อ้อนรักเดิมพันหัวใจ (สนพ.กรีนมายด์)
เพราะการพบกันครั้งแรกเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าประทับใจสำหรับ “ศันลิตา” หญิงสาวสวยน่ารักเจ้าของร้านหนังสือจึงทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ “กฤตตะวัน” หนุ่มหล่อขี้เก๊กเจ้าแผนการ โดยไม่รู้ว่าเขาคือทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง เพราะความจำเป็นทำให้กฤตตะวันต้องเข้ามาเป็นพนักงานขายในร้านหนังสือเพื่อแลกกับความช่วยเหลือบางอย่างจากศันลิตา เกมรักที่มีหัวใจเป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับความจริงซึ่งนำพาไปสู่อันตราย
“พูดแบบนี้แสดงว่าคุณไม่กล้าเดิมพันกับผม เพราะกลัวว่าจะหลงรักผมใช่มั้ยล่ะ” กฤตตะวันถามพลางมองสบตาหญิงสาวอย่างท้าทาย
“อย่างฉันเนี่ยนะต้องกลัวหลงรักคุณ รู้จักศันลิตาน้อยไปซะแล้ว ตกลงฉันรับเดิมพันกับคุณแต่ถ้าครบกำหนดสามเดือนแล้วคุณไม่สามารถทำให้ฉันพูดว่ารักคุณได้ ต่อไปคุณห้ามมายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกนะ” ศันลิตาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่กฤตตะวันคลี่ยิ้มอย่างสมหวังดวงตาคู่คมเป็นประกายพราวระยับเมื่อโน้มใบหน้าคมเข้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูหญิงสาวอย่างใกล้ชิดว่า
“ตกลงตามนั้นและนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปผมมีสิทธิ์ทำทุกอย่างเพื่อให้คุณหลงรักผมแล้วนะศันลิตา”
เดิมพันหัวใจครั้งนี้ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ใครเจ้าเล่ห์กว่าใครในเกมรัก เชิญร่วมลุ้นไปกับพวกเขาใน “อ้อนรักเดิมพันหัวใจ” ค่ะ

ขอแจ้งให้นักอ่านทราบล่วงหน้าว่านิยายเรื่องนี้จะลงเนื้อเรื่องเพียงแค่ 60% เท่านั้น ไรเตอร์จะทยอยอัพให้อ่านวันละตอนนะคะ เนื่องจากนิยายได้รับการตีพิมพ์แล้วจะวางแผงในเดือนมิถุนายน 2257 นี้ค่ะ ใครสนใจสั่งจองได้ที่เว็บกรีนมายด์เลยนะคะ

Tags: รัก, กุ๊กกิ๊ก,โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 16 (อัพเป็นตอนสุดท้ายนะคะเพราะนิยายจะวางแผงแล้วค่ะ)

วันนี้กฤตตะวันมีประชุมด่วนตั้งแต่เช้าเรื่องยอดจองคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน ซึ่งจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อต่างๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาโดยตลอด แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาบริษัทคู่แข่งตัวฉกาจ ทรัพย์ทวี พร็อพเพอร์ตี้ โดยศุภโชคได้โจมตีว่าสัตยา เรียลเอทสเตทใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานจนเป็นเหตุให้คอนโดมิเนียมที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุพังถล่มลงมาเมื่อสองเดือนก่อนจนเป็นเหตุทำให้ยอดจองหยุดชะงักลง ชายหนุ่มจึงเรียกประชุมทุกฝ่ายเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้

การประชุมค่อนข้างเคร่งเครียดหลังจากปรึกษาหารือกันนานนับชั่วโมงกฤตตะวันก็สรุปให้สั่งเพิ่มโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่จองและวางเงินมัดจำภายในสิ้นเดือนนี้อีกหลายรายการเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจลูกค้า พร้อมทั้งสั่งให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์จัดแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา

หลังจากประชุมเสร็จกลับมาถึงห้องทำงาน ดนัยก็นำภาพถ่ายบริษัทที่กฤตตะวันสั่งให้ไปสืบเมื่อหลายวันก่อนมาให้ชายหนุ่มดู จากภาพถ่ายที่เห็นสภาพของบริษัทแห่งนั้นเป็นเพียงตึกแถวขนาดเล็กเก่าและทรุดโทรมเหมือนไม่ได้ประกอบกิจการค้าใดๆ เลย ดนัยรายงานว่าคนที่เขาส่งไปสืบเรื่องนี้ได้สังเกตการณ์อยู่หลายวันและสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงทุกคนต่างพูดตรงกันว่าไม่เคยเห็นมีใครมาทำงานที่นี่ จึงเป็นไปได้ว่าบริษัทแห่งนี้ถูกจดทะเบียนขึ้นมาเพื่อเปิดขายบิลโดยไม่มีการประกอบกิจการและไม่มีสินค้าอยู่จริง

พอดนัยรายงานจบกฤตตะวันก็โทรศัพท์ไปเล่าให้ศันลิตาฟังพร้อมทั้งขอคำแนะนำจากหญิงสาวว่าเขาควรทำอย่างไรต่อไป ศันลิตาแนะนำให้ชายหนุ่มส่งคนไปขอคัดสำเนาหนังสือรับรองกับสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทแห่งนั้นจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัท จากนั้นให้รีบนำหลักฐานต่างๆ ไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามตัวผู้ถือหุ้นบริษัทมาดำเนินคดีและอาจจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวสรัชกับอนันต์ได้อีกด้วย กฤตตะวันจึงสั่งให้ดนัยรีบไปดำเนินการทุกอย่างตามคำแนะนำของหญิงสาวทันที

เมื่อมาถึงร้านมุมสบายฯ ในตอนเย็นกฤตตะวันก็ขอให้ศันลิตาช่วยเช็คจำนวนเงินที่สรัชกับอนันต์สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทต้องสงสัยแห่งนั้นในช่วงปีเศษที่ผ่านมาว่ารวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณเท่าไหร่

“พวกเขาสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทนี้เดือนละประมาณสี่ล้านห้าแสนบาท เฉลี่ยแล้วก็ประมาณแสนกว่าบาทต่อครั้ง ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาแบ่งผลประโยชน์กันฝ่ายละกี่เปอร์เซ็นแต่คิดว่าคนของคุณต้องได้ส่วนแบ่งในแต่ละครั้งเป็นเงินจำนวนไม่น้อยแน่นอนค่ะ” ศันลิตาบอกหลังจากคำนวณตัวเลขเรียบร้อย ชายหนุ่มพยักหน้าพลางพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“บริษัทผมถูกโกงเงินไปไม่ใช่น้อยเลย แถมยังต้องเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องคอนโดฯ ถล่มด้วย”

ศันลิตามองใบหน้าเคร่งขรึมอย่างรู้สึกเห็นใจก่อนจะลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะมาวางมือตนเองลงบนมือชายหนุ่มพลางปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ใจเย็นๆ นะคะ อย่างน้อยตอนนี้คุณก็ได้รู้ความจริงแล้วว่าสองคนนั้นทุจริตจริง ก็เหลือแต่เอาหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความให้ตำรวจติดตามจับตัวพวกเขามาลงโทษ ส่วนชื่อเสียงของบริษัทฉันเชื่อว่าคุณสามารถกอบกู้กลับมาได้ไม่ยากหรอกค่ะ เพราะว่าสัตยา เรียลเอทสเตทมีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีแล้วไม่เคยมีปัญหาเลยสักครั้ง คุณต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้แน่นอน สู้ๆ นะคะ”

“ขอบคุณนะครับผมโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอกับคุณ” กฤตตะวันบอกหญิงสาวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในความห่วงใยที่อีกฝ่ายมอบให้ ศันลิตาหัวเราะเบาๆ แล้วแกล้งพูดแหย่เขาว่า

“ถ้าฉันจำไม่ผิดมีใครบางคนเคยบ่นว่าเจอฉันทีไรซวยทุกทีเลยนะคุณ”

กฤตตะวันหัวเราะเสียงดังเมื่อหญิงสาวพูดจบประโยค ใบที่กำลังเคร่งเครียดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปทันที เขากุมมือหญิงสาวขึ้นพลางบอกสบตาอีกฝ่ายนิ่งแล้วบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม

“ตอนนี้ผมขอเปลี่ยนคำพูดตัวเองใหม่ว่าผมมาเจอคุณที่นี่ทีไรคุณทำให้ผมมีรอยยิ้ม หัวเราะ แล้วก็มีความสุขเสมอเลยศันลิตา” พูดจบกฤตตะวันก็ก้มลงจูบหลังมือหญิงสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน

ศันลิตาตาโตกับการกระทำของชายหนุ่มพลางรีบดึงมือตนเองออกจากมือใหญ่แสนอบอุ่นที่เกาะกุมอยู่ ในขณะที่ใบหน้าเนียนเป็นสีระเรื่อเพราะความเขินพลางอ้อมแอ้มพูดไม่เต็มเสียงนัก

“เสร็จธุระแล้ว...ฉันว่า...เรา...ออกไปช่วยหน้าร้านดีกว่า” พูดจบคนที่กำลังเขินก็จ้ำพรวดๆ ออกไปหน้าร้านทันที กฤตตะวันยิ้มอย่างพึงพอใจที่ศันลิตาไม่โวยวายต่อว่าเหมือนทุกครั้ง ซึ่งหมายความว่าขณะนี้เขากำลังก้าวเข้าไปใกล้หัวใจของหญิงสาวมากขึ้นทุกขณะแล้ว

หลังจากปิดร้านเสร็จศันลิตาก็ช่วยกฤตตะวันขนแฟ้มเอกสารกับงบการเงินทั้งหมดไปที่รถของชายหนุ่มเมื่อหาหลักฐานการทุจริตพบแล้วก็เป็นอันว่าเสร็จงานของเธอ ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องเก็บเอกสารเหล่านี้เอาไว้ตรวจสอบอีก ที่เหลือก็คือกฤตตะวันต้องนำหลักฐานทั้งหมดไปจัดการดำเนินคดีทางกฎหมายกับคนทุจริตเอง

กฤตตะวันกล่าวขอบคุณและถามเรื่องค่าตอบแทนที่หญิงสาวช่วยตรวจสอบบัญชีว่าต้องการเท่าไหร่ ศันลิตาปฏิเสธว่าไม่เป็นไรเพราะว่าเขามาช่วยทำงานที่ร้านเป็นการแลกเปลี่ยนแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังยืนยันว่าอยากจะจ่ายค่าเหนื่อยให้เธอตามที่เกศวรางค์ได้บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้

“งั้นเอาเป็นว่าคุณอยากจ่ายเท่าไหร่ก็จ่ายมาเถอะค่ะ ฉันไม่รู้จะเรียกร้องยังไง” ศันลิตาบอกอย่างอ่อนใจเพราะสาเหตุที่เธอยอมช่วยเหลือเกศวรางค์กับกฤตตะวันก็ด้วยความรู้สึกเห็นใจสองพี่น้องและไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินค่าตอบแทนมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“ถ้าคุณไม่อยากได้เงินผมขอจ่ายด้วยอย่างอื่นแทนได้มั้ย” กฤตตะวันถามพลางยิ้มกริ่ม

“คุณจะจ่ายฉันด้วยอะไรมิทราบ” ศันลิตาถามพลางยกมือขึ้นกอดอกแล้วหรี่ตามองหน้าคนที่กำลังยืนยิ้มเจ้าเล่ห์พิงรถตัวเองด้วยทีท่าสบายอารมณ์อย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก

“ก็จ่ายด้วยหัวใจผมไง” คนเจ้าเล่ห์ตอบ หญิงสาวส่ายหน้าทันทีพลางปฏิเสธ

“ฉันไม่เห็นอยากได้เลย ขาดทุนชัดๆ”

“ถ้างั้นแถมตัวผมด้วยก็ได้นะคุณ รับรองว่าผมสามารถสร้างกำไรให้คุณได้อีกเพียบ”

“กำไรตรงไหนกัน” ศันลิตาถามพลางมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังเสนอหัวใจและแถมตัวให้เธอฟรีหน้าตาเฉยอย่างหมั่นไส้ แล้วกฤตตะวันก็ตอบกลับมาด้วยประโยคแฝงความนัยที่ทำให้คนฟังถึงกับหน้าร้อนวูบตัวร้อนวาบขึ้นมาทันที

“อ้าว! ก็กำไรตรงที่ผมสามารถช่วยเพิ่มประชากรในครอบครัวให้คุณได้ไง กำไรเห็นๆ เลยนะตกลงมั้ยคุณ”

“คุณรีบๆ ขึ้นรถแล้วกลับบ้านคุณไปเลยนะ ถ้าไม่อยากถูกฉันฆ่าตายตรงนี้” ศันลิตาขู่

“ใจร้ายคุณจะฆ่าพ่อของลูกได้ลงคอเชียวเหรอระวังไม่มีใครช่วยเพิ่มประชากรนะคุณ” กฤตตะวันยังไม่เลิกแกล้งหญิงสาวง่ายๆ

“คุณกฤต!” ศันลิตาเรียกชายหนุ่มเสียงเข้มไม่รู้จะจัดการกับคนที่ชอบสรรหาคำพูดมาให้เธอได้อายอยู่ตลอดเวลาอย่างไรดี หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงโกรธเขาไม่ลงทั้งที่คำพูดของกฤตตะวันสุดแสนจะกำกวมและแฝงความนัยลึกซึ้งทุกประโยค

หลังจากพูดกระเซ้าเย้าแหย่หญิงสาวจนเป็นที่พอใจแล้ว กฤตตะวันจึงบอกว่าเขาขอเลี้ยงอาหารค่ำเธอเป็นการตอบแทนในคืนวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดประจำเดือนของร้าน พร้อมทั้งกำชับศันลิตาให้เตรียมหาชุดไว้ใส่ไปดินเนอร์ด้วย

“ผมไปก่อนนะคุณอย่าลืมล็อคประตูหน้าต่างให้ดีล่ะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันครับ” กฤตตะวันกดเลื่อนกระจกลงบอกหญิงสาวหลังจากสตาร์ทรถเรียบร้อยแล้ว ศันลิตาขมวดคิ้วพลางถามด้วยความสงสัย

“พรุ่งนี้คุณจะมาทำงานที่นี่อีกเหรอคะ”

“มาสิครับ ถึงคุณจะตรวจสอบบัญชีให้ผมเสร็จแล้วแต่เดิมพันระหว่างเรายังไม่จบนะ อย่าลืมสิว่าผมยังมีสิทธิ์ทำทุกวิธีเพื่อให้คุณบอกรักผมอยู่ แล้วเจอกันนะคุณ จุ๊บ” พูดจบกฤตตะวันก็ส่งจูบมาให้เป็นการแถมท้ายก่อนจะถอยรถออกไปจากหน้าร้านอย่างช้าๆ

ศันลิตายืนมองจนรถชายหนุ่มแล่นผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านออกไปแล้วจึงเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในร้าน แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักฝีเท้าหัวใจกระตุกวูบเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันสามนัดซ้อน

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยงงงงงง

ศันลิตาหันขวับกลับไปมองทันทีแล้วสิ่งที่เธอเห็นก็คือ ขณะนี้รถสปอร์ตคันหรูของกฤตตะวันกำลังจอดนิ่งสนิทอยู่บนถนนใหญ่หลังจากที่เพิ่งจะเลี้ยวออกไปพ้นเขตหมู่บ้านได้เพียงไม่กี่เมตร มงคลหัวหน้ายามประจำหมู่บ้านกับลูกน้องอีกคนหนึ่งวิ่งไปถึงรถชายหนุ่มก่อนใคร จากนั้นก็มีใครต่อใครอีกหลายคนวิ่งตามไปสมทบ

“คุณกฤต!!!” หญิงสาวร้องอุทานเสียงสั่นแล้วออกวิ่งตรงไปที่รถกฤตตะวันด้วยความเร็วเท่าที่จะเร็วได้ พลางภาวนาขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองอย่าให้เขาเป็นอะไรมาก


***ไรเตอร์อัพนิยายครบ 60 % ตามที่แจ้งเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วนะคะ แฟนนิยายที่ติดตามอ่านอยู่ถ้าอยากจะอ่านต่อจนถึงตอนอวสาน รบกวนสั่งซื้อจากเว็บของสนพ.กรีนมายด์ได้เลยนะคะ ตอนนี้หนังสือพิมพ์เสร็จพร้อมขายแล้วค่ะ รับรองว่าหลังจากตอนนี้ไปยังมีเรื่องราวที่สนุกสนาน กุ๊กกิ๊กชวนอมยิ้มอีกมากมายค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาติดตามอ่านและขอบคุณสำหรับนักอ่านที่กรุณาคอมเม้นต์ด้วยนะคะ เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ เลยค่ะ***

สั่งซื้อหรือลองแวะเข้าไปดูรูปปกนิยายได้ที่เว็บกรีนมายด์ http://www.greenmindbook.com/index.php นะคะ
ส่วนใครที่อยากพูดคุยหรือติดตามข่าวสารผลงานนิยายเรื่องต่อๆ ไปของแก้วแสงจันทร์เชิญที่เฟซบุ๊ก "บ้านแก้วแสงจันทร์" นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^_^

ด้วยรักและขอบคุณจากใจ
แก้วแสงจันทร์





แก้วแสงจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มิ.ย. 2557, 20:04:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2557, 20:04:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1597





<< ตอนที่ 15   
yimyum 18 มิ.ย. 2557, 20:31:16 น.
ตายมั้ย??? เป็นไรมั้ย???


แก้วแสงจันทร์ 18 มิ.ย. 2557, 20:34:09 น.
@yimyum

ขอตอบว่านิยายเรื่องนี้ไม่เศร้าค่ะ เป็นแนวรักกุ๊กกิ๊ก ^^


ใบบัวน่ารัก 19 มิ.ย. 2557, 06:46:23 น.
มีปกมาให้ดูไหม


แก้วแสงจันทร์ 19 มิ.ย. 2557, 20:06:20 น.
@ใบบัวน่ารัก

เข้าไปดูภาพปกได้ที่หน้าเว็บกรีนมายด์ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ http://www.greenmindbook.com/index.php อย่าลืมไปกดไลค์เป็นแฟนเพจบ้านแก้วแสงจันทร์ด้วยนะคะ จะได้ร่วมสนุกเล่นเกมรับนิยายฟรีจากไรเตอร์ด้วยนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account