เงารักเงาใจ
เมื่อ...
เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก
และ…
เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ
ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน
ส่วน…
เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก
และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า
แต่…
จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ
และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น
เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า
จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ใน นิยายรักดราม่า
เงารักเงาใจ
(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)
เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก
และ…
เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ
ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน
ส่วน…
เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก
และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า
แต่…
จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ
และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น
เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า
จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ใน นิยายรักดราม่า
เงารักเงาใจ
(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทนำ
บทนำ
ณ ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง สุปรางวดีนอนพักรักษาตัวจากเหตุการณ์อุบัติเหตุขับรถชนต้นไม้ มีบวรคอยอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด บวรเอามือลูบผมลูกสาวอย่างเบามือ มองสภาพใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำบางจุด ก่อนที่เปลือกตาหวานจะเปิดขึ้น
สุปรางวดีขยับตัวแล้วรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่หน้าอก แต่เมื่อเห็นหน้าบิดามองมาอย่างเป็นห่วงถึงกับร้องไห้ออกมาบวรรีบจับมือลูกสาวบีบอย่างปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะ ลูกปรางค์ หนูปลอดภัยแล้ว”
สุปรางวดีสะอื้น พูดน้ำเสียงแหบแห้ง
“คุณพ่อค่ะ ปรางค์ขอโทษ ปรางค์เสียใจ เพราะปรางค์ขาดสติ ปรางค์เมาจนขับรถชน แต่คุณเพชรเขา...ขอเลิกกับปรางค์” สุปรางวดีพูดแค่นั้นก็ร้องไห้ออกมาอีก บวรช่วยเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว เอ่ยเสียงอ่อน
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว พ่อรู้เรื่องหมดแล้ว ถ้าเขาไม่รักลูกสาวพ่อ ลูกก็ไม่ต้องไปสนใจ จำไว้ว่าลูกต้องรักตัวเองให้มากๆ คิดเสียว่าลูกกับคุณเพชรไม่ใช่เนื้อคู่กัน”
“แต่ปรางค์…รักคุณเพชร ปรางค์ไม่สามารถตัดใจจากคุณเพชรได้ พ่อค่ะ ปรางค์ต้องตายแน่ๆ ถ้าปรางค์จะต้องเห็นงานแต่งงานของคุณเพชรกับผู้หญิงคนนั้น” สุปรางวดีน้ำตาไหล บวรเช็ดน้ำลายให้ลูกสาว ช่วยคิดหาทางออกให้
“งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม หนูไปอยู่เมืองนอกสักระยะ ให้สภาพร่างกายและจิตใจของหนูดีขึ้นเสียก่อน หรืออยากจะกลับมาเมื่อไรก็กลับ” สุปรางวดีเงียบงัน สายตาดูเลื่อนลอย บวรวางฝ่ามือบนไหล่บางเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนเชิงปลอบประโลมใจ
“ลูกสาวคนเก่งของพ่อ ต้องไม่ร้องไห้สิ”
หลายวันต่อมาที่สนามบิน สกลมาส่งเจ้านายหนุ่มของเขาขึ้นเครื่องเพื่อบินไปต่างประเทศ กระเป๋าใบใหญ่ถูกสกลเอามาวางตรงหน้าบอสของเขา เอ่ยปากถามสีหน้ายังไม่แน่ใจ
“ตกลงบอสจะไม่ไปจริงๆ หรือครับ” สกลถามซ้ำ ภาคดนัยพยักหน้าให้ลูกน้อง ไม่นานเขาก็ยื่นซองสีชมพูให้สกล
“ฝากคุณไปงานนี้แทนผมด้วย”
สกลรับมาถือ รู้ดีว่าในซองสีชมพูเป็นการ์ดแต่งงานของผู้หญิงที่เจ้านายเขาหลงรักแต่มีเหตุขัดข้องบางประการที่ทำให้เจ้านายหนุ่มของเขาไม่อาจเด็ดดอกฟ้านี้มาเชยชมได้
“แต่คุณประภัสสรเป็นคนเอาการ์ดแต่งงานของลูกสาวมาเชิญให้บอสด้วยตัวเอง แต่ก็อย่างว่าละครับ คุณประภัสสรก็คงจะมาแค่จะดูหน้าบอส คงคิดว่าบอสจะอกแตกตายกระมังครับ” สกลพูดอย่างลืมตัวก่อนจะเอามือปิดปากราวกับพูดพลาดไปแล้ว เอ่ยสีหน้าแหยงๆ
“ผมขอโทษครับบอส ปากผมนี่มันไม่ดีจริงๆ”
“ช่างมันเถอะ คุณพูดถูก เอาจริงๆ แล้วคุณประภัสสรคงไม่อยากให้ผมไปร่วมงานแต่งงานลูกสาวเธอหรอก แค่อยากให้ผมรู้มากกว่าว่าคุณดามีเจ้าของแล้ว ผมจะได้เลิกวุ่นวายกับคุณดาลูกสาวของเธอ” ภาคดนัยตอบอย่างคนสิ้นหวัง ในมือมีพาสปอร์ตถือไว้
“แล้วนี่บอสจะไปนานแค่ไหนครับ”
“ก็คงไปไม่นานหรอก แค่อยากไปปลดปล่อย ผมคงไม่ทิ้งงานทิ้งเวลาให้มันสูญเปล่าไปนานหรอก” ภาคดนัยตอบเลขาส่วนตัวของเขา ไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงโฟนมาว่าเที่ยวบินไปอังกฤษกำลังจะออกให้ผู้โดยสารเตรียมตัว สกลรีบอวยพรเจ้านายหนุ่ม
“ครับ งั้นโชคดี เดินทางปลอดภัยนะครับ”
“อืม ขอบคุณมากนะสกลที่คุณมาส่งผม” ภาคดนัยเอ่ยตบท้ายก่อนจะลากกระเป๋าแล้วเดินไปยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเพื่อทำการโหลดกระเป๋าใบใหญ่
บนเครื่องภาคดนัยเดินหาที่นั่งก่อนจะพบว่าตัวเองนั่งเก้าอี้ติดหน้าต่างตรงปีกของเครื่องบิน ร่างหนาเดินมานั่งประจำที่ตามหมายเลขในตั๋ว ใบหน้าคมหม่นหมองลงไปนิดทั้งที่เขาสามารถสั่งให้สกลจองคลาสวีไอพี แต่เขากลับอยากนั่งคลาสประหยัด สายตาคมมองไปรอบๆ เห็นผู้คนหลากหลายกำลังทยอยมานั่งประจำที่ มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แอร์ในเครื่องเริ่มเย็น ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทตัวเองแล้วเปลี่ยนมาห่มกายแทน ภาคดนัยคาดเข็มขัดรอไว้ก่อนที่ตัวเขาจะทิ้งทุกอย่างด้วยการหลับตานิ่งๆ ไม่คิดอะไร
เสียงแอร์โฮสเตตดังมาตามสายบอกทุกคนให้รู้ว่าขณะนี้เครื่องกำลังจะขึ้นและให้ทุกคนคาดเข็มขัดไว้ ไม่นานภาคดนัยก็รู้สึกถึงเครื่องบินกำลังบินขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาไม่สนใจนั่งหลับตาอย่างใจเย็น สักพักก็ได้ยินเสียงแอร์โฮสเตตเสียงเดิมอธิบายถึงการใช้อุปกรณ์ชูชีพ ภาคดนัยไม่สนใจยังคงหลับตานิ่งกระทั่งรู้สึกถึงบางอย่างกำลังล้มตัวมาที่เขา ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมา เอียงคอมาด้านข้างถึงกับอ้าปากพูดไม่ออก เป็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ศีรษะของเธอกำลังพิงไหล่ของเขา ภาคดนัยเม้มปาก ก้มหน้าหมายจะมองหน้าเธอแต่อีกฝ่ายขยับ เขาเลยต้องนั่งตัวตรงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่แล้วเธอคนนั้นก็เอาศีรษะมาพิงไหล่เขาอีก ภาคดนัยทำหน้านิ่งแล้วก็ยิ้มออกมา ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เขาแค่หลับตาจึงเหมือนเป็นการอนุญาตนัยๆ
เหมือนการนอนหลับครั้งนี้จะช่างยาวนานเหลือเกินเมื่อจู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังใกล้ๆ หูของเขา ภาคดนัยสะดุ้งตื่นขึ้นมา สายตามองจ้องแอร์โฮสเตตสาวที่กำลังยืนยิ้มหน้าจิ้มลิ้ม ภาคดนัยลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินลงจากเครื่องเป็นคนสุดท้ายแต่สะดุดที่คำพูดของแอร์โฮสเตตคนเดิม เธอพูดภาษาอังกฤษแต่แปลความหมายไทยว่า
“คนที่นั่งข้างคนฝากให้คุณคะ”
ภาคดนัยทำหน้างงมองกระดาษโน้ตเล็กๆ ที่แอร์โฮสเตตสาวยื่นมาให้ สุดท้ายเขาก็รับมันมาก่อนจะเดินมาหาที่นั่งแล้วมองกระดาษโน๊ตในมืออีกครั้ง เป็นกระดาษแผ่นเดียวที่ผับไว้สองรอบ เขาคลี่ออกแล้วเริ่มอ่านข้อความในกระดาษใบนั้น
*ขอโทษที่ฉันเสียมารยาทนอนพิงไหล่คุณ และขอบคุณที่ให้ฉันนอนหลับอย่างสบาย ไหล่ของคุณอุ่นมากค่ะ*
ภาคดนัยอ่านจบแล้วถึงกับยิ้มออกมา นึกไม่ถึงว่าจะมีคนเขียนอะไรแบบนี้ เขาฉงนงงกับตัวอักษรลงท้ายพยัญชนะอักษรเพียงตัวเดียวว่าพี มันอาจจะเป็นอักษรย่อของชื่อเธอ ภาคดนัยคิดในใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเก็บกระดาษโน้ตใส่กระเป๋าเสื้อสูทก่อนจะมุ่งหน้าหาแท็กซี่เพื่อไปยังที่พัก
ฝากติดตามด้วยนะคะ
กรงแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มิ.ย. 2557, 19:53:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มิ.ย. 2557, 19:53:13 น.
จำนวนการเข้าชม : 1277
บทนำ ต่อ >> |
Zephyr 15 มิ.ย. 2557, 06:57:54 น.
โอะๆๆๆ น่าติดตาม
โอะๆๆๆ น่าติดตาม
กรงแก้ว 15 มิ.ย. 2557, 08:57:23 น.
ขอบคุณค่ะ ที่แวะเข้ามาอ่าน ^^
ขอบคุณค่ะ ที่แวะเข้ามาอ่าน ^^