกระชากแขนเขามา จากที่ตั้งใจจะทำแผลให้ดีๆ จึงกลายเป็นจับขวดแอลกอฮอล์เทราดส่งผลให้คนตัวโตร้องลั่น
“โอ๊ย…จะบ้าหรือไงคุณ แสบจะตาย”
“ตัวโตซะเปล่าแค่โดนแอลกอฮอล์แค่นี้ร้องซะลั่นค่าย” หญิงสาวเบ้หน้าแล้วจิ้มสำลีเข้ากับโพวิดีน จงใจกระแทกแรงจนเขาร้องตะโกนอีกครั้ง
“โอ๊ย” ธีรัชขยับปากจะต่อว่าแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองหน้าสวยที่ก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ ความรู้สึกเคยคุ้นบางอย่างก็แทรกผ่าน
กิริยานี้ ชุดแบบนี้ ท่าทางอย่างนี้….เคยเห็นที่ไหน อีกครั้งที่ควมทรงจำสลัวราง วาบมาแล้วก็จาง เหมือนน้ำค้างยามเช้าโดนแสงแดดแผดเผา
ขวัญอุมาตั้งอกตั้งใจทำแผลให้เขาจนเสร็จจึงเงยหน้าขึ้น ซีกหน้าด้านหนึ่งร้อนผ่าวกับสายตาที่เขาทอดมอง และเมื่อเขารู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงรีบชักสายตากลับ
“เจอคุณทีไรผมซวยทุกที แย่จริง” ธีรัชบ่นอุบทำให้คนอุตส่าห์บริการกระแทกขวดยาลงกับโต๊ะดังปัง สายตาวับๆเอาเรื่อง
“ฉันอุตส่าห์ทำแผลให้นะ ไม่รู้บุญคุณ”
“ก็คุณทำผมเจ็บ แล้วยังคิดทวงบุญคุณอีก” เขาส่ายหน้า มีอย่างหรือเป็นคนชนเขาเจ็บจนเสียเลือด รูปภาพเสียหายกลับมาทวงบุญคุณเอาดื้อๆ
“ฉันยังไม่ทันชน คุณตกใจแล้วทำของหล่นมือเอง”
“อ้าว…ไหงพูดแบบนี้ล่ะ ถ้าคุณไม่ทะเล่อทะล่าเข้ามาไม่ดูทางก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก แล้วนี่รู้ไหมว่ารูปที่ผมเอามาต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะวาดออกมาได้ คุณทำเสียหายหมด ทางค่ายเขาต้องเอาไปประดับฉากด้วย คุณรับผิดชอบเองแล้วกัน” ธีรัชปัดให้แล้วมองการแต่งตัวของเธออีกครั้งก่อนเลิกคิ้ว
“เป็นดารามางานบวงสรวงครั้งนี้เหรอ หรือว่าทำงานที่นี่”
“อยู่หลังเขาหรือไงฮะ ถึงได้ไม่รู้จักฉัน” นิ้วชี้เรียวชี้มาหาตัวเองแล้วย้อนถามเสียงสูงปรี๊ด คนหลังเขาเลยชักเกิดอาการหมั่นไส้
“ใช่ แล้วจะบอกได้หรือยังว่าคุณเป็นใคร แล้วทำไมผมหรือว่าใครๆ จะต้องรู้จักคุณ”
หญิงสาวส่ายหน้า เหยียดริมฝีปากคล้ายหมิ่นแคลนในความไม่รู้ของชายหนุ่ม แล้ววินาทีต่อมาก็กลายเป็นสมเพชจนคนถูกมองฉุนกึก
“นี่! หยุดทำสายตาแบบนั้นเวลามองคนอื่นทีเถอะ เห็นแล้วหมั่นไส้”
แทนคำตอบรับดาราสาวลุกขึ้นยืนแล้วโพสท่าทั้งที่ชุดสวยที่สวมอยู่เปื้อนคราบเลือดสีแดงยังสดอยู่แล้วยังมีกลิ่นคาวติดมาด้วย ใบหน้าสวยรั้นเชิดขึ้นแล้วหมุนตัว
“ขวัญอุมา จันทรารักษ์”
“ขวัญอุมา?” คิ้วหนายังเลิกสูง คนที่เคยเด่นดังและใครต่อใครจดจำได้มาตลอดชักขัดใจ เท้าสะเอวมองแล้วตวาดแว๊ด
“ฉันเป็นนางเอกที่กำลังดังมากจนถึงมากที่สุด ไม่รู้หรือไงยะ”
“ไม่รู้” ชายหนุ่มสั่นศีรษะ “ไม่รู้ก็แสดงว่าไม่ดังจริง”
“นาย! นายหลังเขา” ดาราสาวที่เชื่อว่าตัวเองดังที่สุดในนาทีนี้ตวาดเสียงดัง ดวงตาวาวเรืองรองวับๆ อย่างเอาเรื่อง
“ผมชื่อธีรัช”
“ไม่เห็นอยากรู้จัก” คนหน้าสวยย่นจมูกทำให้เขาส่ายหน้า
“เรื่องนี้เขาให้คุณเล่นเป็นอะไรล่ะ ตัวร้าย นางอิจฉารือว่าตัวประกอบ แต่อย่าบอกนะว่าอย่างคุณเป็นนางเอก เพราะผมไม่เชื่อ” เขาทำหน้ายียวน ใช้สายตากวนประสาทมองดาราสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เล่นเอาคนถูกมองตัวสั่นด้วยความโกรธ
“หมายความว่ายังไง”
“หน้าตาคุณน่ะ” อีกครั้งที่สายตาคมวาวยียวนมองจับมาบนใบหน้าเธอ “มันบ้านๆ เกินไป”
ริมฝีปากสีกลีบบัวเผยอค้าง ตาโตแล้วลูบมาที่หน้าตัวเอง
“ไอ้…”
“อย่าเรียกจิกสิ คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ผมมีสิทธิ์ที่จะชอบหรือไม่ชอบคุณก็ได้ไม่ใช่เหรอ” เขาย้อนถามหน้าตาเฉย
หญิงสาวพยายามนับหนึ่งถึงสิบ รักษาภาพพจน์อย่างที่ลูกปลาเคยบอกเคยสอนแต่ดวงตายังวาววับก่อนบอกเสียงเรียบ
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์คนอื่นในทางเสียหายแบบนี้ เพราะหน้าตาคุณเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไร คนสวนบ้านฉันยังหน้าตาดีกว่าคุณหลายเท่า” คนที่ไม่เคยถูกมองว่าหน้าตาบ้านๆ มาก่อนเลยในชีวิตแทบอยากกรีดร้อง ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน ตั้งแต่เด็กจนโตมาขนาดนี้เธอเด่นที่สุด สวยที่สุดมาโดยตลอด
กล้าดียังไงมาว่าเธอหน้าตาบ้านๆ
“ผมอาจจะหน้าตาไม่ดีแต่ผมไม่ได้เป็นดารานี่นา อะไรกันผมวิจารณ์แค่นี้ก็โกรธหรือไง โธ่เอ๊ย…เป็นคนสาธารณะก็ต้องกล้าโดนติซี่” เขาสอนเข้าให้ หญิงสาวอยากกัดลิ้นตัวเองเอาไว้ไม่โต้ตอบ จำคำสอนของลูกปลาได้ว่าไม่ควรเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
“ถ้าฉันไม่สวยเขาก็ไม่ให้ฉันเป็นนางเอกหรอกย่ะ”
สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2557, 23:05:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2557, 23:05:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1347
<< ตอนที่ 5 100% |