สาปคำสัตย์
เรื่องของเด็กผู้หญิง 1 คนถูกคำสัตย์ของพี่สาวตนเองจากอดีตชาติขีดชะตาไว้
สามเรื่องราว จิตที่สื่อถึงโลกอื่น พลังจากสิ่งที่เธอมี และการเป็นนาคีกลับชาติมาเกิดของเธอ
การตามหา หารควบคุมพลัง การช่วยเหลือ ชีวิตเธอจะยุ่งและวุ่นวายขนาดไหน ติดตามได้ใน "สาปคำสัตย์"
สามเรื่องราว จิตที่สื่อถึงโลกอื่น พลังจากสิ่งที่เธอมี และการเป็นนาคีกลับชาติมาเกิดของเธอ
การตามหา หารควบคุมพลัง การช่วยเหลือ ชีวิตเธอจะยุ่งและวุ่นวายขนาดไหน ติดตามได้ใน "สาปคำสัตย์"
Tags: พญานาค
ตอน: บทนำ
-บทนำ-
ผืนน้ำสีน้ำตาลจางๆม้วนเป็นเกลียวคลื่น แสงแดดสะท้อนกระทบเป็นแสงระยิบระยับดั่งเพชรนิลจินดา หากแต่ใต้เกลียวคลื่นอันสวยงามนั้น มีสิ่งที่ผู้คนไม่เคยพบเห็น ไม่เคยได้สัมผัส มีเพียงคำร่ำขาน หากทุกสิ่งกลับเป็นจริง หากทุกสิ่งมีตัวตน...
เสียงโทรศัพท์กรีดร้องตั้งแต่เช้า ใครโทรมาตอนนี้กันนะ! “ฮัลโหล ใคร โทรมาทำไม มีอะไร?” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างรำคาญ “ยุน!!! แกตื่นแล้วรีบๆแต่งตัวเลยนะ!! วันนี้เรานัดกันไว้นิ่ เราจะไปหนองคายกัน” เสียงปลายสายตอบรับกลับมาอย่างรีบร้อน และเป็นเสียงที่ฉันคุ้นเคย ฉันรีบดีดตัวขึ้นจากเตียง กดวางสายและรีบอาบน้ำจัดของเข้ากระเป๋าให้เร็วที่สุด
เฮ้อ!! รู้แบบนี้จัดไว้ตั้งนานน่าจะดี..
ล้อรถหมุนวนไปมาซ้ำๆ เหมือนชีวิตมนุษย์ที่ไม่มีวันหลุดพ้น อะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ฉันคิดแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะนะ ความจริงแล้ว ฉันไม่ได้ชื่อยุนนะ แต่ฉันชื่อ ยุนนา ตะหากล่ะ บ่อยครั้งที่ฉันได้ยินเสียงที่เหมือนเรียกฉันมาตามสายลมว่า “ชลัลย์ญา สิริรัตน์นาวดี..” ฉันก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ฉันว่ามันอาจมีความจริงซ่อนอยู่ก็ได้นะ
“ถึงแล้ว!!!! หนองคาย ฉันชอบที่นี้ที่สุด!!” แบม เพื่อนของฉันตะโกนออกมาอย่างดีใจ “แล้วแกชอบที่นี่มั๊ยยุน?”
“อือ ก็ชอบนะ ฉันชอบอะไรๆที่มันบ่งบอกตัวฉัน” ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็เดินเข้าที่พักไป ทิ้งให้แบมชื่นชมกับบรรยากาศของหนองคายไปนั่น...
“ยุน แบมล่ะลูก? “ คุณพ่อของแบมเอ่ยถามขึ้น เพราะเห็นฉันเดินมาคนเดียวแทนที่จะมีแบมอยู่ข้างๆมันอาจดูแปลกสักหน่อย เพราะเราสนิทแทบตัวติดกัน “อ้อ เค้าอยู่ข้างนอกค่ะ เค้าเดินลงไปริมโขง” ฉันตอบด้วยสีหน้าที่ฝืนยิ้ม เพราะรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ก่อนจะลาเข้าที่พัก
22.20 น.
เสียงร้องเพลงที่ดังคลอเบาๆข้างหู ดั่งถูกพัดมาตามสายลม เริ่มเงียบลงกลับเป็นเสียงของบุรุษลึกลับ หากแต่เป็นเสียงของชายชรา
“ชลัลย์ญา สิริรัตน์นาวดี..พ่อรู้ว่าลูกต้องมา..เดินมาสิ..เดินลงมา..เราจะกลับไปด้วยกัน” เหมือนจะเป็นภวังค์ฝัน เหมือนจะอยู่ในความจริง แต่ทำไมกลับเดินลงไปริมแม่น้ำโขง ฉันทำแบบนี้เพื่ออะไร? ฉันต้องฝันแน่ๆ ฉันต้องไม่ได้สติ ฉันคงกำลังตกในภวังค์ ความคิดฉันหยุดเพียงแค่นั้น เพราะเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างจุกที่ลำคอ ทำให้หายใจไม่ออก ก่อนจะสะดุ้งตื่น! เฮ้อ ที่แท้ก็ฝันไปนี่เรา ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดทุกอย่างออกไป แต่เอ๊ะ รอบๆเตียงฉันมีรอยน้ำ? มีแต่น้ำทั้งนั้น กลิ่นน้ำที่มีดินผสมอยู่ด้วย ไม่ใช่น้ำในห้องน้ำแน่นอน แล้วมันมาจากไหน?
ความคิดของฉันกำลังสับสน ฉันคงไม่ละเมอไปตักน้ำจากริมโขงมาเทใส่ห้องพักหรอกนะ คิดแล้วก็ขำตัวเองกับความคิดบ้าๆ แม้จะหัวเราะ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ซ่อนอยู่และเป็นสิ่งที่ฉันไม่รู้ และอาจได้รู้เร็วๆนี้ก็ได้.....
ผืนน้ำสีน้ำตาลจางๆม้วนเป็นเกลียวคลื่น แสงแดดสะท้อนกระทบเป็นแสงระยิบระยับดั่งเพชรนิลจินดา หากแต่ใต้เกลียวคลื่นอันสวยงามนั้น มีสิ่งที่ผู้คนไม่เคยพบเห็น ไม่เคยได้สัมผัส มีเพียงคำร่ำขาน หากทุกสิ่งกลับเป็นจริง หากทุกสิ่งมีตัวตน...
เสียงโทรศัพท์กรีดร้องตั้งแต่เช้า ใครโทรมาตอนนี้กันนะ! “ฮัลโหล ใคร โทรมาทำไม มีอะไร?” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างรำคาญ “ยุน!!! แกตื่นแล้วรีบๆแต่งตัวเลยนะ!! วันนี้เรานัดกันไว้นิ่ เราจะไปหนองคายกัน” เสียงปลายสายตอบรับกลับมาอย่างรีบร้อน และเป็นเสียงที่ฉันคุ้นเคย ฉันรีบดีดตัวขึ้นจากเตียง กดวางสายและรีบอาบน้ำจัดของเข้ากระเป๋าให้เร็วที่สุด
เฮ้อ!! รู้แบบนี้จัดไว้ตั้งนานน่าจะดี..
ล้อรถหมุนวนไปมาซ้ำๆ เหมือนชีวิตมนุษย์ที่ไม่มีวันหลุดพ้น อะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ฉันคิดแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะนะ ความจริงแล้ว ฉันไม่ได้ชื่อยุนนะ แต่ฉันชื่อ ยุนนา ตะหากล่ะ บ่อยครั้งที่ฉันได้ยินเสียงที่เหมือนเรียกฉันมาตามสายลมว่า “ชลัลย์ญา สิริรัตน์นาวดี..” ฉันก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ฉันว่ามันอาจมีความจริงซ่อนอยู่ก็ได้นะ
“ถึงแล้ว!!!! หนองคาย ฉันชอบที่นี้ที่สุด!!” แบม เพื่อนของฉันตะโกนออกมาอย่างดีใจ “แล้วแกชอบที่นี่มั๊ยยุน?”
“อือ ก็ชอบนะ ฉันชอบอะไรๆที่มันบ่งบอกตัวฉัน” ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็เดินเข้าที่พักไป ทิ้งให้แบมชื่นชมกับบรรยากาศของหนองคายไปนั่น...
“ยุน แบมล่ะลูก? “ คุณพ่อของแบมเอ่ยถามขึ้น เพราะเห็นฉันเดินมาคนเดียวแทนที่จะมีแบมอยู่ข้างๆมันอาจดูแปลกสักหน่อย เพราะเราสนิทแทบตัวติดกัน “อ้อ เค้าอยู่ข้างนอกค่ะ เค้าเดินลงไปริมโขง” ฉันตอบด้วยสีหน้าที่ฝืนยิ้ม เพราะรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ก่อนจะลาเข้าที่พัก
22.20 น.
เสียงร้องเพลงที่ดังคลอเบาๆข้างหู ดั่งถูกพัดมาตามสายลม เริ่มเงียบลงกลับเป็นเสียงของบุรุษลึกลับ หากแต่เป็นเสียงของชายชรา
“ชลัลย์ญา สิริรัตน์นาวดี..พ่อรู้ว่าลูกต้องมา..เดินมาสิ..เดินลงมา..เราจะกลับไปด้วยกัน” เหมือนจะเป็นภวังค์ฝัน เหมือนจะอยู่ในความจริง แต่ทำไมกลับเดินลงไปริมแม่น้ำโขง ฉันทำแบบนี้เพื่ออะไร? ฉันต้องฝันแน่ๆ ฉันต้องไม่ได้สติ ฉันคงกำลังตกในภวังค์ ความคิดฉันหยุดเพียงแค่นั้น เพราะเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างจุกที่ลำคอ ทำให้หายใจไม่ออก ก่อนจะสะดุ้งตื่น! เฮ้อ ที่แท้ก็ฝันไปนี่เรา ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดทุกอย่างออกไป แต่เอ๊ะ รอบๆเตียงฉันมีรอยน้ำ? มีแต่น้ำทั้งนั้น กลิ่นน้ำที่มีดินผสมอยู่ด้วย ไม่ใช่น้ำในห้องน้ำแน่นอน แล้วมันมาจากไหน?
ความคิดของฉันกำลังสับสน ฉันคงไม่ละเมอไปตักน้ำจากริมโขงมาเทใส่ห้องพักหรอกนะ คิดแล้วก็ขำตัวเองกับความคิดบ้าๆ แม้จะหัวเราะ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ซ่อนอยู่และเป็นสิ่งที่ฉันไม่รู้ และอาจได้รู้เร็วๆนี้ก็ได้.....
สิริรัตน์นาวดี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มิ.ย. 2557, 16:38:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มิ.ย. 2557, 16:38:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 670
สิ่งที่กำลังจะเกิด... >> |