หงส์ซ่อนลาย
เธอจะทำยังไง ในเมื่อรู้ว่าคนที่ฆ่าพี่ชายเธอ คือคนรักของเธอเอง
Tags: มาเฟีย ตบจุบ รักโรแมนติก ดรา่่มา

ตอน: บทที่ 11 รอยแผลที่ไม่มีวันจางหาย (สนพ.เลิฟอีส)

รอยแผลที่ไม่มีวันจางหาย

“จีนา กระโดดลงมา ตอนนี้คุณไม่มีทางเลือกแล้ว” วาเลนติโนคอยอยู่ด้านล่างตะโกนบอก

“ไม่ ฉันจะลงไปเอง” เธอยังฝืนกลั้นใจบอก

“พวกมันมาถึงแล้ว กระโดดลงมาผมจะเป็นฝ่ายรับคุณเอง”

จีนามองตรงมาที่เขา วาเลนติโนคอยเอื้อมมือรับร่างเธอไว้ที่ด้านล่าง เสียงเอะอะที่ดังใกล้เข้ามาที่ด้านหลังทำให้เธอตัดสินใจในทันที เธอกระโดดลงมาปล่อยมือออกจากลูกกรงเหล็กด้วยความสูงไม่ต่ำกว่าสี่เมตรถึงห้าเมตร ร่างบางลอยลงมาสู่อ้อมแขนอันแข็งแรงทรงพลังของอีกฝ่าย วาเลนติโนเพียงแต่เซถลาไปเล็กน้อย จนจีนาอุทานด้วยความตกใจคอเขาไว้แน่น

“อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้ !”

เสียงตะโกนของพวกมัน ไม่ทำให้จีนาและคนที่ฉุดเธอชะงักหรือหยุดฝีเท้าที่วิ่งไปข้างหน้าได้อีกต่อไป เธอเหลียวมามองที่ด้านหลังก็เห็นพวกมันเสียเวลาอยู่กับตะแกรงที่กั้นเหล็ก ต้องคอยปีนป่ายขึ้นมาทีละคน หญิงสาวยิ้มออกมาได้ เวลานี้เธอชักปืนออกมาและยิงใส่พวกมันไปสามนัด กระสุนปืนลั่นเปรี้ยง ๆ พวกมันก้มหัวหลบและพยายามยิงเข้าใส่เธอเหมือนกัน แต่เวลานี้ทั้งจีนาและวาเลนติโนวิ่งมาออกห่างจากพวกมัน อาศัยความมืดจนพวกมันก็ไม่อาจตามได้ทัน

“โธ่เว้ย !”

จีนาได้ยินเสียงพวกมันทุบตะแกรงกั้นเหล็กและเสียงสบถด่า เธอวิ่งมาจนถึงสถานที่จอดรถสีดำของวาเลนติโนที่จอดรออยู่อีกฟากหนึ่ง เขาเปิดกุญแจรถและเปิดประตูจะก้าวเข้าไปนั่ง แต่ชะงักเมื่อแลเห็นว่าเธอละล้าละหลัง

“เป็นอะไร”

“รถฉันยังจอดอยู่อีกฟากหนึ่ง” เธอลังเล

“ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้พวกมันดักรอคุณอยู่แล้ว คุณจะไปกับผมหรือจะรอให้พวกมันจับตัวไป” น้ำเสียงของเขาไม่มีริ้วรอยของรอยยิ้มอีกแล้ว

เธอเม้มปากแน่นและเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างคนขับ...รถยนต์เคลื่อนตัวของสู่ท้องถนนไปอย่างรวดเร็ว จีนาคิดอ่านอะไรไม่ออก ในยามนี้เธอพึ่งจะหนีตายมาทั้ง ๆ ที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด จีนามองออกไปข้างนอกถนนผ่านทางหน้าต่างรถยนต์มองเห็นแสงไฟยามราตรีบนท้องถนน

....ในขณะที่พวกเธอหนีเอาตัวรอดไปได้ บรันโนก็ถูกลูกน้องของไคโรต่อยคว่ำลงบนโต๊ะแตกกระจายเสียงดังสนั่น เลือดของเขาออกที่เรียวปาก

“มันเป็นใคร” ไคโรเอ่ยถาม ดวงตาของเขาหรี่เล็กราวจะมอดไหม้ชายผมสีทองให้เป็นจุณ

“ผม..ไม่ทราบครับ ตอนนั้นมันมืดมาก”

“ไม่รู้หรือ...” ชายวัยกลางคนเอาปืนขึ้นมาจ่อยิงที่ต้นขาขวาจนบรันโนช้า ๆ

ปัง

“อ๊าก ! รอเดี๋ยวครับ มันเป็นผู้หญิง ผมสาบานได้ว่ามันเป็นผู้หญิง” บรันโนตะเกียกตะกายอยู่บนพื้นที่นองไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

“ผู้หญิง ?” ไคโรเลิกคิ้ว “กะอีกแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียว แกถึงกับตามจับมันไม่ได้เชียวหรือ ไอ้พวกเลี้ยงไม่เชื่อง”

“มะ...มันไม่ได้มาแค่คนเดียว ยังมีผู้ชายอีกหนึ่ง คนพวกมันฝีมือร้ายกาจมาก นังผู้หญิงนั่น...มันยิงปืนแม่นราวกับกับวาง เกือบโดนพวกเราที่วิ่งตามไป ติดที่รั้วกำแพงเหล็กกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้พวกมันหนีไปได้ อึก...”

คำว่าผู้หญิงยิงปืนแม่น ทำเอาอาแมนโดขมวดคิ้ว

“ผู้หญิงยิงปืนแม่น มากับผู้ชายอีกหนึ่งคนงั้นหรือ”

ไคโรเหลือบสายตามองมายังใบหน้าคมคาย

“รู้จักด้วยหรือ...อย่าบอกนะว่าเป็นผู้หญิงคนรู้จักของแก”

“ไม่เชิงรู้จักหรอก แต่เธอคนนี้เป็นน้องสาวของหัวหน้าแก็งค์มาเฟียมาลโซ เธอชื่อจีนาน้องสาวของลูซิโอ ฝีมือการยิงปืนอันร้ายกาจของเธอมีแต่พวกเราที่รู้ว่าเป็นฝีมือของเธอ ไม่มีมาเฟียที่ไหนจะไม่รู้จักหล่อน”

ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว ดูเหมือนเรื่องนี้จะยุ่งกันไปกันใหญ่

“จีนาหรือ...ฉันเคยได้ยินเหมือนกัน ได้ข่าวว่าเธอเป็นคนสวยแล้วก็ร้ายกาจมาก แปลว่าการที่เธอตามพวกแกมาเพราะสืบรู้ว่าแกร่วมมือกับฉัน” น้ำเสียงของเขาเป็นกังวล

อาแมนโดหยัดยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย

“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ถึงเธออาจจะสงสัยฉันมาทำอะไรที่นี่ ก็อาจสงสัยว่าฉันมีธุระอะไรคุยกับแก อาจเป็นเรื่องการประนีประนอมเรื่องการทำธุรกิจ”

อาแมนโดปรายตามองไปที่บรันโนที่กำลังยืนหน้าซีดด้วยความเจ็บปวด

“และจีนาก็ไม่มีปัญหาทำอะไรฉันได้ เธอไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดกับฉัน แถมตอนนี้เธอก็หลบหนีหัวซุกหัวซุนราวกับกลัวว่าจะถูกจับได้ แล้วยังต้องกลัวอะไร”

“นั่นสินะ” ไคโรเหยียดยิ้ม

“จะเริ่มโค่นล้มอำนาจมาเฟียมาลโซ ก็ต้องล้มพี่ชายก่อน...แล้วค่อยไปที่น้องสาว”

ชายหนุ่มผู้มีรอยสักเป็นรูปทาลันทูราอยู่ท้ายทอยยิ้มเยาะ ดวงตาที่สะท้อนแก้วบรั่นดีมีแววอำมหิต

จีนามองไปทางกระจกเบื้องหลัง จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครตามมา...

“ช่วยไปส่งฉันที่หน้าคฤหาสน์ด้วยค่ะ”

วาเลนติโนไม่ตอบ เขาขับรถไปด้วยท่าทางเรียบเฉย จนกระทั่งเธอแลเห็นว่ารถเลี้ยวออกไปคนละทาง

“เอ๊ะ คุณจะไปไหนคะ”

“ไปบ้านผม” ใบหน้าคมสันเอ่ยหน้าตาย แต่คนฟังกลับไม่ยักขำด้วย

“ปล่อยฉันลง ฉันจะกลับบ้าน” เธอขมวดคิ้วอย่างเอาเรื่อง “นี่คุณจะใช้วิธีฉุดผู้หญิงขึ้นรถหรือยังไง ฉันจะกลับบ้านได้ยินหรือเปล่า ถ้าคุณไม่เลี้ยวกลับฉันก็จะเปิดหน้าต่างรถร้องให้คนช่วย”

“ใจเย็น ๆ สิ...แขนคุณมีเลือดไหล ผมก็แค่อยากทำแผลให้คุณเท่านั้นเอง”

จีนาก้มลงมองแขนของตัวเอง และเห็นว่าที่หลังมือเป็นรอยแผลมีเลือดไหลเป็นทางยาว คงจะเกิดจากรอยถลอกตอนปีนตาข่ายเหล็กแน่ ๆ รอยถลอกของหญิงสาวยาวเกือบหนึ่งนิ้ว ถ้าเขาไม่พูดออกมา เธอก็คงจะกลับบ้านไปทั้ง ๆ ที่มือเต็มไปด้วยรอยเลือดแล้วก็คงจะแก้ตัวกับพี่ชายเป็นพัลวัน จีนากัดริมฝีปากแน่นมองดูวาเลนติโน จะว่าไปแล้วที่เธอเอาแต่โมโหใส่เขา วาเลนติโนอุตส่าห์ไปช่วยเธอเอาไว้ แต่กลับไม่ได้รับคำขอบคุณสักคำ....

“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์ไปช่วยฉัน” เธอเอ่ยขอบคุณเบา ๆ “ที่ฉันเอาแต่โกรธคุณ ก็เพราะฉันยังคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ด้วยว่าคุณจะพาฉันไปที่ไหน...”

“ไม่เป็นไรหรอกผมไม่ถือ ว่าแต่คนที่บ้านคุณรู้หรือเปล่า ว่าคุณออกมาที่นี่เพื่อจับตาดูคนของคุณ”

จีนาส่ายหน้าไปมา

“ฉันไม่ได้บอกใครไว้ค่ะ มันจวนตัวจริง ๆ”

“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”

“ฉันก็ยังคิดอะไรไม่ออกค่ะ ตอนนั้นมันมืดมาก และฉันก็ฟังอะไรไม่ถนัดสักอย่าง..มันเกี่ยวกับธุรกิจหรืออะไรสักอย่างฉันไม่แน่ใจ หลังจากนั้นก็มีคนข้างล่างเงยหน้าขึ้นมาเห็น แล้วเหตุการณ์หลังจากตอนนั้นฉันกับคุณก็เพิ่งจะผ่านมันมาชั่วครู่นี้เอง”

“ดูเหมือนว่าคนที่บ้านของคุณ คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณไปที่นั่น” วาเลนติโนเอ่ยเสียงเรียบ

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

“คุณคิดจะไม่มีใครจำหน้าคุณได้อย่างนั้นหรือ”

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน...” เธอยอมรับ

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็อยู่เฉย ๆ ก่อนดีกว่า...ไม่แน่ว่าคืนนี้เขาอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าคุณเป็นผู้หญิงและรู้ด้วยว่าคุณเป็นใคร แต่เชื่อผมเถอะเขาต้องนิ่งเงียบรอให้คุณเป็นฝ่ายถามเขาขึ้นมาก่อน แต่หากว่าคุณทำแบบนั้นก็จะเป็นการเปิดเผยตัวเองว่าคุณแอบลักลอบเข้ามาในคืนนี้ แถมคุณเองก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรแน่ชัดถึงเรื่องที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้ การพูดออกไปมันมีแต่จะเสียเปรียบ เชื่อผมเถอะ”

จีนาขมวดคิ้ว ดูท่าว่านักธุรกิจอย่างเขาจะรู้ดีเหลือเกิน

“คุณเป็นนักธุรกิจประเภทไหน ถึงได้รู้เรื่องพวกนี้ดีเหลือเกิน”

“นักธุรกิจก็ต้องเกี่ยวพันถึงวงการในโลกมืด หรือคุณคิดว่าจะมีนักธุรกิจคนไหนบ้างที่ทำการค้าขายโดยไม่เกี่ยวข้องกับพวกมาเฟีย ขนาดผู้พิพากษา ตำรวจ หรือนักการเมือง ยังต้องเกี่ยวพันกับวงการนี้ทั้งนั้น”

“รวมไปถึงคุณด้วยหรือเปล่า”

หญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาคู่สวยมองมาที่เขาอย่างค้นหา

“ถึงฉันจะถามออกไป คุณก็คงไม่ตอบว่าทำธุรกิจอะไรใช่หรือเปล่าคะ”

วาเลนติโนไม่ตอบ เรียวปากของเขามีรอยหยัดยิ้มน้อย ๆ เธอมองเห็นว่ารอยยิ้มนั้นออกมาจากความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ออกมาจากเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ จึงได้แต่นิ่งเงียบตามลำพัง...

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา...วาเลนติโนก็พาจีนาก็มาจอดอยู่ที่หน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ หญิงสาวมองดูมันเป็นบ้านที่ปลูกสร้างสไตล์ยุโรป ใบหน้าคมสันจอดรถและหันมามองหน้าเธอก่อนยิ้มให้ ร่างสูงเปิดประตูรถเดินเข้าไปไขกุญแจพาจีนาเข้าไปภายในบ้าน พร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟส่องสว่าง ภายในบ้านจัดตกแต่งอย่างเรียบหรูมีสไตล์ สะอาดและเป็นระเบียบมากกว่าที่จีนาคิดเอาไว้

ภายในเป็นตู้หนังสือสองชั้น จีนาก็ได้กลิ่นปกหนังหนังสือ และพื้นไม้มะฮอกกานีลอยกรุ่นเข้าจมูก ด้านในมีตู้หนังสือขนาดใหญ่ สูงเกือบจรดเพดานตั้งอยู่สี่มุมห้อง ตรงกลางมีโต๊ะโซฟาตัวใหญ่ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ จีนาเหลียวมองไปรอบกาย ดูท่าทางเจ้าของคงจะดูแลเป็นพิเศษ

“ที่นี่คือบ้านผมเอง คุณนั่งลงก่อน”

“คุณอยู่คนเดียวหรือคะ”

“ใช่”

“ไม่มีพ่อแม่...หรือว่าพี่น้องหรอกหรือ”

“พ่อแม่ของผมเสียไปตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ผมเป็นลูกชายคนเดียว ไม่มีพี่น้องคนอื่น ๆ” ใบหน้าคมสันยิ้มให้ ขณะรินน้ำเย็นใส่แก้วแล้วนำมาวางไว้ให้เธอ

“ขอโทษนะคะ ที่ฉันถามเรื่องส่วนตัวของคุณ”

“ผมชินเสียแล้ว” วาเลนติโนเอ่ยเสียงเรียบ ชายหนุ่มคุกเข่าต่อหน้าเธอพร้อมกับยื่นมือคล้องมือบางขึ้นดู “ขอดูหน่อยนะ”

จีนาไม่พูดอะไร ความจริงบาดแผลไม่ถึงกับร้ายแรงนักแต่แผลค่อนข้างลึกจึงมีเลือดไหลออกมามาก ดวงตาคู่สวยปรายตามองหน้าเขา ใบหน้าของเขาแลดูคมสัน จมูกโด่ง เรียวปากบางได้รูปเหมือนผู้หญิง เส้นผมหยักศกเล็กน้อยปัดไปด้านหลัง ช่วงไหล่กว้างดูจากที่เธอเห็นตอนที่เขารับตัวเธอที่ตกลงมาจากกำแพงเหล็ก ดูเขาเข้มแข็งและเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิดกับผิวภายนอกที่เป็นสีแทน...

ดูราวกับเป็นภาพวาดของจิตรกร...

จู่ ๆ เขาก็ชำเลืองสายตามองขึ้นมายังเธอ ทำให้จีนาอดที่จะแก้มแดงไม่ได้

“ไม่ลึกมาก เดี๋ยวเราต้องใช้ยาฆ่าเชื้อสักหน่อย แล้วค่อยทำแผล”

“คุณไม่ต้องมาสนใจกับฉันก็ได้”

เมื่อตนเองพูดออกไปโดยไม่คิด ชายหนุ่มก็ถึงกับชะงักงัน

“ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น” เสียงของเขาเบานุ่ม

“สมัยตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก จนถึงอายุอานามจนป่านนี้ ได้รอยแผลเป็นอย่างนี้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้งถึงกี่ครั้ง เพราะว่าฉันรักการผจญชัย อะไรที่ชอบเสี่ยงฉันเอาหมด พี่ชายของฉันสั่งห้ามไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่งกับเรื่องอันตราย แต่สุดท้าย...ก็เหมือนเดิม เพราะว่าฉันเหมือนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ”

วาเลนติโนมองตรงมาที่เธอ สายตาของเขาเป็นสีนิลราวกับรัตติกาล

“พี่ชายของคุณคงจะรักคุณมาก”

“ฉันคงเป็นน้องสาวที่แย่มากเลยนะคะ” เธอยิ้ม

“ผมจะบอกอะไรให้...ในสายตาของพี่ชายย่อมอยากเห็นน้องสาวคนเดียวแต่งงานและมีความสุข...เขาไม่อยากเห็นรอยแผลเป็นเกิดกับน้องสาวเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นการตัดสินใจของน้องสาวคนเดียวของเขาก็ตาม ก็ทำได้เขาก็อยากรับเอาบาดแผลนั้นมาไว้กับตนเอง เพราะอย่างน้อยเธอจะได้สะอาดบริสุทธิ์ทุกอย่าง ให้สมกับเป็นน้องรักของพี่ชายนั่นเอง”

วาเลนติโนกระซิบแผ่วพลางเอื้อมมือไปแตะใบหน้าเนียน

“เป็นนางฟ้าคนเดียวเท่านั้น...”

จีนาประสานสายตากับเขา และดวงตาของวาเลนติโนก็ไม่ละสายตาไปจากเธอ...

“นางฟ้าคนเดียวคนนั้น ใช่ของคุณด้วยหรือเปล่าคะ”

วาเลนติโนไม่ตอบมีเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ ที่บริเวณมุมปาก รูปร่างสูงลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องยามาให้เธอ จีนามองตามเขาราวกับจะให้เขาตอบคำถามเมื่อครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ก้มหน้าเพื่อหลบสายตาของเธอ เขาเอื้อมมือไปหยิบเอาสำลีที่หยอดยาฆ่าเชื้อไว้เรียบร้อย โดยไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ จีนาเม้มปากแน่นและดึงมือออกโดยแรง วาเลนติโนปรายตาขึ้นมองหญิงสาว

“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน”

“มือของคุณเลือดออกมาก เราต้องล้างแผลและใส่ยา...”

“ช่างมัน แต่ฉันต้องการคำตอบจากคุณมากกว่า”

จีนาไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงอยากได้คำตอบจากเขามากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกได้...ก็คือการแสดงออกภายนอกที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของเขา เธอไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว...เขามีความรู้สึกให้เธอแต่พยายามปิดบัง

ทำไมกันนะ...

“จำครั้งก่อนได้ไหม ครั้งที่คุณจูบฉันแล้วฉันบอกว่าครั้งหน้าจะเอาคืน” เธอเอ่ยย้ำเตือน

“คุณนี่เป็นพวกช่างจดจำจริง ๆ นะ”

“และคราวนี้...ฉันขอคืนสัญญาให้กับคุณ”

จีนาจำไม่ได้แล้วว่าทำอะไรลงไป เธอเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าคมสันและแนบเรียวปากลงไป รอยสัมผัสบนเรียวปากอบอุ่นและอ่อนโยน วาเลนติโนเบิกตากว้าง เขาชะงักกึกและเหมือนกับว่าโลกทั้งโลกหยุดหมุน หญิงสาวเพิ่งรู้สึกตัวว่าเพิ่งทำอะไรลงไป จีนาแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ...และค่อย ๆ ออกห่างมาจากวาเลนติโนช้า ๆ หญิงสาวประสานสายตากับเขา ดวงตาของวาเลนติโนก็ไม่ละสายตาไปจากเธอ

ใบหน้าคมสันเลื่อนฝ่ามือหนาไปที่แก้มเนียน แล้วดึงเข้าหาริมฝีปากช้า ๆ จีนาหลับตาลงเธอไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ในเวลานี้เธออยากจูบเขาเหลือเกิน ความรุ่มร้อนและอ่อนนุ่มของเรียวปากด้านล่าง ค่อย ๆ อ่อนโยนระคนเรียกร้องในคราเดียวกัน เขาแทรกปลายลิ้นมาพัวพันกับเธอ ทำเอาร่างบางสั่นเทา...มือหนาของเขาจับเอวและแผ่นหลังไว้แน่น พยายามจะไม่แตะต้องบาดแผลของเธอ สัมผัสอบอุ่นอ่อนหวาน...เร่าร้อน เต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา ทั้ง ๆ คู่ผละถอยห่างออกจากกันช้า ๆ จีนามองตาดวงตาสีนิลเป็นประกายราวกับราตรีที่มีแววลึกซึ้งอ่อนโยน

“รู้หรือเปล่า ว่าการจูบกับผู้ชายแล้วมันจะเป็นยังไง”

จีนาแก้มเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ

ทำไมจะไม่รู้...เธอโตจนป่านนี้แล้วนะ

“รู้สิ...” เธอตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก

วาเลนติโนก้มหน้าแล้วเหยียดยิ้มน้อย ๆ จีนาพยายามทำให้ตัวเองดูเข้มแข็ง ภายนอกเขาอาจจะคิดว่าเธอง่าย..เกินไป แต่ความจริงแล้วเธอไม่เคยเลยแม้แต่จะให้ผู้ชายมาแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้ว

“แต่ฉันยังไม่คิดถึงขั้นนั้น จนกระทั่งมาเจอคุณ...”

“จีนา คุณยังไม่รู้จักผู้ชายดีพอ”

“รู้สิ ฉันรู้จักผู้ชายดีด้วยซ้ำ” เธอเถียง “ฉันคิดว่ารู้จักผู้ชายดีพอ ยกเว้นคุณซึ่งเป็นคนแรกที่ฉันรู้จัก แต่ความจริงแล้วฉันไม่รู้จักคุณเลยแม้แต่นิดเดียว”

วาเลนติโนไม่ตอบว่าอะไร เขาไม่เงยหน้ามองเธอและใส่ยาล้างแผลล้างคราบเลือดออกจนหมด เขาหยิบยาใส่แผลมาใส่ให้เธอ จากนั้นก็หยิบเอาผ้าพันแผลมาพันให้โดยที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ จีนาพยายามมองหน้าเขา และอยากจะให้เขาตอบเธอบ้างในสิ่งที่เธอไม่เคยรู้ รู้เพียงแต่ว่าเขาชื่อวาเลนติโน ทำธุรกิจ...

แค่นี้เท่านั้นเอง...

*******************




เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2557, 12:28:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ค. 2557, 12:28:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1248





<< บทที่ 10 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ   
Zephyr 22 พ.ค. 2557, 20:35:24 น.
อมพะนำเข้าไปเถอะ
เดี๋ยวตอนรู้ความจริงจะหนาว


เบลินญา 23 พ.ค. 2557, 09:32:50 น.
คุณ Zephyr ในร้ายมาก 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account