เพื่อนกันวันสุดท้าย
เธอ...สาวทอมมาดหลุดผู้สับสนทางเพศ
เขา...คนที่เป็นเพศอะไรก็ได้เพื่อเธอ
และ
เธอ...เพื่อนสนิทคิด(ไม่)ซื่อ
เขา...เพื่อนชายนายแสนซื่อ(บื้อ)
Tags: เพื่อนกันวันสุดท้าย เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ เพื่อนสนิท รักเพื่อน เพื่อนรัก วินธัย ภัทรนรินทร์ ต้นน้ำ ศวิตา

ตอน: 14. ฉันรักเธอ

กระดึ๊บๆ ทำตาใส
โครม...ใครขว้างขวดมาอ๊ะ เก๊าขอโต๊ดดดดดดดด
ไม่ต้องสงสัยนะคะนี่คือร่างจริง มิใช่วิญญาณเจ้าชายน้อยอย่างที่คิดกัน
เง้อออออ กลับมาแบ้วววววว

จำกันได้มั้ยเนี่ย
ปล ไม่ได้ไม่เป็นไร(กระซิกๆ) ย้อนกลับไปอ่านตอนที่แล้วก็ได้เนอะๆๆๆๆ
จุ๊บๆ รักคนอ่านเสมอ (อ้อนหนักๆ มุ้งมิ้งๆ)

*******************************************************
"คุณวินคะ สาจะบอกว่าวันเสาร์หน้ามีงานเลี้ยงของบริษัท TCB นะคะ" ชนิสาเอ่ยเตือนเจ้านายอีกครั้ง

วินธัยพยักหน้ารับ แม้ช่วง 2-3 สัปดาห์มานี้งานจะมาก แต่ความจำเขายังดีอยู่ บางทีอาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำ เวลาที่เจอสิ่งของหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับภัทรนรินทร์ เครื่องมือสื่อสารที่สั่นแรงอยู่บนโต๊ะดึงความสนใจเขาไป

"มีอะไรหรือวีต้า" ครั้งสุดท้ายหลังจากครานั้น เขาไม่ได้เจอศวิตาอีกเลย "TCB..ได้สิ แล้วค่อยนัดเวลากันอีกที"





...ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากหมายเลขที่ท่านเรียก

เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ ต้นน้ำเพียรกดหมายเลขเดิมซ้ำๆ ไม่ใยว่ามันจะเหมือนเดิม เลขาที่บริษัทบอกเพียงแต่ว่าหญิงสาวไม่อยู่ไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่มีกำหนดกลับ

แต่เขารู้...หล่อนตั้งใจหลบลี้หนีหน้า

หนุ่มแว่นถอนหายใจศีรษะทุยเอนพิงเก้าอี้ แว่นตาถูกวางไว้บนโต๊ะ มือใหญ่คลึงหว่างคิ้ว แต่ก็ไม่ช่วยอะไรจึงเปลี่ยนเป็นก่ายหน้าผากแทนเสีย

วันที่เธอหายไป ไม่ใช่แค่หน้าที่ไม่ได้เจอ แต่เป็นเสียงที่ไม่ได้ยิน และข่าวคราวตามงานสังคมที่เงียบหาย ไม่ใช่เพียงความทรงจำที่อีกฝ่ายไม่ปรารถนาให้หลงเหลือ แต่อีกฝ่ายทำราวกับไม่เคยมีตัวตน

เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยโทรศัพท์ทุกครายามว่าง แม้จะได้ยินแต่ประโยคเดิมๆ ไม่เคยต้องซื้อหนังสือพิมพ์ทุกวันเพียงเพื่อจะเปิดหาคนที่ใจคิดถึงตามหน้าข่าวสังคมซึ่งก็ไม่มี ไม่เคยคิดอยากเดินห้าง แต่ก็เดิน เพียงแค่หวังว่าจะมีโอกาสได้พบ

"ถ้าจะเกลียดกัน ก็ขอให้ฉันได้บอกรักเธอสักครั้งได้ไหมวีต้า"





"ไม่ได้"เสียงหวานออกจะเด็ดขาดกรอกลงโทรศัพท์ มือสาละวนกับการทาครีมบำรุงผิวชั้นที่5 " วีต้าบอกแล้วไงคะว่าไม่ว่าง เพิ่งกลับมาจากดูงาน มีเอกสารต้องเคลียร์เยอะแยะ ช่วงนี้คงไม่ว่าง"

หล่อนไม่อยากจะขมวดคิ้ว เบ้ปากให้หน้าเหี่ยว ทั้งที่เบื่อปลายสายเหลือเกิน "อาทิตย์นี้ไม่ว่าง อาทิตย์หน้าก็ไม่ว่าง เดือนหน้าก็คงไม่ว่าง" ชาติหน้าก็คงไม่ว่าง หล่อนต่อให้ในใจ หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงอ้อนอีกฝ่ายสักนิด

...หัวใจมันไม่ว่างให้ใครอีกแล้ว

"ตามสบายค่ะ อยากจะควงใครไปงานไหนตามสบายเลยค่ะ แค่นี้นะคะบาย"

มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดกระเด็นไปอยู่บนเตียงตามอารมณ์ของเจ้าของ

แทนไท..'คนเคยคุย' คนที่ 6 ที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็นแค่ 'คนรู้จัก'

'วีต้ารู้ตัวมั้ยว่าตั้งแต่กลับมา คุณเปลี่ยนไป คุณไม่แคร์ผมเลย' เสียงของเขายังติดอยู่ในความคิด แม้หล่อน 'คุย' กับแทนไทและอีกหลายคน แต่ตรรกะส่วนตัวบอกว่ามันคือความพึงพอใจของสองฝ่าย หล่อนไม่ใช่คนดีนัก แต่ถ้าจะต้องแคร์ใครสักคน...

เสียงข้อความเข้าเตือนขึ้นหลังเปิดมือถือเครื่องเก่า รายละเอียดข้างในหยุดความคิดของเธอลง ดวงตาหวานเหม่อมองไป ภาพข้างหน้าไม่ใช่เงาสะท้อนจากกระจกแต่เป็นมันสะท้อนมาจากใจ

'กูได้ข่าวมาว่าดาวคณะมึงแจ่มสุดๆ เลยใช่มั้ยวะไอ้ต้น' คนที่กำลังถูกเอ่ยถึงชะงักเทัา ตัดสินใช้มุมตึกเป็นที่อำพรางตัว 'มึงสนิทป่าววะ แนะนำหน่อยดิเพื่อน'

'แค่เคยเห็น ไม่ได้สนิทว่ะเขาว่ากันว่าพ่อดุ บางวันมีบอดี้การ์ดตามมาถึงมหาลัย'

'เฮ้ย ดุขนาดนั้นเลยหรอวะ' หล่อนรู้สึกว่าเสียงเพื่อนต่างคณะสั่นไปเล็กน้อย แต่ก็ยังนับถือความใจถึงของอีกฝ่าย 'คงไม่ได้ยิงคนที่มาจีบลูกสาวทุกคนมั้ง อย่างงี้กฎหมายจะไปอยู่ไหน'

'หึ เด็กนิติอย่างมึงน่าจะรู้ดีกว่ากูเยอะ' หล่อนแอบเห็นหนุ่มแว่นที่กุเรื่องหล่อนขึ้นมาแตะบ่าอีกฝ่ายหนักๆ แต่ไม่เห็นแววตาใต้เลนส์หนายามที่เอ่ยว่า 'ยิ่งลูกตำรวจอย่างมึง...กูเตือนเพราะเป็นห่วง ไม่อยากเห็นเพื่อนชีวิตสั้นว่ะบอกตรงๆ'

ศวิตาหัวเราะออกมาเบาๆ จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ต้นน้ำกุเรื่องขึ้นมา ที่แน่ๆ ข่าวมั่วซั่วแบบนี้มันไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง หล่อนสังเกตุเห็นปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของผู้ชายที่เคยเข้ามาก้อร้อก้อติกหลายคน บ้างห่างออก บ้างยังอยู่ และก็ไม่เคยเห็นหนุ่มนิติหน้ามนคนนั้นอีกเลย แต่เท่าที่รู้คือตัวปล่อยข่าวยังลอยหน้าลอยตาไปมา เดินสวนกันก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยแม้แต่จะปริปากคุยกัน ไม่งั้นหล่อนคงถามไปแล้วล่ะ มารู้จักอย่างเป็นทางการอีกทีก็ตอนภัทรนรินทร์แนะนำว่าเขาคือเพื่อนสนิทสมัยมัธยม กว่าจะถึงตอนนั้นเธอก็ลืมคำถามไปหมดสิ้นแล้ว





'ยิ่งลูกตำรวจอย่างมึง...กูเตือนเพราะเป็นห่วง ไม่อยากเห็นเพื่อนชีวิตสั้นว่ะบอกตรงๆ'

เขายังจำประโยคที่บอกเพื่อนได้ ใครจะรู้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งเสาไฟฟ้า ต่อให้วันหนึ่งความจริงเปิดเผยว่า
มันไม่ใช่ความจริง แต่ข่าวลือก็เหมือนเปลวไฟ ลุกลามไป ใครจะรู้ว่าบ้านต้นเพลิงอยู่ที่ไหน

ต้นน้ำยิ้มเหยียดให้แก้วใสทรงสวยในมือ น้ำสีอำพันนอนนิ่งอยู่ภายใน ก่อนจะไหลรินลงในลำคออันร้อนผ่าว
น้อยเกินกว่าที่จะเมา...เขาบอกตัวเอง แต่ก็รู้สึกพื้นเอียงนิดๆ ตอนเดินไปเปิดประตู

"นี่อย่าบอกนะว่า..." คนมาใหม่สบตาเพื่อนที่หยาดเยิ้มกว่าปกติ "ไอ้ต้นเอ๊ย"

"ฉันไม่ได้เมา" เขาบอกภัทรนรินทร์ ทั้งที่มันก็โคลงเคลง

"อย่าล้มมาทับฉันนะ เอาตีนยันจริงๆ ด้วย"

หนุ่มตี๋หัวเราะเสียงดัง "เออ...เตะหน่อย จะได้ช้ำหลายๆ ที่ ตอนนี้ช้ำใจชะมัด"

หญิงสาวทำหน้าปุเลี่ยนอย่างไม่ปิดบัง ขณะเอาของที่ซื้อมาเข้าตู้เย็น "คิดไม่ผิดที่ซื้อมา อันพวกนี้แกอุ่นกินได้เลย ไม่ต้องทำเอง แล้วก็ไม่ต้องมาประชดชีวิต ไม่กินไม่นอนด้วยนะ" เธอดักคอ แววตาเห็นใจ "วีต้าน่ะชอบคนรักสุขภาพนะ"

"ง่วงว่ะ" ต้นน้ำปิดปากหาว อย่างที่คนปัญญาอ่อนดูก็รู้ว่าแกล้งทำ

"เออ ไปก็ได้ คราวหน้าจ่ายค่าข้าวด้วย"

"ไอ้งก!!" เสียงด่าไล่หลัง ก่อนที่ภัทรนรินทร์จะจากไป แขนเรียวโอบบ่าเพื่อนแล้วเขย่าเบาๆ

"สู้นะ"

เพื่อนสนิทกลับไปแล้ว ปล่อยเขาจมอยู่กับความคิดตัวเอง แต่คราวนี้เพื่อนรสขมถูกปล่อยทิ้งไว้เพียงเพราะประโยคที่ว่า

'วีต้าน่ะชอบคนรักสุขภาพนะ'

และไม่รู้ว่าเขาจะต้อง 'สู้' กับอะไร ระหว่างความสุขของเขาหรือความสุขของคนที่เขารัก

"วีต้า...เวลาที่ไม่มีฉัน เธอมีความสุขหรือเปล่า"

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ต้นน้ำเคาะหัวตัวเองแก้ตื้อ แล้วพยุงตัวเองไปเปิดประตู

"อะไรอีก ภั..." ม่านตาขยายกว้าง เสียงเงียบไป ทั้งที่บอกว่าตัวเองตาฝาด คนตรงหน้าไม่มีทางที่จะเป็นเธอ

ใบหน้าเรียวงดงาม ดวงตาที่กรีดอย่างสวยงามช่างคุ้นตาและคุ้นใจ "วีต้า"

"ต้น"

"วีต้า" เขาคราง ก่อนจะรวบคนตรงหน้าเข้าสู่อ้อมกอด หากว่ามันเป็นความฝัน หรือแม้แต่ภาพตรงหน้าอาจเป็นเพียงแค่ความคิดถึงที่มากจนเกินทนไหว แม้สุดท้ายอาจไขว่คว้าได้เพียงลมแล้วล้มไป เขาพร้อม "ฉันรักเธอ...ได้ยินไหมว่ารัก ฉันรักเธอคนเดียว"

วงแขนเรียวเสลาเอื้อมมาแตะบ่าเขาเบาๆ แล้วยอมปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนสนิท ใจนึกสงสาร นี่คงเพ้อหนัก ไม่รู้ว่าจากแอลกอฮอลในกระแสเลือดหรือเพราะความคิดถึงมันจุกอกกันแน่ ต้นน้ำถึงเห็นเธอเป็นศวิตา

แต่เอาเถิด...เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี แม้ตอนนี้ใจลึกๆ กำลังโหยหาให้อ้อมกอดนี้เป็นใครบางคนแทนที่จะเป็นต้นน้ำ แต่ในเมื่อมันไม่ได้เธอก็เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนเกินกว่าจะขืนตัวออกมา ได้แต่ยืนนิ่ง รู้สึกได้ถึงความเปียกชุ่มที่บ่าซ้าย แต่โชคร้ายที่เธอไม่มีทางเห็นเลยว่าสุดมุมทางเดินมีใครบางคนเห็นทั้งภาพ ได้ยินทั้งเสียงและคำว่า...รัก ที่ออกมาจากปากของผู้ชายที่เจ้าตัวเองก็ 'รัก' เขาหมดหัวใจ

******************************
เม้าได้บ่นได้เหมือนเดิมนะค้าาาา พลีสสส(มันยังมีหน้ามาอ้อนวอนค่ะ เอิ่มมมมม ตบค่ะ555)



เจ้าชายน้อย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 พ.ค. 2557, 00:08:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 พ.ค. 2557, 00:08:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 1230





<< 13. ความทรงจำ   
napt 29 พ.ค. 2557, 01:25:00 น.
โอววววว กี่ปีผ่านไปแล้วหนอ คิดถึงจัง คุณปรินซ์สบายดีใช่ไหมคะ
งั้นขอไปอ่านย้อนหลังซักตอนสองตอนก่อนนะคะ ^^


Pat 29 พ.ค. 2557, 23:09:30 น.
หายไปตั้งสองปีกว่า ไหนๆก็กลับมาแล้ว มาต่อให้จบเลยนะคะ[


grazioso 30 พ.ค. 2557, 23:45:19 น.
พี่ปริ้นซ์ คิดถึงพี่ปริ้นซ์และเรื่องนี้มากค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ยังคงลุ้นให้ทั้งสองคู่เข้าใจกันเสียที สาววีต้าก็มาได้ผิดจังหวะเหลือเกิน นี่ถ้ามาก่อนหน้านี้สักนาทีก็ได้รู้ความจริงไปแล้ววว เฮ้อออออออออออออออ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account