แก้วขวัญวันรัก
เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องที่ต้องตามล่าหาแฟนให้ได้ภายในสามเดือน ก่อนที่จะถูกจับคลุมถุงชนกับเจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า ดังนั้นภารกิจ และปฏิบัติการลับของการตามหาแฟนจึงเริ่มข้น
แต่ติดปัญหาที่แก้ไม่ตกนั่นคือ

คนหนึ่ง ขี้เหวี่ยงขี้วีน คบกับผู้ชายได้ไม่เกินหนึ่งวัน ผู้ชายคนนั้นต้องหนีเปิง เจ้าของฉายา
“สวยเหวี่ยงวีน”

คนหนึ่ง ซุ่มซ่ามจอมโก๊ะ เจ้าของฉายา “สาวโก๊ะมหาวิบัติ”

คนหนึ่ง ด้านชาต่อความรัก ไร้ความรู้สึกกลับความรัก เจ้าของฉายา “ดอกไม้น้ำแข็งไร้อารมณ์”

และอีกคนหนึ่ง สาวสวยหมดเท่ แต่ใจเธอคือหญิงแท้ แต่กลัวการมีความรัก เจ้าของฉายา
“เจ้าสาวกลัวฝน”

Tags: สี่สาว รักแท้ ความรัก การตามหา

ตอน: 2 เนื้อคู่อยู่ที่ไหน

2
เนื้อคู่อยู่ที่ไหน



ช่วงสายวันเสาร์ที่ร้อนระอุ ภาวะรถติดยิ่งทำให้ความร้อนรู้สึกเหมือนร้อนมากขึ้น แอร์ในรถแม้จะเย็นฉ่ำใจ แต่ภาวะจิตในของสี่สาวที่นั่งอยู่ในรถเบนซ์สีขาวกำลังร้อนดังมีไฟมาสุมในอก โดยเฉพาะรักจิราที่ถูกปลุกขึ้นมาแต่เช้าเพื่อไปพบหมอดู ปกติเธอทำงานก็ไม่ค่อยได้หยุดอยู่แล้ว ยังจะมาโดนปลุกแบบนี้มันยิ่งทำให้เธอโมโห แก้วกัลยาผู้มีเสียงดังนกหวีดบุกเข้ามาในห้องเธออย่างถือวิสาสะและพยายามปลุกเธอด้วยพละกำลังของเสียง ในที่สุดเธอก็แพ้และต้องมานั่งอยู่ในรถ ขวัญชีวันมองรักจิราที่นั่งถอนหายใจเฮือกฮากและส่งโหลคุกกี้ที่ถือติดมือส่งให้รักจิราที่รีบคว้าไว้ในทันที

“เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าให้แกตื่นแต่เช้าเป็นไงล่ะรัก” แก้วกัลยาเอ่ยบ่น และพร่ำโทษเธอ

“ก็เค้าบอกตัวแล้วนะเจ็แก้วว่าเค้าไม่ไป ตัวรู้ไหมว่าเค้าต้องนั่งพิมพ์งานส่งโรงพิมพ์ให้ทันมันเหนื่อยแค่ไหน แล้วเจ๊ผึ่งยังตีงานกลับมาให้เค้าเขียนใหม่ กว่าเค้าจะได้นอน ตัวรู้ไหม แล้วเค้าก็บอกแล้วว่าเค้าไม่เชื่อหรอก หมอดูคู่กะหมอเดาตัวเคยได้ยินไหมเจ๊แก้ว”

“แต่หมอดูแม่นมาก ฉันจองลัดคิวให้พวกแกได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้แหละไปด้วยกัน จะได้รู้ไงว่าพวกแกจะเจอเนื้อคา จะหาแฟนทันในสามเดือนไหม” ในที่สุดรถก็เคลื่อนออกจากถนนที่อัดแน่นไปด้วยรถนี่ แก้วกัลยาขับรถลัดเข้าซอยไปมา ในที่สุดก็เข้ามาถึงซอยแห่งหนึ่งที่มีรถจอดอยู่เต็มทางสองข้างทาง จุดหมายของทุกคนเดินไปที่บ้านเรือนไทยด้านในสุดซอย ที่ตั้งของตำหนักชะตาฟ้า ที่มีแม่หมอคัคนางค์ แม่หมอที่ดูดวงชะตาด้วยหลากหลายวิธี โดยวิธีที่ทำให้แม่หมอคนนี้เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงคือจิตสัมผัส เพียงแตะมือแม่หมอคนนี้ก็ทำนายทายทักได้ทุกอย่าง แต่วันหนึ่งแม่หมอจะดูให้เพียงสิบเก้าคนเท่านั้น และคนที่ได้เข้าไปดูก็ต้องผ่านการจองคิว หรือบางทีแม่หมออาจเลือกจากการใช้จิตสัมผัส รักจิรามองคนที่มีทั้งหนุ่มสาว คนชรา หรือคนวันทำงานยืนออกันอยู่ที่ศาลาด้านล่าง รักจิราคิดในใจว่าคนพวกนี้งมงาย แม่หมออะไรก็แค่หมอดู นี่แต่ตำหนักหมอดู ตอนแรกเธอคิดว่าตำหนักคนทรงเสียอีก แก้วกัลยาพาเธอเดินมาหยุดอยู่ที่บ้านเรือนไทยขนาดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวน รอบ ๆ เรือนไทยเงียบสงบไม่เหมือนอาณาเขตด้านนอก ที่หน้าชานบันไดมีหญิงสาวในชุดไปรเวตธรรมดายืนอยู่ ดูอายุน่าจะสักสิบแปดสิบเก้า รักจิราส่ายหน้า

“คุณสี่คนคือคนที่หมอฟ้านัดสินะคะ” แก้วกัลยาพยักหน้า ทั้งสี่เดินขึ้นไปด้านบนเมื่อประตูเรือนเปิดออก ทั้งสี่เดินเข้าไปด้านในตอนนี้ด้านในตามมุมโต๊ะรอบ ๆ เรือนไทยมีคนนั่งอยู่ประมาณเกือบสิบคนเหมือนกำลังรอคิว เด็กสาวคนนั้นเดินไปเปิดประตูห้อง ๆ หนึ่งให้สี่สาวเข้าไป รักจิราสำรวจมองในใจเธอตอนแรกคิดว่าอาจจะมีโต๊ะตั้งบูชาเหมือนพวกหมอไสยเวทย์ แต่สิ่งที่เห็นภายในห้องโล่งมีเพียงโต๊ะหมู่บูชาชุดหนึ่งที่ตั้งอยู่มุมห้องด้านใน และแม่หมอสาวที่ว่านั่งอยู่บนพื้นที่หน้าโต๊ะไม้อีกมุมหนึ่งของห้อง แก้วกัลยาพาลูกพี่ลูกน้องกราบไว้พระตามระเบียบของตำหนักชะตาฟ้าแห่งนี้ และเดินมานั่งอยู่ที่พรหมสีน้ำเงินที่หน้าโต๊ะของแม่หมอสาวสวยที่ท่าทางอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับรักจิรา หรือบางทีอาจจะอ่อนกว่าด้วยซ้ำ เธอสวมเพียงชุดสีขาวที่ดูสุภาพ ไม่ใช่แต่งแบบโบฮีเมียน แบบพวกยิปซี หรือพวกนุ่มขาวห่ามขาวแบบคนบวชชีพราหมณ์ เป็นชุดสีขาวสบาย ๆ จนรักจิราแปลกใจ แม่หมออายุน้อยคนนี้ชื่อคัคนางค์ ทุกคนจะเรียกหมอฟ้าตาทิพย์ หรือบางคนที่นับถือจะเรียกอาจารย์ฟ้า คัคนางค์มองไปที่รักจิราที่กำลังมองเหมือนจับผิดเธออยู่

“ฉันรู้คุณคิดอะไรอยู่คุณรักจิรา” รักจอรามองคนที่เรียกชื่อเธอ และพรางคิดไปว่าแก้วกัลยาคงบอก

“คุณคิดว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋น แม่หมออะไรท่าทางไม่ขลังเลย ฉันพูดถูกไหม” สามสาวที่นั่งขนาบข้างน้องเล็กหันมามองทันที คัคนางค์ยิ้มเมื่อคนทายถูก เพราะรักจิราไม่ใช่คนแรกที่มองเธอแบบนี้

“แล้วมันจริงไหมล่ะ”

“ไอ้รัก!!!” แก้วกัลยาอยากจะตบปากน้องสาว

“ก็แล้วแต่คนจะคิด เพราะฉันไม่เคยบอกว่าฉันคือผู้วิเศษ เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า พวกคุณสามคนต้องให้ให้ฉันดูดวงให้ใช่ไหมคะ ว่าอีกสามเดือนข้างหน้าพวกคุณจะมีแฟนไปโชว์ให้กับอากงคุณดูไหม” คราวนี้ทั้งสี่ตาโตทันที รักจิรายังวางท่าทีไม่เชื่อและมองแก้วกัลยาที่ส่ายหน้าเป็นเชิงว่ายังไม่เคยบอก

“ถูกสินะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันเริ่มที่คุณเลยละกันนะคะ คุณวันวิวาห์” วันวิวาห์ยังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไร แต่แก้วกัลยาสะกิดแขนให้ขยับไปนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะ วันวิวาห์ยังคงสบตากับคัคนางค์เหมือนกำลังหาคำตอบ เพราะตัวเธอเองก็คิดเหมือนรักจิรา แต่เพียงไม่พูดออกมา

“วางมือลงสิคะ” วันวิวาห์ทำตามโดยลงมือลงที่หมอนรองสีแดง คัคนางค์แตะมือลงที่มือของเธอและหลับตาลง วันวิวาห์รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าจากร่างกายเธอถูกถ่ายออกไปให้กับคัคนางค์ เธอรู้สึกชาไปวูบหนึ่งจนคัคนางค์ลืมตาขึ้นและยิ้มให้กับเธออีกครั้ง คัคนางค์เอามือออกวันวิวาห์จึงชักมือกลับมา

“ก่อนฉันจะบอกสิ่งที่ฉันเห็น และสามารถบอกคุณได้ ฉันขอทายว่าคุณเป็นหมอ” วันวิวาห์พยักหน้าเป็นคำตอบเท่านั้น และยังคงไม่ได้เชื่อกับคำพูดของคัคนางค์

“จิตของคุณมีความเยือกเย็น มีความนิ่งกว่าคนทั่วไป คุณเป็นผู้หญิงที่ไร้ความรู้สึกต่ออารมณ์อ่อนไหว ต่อความรัก ต่อทุกอย่าง คุณมีแม่ แต่แม่คุณพิการ คุณทุ่มเททุกอย่าง ยอมเรียนหมอ ไม่สนใจสิ่งใด จนมันหลอมรวมให้คุณกลายเป็นคนเย็นชา และด้านชา ฉันพูดถูกไหม”

“คุณเรียนจิตวิทยามา” วันวิวาห์เอ่ยขึ้น คัคนางค์ยิ้มออกมา

“สมกับเป็นพี่น้องกัน คุณรู้ไหมเมื่อวานคุณแก้วกัลยามาหาฉันเค้ามีท่าทางแบบคุณเปี๊ยบเลยคุณรักจิรา ระแวง คอยจับผิดว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋นไหม ต่อมาพอฉันบอกนิสัยเขาไปเขาก็ถามแบบคุณคุณวันวิวาห์”

“แล้วมันจริงไหมล่ะคะ”

“ค่ะ ฉันเรียนจิตวิทยา แถมให้อีก ฉันเป็นหมอบำบัดจิต สิ่งที่ฉันพูดคือสิ่งที่ฉันวิเคราะห์ได้ตั้งแต่พวกคุณก้าวเข้ามา และลองสังเกตดู และแน่นอนฉันไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง”

“ถ้าไม่อยากหาผลประโยชน์ให้ตัวเองคุณมาเปิดตำหนักหมอดูนี่ทำไม”

“ไอ้รัก” แก้วกัลยาอยากจะขยับไปบีบคอยัยน้องปากเสียเหลือเกิน “ตำหนักชะตาฟ้า เป็นตำหนักเคยที่ตรวจชะตาของบ้านเมืองในอดีต มันตกทอดการมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า คุณฟ้าเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลจึงรับหน้าที่ต่อจากครอบครัว คือช่วยตรวจชะตา คอมชี้ทางแห่งกุศล นั่นคืองานของตำหนักชะตาฟ้า ไม่ได้ต้มตุ๋น ไม่ได้หลอกเอาเงินแบบพวกหมอผีหรอกน่า แกรู้ไหมปกติตำหนักชะตาฟ้าไม่ได้เปิดทุกวันหรอก แต่มันเป็นโชคชะตาที่ฉันมาเมื่อวันก่อนแล้วตำหนักชะตาฟ้าเปิด ตามจริงตำหนักชะตาฟ้าเปิดเฉพาะวันพระเท่านั้น มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ”

“เจ๊แก้วตัวอย่ามางมงายหน่อยเลย”

“คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะฉันไม่เคยบังคับใครให้เชื่อ แต่ที่แน่ ๆ ฉันไม่ใช่พวกแม่มด หมอผี ไม่ได้ขายของขลังอย่างที่คุณคิดอยู่หรอกนะคะคุณรักจิรา” เป็นอีกครั้งที่รักจิราทำหน้าเหวอ รู้สึกเหมือนโดนอ่านใจ แต่กลัวเสียฟอร์มจึงยังคงทำหน้านิ่ง ๆ ไว้

“เมื่อครู่ที่คุณบอกว่าคุณเห็น คุณจะบอกว่าคุณเห็นอนาคตได้งั้นหรือคะ”

“ก็ไม่เชิงค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณเห็นอะไร” วันวิวาห์มองคัคนางค์ด้วยสายตาเฉียบคม ถ้าคนตรงหน้าเป็นคนร้ายคงแพ้ไปแล้ว แต่คัคนางค์ยังคงยิ้มหวาน และเอ่ยตอบ

“ฉันบอกไม่ได้หรอกค่ะว่าฉันเห็นอะไร ฉันจะตอบคำถามสิ่งที่ทำให้พวกคุณมาที่นี่ คุณสี่คนต้องการรู้ว่าอีกสามเดือนข้างหน้าคุณมีแฟนไหม แน่นอนคุณวันวิวาห์ ฉันดีใจกับคุณด้วย คุณจะมีแฟน แถมแฟนคุณคนนี้หล่อมาก” สามสาวที่นั่งอยู่ข้างหลังถึงกับอุทาน ‘อุบ๊ะ’ ออกมากันเลยทีเดียว

“เขาเป็นใครคะ”

“ฉันบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร แต่จะมีผู้ชายสองคนเข้ามาพัวพันในชีวิตคุณ แต่จะมีคนเดียวที่จะคบกับคุณ และได้แต่งงานกับคุณ เขาเป็นคู่บุญของคุณเลยล่ะ”

“ไม่จริง” วันวิวาห์ที่ไม่เชื่ออยู่แล้วพอได้ยินคำพูดของคัคนางค์ก็เผลอปากพูดออกมา

“แล้วคุณจะเชื่อฉัน ฉันบอกไม่ได้ว่าคนไหน เขาเป็นใคร เพราะมันเป็นการฝืนลิขิตสวรรค์ แต่เขาคนนี้จะมาเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างของคุณ ฉันบอกได้เท่านี้ คุณอยากรู้อะไรอีกไหมคะ”

“พ่อฉันอยู่ไหน” สามสามอ้าปากกับคำถามของวันวิวาห์

“ฉันรู้ แต่ฉันบอกไม่ได้ แต่อีกไม่นานคุณจะได้รู้แน่นอน แม่ของคุณ พาท่านเข้าวัด ทำบุญ ฟังเทศน์ ฟังธรรมบ่อย ๆ จิตใจของท่านจะได้สงบและสบาย การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ก็มีแต่ตัวเราที่จะรับผลแห่งทุกข์นั้น ฉันอยากให้คุณและแม่คุณปลดตัวเองออกจากความทุกข์ มองโลกอย่างที่มันควรจะเป็นไป ถ้ารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ก็ควรปล่อยวาง วิธีการดับทุกข์มันง่ายนิดเดียว แต่ตัวคุณทำไม่ได้ เอาเป็นว่าฉันจะบอกอีกนิด อีกไม่นานคุณจะเจอสิ่งที่คุณตามหา แต่จงรออย่างใจเย็น รออยากเป็นสุข เชิญคุณขวัญชีวันค่ะ” วันวิวาห์อ้าปากจะถามแต่เพราะคัคนางค์เปลี่ยนมาเรียกชื่อขวัญชีวันเธอจึงยอมถอยหนี ขวัญชีวันขยับมานั่งแทน ขวัญชีวันก้มหน้าไม่กล้าสบตาคัคนางค์ ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อแก้วกัลยาแต่ยอมมาเพราะหนไม่ได้ แต่พอเข้ามาถึงในห้องนี้ความเย็นสบาย ความสงบ รวมถึงเธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาด แต่เธอก็ตอบไม่ถูกว่ามันคืออะไร

“ขอมือค่ะ” คัคนางค์ยิ้มส่งให้กับขวัญชีวันที่ตอนนี้ยอมเงยหน้าขึ้นมองเธอ แต่ก็หลบตาอีกตามเคย คัคนางค์วางมือลงบนมือของขวัญชีวัน ความรู้สึกคล้ายกับความรู้สึกของวันวิวาห์เกิดขึ้นอีกครั้ง คัคนางค์ลืมตาขึ้นและปล่อยมือออก รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยอีกตามเคย

“ปกติฉันไม่ค่อยดูดวงด้วยจิตสัมผัสเท่าไหร่ แต่พวกคุณสี่คนพิเศษจริง ๆ พิเศษจนยอมให้คุณลัดคิวคนที่จองเป็นปี คุณคิดว่าตัวคุณคือตัวซวยใช่ไหมคะ”

“พูดบ้าอะไร” รักจิราของขึ้นแทนซะงั้น แต่แก้วกัลยาและวันวิวาห์ก็เข้ามาล็อคแขนของรักจิราไว้เพราะกลัวแม่ตัวดีจะเข้าไปบีบคอคัคนางค์เสียก่อน

“ใช่ไหมคะคุณขวัญชีวัน” ขวัญชีวันพยักหน้า

“คุณคงไม่รู้ตัวคุณมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่เสมอ คุณเป็นคนจิตใจดี ไม่มีทางเป็นตัวซวยแน่นอนค่ะ เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การที่คุณมีแผล ได้แผลต่าง ๆ ก็เพราะแค่คุณออกจะ...ซุ่มซ่ามไปนิด แต่ถ้าคุณหมั่นใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท ยึดถือสติเป็นที่ตั้ง ชีวิตคุณจะปลอดภัยเอง”

“แล้วเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ชายที่เข้าใกล้ฉันล่ะคะ”

“มันเป็นดวงของพวกเขา มันอาจจะเป็นเหมือนเรื่องบังเอิญ ความบังเอิญของโชคชะตา พวกเขาไม่ใช่คู่บุญ เป็นเพียงคนที่เข้ามา แล้วผ่านไป แต่ชีวิตของคุณกำลังจะเปลี่ยนไป อีกสามเดือนข้างหน้าคุณจะได้พบเขา ผู้ชายที่คุณรอคอย และเขาก็รอคอยคุณ แต่หนทางอาจจะลำบาก อาจถึงขั้นเสียเลือดเสียเนื้อ ถ้าเขารอด คุณและเขาจะมีความสุข”

“หมายความว่าฉันจะได้เจอเนื้อคู่” ขวัญชีวันถาม

“ใช่ค่ะ แต่อาจต้องประสบกับเคราะห์กรรม ทำให้ความรักของคุณติดขัด แต่ถ้าคุณใช้สติในการแก้ปัญหาทุกอย่างจะผ่านไปได้แน่นอนค่ะ สำคัญสุด ๆ ดวงคุณมีผู้ชายเข้ามาเยอะมาก แน่นอนว่าหลังจากนี้ เชิญคุณรักจิราค่ะ” ขวัญชีวันอยากจะถามต่อ ว่าคนซุ่มว่ามอย่างเธอจะมีผู้ชายเข้าใก้ลอีกหรอ แต่รู้ว่าถามไปแม่หมอตาทิพย์คนนี้ต้องไม่ตอบแน่ จึงขยับกลับมานั่งที่ด้านหลังเหมือนเดิม ส่วนรักจิรายังไม่ยอมขยับไปนั่งแทนขวัญชีวันยังนั่งนิ่ง เพราะเธอเป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่แก้วกัลยาก็หยิกเข้าที่แขนของรักจิรา ทำให้รักจิราต้องขยับไปนั่งสบตากับคัคนางค์อย่างไม่ค่อยพอใจนัก

“มือค่ะ”

“คุณไม่จับมือฉันแต่มองตาฉันแทนได้ไหมคะ” คัคนางค์ยิ้ม แก้วกัลยาขยับมานั่งข้าง ๆ และกับมือของรักจิราไปวางบนบนโต๊ะและล็อคไว้ไม่ให้ขยับ และขมุบขมิบปากที่ทาสีแดงดั่งเลือดว่า ถ้าเอาออก ...ตาย... รักจิราที่โดนเล็บมือของแก้วกัลยาจิกเข้าที่คอจึงไม่ขยับมืออก คัคนางค์วางมือลงที่มือของรักจิรา รักจิรานิ่งลงเมื่อรับรู้ถึงกระแสประหลาดจากร่างกาย

“คุณกำลังจะไปทำงานที่เกาะดารา”

“ใครบอกคุณ”

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันรู้ คุณไม่ได้อยากรู้เรื่องเนื้อคู่ ไม่ได้อยากรู้ว่าอีกสามเดือนจะหาแฟนได้ไหม แต่คุณอยากรู้ว่าฉันมองเห็นอนาคตจริงไหม ฉันบอกไม่ได้ว่าจริงไหม แต่ฉันจะบอกจุดประสงค์ที่พี่สาวคุณพาคุณมาแล้วกัน คุณรักจิรา เจ้าสาวกลัวฝน ไม่กล้ารักไม่กล้ามีแฟน กลัวเสียใจ กลัวเจ็บปวด เลยไม่ยอมมีแฟน ฉันพูดถูกไหม” รักจิราไม่ตอบ เป็นการยืนยันไปในตัวว่าสิ่งที่คัคนางค์พูดเป็นความจริง

“เนื้อคู่ของคุณเป็นคนใกล้ตัว เป็นคนเคยรู้จัก”

“ใคร” รักจิราถามขึ้นมาทันที

“บอกไม่ได้ค่ะ แต่แน่ ๆ คือคุณรู้จักเขาเป็นอย่างดี ฉันแนะนำนะคะ อย่ากลัวอะไรที่มันยังไม่เกิด แม่คุณเธอเสียชีวิตก็เพรากรรมเก่า หมดบุญ หมดวาสนาแล้ว แต่คุณไม่เหมือนกัน เปิดใจให้กว้างถ้าพบเขา ฉันมีอีกอย่างจะเตือนคุณ อีกไม่นานจะมีคนเอาเคราะห์มาให้คุณ”

“เคราะห์?”

“ใช่ค่ะ เคราะห์หนักด้วย ยังไงก็ระวังตัวไว้บ้าง คนรอบข้างคุณอาจล้มหาย ตายจาก อาจเจ็บไข้ได้ป่วย ให้คุณเดาได้เลยว่าจะมีบางอย่างกำลังเกิดกับคุณ ฉันบอกได้เท่านี้” รักจิราอยากถามต่อแต่โดนแก้วกัลป์ยาผลักให้หลีกทางไป และเธอก็เข้ามานั่งแทน คัคนางค์มองสาวคนสุดท้ายด้วยรอยยิ้ม แก้วกัลยาส่งมือให้กับคัคนางค์ แต่คัคนางค์กับไม่ยอมจับมือของเธอเหมือนกับพี่น้องทั้งสาม

“คุณจำได้ไหมคุณแก้วกัลยาเมื่อวันก่อนที่คุณมาพบฉัน แล้วฉันดูดวงให้คุณแต่ไม่ได้ใช่จิตสัมผัส ฉันดูดวงคุณโดยไพ่ยิปซี เป็นการดูดวงแบบธรรมดา คุณรู้ไหมเพราะอะไร” แก้วกัลยาส่ายหน้า

“เพราอะไรคะ”

“ฉันดูดวงคุณไม่ได้” แก้วกัลยาอ้าปากค้าง เมื่อวันก่อนที่เธอมาดูดวง เธอได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อน เธอเลยจองคิวไว้ แต่ด้วยความที่สถานการณ์เร่งรัด เธอเลยบุกมาทันที ตำหนักที่ควรจะปิดกับเปิดต้อนรับเธอ ใคร ๆ ก็ยืนยันความแม่น เธอเองก็ไม่เชื่อ แต่เพราะคำพูดหลาย ๆ อย่าง บวกกับความลับของตัวเธอที่ไม่มีใครรู้ แต่คัคนางค์กับรู้ เธอเลยเชื่อสนิทใจ เธอขอให้คัคนางค์ดูโดยใช้จิตสัมผัสให้บ้าง คัคนางค์บอกกับเอให้พาพี่น้องเธอมาวันเสาร์ แล้วเธอจะดูให้ ดังนั้นวันนั้นเธอจึงได้ดูดวงแบบธรรมดาเท่านั้น
“ทำไมคะ ทำไมสามคนนั้นถึงดูได้”

“จิตคุณแข็งมาก แถมตั้งแต่คุณเข้ามา ฉันมองตาคุณมันมีแต่หมอกควัน ฉันคิดว่าใช้จิตสัมผัสก็คงมองไม่เห็น คุณแปลกจริง ๆ ฉันมองไม่เห็นเนื้อคู่ของคุณ”

พ่าง!!! สามสาวพากันอ้าปากค้าง ส่วนแก้วกัลยารู้สึกช็อคมากกว่า มองไม่เห็น หรือไม่มีนั่นคือสิ่งที่เธออยากรู้มากกว่า แก้วกัลยามองคัคนางค์

“ก็วันนั้นหมอฟ้าบอกว่าฉันจะเจอเนื้อคู่ในงานการกุศล”

“ไพ่บอกค่ะ ฉันไม่ได้บอก ไพ่ยิปซีเป็นศาสตร์ความเชื่อทำนายจากหน้าไพ่ หน้าไพ่ว่ายังไงฉันก็บอกคุณอย่างนั้น แต่จิตสัมผัสของฉัน ฉันสัมผัสถึงเนื้อคู่คุณไม่ได้ มันเหมือนมีหมอกบังไว้ หน้าแปลก แปลงมาก ๆ ฉันถึงนัดคุณมาวันนี้ เพราะวันนี้เป็นวันพระอาจจะทำให้ฉันมองเห็นชัดขึ้น แต่ฉันก็มองอะไรไม่เห็น”

“แล้วฉันจะเจอเนื้อคู่ ฉันจะหาแฟนได้ไหมคะ”

“ฉันเองก็ตอบไม่ได้ คุณเป็นคนที่มีดวงชะตาหนักแน่นมาก เหมาะกับการใช้ชีวิตคนเดียวเสียมากกว่า แต่โชคชะตาคุณอาจผกผันได้ตลอดเวลา ฉันเห็นแค่ภาพความฝัน ภาพการงาน แต่ฉันมองไม่เห็นเนื้อคู่...” รักจิรามองพี่สาว ใจก็อยากจะปลอบ แต่เจอแบบนี้รักจิราแอยากรู้ว่าพี่สาวตัวเองจะอาละวาดไหม

“ไม่จริง เธอโกหก ฉันจะไม่มีเนื้อคู่ได้ยังไง ฉันเจอแล้ว” สรรพนามที่เรียกเปลี่ยนไปทันที

“เนื้อคู่มีสองแบบ คู่บุญ กับ คู่กรรม แต่ฉันมองไม่เห็นทั้งคู่บุญ หรือคู่กรรมคุณเลย ที่ฉันพูดไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่พบเนื้อคู่ ฉันแค่มองไม่เห็น เอาเป็นว่าตอนนี้คุณคิดจะทำอะไรอยู่ มันจะสำเร็จ แต่มันจะเป็นผลระยะยาวหรือระยะสั้น ฉันก็ตอบไม่ได้ ชะตาของคุณมันไม่นิ่งเลย มันมีเปลี่ยนตลอดเวลา ฉันเลยฟันธงไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ ดวงคุณเป็นดวงที่ดี เป็นดวงที่จะพบแต่ความสำเร็จ”
“แต่ฉันอยากรู้ว่าฉันจะเจอเนื้อคู่ไหม”

“ฉันมองไม่เห็น เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากรู้ฉันจะลองดูให้อีกที” และคัคนางค์ก็วางมือลง ใบหน้าที่สงบนิ่งดูเครียดขึงขึ้นมาทันที และส่ายหน้าไปมา ดวงตาสวยลืมขึ้นรอยยิ้มไม่ปรากฏเช่นทุกครั้ง

“ขอบโทษจริง ๆ นะคะ ฉันมองไม่เห็น”

“ลวงโลก” อยู่ ๆ แก้วกัลยาก็โพล่งออกมา “ฉันไม่น่ามาให้เสียเวลาเลย เป็นไปไม่ได้ฉันจะไม่เจอเนื้อคู่ ฉันต้องเจอสิ และฉันเจอแล้ว ฉันไม่เชื่อแล้ว กลับบ้านรัก วัน ขวัญ ไม่ดงไม่ดูมันแล้ว” แล้วแก้วกัลยาก็ปึงปังออกไป รักจิรามองพี่สาวที่คะยั้นคะยอให้มาพอไม่ได้ดั่งใจก็ปึ่งปังออกไป ก็นิสัยแบบนี้ผู้ชายที่ไหนจะชอบ รักจิราคิดในใจและหันกลับมามองคัคนางค์

“คุณไม่เห็นจริง ๆ หรอ” รักจิราตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่เริ่มเอนเอียงมานิดหน่อยแต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นถามขึ้น

“ค่ะ เป็นดวงที่แปลก แปลกมาก ๆ อะไรก็ดีไปหมด แต่ฉันมองไม่เห็นเนื้อคู่ ดวงคุณแก้วเหมาะกับการใช้ชีวิตคนเดียวมากกว่า แต่ดวงของคุณแก้วก็ไม่ใช่คนไร้คู่ บางทีอาจจะโดยอะไรบางอย่างบังไว้ทำให้มองไม่เห็น บางทีอาจเป็นจิตของคุณแก้วกัลยาเองที่บังไว้”

“คุณคิดว่าสิ่งที่คุณพูดมามันจะเป็นจริงแค่ไหน”

“ฉันบอกไม่ได้ว่าสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริงไหม เอาเป็นว่าอีกสามเดือนข้างหน้าถ้าพวกคุณสามคนมีแฟน ฉันยอมพังตำหนักฉันทิ้ง ยอมประกาศว่าตัวเองเป็นพวกลวงโลก แต่ถ้าจริงคุณต้องทำบุญให้กับวัดในชนบทให้คบเก้าวัด ทำความดีเพื่อสังคมเป็นการจ่ายแทน”

“ทำบุญ แค่นั้น”

“ค่ะ ฉันไม่คิดเงินอยู่แล้ว ที่ได้มาก็แค่ความศรัทธา ฉันต้องการความดีเป็นการตอบแทน”

“ก็ได้ ถ้าอีกสามเดือนมันไม่เป็นอย่างที่คุณพูด คุณอย่าลืมทำตามที่พูดแล้วกัน กลับเถอะ ป่านนี้เจ๊แก้วอาวะวาดแล้ว เดี๋ยวไปตกมันวิ่งไล่คนขึ้นมาจะยุ่ง” แล้วรักจิราก็เดินออกมา ขวัญชีวันก็ไม่วายสะดุดล้มที่หน้าประตูจนรักจิราต้องช่วยพยุงขึ้นให้เดินต่อ วันวิวาห์หันมามองคัคนางค์อีกครั้ง

“ฉันจะได้เจอพ่อใช่ไหมคะ” คัคนางค์ยิ้มและพยักหน้า เธอตอบเพียงแค่นั้น วันวิวาห์จึงยอมเดินออกไป





“บ้าเอ๊ย!!! มาบอกว่าฉันไม่มีเนื้อคู่ ฉันอุตส่าห์เชื่อ ที่แท้ก็หมอดูเก๊ ไม่น่าเลย เสียเวลา ๆ พูดมาได้พวกแกสามคนได้เจอเนื้อคู่กันหมด แต่ฉันดวงไร้คู่ ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังช็อคอยู่ ไม่เห็นว่าลูกศิษย์แม่คุณที่มีร้อยกว่าเท้า ฉันด่าแล้ว โธ่เอ๊ย”

“หมอฟ้าเค้าก็ไม่ได้บอกว่าแก้วจะไม่เจอเนื้อคู่นะ เธอแค่บอกว่ามองไม่เห็นเฉย ๆ นะแก้ว” ขวัญชีวันเอ่ย คนที่ขับรถขากลับเป็นวันวิวาห์ เพราะถ้าให้แก้วกัลยาขับมีหวังได้ขับไปชนท้ายรถนั้นอื่นเขาแน่นอน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ใช่ ๆ หมอฟ้าของตัวไม่ได้บอกตัวสักคำว่าตัวจะไม่เจอเนื้อคู่ แค่บอกว่ามองไม่เห็น บางทีอาจจะยังไม่มา บางทีอาจเป็นอาเฮียจิว ลูกของเสี่ยกรก็ได้ ใกล้ตัวเกินเลยมองไม่เห็น” รักจิราเอ่ยไม่วายที่จะหัวเราะ แก้วกัลยารู้สึกเหมือนเลือดขึ้นหน้าจะพุ่งตัวไปบีบคอรักจิราที่นั่งอยู่ข้างคนขับ แต่ขวัญชีวันก็ล็อคแจนไว้ก่อน

“พอแล้ว ๆ เอาน่าจะเครียดไปทำไมแก้ว เธอเชื่อมั่นไม่ใช่หรอว่ารักแท้มีอยู่จริง คนที่เชื่อสักวันต้องได้พบรักแท้ แก้วเชื่อมั่นไม่ใช่หรอ แล้วแก้วจะกลัวอะไร”

“แต่เค้าว่านะกว่าเจ๊แก้วจะเจอเนื้อคู่ เค้าว่าคงเลยกำหนดสามเดือน ตัวได้แต่งงานกับเฮียจิวก่อนแน่นอน” รักจิรายังไม่หยุดยิ้มหัวเราะ

“ไอ้รัก!!!!”

“แก้ว!!!!” แก้วกัลยาพุ่งตัวไปล็อคคอรักจิราไว้ รักจิราได้แต่ปัดป่ายมือไปมา

“พอแล้วแก้ว รักไม่ได้ตั้งใจ แก้วพอเถอะนะ” แล้วแก้วกัลยาก็ยอมปล่อยมือที่ล็อคคอรักจิราไว้ออก ใบหน้าคละเคล้าไปด้วยความกรุ่นโกรธที่ระงับไว้ไม่อยู่

“แค่ก ๆ โห พูดเล่นนิดเดียว ต้องถึงกับฆ่าน้องเลยหรอ เจ๊แก้ว เค้าบอกตัวแล้วว่าหมอดูคู่กับหมอเดา เจ๊จะไปคิดอะไรมาก เรื่องดีก็เชื่อไป เรื่องไม่ดีก็ไม่เชื่อก็จบแล้ว เจ๊คิดมากไปทำไม”

“แกไม่รู้หรอกว่าหมอฟ้าแม่นแค่ไหน ถ้าเกิดฉันไม่เจอเนื้อคู่ขึ้นมาจะทำยังไง”

“เจ๊ก็หาเรื่องไปจัดงานแฟชั่นโชว์ที่โน่นสิ ยังไงเจ๊ก็เป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง หาเรื่องไปจัดงาน องกงไม่รู้หรอก”

“ไม่ ฉันไม่หนีแน่ และตอนนี้ฉันจองคุณเพชรไว้แล้ว ยังไงฉันจะไม่ยอมพลาด เนื้อคู่ชาติที่แล้วไม่ตามมา ชาตินี้ฉันจะสร้างเนื้อคู่ใหม่เองก็ได้ ถ้าพรหมไม่ลิขิต แก้วกัลยาจะลิขิตเอง ให้ตายยังไงฉันจะต้องเอาคุณเพชรไปอวดอากงให้ได้ อากงดูถูกฉันไว้ ว่าฉันคบกับใครมาเกินหนึ่งวัน ยังไงฉันต้องทำให้อากงเห็น คนอย่างแก้วกัลยา สวย เริ่ด เชิด รวย ยังไงก็จะเอาคุณเพชรมาให้ได้” ทั้งหมดมองปณิธานอันแรงกล้าของแก้วกัลยาแล้วรู้สึกขนลุกประหลาด เวลาเจ้าตัวตั้งใจจะทำอะไรแบบนี้ พวกเธอรู้สึกถึงลางไม่ดี


....ติดตามตอนต่อไป....



แก้วขวัญวันรักเป็นเรื่องราวของสาว ๆ สี่คู่ที่อยู่ในเรื่องเดียว แต่รับรองว่าไม่งงแน่นอน จะไม่งงยังไงต้องรอติดตามอ่านกันไปเรื่อย ขอบคุณที่ช่วยเข้ามาติดตาม ขอบคุณคอมเมนส์ ขอมคุณทุกอย่างเลยค่ะ



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ค. 2557, 15:42:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2557, 15:28:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1614





<< 1 รักอยู่หนใด   3 บุพเพอาละวาด >>
แก้วจินดา 27 พ.ค. 2557, 18:34:18 น.
อารมณ์เปลี่ยนไวแท้


พลอยจำปา 27 พ.ค. 2557, 22:30:14 น.
พึ่งเข้ามาอ่าน อยากไปดูบ้างแม่หมอสำนักนี้


แว่นใส 27 พ.ค. 2557, 22:48:00 น.
เอาชื่อแต่ละคนมาตั้งเป็นชื่อเรื่องนี่เอง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account