ฝากรักไว้ที่ปลายรุ้ง โดย สลิลา (พิมพ์คำสำนักพิมพ์)
เมื่อนักเลงหัวไม้ริอยากขี่รุ้งงาม ความมุ่งมั่นและพยายามเท่านั้นที่เขาต้องกอดเอาไว้


"นิยายที่จะทำให้คุณลบคำว่า เป็นไปไม่ได้ ออกจากพจนานุกรมชีวิต!"


Tags: ภูผา,นักสู้,ทอรุ้ง,สลิลา,นักเลงหัวไม้

ตอน: บทนำ

สีเขียวของสนามหญ้าหน้าอาคารของโรงเรียนแห่งนั้นถูกแต่งแต้มให้มีสีสันอื่นๆ ด้วยเสื้อผ้าหลากสีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ มีชีวิตชีวาด้วยเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดกร๊าดสนุกสนานของเด็กๆ โดยมีเสียงเพลงจังหวะเร็วคุ้นหูช่วยเพิ่มความครึกครื้น

ด้านหนึ่งของสนามหญ้าเป็นเวทีกลางแจ้ง มีป้ายผ้าเขียนเอาไว้ว่า ‘งานวันเด็กแห่งชาติ’ ด้านล่างเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมในวันนี้เรียงกันสามรูป ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตากันเป็นอย่างดี

อากาศกำลังดี เนื่องจากเป็นปลายฤดูหนาว กิจกรรมกลางแจ้งจึงได้รับความสนใจจากเด็กๆ มากเป็นพิเศษ ทั้งซุ้มของเล่น อย่างสไลเดอร์ตัวหนอนสีม่วง สีส้ม ชิงช้าสีสันสดใสตัดกับสีของท้องฟ้า รถไฟสีเหลืองสดที่มีหัวจักรเป็นรูปเป็ดยิ้ม ม้าหมุนที่ไม่เคยว่างเว้นจากคนขี่ ฯลฯ อีกซุ้มที่ได้รับความนิยมก็คือซุ้มแจกขนมและเครื่องดื่มฟรีที่เรียงรายอยู่ตามจุดต่างๆ

ผู้ที่เข้ามาร่วมงานมีทั้งเด็กที่เรียนที่นี่ เด็กยากจนและด้อยโอกาสในชุมชน บรรยากาศจึงคึกคักกว่าปีที่ผ่านมาที่จัดเพื่อเด็กๆ ที่เรียนในโรงเรียนเท่านั้น

ครูใหญ่ของโรงเรียนซึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนร่างเล็ก ท่าทางใจดี กวาดตามองบรรยากาศของงานด้วยความพึงพอใจ เธอรู้มาว่าสามบริษัทที่เป็นโต้โผใหญ่ในการจัดงานวันเด็กนั้นสับเปลี่ยนหมุนเวียนสถานที่กันไปทุกปี เพื่อส่งมอบความสุขไปให้เด็กๆ อย่างทั่วถึง ปีนี้เป็นคิวของโรงเรียนเล็กๆ อย่างโรงเรียนของเธอ ซึ่งพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เนื่องจากผู้บริหารของสามบริษัทบอกว่าจะมาร่วมงานด้วยตนเอง นับว่าเป็นการให้เกียรติเธอและเด็กๆ เป็นอย่างยิ่ง

+ + + + + + + + + + + + + +

มุมหนึ่งของสนาม ใต้ต้นไม้ใหญ่ถูกจับจองโดยเด็กหญิงประมาณห้าหกคน แม่หนูนั่งล้อมวงกันและพร้อมใจเงยหน้าส่งแววตาสดใสพึงพอใจไปยังที่เดียวกัน นั่นคือใบหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงกลาง ชายหนุ่มเจ้าของผิวคล้ำ โครงหน้าบึกบึนท่าทางเอาจริงเอาจัง คิ้วเข้ม ดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่งเป็นสันสวยรับกันดีกับริมฝีปากหยักได้รูป ในมือของเขามีกีตาร์โปร่งที่ตอนนี้เขากำลังกรีดนิ้วลงบนสายอย่างชำนิชำนาญ

“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องรู้จักช้างไหมหนา ช้างมันมีงวงมีงา มีใบหูหนา ตามันตี่...” เขาเริ่มต้นร้องด้วยเสียงทุ้มอ่อนโยนเฉกเช่นแววตา ใบหน้าเฉยชานั้นจึงลดความน่าเกรงขามลงไปมาก “ช่วยกันร้องนะจ๊ะ...เอ้า ช้างตัวมันใหญ่ กินใบไม้ในป่ามากมี เวลาที่มันจะหลับ ยืนก็หลับนอนก็หลับดี อายุยืนเจ็ดสิบปี ออกลูกทีปีละตัว”

เสียงแจ๋วๆ ของบรรดาเด็กหญิงช่วยร้องประสานโดยไม่ต้องบอกซ้ำ บางคนก็ปรบมือไปด้วย

“เอาอีกค่า พ่อภูขา” เด็กหญิงคนหนึ่งเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ เรียกร้อง “ร้องเพลงอีกค่า”

“เอาเพลงอะไรดีคะ” ‘พ่อภู’ ย้อนถามพลางก็ทำท่าคิดไปด้วย

“เพลงยามเมื่อเป็ดมันเดินไปค่า ทำท่าด้วยนะคะ” อีกคนเสนอเสียงแจ๋ว

ได้ยินอย่างนั้น คนอื่นๆก็พยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย

หนึ่งนาทีต่อมา พ่อเป็ดที่ชื่อ ‘พ่อภู’ ก็เดินนำขบวนเป็ดสาวน้อยวนรอบกีตาร์ พลางตะเบ็งเสียงร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน แต่สองนาทีให้หลัง ขบวนเป็ดก็ต้องยุติลงเมื่อมีเสียงร้องไห้จ้าของเด็กชายคนหนึ่งดังแทรกเสียงอื่นๆ เข้ามา ชายหนุ่มหันไปมองแล้วก็รีบเดินไปหา โดยมีกลุ่มเด็กหญิงเดินตามเป็นพรวน

“เป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไมครับ” เขาย่อตัวลงเพื่อจะได้คุยกับพ่อหนูได้สะดวก ถึงกระนั้นหนูน้อยก็ต้องแหงนหน้าคอตั้งบ่าทีเดียว

“ฮือๆ” เด็กชายยังร้องไห้ไม่ยอมพูดอะไร เขาต้องตะล่อมต่ออีกหน่อย จึงยอมบอกว่าพี่ๆ ตัวโตเขาเล่นลิงชิงบอลกัน แต่ความที่เขาตัวเล็กจึงถูกสั่งห้ามเพราะกลัวอันตราย

“เป็นม้าให้หน่อยได้ไหม” เขาถามเสียงเครือ “อยากเล่น”

ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ จากเป็ดต้องกลายเป็นม้าก็คราวนี้เอง!

เมื่อได้รับอนุญาต พ่อหนูก็เดินอ้อมไปด้านหลังและกระโดดขึ้นหลัง ไต่ขึ้นคออย่างว่องไว

“หนูตัวโตแล้ว หนูเล่นได้แล้ว” แกตะโกนอย่างดีใจรีบบอกให้เขาเข้าไปในวงลิงชิงบอลทันที

ครั้งหนึ่ง มีคนโยนลูกบอลมาทางพ่อหนูแล้วคนเป็นลิงก็โผตามมาเพื่อจะแตะบอลให้ได้ อารามตื่นเต้นตกใจพ่อหนูจึงเขวี้ยงบอลออกอย่างรวดเร็ว ผลปรากฏว่าบอลออกไปนอกเส้นทาง ภูผามองตามไปแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าลูกกลมๆ นั้นลอยลิ่วไปยังเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งสวมชุดกระโปรงฟูฟ่อง ซึ่งแน่นอนว่าหากโดนเข้า แม่หนูต้องเจ็บหนักอย่างแน่นอน

แต่ทันใดนั้นเองผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาขวางวิถีของวัตถุทรงกลมแล้วปัดลงพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้ปลายรองเท้าสะกิดมันลอยขึ้นกลางอากาศ แล้วคว้ามาหมุนเล่นด้วยปลายนิ้ว

‘พ่อภู’ หรือภูผา ระบายลมหายใจด้วยความโล่งใจ ก่อนจะเพ่งมองชายหนุ่มคนนั้นให้ชัด ครั้นแล้วริมฝีปากสีสดก็แย้มออกนิดๆ เมื่อเห็นว่าเป็นใคร

ภวัต เอี่ยมธำรง เจ้าของเบสท์ฟิต ธุรกิจดูแลรถแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศนั่นเอง
คนในแวดวงธุรกิจน้อยนักที่จะไม่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ผู้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของวงการคนนี้ ในฐานะที่เป็นอีกคนหนึ่งที่ก่อร่างสร้างตัวมาจากศูนย์...เช่นเดียวกับเขา

“ขอโทษฮะ” เด็กชายตัวเล็กบนคอของภูผาเอ่ยขึ้นพลางยกมือไหว้ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ โดยก่อนหน้านี้ภูผาได้บอกแล้วว่าเราเป็นฝ่ายผิด

“ไม่เป็นไรครับ นี่...” ภวัตส่งลูกบอลคืนให้ เจ้าหนูรับมาพลางขอบคุณเสียงยานคาง
จากนั้นภูผาก็ยื่นมือไปตรงหน้าภวัต “ยินดีที่ได้พบตัวจริง คุณภวัต”

อีกฝ่ายไม่รอช้า ยื่นมือมากระชับกับมือเขาทันที

“ยินดีมากๆ เช่นกันที่ได้พบ คุณภูผา ว่าแต่ทำไมปีนี้ถึงออกมาเองล่ะครับ”

เป็นคำถามที่ทำให้ภูผารู้ว่าอีกฝ่ายติดตามความเคลื่อนไหวของตนอยู่ ภูผายิ้ม

“คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่คุณภวัตก็ออกมานั่นแหละครับ”

ภวัตไม่ตอบอะไรนอกจากหัวเราะน้อยๆ เป็นการยอมรับข้อสันนิษฐานนั้น ระหว่างนั้นเอง ภูผาก็เหลือบไปเห็นว่าที่ข้างวงลิงชิงบอลยามนี้ มีเด็กหญิงตัวพอๆ กับเจ้าหนูที่อยู่บนคอเขานั่งมองทุกคนตาละห้อย ความอยากเล่นปรากฏชัดในแววตา

และก่อนที่ภูผาจะทันได้เอ่ยหรือทำอะไร ภวัตก็ก้าวเร็วๆ ไปหาเด็กหญิงเสียก่อนแล้ว ภูผาไม่ได้ยินว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน แต่ครู่ต่อมา ร่างเล็กๆ นั้นก็ปร๋ออยู่บนคอนักธุรกิจหนุ่มเรียบร้อย

หลังจากนั้นกระบวนการเป็นม้าของสองหนุ่มก็เริ่มต้นขึ้น

เล่นกันได้สักพักใหญ่ เจ้าเด็กที่เป็น ‘ลิง’ ก็โอดว่าเหนื่อย ขอพักก่อน ทั้งสองหนุ่มเหลียวหาน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย พลันหันไปเห็นถังบรรจุเครื่องดื่มตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ถังนั้นมีสัญลักษณ์ของน้ำเปล่ายี่ห้อหนึ่งปะเด่นชัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของงานในวันนี้นั่นเอง ใกล้ๆ ถังน้ำดื่ม มีเด็กหญิงชายนั่งล้อมวงกันอยู่ ตรงกลางเป็นชายหนุ่มร่างสูงในเชิ้ตสีฟ้าอ่อน สวมกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม

ปัทม์ บุญวิจักษ์ เจ้าของเครื่องดื่มไฟต์ เครื่องดื่มบำรุงกำลังรายใหญ่ที่ยังไม่มียี่ห้อไหนตีแตก และตอนนี้เขาก็กำลังเปิดตลาดน้ำเปล่าขึ้นอีกตลาดหนึ่งด้วย

“เจ้าของเครื่องดื่มคนนั้นก็คงคิดเหมือนเรานะครับ...” ภวัตเอ่ยขึ้น

เป็นคำพูดที่ทำให้ภูผารู้ว่าไม่ใช่เขาเท่านั้นที่ติดตามความเคลื่อนไหวของปัทม์เงียบๆ แต่ภวัตก็เช่นกัน และเขาก็เชื่อว่า ทั้งภวัตและปัทม์ต่างก็ทำอย่างนั้นกับเขาเช่นกัน ทำเพราะความชื่นชม ศรัทธาในความอดทน มุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของแต่ละฝ่าย แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน แต่เขากลับรู้สึกคุ้นเคย...คุ้นเคยตามประสาเด็กด้อยโอกาสในอดีตเหมือนกัน

ราวกับรู้ว่าตนกำลังตกเป็นหัวข้อสนทนา ชายหนุ่มผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มมาให้ พลอยทำให้เด็กๆ มองตามสายตาเขา จากนั้นปัทม์ก็ถูกพ่อหนูแม่หนูเหล่านั้นดึงแขนให้ลุกขึ้น เขาไม่ปฏิเสธ และหยิบขวดน้ำเย็นเฉียบแจกพวกแก พลางชี้ไม้ชี้มือไปทางภูผากับภวัต ส่วนตัวเขาเองกลับเดินไปหาเด็กชายร่างเล็กสวมแว่นหนาเตอะคนหนึ่งที่ยังนั่งอยู่เงียบๆ

ดื่มน้ำที่เด็กๆ นำมาให้เรียบร้อยแล้ว การขว้างบอลหนีลิงก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

“ขอผมเล่นลิงชิงบอลด้วยคนนะครับคุณภูผา คุณภวัต”

เสียงนั้นทำให้ภูผากับภวัตหันไปมอง ก็พบว่าเป็นปัทม์นั่นเอง เขาจูงมือเด็กน้อยคนนั้นมาด้วย

“ยินดีครับ เอ...ได้ยินแว่วๆ ว่าใครเข้ามาทีหลังต้องเป็นลิง...” ภวัตแสร้งเปรยหน้าตาย

“พี่ก็ได้ยินแบบนั้นเหมือนกัน หรือว่าไงครับเด็กๆ” ภูผารีบรับมุกต่อทันที

“ใช่คับ ใช่ๆ” เจ้าเด็กที่เป็นลิงมาสักพักแล้วรีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที ปัทม์อดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ ชายหนุ่มก้มกระซิบกับเด็กชายตัวน้อยที่เขาจับจูงอยู่ ซึ่งพ่อหนูน้อยก็พยักหน้าและยอมเป็นลิงในเกมอย่างไม่มีอิดออด

ครู่ต่อมา เสียงของพิธีกรบนเวทีกลางแจ้งก็ดังขึ้น

“สวัสดีท่านผู้มีเกียรติ เด็กๆ และผู้ปกครองทุกท่านค่ะ ดิฉันขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานวันเด็กแห่งชาติของโรงเรียนเรานะคะ ซึ่งปีนี้พิเศษกว่าทุกปี เพราะเราได้รับเกียรติจากนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงจากสามวงการซึ่งเป็นสปอนเซอร์ให้เรามาร่วมงานด้วย ซึ่งขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่นักธุรกิจร้อยล้านทั้งสามท่านจะมีเวลาว่างตรงกันแบบนี้ คนแรกได้แก่ คุณภูผา กล้าแกร่ง เจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรครบวงจร เอสดีพี เรียกว่าอาหารเอย ขนมเอยที่พวกเราได้ทานกันในวันนี้ก็มาจากท่านทั้งนั้น คนที่สอง คุณภวัต เอี่ยมธำรง เจ้าของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร เบสท์ฟิต และคนสุดท้าย คุณปัทม์ บุญวิจักษ์ จากเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อไฟต์ รวมถึงน้ำเปล่าที่แจกให้ทุกท่านได้ดื่มกันตลอดงานด้วยนะคะ ตอนนี้ดิฉันขอเชิญทั้งสามท่านบนเวทีเพื่อกล่าวอะไรกับเด็กๆ ของเราสักหน่อยนะคะ”

สิ้นเสียงประกาศ ทั้งสามหนุ่มก็พยักหน้าให้กัน ก่อนจะโบกมือลาเด็กๆ จากนั้นก็เดินเรียงหน้ากระดานไปบนสนามหญ้า โดยมีจุดหมายอยู่ที่เวทีกลางแจ้ง

+ + + + + + + + + + + + + + + +

งานวันเด็กยังมีต่อจนถึงตอนเย็น แต่ภูผาอยู่ร่วมงานแค่ก่อนเที่ยงเท่านั้น เนื่องจากเขาเองก็มี ‘เด็ก’ อีกคนที่สำคัญเช่นกัน ก่อนก้าวขึ้นรถคันหรูของตน ชายหนุ่มหันไปมองบรรยากาศของงานอีกครั้ง เห็นภาพที่เด็กๆ ทั้งหลายสนุกสนาน มีความสุข หัวใจของเขาก็อิ่มเอม

เขาตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ปีนี้มาร่วมงานด้วยตัวเองหลังจากให้เป็นหน้าที่ของพนักงานมาโดยตลอด ได้อยู่กับเด็กๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ยากจน ทุกข์ยากลำบากเหล่านั้นแล้ว ทำให้อดนึกถึงเรื่องราวแต่หนหลังของตัวเองไม่ได้

ในอดีตเขาก็ไม่ต่างจากเด็กเหล่านี้ โอกาสในชีวิตมีน้อย เพราะครอบครัวยากจน และยิ่งเขาเป็นลูกชังของครอบครัวด้วยแล้ว เส้นทางของชีวิตก็ดูจะมืดมนมากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น สายลมแห่งโชคชะตายังพัดพาชีวิตเขาให้ก้าวเข้าสู่วงการนักเลงอีกด้วย!

“คุณภูผาคะ...” เสียงเรียกของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ

“ว่ามา” เขาก้าวขึ้นรถ เห็นอย่างนั้นหญิงสาวซึ่งแต่งกายเรียบร้อย ทะมัดทะแมงก็รีบพูดทันที

“รายการทีวี Young Idol ติดต่อขอสัมภาษณ์คุณภูผาค่ะ รายการนี้เป็นรายการที่นำเสนอเกี่ยวกับมุมมอง แนวคิดของนักธุรกิจรุ่นใหม่ค่ะ โดยในเทปนี้จะเป็นเทปเกี่ยวกับนักธุรกิจที่เริ่มต้นจากศูนย์ แถมยังเป็นคนที่เก่ง ฉลาด และมีความเป็นลูกผู้ชายด้วยค่ะ”

“ดูคิวผมแล้วตอบรับไปเลย” ภูผาตัดสินใจไม่ยาก เขาเองก็อยากให้เรื่องราวของตนถูกถ่ายทอดออกไปเช่นกัน ด้วยหวังว่าประสบการณ์อันเข้มข้นในชีวิตจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคนได้ อันเป็นความตั้งใจของเขา ซึ่งตั้งใจจะมอบสิ่งดีๆ ให้เด็กด้อยโอกาสและสังคมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ระหว่างที่รถแล่นไปตามท้องถนน จู่ๆ ฝนหลงฤดูก็โปรยปรายลงมาพอให้ชุ่มชื่น อากาศที่เย็นอยู่แล้วยิ่งเย็นขึ้น

ภูผาเลื่อนกระจกลงเพื่อรับความสดชื่นนั้นเข้าเต็มปอด เงยหน้ามองท้องฟ้าซึ่งตอนนี้กลับมาสดใสสว่าง พระอาทิตย์โผล่ออกมาเหนือม่านเมฆ

เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มก็หันขวับไปมองยังด้านตรงข้ามแสงอาทิตย์ทันที แล้วริมฝีปากสีสดก็คลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นสายรุ้งบนโค้งฟ้า

สายรุ้ง สัญลักษณ์ของความหวัง

แต่สำหรับเขา สายรุ้งเป็นมากกว่านั้น...

(จบบทนำ)

ฝากติดตามนิยายเรื่องใหม่ของสลิลาด้วยนะคะ แอบกระซิบว่าเป็นนวนิยายชุด ออกกับเพื่อนอีกสามคนค่ะ มีกำหนดจะวางแผงเร็วๆนี้ ฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า งานนี้มีแจกหนังสือแน่นอน อย่ามัวรอช้า อ่านแล้วเมนต์เพื่อรอลุ้นรับหนังสือด่วนเลยค่า





วิรัตต์ยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2557, 12:35:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2557, 12:41:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1921





   บทที่ 1 >>
Sukhumvit66 12 มิ.ย. 2557, 14:40:54 น.
เย้.......^^


รวิกานต์ 12 มิ.ย. 2557, 14:51:41 น.
น่าติดตาม รออ่านะคะ


ตุ๊งแช่ 12 มิ.ย. 2557, 16:19:14 น.
คนไหนพระเอกค่าาา


ดังปัณณ์ 12 มิ.ย. 2557, 16:39:34 น.
มาเช็คชื่อค้าาาาาาาาาาาาาา มาแว้วววววววววววววววววววววว


พันธุ์แตงกวา 12 มิ.ย. 2557, 18:00:56 น.
พี่แก้วมาแล้ว เจิมค่าเจิม เฮงๆๆๆ ชึ่งๆโป๊ะ


Zephyr 12 มิ.ย. 2557, 20:08:55 น.
ว้าวววว ชอบสุดๆนิยายชุด
เรื่องนี้ภูผาพระเอกใช่มั้ยคะ
ออกกับอีกสามคน แปลว่ามีสี่เรื่อง
แต่นี่เปิดตัวมาสามหนุ่ม? แล้วอีกคนละคะ


Zephyr 12 มิ.ย. 2557, 20:09:13 น.
ว้าวววว ชอบสุดๆนิยายชุด
เรื่องนี้ภูผาพระเอกใช่มั้ยคะ
ออกกับอีกสามคน แปลว่ามีสี่เรื่อง
แต่นี่เปิดตัวมาสามหนุ่ม? แล้วอีกคนละคะ


lookpud 12 มิ.ย. 2557, 21:20:30 น.
น่าติดตาม


บุลินทร 13 มิ.ย. 2557, 16:42:57 น.
เรื่องใหม่มาแล้วๆ


หนอนหนังสือ 11 ก.ค. 2557, 18:06:00 น.
ขอมาเกาะติดจอด้วยคนค่ะ
ชื่อเรื่องฟังดูอบอุ่นดีจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account